ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SEXY! Billionaire 'CHANBAEK FT. HH♡

    ลำดับตอนที่ #13 : CHAP. XII ϟ promise night

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.พ. 58








    เด็กชายวัยห้าขวบคนหนึ่งเคยบอกไว้ว่าความรักคือ

    การที่รู้ว่าตั้งขนมไว้ตรงนั้นแล้วเขาจะแอบเอาไปกิน

    แต่ก็ยังคงตั้งไว้ตรงนั้นทุกวัน

     

    ----------------------------------------------------

    C H A P T E R  12

     

     

     

                เสียงเตือนปลุกจากโทรศัพท์ปลุกแบคฮยอนให้ตื่นขึ้นมาหลังจากที่หลับไปอย่างง่ายดายด้วยความเหนื่อยอ่อนตลอดการเที่ยวทั้งเมื่อวานนี้ ร่างเล็กลุกขึ้นกดเลื่อนเวลาก่อนจะฟุบหน้าลงกับหมอนอีกครั้ง

     

     

                พลังงานของเขาหายไปกับดิสนีย์แลนด์ค่อนข้างมาก ปวดเนื้อปวดตัวปวดขาไปหมดอ่อนล้าในแบบสุดๆ

     

     

                แต่ก่อนที่โทรศัพท์จะดังขึ้นอีกครั้งคนขี้เซาที่เพิ่งซบหน้าลงกับหมอนเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่ามีนัดในตอนเช้า จึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่ง หาวอย่างน่ารักไปหนึ่งทีก่อนจะบิดตัวคลายความเมื่อยล้าจากการนอนท่าเดิมทั้งคืน

     

     

     

                “เจ็ดโมงแล้วหรอ รู้สึกนอนไปแค่สองชั่วโมงเอง” แบคฮยอนบ่นกับตัวเองอย่างงัวเงีย นอนปิดตาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นปิดโปรแกรมเตือนปลุก ลุกขึ้นนั่งขยี้ตาอยู่สองสามครั้งจึงเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว

     

     

     

     

     

     

                - - -  t r u s t m e  - - -

     

     

     

     

     

                “วันนี้อยากไปไหนเป็นพิเศษมั้ย” ร่างสูงเอ่ยถามขึ้นขณะที่นั่งทานอาหารเช้าอย่างเรียบง่าย ด้วยขนมปังไข่ดาวสองฟองแฮมและไส้กรอกคนละที่เสิร์ฟพร้อมน้ำส้มของแบคฮยอนและโกโก้ร้อนเครื่องดื่มโปรดของเจ้าตัว

     

     

                “เหนื่อยอ่ะครับ อยากนอนให้ลืมโลกเลย” ร่างเล็กที่ใช้ส้อมจิ้มไส้กรอก กัดครึ่งเข้าปากหันไปตอบก่อนจะยู่ปากอย่างน่ารักสุดๆ ในสายตาชานยอล เขาคงกำลังจะกลายเป็นคนประเภทโลลิคอนแล้วจริงๆ

     

     

                ชานยอลคิดอย่างปลงตกกับตัวเอง อันที่จริงแบคฮยอนเองก็ไม่ได้เด็กขนาดนั้นสักหน่อย จริงมั้ย?

     

     

     

                “งั้นพักเถอะ ไว้ตอนเย็นค่อยว่ากันอีกที” จิบโกโก้หนึ่งคำก่อนจะวางลงบนจานรองก่อนจะหันไปพูดกลับคนตัวเล็กที่แต่งตัวมาอย่างดีแล้วว่า “ไปเดินย่อยอาหารกันสักหน่อยมั้ย”

     

     

     

                .

     

                .

     

     

     

                หากแต่การเดินย่อยอาหารในความคิดแบคฮยอนนั้นต่างกับของชานยอลสุดโต่ง การเดินย่อยที่เสียเงินมากที่สุดในโลก .. ข้าวของกลับมาเต็มไม้เต็มมืออีกครั้งหลังจากที่ชานยอลพาแบคฮยอนไปเดินเที่ยวห้างขนาดย่อม แม้จะไม่ใช่ห้างใหญ่โตแบบวันแรก แต่นี่มันก็ไม่ใช่เหตุสมควรกับการเดินย่อยมั้ย ..

