ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic-yulsic-ทาสรัก หนี้อารมณ์ ภาค 4

    ลำดับตอนที่ #6 : กำไลหยกของคุณหนู

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 56


     
     
     
     
    เหมือนหลานชายคนเดียวจะสนใจกำไลหยกคู่นั่นมาก
     
     
     
    "เจ้าชอบมันหรือยูริ"
     
     
    เขาพยักหน้า และยังมองอยู่ที่กำไลนั่นไม่ห่างไม่วางตา
     

     
     
    "ท่านย่าได้มันมาอย่างไร ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้"
     
     
     
     
    "ถ้าเจ้าอยากรู้ นั่งก่อนสิยูริ ย่าจะเล่าให้เจ้าฟัง"
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    10 กว่าปีมาแล้ว
     
     
     
     
    "ฮันเกิง "
     
     
     
     
    "แม่นางอัตสึ" เขารีบลุกขึ้นยืนกางแขนรับอ้อมกอด
     
     
     
    "รอข้านานไหมฮันเกิง"

     
     
    "ไม่ทันได้รอด้วยซ้ำ แค่รู้ว่าแม่นางจะมา ข้าก็ดีใจมาก" เขาหอมฟอดใหญ่
     
     
     
     
    "บ้าจริงเจ้านี่ อายคนเขา" 
     
     
     
    "อายทำไมกันแม่นาง คนเยอะแยะ นี่มันโรงเตี๊ยมข้า คนที่นี่ก็ลูกน้องข้าทั้งนั่น "
     
     
     
     
    "แต่มันไม่เหมาะที่เจ้าจะมาทำรุ่มร่ามกับข้าแบบนี้นะ บ้าจริง"
     
     
     
    ฮันเกิงมองแม่นางอัตสึ คูกิมิยะ เหมือนคนที่เพิ่งมีรักแรก
     
     
     
     
    แม่นางอัตสึเป็นคนญี่ปุ่น เธออายุมากกว่าเขาแต่ก็สวยและสาวกว่าผู้หญิงแผ่นดินใหญ่ ทั่วปักกิ่งไม่มีใครสวยเท่าเธอ
     
     
     
     
     
     
    มีคนมากระซิบข้างหูนายท่านฮันเกิง
     
     
     
    "ได้ๆ ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้"
     
     
     
    เขาหันไปบอกกับแม่นางคนรัก
     
     
     
    "แม่นาง ข้าคงต้องขอตัวสักครู่ ข้างล่างนั่นมีพ่อค้าใหญ่จากเซี่ยงไฮ้มาซื้อทาสด้วยตัวเอง ข้าต้องลงไปต้อนรับ แม่นางรออยู่ที่นี่ ไม่นาน ข้าจักกลับมาโดยเร็ว"
     
     
     
    เธอพยักหน้ารับ
     
     
     
     
    ฮันเกิง หนุ่มน้อยหล่อเหลา เขาสร้างเนื้อสร้างตัวจนเป็นเจ้าของโรงทาส เจ้าของโรงน้ำชา โรงเตี๊ยม
     
     
     
    ปักกิ่งเป็นเมืองใหญ่ สวยงามและมีชีวิตชีวา
     
     
     
    โยอิจิเลยพาข้ามาด้วย
     
     
     
     
    ข้าเลือกโรงเตี๊ยมเล็กๆของฮันเกิงเป็นที่พัก พอเขาเห็นข้าครั้งแรก เขาก็ไม่เคยปล่อยให้ข้าห่างตัวอีกเลย
     
     
     
    เราคบหากันอย่างลับๆ ไม่ให้โยอิจิรู้ 
     
     
     
    ก็ใช่สิ ข้าเกลียดผู้หญิงแผ่นดินใหญ่ ข้าขับไสไล่ส่งอี้ชิง กีดกันทุกทางไม่ใ้ห้โยอิจิคบกับอี้ชิง จนนางต้องหอบลูกในท้องหนีไป
     
     
     
    แต่ข้ากลับมาลักลอบคบหากับบุรุษหนุ่มน้อยรูปงามชาวปักกิ่งคนนี้
     
     
     
    รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น
     
     
     
     
    "ว้าย เด็กสกปรกนี่ขโมยไก่ไปกิน"
     
     
    ข้าร้องด้วยความตกใจ เด็กผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ ดูสิ สกปรกมอมแมม โสโครก ผมเผ้ารุงรัง น่าขยะแขยงเป็นที่สุด
     
     
     
    "ไหนๆ เด็กที่ไหน"
     
     
     
    ฮันเกิงรีบขึ้นมาดู
     
     
     
     
    "ไอ้เด็กโรงทาสนี่นา มึงกล้ามาขโมยของกินถึงในโรงเตี๊ยมนี่หรือ สารเลว "



    เขาหาไม้มาฟาดมาโบยจนเด็กนั่นเลือดท่วมหลัีง
     
     
     
     
    "อย่าตีข้าเลยข้ากลัวแล้ว"
     
     
     
