หน้าที่ 1 , 2 , 3 , 4
 
ใครแต่ง : lilin
25 ก.ค. 66
80 %
308 Votes  
#1 REVIEW
 
เห็นด้วย
75
จาก 76 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 5 ก.ย. 54
ก่อนอื่นขอออกตัวเป็นธรรมเนียมว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เพราะฉะนั้นยังอาจวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง และมันก็ยังเป็นภาษาไตล์การวิจารณ์ง่ายๆ ของเราที่มุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ


-โครงเรื่อง
ตัวโครงเรื่อง ถือว่ายังไม่ค่อยแปลกใหม่สำหรับแนวออนไลน์นัก สำหรับคนที่มองหาความแปลกใหม่อาจจะมองข้ามนิยายของท่านผ่านไปเลยก็เป็นได้ ทำให้นิยายเรื่องนี้ยังไม่ดังเท่าที่ควร ดังนั้นจึงต้องพยายามเขียนบทนำและคำโปรยที่ดึงดูดใจผู้อ่านให้มากๆ
ธีมของเนื้อเรื่องเกี่ยวกับพระเอกที่โดนรถชนอยู่ในอาการโคม่า มีหนทางรอดคือการให้ไปเล่นเกมหนึ่ง และต้องชนะสงครามให้ได้ภายในเวลาหนึ่งปีในเกมก็จะสามารถขอให้ใบโอคอมพิวเตอร์ช่วยให้ฟื้นขึ้นมาได้
แนวการดำเนินของเรื่องก็คงจะเป็นเหตุการณ์ต่างที่ค่อยๆ ทยอยมาเรื่อยๆ เท่าที่อ่านมาก็ยังถือว่าเป็นการปูพื้นความสามารถและอาวุธของตัวเอกซะมากกว่า วิจารณ์ไม่ได้มากคงต้องรอดูกันต่อไป
จุดที่เป็นสีสันของเรื่องคงจะหนีพ้นฉาก โรแมนติก-คอมเมดี้ ในเรื่อง ระหว่างพระเอกที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เหลือร้ายแม้จะมีหน้าตาธรรมดาสากลโลกแต่ดันมีสาวสวยรอบกายถึงสามคน! ซึ่งนับว่าจุดนี้เป็นสีสัน ที่ฉุดบรรยากาศเนิบๆ ของเนื้อเรื่องให้ดูสนุกสนานมากขึ้นเลยทีเดียว

-ภาษา สำนวน
การบรรยาย: ช่วงบทแรกๆมีการบรรยายน้อยมาก ทั้งสถานที่และฉาก ทำให้เกิดความคลุมเครืออยู่พอสมควรแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก ตอนหลังๆ ก็ดูเข้าที่เข้าทางมากขึ้น บทบรรยายก็ไม่มากไม่น้อยเกินไป อ่านแล้วสามารถจินตนาการเห็นภาพได้ ถือว่าอยู่ในระดับดีใช้ได้เลย
บทสนทนา: ยังดูติดขัดอยู่หลายจุด โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ที่สังเกตเห็นได้ชัดและมีการพัฒนาจนดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดพบได้ประปรายในเรื่อง มีทั้งเกิดจากความรีบร้อนพิมพ์ และบางคำที่ใช้ผิด แนะนำว่าควรตรวจเช็คก่อนลงบทความ และคำไหนไม่มั่นใจในการสะกดให้เพิ่งอากู๋ค่ะ (ไม่ขอชี้แจงคำผิดนะคะ เพราะมีหลายตอนมาก คงตามเก็บให้ไม่ไหว)
ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : ตามความถูกต้องและเป็นสากลนั้น นิยายเรื่องนี้ยังห่างไกลอยู่มาก อาทิเช่น การเว้นวรรค เว้นบรรทัด ที่ยังทำได้ไม่ดีนักและย่อหน้าควรเว้นให้เท่ากัน(ในช่วงบทแรกๆ จะเห็นข้อบกพร่องทั้งสามอย่างนี้ได้อย่างชัดเจน),การใช้จุดไข่ปลาควรใส่เพียง…เท่านั้น,อัศเจรีย์ ใช้มากสุดก็ !!! เท่านั้นค่ะ,ซาวด์เอฟเฟคยังดูแปลกๆ อยู่ในบางจุด(ตัวอย่างเช่น สวบ สวบ ตึง ตึง ตึง ตึง ในบทที่ 10 ซึ่งมันออกจะแปลกๆ อยู่ซักหน่อย แม้ว่าจะเสียงทั้งสองอย่างนี้จะเกิดไล่เลี่ยกันแต่ควรแยกกันดีกว่าค่ะ ไม่ควรรวบรัดจับมันรวมด้วยกัน / หรืออีกตัวอย่างนึง ในตอนที่14 ซึ่งมีทั้ง เอฟเฟคและการแสดงท่าทางของตัวละครรวมกัน ก็คือคำนี้ “ฟุ่บบบ…แค่ก แค่ก แค่ก” แนะนำให้แยกกันดีกว่านะคะ เพื่อความสมบูรณ์ของประโยคมากขึ้น ยังมีเอฟเฟคแปลกๆ อีกหลายตอนที่ไม่ได้ยกมา แต่โดยรวมก็ถือเป็นเคสเดียวกัน ก็ประมาณนี้แหละค่ะ)

