ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เซียนบะหมี่สีรุ้ง
นึกว่าจะได้เที่ยวพักผ่อนให้สบายสมกับที่ลาพักร้อนครั้งแรกในรอบสิบสองปีแล้วเชียว ถึงจะหนีความวุ่นวายและอาชญากรโง่ๆมาจนถึงเมืองจีนแต่สารวัตรคัลลาแฮนก็กลับต้องเจอดีเข้าอีกจนได้
ขณะที่กำลังเดินชมตลาดอยู่นั่นเอง สารวัตรหนวดโง้งก็ได้ยินเสียงคนเอะอะโวยวายมาจากร้านบะหมี่แห่งหนึ่ง เขารีบวิ่งเข้าไปด้วยสัญชาตญาณตำรวจใจหาญก็พบชายร่างยักษ์คนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ ที่ลำคอมีร่องรอยถูกรัดจนเกิดเป็นแผลลึก
“ใครเป็นเจ้าของร้านนี้!” สารวัตรหนุ่มประกาศก้อง
เด็กหนุ่มอายุไม่เกินสิบหกปีเข้ามาคำนับเขา แนะนำตัวเองว่าเป็นหลานของชายชราเจ้าของร้าน เขาเริ่มให้การว่าเขากับเพื่อนหนุ่มอีกสองคนไปเดินเที่ยวตลาดด้วยกัน กลับมาถึงร้านพอดีก็ได้ยินเสียงเอะอะ และเมื่อวิ่งเข้ามาก็เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กหนุ่มทั้งสองคนก็ให้การตรงกัน
“ตอนนั้นมีใครอื่นในร้านอีกไหม”
“ไม่มีขอรับ แต่ว่าตอนที่กระผมมาถึงก็เห็นผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่ง สวมแว่นตาดำ วิ่งออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว ไปทางนี้แหละขอรับ” เด็กหนุ่มชี้
คัลลาแฮนพยักหน้า “ถ้างั้นพาฉันไปคุยกับท่านผู้เฒ่าผู้นั้นหน่อย”
ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์เลย เพราะชายชราตัวสั่นงันงกจนแทบจะให้การไม่ได้ คัลลาแฮนจึงหันกลับไปถามหนุ่มน้อยผู้เป็นหลาน “แล้วชายผู้นั้นเป็นใคร พอจะรู้จักบ้างไหม”
“ไม่รู้จักขอรับ แต่เขาก็มาที่นี่บ่อยมาก ดูท่าทางจะสนิทสนมกับคุณปู่ดีเสียด้วย ได้ยินว่าเป็นลูกชายของเพื่อนของท่านยังไงนี่ล่ะขอรับ”
คัลลาแฮนตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแต่นั่นก็ไม่ได้พบร่องรอยที่จะนำไปสู่ความสว่างใดใดได้ทั้งสิ้น แม้แต่อาวุธที่น่าจะใช้ในการก่อเหตุก็ไม่ปรากฏ สิ่งของที่พอจะใช้รัดคอคนได้เช่นผ้ากันเปื้อนที่มีวางเป็นตั้งนั้นก็ไม่มีทางก่อให้เกิดบาดแผลเช่นนั้นได้เลย มันจะเป็นอะไรสักอย่างที่เล็ก และคมพอที่จะบาดลึกเข้าไปในเนื้อคนได้
คัลลาแฮนลูบหนวดยาวโง้งของเขา ขมวดคิ้วย่น เขาหันกลับไปหาชายชราแล้วเอ่ยปาก
“คุณปู่ครับ ขอบะหมี่แห้งให้ผมสักชามเถอะครับ หิวๆอย่างนี้คิดอะไรไม่ออกเลยล่ะครับ”
