ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Curse Of Mordume : คำสาปมรณะ

    ลำดับตอนที่ #13 : chapter 2 >> บทที่ 1 >> ธนู ดาบ พลัง

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 48


    แสงสว่างเจิดจ้าแห่งรุ่งอรุณทอเข้ามาผ่านหน้าต่างบานใหญ่อันขุ่นมัว ส่องให้เห็นบุคคลสองคนที่กำลังปะทะฝีมือกันอย่างเคร่งเครียดในห้องกว้างใหญ่ บริเวณรอบห้องที่เป็นสีเทาดำนั้น เป็นบรรยากาศได้ดีทีเดียวสำหรับการต่อสู้ภายใต้แสงแดดที่หาได้ยากยิ่งในฤดูหนาวนี้...



    เคร้ง! คร้าง! เคร้ง!



    เสียงดาบปะทะกันอย่างรุนแรงและรวดเร็วจากคนสองคนนั้นที่กำลังประลองฝีมือกันดังมาเป็นจังหวะถี่ๆรวดเร็ว ชั้นเชิงของทั้งสองไหวพริบเร็วราวกับเทวดา สู้กันราวกับรู้ใจฝ่ายตรงข้ามด้วยความเร็วที่แทบจับตามองไม่ทัน นัยน์ตาสีฟ้าสดใสและสีเขียวที่ทอประกายระริกของทั้งคู่จ้องกันอย่างไม่คลาดสายตา ก่อนในวินาทีนั้น ความเร็วของการต่อสู้จะเริ่มช้าลง...



    วาบ...



    คนนัยน์ตาสีเขียวตวัดดาบใหญ่วูบตัดหน้าแล้วแทงพรวด ทำให้อีกคนต้องเอี้ยวตัวหลบอย่างรวดเร็ว ชายคนนั้นจึงได้ทียันดาบเข้าไปอย่างแรงและเร็ว



    เคร้ง!!



    โชคดีที่คนนัยน์ตาสีฟ้ายกดาบขึ้นกันทันเวลา แต่แรงดาบที่ใหญ่กว่าดูเหมือนจะเริ่มดันขึ้นๆแรงขึ้นเรื่อยๆจนเขาต้องฝืนกำลังต้านไว้จนเกือบล้ม ทำให้คนที่เป็นต่อต้องกล่าวขึ้น



    \"ไม่เอาน่า...เจ้าทำได้ดีกว่านี้แน่ๆ\"เขาพูดอย่างยิ้มย่อง



    ราวกับคำพูดนั้นเป็นน้ำมันไปจุดไฟ คนผมดำตาสีฟ้าสดใสทอประกายระริก ก่อนจะสูดลมหายใจลึกแล้วยันดาบของคนที่ท้าทายออกไปอย่างแรงและเร็ว ก่อนจะตวัดวาบ



    เคร้ง!!



    จากฝ่ายเสียเปรียบเป็นฝ่ายได้เปรียบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชายคนแรกต้องถอนดาบออกแล้วหมุนตัวอีกครั้งเพื่อตั้งรับคมดาบครั้งใหม่



    เคร้ง!! เคร้ง!! เคร้ง!!



    เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าวาดเพลงดาบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแทงดาบพรวดแล้วฟันฉับๆไม่ยั้ง ชายคนแรกต้องกระโดดเอี้ยวตัวหลบจนดาบตัดผมของเขาออกไปเป็นกระจุก แต่ทันทีที่เขากระโดดกลับลงมาที่พื้น การวาดดาบครั้งใหม่ก็แทบทำให้เขาตกใจเมื่อดาบตวัดเฉียดแขนวืดจนเสื้อเป็นรอยผ่าน้อยๆ...



    เคร้ง!!