-ตัวละคร
ตัวละครมีมิติดีค่ะ จุดนี้ผู้แต่งสามารถหาเอกลักษณ์ของตัวละครแต่ละตัวได้ดีเยี่ยม แม้ตัวละครจะโผล่ออกมามากก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด (ถือว่าเยี่ยมมากค่ะ ปรบมือแปะๆ โดยส่วนตัวชอบหมีสีชมพูที่สุด)

-ความสมเหตุสมผล
เปิดมาก็คงจะเป็นจุดแรกของเรื่องเลย คือเรื่องของคลื่นสมองที่ผู้แต่งบอกว่ามีความรู้น้อยมาก(ในบทแรก) ซึ่งในยุคที่มีการพัฒนาจนกระทั่งสามารถสามารถใช้คลื่นสมองในการเล่นเกมได้ เรื่องของคลื่นสมองก็น่าจะเป็นความรู้พื้นฐานทั่วๆไปแล้วนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นคนจะกล้าใช้อุปกรณ์ที่มีความเกี่ยวพันกับคลื่นสมองตัวเองโดยไม่กลัวผลที่ตามมาได้อย่างไร? อีกจุดก็คือไบโอคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้อถึงความเป็นความตายของตัวเอกกันเลยทีเดียว เชื่อว่าเทคโนโลยีในระดับนั้นก็คงมีการพัฒนาในส่วนอื่นๆนอกจากเกมด้วยเหมือนกัน ไม่น่าจะมีเทคโนโยลีจากเกมเพียงอย่างเดียวที่ใช้ไบโอคอมพิวเตอร์ที่ว่านี้โดยเฉพาะ ดังนั้นแล้วจุดผูกขาดของเรื่องก็น่าจะบอกรายละเอียดว่าทำไมถึงต้องเป็นไบโอคอมพิวเตอร์ในเกมนี้ หรือประเด็นสำคัญอย่างอื่นที่มีปัจจัยส่งผลต่อการรักษาตัวเอกด้วยก็ว่ากันไปค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีความสามารถของตัวเอกที่สร้างความงงงวยให้ผู้อ่านอยู่เป็นระยะๆ ทั้ง cronos และ grativa ซึ่งเมื่อเอามาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้แล้วทำให้เกิดข้อข้องใจกันอยู่มาก จุดนี้ผู้แต่งจะอาจจะต้องเสริมเนื้อหาบางจุดเพิ่มเติม ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าเมื่อถึงฉากต่อสู้ที่ตัวเอกเราคิดแผนมาซะดิบดี แต่กลายเป็นผู้อ่านไม่ค่อยเข้าใจแล้วก็เลื่อนสายตาไปอ่านบรรทัดอื่นแทน (อ้าว…แล้วกัน) มีนะคะ หลายคนที่พอไม่เข้าใจแล้วก็ไม่ถามด้วย ดังนั้นผู้แต่งต้องงัดความสามารถในการบรรยายและสกิลติดตัวที่มีเคลียร์ปัญหาเหล่านี้ให้ได้นะคะ

