ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 6 >> มหาปราชญ์
มือหนาพลิกเปิดหนังสือหน้าแรก...
สารบัญ                                                                        หน้า
ประวัติมอร์ดูม                                                                              1
พ่อมด คูเลน ค. แห่งลาเดส                                                            159
พ่อมด โลดีฟส์ ก. แห่งโกลูน                                                          237
มหาปราชญ์ มาเรีย ส. โลเนีย                                                          306
คำสาปมรณะ : ปริศนาแห่งพ่อมดโลดีฟส์                                          394
ช่วงเวลาหลังวิกฤต : หายนะแห่งพ่อมดคูเลน                                      480
คำพยากรณ์ของมหาปราชญ์โลเนีย และผู้ถูกเลือก                                526
บทสรุป                                                                                      600
เบตามีถอนหายใจ ก่อนจะเปิดหน้าแรก
...ก็ใช่ว่าเขาจะสนใจวิชาประวัติศาสตร์อะไรที่ไหน...
\"อยากอ่านหน้าไหนก็อ่านไปเหอะ\"
เสียงที่ดังมาจากบุรุษที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถึงปู่ของเขา คูเลน คูริโอนีส ผู้ที่นั่งมองเขามาตั้งนานแล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยน
เบตามีอึกอัก มองหน้าสือและกำลังจะเอ่ยปากถาม แต่คูเลนขัด ชิงพูดขึ้นกอนราวกับรู้ใจ
\"คำพยากรณ์และผู้ถูกเลือกก็ได้ ข้าบอกแล้วไงว่า อยากอ่าน สนใจเรื่องไหนก็เชิญตามสบาย\"เขาพูดแล้วหลิ่วตา \"ใช่ว่าข้าจะไม่รู้นะว่าเจ้ารู้เรื่องหมดเกือบทั้งเล่มแล้ว แต่อยากแนะนำนิดหน่อย ว่าถ้าจะอ่านคำพยากรณ์ อ่านบทที่ 4 \'มหาปราชญ์ มาเรีย ส. โลเนีย\' ก่อนก็ดี จะได้เข้าใจอะไรๆมากขึ้น\"
\"อ้อ...ฮะ\"
เด็กหนุ่มรับคำด้วยน้ำเสียงชื่อบานยื่งขึ้น มือหนาพลิกหนังสือเก่าๆไปยังหน้า 306 อย่างรวดเร็ว ก่อนกวาดตาอ่าน
มหาปราชญ์ มาเรีย ส. โลเนีย
ประวัติย่อ :
มหาปราชญ์ มาเรีย ส. โลเนีย มีนามเดิมว่า  \'มาเรีย สไลอัน โลเนีย\' กำเนิดเดิมเป็นบุตรของชาวนาบนที่ดินตอนกลางของเมืองหลวงเรอาห์ บิดานามว่า โคไรออน รูฟัส โลเนีย มารดา มารีอา ไลล่า โลเนีย [นามสกุลเดิม ซีซัส] เกิดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ในปี xxxx เป็นลูกชายคนที่สี่ในบรรดาลูกทั้งห้าคน ได้แก่
1.ไลล่า แมร์ โลเนีย            : พี่สาวคนโต ภายหลังเป็นคุณครูสอนอยู่ต่างเมือง
2.แจคสัน โคไรออน โลเนีย  : พี่ชาย ภายหลังทำนาสืบทอดต่อ บิดา มารดา
3.แอ็กเนส รีเบคกา โลเนีย  : พี่สาวคนกลาง ภายหลังเป็นซิสเตอร์นักบวช สอนศาสนา
4.มาเรีย สไลอัน โลเนีย      : น้อยชายคนรอง เป็นมหาชราชญ์อยู่ที่วังประจำราชกาล พระเจ้าเอริคมหาราช ที่1
5.ฌอน โทมัส โลเนีย          : น้องชายคนสุดทอง เสียชีวิตเมื่ออายุ 18 ปีในสงครามมอร์ดูม
...มาเรีย เติบโตขึ้นแล้วเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนเรอาห์ เป็นคนที่เฉลียวฉลาดมาและมีความกระตือรือร้นสูง และด้วยเหตุที่มาเรียมีพรสวรรค์ในด้าน \'การทำนายอนาคต\' จึงได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนฝูงและครูอาจารย์เป็นอย่างมาก
