ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 5 >> ไม้เท้าทั้งสี่
\"ไม่เอาน่าแม่ มุขนี่ฝืดตายชักแล้วนะ อย่ามาโกหกให้ยากเลย ไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด!!\"
เบตามีโวยวายเป็นรอบที่พันล้านใส่แม่ของเขาที่กำลังทำหูทวนลมด้วยเหตุผลที่ไร้สาระที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้....
\"ตากี๊ท่านปู่คูเลนเพิ่งบอกว่ามันเป็นของเล่นใช้ไม่ได้จริงนี่นา แม่อย่าเอามาโมเมหน่อยเลยนะ ข้าโกรธด้วย!!\"มันเถียงหัวชนฝา
อะมิเลียส่ายหัว คูเลนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ส่วนแอนนาเบลล่ากลอกตาขึ้นฟ้า พึมพำน้ำเสียงหงุดหงิดว่า \"คิดแล้วมันต้องเป็นอย่างนี้....\"
\"ปู่ก็พูดไปงั้นเองเบต้า ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้าจะพิสูจน์ให้เห็นกันจะๆไปเลย\"คูเลนตัดบท แล้วกดนิ้วลงบนแป้นเงินนั้น
แสงสว่างจ้าบาดตาขึ้นมาทันที แรงกว่า สวยกว่า ขาวสว่างกว่าของเบตามีเป็นพันล้านเท่า แอนนาเบลล่ามองมันด้วยความชื่นชม ในขณะที่เบตามีอ้าปากค้าง...
...ข้ออ้างของเขา....เริ่มจะหมด...
เจ้าตัวสะบัดหัวดิกๆ ก่อนจะว่าอย่างโมโห
\"บอกว่าไม่เป็นก้ไม่เป็นสิ ข้าไม่เชื่อหรอกไอ้เครื่องมือสัปปะรังเค งี่เง่า\"เบตามีด่าลั่น คราวนี้แอนนาเบลล่าถึงกับสบถดงลั่นแล้วเงื้อไม้เท้าในมือกะจะฟาดหัวเบตามีซักสิบทีให้คอมันหักตายไปเลยโทษฐานทำตัวงี่เง่า
ชายชรารีบยกไม้เท้าเบตามีที่ยังอยู่ในมือขึ้นแล้วร่ายมนตร์กันไม้ของแอนนาเบลล่าที่กำลังฟาดโครมลงมาได้อย่างทันท่วงทีแล้วพูดปรามเสียงเข้ม
\"ใจเย็นหน่อยสิเบลล่า เขายังรับไม่ได้หน่ะเห็นไม้\"คูเลนว่า แอนนาเบลล่ามองเบตามีอย่างโกรธๆก่อนจะสะบัดมือวูบให้ไม้เท้าในมือหายไปด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรง
\"เบต้าแกเป็นพ่อมดจริงๆนะ\"อะมิเลียยังคงพยายามโน้มน้าวจิตใจลูกชาย
\"ผมไม่ได้เป็น ผมเป็นมนุษย์\"เบตามียังคงค้านเหมือนเดิม
คูเลนถอนหายใจ ก่อนจะพูดออกมาด้วยคำพูดทีเล่นทีจริง
\"ปู่จะบอกเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายนะเบต้า...มนุษย์เดินผ่านมิติมาไม่ได้\"เขาพูดเสียงเรียบ
\"มิติอะไร ข้าไม่ได้ข้ามมิติอะไรมาเลยนี่\"เบตามีว่า คูเลนเลิกคิ้วมองเขาแล้วชูไม้เท้าในมือให้ดู
\"ถ้าไม่ใช่เพราะไม้เท้านาธาเรียนนี่ เจ้าก็ข้ามจากบาเดสมาถึงตีนเขาลูแปงภายในวินาทีเดียวไมได้หรอกจริงไหม\"
\"หา!!!! ตีนเขาลูแปง!!! มันอยู่ทางตอนใด้ของเซราสนี่!! \" เบตามีร้องด้วยสีหน้างงสุดขีด
\"ใช่ ที่นี่ตีนเขาลูแปง\"คูเลนยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ \"ลูแปง...ห่างจากใจกลางลาเดสบ้านเจ้าซักประมาณสามพันโยชน์ได้มั้ง\" คูเลนว่าแล้วเกาคางอย่างครุ่นคิด
\"เอ้อ แล้วตกลงไอ้ไม้นี่มันอะไรกัน มันชื่อนาธาเรียนจริงเรอะ เห็นสลักไว้ที่วงแหวนมันตอนนั้น....\"เบตามีถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองนั่นแหละที่เกิดเปลี่ยนเรื่องโดยไม่รู้ตัว
