คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ♕
♕ APPLICATION ♕
“ถ้าเราพูดว่าเงินแล้วจะทำให้เงินบินมาหาเราได้
ฉันก็จะพูดมันซ้ำๆเลย!
เงิน! เงิน! เงิน!”
________________________________________________
“ฉันตั้งความหวังกับสถาบันแห่งนี้มากเลยนะ!”
เด็กสาวกล่าวด้วยความกระตือรือร้น
นัยน์ตาสีฟ้าเป็นประกายระยับ
“ได้ยินมาว่าอาหารอร่อ---แค่ก!
ฉันหมายถึง เป็นสถาบันที่ยอดเยี่ยมน่ะ! ยอดเยี่ยม!”
บทบาทที่ต้องการ :: [2] นักเรียนชั้นปีการศึกษาที่ 1
ll IN - Intelligent )
ชื่อ-สกุล :: ออเดรย์ มาร์เจอรี่ | Audrey Margery
ชื่อเล่น :: ออเดรย์ | Audrey
ความหมาย ::
ออเดรย์ | Audrey : สูงส่ง เข้มแข็ง
มาร์เจอรี่ | Margery : ไข่มุก
อายุ :: 15 ปี
สัญชาติ :: อังกฤษ
รูปลักษณ์โดยรวม ::
หากมองจากมุมมองของบุคคลภายนอกที่ไม่รู้จักกันออเดรย์ก็เหมือนกับเด็กน้อยที่มีอายุเพียงแค่
12 - 13 เท่านั้น
เธอเป็นคนตัวเล็กกว่าค่าเฉลี่ยของเด็กสาวชาวอังกฤษในวัยนี้ ไม่ใช่คนที่หุ่นสมส่วนจัดว่าเป็นเด็กที่ค่อนข้างผอมคนหนึ่ง
รูปร่างเพรียวบางราวกับว่าจะไม่สามารถยืนสู้ลมแรงได้
แขนขาเรียวเล็กดูบอบบางเหมือนกับว่าจะสามารถหักมันได้อย่างง่ายดาย ไม่ใช่คนมีทรวงทรงองค์เอวน่ามองเหมือนคนอื่น
เป็นเพียงแค่สาวน้อยที่ไม่มีทั้งอก เอว สะโพก
ไม่ต่างจากเด็กประถมที่ยังไม่ก้าวเข้าสู่วัยสาว
ออเดรย์เป็นคนที่มีผิวสีแทนอันเนื่องมาจากการกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆโดยไม่คิดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใดๆ
ผิวที่ขาดการดูแลของเธอนั้นเลยไม่ได้ดูนุ่มนวลน่าสัมผัสเหมือนกับเด็กสาวคนอื่นๆ
เมื่อรวมเข้ากับเส้นผมสีทองที่ชี้ฟูไม่ต่างจากฟางข้าวของเธอและรูปร่างแคระแกร็น
มันก็ยิ่งทำให้ออเดรย์แลดูเหมือนกับเด็กผู้ชายเสียมากกว่า
เวลาที่เธอไม่ใส่กระโปรงก็มักจะสร้างความเข้าใจผิดให้แก่คนแปลกหน้าได้เป็นอย่างดี
สิ่งเดียวที่ดูดีบนร่างกายของออเดรย์ไม่ใช่ริมฝีปากรูปกระจับที่แห้งแตกเพราะขาดการดูแล
แต่เป็นดวงตากลมโตสีฟ้าสดใสที่เปล่งประกายราวกับอัญมณีล้ำค่า
จะบอกว่ามันคือเสน่ห์เพียงอย่างเดียวบนร่างกายของเธอเลยก็ว่าได้
เพราะออเดรย์เป็นเด็กสาวที่มีหน้าตาสามัญธรรมดาไม่ได้ดูดีเลิศเลอ
และเธอเองก็ไม่ใช่คนที่จะมาเสียเวลากับการบำรุงโฉมของตนเอง
ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยเอาสิ่งที่เรียกว่าเครื่องสำอางมาประโคมลงบนใบหน้าของตนเองเลยสักครั้ง
เธอสูง 154 เซนติเมตร น้ำหนัก 39 กิโลกรัม (ตั้งใจให้ผอมๆแห้งๆน้ำหนักต่ำกว่า BMI นะคะ)
นิสัย ::
สาวน้อยผู้ไร้ซึ่งความเป็นกุลสตรี
ไม่ใช่แค่เพียงรูปร่างหน้าตาที่ไม่เหมือนกับเด็กสาววัยสิบห้าปี
อุปนิสัยโดยส่วนตัวของออเดรย์เองก็ดูไม่เหมือนกับเด็กสาวทั่วๆไปเช่นเดียวกัน
เธอไม่ได้อ่อนหวานเรียบร้อยน่ารักเหมือนกับเด็กสาวที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี
ไม่ได้งดงามสูงศักดิ์เหมือนกับคุณหนูจากตระกูลที่ร่ำรวยทั้งหลาย
และไม่ได้เป็นนางฟ้าตัวน้อยๆที่น่าเอ็นดูในสายตาของคนอื่นๆ
หากจะให้เลือกคำๆใดมาเป็นนิยามของออเดรย์ คำว่า ทโมน ก็น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเธอ
ทั้งคำพูดคำจาและท่าทางการวางตัวต่างๆของออเดรย์นั้นดูไม่ต่างไปจากเด็กผู้ชายเลยแม้แต่น้อย
เธอไม่เคยสำรวมกิริยาท่าทางของตนเอง
ไม่เคยคิดจะปฏิบัติตามมารยาทพื้นฐานที่เหล่ากุลสตรีที่ดีพึงกระทำ
ไม่ใช่เพราะเธอไม่มีความรู้ในเรื่องเหล่านั้น หากแต่เพราะออเดรย์ไม่คิดจะทำตัวเหมือนเหล่านกน้อยในกรงที่ต้องวางตัวตามกรอบที่สังคมมีมาให้ต่างหาก
ออเดรย์เป็นคนพูดจาโผงผางไม่รู้จักกาลเทศะ เธอคิดอยากจะพูดอะไรก็จะพูดออกไปตามใจตัวเองโดยไม่คิดจะสนใจสายตาของคนอื่น
มักจะทำทุกอย่างตามความพึงพอใจของตนเอง ถ้าหากเป็นเรื่องที่อยากทำต่อให้คนอื่นห้ามเธอก็จะทำ
ถ้าหากไม่ใช้ต่อให้เอาช้างมาฉุดเธอก็ไม่คิดจะลงมือทำอย่างแน่นอน เป็นเด็กอารมณ์แปรปรวนไม่ต่างจากฤดูประเทศไทย
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะร้อนจะฝนจะหนาว
การคาดเดาความคิดของเธอนับว่าเป็นเรื่องยากเย็นเสียเหลือเกิน
ออเดรย์เป็นคนซุกซน ไม่อยู่นิ่ง เธอมักจะคอยวิ่งไปวิ่งมาหรือวิ่งเข้าใส่เรื่องวุ่นวายต่างๆอยู่เสมอ
ในบางครั้งก็เป็นคนก่อเรื่องเหล่านั้นขึ้นมาเองเพื่อความสนุกสนาน
ก่อนจะตีเนียนไม่รู้ไม่ชี้ยามที่ทุกคนต้องการหาตัวคนผิด
ถ้าจะให้ลองเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างชัดเจน ออเดรย์ก็คงไม่ต่างจากเทพแห่งความวุ่นวายของตำนานทางฝั่งยุโรปเหนืออย่างโลกิล่ะมั้ง?