     
    "มึงมาที่นี่ทำไม มึงเป็นทาสมึงก็ต้องไปอยู่โรงทาส กินข้าวโรงทาสไม่พอมึงยังขึ้นมาขโมยกินของดีๆในโรงเตี๊ยมอีกหรือ"
     
     
     
    "เมื่อคืนข้าป่วย ไม่ทันได้ออกมากินข้าว ข้าผ่านมาดูเผื่อโรงเตี๊ยมมีของเหลือ แล้วไก่นั่น นายหญิงก็ทิ้งลงพื้นแล้ว "
     

     
    เด็กทาสสาวนั่งคำนับกับพื้น มันกำลังร้องขอชีวิต
     
     
     
    "โรงเตี๊ยมนี่มีแต่คน ไม่ได้มีที่ให้ทาสชาติหมาขี้เรือนอย่างมึง ไสหัวไป"
     
     
     
    ฮันเกิงยังฟาดเด็กนั่นอีกเป็นสิบไม้
     
     
     
     
     
    ว่าที่พันตรียูริ คูกิมิยะ กำหมัดกัดฟันฟังด้วยหัวใจที่ยากจะคาดเดา
     
     
     
    ว่าเขา...รู้สึกเยี่ยงไร
     
     
     
     
    "แล้วท่านย่า...ไม่คิดสงสารเด็กผู้หญิงคนนั้นบ้างเลยหรือ" ยูริถามจากก้นบึ้งลึกสุดใจ
     
     
     
     
     
    "แค่เด็กทาสสกปรกคนเดียว มันไม่ได้อยู่ในสายตาย่า มันจะเป็นจะตายยังไง มันก็ไม่เกี่ยวกับย่าอยู่แล้ว"
     
     
     
     
    "อ้อ.....อย่างนั้นหรือ" 
     
     
     
    คำก็สกปรก สองคำก็สกปรก....



     
     
     
     
    เพราะเสียงโบยหวาย และเสียงร้องโหยหวนของนังเด็กนั่น
     
     
     
     
     
    "หยุดเี๋ดี๋ยวนี้นะ หยุดโบยเธอเดี๋ยวนี้"
     
     
     
     
    ฮันเกิงหยุดทันทีที่เขาได้ยินเสีงดังเฉียบขาด
     
     
     
    เขาหันไปดู



    เป็นเด็กผู้หญิง ตัวเล็ก ผอม แต่สวยมาก อายุยังน้อย ท่าทางดี มีชาติตระกูล
     
     
     
     
    "คุณหนูมีสิทธิอะไรจะมาห้ามข้า เด็กนี่อยู่โรงทาส ข้าจะโบยจะฆ่าเสียอย่างไร มันก็เป็นสิทธิของข้า"
     
     
     
    "แล้วถ้าข้าอยากได้สิทธินั่นล่ะ สิทธิที่จะไม่ต้องโบยไม่ต้องฆ่ามัน"
     
     
     
    "คุณหนูต้องจ่าย"
     
     
     
    "ข้าจะจ่าย"
     
     
     
    "คุณหนูมีเงินหรือ"
     
     
     
    "ข้าไม่มีแต่พ่อข้ามี"
     
     
     
     
    "ถ้าเยี่ยงนั้นท่านพ่อคุณหนูคงต้องจ่ายมากหน่อย"
     
     
     
     
     
    เมื่อท่านพ่อเธอมา ฮันเกิงเรียกไปแพงมาก พ่อเธอไม่ยอมจ่าย
     
     
     
     
     
    ฮันเกิงเลยฟาดเด็กผู้หญิงนั่นเพื่อเรียกราคา เขาคิดว่าคุณหนูผู้สูงศักดิ์คนนั้น อยากได้อะไรแล้ว เธอต้องได้
     
     
     
     
    ยังไงพ่อเธอก็ไม่จ่าย

     
     
     
    "กำไลหยกนี่มีค่ามากกว่า 100 ตำลึง ข้าให้เจ้าไป 2 วง "
     


    เธอถอดกำไลนั่นให้เขา อย่างไม่นึกเสียดายมันเลยสักนิด

     
     
    ฮันเกิงตาลุกวาว เขารู้ว่ามันราคามันประเมินค่าไม่ได้
     
     
     
     
    เขาต้องการมัน และย่า...ก็ต้องการมัน
     
     
     
     
    "นังเด็กสาวนั่นมันโง่ มันไม่รู้ว่ากำไลนั่นมีค่าประเมินไม่ได้ เรื่องอะไรที่นางกล้าถอดมันแลกกับเด็กทาสโสโครกนั่น"
     
     
     
     

     
     
     
    ข้าบอกฮันเกิงว่า ข้าอยากได้มัน กำไลหยกนั่นข้าอยากได้มันเหลือเกิน





    เขาบอกว่ารักข้านักหนา เขาต้องให้ข้าได้สิ
     
     
     
     
     
    ฮันเกิงบ่ายเบี่ยงมาตลอด
     
     
     
     
    จนข้ารู้ว่า .... ฮันเกิงมีลูกมีเมียแล้ว
     
     
     
     
    เขาจะเก็บไว้ให้ลูกสาวเขา
     
     
     
     
    ข้าโกรธมาก 
     
     
     
     
    "โยอิจิ เจ้าสั่งทหารของเจ้า ไปเอากำไลหยกจากฮันเกิงมาให้แม่ให้ได้ ไปเอามาให้แม่เดี๋ยวนี้ "
     
     
     
     
    ลูกชายคนเดียวของแม่ก็ไม่ทำให้แม่ผิดหวัง
     
     
     
     
    เขาสั่งฆ่าฮันเกิง
     
     
     
     
     
    "หนีไป ซึงยอน หนีไปหาป้าชินยอง หนีไป...."
     