หลังจากที่อายุ 21 ปีและเรียนจบ ชื่อเสียงของเขาก็ยิ่งลือกระฉ่อนออกไปถึงต่างเมืองหลังจากการทำนายเรื่องภูเขาไฟระเบิดในมินิเนียร์ ทำให้พระเจ้าเอริคมหาราชได้เกิดพอพระทัย รับมาเรียเข้ามารับราชการในพระราชวัง และมีผลงานที่น่าพอใจอยู่สม่ำเสมอ หลงจากเสนาบดีการเมืองเสียชีวิตด้วยโรคชรา ทำให้เข้าได้ก้าวเข้ามาในงานตำแหน่งนี้แทนด้วยวัยเพียง 26 ปี นับเป็นเสนาบดีคนที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์
ในตอนนั้นได้เกิดการขัดแย้งเรื่องการแบ่งแยกดินแดนกันระหว่างเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเรอาห์ นั่นคือเมืองคูรี และเมืองเล็กๆทำเลดีเมืองหนึ่ง ชื่อเมือง ซีแซนด์ ด้วยคูรีหวังว่าจะยึดเมืองซีแซนด์และรวมเข้าด้วยกันเพราะทำเลดี แต่ซีแซนด์ไม่ยอม ทำให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ทั้งสองรัฐจึงส่งตัวแทนเข้ามาเจรจาขอความช่วยเหลือจากเรอาห์ แต่ด้วยพระเจ้าเอริคและมหาปราชญ์โลเนียมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ควรส่งไปช่วยซีแซนด์มากกว่า จึงส่งกำลังเข้าไปช่วยโดยมีนายพลนีรา เป็นแม่ทัพ
และก็เป็นดังคาดเมื่อคูรีเป็นว่าเรอาห์ไม่ช่วยตนแต่กลับไปช่วยซีแซนด์แทน ทำให้คูรีโกรธมาก และการที่เป็นเมืองใหญ่ไม่แพ้เรอาห์เท่าไหร่นัก การศึกจึงได้เริ่มขึ้น
ทหารชุดแรกที่ส่งไปจำนวนไม่มากนัก ถูกคูรีผู้โกรธแค้นฆ่าทิ้งจนเกลี้ยง แต่นั่นทำให้ไปแห่งความโกรธปะทุฮือขึ้นในเรอาห์ คราวนี้มีแม่ทัพคีเนีรยและมหาปราชญ์โลเนียเป็นผู้ควบคุม โดยตัวมาเรียเองนั้นไม่ได้รู้เลยว่าทั้งพี่ชายและน้องชายของเขาถูกเกณฑ์เข้าทหารเรียบร้อยแล้ว
ไฟสงครามจุดชนวนติดขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ ในไม่ช้าเมืองต่างๆก็เข้าร่วมกันกับแต่ละฝ่ายโดยหมดสิ้น โดยทางฝ่ายซีแซนด์ ก็ดี ซีแซนด์ เรอาห์ มินิเนียร์ ลูธีน และเครย์ ส่วนฝ่ายคูร ก็มี คูรี โกลูน ธีริน เมียรผื และเคไรอาห์ [ซึ่งสามเมืองหลังนี้ทราบมาว่าถูกบังคับ] จะเห ลือก็แต่เซราสที่ไม่เข้ากับฝ่ายใด และลาเดส เมืองพ่อมดที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสงครามมนุษย์
ภายหลังสงครามที่ยืดเยื้อนานสิบปี เมืองคูรีเป็นฝ่ายแพ้ เรอาห์มอบอำนาจให้ซีแซนด์จัดการรวมคูรีเข้าด้วยกันและตั้งชื่อใหม่ว่า คูซีแรนด์ หลังสงครามทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่มาจากการวางแผนอันยอดเยี่ยมของมาเรีย  ทำให้เขาไต่ต้าวหน้าการงานขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เสนาบดีการเมือง รองแม่ทัพ แม่ทัพ รัฐมนตรีการคลัง องครักษ์และองคมนตรีประจำตัว ที่ปรึกษาการเมืองและการทหาร จนสุดท้าย มหาปราชญ์แห่งแผ่นดิน  ต่ำแหน่งทั้งหมดที่ได้รับมาในเวลาไม่ถึงห้าปี เขาจึงได้เป็นมหาปราชญ์ตั้งแต่อายุ 39 ปี น้อยกว่ามหาปราชญ์คนที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมี ถึง 21ปี
มหาปราชญ์มาเรียได้รับการนับหน้าถือตาจากประชาชนทุกคนรวมถึงพระเจ้าเอริคมหาราช และการที่มีความสามารถด้านการทำนายด้วย ทำให้เขาเป็นมหาปราชญ์คนที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์มอร์ดูม
หลังจากเป็นมหาปราชญ์มาถึง 41 ปี จนกระทั่งอายุ 80 ปี มหาปราชญ์มาเรียก็จากโลกไปอย่างสงบ มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนอกจากชื่อเสียงที่เขายังคงฝากเอาไว้ให้ในดินแดนมนุษย์...