    คนนัยน์ตาสีเขียวไม่ยอมง่ายก่อนจะวาดดาบอย่างแรงไปตรงหน้าอีกคน เจ้าของผมสีดำขยับรอยยิ้มบางก่อนหมุนตัวหลบแล้วใช้ด้ามจับของตนกระทุ้งโคนดาบปลดอาวุธของชายคนแรกออกจากมือ



    โครม!!



    เสียงดาบตกกับพื้นก้อง แต่เจ้าตัวไหวตัวทันรีบกระโดดหลบเมื่อเห็นอีกคนตวัดดาบมาหมายจะจู่โจมขา จังหวะที่กระโดดอยู่นั้นเขาจึงพุ่งตัวไปจะหยิบดาบของตนขึ้นมาเพื่อสู้ต่อ แล้วใช้จังหวะวาดดาบครั้งใหม่ของคนตาฟ้าเพื่อตั้งลำอีกครั้ง แต่ดูเหมือนเจ้าของผมสีดำจะรู้ทันใช้ศอกดันตัวเขาออกไปไกลก่อนจะใช้ดาบตวัดดาบใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาลอยคว้างกลางอากาศ ก่อนจะวาดดาบอย่างรุนแรง



    เคร้ง!!!!



    นัยน์ตาของคนตาสีเขียวเบิกกว้างเมื่อเห็นดาบของตัวเองหักครึ่งสองท่อนต่อหน้าต่อตาทั้งๆที่ดาบของเขาหนากว่าดาบเล่มบางของอีกคนถึงสองเท่า แต่แล้วชายคนที่หักดาบของเขาก็หมุนตัววูบกลับมาอย่างรวดเร็ว และก่อนที่เขาจะทันขยับตัว ดาบเรียวก็หันชี้มาและจี้อยู่ตรงที่คอ ซึ่งเป็นจุดตายทันที



    \"ยกนี้ข้าชนะ นายเบตามี 3 ต่อ 2 วันนี้เจ้าแพ้ เสียใจด้วย\"



    ผู้กุมชัยกล่าวด้วยน้ำเสียงพอใจมุ่งมั่น แล้วจึงตวัดดาบออกจากคอหอยของอีกฝ่าย และเสียบเก็บเข้ากับผนังอย่างรวดเร็ว ทำให้เบตามีต้องยันตัวขึ้นจากพื้นด้วยใบหน้าบูดสนิท



    \"อีกแล้ว เจ้าชนะข้าสองวันรวดแล้วนะ\"



    เขาพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ ทั้งๆที่วันนี้สู้กันห้ายก สองยกแรกเขาเป็นคนชนะไปก่อนแล้วแท้ๆ...แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะมีฤทธิ์มากกว่าที่คิดเอาไว้



    คนนัยน์ตาสีฟ้าพราวระริก ก่อนจะหันหน้ากลับมา แดดอ่อนๆที่ส่องผ่านกระจกส่องหน้าให้ความอบอุ่น แล้วมือเรียวสองข้างก็ถอดผมออก



    ผมสีดำสนิทคลายตัวออกมาจากมวยที่เกล้าสูง แล้วทิ้งตัวลงยาวถึงกลางหลังสะท้อนแสงแดดวาววับสดใส นัยน์ตาสีฟ้าของเจ้าตัวทอประกายระริกขณะจับจ้องไปยังชายหนุ่มผมสีชาออกทองขี้บ่นคนนั้น



    \"วันหลังก็ไปซ้อมมาให้ดีกว่านี้สิ พรุ่งนี้เดี๋ยวเจ้าก็แพ้อีกนั่นแหละ\"



    แอนนาเบลล่าพูดอย่างอารมณ์ดี ความหงุดหงิดของคนตรงหน้าไม่สามารถทำให้เธออารมณ์เสียได้ แล้วเธอก็หัวเราะ [ความจริงถ้าเธอเกล้าผมแล้วไปต่อสู้ๆแบบนั้นเธอก็ดูเหมือนผู้ชายมากทีเดียว]



