ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SEXY! Billionaire 'CHANBAEK FT. HH♡

    ลำดับตอนที่ #8 : CHAP. VII ϟ beautiful liar

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 57





     

    บางคนอาจจะเหนื่อยกับการโกหก

    แต่กับบางคนกลับเหนื่อยกว่าที่จะแกล้งทำเป็นไม่รู้

     

     

    ----------------------------------------------------

     

     

    C H A P T E R  7

     

     

     

                แบคฮยอนตื่นขึ้นมาด้วยความสดใสในช่วงเช้าตรู่ก่อนจะจัดเตรียมของเหมือนทุกวัน เมื่อเสร็จทุกอย่างจนถึงเวลาเปิดร้าน ร่างเล็กก็เดินไปตรงตู้รับไปรษณีย์หน้าบ้านเพื่อรับหนังสือพิมพ์ที่มีบุรุษไปรษณีย์มาส่งดั่งเช่นทุกวัน ของเมื่อวานเขายังไม่ได้อ่านเลยเพราะมัวแต่เตรียมของขวัญให้ลู่หานและคยองซู ..

     

     

     

                เดินฮึมฮัมเพลงอย่างอารมณ์ออกมาเพื่อรับของหากแต่สิ่งที่ไม่เหมือนในทุกวันก็คงจะเป็น ..

     

     

     

              คาสโนว่าฆ่าไม่ตายปาร์คชานยอลผู้บริหารปาร์คคอปเปอเรชั่นสดๆ ร้อนๆ เจ้าของกิจการโรงแรมแลคาสิโนกว่าร้อยสาขาทั่วโลกกลับเกาหลีบ้านเกิดได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้นก็ควงนางแบบสาวหน้าใหม่มาแรงคังซึลกิออกงานแถลงเปิดตัวสาขาใหม่โรงแรมในเครือปาร์คแล้ว เจ้าเสน่ห์เหมือนเดิมเลยนะคะคุณปาร์ค !!’

     

     

     

                ตุบ!

     

     

     

                ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ หนังสือพิมพ์ในมือเล็กถึงได้หนักจนถือไม่ไหว

     

     

     

                แบคฮยอนไม่รู้ว่าในตอนนี้เขาจะต้องรู้สึกอะไร ไม่ได้เสียใจแค่รู้สึกหน่วงๆ ขึ้นเสียเฉยๆ .. เขาเรียกว่าอะไรกันนะ ผิดหวังงั้นหรอ?

     

     

     

              “พี่แบคฮยอนคนสวย คาปูชิโน่แก้วครับ !!!

     

     

     

                แต่แล้วยังไม่ทันมีอะไรเกิดขึ้นเสียงลูกค้าประจำยามเช้าที่หายไปนานก็ของร้านก็ดังเรียกสติแบคฮยอนขึ้น เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าประตูหน้าร้านถูกเปิดเข้ามาตั้งแต่ตอนไหนแม้กระทั่งกระดิ่งหน้าตาประตูเขายังไม่ได้ยินเลย ..

     

     

                “ได้สิ” ยิ้มรับบางๆ ก็ก่อนจะเริ่มทำกาแฟตามออเดอร์หากแต่ในสมองกลับกรอภาพที่เห็นในหนังสืพิมพ์วนไปวนมาอย่างห้ามไม่อยู่ ท่าทีเหม่อเลยจนจงแดสังเกตเห็นเข้าจึงเอ่ยด้วยความเป็นห่วง

     

               

                “เป็นอะไรรึเปล่าครับ เป็นห่วงนะเนี่ย”

     

     

                “เปล่านี่ ฮ่าๆ เราหายไปนานเลยฝืนคลี่ย้มให้เด็กหนุ่มก่อนจะเอ่ยถามเปลี่ยนเรื่อง

     

     

                โอ้ย ช่วงนี้โปรเจ็คต์กำลังจะทับผมตาย..เนี่ยนะพี่..” ท่าทีโอดครวญรวมไปถึงการบ่นเรื่องที่พบปะมาในชีวิตประจำของจงแดสอดแทรกไปกับมุขและคำพูดตลกๆ จนแบคฮยอนถึงกับขำออกมาให้กับความขี้เล่น

     

     

     