     
    "ท่านพ่อ ท่านแม่......"
     
     
     
     
     
    "ลูกสาวมัีนท่านจะฆ่าไหมครับ"
     
     
    "ไม่เป็นไร ปล่อยมัีนไปเถอะ"
     
     
     
     
    โยอิจิฆ่าฮันเกิงและเมียเขา สมใจย่า
     
     
     
    เขาฆ่าคนทรยศ เขาเอากำไลหยกมาให้ย่า
     
     
     
     
     
     
    หัวใจยูริยาแตกสลาย
     
     
     
     
    เขาปฎิเสธไม่ได้ว่านี่คือครอบครัว คือสายเลือดของเขา
     
     
     
     
    แต่ทำไมพวกเขาช่างเลือดเย็นเหลือเกิน
     
     
     
     
    คุณชายคูกิมิยะแบกหัวใจบอบช้ำกลับห้องนอน
     
     
     
     
    เจอร่างบอบบางที่นอนอยู่
     
     
     
     
    คุณหนูที่รัก...
     
     
     
    ไม่มีใครรักข้าเหมือนที่คุณหนูรัก 
     
     
     
     
    เด็กทาสสกปรกโสโครก อย่างนั้นหรือ คุณหนูเป็นใคร เป็นอะไรกับข้า ทำไมคุณหนูถึงยอมแลก 



     
    ขนาดท่านย่าข้าแท้ๆ ข้ามีสายเลือดของท่านแท้ๆ ท่านยังไม่เอะใจใยดี



    ท่านย่าไม่มีเมตตาใดๆกับใครทั้งนั้น



    หากท่านย่ารู้ว่าข้าเป็นสตรี ข้าคงไม่มีที่ยืนในจวนคูกิมิยะเป็นแน่แท้


     
     
     
    ควอนยูลหรือยูริ คูกิมิยะ หยิบมือบางๆ ของคุณหนูใหญ่สกุลจองมาจุมพิต
     
     
     
     
    เขาก้าวขึ้นเตียงนอนไปประคองเธอมานอนในวงแขน
     
     
     
     
    แล้วจุมพิตแก้มอย่างทะนุถนอม
     
     
     
     
    "ข้าจะไปรบเพื่อท่านพ่ออีกครั้งเดียว ถ้าข้ากลับมา ข้าจะพาคุณหนูไปอยู่ในที่ไกลแสนไกล จะไม่ให้อยู่กับคนใจร้ายเลือดเย็นพวกนี้เด็ดขาด คุณหนูที่รักของข้า จะไม่มียูริ คูกิมิยะอีกแล้ว ข้าจะกลับไปเป็นควอนยูลคนเดิมของคุณหนู ข้าจะอยู่กับคุณหนู เป็นทาสรักคนเดิมของคุณหนู "
     
     
     
     
    ควอนยูลกระชับนายสาวมากอดแน่น
     
     
     
     
    เวลานี้ เวลาไหน ไม่มีใครจริงใจกับเขาเท่าเทียมคุณหนูใหญ่ ไม่มีเลย
     
     
     
    ไม่เอาเกียรติยศ ไม่เอาความร่ำรวยใดๆแล้ว
     
     
     
    แค่เขาเป็นทาสเด็กสกปรกคุณหนูก็ยัง....รัก
     
     
     
    ชีวิตเขาจากนี้ไป จะไม่รับใช้ใคร จะไม่เป็นหนี้บุญคุณใคร
     
     
     
     
     
     
     
    "คุณหนู...ได้ยินข้าไหม ข้ารักคุณหนู ไม่นานข้าจะกลับมา คุณหนูทนลำบากกับข้าได้ไหม ข้าจะไปรับจ้างเก็บฝ้าย ให้คุณหนูอยู่บ้านสบายๆ ข้าจะไม่อยากได้อยากเป็นอะไรแล้ว ข้าจะเป็นคนที่คุณหนูรักและรักคุณหนูแต่เพียงเท่านั้น"
     
     
     
    "สาบานได้ ว่าร่างกาย หัวใจ และวิญญาณของข้า มันจักเป็นของคุณหนูที่รักของข้า แต่เพียงคนเดียว"
     
     



     
    เจสสิก้า จอง ยิ้มทั้งน้ำตา 
     


     
    เธอบอกกับตัวเองในใจว่า





     
     
     
    -ข้าจะรอ-
     
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×