ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Curse Of Mordume : คำสาปมรณะ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ >> กำไลแห่งสกอริเอน่า

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.พ. 48


    \"ข้าไม่คิดว่า โลดีฟส์ การ์เลนท์ผู้เฉลียวฉลาดจะแอบย่องเข้ามาขโมยของในยามค่ำคืนแบบนี้เหมือนกันนะ สหายรัก\"



    เจ้าของร่างสูงโปร่ง ผมสีทอง ปรากฏตัวขึ้นช้าๆขวางทาง เดอะ เกรท วิชสาร์ด ออฟ โกลูน ไม่ให้ก้าวต่อไป



    คนที่ถูกกล่าวถึงถึงกับกัดฟันกรอด



    \'มันรู้.....??\'



    เขาคิด แต่พ่อมดอันดับหนึ่งของโกลูนอย่างเขาจะยอมแพ้ไอ้กระจอกตรงหน้าทั้งๆที่มาถึงที่แล้วได้อย่างไร



    วูบบ...



    โลดีฟส์ปล่อยเวทย์ออกจาคทาเขาทันทีโดยไม่อ้อมค้อม คูเลนเอี้ยวตัวหลบสบายๆ ทำให้เวทย์นั้นพุ่งไปชนกับกำแพงด้านหลังแทน



    กำแพงห้องล้มไปเสียงดังสนั่น เจ้าของผมสีทองหันกลับไปมอง รอยยิ้มพรายเริ่มปรากฏบนใบหน้าให้เห็นชัด



    \"ไม่อ้อมค้อมแบบนี้ก็ดี ข้าชอบ\"



    สิ้นเสียงร่างสูงโปร่งของเขาก็หาบวูบไปในบัดดล โลดีฟส์หยุดร่ายเวทย์ทันที



    ...ด้านหลัง...



    เขาหันตัววูบ พลันดาบโผล่พรวดเข้ามาในมือ ก่อนเจ้าตัวจะรีบยกขึ้นกันดาบพิฆาตของอีกฝ่ายที่หมายจะปลิดชีพเขาในคราวเดียวแทบไม่ทัน



    ชายอีกคนปรากฏตัวขึ้น เสียงดาบปะทะกันเคร้ง ก่อนที่โลดีฟส์จะถูกพลังดาบที่เข้มแข็งกว่าดันออกไปจนล้มไม่เป็นท่า



    คนตรงหน้ายิ้มบางๆ ก่อนจะลดดาบลงแล้วพูดคำพูดที่โลดีฟส์ฟังแล้วแทบจะลุกเป็นไฟ



    \"พลังจิตเจ้าน่ะใช้ได้เลยโลดีฟส์ แต่เรื่องฝีมือดาบนี่ คงต้องฝึกกันอีกมาก\"



    เขาเอ่ยแล้วหัวเราะหึๆเบาๆ



    โลดีฟส์กัดฟันกรอด



    \"แก....คูเลน คูริโอนีส...แก....\"



    เขาพูดแล้วเรียกคทากลับมาในมือ กำแน่น คูเลนเห็นแล้วก็เปรยอีก



    \"แหม ชอบใช้เวทย์มากกว่าฟันดาบสินะ\"



    ขาดคำ พลังมืดจากฝ่ายตรงหน้าก็พุ่งตรงมายังเขาทันที คูเลนยกไม้คทาขึ้นสร้างเกราะสุดแรง



    วูบบ วูบบ....



    พลังปะทะกับเกราะของเขาอย่างแรงจนน่าตกใจ คูเลนรีบขืนพลังต้านไว้ก่อนจะหมดแรง เขาถูกพลังซัดจนกระเด็นไปชนกำแพงดังสนั่น



    เขาลุกขึ้นยืนทันทีราวกับว่าไม่มมีอะไรเกิดขึ้น ใบหน้าไม่เหลือไว้แม้แต่รอยยิ้ม  



    ...ถ้ามันคิดจะใช้มนตร์ดำที่มันถนัดมาสู้กับเขา แน่นอนเขาย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ...



    นั่นทำให้เขาคิดได้



    ....ถ้าข้าใช้พลังแบบนั้นบ้าง โดยโจมตีแต่มนตร์ขาวอย่างเดียว เขาก็จะได้เปรียบเหมือนกันนี่....



    คูเลนคิดแล้วก็ได้แต่ชมอยู่ในใจว่าหมอนี่มันฉลาดจริงๆ



    คราวนี้เป็นเสียงของโลดีฟส์บ้างที่หัวเราะกลับมา



    \"ไหวพริบเจ้าน่ะใช้ได้เลยคูเลน แต่เรื่องมนตร์ดำนี่ คงต้องฝึกกันอีกมากนะ\"พูดเลียนแบบแล้วก็ขำลงลูกคอ



    มนตร์ขาวถูกส่งมาอย่างโมโหจากทางฝั่งของคูเลน โลดีฟส์เบิกตากว้างแล้วรีบพุ่งตัวหลบ แต่ไม่ทัน พลังนั่นถากขาเขาไปเป็นแผลแนวยาว



    เขารีบใช้พลังขาวที่ตัวเองมีอยู่นิดหน่อยรักษาบาดแผล แต่เนื่องจากตัวเองไม่มมีพรสวรรค์ด้านเวทย์ขาวรวมทั้งพลังที่คูเลนส่งมานั้นรุนแรงมาก ทำให้แผลไม่หายสนิทมากนัก



    เขาไม่สนใจมัน



    \"ไม่เลวนี่ คูเลน\"โลดีฟส์กลั้นใจเอ่ยชม



    \"เจ้าก็เหมือนกัน\"คนที่ถูกเรียกยิ้มพราย



    ทั้งสองสบตากันอยู่พักหนึ่ง ความเงียบงันเริ่มเข้ามาเยือน...