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าตัวแสบ
ออเดรย์ไม่เคยรู้สึกถูกชะตากับพวกลูกผู้ดีมีเงินทั้งหลาย
อาจจะเพราะความอิจฉาที่ตนเองไม่ได้สุขสบายเท่าคนเหล่านั้น
หรือเพราะความหมั่นไส้ที่คนประเภทนั้นชอบคิดว่าตัวเองสูงส่งแล้วมองผู้อื่นด้วยสายตาดูถูก
ออเดรย์จึงมักจะหาเรื่องกลั่นแกล้งเพื่อความพึงพอใจของตนเองอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งเล็กๆน้อยๆอย่างการพูดจาเสียดสีด้วยใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้
การพูดแทงใจดำด้วยใบหน้าใสซื่อราวกับเด็กไม่รู้ความ
การกลั่นแกล้งแบบเด็กอนุบาลอย่างการเอาหนังสือไปซ่อน ขีดเขียนการบ้านของอีกฝ่าย
ไปจนถึงสร้างความอับอายให้กับคนเหล่านั้น
นั่นเป็นเพียงการกลั่นแกล้งเล็กๆน้อยๆสำหรับคนที่ไม่ได้สร้างเรื่องสร้างราวให้แก่เธอมากมาย
เพียงแค่ทำให้รู้สึกคันหัวใจด้วยความหมั่นไส้เท่านั้น
แต่ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นคนที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ออเดรย์ก่อน
ด้วยความที่เธอเป็นสาวน้อยผู้เจ้าคิดเจ้าแค้น ออเดรย์จึงมักจะตอบแทบกลับไปอย่างสาสม
เธอจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่เป้าหมายของตนเองจนทำให้อีกฝ่ายร้อนรน วิตกกังวล
หรือบาดเจ็บทางร่างกาย
นอกจากนี้ออเดรย์ยังชอบวิ่งเข้าใส่ปัญหา เอาเท้าไปแหย่สิ่งที่เรียกว่าปัญหาให้ลุกลามหรือทำเรื่องวุ่นวายเล็กๆให้กลายเป็นเรื่องใหญ่
ก่อนจะใส่เกียร์หมาหนีมาอยู่เบื้องหลังมองคนอื่นต้องจัดการกับเรื่องเหล่านั้นด้วยความยากลำบากแทน
แต่ถึงยังไงออเดรย์ก็ยังพอมีสติอยู่บ้าง ยามที่สร้างเรื่องวุ่นวายเธอต้องคิดก่อนเสมอว่าตนเองจะสามารถหลบหนีจากมันได้หรือไม่
มันจะลุกลามจนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองไหม? เธอไม่เคยสนใจถ้าหากคนอื่นจะต้องเดือดร้อน
แต่สำหรับตัวเธอแม้แต่รอยแผลเพียงเล็กน้อยก็ไม่อยากได้มันเลยสักนิด
หน้าด้านหน้าทนยียวนกวนประสาท
ออเดรย์เป็นเด็กสาวที่ไม่ค่อยห่วงภาพลักษณ์ของตนเองสักเท่าไรนัก
ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องดูดี
เพียงแค่ทำตัวเรื่อยเปื่อยตามสบายตามแบบฉบับของตนเองไปวันๆเท่านั้น
ด้วยความหน้าด้านหน้าทนของเธอทำให้ไม่ว่าจะถูกใครจิกกัดสักเท่าไรก็ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บปวด
ยังคนลอยหน้าลอยตาได้หน้าตาเฉยจนอีกฝ่ายต้องเป็นคนที่รู้สึกหงุดหงิดเสียเอง
ออเดรย์เป็นเด็กที่มีความยียวนกวนประสาทในตัวเองค่อนข้างสูง เธอรู้ว่าการกระทำเช่นไรที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจ
ในยามที่เธออยากจะกลั่นแกล้งคนเหล่านั้นเธอก็มักจะทำตัวชวนให้อีกฝ่ายรู้สึกหงุดหงิดพาลเข้ามาหาเรื่อง
ก่อนจะตีหน้ามึนทำเหมือนว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจจะทำให้อีกคนรู้สึกเช่นนั้นเลย
คิดไปเองหรือเปล่า นี่มันอคติกันนี่นา!