-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม
การดำเนินเรื่อง: แรกๆ ยังดูเหมือนติดขัดอยู่บ้างแต่ผ่านไปเรื่อยๆ ก็มีการพัฒนาลื่นไหลมากขึ้น
ความสนุกน่าติดตาม: จากการอ่านตั้งแต่บทแรกถึงบทสุดท้ายของเรื่อง มีความรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นนิยายที่มีโทนค่อนข้างเรียบ ไม่ค่อยหวือหวา แม้จะเป็นฉากต่อสู้ก็ตาม ถึงคนเขียนจะบอกว่าเน้นฉากต่อสู้ที่ใช้ความคิดมากกว่า แต่เราเห็นว่าความจริงแนวนี้แล้วสามารถเขียนให้น่าสนุกตื่นเต้นได้เหมือนกัน ตรงนี้จึงเป็นจุดที่ผู้เขียนต้องศึกษาและพัฒนาเพิ่มเติมจะทำให้เนื้อเรื่องมีความสนุกสนานมากขึ้น ว่าแล้วก็วนมาถึงฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างพระ-นาง(ทั้งสาม)บ้าง ซึ่งฉากหวานแหวนในเรื่องนั้นผู้แต่งสามารถเขียนออกมาได้ค่อนข้างดีมากทีเดียว ทำให้เราคิดว่าดูๆ แล้วท่าทางผู้แต่งจะถนัดเขียนฉากกุ๊กกิ๊กแบบนี้กว่าฉากต่อสู้ซะอีก
และด้วยสาเหตุนานานับประการที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้นิยายของท่านยังไม่น่าดึงดูดน่าสนใจเท่าที่ควร นิยายเรื่องนี้จึงกลายเป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆ สบายๆ มากกว่า ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหามาก เพียงแต่ข้อเสียของนิยายแนวนี้คือถ้าเนื้อเรื่องเริ่มยืดเยื้อ น่าเบื่อ หรือไม่ดึงดูดพอ คนอ่านก็คงพร้อมจะจากไปทันที (อ้าว…งานเงิบ)

-ภาพรวม/สรุป
โดยภาพรวมถือว่าดี เพราะผู้แต่งมีการพัฒนามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบรรยาย ฉาก บทสนทนาต่างๆ ที่ดีกว่าในตอนแรกๆ มาก อีกทั้งอัพนิยายสม่ำเสมอ มีการเอนเตอร์เทนผู้อ่านเป็นประจำ ทำให้นิยายเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งในเรื่องที่หลายๆคนต้องเปิดเข้าหน้าบทความเข้ามาเช็คทุกวัน ถือว่าเจ๋งค่ะ ความขยันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้อ่านหลงรักนิยายของคุณได้เช่นกัน!
     
 
ใครแต่ง : The Aler
5 ก.ค. 65
260 %
89 Votes  
#2 REVIEW
 
เห็นด้วย
50
จาก 51 คน 
 
 
รับวิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 9 ก.ย. 54
เรื่อง : The Online War [ฝ่าวิกฤตออนไลน์ทะลุโลก]
ผู้วิจารณ์ : ANN

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเป็นธรรมเนียมก่อนว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพนะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง อยากให้คิดเสียว่าการวิจารณ์นี้เป็นการแสดงแง่คิดในมุมมองของนักอ่านคนหนึ่งที่เข้ามาอ่านนิยายของท่าน โดยมุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ


-โครงเรื่อง
สำหรับแนวออนไลน์แล้วโครงเรื่องยังคงมีความใกล้เคียงกับเรื่องอื่นๆ ที่มีกันดาษดื่น ส่วนชื่อเรื่องก็ยังไม่ดึงดูดใจคนที่เห็นครั้งแรกนัก มีข้อดีที่จดจำง่าย แต่ส่วนตัวคิดว่ามันธรรมดาไปหน่อยค่ะ การแนะนำเรื่องแบบย่อถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง บอกตามตรงที่สนใจนิยายเรื่องนี้จนกดแอดเฟฟเก็บไว้เป็นเพราะคำโปรยในส่วนตรงนี้ ยิ่งท่อนที่บอกว่า ‘ต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน’ กับ ‘การที่ออฟไลน์ไม่ได้’ นี่คือจุดเด่นที่ทำให้นิยายเรื่องนี้น่าอ่านค่ะ
ธีมของเรื่องเกี่ยวกับการที่พวกพระเอกต้องกลับเข้าไปเล่นเกมส์อีกครั้งเพื่อช่วยเหลือทีมงานเซียกำจัดเอไอตัวหนึ่งที่ก่อการกบฏขึ้นโดยการไล่ฆ่าผู้เล่น และใช้หินจากศิลาทำให้คนที่โดนอาบแสงจากศิลานั้นไม่สามารถทำการออฟไลน์ออกจากเกมส์ได้ เมื่อออฟไลน์ไม่ได้ร่างกายที่แท้จริงก็จะตายจากไป... เนื้อเรื่องเหมือนจะธรรมดา แต่ก็ชวนให้น่าคลิ๊กเข้ามาอ่าน การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างมีเหตุผลรองรับตลอด มีที่มาที่ไปซึ่งสามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ซึ่งนับว่าไรเตอร์ทำได้ดีในส่วนตรงนี้ค่ะ

-ภาษา สำนวน
การบรรยาย: การบรรยายเป็นไปอย่างเรียบง่าย อธิบายชัดแจ้งเห็นชัดเป็นลำดับขั้นตอน สามารถจินตนาการตามได้ไม่ยาก ช่วงต้นเรื่องยังมีสะดุดอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นจุดเล็กๆ ที่ไม่ทำให้ภาพรวมเสียหาย หลังจากอ่านไปเรื่อยๆ เห็นได้ว่าการบรรยายพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีความสละสลวยและน่าติดตามมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยล่ะค่ะ
บทสนทนา: ทำได้ไม่เลวเลยค่ะ เสียแต่คำลงท้ายที่บางครั้งใช้เสียงวรรณยุกต์ผิดไปบ้าง ทำให้เสียงมันดูเพี้ยนๆ ไป สำหรับคนทั่วไปอาจไม่ค่อยสนใจกันนัก แต่สำหรับเราเวลาเพี้ยนไปนิด ประโยคนั้นๆ จะเพี้ยนตามไปหมดและอาจสื่อความหมายไปในอีกอารมณ์หนึ่งเลยค่ะ ก็ต้องระวังเรื่องตรงนี้สักเล็กน้อย แต่ในส่วนอื่นท่านทำได้ดีอยู่แล้วค่ะ
คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: จากที่ได้เก็บคำผิดให้ท่านใน 10 ตอนแรก คำผิดส่วนใหญ่มาจากคำที่ท่านสะกดใช้จนเคยชินมากกว่าค่ะ เช่นคำว่า ไกล้ = ใกล้ / ศรีษะ = ศีรษะ / ชงัก = ชะงัก / ตลึง = ตะลึง / มอนเตอร์ = มอนสเตอร์ / พึ่ง = เพิ่ง / มั๊ย = ไหม (อันนี้เป็นเรื่องของเสียงที่ใช้ในบทพูดคุย ต้องแล้วแต่สถานการณ์ที่ใช้ด้วยค่ะ แต่ให้ชัวร์ก็ ‘ไหม’ ไว้ก่อนดีกว่า ไม่วิบัติ และทุกคนยอมรับค่ะ^^ ) / ฯลฯ ส่วนอื่นๆ ก็เป็นคำผิดประปรายที่ไม่พิมเกินมา ก็พิมตกหล่นไป ซึ่งมันก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ถ้าให้ดีน่าจะตรวจทานซักเล็กน้อยหลังอัพเสร็จ แล้วแก้ไขให้เรียบร้อยจะดีมากค่ะ อนึ่งท่านจะได้ไม่เหนื่อยเวลารีไรท์ และสอง…คนอ่านจะได้ไม่สะดุดซึ่งทำให้เสียอรรถรสในการอ่านด้วยค่ะ
:::การใช้คำซ้ำ มีให้เห็นเยอะในฉากต่อสู้ ซึ่งบางทีมันก็ดูเยอะไปจนรู้สึกได้ว่า...อีกแล้วหรอ ที่เหลือก็นับว่าไม่มีปัญหา ท่านเลือกใช้คำในแต่ละท่อนได้ดีและเหมาะสมอยู่แล้ว