    คนผมทองเอ่ยปากขึ้นก่อน



    \"เป็นความคิดที่ไม่เลว โลดีฟส์ ถ้าอย่างนั้น...\"



    \"หนึ่ง\"โลดีฟส์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเห้ยมเกรียม



    คูเลนยิ้มอย่างนึกสนุก



    \"....สอง\"



    \"สาม!!!\"



    มนตร์ขาวและมนตร์ดำพุ่งออกจากคทาของทั้งสองคนพร้อมกันก่อนจะปะทะกันสนั่นกลางอากาศ ทั้งโลดีฟส์และคูเลนต่งก็ขืนกำลังตัวเองเอาไว้เพื่อต้านคู่ต่อสู้ออกไป



    เสียงฟ้าข้างนอกคำรามลั่น ฝนตกกระหน่ำลงมาโดยไม่มีสาเหตุ เมฆดำทะมึนลอยเข้าขวางจันทรา บดบังราตรีจนมืดมิด แต่นั่นก้ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่หวั่นใจ....



    แต่มีได้ก็ต้องมีเสีย การต่อสู้ในครั้งนี้เกิดขึ้นตอนกลางคืน ทำให้พลังเวทย์ดำของโลดีฟส์มีผลมากกว่า....



    มันจะติดอยู่ตรงที่ว่า คูเลนไม่ยอมแพ้...



    เวทย์ขาวกับเวทย์ดำยังคะปะทะกันอย่างดุเดือดจนเลยเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว ยังไม่มีใครยอมแพ้ใคร



    ทั้งคู่ต่างก็เหน็ดเหนื่อยกับการใช้พลัง โลดีฟส์เริ่มท้อ เพราะอีกไม่นานพระอาทิตย์จะขึ้น พลังที่เคยได้เปรียบของเขาก็จะพลิกกลับไปเป็นเสียเปรียบทันที ในขระที่รอยยิ้มอันคุ้นเคยเริ่มปรากฏบนใบหน้าของคูเลนอีกครั้ง



    เขามองหน้าโลดีฟส์ราวกับรู้ใจ



    \"โลดีฟส์ ข้าจะบอกอะไรเจ้า ความสามารถน่ะช่วยอะไรเจ้าไม่ได้หรอก กำลังใจต่างหาก กำลังใจที่จะช่วยให้เจ้าได้รับชัยชนะ\"



    จู่ๆร่างของโลดีฟส์ก็ลอยกระเด็นไปกระทบกับกำแพงอย่างแรง เขาตกลงไปกองกับพื้นในทันที ลำแสงสีดำถูกตัดฉับลง



    ...คูเลนเหนือกว่า...



    แสงสว่างแห่งรุ่งเช้าสาดส่องเข้ามา ฝนหยุดตก ท้องฟ้าทอประกายสดใส



    โลดีฟส์ยันตัวลุกขึ้นอย่างไม่เป็นท่า ปลายคทาชี้ไปยังคูเลนอย่างโกรธแค้น



    คูเลนยังคงยิ้มอย่างเป็นต่อ



    \"ส่งกำไลแห่งสกอริเอน่ามาให้ข้าเดี๋ยวนี้\"



    จู่ๆด้วยอาการไม่คาดฝัน โลดีฟส์พูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์แล้วยิ้มเหยียด



    คูเลนหยุดชะงัก สมองเริ่มทำงานอย่างหนักเพื่อคิดว่าโลดีฟส์จะมาไม้ไหน แต่เขาก็ต้องยืนยันคำตอบของตัวเอง



    \"ข้าคงทำให้เจ้าไม่ได้ โลดีฟส์\" เขาหัวเราะอย่างเย็นชา



    คนตรงหน้ายิ้มเห้ยมเกรียม รอยยิ้มแสยะกว้าง



    แล้วเขาก็กระซิบ



    \"แล้วแกจะเสียใจ คูเลน\"



    ฉับพลัน มือทั้งสองก็ยกขึ้นสูง เมฆดำเริ่มกลับมาอีกครั้ง บดบังแสงแดดจนหมดสิ้น ทั้งห้องตกอยู่ในความมืดมิด แววตาสีน้ำตาลเข้มของเขาส่องแสงเรืองราวกับปีศาจ



    \" ข้าขอสาปแช่งในนามแห่งรัตติกาล โลดีฟส์ การ์เลนท์แห่งโกลูน  อีกสามร้อยปีข้างหน้า เมืองมอร์ดูมจะต้องล่มสลาย ผู้คนล้มตาย แผ่นดินจะต้องนองไปด้วยเลือดแห่งอัคคี และข้า จะได้ครอบครอง กำไลแก่งสกอริเอน่าแต่ผู้เดียว ตลอดตราบนิจนิรัดร์!!!!\"



    สายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมา และก่อนที่คูเลนจะได้ทำอะไร โลดีฟส์ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย.....



    ....



    [To Be Continued]
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×