    \"ย่ะๆ แม่แอนนาเบลล์สุดสวย ไปกินข้าวๆ\"เบตามีพูดประชดแต่คำพูดนั้นกลับทำให้คนตรงหน้าเริ่มฉุน



    \"ถ้าไม่อยากโดนลูกธนูเจาะหัวนการประลองบ่ายนี้หล่ะก็ อย่าคิดเรียกข้าว่าแอนนาเบลล์เป็นรอบที่สอง!!\"เธอว่า แต่เบตามีกลับยักไหล่



    \"ยังไงก็ไม่โดนอยู่แล้ว เพราะว่าข้าเปลี่ยนใจไม่ประลองและ เสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายจะตายชักไปแข่งแล้วก็แพ้เจ้า แบล่ๆๆๆๆ\"เขาพูดปัดแล้วแลบลิ้นกวนๆ ก่อนจะร้องออกมาเป็นเพลง



    \"แอนนาเบลล์ แอนนาเบลล์ แอนนาเบลล์!!!\"



    \"นี่เจ้า...!\"



    แอนนาเบลล่าเริ่มโกรธ



    \"จ้ะๆ ไม่ต้องโมโหไป แอนนาเบลล์ ไปกินข้าวได้แล้วๆๆ \" เบตามีหัวเราะแล้วตัดบท ก่อนจะจงใจพูดชื่อ \'แอนนาเบลล์\' ให้หญิงสาวฝีมือไม่ธรรมดาตรงหน้าแยกเขี้ยว แล้วจูงมือเธอให้ออกเดิน



    \"ถ้าไม่อยากตายตอนบ่าย อย่าเรียกข้าว่าแอนนาเบลล์....\"ใบหน้าขาวๆของแม่มดสาวเริ่มขึ้นสี แต่คำพูดต่อมานั่นเย็นชาสนิท \"แต่ถ้าไม่อยากตายตอนนี้เลย ก็ปล่อยมือข้าได้แล้ว ข้าเดินไปกินข้าวเองได้!!!\"เธอว่าก่อนสะบัดมือออกจากชายหนุ่มข้างกาย ก่อนจะเดินเร็วติดปีกออกไป ทิ้งให้เบตามีหัวเราะไล่หลังกับอาการเขินที่ดูไม่เป็นเขินของแม่มดแอนนาเบลล่า...



    **************************************************************************************



    \"ถ้าพวกเจ้าเดินต่อไปตามทางนี้ ลัดเลาะไปตามแนวเทือกเขาลูแปง ก่อนจะออกผ่านไปทางมินิเนียร์ และเครย์\"คูเลนพูดก่อนตวัดไม้หลิวยาวๆไล่ไปตามแผนที่มอร์ดูมซึ่งอยู่บนหนังวัวเก่าๆ \"...แล้วหลังจากผ่านเครย์ไปได้ เข้าเขตเรอาห์ เใทองหลวงกับคูซีแรนด์นี่คงผ่านไปได้ง่ายขึ้น\"



    เบตามีและแอนนาเบลล่าพยักหน้ารับรู้ คูเลนจึงกระแอมนิดแล้วพูดต่อ



    \"มีเพียงอุปสรรคอย่างเดียวที่ขัดขวางทางเชื่อมต่อของคูซีแรนด์กับลูธีน นั่นก็คือ...\"



    \"เทือกเขาเกรย์เดวิล??\"



    เบตามีมองตามแผนที่ก่อนจะถามแแล้วเลิกคิ้วสูง



    \"ใช่ เกรย์เดวิล เทือกเขาที่ใหญ่มาก ถ้าพวกเจ้าจะอ้อมคงอาจจะต้องวกไปไกลถึงธิริน แต่ถ้าจะปีนขึ้นลง คงต้องเสี่ยงใช้เวลาเป็นเดือนๆปีๆ ไม่แน่อาจจะแข็งตายไปตั้งแต่อยู่บนภูเขา\"คูเลนพูดอย่างเคร่งขรึม \"มีเพียงทางเดียวที่ข้ามั่นใจว่าจะสามาารถทำให้เจ้าสองคนผ่านเกรย์เดวิลไปสู่ลูธีนได้อย่างรวดเร็วที่สุด นั่นก็คือ...\"