     

     

                “ไหนคุณบอกจะให้ผมพักผ่อนไง .. แล้วนี่อะไรเนี่ยพามาเสียเงินอีกแล้ว” ร่างเล็กหน้าเริ่มหน้างอง้ำนิดๆ เมื่อเห็นของที่คนใจปล้ำเหมาให้ตัวเองมากกว่าวันแรกที่เขาก้าวขาเหยียบฮ่องกงซะอีก

     

                “ก็นายไม่ยอมรับเงินเองนี่” ร่างสูงว่าพลางยักไหล่เดินนำไปดูผ้าพันคอยี่ห้อแบรนด์ดังอีกครั้ง

     

               

                “คุณอ่ะ!!!”

     

     

                เป็นการเอาคืนที่คาดไม่ถึงจริงๆ

     

     

                ไม่รับเงินก็ซื้อของให้

     

     

                 จริงๆ เลยนะคุณชานยอล !!!

     

     

     

     

     

     

                หลังจากจบการใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองในความคิดของแบคฮยอน ชานยอลกลับไม่ได้พาไปยังที่พักเดิมที่คิด ชายหนุ่มเลือกพาเด็กน้อยของเขาไปยังตึกที่สูงที่สุดในเกาะฮ่องกง ซึ่งแน่นอนว่าชั้นบนสุดย่อมเป็นโรงแรมระดับห้าดาวเห็นวิวดีที่สุดและหรูที่สุดแน่นอน

     

     

                “ของผมยังอยู่ที่เดิมอยู่เลยนะครับ” แบคฮยอนที่ตอนนี้เดินตัวปลิวสบาย โดยมีบอดี้การ์ดถือข้าวของสองข้างเต็มมือเดินตามหลังพูดด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวด

     

     

                ปาร์คชานยอลเป็นบุคคลที่ตามไม่ทันที่สุดในโลก ..

     

     

                “เดี๋ยวมีคนเอามาให้ พักผ่อนเถอะ” เสียงทุ้มพูดอย่างง่ายดาย ส่งคนตัวเล็กเข้าห้องพักซึ่งเป็นห้องสูทหรูหรา บอกให้คนนำของไปวางอย่างเป็นระเบียบพร้อมทิ้งท้ายประโยคก่อนจะปิดประตูไปว่า “เจอกันคืนนี้แต่งตัวน่ารักๆ นะ”

     

     

     

                หลังเสียงบานประตูปิดไป แบคฮยอนยกมือขึ้นกุมหัวใจตัวเองก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนเตียงช้าๆ การเอาใจใส่พร้อมคำพูดหวานหูที่เขาไม่เคยคาดหวังจากชานยอล มันทำเอาเขาใจสั่นจริงๆ ร่างเล็กนอนขยับตัวไปมาอยู่บนเตียงด้วยสาเหตุมาจากการนอนไม่หลับรวมไปถึง

     

             

              การตัดสินใจบางอย่าง ..

     

     

                จนในที่สุดก็ตกลงใจกับตัวเองได้จึงผล็อยหลับไปในที่สุด

     

     

                แบคฮยอนแต่งตัวด้วยชุดใหม่ที่ชายหนุ่มซื้อให้เมื่อวันแรกที่ย่างก้าวถึงฮ่องกง แม่บ้านทำความสะอาดพร้อมทั้งแขวนให้อย่างเป็นระเบียบ ร่างเล็กนั่งจ้องหน้าตัวเองอยู่หน้ากระจก หลังจากที่คิดไม่ตกกับเรื่องบางเรื่องมาตลอดทั้งวันจนกระทั่งหลับไป

     

     

                เขาไม่แน่ใจนักว่าที่ทำอยู่มันดีรึเปล่า แต่การหันหลังกลับไปตอนนี้มันคงขี้ขลาดเกินไป

     

               

                ร่างเล็กสูดหายใจเฮือกใหญ่ จ้องหน้าตัวเองในกระจกอีกครั้งก่อนมือเรียวจะหยิบน้ำหอมที่ชานยอลพูดว่าชอบมันและหอมเมื่ออยู่บนผิวเขามาฉีดพรมตามจุดชีพจร

     

     

                เอาน่า มันก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตเท่านั้นบยอนแบคฮยอน ..

