คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [♥] ดูแลตัวเอง :: สิวกับวิธีแก้
♥ สิวกับวิธีแก้ ♥
ประเภทของสิว
ลักษณะของสิวหัวดำ
1.สิวหัวดำ (Blackhead or Open comedones)
สิวชนิดนี้จะเห็นเป็นตุ่มสีดำเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.1-3.0 ซม. เมื่อมีขนาดใหญ่จะเห็นได้ชัด ถ้ากดหรือบีบออกมาจะมีลักษณะคล้ายตัวหนอนสีขาวอมเทาเป็นมันตรงส่วนปลายจะมีสีดำ ซึ่งเป็นสีของเมลานิน
ลักษณะของสิวหัวขาว
2.สิวหัวขาว (Whitehead or Closed comedones)
สิวชนิดนี้จะเป็นตุ่มขาวเล็กๆ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.1-3.0 ซม.เกิดจากการที่มีสารที่เรียกว่า เคอราติน (Keratin) สะสมอยู่บริเวณใกล้ๆรูขุมขนถ้าปล่อยทิ้งไว้มักจะมีการอักเสบต่อไปได้
ลักษณะของสิวอักเสบ
3.สิวอักเสบ (Imflammatory acne) มี 2 แบบ คือ
3.1 ชนิดตุ่มนูนแข็งแดง มีหลายขนาด ถ้ามีขนาดใหญ่จะหายช้าและถ้าหายแล้วอาจมีรอยดำหรือบุ๋มเป็นรอยแผลเป็นได้
3.2 ชนิดตุ่มหนอง เกิดจากากรติดเชื้อ เช่น แบคทีเรียบางชนิด สิวชนิดนี้มีหลายขนาด ถ้ามีขนาดใหญ่มากและลึก เรียกว่าเป็นซีส์ (Cystic acne) ภายในจะมีหนองหรือสารเหลวๆ คล้ายเนย เมื่อหายแล้วมักจะเป็นรอยแผลเป็น
สิวเกิดขึ้นได้อย่างไร
1.เชื้อโรค
สิวเป็นโรคติดเชื้อทางผิวหนังชนิดหนึ่ง เชื้อโรคนั้นก็คือ P.acnes หรือ Propionibacterium acnes โดยจะอาศัยอยู่ที่ต่อมไขมันและจะย่อยไขมันให้กลายเป็นสารที่เรียกว่า free fatty acid และสารอีกหลายชนิด ซึ่งสารเหล่านี้จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบ กลายเป็นสิวเกิดขึ้น
แต่จากศึกษาพบว่า ปริมาณของเชื้อโรคไม่ได้สัมพันธ์กับความรุนแรงของสิว ฉะนั้นคนทีมีเชื้อโรคมากอาจจะเป็นสิวที่ไม่รุนแรงก็ได้
2.ฮอร์โมน
ฮอร์โมนที่เชื่อว่าทำให้เกิดสิว คือ ฮอร์โมนที่ชื่อว่า Testosterone โดยฮอร์โมนชนิดนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นสารฃนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Dihydrotestosterone ในเนื้อเยื่อและไปกระตุ้นที่ต่อมไขมันทำให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ขึ้นและผลิตไขมันออกมามากขึ้น สารบางชนิดที่เป็นส่วนประกอบของไขมัน free fatty acid, squalene และ squalene oxide จะทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนังขึ้นได้
3.การอุดตันที่ต่อมไขมัน
ต่อมไขมันสร้างไขมันที่เรียกว่า sebum เพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดการอุดตันภายในรูขุมขนเกิดการอักเสบและกลายเป็นสิวได้ สิวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุร่วมกันมีปัจจัยต่างๆ หลายอย่างที่อาจส่งเสริมทำให้เกิดเป็นสิวได้
ปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดสิว
1.กรรมพันธุ์
แม้ไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด แต่กรรมพันธุ์น่าจะมีส่วนที่ทำให้เกิดสิวด้วย คนที่มีพ่อแม่ที่เป็นสิว ลูกก็มักเป็นสิวด้วย โดยเฉพาะฝาแฝดไข่ใบเดียวกันจะเป็นสิวเหมือนกันถึงร้อยละ 97.9 %
2.เครื่องสำอาง
เครื่องสำอางมีบทบาทในชิวิตประจำวันมากไม่ว่าจะเป็น สบู่ , ครีมทาผิว , ครีมกันแดด , น้ำมันใส่ผม , แป้ง ฯลฯ มีโอกาสทำให้เกิดสิวได้ เรียกว่า Cosmetic Acnes โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเหล่านี้ เช่น Olive oil ,White petrotalum ,Lanolin สบู่ที่มีส่วนผสมของ Tar ,Sulfers หรือ ครีมรองพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำมันพืชบางชนิด Lauryl alcohol ,Butylesterate ,Oleic acid ฯลฯ
3.ยา
ยาบางชนิดมีส่วนทำให้เกิดสิวหรือทำให้สิวเห่อขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นยาชนิดรับประทาน หรือเป็นชนิดทา ยาบางชนิดก่อให้เกิดสิวเฉพาะบางคนเท่านั้น แต่มีอีกหลายชนิดที่ทำให้เกิดสิวแน่นอน หากได้รับในปริมาณที่มาก หรือระยะเวลานานๆ ตารางแสดงตัวอย่างยาที่ทำให้เกิดสิว
4.ภาวะมีประจำเดือน
ผู้หญิงที่เป็นสิว มีบางส่วนประมาณ 60-70% ที่มักจะมีสิวเห่อมากในช่วง 1 สัปดาห์ก่องมีประจำเดือน เนื่องจากฮอร์โมนที่มีชื่อว่า ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่จะหลั่งออกมามากในช่วงนั้น ทำให้รูขุมขนมีการเปลี่ยนแปลง คือ บวมมากขึ้น เนื่องจากมีการคั่งของน้ำในเซลล์ผิวหนังมากขึ้น ทำให้เกิดไขมันอุดตันที่รูขุมขน จึงทำให้มีสิวเห่อขึ้นได้
5.ความเครียด
ยังไม่มีข้อพิสูจน์แน่ชัดว่าความเครียดทำให้เกิดสิวหรือทำให้สิวเห่อมากขึ้น แต่จะสังเกตได้ว่านักศึกษาที่ใกล้สอบ คนที่ทำงานหนัก หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ มักจะมีสิวเห่อมากขึ้น
6.อาชีพ
มีหลายอาชีพที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือสารพิษ เช่น คนที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม เครื่องจักรกล โรงกลั่นน้ำมัน เช่น สารพวก Parafiins mixtures ,Crude petrolatum ,น้ำมันดิน (Coal tar) ,Chlorinated hydrocarbon หรือ สารพิษเช่น DDT ,Asbestos ฯลฯ สารต่างๆเหล่านี้มีส่วนทำให้เกิดสิวได้
7.สิ่งแวดล้อม
การทำงานในที่มีฝุ่นละอองมาก อากาศร้อนอบอ้าว มีเหงื่อออกมาก ทำให้เกิดการบวมของท่อไขมัน เกิดการอุดตันของสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคที่ปะปนมากับอากาศ ทำให้เกิดสิวได้
8.อาหาร
แต่ก่อนมักมีความเชื่อว่าการรับประทานอาหารบางชนิดที่มีไขมันมาก เช่น เนย ช๊อคโกแล็ต มักจะทำให้เกิดสิว ความจริงแล้วอาหารไม่มีส่วนที่ทำให้เกิดสิวเลย