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : การเว้นวรรค เรื่องนี้อยากให้ท่านระวังขึ้นอีกนิดค่ะ บางท่อนมันเว้นวรรคแปลกๆ อยู่ และบางทีคำที่น่าจะติดกันกลับห่างกันแบบงงๆ อาจเป็นเพราะนิ้วท่านไปโดนปุ่ม space bar มั้งคะ ทำให้อ่านแล้วสะดุดเล็กน้อย แต่ไม่มีปัญหากับภาพรวมเท่าไหร่ค่ะ
::: การใช้สัญลักษณ์ จะเห็นท่านใช้เครื่องหมาย ++++++++++ คั่นฉากไว้เวลาเปลี่ยนฉากไปอีกลำดับหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวเข้าใจว่าท่านไม่อยากให้คนอ่านมึน และรับรู้ว่า ‘อ้อ มันกำลังตัดไปอีกฉากแล้วนะ’ แต่ถ้าให้ดีอย่าใช้สัญลักษณ์พวกนี้จะดีกว่าค่ะ การดำเนินเรื่องโดยไม่ใช้สัญลักษณ์กั้นเข้าช่วย แล้วทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้เองโดยสัญชาตญาณ คือสิ่งสำคัญที่คนแต่งควรทำให้ผู้อ่านรับรู้ได้ในส่วนตรงนั้นผ่านตัวอักษร(และการเว้นบรรทัดเข้าช่วย)ค่ะ
::: ซาวด์เอฟเฟค โดยรวมไม่มีปัญหาค่ะ ท่านใช้เสียงต่างๆ ได้ดีอยู่แล้ว อ่านแล้วก็ไม่ได้รู้สึกทะ ๆ อะไร เอาเป็นว่าผ่านค่ะ

-ตัวละคร
ตัวละครหลัก แต่ละตัวมีความสมเหตุสมผลในแต่ละคน มีให้เห็นพัฒนาการทางความคิดอย่างเด่นชัดโดยเฉพาะตัวพระเอกกับหนุ่มน้อยเทลเลอร์ สำหรับวรรณภากับแทซองมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมากพอดู ส่วนไคน์ เวียร่า และเซฟก็ทำได้ดีในส่วนของผู้ติดตาม มีเพียงเอกอนที่อ่านแล้วยังรู้สึกครึ่งๆ กลางๆ ไม่รู้จะมาอารมณ์ไหนค่ะ

-ความสมเหตุสมผล
เปิดเรื่องมา เนื้อเรื่องจะกล่าวอ้างอิงโดยใช้การลำดับเหตุการณ์เข้าช่วย ซึ่งมีบอกเหตุบอกผลรองรับการตลอดทำให้อ่านแล้วเริ่มคล้อยตาม ยุคที่ใช้เป็นยุคอนาคต ก็เข้าใจว่ามันคงมีเทคโนโลยีที่สามารถทำได้จริง และอาจเกิดระบบผิดพลาดขึ้นได้ดั่งที่ท่านได้เท้าความไว้
ความเก่งกาจของเหล่าผู้เล่นระหว่างอดีตกับปัจจุบัน จะเห็นได้ถึงความห่างชั้นที่มันมากอย่างเห็นได้ชัด (โดยเฉพาะในตอนแรกๆ) จนอดรู้สึกไม่ได้ว่ารุ่นพระเอกนี่มันเทพจัดเกินคนหรือพวกมันเป็นปีศาจมาเกิดกันแน่! อาจเพราะวุฒิภาวะที่มีมากกว่า(?)หรือเปล่า เลยทำให้ดูเหมือนจะได้เปรียบในการตัดสินใจหลายๆ อย่าง แต่ก็อยากให้ระวังในส่วนตรงนี้ด้วยค่ะ อีกอย่างอ่านๆ ไปแล้วไม่รู้คนกลุ่มนี้จะเฮงไปไหน เจอทักษะลับเยอะมาก คนอื่นๆ ตามหามานานนมกลับไม่เจอ แต่กลุ่มนี้กลับเจอกันเป็นว่าเล่น(?) เลยเข้าใจไปว่าท่านไรเตอร์อยากให้ทุกคนเก่งขึ้นเพื่อใช้รับมือกับคนที่เข้าร่วมแข่งขัน แล้วมีกำลังสูสีพอที่จะสู้กับอเล็กซ์ได้ แต่ถึงกระนั้นก็ให้ความรู้สึกได้ว่า...มันดวงดีกันเกินไปแล้ว! (อิจฉา)
สำหรับความเก่งกาจที่ติดตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อันนี้ยอมรับได้ค่ะ เพราะทุกคนถือเป็นผู้เล่นเก่งๆ ทั้งหมดในสมัยอดีต การกลับมาบู๊ล้างผลาญแบบถล่มสกิลกระจายจึงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก นับว่าเป็นส่วนที่ทำให้เนื้อเรื่องสนุกขึ้นด้วยค่ะ