ด้วยความที่ไม่ได้ถูกเสี้ยมสอนมาแบบผู้ดีทำให้การพูดการจาของออเดรย์นั้นเป็นเพียงคำพูดเรียบง่ายขาดความสวยหรู
พูดจาภาษาบ้านๆชวนให้เหล่าผู้ดีรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวรับไม่ได้
จัดว่าเป็นเด็กที่ปากร้ายคนหนึ่ง
ซึ่งแน่นอนว่าถ้อยคำร้ายๆเหล่านั้นเธอย่อมตั้งใจพูดออกไป
คำจิกกัดทั้งหมดนั้นผ่านการกรองด้วยสมองและอารมณ์ของออเดรย์แล้วว่าจะพูดหรือไม่
เสือซ่อนเล็บ คมในฝัก
แม้จะไม่ได้ผ่านการศึกษาชั้นประถมหรือมัธยมต้นมาแบบเด็กคนอื่นๆแต่ออเดรย์ก็เป็นเด็กฉลาด
จากการเดินทางผ่านที่ต่างๆมามากมายทำให้ออเดรย์มีความรู้รอบตัวที่ไม่สามาเรียนรู้ได้ภายในโรงเรียนอย่างมากมาย
มีประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่าเด็กในวัยเดียวกันทำให้มีความสามารถในการเอาตัวรอดสูง
และเธอก็มักจะใช้ความสามารถของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพมากถึงมากที่สุด
ภายนอกออเดรย์เหมือนคนโง่เง่าสมองเท่าเม็ดถั่วที่วันๆดีแต่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ปล่อยทุกอย่างผ่านสมองไปโดยไม่คิดถึงสิ่งใด
แต่ในความจริงแล้วเธอกลับเก็บทุกสิ่งกลับมาวิเคราะห์อยู่เสมอ เป็นคนช่างสังเกตที่แทบจะไม่ปล่อยรายละเอียดของสิ่งต่างๆให้หลุดรอดออกไปจากสายตา
แต่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดูไร้ซึ่งความน่าหวาดระแวงเธอจึงมักจะแสดงแต่ด้านที่ไร้สาระของตัวเองออกไป
ความฉลาดของออเดรย์นั้นเรียกได้ว่าเป็นความฉลาดแบบแกมโกง เธอเป็นคนมีไหวพริบในการจัดการกับเรื่องต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
เธอมักจะคอยคิดเรื่องที่สร้างผลประโยชน์ให้แก่ตนเองอยู่เสมอ การวางแผนการเพื่อนำไปสู่ผลประโยชน์นั้นเป็นเรื่องที่ออเดรย์ทำเป็นกิจวัตรไม่ต่างไปจากการหายใจ
ภายในหัวของเด็กสาวมักจะมีความคิดที่วิ่งวนอยู่ตลอดเวลาไม่หยุดนิ่ง
เป็นคนที่คิดประมวลผลได้อย่างเป็นลำดับ เห็นแก่ตัว มักจะคิดถึงแต่เรื่องของตนเอง
มองแต่ความต้องการของตนเอง ผลประโยชน์ของตนเอง
ความปลอดภัยของตนเองโดยไม่คิดถึงคนอื่น
เธอคิดว่าการที่คนเราจะมีชีวิตรอดบนโลกอันแสนโหดร้ายนี้ได้ก็ต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น
อย่าได้คิดวาดฝันถึงเรื่องสวยงามอย่างมิตรภาพในทุ่งลาเวนเดอร์
ไหลลื่นเป็นปลาไหล จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
Poker
Face คือเกมไพ่อย่างหนึ่งที่ผู้เล่นจะต้องตีเนียนหลอกล่อคู่แข่งของตนเองให้เชื่อถือ
ซึ่งออเดรย์เอง...ก็มีมันเช่นเดียวกัน ในสังคมที่ออเดรย์เติบโตมาการที่จะใส่หน้ากากเข้าหากันเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดนั้นเป็นเรื่องสามัญธรรมดา
เธอเองก็ได้รับการขัดเกลาความสามารถนี้มาตั้งแต่เล็กๆทำให้เธอเป็นสาวน้อยผู้เชี่ยวชาญในด้านการสร้างเรื่องโกหก
ความสามารถในการแสดงของออเดรย์ไม่ด้อยไปกว่า ออเดรย์ เฮปเบิร์น นักแสดงยอดเยี่ยมเจ้าของรางวัลออสการ์ผู้มีชื่อเดียวกับเธอ
ออเดรย์เป็นผู้ชื่นชอบในการสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
และเธอก็มักจะสามารถเอาตัวรอดมาได้ด้วยการแสดงของตนเองที่หลอกล่อให้คนอื่นเชื่อในคำลวงที่เธอปั้นแต่งขึ้นมาได้
ออเดรย์มีหน้ากากมากมายที่จะพลิกดำให้เป็นขาว พลิกเรื่องผิดให้เป็นถูก
ทำให้ตนเองเป็นเพียงลูกแกะน้อยใสซื่อไร้มลทิน ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากยิ้มแย้ม
โกรธเกรี้ยว หรือร้องไห้
ออเดรย์มักจะหยิบมันมาใช้อย่างถูกสถานการณ์เสมอทำให้ไม่สามารถจับผิดเธอได้เลย
นอกจากนี้ออเดรย์ยังมักจะสร้างหลักฐานเท็จ
ทำลายหลักฐานที่บ่งบอกความผิดของตนเอง
และใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นเพื่อหลบหนีจากความผิดที่ตัวเองเป็นผู้ก่อ
มีความสามารถในด้านของการต่อรองสูง
ออเดรย์เป็นเด็กสาวผู้มีวาทศิลป์เป็นเลิศยากจะหาตัวจับได้
ถ้ามองโดยผิวเผินเธอก็เหมือนกับสาวน้อยผู้ช่างพูดช่างเจรจาไม่ต่างไปจากนกน้อยที่ส่งเสียงร้องจิ๊บๆอย่างไร้ความหมาย
ทุกคนมักจะได้ยินเสียงพูดเรื่องราวไร้สาระของออเดรย์อยู่บ่อยครั้ง
ทว่ามันกลับไม่ใช่สิ่งที่น่าเบื่อเลยเพราะเธอมีความสามารถที่จะเล่าเรื่องราวออกมาได้สนุกสนานน่าสนใจ
แม้ว่าเรื่องที่เล่ามันจะเป็นแค่เรื่องขี้โม้ที่แต่งขึ้นมาก็ตาม
และการพูดจาไร้สาระนั่นเองก็ถือว่าเป็นหนึ่งในการหลอกล่อที่ออเดรย์ใช้ในยามต่อรองกับผู้อื่น
เธอจะเริ่มต้นจากการพูดคุยเรื่อยเปื่อยเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายและลดการ์ดของตนเองลง
จากนั้นก็จะเริ่มโยนหินถามทางไปเรื่อยๆ
เว้นจังหวะให้พอเหมาะไม่ให้คู่สนทนาไหวตัวทัน
จนกระทั่งสามารถเก็บข้อมูลที่ต้องการได้หมดนั่นแหละ ออเดรย์ถึงจะเริ่มการเจรจาต่อรองอย่างจริงจัง
ยามเจรจาออเดรย์มักจะคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเองและพยายามตะล่อมให้คู่สนทนาคล้อยไปตามความต้องการของเธอ
หลอกล่อหลอกลวงโดยไม่คิดเห็นใจว่าอีกฝ่ายจะขาดทุนหรือไม่
คิดเพียงแค่ตนเองจะต้องได้กำไร ได้ประโยชน์เท่านั้น หรือถ้าหากใครที่ไม่สามารถใช้การพูดหลอกล่อให้หลงเชื่อได้ง่ายออเดรย์ก็ยังมีวิธีนำจุดอ่อนของอีกฝ่ายซึ่งได้มาจากหูตาสัปปะรดของตนเองออกมาข่มขู่ให้ยอมจำนน
หัวการค้าคิดอะไรเป็นเงินเป็นทอง
มักจะมองทุกสิ่งเป็นเงินเป็นทองอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะคนสัตว์หรือสิ่งของก็ตามแต่ออเดรย์ก็มักจะใช้เปรียบเทียบเป็นเงินอยู่เสมอ
ตีค่าหน้าตาของคนแต่ละคนเป็นหน่วยเงิน
มองแล้วก็วิเคราะห์ว่าแต่ละคนจะสามารถขายออกไปได้ในราคาเท่าไหร่
ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องความรู้สึกหรือศีลธรรมที่คนเราควรมีสักเท่าไหร่นัก เพราะเธอถือว่าชีวิตของเธอนั้นถูกขับเคลื่อนไปด้วยปัจจัยหนึ่งที่เรียกว่าเงิน
ออเดรย์ถนัดในเรื่องของการขายตรง ขายเก่ง มักพูดจาชักแม่น้ำกี่ร้อยสายไม่รู้จากทั่วโลกมาหว่านล้อมไอ้คนอื่นหลงซื้อของจากตนเองได้เสมอ
บรรยายสรรพคุณสิ่งที่ตัวเองเอาออกมาขายเสียดิบดีราวกับมันเป็นของล้ำค่า
แม้มันจะเป็นเพียงของกากๆที่เธอทำหรือหามาเองก็ตาม
และหลังจากขายมันออกไปในราคาสูงแล้วแน่นอนว่าออเดรย์ย่อมไม่รับเปลี่ยน
ไม่คืนเงินทุกกรณี โง่ซื้อไปเองก็ต้องรับผลเองสิ!