...คำพยากรณ์ครั้งสุดท้าย...
มหาปราชย์ได้พยากรณ์ครั้งสุดท้ายต่อหน้าพระเจ้าเอริคมหาราช ขุนนาง อัศวิน และประชาชนทุกคน [เนื้อหาของคำพยากรณ์เปิด บทที่ 7] และเขาก็สิ้นใจ
งานศพของเขาจัดขึ้นอย่างใหญ่โตสมเกียรติที่สุด และคำพยากรณ์สุดท้ายของเขาก็ได้จารึกเป็นประวัติศาตร์ของมอร์ดูมตลอดชั่วกาลนาน...
นัยน์ตาสีเขียวละออกจากหนังสือทันทีที่อ่านจบ
...ไม่น่าเชื่อ เรื่องดังออกถึงขนาดนี้เขาถึงไม่เคยอ่าน เป็นไปได้ยังไง...
...เหนือความคาดหมาย
\"อ่านจบแล้วฮะ\" เบตามีพูดเสียงดังเพื่อดึงความสนใจจากปู่ตัวเอง ซึ่งได้ผล
\"ดี ดี ดี\"คูเลนยิ้ม เบตามียิ้มร่า ก่อนจะแง้มหนังสือไปยังหน้า 526 บทที่ 7 คำพยากรณ์ของมหาปราชญ์และผู้ถูกเลือก
ฉับ!
เสียงหนังสือที่ถูกคนเก่งเวทย์ใช้เวทย์ปิดหนังสืออย่างแรงจนเบตามีสะดุ้ง ตกใจจนเกือบปล่อยหนังสือหลุดมือ
\"ปู่ยังไม่อยากให้เจ้าอ่านบทนั้นตอนนี้\"คูเลนยิ้มเรียบๆ \"เพราะเจ้าต้องผ่านการทดสอบของข้าก่อน\"
\"หมายความว่าไงฮ...\"
\"รับ!!\"
\"ว๊ากก!!\"
แสงสว่างวาบในมือคูเลนก่อนจะโยนไม้คทานาธาเรียนให้หน้าตาเฉย เบตามีแทบกระโจนตะครุบมันไว้อย่างใจหายใจคว่ำเพราะการตัดสินใจกระทันหันนั่น เบตามีอ้าปากค้าง
\"ปู่จะเล่นอะไร....\"
\"มีอะไรกันรึเปล่า\"
แอนนาเบลล่าเดินกลับเข้ามาในห้อง ทำให้คำพูดในลำคอของเบตามีหายวับไปกับตา
\"อ้อ เบตามีกำลังจะไปทดสอบน่ะ\"คูเลนตอบเรียบๆ
แอนนาเบลล่าเลิกคิ้ว
\"อ่านแล้ว??\"
\"อืม\"คูเลนตอบ
\"ก็ดีนิ่  เห็นเถียงอยู่ตั้งนาน\"แอนนาเบลล่าไม่วางแขวะเขาเหมือนเดิม เบตามียิ้มเจื่อนกลืนน้ำลายเอื๊อก
\"ขอด่านด้วยเบลล่า เดี๋ยวอีกห้านาทีไป\"
คูเลนบอก แอนนาเบลล่าจึงพยักหน้าง่ายๆ แล้วก็ถลันออกไปจากห้องอีกครั้ง
\"เบต้า\"
\"ฮะ...ว๊ากกกก!!! \"
แทบยังไม่ทันหันไปถามว่ามีอะไร ไม้เน้าเคริเบียนในมือของคูเลนก็ตวัดวูบลงมาอย่างแรงและเร็ว เบตามีเบิกตากว้าง ก่อนรีบพุ่งตัวจากเก้าอี้ที่กลายเป็นผุยผงในพริบตา และหมอบลงกับพื้นจนเกือบกลิ้ง
...หัวใจจะวาย...