     

     

     

     

     

    - - -  t r u s t m e  - - -

     

     

     

                “ชอบที่นี่มั้ย” ชานยอลเอ่ยถามคนตัวเล็กที่วันนี้แต่งตัวน่ารักถูกใจเขานัก ท่ามกลางกลางเสียงเพลงคลาสสิกที่บรรเลงสดโดยนักดนตรีมืออาชีพ ร้านอาหารที่หากเป็นคนปกติคงต้องใช้เวลาจองข้ามเดือนข้ามปีกว่าจะได้มานั่งจิบไวน์ ชมยอดวิวทั่วทั้งฮ่องกงอย่างนี้

     

     

                แต่เพราะผู้ชายคนนี้คือปาร์คชานยอล .. ปาร์คชานยอลที่สามารถทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองต้องการ

     

               

                แบคฮยอนที่กำลังจิ้มชิ้นเนื้อสเต็กรสชาติดีหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง วางส้อมลงเงยสบตากับดวงตาคมที่วันนี้ดูมีเสน่ห์จับใจทำเอาหวั่นไหวยิ่งกว่าทุกวัน ก่อนจะส่งรอยยิ้มหวานเต็มใบหน้าพร้อมทั้งพูดด้วยคำพูดที่มาจากใจ

     

     

     

                “ชอบสิครับ บรรยากาศดีมากเลยเห็นเกือบทั่วฮ่องกงแหน่ะ” สีหน้าที่ปิดไม่มิดว่าเจ้าตัวประทับใจขนาดไหนเรียกรอบยิ้มมุมปากพึงพอใจจากชานยอลได้เป็นอย่างดี ต่อให้แบคฮยอนจะต่างจากคนอื่นมากแค่ไหน แต่ความพิเศษที่ได้รับอย่างน้อยเจ้าตัวก็ต้องรู้สึกดีกับมันแน่

     

     

                “อยากมาบ่อยๆ รึเปล่า” ชายหนุ่มโคลงแก้วไวน์ในมือเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง

     

     

     

                “มาที่นี่น่ะหรอครับ” ใบหน้าเล็กเอียงคอถามอย่างน่ารัก

     

     

     

                “ใช่ ฮ่องกง ร้านนี้ ทั้งหมดที่นี่นายอยากมาอีกครั้งรึเปล่า” ดวงตาแพรวพราวประกอบคำถามทำเอาแบคฮยอนรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ

     

     

     

                “รวมถึงดิสนีย์แลนด์ด้วยรึเปล่าครับ” มือเล็กคว้าแก้วไวน์ขึ้นมาจิบเรียกความกล้า เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงพยายามหยอกล้อ

     

     

                “ถ้านายต้องการ” นัยต์ตาราวกับหมาป่าของชานยอลกลับมาอีกครั้ง

     

     

     

     

     

                “ก็อยากครับ แต่ขอเก็บเงินสร้างตัวก่อน” คนตัวเล็กตอบกลับอย่างพยายามเลี่ยงก่อนจะหัวเราะส่งท้ายราวกับนี่เป็นแค่มุขขำๆ เพียงมุขหนึ่งเท่านั้น

     

     

                หารู้ไม่ว่า .. เข้าทางชานยอลเต็มๆ

     

     

                “มาเป็นของฉันสิ”

     

     

     

                “ฮะ .. แค่กๆ วะ .. ว่าไงนะครับ” คำถามน่าตกใจทำให้แบคฮยอนสำลักไวน์ที่เพิ่งยกขึ้นดื่มแก้เก้อเมื่อสักครู่ทันที

     

     

                “มาเป็นคนของฉัน”

     

     

                “..”

     

     

                “แล้วนายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ” ชานยอลพูดด้วยท่าทีที่ร่างเล็กไม่เคยเห็นมาก่อน มันไม่ใช่การหยอกล้อแน่ๆ แบคฮยอนมั่นแต่เจ้าตัวก็ยังคงทำใจดีสู้เสือ

     

     

                “อย่าล้อเล่นแบบนี้สิครับ ผมตกลงจริงคุณจะยุ่งนะ ฮ่าๆ” ใบหน้าเล็กพูดไปหัวเราะโดยหวังว่าชานยอลจะตอบกลับมาด้วยมุขผ่านๆ อย่างที่ชอบทำ

     

     

                หากแต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ ..