เรื่องอะไรจะมาขอเงินคืนจากเธอเล่า!
ขี้งก ไม่ชื่นชอบการใช้เงินของตนเองสักเท่าไรนัก
ถ้าเป็นไปได้ก็จะเนียนใช้เงินของคนอื่น(?) สามารถออดอ้อนขอร้องอ้อนวอนเกาะเป้าหมายในการเป็นกระเป๋าเงินเดินได้ของตัวเองได้ด้วยลูกเล่นอันหลากหลาย
และแน่นอนว่าหน้าด้านพอที่จะไม่รู้สึกอายยามมีคนติฉินนินทาด้วย
ตะกละ มูมมาม รถถังอเมริกันจิ๋ว
*รถกินน้ำมัน
ออเดรย์มักจะคอยบ่นว่าหิวอยู่เสมอ ช่วงเวลาอาหารคือเวลาที่เธอเฝ้ารอคอย
เธอมักจะทานอาหารโดยไร้ซึ่งสมบัติผู้ดีชวนให้เหล่าผู้ดีมองด้วยสายตาเหยียดหยาม
ถ้าพูดให้พูดออเดรย์ควรจะใช้คำว่า สวาปาม มากกว่ากินหรือทานล่ะนะ
เพราะเธอมักจะยัดทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเข้าปากไปด้วยความมูมมามจนแทบจะติดคอ
นอกจากนี้ออเดรย์ยังมีกระเพาะสี่มิติที่น่าตกตะลึง
ปริมาณอาหารที่เธอทานในแต่ละมื้อนั้นเมื่อเทียบกับขนาดตัวของเธอแล้วถือว่ามากกว่าหลายเท่าทีเดียว
เรียกได้ว่ากินระดับที่ถ้าเข้าร้านบุฟเฟ่ต์ร้านเขาต้องขาดทุนและเจ๊งอย่างแน่นอน
อยากรู้อยากเห็น ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน
ออเดรย์คิดเสมอว่ารู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ดังนั้นเธอจึงมักจะคอยหาสอดส่องหาข้อมูลต่างๆอยู่เสมอ
ตั้งแต่เรื่องซุบซิบเล็กน้อยในหมู่นักเรียนไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ
เธอคิดว่าไม่ว่ามันจะดูไร้สาระสักแค่ไหน แต่ถ้าหากเราลองวิเคราะห์มันดีๆจะต้องเจอจุดที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์กับตัวเองได้อย่างแน่นอน
ส่วนในเรื่องของการยุ่งเรื่องชาวบ้านนั้นไม่ใช่การออกปากพูดอะไรหรือเสนอตัวลงไปมีส่วนร่วมกับเรื่องราวเหล่านั้น
ออเดรย์เพียงแค่เป็นบุคคลที่คอยรับชมเรื่องของชาวบ้านอยู่นอกสนามเท่านั้น
ประวัติ ::
Audrey = Noble
ออเดรย์ มีความหมายว่าสูงส่ง
เป็นชื่อที่งดงามราวกับพ่อแม่ตั้งใจเลือกมันมาโดยหวังให้ลูกสาวตัวน้อยเติบโตไปมีชีวิตที่ดีงามไม่แพ้ชื่อของเธอ
แต่ในความเป็นจริงมันก็แค่ชื่อของดาราดังที่คุณแม่ชอบก็เท่านั้นเอง!
ออเดรย์ มาร์เจอรี่ คือบุตรสาวเพียงคนเดียวของสองสามีภรรยามาร์เจอรี่
ครอบครัวของเธอมักจะเดินทางไปหลายต่อหลายที่ไม่อาศัยอยู่ที่ใดเป็นหลักเป็นแหล่ง
หากจะพูดว่าเป็นคนเร่ร่อนก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปาก
และเพราะการเดินทางอยู่ตลอดเวลานี้เองทำให้ออเดรย์ไม่เคยเข้าโรงเรียนเพื่อรับการศึกษาขั้นพื้นฐานกับเพื่อนในวัยเดียวกัน
แต่เธอเองก็มีความรู้ในเรื่องของภาษาของแต่ละท้องถิ่น
ที่แม้จะไม่ได้เก่งกาจเลิศเลอเสมือนเจ้าของภาษา
แต่ก็สามารถใช้มันในการเอาตัวรอดได้
ครอบครัวมาร์เจอรี่คือครอบครัว มิจฉาชีพ พวกเขาเดินทางไปยังที่ต่างๆเพื่อหลอกลวง
ลักขโมย ฉกชิงสิ่งของมีค่าต่างๆมาจากคนอื่น
ออเดรย์เองก็ถูกพ่อแม่ของเธอฝึกให้ช่วยเหลือ งานของครอบครัว มาตั้งแต่ยังเล็ก
แน่นอนว่าไม่มีคำว่าศีลธรรมหรือความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่ในหัวของออเดรย์ยามลงมือกระทำ
เพราะเธอมักบอกตัวเองเสมอว่า หากเราไม่แย่งชิง คนที่ตายก็คงจะต้องเป็นตัวเราเอง
ออเดรย์แทบไม่เคยได้พักผ่อนอย่างสุขสบาย
ถ้าหากต้องอาศัยอยู่ภายในเมืองไหนเป็นระยะยาวการที่จะเข้าไปนอนในโรงแรม
แม้แต่โรงแรมระดับต่ำเป็นเรื่องที่ลืมมันไปได้เลย
บ้านมาร์เจอรี่ไม่มีเงินมากพอจะมาสนับสนุนความสะดวกสบายเหล่านั้นหรอก
แค่มีเงินพอที่จะซื้อหาอาหารใช้ในการประทังชีพไปวันๆได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีมากแล้ว
แม้ว่าจะอาศัยอยู่ในโลกความเป็นจริงแต่ออเดรย์ก็รู้มาตั้งแต่ต้นว่าพ่อแม่ของเธอคือผู้วิเศษ
เรื่องของสถาบันฝึกสอนโรเซียเองเธอก็รู้จากคำบอกเล่าของทั้งสองคนมาบ้าง
แม้จะไม่ชื่นชอบการเรียนการสอนที่เธอคิดเอาเองว่ามันจะต้องน่าเบื่ออย่างแน่นอน