วิธีการรักษาสิว
1.การดูแลรักษาผิวหน้า
- ล้างหน้าให้สะอาด
- ห้าม บีบ แคะ แกะ เกา สิว
- พยายามใช้เครื่องสำอางให้น้อยที่สุด
- หลีกเลี่ยงการตากแดด เป็นเวลานานๆ
- ไม่สวมเส้อผ้าแน่นหรือคับมากเกินไป
การรักษาแผลเป็นที่เกิดจากสิว
1.รอยด่างดำ
เกิดจากปฏิกิริยาการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบๆ หัวสิว มักเกิดขึ้นเนื่องจากสิวมีการติดเชื้อหรือมีขนาดใหญ่ อักเสบอยู่นานกว่าจะหาย การรักษาคือปล่อยทิ้งไว้อาจหายได้เองแต่ใช้เวลานานหลายเดือน หรือ ทายาที่ใช้ในการรักษาฝ้า กระ เพื่อให้หายเร็วขึ้น ส่วนมากมักไม่มีร่องรอยเหลืออยู่
2.รอยบุ๋ม
มักเกิดในคนที่มีสิวเห่อ เป็นหนองและอักเสบอยู่นาน หรือบีบเค้นหัวสิวเป็นประจำ ทำให้เนื้อเยื่อรอบๆ หัวสิวช้ำ ละอักเสบมากถึงหนังแท้ เมื่อหายแล้วจึงเกิดเป็นรอยบุ๋ม ผิวหน้าขรุขระไม่เรียบ การเกิดแผลเป็นชนิดนี้ไม่สามารถหายเองได้ การรักษาก็ยุ่งยาก ค่าใช้จ่ายก็สูง และผลที่ได้ก็ไม่ดีนัก
3.รอยนูน
แผลเป็นชนิดนี้เกิดนี้เกิดเฉพาะบางคนเท่านั้น ไม่ใช่แต่เฉพาะเป็นแผลที่เกิดจากสิวเท่านั้น แต่แผลชนิดอื่นก็เกิดขึ้นได้ เช่น ปลูกผี แผลผ่าตัด แผลถลอก ฯลฯ แผลเป็นเหล่านี้จะค่อยๆนูนมากขึ้นเรื่อยๆและบางทีอาจมีอาการคันร่วมด้วย การักษาก็ดดยการฉีดยาจำพวกสเตียรอยด์เข้าไปที่แผลโดยตรง อาจต้องฉีดซ้ำหลายๆครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าแผลมีขนาดใหญ่แค่ไหน ยาสามารถทำให้แผลเป็นยุบตัวลง แต่ก็ยังเห็นมีร่องรอยของแผลเป็นอยู่
เครื่องมืออื่นๆ ที่ใช้ในการรักษาสิว
1. High Frequency Current
เป็นเครื่องมือชนิดที่เป็นหลอดแก้ว ภายในเป็นลำแสงสีม่วง หรือแสงสีส้ม ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคที่ผิวหน้า (Gemicidal effect) เพิ่มการหมุนเวียนของเลือดที่บริเวณนั้น (Increased circulation) ช่วยกำจัดของเสียออกไป (removal waste product)
2.Vacuum
เป็นเครื่องมือที่ใช้ดูด (Suction) หัวสิวหรือไขมันที่อยู่ในรูขุมขน ช่วยกำจัดไขมันอุดตันที่เป็นสาเหตุของสิว
3.Steaming with Ozone
เป็นเครื่องพ่นไอน้ำ-โอโซนที่ผิวหน้าใช้เพื่อช่วยขยายรูขุมขน (Relaxing pores) ทำให้กำจัดไขมันในรูขุมขนได้ง่ายขึ้น ลดความมันบนใบหน้า (Reducing Oilness) และช่วยกำจัดของเสียออกไป ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคที่ผิวหน้า
เพื่อนๆคนไหนไม่อยากมีสิวก็ต้องพยามทำตามวิธีแก้นะค่ะ และคงรู้แล้วสินะ
ว่าเพื่อนๆมาสิวประเภทอะไร ( มันหน้าภูมิใจไม๊เนี๊ย ) TOT
ยังไงสู้สู้กับการแก้ปัญหาเรื่องสิวนะจ๊ะ ขอให้หายทุกคนเลย
บ๊ายบ๊าย ~
ความคิดเห็น