     

     

                “ฉันจริงจังแบคฮยอน”

     

     

                เสียงเรียบนิ่งบ่งบอกระดับความจริงจังในน้ำเสียงทำให้แบคฮยอนหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เขากำลังสับสน .. ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดมันออกมาได้เถตรงขนาดนี้ มันเหนือความคาดหมายและสิ่งที่เขาคิดไว้ ร่างเล็กรวบรวมสติที่หลุดลอยของตัวเองก่อนจะเอ่ยพูดสิ่งที่อยู่ในใจด้วยน้ำเสียงที่หากอยู่ในเวลาปกติเขาคงไม่กล้าพูดมันออกไปแน่

     

     

     

                “มีคนมากมายพร้อมจะเป็นของคุณอย่างเต็มใจ” มือบางยกทิชชู่ขึ้นมาซับปากบริเวณที่เลอะตอนสำลักเมื่อครู่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมทั้งเอ่ยถามต่อว่า “ทำไมต้องเป็นผมล่ะครับ คุณชอบผมหรอ?

     

     

                สาบานได้ว่านี่ไม่ใช่ตัวของเขาเลย อย่างน้อยตอนยังไม่ถูกแอลกอฮอล์ครอบงำเขาก็คงไม่กล้าถามคำถามก๋ากั่นแบบนี้ออกไปหรอก คุณชอบผมหรอ โอ้ไม่! เขาถามมันออกไปได้ยังไง ไม่อยากจะเชื่อเลย แบคฮยอนแทบจะเอาหัวโขกกับโต๊ะเบาๆ เมื่อนึกย้อนในสิ่งที่ตัวโพล่งออกไป

     

     

     

                “ของที่ได้มาง่ายมักจะไร้ค่าเสมอ” สีหน้าเรียบเฉยที่พูดมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งทำเอาแบคฮยอนรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าก็มิปาน ของที่ได้มาง่ายงั้นหรอ  “และใช่ คำหรับคำถามหลังฉันถูกใจนาย”

     

     

     

                ชานยอลเลือกที่จะแทนที่คำว่าชอบด้วยคำว่าถูกใจแทน เขาเองรู้สึกถูกใจและยังไงมันก็ยังไม่ใช่ชอบหรือรักแน่นอน ความรู้สึกนั้นมันจบไปตั้งแต่ปั๊บปี้เลิฟสมัยไฮสคูลแล้ว

     

     

     

                “เผื่อคุณจะลืม คุณเองก็เคยได้ผมไปแล้วนะครับ ได้อย่างง่ายๆ ซะด้วย” แบคฮยอนพูดอย่างฝืดคอปนขมขื่น แม้จะเป็นเรื่องที่อยากลืมแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นคือความจริง และมันเป็นจุดเริ่มต้นทุกอย่างของชีวิตใหม่เขา

     

     

                “ใช่ เมื่อหกปีก่อนฉันเคยได้นายมาแล้ว” เสียงราบเรียบพูดย้ำว่าเขายังจำมันได้ดีพูดขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงราวกับว่าเรื่องที่กำลังถกกันเป็นเรื่องปกติธรรมดาเสียเหลือเกิน “และมันทำให้ฉันรู้ว่านายไม่เหมือนคนอื่น”

     

     

     

                “ไม่เหมือนตรงไหนครับ” เสียงเล็กเอ่ยถามอย่างสงสัยพร้อมทั้งส่งสีหน้าไม่เข้าใจอย่างรุนแรงไปให้คนตรงหน้า อะไรกันที่ไม่เหมือน?

     

     

                “ตลอดเวลาหกปีที่ผ่านมาคือคำตอบ” คำตอบเพียงสั้นๆ ไม่สามารถไขข้อข้องใจให้แก่ร่างเล็กได้ แต่จะถามไปก็คงไม่มีประโยชน์ ดูท่าชานยอลคงไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรไปมากกว่านี้แน่ๆ

     

     

                แบคฮยอนจึงนั่งเงียบไป

     

     

                หากทว่าในส่วนของชานยอลแล้ว ในตอนนี้ความรู้สึกของเขาคือปลาตัวใหญ่กำลังติดอวนและเขาจะไม่มีทางเสียโอกาสนี้ไปอย่างเด็ดขาด ทั้งที่คนตัวเล็กสามารถเรียกร้องหรือสร้างความรำคาญให้เขาเมื่อหกปีได้มากกว่านั้นแต่กลับไม่ทำ อาจเพราะขลาดกลัวหรืออะไรก็ตามแต่ แต่การไม่รุกรานก่อกวนชีวิตเขามันคือสิ่งที่ชานยอลต้องการ