แต่ออเดรย์เองก็แอบวาดฝันถึงความเป็นอยู่ภายในสถาบันฝึกสอนโรเซียว่าอย่างน้อยมันก็คงจะต้องดีกว่าการระหกระเหินเดินทางไปตามที่ต่างๆและมีชีวิตอย่างอดมื้อกินมื้ออย่างแน่นอน
พอย่างก้าวเข้าสู่วัยสิบห้าปีออเดรย์ก็ได้ทำการหย่อนจดหมายแจ้งความจำนงของตนเองลงในขวดแก้วแล้วลอยมันไปตามน้ำ
และในเที่ยงคืนวันต่อมาเธอก็ได้กลับจากนกฮูกสีขาวซึ่งหมายความว่าเธอสามารถเข้ารับการทดสอบเพื่อเข้าสู่สถาบันโรเซียได้แล้ว
ออเดรย์แยกตัวจากพ่อแม่ของตนเองแล้วเดินทางมายังโลกเวทมนตร์
แม้จะเป็นการเผชิญโลกอันไม่คุ้นเคยด้วยตัวคนเดียวเป็นครั้งแรกในชีวิต
แต่ออเดรย์ก็คิดว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่าสิบห้าปีจะมากพอจะช่วยให้เธอผ่านพ้นปัญหาต่างๆไปได้
ลักษณะคำพูด ::
ออเดรย์มีน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะแหบห้าวแบบฮัสกี้วอยซ์
ดูแล้วคล้ายคลึงกับเสียงของเด็กผู้ชายที่ยังไม่ค่อยแตกหนุ่ม
มักจะฟังดูสดใสร่าเริงอยู่ตลอดเวลา
เป็นสิ่งที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกว่ากำลังรู้สึกสนุนสนานไม่ซึมเศร้า
เธอมักจะแทนตัวเองด้วยคำว่า “ฉัน” กับคนทุกเพศทุกวัยไม่ว่าจะเป็นคนอายุเท่ากันหรือมากกว่า
แทนอีกฝ่ายด้วยสรรพนามที่แตกต่างกันไปตามแต่ใจของตัวเองและสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น
“นาย” “เธอ” “คุณ”
“ท่าน” “แก” “คุณหนู”
“คุณชาย” เป็นคนพูดจาไม่มีหางเสียง
ฟังดูแล้วไม่เคารพใครเลยแม้แต่น้อย
[1]
โต้ตอบสายตาเหยียดหยาม
เบื้องหน้าของออเดรย์คือเด็กสาวผู้งดงามราวกับตุ๊กตา
ทั้งหน้าตาผิวพรรณล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ
เสียแต่ดวงตาคู่นั้นที่มองมาที่เธอ
มันช่างเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
ออเดรย์เหยียดยิ้ม
ความรู้สึกหมั่นไส้ปะทุขึ้นในอกของสาวน้อย
เธอก้าวเข้าไปประชิดตัวอีกฝ่ายแล้วคว้าแขนของอีกคนเอาไว้โดยไม่ให้ตั้งแต่
“จุ๊ๆๆ คุณหนูนี่ผิวสวยจริงๆเลยนะ”
กล่าวพลางไล้มือไปตามเรียวแขนขาว
นัยน์ตาสีฟ้าเป็นประกายร้ายกาจ
“สนใจจะลองทำงานพิเศษเล็กๆน้อยๆไหม?
รับรองว่าสวยๆแบบนี้น่ะ ต้องได้เงินดีแน่นอนเลย!”
กล่าวด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
พลางมองท่าทางไม่พอใจของอีกฝ่ายด้วยความขบขัน
______________________________
[2]
ใส่ร้ายป้ายสี สร้างข่าวลือ
“นี่รู้ไหม? ฉันได้ยินเรื่องนี้มาจาก...ล่ะ”
ออเดรย์ขยับตัวเข้าชิดสหายของตนเอง
เธอสะกิดอีกฝ่ายเบาๆ
ใบหน้าของเด็กสาวเต็มไปด้วยความจริงจังแตกต่างจากปกติ
แทนการสื่อว่าเรื่องที่เธอจะพูดต่อไปนี้จะต้องเป็นเรื่องที่ซีเรียสมากอย่างแน่นอน
“เรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้นคราวก่อน...ที่คนของคลาสเราต้องบาดเจ็บไปคนนึงน่ะ…”
เสียงของเธอชะงักไป ใบหน้าแสดงออกถึงความลังเลใจ
ราวกับไม่รู้ว่าเรื่องต่อไปนี้เธอควรจะพูดมันออกมาหรือไม่
ออเดรย์สุดลมหายใจเข้าลึกๆ
“ฉันได้ยินมาว่าเป็นฝีมือของ…”
______________________________
[3]
หลอกขายของ
“นี่พี่สาว!
ช่วงนี้พี่ไม่สบายหรือเปล่า หน้าตาดูหมองๆนะ!”
ออเดรย์เอ่ยพลางแสดงสีหน้ากังวลใจ
คู่สนทนาของเธอคือนักเรียนชั้นปีสูงกว่าท่าทางหลอกง่ายคนหนึ่ง
มือเล็กเอื้อมไปแตะใบหน้าของอีกฝ่าย
ก่อนส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่ไหวๆ ดูสิ
ผิวพรรณสวยๆแห้งกร้านไปหมดแล้ว!”
เด็กสาวหันกลับไปค้นกระเป๋าของตนเอง
ก่อนหยิบกระปุกเล็กๆกระปุกหนึ่งออกมา
“พี่ลองเอานี่ไปใช้นะ!”
ว่าพลางวางใส่มือของอีกฝ่าย
“มันจะต้องช่วยพี่ได้แน่นอน
รับไปเถอะไม่ต้องเกรงใจ!
เอ๊ะ อะไรนะ ไม่อยากรับไปเปล่าๆงั้นเหรอ?
โถ่ พี่สาวช่างเป็นคนดีอะไรอย่างนี้..
เอางี้ละกัน! ฉันเห็นแก่ว่าพี่เป็นพี่สาว
คิดให้ราคาพิเศษเลย
เท่านี้ก็พอ!”