\"ชื่อไม้ หน่ะ\"คูเลนตอบง่ายๆ \"ไม้เท้าทุกด้ามมีชื่อของตัวเอง อย่างไม้ของข้า...\"เขาชูมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือไม้เท้านาธาเรียนข้น แล้วไม้เท้าสีเข้มก็วาบเข้ามาในมือ
...หากพูดว่าไม้เท้าของเบตามีเป็นสัญลักษณ์ของฤดูหนาว ไม้เท้าของคูเลนก็คงเป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิ ไม้เท้าของเขายาวกว่าของเบตามี เป็นไม้เชอร์รี่สีเข้มอย่างดี หัวเป็นรูปพระอาทิตย์ที่ส่องแสงเจิดจ้า มีอะไรบางอย่างคล้ายไม้ที่สานกันเป็นตะกร้อครอบครึ่งล่าง บริเสณถัดจากหัวไม้เป็นเถาไม้เลื้อยที่แซมดอกไม้สีขาวเล็กๆดูอบอุ่นสวยงามมาก
\"...ไม้ฉันชื่อเคริเบียน ตัวแทนแห่งใบไม้ผลิ\"คูเลนพูด \"ตระกูลคูริโอนีสของเราเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง จึงมีไม้เท้าประจำตระกูลอยู่ถึงสี่อย่าง คือ ไม้เท้าเคริเบียนของข้า แทนฤดูใบไม้ผลิ ไม้เท้าซิโอเนี่ยนของแม่เจ้า แทนฤดูร้อน ไม้เท้าอูริเกียน....\"
คูเลนหันไปเป็นเชิงทางแอนนาเบลล่า แม่มดสาวจึงชูมือขึ้น แสงสีส้มวาบเข้ามาในมือก่อนจะปรากฏไม้เท้าสวย
ไม้ยาวพอๆกับไม้ของเบตามี ด้ามทำมาจากไม้เร้ดวู๊ดปลายไม้มีไม้ถักเป็นวง หัวเป้นรูปใบเมเปิ้ลสีแดงและสีส้มใบใหญ่สามใบที่ลอยคว้างอยู่ในครอบแก้วสีส้มอ่อนที่ทอประกายเจิดจ้า
นัยน์ตาสีเขียวของคนช่างเถียงเบิกกว้าง
\"อย่างที่บอก ไม้เท้าอูริเกียนอยู่ที่แอนนาเบลล่า ตัวแทนฤดูใบไม้ร่วง และสุดท้ายก็ไม้เท้านาธาเรียนนี่ ของเจ้า\"คูเลนอธิบายต่อ
เบตามีชะงัก ไม่รู้จะเถียงยังไงเพราะข้ออ้างหมดสิ้น
....หมดกัน...หมดกัน...
...ชีวิตมนุษย์อันอิสระของข้า....
เขาคิดแล้วทำหน้าเห่ย
\"แกเข้าใจแล้วหล่ะสิ เออเห็นเถียงอยู่ตั้งนาน แม่กลับก่อนหล่ะ\"
รูปบนกระจกสื่อสารหายไป คูเลนจึงยื่นคืนให้แอนนาเบลล่าซึ่งรับไว้ ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
\"อ่านหนังสือต่อเถอะเบตามี แล้วเจ้าจะได้เข้าใจอะไรมากขึ้น\"
คูเลนพูด แล้วยกมือขึ้น ไม้เท้าในมือทั้งสองข้างส่องแสงวาบ ไม้เท้าเคริเบียนและนาธาเรียนหายไปพร้อมกัน แอนนาเบลล่าจึงเสกไม้เท้าอูริเกียนในมือให้หายไปบ้าง แล้วคว้าลูกแก้วอธิษฐานออกไปจากมือของเบตามีอย่างรวดเร็วโดยแถมสายตาดุๆไว้ให้ด้วย ก่อนจะก้าวยาวๆออกไปพร้อมกับกระจกสื่อสาร...
\"อ่านหนังสือเถอะ\"
คูเลนตัดบท หันไปมองเบตามีที่กำลังงงว่าตัวเองไปทำอะไรให้ยายแม่มดแอนนาเบลล่าต้องโมโหใส่ได้เสมอ
เบตามียักไหล่ ก่อนจะถอนหายใจลึก มองหนังสือที่ตัวชื่อเรื่องยังเด่นหราอยู่ในมโนภาพ
มือซีดกำแน่น ก่อนจะกัดฟัน ตัดใจลองเชื่อชายในตำนานตรงหน้าแล้วจึงเปิดหน้าหนังสือออกช้าๆ.....
***************************************************
๐_LilLY_๐ >>
หุหุ
ลงแอบช้า ป่าวเนี่ย ฮ่าๆๆๆ
หิหิ ก้ แปะๆไว้ระกัน ถึงจาไม่มีคนอ่านก้บายใจว่าลงแย้ว ฮ่าๆๆ เก่วกันไหม่เหนี่ยๆ -*-
หุหุ
ไปแระ เรื่องนี้ม่ายมีอารายบ่นมาก
บายๆๆ
...
