คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เมื่อต้องตาก็ต้องใจในนวลน้อง
เมื่อต้องตาก็ต้องใจในนวลน้อง ผิวผุดผ่อง ผุดพรรณ พิศสมัย
ดวงเนตรสุกสกาว ดังแก้วเจียระไน ตรึงฤทัย หาเหมือน นั้นมิมี
เช้าตรู่นั้น คุณหลวงก็มาที่บ้านท่านเจ้าคุณอีกครั้งเพื่อมารับงานที่นำมาให้เมื่อวานกลับไปส่งที่กระทรวงต่อไป และ ด้วยใจปรารถนาจะได้พบหน้านวลน้อง คุณหลวงจึงได้มาแต่เช้าตรู่นั่นเอง และ ก็จริงดังที่หวัง แม่อนงค์กำลังตั้งสำรับอาหารเช้าอยู่อย่างแข็งขัน
‘อ้าวคุณหลวง มาแต่เช้าเทียว จะมารับเอกสารกลับสินะ ฉันเพิ่งตรวจเสร็จพอดีเลย แต่เดี๋ยวมารับอาหารเช้าด้วยกันก่อนค่อยไปแล้วกัน ไหนๆก็มาถึงเรือนแล้ว มาๆนั่งตรงนี้เลย’ ท่านเจ้าคุณพูด อย่างเป็นใจแก่คุณหลวง พลาดผายมือไปยังตำแหน่งที่นั่งตรงข้ามตน ซึ่งเป็นที่นั่งติดกันกับแม่อนงค์นั่นเอง
‘อาหารที่เรือนนี้อร่อยนัก อร่อยเสียทุกอย่าง หาที่ไหนเทียบมิได้เลย ฝีมือคุณหญิงนี่ชั้นยอดเทียวขอรับ’ คุณหลวงพูดหลังจากชิมอาหารไปแล้วหลายอย่าง
‘มิได้จ๊ะ มื้อนี้แม่อนงค์เค้าจัดการ ประเดี๋ยวจะกลับเข้าวังแล้ว ส่งท้ายให้คุณพ่อเค้าสักมื้อล่ะจ๊ะ เห็นว่าเข้าวังคราวนี้อีกนานกว่าจะได้กลับมาบ้าน ว่าสมเด็จพระอนุชาของสมเด็จพระองค์หญิงจะเสด็จกลับจากศึกษาที่ต่างประเทศ นี่ถ้าพระมารดายังอยู่คงจะดีพระทัยยิ่งนัก มีพระโอรสและพระธิดาอย่างละพระองค์เท่านั้น พระโอรสก็เสด็จไปศึกษาต่อตั้งแต่เมื่อยังเล็กนัก ด้วยพระเจ้าอยู่หัวเริ่มติดต่อการค้ากับต่างชาติ จึงได้ส่งพระโอรสทุกพระองค์ไปเจริญสัมพันธไมตรีตั้งแต่ยังพระเยาว์’ ว่าแล้วก็ทอดถอนหายใจด้วยใจหาย เรื่องพระมารดาของเสด็จท่าน
‘มื้อนี้แม่อนงค์นี่เอง คงเป็นตำรับชาววังเลยสิเนี่ย แล้วเสด็จองค์ชายจะเสด็จมาเมื่อไรหรือ?’ คุณหลวงเปรยถาม
‘อีกเดือนเศษเจ้าค่ะ ทางนี้เลยต้องเร่งเตรียมการต้อนรับอย่างดี พระองค์หญิงทรงเตรียมนั่นนี่ เพื่อให้พอพระทัยกันใหญ่ เมื่อเสด็จกลับมาจะได้ทรงประทับอย่างเป็นสุขเจ้าค่ะ’ อนงค์ตอบเรียบๆ ใบหน้าระบายยิ้มน้อยๆ
‘อีกตั้งเดือน แล้วใยถึงจะมิได้ออกจากวังด้วยเล่า’ คุณหลวงถามด้วยความสงสัย ระคนวิงวอน
‘การงานมากโข ถ้าออกมาเกรงว่าจะไม่ทัน ซ้ำยังเป็นกังวลเจ้าค่ะ ขออยู่จัดการธุระให้เรียบร้อย แล้วค่อยหายห่วงออกมาได้อย่างไม่ติดขัดใจเจ้าค่ะ’ อนงค์กล่าวปนยิ้มอายๆ