...ใครคิดว่าคนแก่จะมือไวใจไวขนาดนั้น แถมยังมือหนักเหลือเชื่อ...
โครม!!
ฝุ่นลอยฟุ้งกับเสียงที่ดังจนหูแทบแตก
เก้าอี้ไม้ตัวเก่าของเขาที่ก่อนหน้านั้นยังดูแข็งแรงดี บัดนี้แตกกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อยอยู่บนพื้น ขนาดไม้ที่พื้นัยงร้าวแตกเป็นทาง คูเลนตวัดไม้กลับก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ
\"ไหวพริบใช้ได้นี่\" คำชมที่ไม่น่าชมออกมาเพราะตอนนี้เจ้าตัวมันจุกไปไหนถึงไหนเพราะท้องกระแทกพื้นตอนพุ่งตัวหลบ แล้วจู่ๆคูเลนก็ตวัดมือขึ้น เก้าอี้ก็ลอยกลับมาติดกันเป็นตัวเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เบตามีพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยิ้มเจื่อนรับคำชม
\"อืม ดี งั้นตามมา ถึงเวลาแล้ว\"
คูเลนบอก เบตามีทำหน้าเหยเกราวกับเพิ่งกลืนน้ำดีเหม็นๆลงไป แต่ก็ต้องยอมตามไปโดยดีในที่สุด...
******************************************************************
๐_LilLY_๐ >>
โอ้ว ตอนนี้ยาวเข้าที
กร๊ากกก ยาวแต่ไม่มีคนอ่าน 555+
เอามาแปะไว้แระก่อนสถิติจะครบเดือนแล้วเราจะสติแตกลบเรื่องนี้ทิ้งซะก่อน
ไว้เจอกันตอนหน้าละกันน้า
บ๊ายบายจ้า
ปล.คนอ่านช่วยกันโพสหน่อยสิ แหะๆๆๆ ^^\'\'
...
สารบัญ                                                                        หน้า
ประวัติมอร์ดูม                                                                              1
พ่อมด คูเลน ค. แห่งลาเดส                                                            159
พ่อมด โลดีฟส์ ก. แห่งโกลูน                                                          237
มหาปราชญ์ มาเรีย ส. โลเนีย                                                          306
คำสาปมรณะ : ปริศนาแห่งพ่อมดโลดีฟส์                                          394
ช่วงเวลาหลังวิกฤต : หายนะแห่งพ่อมดคูเลน                                      480
คำพยากรณ์ของมหาปราชญ์โลเนีย และผู้ถูกเลือก                                526
บทสรุป                                                                                      600
เบตามีถอนหายใจ ก่อนจะเปิดหน้าแรก
...ก็ใช่ว่าเขาจะสนใจวิชาประวัติศาสตร์อะไรที่ไหน...