หยิบเครื่องคิดเลขขึ้นมากดๆจำนวนเงินที่ตนเองต้องการอย่างรวดเร็ว
หลังจากพูดเองเออเองออกไปโดยไม่ทันให้อีกฝ่ายมีเวลาใช้สตินึกคิด
ออเดรย์คลี่ยิ้มหวาน
“จ่ายเงินสดนะพี่สาว
ฉันไม่สะดวกรับบัตร”
______________________________
[4]
ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆแล้วพูดคนเดียว
“อ้า~~~~”
ออเดรย์ส่งเสียงร้องประหลาดขณะกระโดดลงบนเตียงนอนนุ่มนิ่ม
เด็กสาวกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยความสุขขณะที่ริมฝีปากบ่นพึมพำ
“ดีจังเลย ดีจังเลย”
“สบายจังเลย ดีจังเลย”
“ไม่อยากลุกไปไหนเลยน้า
นอนตลอดไปเลยได้มั้ยนะ”
______________________________
[5]
หวาดกลัว
ออเดรย์ไม่ค่อยหวาดกลัวอะไร
ตั้งแต่เล็กจนโตเธอผ่านอะไรหลายอย่างมามากมายจนยืนหยันสู้ได้ทุกสิ่ง
แต่ไม่ใช่กับ...ความทรมาน
ความเจ็บปวดที่ร่างกายได้รับมันช่างแสนหนักหนา
ออเดรย์รู้สึกราวกับว่าร่างกายมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
เธอกรีดร้อง แต่ไร้ซึ่งความช่วยเหลือ
เด็กสาวก้มหน้าลงพึมพำด้วยความสิ้นหวัง
“ฆ่าฉัน...ฆ่าฉันเถอะ…”
ชอบ ::
เงิน | ปัจจัยหนึ่งในการดำรงชีพของออเดรย์
ยึดมั่นในเงินมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเนื่องจากการปลูกฝังของคนในครอบครัว
สำหรับออเดรย์แล้วไม่ใช่แค่ชอบเงินแต่เป็นรักเงินเลยมากกว่า
เวลาเห็นเงินมักจะตาลุกวาวแต่ต้องพยายามเก็บซ่อนอาการของตัวเองเอาไว้แบบเนียนๆ
ของมีค่า | เหตุผลหลักๆก็เหมือนกับเงินค่ะ
ของมีค่ามันสามารถแลกเป็นเงินได้
เลี้ยงชีวิตต่อไปได้เวลาที่เห็นก็เลยมักจะคันไม้คันมืออยากจะหยิบมันใส่กระเป๋าตัวเองทุกที
อาหารอร่อย | ความจริงแล้วเธอไม่ใช่คนที่เลือกกินเพราะต้องกินเพื่ออยู่
แต่ถ้าสามารถเลือกได้ไม่ว่าใครต่างก็ต้องชอบของอร่อยมากกว่ากันทั้งนั้น
ออเดรย์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้าได้กินของอร่อยเธอมักจะกินมันแบบตายอดตายอยาก
แบบที่พวกผู้ดีเห็นต้องหรี่ตาใส่อย่างเหยียดหยาม ซึ่งแน่นอนว่าน้องก็โนสนโนแคร์จ้า
เตียงนุ่มๆ | ตั้งแต่เล็กจนโตออเดรย์แทบจะไม่ได้สัมผัสกับเตียงนอนนุ่มๆเลยค่ะ
ได้ลองนอนบนเตียงนุ่มๆครั้งแรกตอนอายุได้ประมาณ 7 ขวบเรียกได้ว่าเป็นความประทับใจแรกที่ฝังเอาไว้ในใจน้องเลย
หลังจากนั้นพอเห็นเตียงที่ดูแล้วน่าจะนุ่มก็พาลอยากกระโดดลงไปกลิ้งไปกลิ้งมาทุกที
พอนอนแล้วก็ไม่ยากลุกไปไหนเลยค่ะ เตียงดูด
ความวุ่นวาย | เพราะในช่วงเวลาที่คนเราตกอยู่ในความวุ่นวายมักจะขาดการระมัดระวังตัว
ทำให้สามารถเห็นเหยื่อให้กับออเดรย์ได้ง่ายดายกว่าปกติ
เธอมักจะอาศัยช่วงเวลานี้ในการฉกสิ่งของมาจากคนอื่นๆ
เรื่องสนุก | ออเดรย์ไม่ชอบอยู่นิ่งเฉยทำตัวเรียบร้อยอยู่ในกรอบ
เธอชอบที่จะได้ทำกิจกรรมสนุกสนาน(หรือเรื่องที่เธอมองว่ามันสนุกแม้ว่าคนอื่นจะไม่สนุกตาม)
เวลาที่เรื่องสนุกเกิดขึ้นเธอก็มักจะทำมันอย่างเต็มที่ในแบบของตัวเองโดยมีข้อแม้สั้นๆว่า
ตัวเองต้องไม่ตกอยู่ในอันตราย
ไม่ชอบ ::
กฎระเบียบ | ออเดรย์ไม่ชอบการอยู่ในกรอบ
เธอชื่นชอบการที่จะสามารถใช้ชีวิตของตนเองได้อย่างอิสระเสรี
ดังนั้นไม่ว่าจะกฎระเบียบอะไรก็ตามเธอจึงไม่คิดที่จะปฏิบัติตามทั้งนั้น
แหกมันทุกอย่างตามใจฉัน โนสนโนแคร์หัวใครทั้งสิ้น
การอาบน้ำ | เป็นอาการเหมือนกับหมาบ้าที่กลัวน้ำเล็กๆ(?)