    \"หุบเขาถ้ำน้ำแข็ง\"



    แอนนาเบลล่าพูดต่อ คูเลนพยักหน้าช้าก่อนอธิบาย



    \"ข้าไม่รับประกันหรอกนะว่าถ้าพวกเจ้าสองคนผ่านถ้ำนี่ไปแล้วจะยังปลอดภัยดี ตำนานเล่าว่า ในหุบเขาถ้ำน้ำแข็งนี่มีสัตว์ประหลาดในตำนานสถิตย์อยู่  หวังว่าเทพเจ้าแห่งหุบเขาจะช่วยเจ้าสองคนแล้วกัน แต่ถ้าพวกเจ้าพบทางที่จะผ่านไปได้อย่างปลอดภัยกว่านี้ ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร\"คูเลนพูดเสียงเครียดขึ้น ทำให้เบตามีหน้าซีดลงน้อยๆ



    \"แต่ข้าว่า...ด่านที่อันตรายที่สุดคงไม่ได้อยู่ที่เกรย์เดวิล\"แอนนาเบลล่าพูดอย่างสงสัยเมื่อเห็นใบหน้าซีดๆของคนข้างกาย ก่อนจะขยับรอยยิ้ม



    \"เห็นทีจะต้องบอกว่าเจ้าถูกหล่ะเบลล่า ด่านสุดท้ายที่อันตรายที่สุด....ดาร์คฟอเรสต์\"คูเลนพูดแล้วตวัดไม้หลิวชี้ไปที่ป่าทึบกว้างทะมึนซึ่งกินพื้นที่ไปเกือบหมดเมียร์ กั้นชายแดนระหว่างลูธีน เมียร์ และเคไรอาห์ \"ป่ามรณะ ที่สถิตย์ของสิ่งเลวร้ายทั้งหมดในมอร์ดูม เงามืด ความชั่วร้าย มนตร์ดำ ความลึกลับอันไม่สิ้นสุด...ทุกอย่างล้วนเกิดมาจากที่นี่\"คูเลนร่าย \"ไม่เคยมีมนุษย์หน้าไหนเคยผ่านป่านี้ไปได้ด้วยอาการปลอดภัยครบสามสิบสอง ข้าก็เชื่อว่ามีอะไรที่ลึกลับมากกว่านั้น ตอนนี้คงต้องถึงตาพ่อมดแม่มดอย่างพวกเจ้าเข้าไปลองพิสูจน์ดู\"



    สิ้นเสียง เบตามีก็กลืนน้ำลายเอื๊อก แต่แอนนาเบลล่ากลับยิ้มด้วยสีหน้าพอใจ



    \"ถ้าอย่างนั้น หลุดจากดารค์ฟอเรสต์ไปได้ ผ่านเมียร์และเคไรอาห์ไปนิดเดียว ก็ถึงโกลูนแล้วสินะ\"



    \"ใช่\"คำเดียวจากผู้ถือกำไล...



    \"แต่ไหนแต่ไรมา ตั้งแต่คำสาปของโลดีฟส์ผ่านพ้นไป ข้าที่ทำหน้าที่บกพร่องก็ต้องเร่ร่อนออกจากวังอย่างช่วยไม่ได้ ทันทีที่เจ้าโลดีฟส์ได้ข่าวอีกครั้ง มันก็กลับมาที่วังอีกครั้งแล้วใช้กำลังช่วงชิงกำไลไปได้ในที่สุด แต่มันไม่ได้ทั้งหมด...พ่อมดที่ได้รับเลือกจากกษัตริย์ คือข้า ข้าเท่านั้นที่ใช้กำไลได้ พลังของกำไลถูกถ่ายทอดมาที่ตัวข้าแล้วนับตั้งแต่วันที่ข้าได้รับเลือก ดังนั้น กำไลที่โลดีฟส์ได้ไป ก็ไม่ต่างอะไรกับกำไลสวยๆธรรมดาๆที่ทำได้แค่เสริมบารมีให้เขาเท่านั้นเอง....\"