ชายชรายิ้มอย่างเมตตาหันไปลวกเส้นบะหมี่อย่างคล่องแคล่วว่องไวแล้วถูกยกขึ้นสลัดอย่างแรงจนสะเด็ดน้ำ คัลลาแฮนเห็นการลวกบะหมี่อย่างงดงามไร้ที่ติเช่นนี้ก็อดที่จะชื่นชมไม่ได้ เขาหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มซึ่งกำลังยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เขาพูดขึ้นเหมือนกับจะรู้ใจคัลลาแฮน “คุณปู่ของกระผมท่านลวกบะหมี่มาทุกวันกว่าเจ็ดสิบปีแล้วขอรับ อุปกรณ์ในการทำบะหมี่ทุกชิ้นหรือแม้กระทั่งเส้นบะหมี่ก็ไม่ต่างอะไรกับร่างกายของท่าน”
คัลลาแฮนตกตะลึงเมื่อบะหมี่ถูกยกมาตั้งไว้ตรงหน้าและเปล่งประกายราวกับงานศิลปะชิ้นเอก มืออันสั่นเทาค่อยๆเอื้อมไปคว้าตะเกียบ แล้วเริ่มพุ้ยบะหมี่เข้าปากก่อนที่ตัวเขาเองจะรู้เสียอีก
ร่างของคัลลาแฮนสั่น ใจของเขาพลันเกิดความรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาเริ่มล้นเอ่อมาโดยไม่รู้สึกตัว ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ผู้ที่คลั่งไคล้ในบะหมี่ตะวันออก แต่เขาก็มั่นใจว่าสิ่งที่เขากำลังลิ้มอยู่นั้นคือบะหมี่ที่แท้จริง เขาไม่มีทางยอมรับสิ่งอื่นใดว่าเป็นบะหมี่แห้งได้อีกแล้วถ้ามันไม่มีค่าที่สามารถจะมาเทียบเคียงกับบะหมี่ที่อยู่ตรงหน้าเขาในขณะนี้
คัลลาแฮนยกชามซุปที่ส่งกลิ่นหอมเตะจมูกขึ้นซดโฮก แล้วพุ้ยบะหมี่ต่อไปอย่างรวดเร็ว ทุกสิ่งทุกอย่างในชามนั้นช่างเลิศรสและถูกนำมาผสมผสานกันอย่างกลมกลืน และสิ่งที่เลิศที่สุดก็คือเส้นบะหมี่นั่นเอง
เส้นบะหมี่นั้นไม่เหมือนกับเส้นชนิดใดที่เขาเคยสัมผัสมา มันเล็กกว่าเส้นทั่วๆไปอย่างเห็นได้ชัด และมีความเหนียวนุ่มอย่างที่เขาไม่เคยพบมาก่อน มันถูกลวกโดยมือของผู้ที่เชี่ยวชาญที่ชำนาญมากว่าเจ็ดสิบปี เพราะเหตุนั้นจึงสุกพอดิบพอดีหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ไม่มีเส้นบะหมี่ที่จะอร่อยได้ขนาดนี้อีกแล้ว คัลลาแฮนคิดในใจแล้ววางตะเกียบ
ความคิดคำนึงของคัลลาแฮนยังคงติดตรึงอยู่กับภาพการลวกบะหมี่ที่เด็ดขาดของชายชรา การเคลื่อนไหวของมือคู่นั้นเมื่อสะบัดเส้นบะหมี่ที่ชุ่มน้ำให้แห้งได้ในคราเดียวนั้น ช่างหนักแน่น แข็งแกร่ง ราวกับ...ราวกับ
คัลลาแฮนสะดุ้งเฮือก ลุกพรวดขึ้นยืน “ไอ้แก่ แกเป็นฆาตกร!!!”
เส้นสายจำนวนมากมายพุ่งมาจากมือของชายชรา ตรงมาที่คัลลาแฮนที่กำลังยืนตะลึง ความเคลื่อนไหวของพวกมันดุจประหนึ่งสายน้ำ และพวกมันก็กำลังทอประกายไม่ต่างอะไรกับสายรุ้ง...
ปัญหาชวนคิด
1.    ทำไมคัลลาแฮนจึงรู้ว่าชายชราเป็นฆาตกร?
2.    ฆาตกรใช้อาวุธใดในการลงมือ?