     

     

                ชานยอลพอใจคนที่ไม่สร้างปัญหา ไม่น่ารำคาญ งี่เง่า รู้จักพูดเมื่อถึงเวลาพูดและรู้จักเงียบเมื่อถึงเวลาที่ควรเงียบ แบคฮยอนคือคนที่ใช่สำหรับเขาที่สุด อย่างน้อยก็น่าจะในระยะเวลาครึ่งปีที่ต้องดูงานที่เกาหลีเป็นหลัก หลังจากนี้ค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน อย่างแบคฮยอนคงพูดไม่ยากหรอก ชานยอลคิดถึงส่วนได้ส่วนเสียในใจอย่างเห็นแก่ตัวเสร็จสรรพ

     

     

                เมื่อเห็นแบคฮยอนยังเงียบไปอยู่จึงเริ่มเอ่ยโน้มน้าวใจอีกครั้ง

     

     

     

                “ทุกสิ่งที่นายต้องการ ทุกที่ที่นายอยากไป นายจะได้มันทั้งหมด” ร่างสูงยกแก้วไวน์ขึ้นจิบหนึ่งทีก่อนจะวางลงที่เดิม “ฉันรู้ว่านายฉลาดพอ”

     

     

     

                “ครับ ผมฉลาดแต่คงไม่เท่าคุณหรอก” แบคฮยอนพูดน้ำเสียงค่อนแคะใส่อีกฝ่ายเป็นครั้งแรกหลังจากที่เงียบไปนาน ยกแก้วไวน์ของตัวเองดื่มอึกใหญ่เป็นการย้อมใจ

     

     

                ชานยอลยักไหล่ยอมรับอยู่ในที เขาเป็นนักธุรกิจใหญ่ ยังไงเรื่องผลประโยชน์ของตัวเองเขาไม่ยอมเสียเปรียบหรอก

     

     

                “สรุปคุณต้องการแค่คู่นอนก็เลยมาซื้อผมใช่มั้ยครับ” เมื่อคิดว่าไหวแล้วคนตัวเล็กจึงยิงคำถามอย่างตรงไปตรงมาใส่คนตรงหน้าทันที

     

     

     

                “นี่ไม่ใช่การซื้อขายอย่าเข้าใจผิดมันคือข้อแลกเปลี่ยน และฉันเลือกนายต่างหากล่ะร่างสูงตอบพลางละเลียดไวน์อย่างเชื่องช้าอย่างต้องการเข้าถึงรสชาติมันให้ได้มากที่สุดเมื่อเห็นว่าการตกลงน่าจะเป็นไปได้ด้วยดี

     

     

                “ต่างกันมากสิครับเนี่ยน้ำเสียงเล็กแค่นขึ้นมาอย่างประชดประชัน ว่ากันตามความจริงแบคฮยอนรู้ดีแก่ใจแต่แรกว่าชานยอลเข้ามาหาตัวเองอีกครั้งด้วยเหตุผลอะไร แต่การต้องรับรู้โต้งๆ แบบนี้มันก็ทำเอารู้สึกไม่ดีขึ้นมาวูบหนึ่งได้เหมือนกัน

     

     

     

                “ทุกสิ่งทุกอย่างที่นายต้องการถ้ามันไม่มากเกินไปฉันพร้อมจะให้ได้ทุกอย่าง ขยายสาขาร้าน คอนโดหรูกลางเมือง รถ อะไรก็ได้แลกกับการเป็นคู่นอนของฉันตราบเท่าความพึงพอใจของฉันจะหมดลง ข้อตกลงที่ชานยอลคิดว่าเป็นความต้องการพื้นฐานของคนทั่วไปถูกหยิบยกขึ้นมาพูดเป็นตัวอย่าง

     

     

                “..”