    คูเลนพูดเสียงขรึม



    \"แต่เวทย์ที่อยู่ในตัวข้า ก็เอาออกมาใช้ไม่ได้เช่นกัน มันถูกผนึกเอาไว้กับกำไล ถ้าไม่มีกำไล มันก็ไม่มีประโยชน์ แล้วพ่อมดคนต่อไปที่อาจจะขึ้นมาแทนข้าก็ไม่ได้รับการถ่ายทอดพลังจากข้าและกำไล จึงไม่มีใครสามารถขึ้นมาแทนได้...นับตั้งแต่นั้นมา โลดีฟส์ก็ตามตัวข้า....ตามมา หวังว่าจะใช้ข้าเอาพลังออกมาจากกำไลให้ได้...จนข้าต้องหลบมาอยู่ในป่าแห่งนี้.....\"



    \"เดี๋ยวก่อนฮะปู่\"เบตามีขัดขึ้น \"ข้าสงสัย ทำไมเมื่อท่านเองเป็นผู้ที่กำไลมอบพลังให้ แล้วท่านจึงไม่ไปสู้กับโลดีฟส์เล่า...เวลาจากคำสาปของโลดีฟส์บอกว่าสามร้อยปี...เวลายังไม่ถึง แสดงว่าคำสาปก็ยังไม่เกิด\"



    \"55 มีเหตุผลทีเดียว เบต้า\"คูเลนหลิ่วตา \"แต่ผิดถนัดทีเดียว เจ้าอย่าลืมว่าโลดีฟส์ก็พ่อมดเหมือนกับพวกเราๆ แล้วเวลามนุษย์กับเลาพ่อมดมันเท่ากันที่ไหนเล่า\"เขาขยับรอยยิ้ม\"1 ปีมนุษย์ เท่ากับ 12 ปีพ่อมด มีค่าเท่ากับ หนึ่งเดือนมนุษย์ คือหนึ่งปีพ่อมด\"



    \"หา!!! ไม่จริงน่า\"เบตามีอุทานตาเหลือก \"ถ้างั้นข้าก็ต้องอายุ 18 x 12...216 ปี!!!\"



    แต่แล้วก่อนที่เบตามีจะทันกังวลในเรื่องแก่ไม่แก่นั่น เขาก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้ง



    \"ละ....แล้ว...คำสาปนั่น....\"



    \"24 ปีก่อน\"คูเลนยิ้มยิงฟัน



    \"24 x 12...288!!\"เบตามีแว๊ก



    \"อีกสามร้อยปี...ใช่แล้ว ข้ายังจำได้ดี คำสาปบอกว่าสามร้อย มันเข้าใจเร่งรัดเวลาเสียจริง\"คูเลนถอนหายใจ \"ปีพ่อมด...300ปีพ่อมด...อีกสองเดือนมนุษย์ นี่แหละคำสาปที่กำลังจะเกิดขึ้น....\"



    \"เพราะเหตุนี้ไงหล่ะ ที่นายจะต้องไป ไม่ใช่อาจารย์\"แอนนาเบลล่าเบิ๊ดกระโหลกคนข้างกายเข้าไปเต็มๆ



    \"ในเมื่อนี่คือคำสาปจริงๆ...พวกเจ้าสองคนรอตรงนี้ซักเดี๋ยวเถอะ ข้าจะเอาอะไรมาให้\"