3.    ทำไมชายชราที่ไม่มีแรงจึงฆ่าชายหนุ่มฉกรรจ์ที่ร่างกายสูงใหญ่ได้?
4.    ชายที่ใส่แว่นดำคือใคร?
ขณะที่กำลังเดินชมตลาดอยู่นั่นเอง สารวัตรหนวดโง้งก็ได้ยินเสียงคนเอะอะโวยวายมาจากร้านบะหมี่แห่งหนึ่ง เขารีบวิ่งเข้าไปด้วยสัญชาตญาณตำรวจใจหาญก็พบชายร่างยักษ์คนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ ที่ลำคอมีร่องรอยถูกรัดจนเกิดเป็นแผลลึก
“ใครเป็นเจ้าของร้านนี้!” สารวัตรหนุ่มประกาศก้อง
เด็กหนุ่มอายุไม่เกินสิบหกปีเข้ามาคำนับเขา แนะนำตัวเองว่าเป็นหลานของชายชราเจ้าของร้าน เขาเริ่มให้การว่าเขากับเพื่อนหนุ่มอีกสองคนไปเดินเที่ยวตลาดด้วยกัน กลับมาถึงร้านพอดีก็ได้ยินเสียงเอะอะ และเมื่อวิ่งเข้ามาก็เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กหนุ่มทั้งสองคนก็ให้การตรงกัน
“ตอนนั้นมีใครอื่นในร้านอีกไหม”
“ไม่มีขอรับ แต่ว่าตอนที่กระผมมาถึงก็เห็นผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่ง สวมแว่นตาดำ วิ่งออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว ไปทางนี้แหละขอรับ” เด็กหนุ่มชี้
คัลลาแฮนพยักหน้า “ถ้างั้นพาฉันไปคุยกับท่านผู้เฒ่าผู้นั้นหน่อย”
ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์เลย เพราะชายชราตัวสั่นงันงกจนแทบจะให้การไม่ได้ คัลลาแฮนจึงหันกลับไปถามหนุ่มน้อยผู้เป็นหลาน “แล้วชายผู้นั้นเป็นใคร พอจะรู้จักบ้างไหม”
“ไม่รู้จักขอรับ แต่เขาก็มาที่นี่บ่อยมาก ดูท่าทางจะสนิทสนมกับคุณปู่ดีเสียด้วย ได้ยินว่าเป็นลูกชายของเพื่อนของท่านยังไงนี่ล่ะขอรับ”
คัลลาแฮนตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแต่นั่นก็ไม่ได้พบร่องรอยที่จะนำไปสู่ความสว่างใดใดได้ทั้งสิ้น แม้แต่อาวุธที่น่าจะใช้ในการก่อเหตุก็ไม่ปรากฏ สิ่งของที่พอจะใช้รัดคอคนได้เช่นผ้ากันเปื้อนที่มีวางเป็นตั้งนั้นก็ไม่มีทางก่อให้เกิดบาดแผลเช่นนั้นได้เลย มันจะเป็นอะไรสักอย่างที่เล็ก และคมพอที่จะบาดลึกเข้าไปในเนื้อคนได้
คัลลาแฮนลูบหนวดยาวโง้งของเขา ขมวดคิ้วย่น เขาหันกลับไปหาชายชราแล้วเอ่ยปาก
“คุณปู่ครับ ขอบะหมี่แห้งให้ผมสักชามเถอะครับ หิวๆอย่างนี้คิดอะไรไม่ออกเลยล่ะครับ”