เบตามีโวยวายเป็นรอบที่พันล้านใส่แม่ของเขาที่กำลังทำหูทวนลมด้วยเหตุผลที่ไร้สาระที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้....
\"ตากี๊ท่านปู่คูเลนเพิ่งบอกว่ามันเป็นของเล่นใช้ไม่ได้จริงนี่นา แม่อย่าเอามาโมเมหน่อยเลยนะ ข้าโกรธด้วย!!\"มันเถียงหัวชนฝา
อะมิเลียส่ายหัว คูเลนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ส่วนแอนนาเบลล่ากลอกตาขึ้นฟ้า พึมพำน้ำเสียงหงุดหงิดว่า \"คิดแล้วมันต้องเป็นอย่างนี้....\"
\"ปู่ก็พูดไปงั้นเองเบต้า ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้าจะพิสูจน์ให้เห็นกันจะๆไปเลย\"คูเลนตัดบท แล้วกดนิ้วลงบนแป้นเงินนั้น
แสงสว่างจ้าบาดตาขึ้นมาทันที แรงกว่า สวยกว่า ขาวสว่างกว่าของเบตามีเป็นพันล้านเท่า แอนนาเบลล่ามองมันด้วยความชื่นชม ในขณะที่เบตามีอ้าปากค้าง...
...ข้ออ้างของเขา....เริ่มจะหมด...
เจ้าตัวสะบัดหัวดิกๆ ก่อนจะว่าอย่างโมโห
\"บอกว่าไม่เป็นก้ไม่เป็นสิ ข้าไม่เชื่อหรอกไอ้เครื่องมือสัปปะรังเค งี่เง่า\"เบตามีด่าลั่น คราวนี้แอนนาเบลล่าถึงกับสบถดงลั่นแล้วเงื้อไม้เท้าในมือกะจะฟาดหัวเบตามีซักสิบทีให้คอมันหักตายไปเลยโทษฐานทำตัวงี่เง่า
ชายชรารีบยกไม้เท้าเบตามีที่ยังอยู่ในมือขึ้นแล้วร่ายมนตร์กันไม้ของแอนนาเบลล่าที่กำลังฟาดโครมลงมาได้อย่างทันท่วงทีแล้วพูดปรามเสียงเข้ม
\"ใจเย็นหน่อยสิเบลล่า เขายังรับไม่ได้หน่ะเห็นไม้\"คูเลนว่า แอนนาเบลล่ามองเบตามีอย่างโกรธๆก่อนจะสะบัดมือวูบให้ไม้เท้าในมือหายไปด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรง
\"เบต้าแกเป็นพ่อมดจริงๆนะ\"อะมิเลียยังคงพยายามโน้มน้าวจิตใจลูกชาย
\"ผมไม่ได้เป็น ผมเป็นมนุษย์\"เบตามียังคงค้านเหมือนเดิม
คูเลนถอนหายใจ ก่อนจะพูดออกมาด้วยคำพูดทีเล่นทีจริง
\"ปู่จะบอกเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายนะเบต้า...มนุษย์เดินผ่านมิติมาไม่ได้\"เขาพูดเสียงเรียบ
\"มิติอะไร ข้าไม่ได้ข้ามมิติอะไรมาเลยนี่\"เบตามีว่า คูเลนเลิกคิ้วมองเขาแล้วชูไม้เท้าในมือให้ดู
\"ถ้าไม่ใช่เพราะไม้เท้านาธาเรียนนี่ เจ้าก็ข้ามจากบาเดสมาถึงตีนเขาลูแปงภายในวินาทีเดียวไมได้หรอกจริงไหม\"
\"หา!!!! ตีนเขาลูแปง!!! มันอยู่ทางตอนใด้ของเซราสนี่!! \" เบตามีร้องด้วยสีหน้างงสุดขีด
\"ใช่ ที่นี่ตีนเขาลูแปง\"คูเลนยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ \"ลูแปง...ห่างจากใจกลางลาเดสบ้านเจ้าซักประมาณสามพันโยชน์ได้มั้ง\" คูเลนว่าแล้วเกาคางอย่างครุ่นคิด
\"เอ้อ แล้วตกลงไอ้ไม้นี่มันอะไรกัน มันชื่อนาธาเรียนจริงเรอะ เห็นสลักไว้ที่วงแหวนมันตอนนั้น....\"เบตามีถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองนั่นแหละที่เกิดเปลี่ยนเรื่องโดยไม่รู้ตัว