    คูเลนพูดก่อนถอนหายใจอีกครั้ง แล้วจึงลุกขึ้นยืนเดินออกไปจากห้อง



    สองสามนาทีต่อมา คูเลนก็เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เรียกให้นัยน์ตาทั้งสองคู่จับจ้องไปยังสิ่งของในมือ ซึ่งมันคือสิ่งของที่ถูกห่ออย่างลวกๆ 2 ชิ้น



    \"ข้าคงยังไม่เคยเล่าให้เจ้าสองคนฟัง เกี่ยวกับเรื่อง ศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่\"คูเลนเริ่ม \"ธาตุที่สำคัญที่สุดทั้งสี่บนโลก ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่ละอย่างเป็นสิ่งที่ไม่สามารถขาดได้ พ่อมดแม่มดก็เช่นเดียวกัน สี่คนในแผ่นดิน สี่คนที่มีสิทธิ์ได้รับเลือกเพื่อเป็นเจ้าของธาตุทั้งสี่ สี่คนที่มีสิทธิ์ได้ถือศาสตราวุธแห่งธาตุอันศักดิ์สิทธิ์\"



    \"ธนูแห่งสายลม ดาบแห่งวารี หอกแห่งอัคคี ขวานแห่งแผ่นดิน...ศาสตราวุธแห่งแต่ละธาตุ ถูกสลับเปลี่ยนมือกันมาเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้ มีเพียงผู้ที่มีธาตุหลักเท่านั้นที่จะสามารถครอบครองมันได้ แต่ศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีความสามารถเพียงแค่ที่เจ้าคิด\"คูเลนพูดอย่างเคร่งขรึม



    \"อาวุธทั้งสี่ศักดิ์สิทธิ์จริง เรียกพลังออกมาได้ตามใจปรารถนา แต่เพราะศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ใครจะเอาไปใช้ก็ได้...ดังนั้นทุกๆสมัยที่มีการเปลี่ยนมือเจ้าของ ปริศนาแห่งศาสตราวุธทั้งสี่นี้จะหวนกลับมาอีกครั้ง และรอคอยให้เจ้าของคนต่อไปที่แท้จริงมาแก้ปริศนาของมัน แล้วมันจึงจะมอบพลังศักดิ์สิทธิ์ให้แก่คนผู้นั้น....\"



    \"นี่คือปริศนาของศาสตราวุธทั้งสี่ ขอให้พวกเจ้าทั้งสองคนจำเอาไว้ มีเพียงสั้นๆแค่นี้เท่านั้น.....ลมอยู่ในมือ ดินอยู่ในใจ ไฟอยู่ในปราณ ธารอยู่ในตา...\"



    คูเลนพูด ก่อนจะขยับรอยยิ้มบาง ก่อนจะหันไปสบตากับลูกศิษย์คนเดียวที่มี



    \"เบลล่า ข้าขอชดเชยเรื่องที่ยกเลิกการประลองธนูตอนบ่ายไปด้วยสิ่งนี้....\"เขาพูดแล้วยื่นห่อแรกให้เธอ แอนนาเบลล่ารับมันมาอย่างไม่แน่ใจก่อนจะแกะห่อออก แล้วเบิกตากว้าง



    ธนู...ธนูที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นหรือจินตนาการ...ธนูสีฟ้า...จะว่าไปก็ไม่ฟ้า มันเหมือนสีฟ้าหมอกที่เคลื่อนไหวไปได้ด้วยธาตุอากาศ...แอนนาเบลล่าหยิบมันขึ้นมา แล้วมันก็ทอแสงวาบจนบาดตา ราวกับมีหมอกจางๆเคลื่อนไหวอยู่ในธนูนั้น...หรือถ้าพูดให้ถูก ราวกับธนูนั้นทำมาจากอากาศที่แข็งตัวเป็นรูป....คันธนูเปล่งแสงเรืองรองในขณะที่แอนนาเบลล่าหยิบลูกธนูดอกหนึ่งขึ้นมาจากห่อช้าๆ...