                เสียงหยอกล้อของคนในร้านทำให้คนที่เพิ่งมาใหม่อดขมวดคิ้วมองไม่ได้ ไอ้เด็กนี่มันเป็นใครมายุ่งอะไรกับของของเขาชักจะมากเกินไปแล้ว ละนั่นประไรทำไมต้องไปยิ้มให้มันด้วยไม่รู้จักหวงตัวเองเลยนะแบคฮยอนชานยอลคิดอย่างหัวเสียเมื่อเดินเข้ามาในตัวร้านอย่างคุ้นเคย

     

     

                “จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้วผมไปก่อนนะครับพี่คนสวย จะคิดถึงพี่นะหยอดไปอีกหนึ่งดอกก่อนเดินออกจากร้านจงแดเดินผ่านใครคนหนึ่งและถ้าหากเขาไม่ได้ตาฝาดคนนั้นมองเขาด้วยตาขวางๆ เหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่างซะด้วย

     

     

     

                เจ้าตัวทำหน้างงๆ ก่อนจะเดินออกไป

     

     

                เขาไปทำไรให้พอใจกันนะ?

     

     

                เด็กนั่นมันเป็นใครเสียงทุ้มเอ่ยถามทันทีเมื่อเดินประชิดตัวแบคฮยอนอย่างที่เคยหากแต่วันนี้กลับต่างออกไปไม่เพียงแค่การผละตัวออกห่าง หากแต่คำพูดคำจาของคนตัวเล็กก็เปลี่ยนไปจนชานยอลรู้สึกได้

     

     

                ลูกค้าครับ”

     

     

                “เป็นอะไร

     

     

                “...”

     

                นายเป็นอะไร

     

     

                “...”

     

     

                “แบคฮยอน!” ชานยอลเริ่มขึ้นเสียงหนักขึ้นเมื่อแบคฮยอนดื้อเงียบกว่าที่คิด เจ้าตัวเข้าสู่โหมดเงียบที่เขาคุ้นเคยดีจากการตื่นนอนในวันนั้นที่ไม่ได้เจอมานาน ร่างสูงถอนหายใจหนึ่งเฮือกก่อนจะเดินไปหน้าประตูร้านแล้วหมุนป้าย open ให้เปลี่ยนเป็น close

     

     

     

                ไม่มีบทสนทนาอะไรขึ้นหลังจากที่ชานยอลเดินกลับมา จนกระทั่งแบคฮยอนเอ่ยปากขึ้น

     

     

                “ถามจริงๆ เถอะครับ ที่คุณแวะเวียนมาหาผมถึงที่นี่เพราะคุณยังรู้สึกติดค้างกับเรื่องเมื่อหกปีก่อนอยู่ใช่รึเปล่า

     

     

                “..”

     

     

                " ถ้ามันเป็นเพราะสาเหตุนั้นก็พอเถอะครับ เราหายกันไปตั้งนานแล้ว "

     

     

                “นายคิดแค่นั้นหรอ” ชานยอลตอบด้วยน้ำเสียงเรียบที่แบคฮยอนเดาไม่ออกจริงๆ ว่ากำลังพูดด้วยความรู้สึกอย่างไรตัดพ้อ โมโห หรืออะไร ..

     

     

                “นอกจากเรื่องนี้ผมก็คิดอะไรออก” ร่างเล็กเริ่มเสมองทางด้านอื่นก่อนจะเริ่มพูดต่อโดยไม่มองหน้าอีกฝ่ายเลยสักนิด เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปจึงเริ่มเอ่ยปากพูดต่อ ถ้าคุณแค่สำนึกผิดก็ไม่ต้องหรอกครับที่คุณให้เงินผมมามันก็มากพอแล้ว”

     

     

                “..”

     

     

                “หรือจะเป็นเพราะคุณเคยถามผมว่าฝั่งใจกับเรื่องเซ็กซ์ตอนนั้นรึเปล่าแล้วผมไม่ตอบ” ต้องใช่แน่ๆ มีครั้งนึงที่ชานยอลเคยถามเขาว่าฝั่งใจกับครั้งแรกแบบนั้นรึเปล่า ภายในหัวสมองของบคฮยอนตีกันไปหมดด้วยเรื่องติดลบ

     

     

                พูดพอรึยังแบคฮยอน” ในที่สุดร่างสูงก็เริ่มเปิดปากพูดอีกครั้ง แบคฮยอนหยุดชะงักกับความคิดในหัวของตัวเองก่อนจะหันมองหน้าชานยอลด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

     

     

                “ก็คุณไม่พู..”