\"อยากอ่านหน้าไหนก็อ่านไปเหอะ\"
เสียงที่ดังมาจากบุรุษที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถึงปู่ของเขา คูเลน คูริโอนีส ผู้ที่นั่งมองเขามาตั้งนานแล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยน
เบตามีอึกอัก มองหน้าสือและกำลังจะเอ่ยปากถาม แต่คูเลนขัด ชิงพูดขึ้นกอนราวกับรู้ใจ
\"คำพยากรณ์และผู้ถูกเลือกก็ได้ ข้าบอกแล้วไงว่า อยากอ่าน สนใจเรื่องไหนก็เชิญตามสบาย\"เขาพูดแล้วหลิ่วตา \"ใช่ว่าข้าจะไม่รู้นะว่าเจ้ารู้เรื่องหมดเกือบทั้งเล่มแล้ว แต่อยากแนะนำนิดหน่อย ว่าถ้าจะอ่านคำพยากรณ์ อ่านบทที่ 4 \'มหาปราชญ์ มาเรีย ส. โลเนีย\' ก่อนก็ดี จะได้เข้าใจอะไรๆมากขึ้น\"
\"อ้อ...ฮะ\"
เด็กหนุ่มรับคำด้วยน้ำเสียงชื่อบานยื่งขึ้น มือหนาพลิกหนังสือเก่าๆไปยังหน้า 306 อย่างรวดเร็ว ก่อนกวาดตาอ่าน
มหาปราชญ์ มาเรีย ส. โลเนีย
ประวัติย่อ :
มหาปราชญ์ มาเรีย ส. โลเนีย มีนามเดิมว่า  \'มาเรีย สไลอัน โลเนีย\' กำเนิดเดิมเป็นบุตรของชาวนาบนที่ดินตอนกลางของเมืองหลวงเรอาห์ บิดานามว่า โคไรออน รูฟัส โลเนีย มารดา มารีอา ไลล่า โลเนีย [นามสกุลเดิม ซีซัส] เกิดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ในปี xxxx เป็นลูกชายคนที่สี่ในบรรดาลูกทั้งห้าคน ได้แก่
1.ไลล่า แมร์ โลเนีย            : พี่สาวคนโต ภายหลังเป็นคุณครูสอนอยู่ต่างเมือง
2.แจคสัน โคไรออน โลเนีย  : พี่ชาย ภายหลังทำนาสืบทอดต่อ บิดา มารดา
3.แอ็กเนส รีเบคกา โลเนีย  : พี่สาวคนกลาง ภายหลังเป็นซิสเตอร์นักบวช สอนศาสนา
4.มาเรีย สไลอัน โลเนีย      : น้อยชายคนรอง เป็นมหาชราชญ์อยู่ที่วังประจำราชกาล พระเจ้าเอริคมหาราช ที่1
5.ฌอน โทมัส โลเนีย          : น้องชายคนสุดทอง เสียชีวิตเมื่ออายุ 18 ปีในสงครามมอร์ดูม
...มาเรีย เติบโตขึ้นแล้วเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนเรอาห์ เป็นคนที่เฉลียวฉลาดมาและมีความกระตือรือร้นสูง และด้วยเหตุที่มาเรียมีพรสวรรค์ในด้าน \'การทำนายอนาคต\' จึงได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนฝูงและครูอาจารย์เป็นอย่างมาก
หลังจากที่อายุ 21 ปีและเรียนจบ ชื่อเสียงของเขาก็ยิ่งลือกระฉ่อนออกไปถึงต่างเมืองหลังจากการทำนายเรื่องภูเขาไฟระเบิดในมินิเนียร์ ทำให้พระเจ้าเอริคมหาราชได้เกิดพอพระทัย รับมาเรียเข้ามารับราชการในพระราชวัง และมีผลงานที่น่าพอใจอยู่สม่ำเสมอ หลงจากเสนาบดีการเมืองเสียชีวิตด้วยโรคชรา ทำให้เข้าได้ก้าวเข้ามาในงานตำแหน่งนี้แทนด้วยวัยเพียง 26 ปี นับเป็นเสนาบดีคนที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์
ในตอนนั้นได้เกิดการขัดแย้งเรื่องการแบ่งแยกดินแดนกันระหว่างเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเรอาห์ นั่นคือเมืองคูรี และเมืองเล็กๆทำเลดีเมืองหนึ่ง ชื่อเมือง ซีแซนด์ ด้วยคูรีหวังว่าจะยึดเมืองซีแซนด์และรวมเข้าด้วยกันเพราะทำเลดี แต่ซีแซนด์ไม่ยอม ทำให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ทั้งสองรัฐจึงส่งตัวแทนเข้ามาเจรจาขอความช่วยเหลือจากเรอาห์ แต่ด้วยพระเจ้าเอริคและมหาปราชญ์โลเนียมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ควรส่งไปช่วยซีแซนด์มากกว่า จึงส่งกำลังเข้าไปช่วยโดยมีนายพลนีรา เป็นแม่ทัพ