    \"ธนูแห่งสายลม ศาสตราวุธแห่งธาตุลม\"คูเลนร่ายยิ้มๆ \"ด้ามทำจากลมที่ถูกกักขังเป็นธนู ปลายทั้งสองข้างฝังเพชร เพิ่มพลังอำนาจให้แก่เจ้าของ ลูกธนู..ทำจากกระสุนลม ใสยิ่งกว่าแก้ว เร็วยิ่งกว่าแสง คมยิ่งกว่าดาบ แต่แข็งแรงยิ่งกว่าเหล็กกล้า...ข้าขอมอบให้เจ้า แอนนาเบลล่า คาราเฟีย....ผู้ได้รับเลือกจากธาตุแห่งลม...\"



    นัยน์ตาสีฟ้าเบิกกว้างในขณะที่คำพูดต่อมาสั่นระริก



    \"อาจารย์....\"



    แต่คูเลนก็ยื่นห่ออีกห่อให้เบตามี ซึ่งตอนนี้ก็คงรู้ชัดแน่นอนแล้วว่าในห่อนั้นคืออะไร



    ดาบสีน้ำเงินเรืองรองส่องประกายวาว ภายในดาบนิ่งใสวนราวกับมีน้ำอยู่ภายใน ด้ามดาบทำมาจากอะไรบางอย่างใสๆสีฟ้า และตรงกลางฝังไพลินเม็ดใหญ่ยิ่งกว่าผลวอลนัทเสียอีก เบตามีอ้าปากค้าง



    \"ดาบแห่งวารี ศาสตราวุธธาตุน้ำ\"คูเลนบอก \"ด้ามทั้งด้ามทำมาจากอคัวมารีนแกะสลักฝังไพลิน สองอัญมณีที่ทรงพลังที่สุดแห่งผืนน้ำ คมดาบนำมากจากพลังแห่งน้ำ แข็งมากและคมกริบ...ข้าขอมอบให้เจ้าเช่นกัน หลานรัก เบตามี คูริโอนีส....คนๆเดียวในผืนพิภพ ผู้ได้รับเลือกจากพลังจิตวารี....\"



    \"ฟังนะ ทั้งสองคน ธนูแห่งสายลมและดาบแห่งวารีคือสองในสี่ของศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ของที่จะเอามาเล่นๆ การที่พวกเจ้าจับมันได้โดยที่ไม่เกิดอันตราย แสดงว่ามันสามารถรับรู้ถึงพลังธาตุแห่งจิตของเจ้าทั้งสอง...ระหว่างที่ข้ากลับออกไปเพื่อจะไปติดต่ออะไรกับอะมิเลียซักเล็กน้อย ให้พวกเจ้าสองคนจงหลับตาลงแล้วสำรวมจิตให้ดี...อย่าลืมตาจนกว่าจะมีเสียงกระซิบบอกจิตเจ้า...ขอให้พวกเจ้าสองคนโชคดีกับการทดสอบเพื่อยอมรับของศาสตราวุธทั้งสอง ไว้เจอกัน\"



    คูเลนพูด ก่อนจะลุกขึ้นยืนออกจากห้องไปอย่างเงียบกริบ...



    ************************************************************************



    ๐_LilLY_๐ >>



    รู้สึกว่าตอนนี้ยาวโคจ 555 [ในสมุดเราเขียนตั้ง 6 หน้าอ่ะ -*-]



    อาจจาสนุกนิดๆก้ได้นะ 555 [พยายามทำให้มันสนุกอยู่นี่ไง ห่ะๆๆ]



    บางทีถ้าสนุกเราอาจยกเลิกการลบเรื่องไปก่อน ก๊ากกกก



    พยายามพิมสุดชีพ หุหุ



    อ่านแล้วช่วยกันโพสๆหน่อยระกันค่า อิอิ ^^



    ไว้เจอกันตอนหน้าๆๆ [วันนี้อารมณ์ดี 55]



    บ๊ายบายคร่าาา





    ...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×