ชายชรายิ้มอย่างเมตตาหันไปลวกเส้นบะหมี่อย่างคล่องแคล่วว่องไวแล้วถูกยกขึ้นสลัดอย่างแรงจนสะเด็ดน้ำ คัลลาแฮนเห็นการลวกบะหมี่อย่างงดงามไร้ที่ติเช่นนี้ก็อดที่จะชื่นชมไม่ได้ เขาหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มซึ่งกำลังยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เขาพูดขึ้นเหมือนกับจะรู้ใจคัลลาแฮน “คุณปู่ของกระผมท่านลวกบะหมี่มาทุกวันกว่าเจ็ดสิบปีแล้วขอรับ อุปกรณ์ในการทำบะหมี่ทุกชิ้นหรือแม้กระทั่งเส้นบะหมี่ก็ไม่ต่างอะไรกับร่างกายของท่าน”
คัลลาแฮนตกตะลึงเมื่อบะหมี่ถูกยกมาตั้งไว้ตรงหน้าและเปล่งประกายราวกับงานศิลปะชิ้นเอก มืออันสั่นเทาค่อยๆเอื้อมไปคว้าตะเกียบ แล้วเริ่มพุ้ยบะหมี่เข้าปากก่อนที่ตัวเขาเองจะรู้เสียอีก
ร่างของคัลลาแฮนสั่น ใจของเขาพลันเกิดความรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาเริ่มล้นเอ่อมาโดยไม่รู้สึกตัว ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ผู้ที่คลั่งไคล้ในบะหมี่ตะวันออก แต่เขาก็มั่นใจว่าสิ่งที่เขากำลังลิ้มอยู่นั้นคือบะหมี่ที่แท้จริง เขาไม่มีทางยอมรับสิ่งอื่นใดว่าเป็นบะหมี่แห้งได้อีกแล้วถ้ามันไม่มีค่าที่สามารถจะมาเทียบเคียงกับบะหมี่ที่อยู่ตรงหน้าเขาในขณะนี้
คัลลาแฮนยกชามซุปที่ส่งกลิ่นหอมเตะจมูกขึ้นซดโฮก แล้วพุ้ยบะหมี่ต่อไปอย่างรวดเร็ว ทุกสิ่งทุกอย่างในชามนั้นช่างเลิศรสและถูกนำมาผสมผสานกันอย่างกลมกลืน และสิ่งที่เลิศที่สุดก็คือเส้นบะหมี่นั่นเอง
เส้นบะหมี่นั้นไม่เหมือนกับเส้นชนิดใดที่เขาเคยสัมผัสมา มันเล็กกว่าเส้นทั่วๆไปอย่างเห็นได้ชัด และมีความเหนียวนุ่มอย่างที่เขาไม่เคยพบมาก่อน มันถูกลวกโดยมือของผู้ที่เชี่ยวชาญที่ชำนาญมากว่าเจ็ดสิบปี เพราะเหตุนั้นจึงสุกพอดิบพอดีหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ไม่มีเส้นบะหมี่ที่จะอร่อยได้ขนาดนี้อีกแล้ว คัลลาแฮนคิดในใจแล้ววางตะเกียบ
ความคิดคำนึงของคัลลาแฮนยังคงติดตรึงอยู่กับภาพการลวกบะหมี่ที่เด็ดขาดของชายชรา การเคลื่อนไหวของมือคู่นั้นเมื่อสะบัดเส้นบะหมี่ที่ชุ่มน้ำให้แห้งได้ในคราเดียวนั้น ช่างหนักแน่น แข็งแกร่ง ราวกับ...ราวกับ
คัลลาแฮนสะดุ้งเฮือก ลุกพรวดขึ้นยืน “ไอ้แก่ แกเป็นฆาตกร!!!”
เส้นสายจำนวนมากมายพุ่งมาจากมือของชายชรา ตรงมาที่คัลลาแฮนที่กำลังยืนตะลึง ความเคลื่อนไหวของพวกมันดุจประหนึ่งสายน้ำ และพวกมันก็กำลังทอประกายไม่ต่างอะไรกับสายรุ้ง...
ปัญหาชวนคิด
1.    ทำไมคัลลาแฮนจึงรู้ว่าชายชราเป็นฆาตกร?
2.    ฆาตกรใช้อาวุธใดในการลงมือ?
3.    ทำไมชายชราที่ไม่มีแรงจึงฆ่าชายหนุ่มฉกรรจ์ที่ร่างกายสูงใหญ่ได้?
4.    ชายที่ใส่แว่นดำคือใคร?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น