     

     

                 “ไม่นานหรอก แลกกับการสิ่งที่นายจะได้ ตั้งตัวใหม่ได้เลยด้วยซ้ำ เห็นมั้ยว่ามีแต่ได้กับได้”

     

     

                แบคฮยอนหลับตานิ่งอีกครั้งรู้สึกเหมือนโดนบางอย่างกระแทกเข้าร่างอย่างจัง มันช่างเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกจริงๆ หากเขาปฏิเสธชานยอลเองก็คงหาทางเอาลูกไม้ลูกชนมาล่ออีกจนได้ นั่นคือนิสัยของอีกคนที่เขาค้นพบเพิ่มขึ้นในระยะหลังๆ มานี้

     

     

                พูดให้คนอื่นยอมรับในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

     

     

                ร่างเล็กรู้ดีว่าสักวันตัวเองจะต้องตกหลุมพรางกับดักตาข่ายนายพรานเจ้าเล่ห์ของชานยอลเป็นแน่ เขารู้ตัวเองดีเลยเชียวล่ะว่าคงไม่มีวันตามทันคนตรงหน้าได้ทันหรอก ไม่มีวันอย่างแน่นอน ..

     

     

                หากจะต้องเสีย เขาเองก็จำเป็นต้องได้รับในสิ่งที่เท่าเทียม

     

     

                เขาต้องเรียกร้องบางสิ่งจากชานยอล ..

     

     

                และนี่คือสิ่งที่แบคฮยอนได้ตรองมาทั้งวันก่อนจะเผลอหลับไปนั่นเอง

     

     

     

                “ทุกสิ่งที่คุณพูดมาผมไม่ต้องการหรอกครับ” หลังจากที่กอบกู้สติที่หลุดลอยไปกับคำพูดตรงๆ ของชานยอลได้แล้วแบคฮยอนก็ตั้งใจพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขึ้น

     

     

                แม้จะไม่ได้เจนจัดในเรื่องนี้ แต่เขาเองก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าชานยอลต้องการอะไรจากตัวเอง อย่างที่ชานยอลว่า แบคฮยอนเองก็ไม่ใช่คนโง่ รู้ด้วยซ้ำว่าเจตนาการเข้าหาของอีกฝ่ายคืออะไร ที่ไม่เข้าใจก็น่าจะเป็นตัวเองเสียมากกว่า แทนที่จะหนีหายกลับยังอยู่ที่เดิม ยังยอมให้ร่างสูงกลับเข้ามาในชีวิต ยอมลงเล่นกับไฟร้อนๆ ดวงนี้ให้แผดเผาหัวใจตัวเองอย่างช้าๆ

     

     

                “แล้วนายต้องการอะไรชานยอลชะงักไป เมื่อแบคฮยอนที่ดูคล้อยตามในตอนแรกกลับเอ่ยคำตอบตรงกันข้ามกลับมา คิ้วหนาเริ่มขมวด เขาเองก็พอจะรู้ว่าแบคฮยอนไม่เหมือนคนอื่น แต่ที่ไม่รู้ก็คือไม่เหมือนระดับไหนต่างหาก

     

     

                “ผมต้องการแค่ความแฟร์” ใบหน้าหล่อเหลายังคงเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ แต่อะดรีนาลีนแห่งความเร้าใจไหลเวียนอยู่ภายในร่างกาย และนี่คือความตื่นเต้นภายในค่ำคืนนี้สำหรับเขา

     

     

                “ยังไง”

     

     

                “ระหว่างที่คบกันผมจะไม่มีคนอื่นตามข้อตกลงของคุณ”

     

     

                อันที่จริงไม่เคยมีเลยนับตั้งแต่หกปีก่อน

     

     

                “คุณเองก็ต้องไม่มีเหมือนกัน ชานยอลแทบจะหลุดสีหน้าที่ฟอร์มไว้เมื่อพบข้อตกลงของแบคฮยอน มีผู้หญิงหลายคนที่อยากผูกมัดเขาไว้แต่กลับต้องน้ำตาตกในกันไปก็มีถมไป

     

     

                จะใช้โซ่ล่ามหมาป่าอย่างเขาอย่างนั้นหรอเด็กน้อย?

     

     

                ช่างน่าขัน

     

     

                “ถ้าหากคุณหรือผมมีคนอื่นก่อนถือว่าโมฆะ ข้อตกลงของพวกเราจะต้องถูกยกเลิก

     

     

                “..”