‘เอ้าคุณหลวง เดี๋ยวแม่อนงค์ออกมาเมื่อไร ทางเราจะส่งข่าวไปให้ สบายใจรึยัง’ ท่านเจ้าคุณพูดปนหัวเราะ มีความสุขที่ได้กระเซ้าคุณหลวงบ้าง
ทั้งคุณหลวง และ แม่อนงค์อายแก้มแดงด้วยกันทั้งคู่ ฝ่ายแม่อนงค์รีบหลบสายตาคุณหลวงแทบไม่ทัน พลันอิ่มอาหารขึ้นมาทันที เพราะคำพูดของท่านเจ้าคุณ ฝ่ายคุณหลวงก็เพียรมองตาแม่อนงค์พลางอยากจะได้คำตอบจากดวงตาคู่งามนั้นบ้างว่าคิดเห็นเป็นเช่นไร
‘ลูกต้องขอตัวไปเก็บของเตรียมตัวเข้าวังก่อนนะเจ้าคะ ไปคราวนี้นานหน่อย’ เมื่อทุกคนอิ่มอาหารกันแล้ว แม่อนงค์ก็เปรยขึ้นขณะเก็บสำรับส่งให้คนรับใช้
‘พอดีเลยคุณหลวง มิทราบว่ารีบไปที่ไหนหรือไม พอจะสะดวกไปส่งน้องที่วังไหม ทางผ่านไปกระทรวงเทียว’ ท่านเจ้าคุณเอ่ยถาม
‘ขอรับ’ คุณหลวงรับคำ ขณะรอแม่อนงค์เก็บของ ท่านเจ้าคุณและคุณหลวงนั่งปรึกษาราชการงานกันที่ระเบียงลานบ้าน พลางท่านเจ้าคุณเอ่ยถามคุณหลวงด้วยความใคร่รู้
‘คุณหลวงมิเคยถูกใจหรือสนิทคบหาหญิงใดในพระนครเลยรึ ฉันมิเคยได้ข่าวคราวเกี่ยวกับคุณหลวงมาก่อนเลย ถามใครก็ไม่มีใครรู้เลยสักคน’ ท่านเจ้าคุณถาม
คุณหลวงอึ้งไปชั่วครู่พลันตอบกลับไป
‘มิได้ขอรับ กระผมมิได้คิดถึงเรื่องนี้เลย แม้คุณหญิงแม่จะเพียรพามาแนะนำหลายต่อหลายคน แต่ก็มิเคยรู้สึกแต่อย่างใด’ อึดใจหนึ่งก็กล่าวต่อว่า ‘จนกระทั่งมาพบกับน้องอนงค์ขอรับ’ คุณหลวงมองสบตาท่านเจ้าคุณเพื่อแสดงความจริงใจ
'เออนะ เอาให้ได้อย่างนี้สิ ลูกผู้ชายอย่างเราชอบก็ว่าชอบ ไม่ชอบก็ไม่สนใจ เออนะ ถูกใจเราจริงๆ' ท่านเจ้าคุณเอ่ยเสียงดังอย่างชอบใจ
‘แต่น้องก็ยังเล็กนัก ไม่ประสีเรื่องนอกวังเอาเสียเลย ก็ค่อยๆดูกันไป ตัวเรากับคุณหญิงก็มิได้ว่ากระไร ว่าแต่ทางท่านเจ้าคุณพิทักษ์ กับคุณหญิง จะถูกใจน้องหรือเปล่าก็ไม่รู้เทียว’ ท่านเจ้าคุณพูดติดขำๆ
‘มิได้ขอรับ กระผมยังมิได้บอกใคร แต่คิดว่าคุณพ่อ คุณแม่มิน่าขัดข้อง ท่านอยากจะอุ้มหลานกันเต็มทน’ คุณหลวงพูดปนหัวเราะบ้าง
ระหว่างนั้นแม่อนงค์พร้อมคุณหญิงสจีเดินออกมาสมทบพอดี เห็นทั้งคู่หัวเราะกันสนุกสนาน ก็ซักถามเรื่องราว ก็ได้ความว่า ทั้งคู่คุยกันภาษาบุรุษ สตรีไม่เข้าใจหรอก
ชายหนุ่มทั้งสองสบตากัน พลางหัวเราะร่วนขึ้นมาอีกระรอกหนึ่ง ฝ่ายหญิงสาวทั้งสองมองหน้ากันงงๆ
ความคิดเห็น