และก็เป็นดังคาดเมื่อคูรีเป็นว่าเรอาห์ไม่ช่วยตนแต่กลับไปช่วยซีแซนด์แทน ทำให้คูรีโกรธมาก และการที่เป็นเมืองใหญ่ไม่แพ้เรอาห์เท่าไหร่นัก การศึกจึงได้เริ่มขึ้น
ทหารชุดแรกที่ส่งไปจำนวนไม่มากนัก ถูกคูรีผู้โกรธแค้นฆ่าทิ้งจนเกลี้ยง แต่นั่นทำให้ไปแห่งความโกรธปะทุฮือขึ้นในเรอาห์ คราวนี้มีแม่ทัพคีเนีรยและมหาปราชญ์โลเนียเป็นผู้ควบคุม โดยตัวมาเรียเองนั้นไม่ได้รู้เลยว่าทั้งพี่ชายและน้องชายของเขาถูกเกณฑ์เข้าทหารเรียบร้อยแล้ว
ไฟสงครามจุดชนวนติดขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ ในไม่ช้าเมืองต่างๆก็เข้าร่วมกันกับแต่ละฝ่ายโดยหมดสิ้น โดยทางฝ่ายซีแซนด์ ก็ดี ซีแซนด์ เรอาห์ มินิเนียร์ ลูธีน และเครย์ ส่วนฝ่ายคูร ก็มี คูรี โกลูน ธีริน เมียรผื และเคไรอาห์ [ซึ่งสามเมืองหลังนี้ทราบมาว่าถูกบังคับ] จะเห ลือก็แต่เซราสที่ไม่เข้ากับฝ่ายใด และลาเดส เมืองพ่อมดที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสงครามมนุษย์
ภายหลังสงครามที่ยืดเยื้อนานสิบปี เมืองคูรีเป็นฝ่ายแพ้ เรอาห์มอบอำนาจให้ซีแซนด์จัดการรวมคูรีเข้าด้วยกันและตั้งชื่อใหม่ว่า คูซีแรนด์ หลังสงครามทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่มาจากการวางแผนอันยอดเยี่ยมของมาเรีย  ทำให้เขาไต่ต้าวหน้าการงานขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เสนาบดีการเมือง รองแม่ทัพ แม่ทัพ รัฐมนตรีการคลัง องครักษ์และองคมนตรีประจำตัว ที่ปรึกษาการเมืองและการทหาร จนสุดท้าย มหาปราชญ์แห่งแผ่นดิน  ต่ำแหน่งทั้งหมดที่ได้รับมาในเวลาไม่ถึงห้าปี เขาจึงได้เป็นมหาปราชญ์ตั้งแต่อายุ 39 ปี น้อยกว่ามหาปราชญ์คนที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมี ถึง 21ปี
มหาปราชญ์มาเรียได้รับการนับหน้าถือตาจากประชาชนทุกคนรวมถึงพระเจ้าเอริคมหาราช และการที่มีความสามารถด้านการทำนายด้วย ทำให้เขาเป็นมหาปราชญ์คนที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์มอร์ดูม
หลังจากเป็นมหาปราชญ์มาถึง 41 ปี จนกระทั่งอายุ 80 ปี มหาปราชญ์มาเรียก็จากโลกไปอย่างสงบ มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนอกจากชื่อเสียงที่เขายังคงฝากเอาไว้ให้ในดินแดนมนุษย์...
...คำพยากรณ์ครั้งสุดท้าย...
มหาปราชย์ได้พยากรณ์ครั้งสุดท้ายต่อหน้าพระเจ้าเอริคมหาราช ขุนนาง อัศวิน และประชาชนทุกคน [เนื้อหาของคำพยากรณ์เปิด บทที่ 7] และเขาก็สิ้นใจ
งานศพของเขาจัดขึ้นอย่างใหญ่โตสมเกียรติที่สุด และคำพยากรณ์สุดท้ายของเขาก็ได้จารึกเป็นประวัติศาตร์ของมอร์ดูมตลอดชั่วกาลนาน...
นัยน์ตาสีเขียวละออกจากหนังสือทันทีที่อ่านจบ
...ไม่น่าเชื่อ เรื่องดังออกถึงขนาดนี้เขาถึงไม่เคยอ่าน เป็นไปได้ยังไง...
...เหนือความคาดหมาย
\"อ่านจบแล้วฮะ\" เบตามีพูดเสียงดังเพื่อดึงความสนใจจากปู่ตัวเอง ซึ่งได้ผล
\"ดี ดี ดี\"คูเลนยิ้ม เบตามียิ้มร่า ก่อนจะแง้มหนังสือไปยังหน้า 526 บทที่ 7 คำพยากรณ์ของมหาปราชญ์และผู้ถูกเลือก
ฉับ!