     

     

                เงียบแล้วฟังฉัน”

     

     

                เมื่อเจอคำพูดเรียบนิ่งหากทว่าแฝงไปด้วยความรู้สึกน่าเกรงขามเสียจนต้องหยุดค้างแบคฮยอนจึงหยุดคำพูดของตัวเองลง

     

     

                คนอย่างฉันปาร์คชานยอล ไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้ใครด้วยความรู้สึกผิดบ้าๆ นั่นน้ำเสียงจริงจังยิ่งกว่าครั้งไหนที่เขาเคยเจอ ยิ่งพูดก็เหมือนเจ้าตัวจะยิ่งหัวเสียมากขึ้น ในตอนนี้นั้นคนตรงหน้าเขาเหมือนชานยอลคนเมื่อห้าปีก่อนนั้นกลับมาไม่มีผิด

     

                “ก็อย่างที่นายว่า ฉันให้นายไปแล้วครั้งนั้นมันมากพอแล้วและฉันไม่เคยคิดถึงมันอีกจนกระทั่งนายพูดขึ้นมาเองในวันนี้ เป็นครั้งแรกของการเจอกันใหม่ที่เห็นชานยอลเป็นแบบนี้ แบคฮยอนเริ่มตัวสั่นขึ้นเล็กน้อยด้วยความกลัว

     

     

     

                “แล้วที่คุณมาหาผมนี่ต้องการอะไรครับเสียงสั่นเริ่มสั่นเมื่อน้ำตาเริ่มเอ่อคลอ ยิ่งนึกไปถึงภาพบนหนังสือพิมพ์ฉบับล่าสุดของวันนี้มันก็ยิ่งชัดเจน ชานยอลกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่

     

     

                นายไม่รู้จริงๆ หรอ

     

     

                ผมไม่รู้หรอก ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรต้องรู้อะไรบ้าง น้ำใสที่พยายามกลั้นมาตลอดไหลลงตรงบริเวณหางตาช้าๆ ความรู้สึกที่เก็บกักมันท่วมทะลักออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

     

     

                ชานยอลเห็นแบบนั้นก็ค่อยๆ เข้าไปใกล้ร่างเล็กที่พยายามหันหนีตัวเอง ก่อนจะคว้าใบหน้าหวานแล้วปาดน้ำตาให้ช้าๆ แต่ดูเหมือนยิ่งเช็ดน้ำตาใสก็ยิ่งไหลท่วมออกมามากกว่าเดิม

     

     

                “ถ้าคุณแค่ทำไปอย่างนั้นกรุณาอย่ามาหาผมอีกเลยได้ไหมครับชานยอลไม่ตอบอะไรหากแต่ยังคงปาดน้ำตาให้ตาคู่สวยอย่างอ่อนโยน

     

     

                แค่นี้ผมก็หวั่นไหวจนจะบ้าอยู่แล้ว ฮึก” จนในที่สุดแบคฮยอนก็พูดออกมายอมรับความพ่ายแพ้ต่อความรู้สึกของตัวเองซบใบหน้าลงกับอกแกร่งของร่างสูงพร้อมกับปล่อยโฮออกมา

     

     

                ชานยอลลูบหัวอีกฝ่ายอย่างทะนุถนอมพร้อมทั้งเอ่ยปลอบประโลมเด็กน้อยของเขาที่ขี้แยร้องไห้เป็นเด็กๆ ชายหนุ่มไม่เข้าใจคำพูดที่ร่างเล็กต้องการจะสื่อเท่าไหร่นัก หากแต่ปล่อยอย่างนี้คงไม่ดีแน่ เขาไม่ชอบน้ำตาของแบคฮยอนไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปก็ไม่ชอบอยู่ดี ..