ออเดรย์ว่ายน้ำไม่เป็น
ตอนเด็กๆเคยจมน้ำเกือบตายเลยพาลไม่ชอบการอาบน้ำไปซะดื้อๆ
ถ้าไม่รู้สึกสุดทนกับความสกปรกบนร่างกายตัวเองจริงๆก็จะมีข้ออ้างไม่อาบน้ำถูไถไปเรื่อย
แต่พอมาเข้าโรงเรียนก็มักจะโดนเพื่อนคนอื่นๆลากไปอาบเสมอ
เสื้อผ้าหลายชั้นที่น่าอึดอัด | ออเดรย์ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าหลายชั้นถ้าหากอากาศไปหนาว
ไม่ชอบเสื้อผ้าในพิธีการต่างๆที่แสนจะน่าอึดอัด
ใส่แล้วมันทำให้เธอทั้งร้อนทั้งรู้สึกเหมือนกับว่าหายใจไม่ออก
ปกติเธอจะใส่มันแบบไม่ครบชิ้นบ้าง ผิดระเบียบบ้าง ตามใจตัวเองล้วนๆ
มารยาทความเป็นกุลสตรี | ตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่เค๊ยไม่เคยมีสิ่งที่เรียกว่าความเป็นกุลสตรีเลยสักนิด
ถ้าไม่ติดว่าเพศสภาพเป็นผู้หญิงทำให้ยังพอมียางอายบ้างคงเห็นเธอแก้ผ้าอาบน้ำกับพวกผู้ชายไปแล้ว
ออเดรย์จึงไม่ชอบการที่จะมีใครมากำหนดให้เธอทำตัวตามมารยาทเช่นนั้นเช่นนี้
เวลาได้ยินใครพูดคำๆนี้ใส่จึงมักจะลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจหรือกวนประสาทให้เขายอมพ่ายแพ้ไปเอง
พวกผู้ดี | อันนั้นออกแนวอิจฉาชีวิตดีๆของเขาปนหมั่นไส้ความหน้าเชิดหลังตรงเหยียดคนที่มีฐานะต้อยต่ำกว่าของคนประเภทผู้ดีจ๋าเสียมากกว่า
คนเหล่านี้จึงมักจะเป็นเป้าหมายในการกลั่นแกล้งของออเดรย์
เกลียด ::
ความหิวโหย | แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เธอเจอมาจนเคยชินก็ตาม
แต่แน่นอนว่าออเดรย์ก็ไม่เคยรู้สึกชอบมันเลยสักครั้งเดียว
เธอมีความต้องการที่จะกินให้อิ่มท้อง
ถ้าต้องเลือกเธอก็เลือกที่จะกินอาหารที่ใส่ยาพิษแล้วตายไปมากกว่าจะนั่งมองอาหารด้วยความหิวโหย
(แต่ยาพิษนั้นต้องเป็นยาพิษที่ตายทันทีแบบไม่ทรมานนะคะ
ถ้าต้องตายแบบทรมานน้องก็จะแบบ หิวต่อก็ได้ ;-;) ดังนั้นขอเพียงแค่รู้สึกหิวแม้เพียงเล็กน้อย
ออเดรย์ก็จะหาอะไรกินเข้าไปทันที ประมาณว่าอิ่มจนท้องแตกตายก็ดีกว่าหิวตาย เป็นผีที่อิ่มยังไงก็ดีกว่าเป็นผีที่หิวแหละน่า
(?)
ความเจ็บปวด | ความเจ็บปวดในที่นี้คือความเจ็บปวดทางด้านร่างกาย
ตั้งแต่เล็กจนโตเธอมีชีวิตที่ค่อนข้างยากลำบากเคยถูกซ้อม
ถูกต่อยตีมาหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งเรียนรู้ที่จะสามารถหลบหลีกมันได้
ดังนั้นหากมีแนวโน้มที่ตัวเองจะต้องเจ็บตัวออเดรย์ก็จะหลีกเลี่ยงมันเอาไว้ก่อน
ขอเป็นแนวหลังตลอดชีพ จะไม่ออกไปเป็นฮีโร่รับตีนแทนใครทั้งนั้น (?)
กลัว ::
ความทรมาน | ออเดรย์ไม่กลัวความตาย
เธอกลัวการที่ร่างกายจะต้องทุกข์ทรมานแต่ไม่สามารถตายจากไปไหนได้มากกว่า
ถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับความทรมานที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถหนีมันไปได้
ต้องหลงวนเวียนอยู่ในห้วงของความเจ็บปวดทรมานนั้นซ้ำไปซ้ำมาแล้วล่ะก็
ออเดรย์ก็คงจะแตกสลาย มีชีวิตอยู่ก็เป็นเพียงแค่ร่างเปล่าๆที่เหมือนไร้วิญญาณ
แพ้ :: ไม่ได้แพ้ยา อาหาร อากาศ
หรือว่าฝุ่นใดๆค่ะ เรียกได้ว่าแข็งแรงทนทานสู้แดดสู้ฝน
อาวุธ :: คทา
งานอดิเรก :: นับเงิน | ล้วงกระเป๋าคนอื่น | สร้างความวุ่นวายแล้วมองดูมันอย่างสุนทรีย์ | ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
ความสามารถพิเศษ :: มือเบา
(ยามล้วงกระเป๋า) | ย่องเบา | ดัดเสียง | ปรับตัวได้ไว | คล่องแคล่วว่องไว
| วิ่งไว | แยกแยะของแท้กับของปลอมได้ |
มีความรู้ความเข้าใจในภาษาหลากหลายภาษาอันเนื่องมาจากการเดินทางไปในที่ต่างๆ
เพิ่มเติม ::
_________________________________________
♕ INTERVIEW CHARACTER ♕
หลังจากชายผู้สวมปลอกแขนสีทองคำพาตัวเธอมาที่ยังห้องแห่งนี้เเล้ว
สิ่งที่รออยู่เบื้องหน้าจึงเป็นหญิงสาวร่างสะโอด สวมแว่นตากรอบเหลี่ยม
ใบหน้าแต่งแต้มสีเข้มทำให้ดูจริงจังมีระเบียบ หล่อนปรายสายตามองผู้มาใหม่เล็กน้อย
กล่าวเชื้อเชิญนักเรียนใหม่แห่งสถาบันโรเซียให้ทรุดกายนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวโตตรงหน้าตน
"ช่วยกรุณาแนะนำตัวด้วยค่ะ" หญิงสาวกล่าวเรียบง่าย แสนสั้น และไม่ได้มากมายไปกว่านั้น
แต่จากการศึกษามาก่อนบ้างก็คงทำให้ทราบกันดีว่า
การแนะนำตัวที่แสดงออกถึงบุคลิกของตนที่สุดคือตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างมากในเวลานี้
ร่างเล็กในชุดสีหม่นก้าวเข้ามาในห้องด้วยความกระตือรือร้น
แม้จะสวมเสื้อผ้าเก่าซ่อมซ่อเต็มไปด้วยรอยปะชุนไม่ต่างไปจากขอทานแต่ใบหน้าเล็กนั้นก็ยังคงมีรอยยิ้มสดใส
ดวงตาสีไพลินกวาดมองไปรอบห้องด้วยความสนอกสนใจราวกับเด็กน้อยที่กำลังตื่นเต้นกับสถานที่แปลกใหม่
หูแว่วเสียงของหญิงสาวอีกคนในห้องกล่าวจึงดึงสายตาและความสนใจของตนเองกลับมายังเบื้องหน้า
“ออเดรย์ มาร์เจอรี่”
เด็กสาวกล่าวด้วยเสียงสดใสไม่ต่างไปจากรอยยิ้มของเธอ
ดวงตาสีฟ้าสบเข้ากับดวงตาเบื้องหลังกรอบแว่นอย่างไม่เกรงกลัวคิดหลบสายตา
เธอกล่าวแนะนำตัวเองต่อด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น “ถึงจะเห็นแบบนี้แต่อายุ
15 ปีแล้วล่ะ! เป็นเด็กน้อยตาฟ้าๆที่ไม่มีบ้านอยู่
มอบความสงสารให้ฉันเยอะๆหน่อยนะ~”
ดวงตาหลังกรอบแว่นทรงเหลี่ยมปรายมองเล็กน้อย "จุดประสงค์อะไรที่ทำให้คุณเลือกสถาบันโรเซียจากตัวเลือกมากมายของคุณกันคะ?"