     

     

                “แล้วผมจะหายไปจากชีวิตคุณทันที”

     

     

                มือที่กำลังแกว่งแก้วไวน์อย่างอารมณ์หยุดไปพลันเมื่อเจอข้อเสนอ ร่างเล็กเด็ดเดี่ยวในแบบที่ชานยอลคาดไม่ถึง อันที่จริงเขาน่าจะรู้ได้ตั้งแต่เมื่อหกปีก่อนแล้วด้วยซ้ำ ในทีแรกเขาก็คิดว่าแบคฮยอนหวังสูง อยากผูกตัวเองไว้กับเขา

     

     

                แต่นี่มันไม่ใช่

     

     

                อาจจะจริงที่ว่าความรักทำให้คนตาบอด แบคฮยอนซึ่งควรมีความคิดที่จะปกป้องตัวเองให้ดีกว่านี้กลับปล่อยให้ความถูกต้องผ่านเลยไป ปล่อยตัวปล่อยใจล่องลอยไปกับความสุขที่ไม่ถูกต้องในช่วงเวลานี้

     

     

                โลกสมัยนี้มันเสรีและกว้างเกินกว่าที่จะอยู่ในจุดแคบๆ อีกอย่างเขาเองก็ไม่ใช่ที่ผู้หญิงที่จะต้องรักนวลสงวนตัวพรหมจรรย์ก็ไม่มี เพราะถึงมีคนที่ได้ไปคนแรกและคนเดียวของเขาก็คือชานยอลอยู่ดี

     

     

                แค่ปล่อยไปตามที่ใจต้องการในเวลานี้

     

     

                ขอเพียงแค่เวลานี้เท่านั้น

     

     

                “นี่แหล่ะครับคือสิ่งที่ผมต้องการ ถ้าคุณให้ได้ .. ก็เป็นอันว่าผมตกลง เสียงเล็กพูดด้วยความจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

     

                แบคฮยอนไม่เคยแม้แต่จะกล้าหวังว่าจะได้ยืนเคียงข้างชานยอล ไม่กล้าแม้แต่จะกล้าคิดว่าจะถูกชานยอลเลือกเป็นคู่นอนเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าหากถูกเลือกแล้วเขาจะต้องไม่เสียเปรียบเพียงฝ่ายเดียว แม้จะไม่ได้เคียงข้างไปตลอดชีวิตแต่จนกว่าจะถึงเวลานั้น .. อย่างน้อยเขาเองก็ไม่ขอใช้คนร่วมกับใครในเวลาเดียวกันอย่างแน่นอน

     

     

     

                นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่พอจะเรียกร้องเพื่อศักดิ์ศรีของตัวเองได้

     

     

                ชายหนุ่มผู้เป็นข้อยื่นเสนอแทบจะกู่ร้องด้วยความดีใจ เขาไม่คิดว่าอะไรๆ มันจะลงล็อคได้ง่ายขนาดนี้ ถ้าเบื่อแบคฮยอนขอเพียงแค่ไปนอนกับคนอื่น อีกฝ่ายก็จะไปพ้นทางทันที นี่มันไม่ง่ายไปหน่อยอย่างนั้นหรอ? ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะแบคฮยอนเป็นฝ่ายเลือกเองและเขาก็มีหน้าที่สนอง

     

     

                สิ่งที่มีแต่ได้กับได้ มีหรือที่คนอย่างปาร์คชานยอลจะพลาด

     

     

                “ฉันตกลง” ว่าพลางก็ยื่นแก้วไวน์ไปตรงหน้า

     

     

                “ต่อไปนี้ผมก็เป็นของคุณครับแบคฮยอนเอ่ยตอบก่อนจะยื่นแก้วไปชนเป็นการทำข้อตกลงสำหรับภายในค่ำคืนนี้

     

     

     

     

     

                .

     

                .

     

     

     

                “คืนนี้นอนห้องฉันนะ”

     

     















    #ฟิคเชื่อใจ
    เป็นของฉันสิ แล้วนายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ
    ตึงตึงตึง ขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เนิบๆ มาแสนนาน 5555
    อย่าเพิ่งหนีไปไหนนะคะ <3 ฝากคอมเม้นต์+ติดแท็กด้วย ฮือ

    ตอนหน้าไม่อยากจะบอกว่ามีของดี x_x
    สวัสดีปีใหม่ค่า ♡♡♡♡♡♡
     
    (c)  Chess theme

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×