     

     

                ถ้าฉันไม่คิดอะไรฉันจะมาหานายทำไมล่ะ คนดีไม่เอาน่าอย่าร้องไห้. แบคฮยอนกำเสื้ออีกฝ่ายแน่นจนเกิดรอยยับ เมื่อได้ยินคำพูดที่กระทบต่อความรู้สึกอันเปราะบางเสียเหลือเกินของตัวเอง

     

     

     

                พลันสายตาคมเหลือบไปเห็นหนังสือที่ถูกวางทิ้งเปิดค้างหน้าข่าวคุ้นตาไว้อยู่บนโต๊ะ พาดหัวข่าวชัดเจนรวมถึงรูปคู่ขอมงเขากับนางแบบสุดฮอตเมื่อคืนเด่นหราเสียจนแทบไม่ต้องอ่านใจความข้างใน พวกแมงหวีแมงวันน่ารำคาญบังอาจมาทำให้เด็กน้อยของเขาร้องไห้ ชายหนุ่มหมายตาคาดโทษสาเหตุของน้ำตาแบคฮยอน

     

     

                ปาร์คชานยอล .. ผู้โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง

     

     

                เพราะเรื่องในหนังสือพิมพ์หรอครับ หืม”

     

     

                “..”

     

     

                “คิดมากทำไมล่ะ นักข่าวพวกนั้นเขียนมั่วจะตายไปไม่เห็นจำเป็นต้องสนใจเหล่ตามองใบหน้าเล็กที่ผละตัวออกมาจากอกของเขาในที่สุด

     

     

                “..”

     

     

                “ร้องไห้แบบนี้หึงฉันใช่มั้ย” หยอกล้อพลางหยิกแก้มที่ตอนนี้แดงระเรื่อเป็นสีชมพูจากการร้องไห้ก่อนจะได้รับค้อนวงใหญ่เป็นรางวัลตอบกลับมา

     

     

                ใครจะไปหึงคุณกัน คนบ้า” แบคฮยอนที่สะอึกสะอื้นไปฟาดแขนชานยอลไปส่งผลให้เจ้าตัวหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมทั้งอธิบายด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

     

     

                กินเลี้ยงเสร็จฉันเข้าห้องที่เขาจัดไว้ให้เลยแต่ไม่ได้กลับคนเดียว

     

     

     

                ซึ่งแน่นอนว่าชานยอลไม่ได้ต่อประโยคหลังให้แบคฮยอนได้ยิน อาจเป็นเพราะแบคฮยอนไว้ใจคนอย่างปาร์คชานยอลมากเกินไปจึงลืมคิดไปว่าหากไม่มีมูลความจริงคงไม่มีนักข่าวหน้าไหนกล้านั่งเทียนเขียนหรอกยิ่งเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างปาร์คชานยอลด้วยแล้วย่อมไม่มีอยากเอาตัวเองไปเสี่ยง  

     

     

     

                และถ้าหากแบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาสังเกตสักนิด ภายใต้เสื้อเชิ้ตขาวที่วันนี้ชานยอลกลับเลือกที่จะติดกระดุมทุกเม็ดสักนิด .. คงจะเห็นรอยกจ้ำแดงๆสัญลักษณ์ของกิจกรรมเข้าจังหวะอยู่บนแผงอกหนาเป็นแน่แท้

     

     

     

                หนูน้อยหมวกแดงผู้น่าสงสารโดนหมาป่าล่อลวงเข้าแล้วล่ะ ..

     

     

     

     

     

     

     


    100%

    หลงจากนี้พี่ปาร์คจะดาเมจแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำใจดีๆ ค่ะทีมแบคฮยอน 55555
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ิพมพ์ตกหรือพิมผิดมากนะคะ
    เราเป็นคนไม่ค่อยรอบคอบเท่าไหร่ สายตาไม่ดีด้วย แย่มาก T_T
    มีข้อสงสัยนอกรอบได้ 24 ชม. งับ @Leaderkiiz
    เพราะเราเองก็เป็นคนอ่านมาก่อนและไม่ชอบโดนบังคับเม้นต์
    เพราะฉะนั้นเราจะไม่บังคับคนอ่านของเราเหมือนกัน
    แต่จะขอร้องแทน 55555 เป็นยังไงบ้างฝากคอมเม้นต์ด้วยนะคะ
    อยากรู้ฟีดแบคว่ามีคนอ่านอยู่มั้ย จะปรับปรุงให้ดีกว่านี้ T _ T
    ขอบคุณมากค่า #ฟิคเชื่อใจ

    (c) Chess theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×