เธอถาม
มีเสียงเคาะด้ามปากกาลงบนแผ่นรองกระดาษตลอดเวลาดังเป็นจังหวะต่อเนื่อง
ขับเน้นให้ความรู้สึกราวถูกเร่งเร้าดั่งเสียงเข็มนาฬิกาเคลื่อนกายถอยหลัง
นับรอเวลาสุดท้ายมาเยือนไม่มีผิด
ออเดรย์นั่งแกว่งขาไปตามจังหวะการเคาะปากกาของอีกฝ่ายด้วยท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อน
เด็กสาวเอียงคอเล็กน้อยก่อนขยับปากเอ่ยว่า “อยากลองสักครั้งในชีวิตน่ะ”
เอ่ยเกริ่นคำตอบของตัวเองด้วยถ้อยคำกำกวม
ก่อนจะอธิบายต่อด้วยใบหน้าราวกับสาวน้อยช่างฝัน
“ฉันไม่เคยเข้าโรงเรียนมาก่อน
เลยอยากจะลองเรียนกับเพื่อนในวัยเดียวกัน มีชีวิตแบบเด็กในวัยนี้ดูบ้างน่ะ
แล้วสถาบันโรเซียเองก็เป็นที่ที่ถ้ามีโอกาสก็ควรจะลองเข้าเรียนสักครั้งในชีวิตด้วย
จริงไหมล่ะ?”
ตอบคำถามด้วยคำถาม
ก่อนส่งยิ้มไปให้อีกฝ่ายหนึ่งครั้ง
ถ้าเกิดตอบตรงๆไปว่าเห็นว่าเป็นโรงเรียนประจำกินนอนเลยอยากมายึดเป็นที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งสัก
7 ปี ไม่ต้องดิ้นรนขโมยของคนอื่นหาเลี้ยงชีพตัวเองก็คงจะโดนเตะออกไปทันทีแน่ๆเลย...
"รู้รึเปล่าคะว่าสถาบันของเรามีกฎอะไรบ้าง"
“ก็พอรู้อยู่บ้าง”
ออเดรย์กล่าวพลางโคลงหัวด้วยท่าทางไม่ใส่ใจกับมันสักเท่าไรนัก
สถาบันศึกษาโรเซียมีกฎเพียงแค่สองข้อเท่านั้น รักษาความทรงจำให้ยิ่งกว่าชีพ
และ ห้ามปฏิเสธภารกิจ เธอไม่ชื่นชอบทำตามกฎระเบียบทว่าสองข้อนี้คงจะต้องเป็นข้อยกเว้นในครานี้
เพราะสัญชาตญาณของเธอมันบอกว่า...ถ้าไม่ทำตาม
ตัวเองจะต้องเดือดร้อน
คำตอบที่ได้รับไม่ได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดบนดวงหน้าสวยเข้ม
หญิงสาวครือเสียงในลำคอเล็กน้อย จดอะไรบางอย่างลงบนกระดาษสีขาวบนแผ่นรองตรงหน้าเธอ "ค่ะ" เสียงเอ่ยราบเรียบไร้อารมณ์ไม่แยแสสักเท่าไหร่นัก
พลันใบหน้างามเงยขึ้นสบสายตากับผู้อ่อนเยาว์กว่า ส่งสัญญาณให้เธอกล่าวเท้าเดินไปหา
ก่อนหยิบตราปั๊มสี(น้ำเงิน/ขาว/แดง)ขึ้นประทับลงบนข้อมือซ้าย
"ขออวยพรให้คุณโชคดีมิสมาร์เจอรี่หวังว่าคุณจะไม่ด่วนตายก่อนจะถึงวันสุดท้ายที่เราได้พบกันนะคะ"
_________________________________________
♕ INTERVIEW PARENT ♕
สวัสดีค่ะท่านผู้ปกครองที่เคารพรักส์ทุกท่าน
รันรันเองนะคะ หรือจะเรียกอาร์ซีก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ!
:: สวัสดีค่ารันรัน!
ทางนี้จะเรียกว่าลิลิก็ได้ค่ะ! ฝากตัวแล้วก็ฝากหัวใจด้วยน้า <3
ขอถามแรงบันดาลใจในการสร้างลูกๆ
หน่อยได้รึเปล่าคะ
:: เฟริน
จากบารามอสเลยค่า คิดว่าน่าจะเป็นไทป์ที่สร้างสีสันอะไรให้กับเรื่องให้
นิยามของน้องนี่เป็นคนแบบไหนเอ่ย
:: ค่อนข้างจำกัดความแบบสั้นๆไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่เลยค่ะ
5555 ออเดรย์ในมุมมองของเราคือเป็นตัววุ่นวายค่ะ
เอาเท้าไปแหย่ปัญหาแล้วก็วิ่งนำก่อนคนอื่น ปล่อยเรื่องให้เขาจัดการแก้ปัญหาเอา
เป็นกองหลังสนับสนุน ไม่อยู่หน้ารับบาทา (?)
ถ้าน้องไม่ติด สนใจรับบทเสริมหรือว่ารับน้องกลับบ้านดีคะ
:: บทเสริมเลยค่า
เชิญรันรันจับยัดได้ตามสะดวกเลยน้า
เรื่องการจับคู่
บอกก่อนน้าว่าไม่ได้มีคู่กันทุกคน เราถือว่าถ้าเคมีเข้าเราถึงจะชงให้ (?) ทั้งนี้ทั้งนั้นจะคละกันไปทั้งYaoi,Normal
ดังนั้นเราจึงอยากถามหน่อยค่ะ
ว่าทางผู้ปกครองโอเคกับสองแนวนี้รึเปล่าเอ่ย?
:: โอเคกับทั้ง Yaoi
แล้วก็ Normal เลยค่ะ แต่จะไม่ค่อยสันทัดทางฝั่ง
Yuri สักเท่าไหร่ u_u
พล็อตหลากหลายมากค่ะ
ยำสารพัดแนวมากๆ ดังนั้นบางทีเนื้อเรื่องก็จะทวิสหน่อย..รันไม่ใช่สายสุขนิยม
แต่เรื่องนี้จะพยายามนิยมสุขให้เกียตริคุณคอเมดี้กับโรแมนซ์เขา รับได้ใช่ไหมคะ
แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะคะ ต้องรับค่ะ รันบังคับ (อ้าว---)
:: ดราม่าบ้างเป็นสีสันของชีวิตนะคะ
เราชอบเขียนตัวละครให้แฮปปี้ แต่จริงๆชอบอ่านดราม่านะ 55555
ความคิดเห็น