เสียงหนังสือที่ถูกคนเก่งเวทย์ใช้เวทย์ปิดหนังสืออย่างแรงจนเบตามีสะดุ้ง ตกใจจนเกือบปล่อยหนังสือหลุดมือ
\"ปู่ยังไม่อยากให้เจ้าอ่านบทนั้นตอนนี้\"คูเลนยิ้มเรียบๆ \"เพราะเจ้าต้องผ่านการทดสอบของข้าก่อน\"
\"หมายความว่าไงฮ...\"
\"รับ!!\"
\"ว๊ากก!!\"
แสงสว่างวาบในมือคูเลนก่อนจะโยนไม้คทานาธาเรียนให้หน้าตาเฉย เบตามีแทบกระโจนตะครุบมันไว้อย่างใจหายใจคว่ำเพราะการตัดสินใจกระทันหันนั่น เบตามีอ้าปากค้าง
\"ปู่จะเล่นอะไร....\"
\"มีอะไรกันรึเปล่า\"
แอนนาเบลล่าเดินกลับเข้ามาในห้อง ทำให้คำพูดในลำคอของเบตามีหายวับไปกับตา
\"อ้อ เบตามีกำลังจะไปทดสอบน่ะ\"คูเลนตอบเรียบๆ
แอนนาเบลล่าเลิกคิ้ว
\"อ่านแล้ว??\"
\"อืม\"คูเลนตอบ
\"ก็ดีนิ่  เห็นเถียงอยู่ตั้งนาน\"แอนนาเบลล่าไม่วางแขวะเขาเหมือนเดิม เบตามียิ้มเจื่อนกลืนน้ำลายเอื๊อก
\"ขอด่านด้วยเบลล่า เดี๋ยวอีกห้านาทีไป\"
คูเลนบอก แอนนาเบลล่าจึงพยักหน้าง่ายๆ แล้วก็ถลันออกไปจากห้องอีกครั้ง
\"เบต้า\"
\"ฮะ...ว๊ากกกก!!! \"
แทบยังไม่ทันหันไปถามว่ามีอะไร ไม้เน้าเคริเบียนในมือของคูเลนก็ตวัดวูบลงมาอย่างแรงและเร็ว เบตามีเบิกตากว้าง ก่อนรีบพุ่งตัวจากเก้าอี้ที่กลายเป็นผุยผงในพริบตา และหมอบลงกับพื้นจนเกือบกลิ้ง
...หัวใจจะวาย...
...ใครคิดว่าคนแก่จะมือไวใจไวขนาดนั้น แถมยังมือหนักเหลือเชื่อ...
โครม!!
ฝุ่นลอยฟุ้งกับเสียงที่ดังจนหูแทบแตก
เก้าอี้ไม้ตัวเก่าของเขาที่ก่อนหน้านั้นยังดูแข็งแรงดี บัดนี้แตกกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อยอยู่บนพื้น ขนาดไม้ที่พื้นัยงร้าวแตกเป็นทาง คูเลนตวัดไม้กลับก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ
\"ไหวพริบใช้ได้นี่\" คำชมที่ไม่น่าชมออกมาเพราะตอนนี้เจ้าตัวมันจุกไปไหนถึงไหนเพราะท้องกระแทกพื้นตอนพุ่งตัวหลบ แล้วจู่ๆคูเลนก็ตวัดมือขึ้น เก้าอี้ก็ลอยกลับมาติดกันเป็นตัวเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เบตามีพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยิ้มเจื่อนรับคำชม
\"อืม ดี งั้นตามมา ถึงเวลาแล้ว\"
คูเลนบอก เบตามีทำหน้าเหยเกราวกับเพิ่งกลืนน้ำดีเหม็นๆลงไป แต่ก็ต้องยอมตามไปโดยดีในที่สุด...
******************************************************************
๐_LilLY_๐ >>
โอ้ว ตอนนี้ยาวเข้าที
กร๊ากกก ยาวแต่ไม่มีคนอ่าน 555+
เอามาแปะไว้แระก่อนสถิติจะครบเดือนแล้วเราจะสติแตกลบเรื่องนี้ทิ้งซะก่อน
ไว้เจอกันตอนหน้าละกันน้า
บ๊ายบายจ้า
ปล.คนอ่านช่วยกันโพสหน่อยสิ แหะๆๆๆ ^^\'\'
...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น