\"ชื่อไม้ หน่ะ\"คูเลนตอบง่ายๆ \"ไม้เท้าทุกด้ามมีชื่อของตัวเอง อย่างไม้ของข้า...\"เขาชูมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือไม้เท้านาธาเรียนข้น แล้วไม้เท้าสีเข้มก็วาบเข้ามาในมือ
...หากพูดว่าไม้เท้าของเบตามีเป็นสัญลักษณ์ของฤดูหนาว ไม้เท้าของคูเลนก็คงเป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิ ไม้เท้าของเขายาวกว่าของเบตามี เป็นไม้เชอร์รี่สีเข้มอย่างดี หัวเป็นรูปพระอาทิตย์ที่ส่องแสงเจิดจ้า มีอะไรบางอย่างคล้ายไม้ที่สานกันเป็นตะกร้อครอบครึ่งล่าง บริเสณถัดจากหัวไม้เป็นเถาไม้เลื้อยที่แซมดอกไม้สีขาวเล็กๆดูอบอุ่นสวยงามมาก
\"...ไม้ฉันชื่อเคริเบียน ตัวแทนแห่งใบไม้ผลิ\"คูเลนพูด \"ตระกูลคูริโอนีสของเราเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง จึงมีไม้เท้าประจำตระกูลอยู่ถึงสี่อย่าง คือ ไม้เท้าเคริเบียนของข้า แทนฤดูใบไม้ผลิ ไม้เท้าซิโอเนี่ยนของแม่เจ้า แทนฤดูร้อน ไม้เท้าอูริเกียน....\"
คูเลนหันไปเป็นเชิงทางแอนนาเบลล่า แม่มดสาวจึงชูมือขึ้น แสงสีส้มวาบเข้ามาในมือก่อนจะปรากฏไม้เท้าสวย
ไม้ยาวพอๆกับไม้ของเบตามี ด้ามทำมาจากไม้เร้ดวู๊ดปลายไม้มีไม้ถักเป็นวง หัวเป้นรูปใบเมเปิ้ลสีแดงและสีส้มใบใหญ่สามใบที่ลอยคว้างอยู่ในครอบแก้วสีส้มอ่อนที่ทอประกายเจิดจ้า
นัยน์ตาสีเขียวของคนช่างเถียงเบิกกว้าง
\"อย่างที่บอก ไม้เท้าอูริเกียนอยู่ที่แอนนาเบลล่า ตัวแทนฤดูใบไม้ร่วง และสุดท้ายก็ไม้เท้านาธาเรียนนี่ ของเจ้า\"คูเลนอธิบายต่อ
เบตามีชะงัก ไม่รู้จะเถียงยังไงเพราะข้ออ้างหมดสิ้น
....หมดกัน...หมดกัน...
...ชีวิตมนุษย์อันอิสระของข้า....
เขาคิดแล้วทำหน้าเห่ย
\"แกเข้าใจแล้วหล่ะสิ เออเห็นเถียงอยู่ตั้งนาน แม่กลับก่อนหล่ะ\"
รูปบนกระจกสื่อสารหายไป คูเลนจึงยื่นคืนให้แอนนาเบลล่าซึ่งรับไว้ ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
\"อ่านหนังสือต่อเถอะเบตามี แล้วเจ้าจะได้เข้าใจอะไรมากขึ้น\"
คูเลนพูด แล้วยกมือขึ้น ไม้เท้าในมือทั้งสองข้างส่องแสงวาบ ไม้เท้าเคริเบียนและนาธาเรียนหายไปพร้อมกัน แอนนาเบลล่าจึงเสกไม้เท้าอูริเกียนในมือให้หายไปบ้าง แล้วคว้าลูกแก้วอธิษฐานออกไปจากมือของเบตามีอย่างรวดเร็วโดยแถมสายตาดุๆไว้ให้ด้วย ก่อนจะก้าวยาวๆออกไปพร้อมกับกระจกสื่อสาร...
\"อ่านหนังสือเถอะ\"
คูเลนตัดบท หันไปมองเบตามีที่กำลังงงว่าตัวเองไปทำอะไรให้ยายแม่มดแอนนาเบลล่าต้องโมโหใส่ได้เสมอ
เบตามียักไหล่ ก่อนจะถอนหายใจลึก มองหนังสือที่ตัวชื่อเรื่องยังเด่นหราอยู่ในมโนภาพ
มือซีดกำแน่น ก่อนจะกัดฟัน ตัดใจลองเชื่อชายในตำนานตรงหน้าแล้วจึงเปิดหน้าหนังสือออกช้าๆ.....
***************************************************
๐_LilLY_๐ >>
หุหุ
ลงแอบช้า ป่าวเนี่ย ฮ่าๆๆๆ
หิหิ ก้ แปะๆไว้ระกัน ถึงจาไม่มีคนอ่านก้บายใจว่าลงแย้ว ฮ่าๆๆ เก่วกันไหม่เหนี่ยๆ -*-
หุหุ
ไปแระ เรื่องนี้ม่ายมีอารายบ่นมาก
บายๆๆ
...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น