-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม
การดำเนินเรื่อง: ช่วงต้นเรื่องยังไม่ค่อยน่าดึงดูดใจนัก อาจเป็นเพราะมันคือการปูพื้นเพื่อดำเนินเรื่องเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักก็เป็นได้ มันจึงยังไม่มีความแปลกใหม่เท่าที่ควร เพราะนิยายแนวออนไลน์ทั่วไปเปิดฉากมาในลักษณะนี้เกือบทั้งสิ้น การดำเนินเรื่องเป็นไปแบบมีขั้นมีตอน ลำดับเหตุการณ์ได้ดีเลยล่ะค่ะ
ความสนุกน่าติดตาม: จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นในเรื่องของการดำเนินเนื้อเรื่อง ช่วงแรกจึงยังไม่หวือหวาน่าติดตามเท่าที่ควร แต่พออ่านไปสักพักบอกได้เลยว่า ‘เริ่มติด’ โดยเฉพาะฉากต่อสู้ที่ไรเตอร์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนอ่านเห็นพัฒนาการ และคล้อยตามไปได้ในที่สุด บางตอนมีการตบท้ายด้วยสกิลค้างให้คนอ่านรู้สึกอยากติดตามมากขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการเขียนทิ้งท้ายที่ฉลาด ทำให้เรื่องน่าติดตามมากขึ้นค่ะ ส่วนตัวชอบตอนที่วรรณภากับเอกอนร่ายเวท เวลาที่สองคนนี้ใช้เวททำเอาแทบอ่านทุกตัวอักษรเลยค่ะ แต่บางทีการใช้สกิลอาจเยอะไป(มั้งคะ) เวลาอ่านเลยรู้สึกเหมือนอ่านคำซ้ำๆ จนอยากอ่านข้ามไป แต่มันเบ่งพลังกันแบบนี้มาตั้งแต่บทแรกแล้วก็ต้องตามน้ำค่ะ ไม่รู้จะติงยังไงดี บอกได้เพียงแค่ว่ามันเยอะเกินไปเท่านั้นค่ะ

-ภาพรวม/สรุป
ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ ไม่เสียใจเลยที่กดแอดเฟฟไป ส่วนตัวคิดว่าไรเตอร์มีการพัฒนาสกิลการเขียนขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว อ่านแล้วไม่ขัดๆ สะดุดๆ เหมือนในตอนแรก ดำเนินเนื้อเรื่องได้น่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ มีหยอกล้อตบมุขให้ขำเป็นพักๆ อีกด้วย แถมยังสอดแทรกข้อคิดและคติสอนใจหลายๆ อย่างปนเข้าไปกับเนื้อเรื่อง ซึ่งทำให้เราชอบในส่วนตรงนี้มาก อ่านนิยายดีๆ แถมยังได้ข้อคิดดีๆ ติดกลับไปใช้อีก (แต่ถ้าหมั่นตรวจทานคำผิดให้ละเอียดถี่ถ้วนกว่านี้จะเพอร์เฟคมาก) สุดท้าย...ขอบคุณมากๆ ที่แต่งนิยายดีๆ ออกมาให้ได้อ่าน ขอให้ท่านพยายามในส่วนตรงนี้ต่อไปนะคะ แล้วเราจะติดตามผลงานของท่านต่อไปค่ะ ^^
     
 
ชื่อเรื่อง :  shadow online
ใครแต่ง : dOOm
29 เม.ย. 57
80 %
33 Votes  
#4 REVIEW
 
เห็นด้วย
24
จาก 26 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 7 ธ.ค. 54
เรื่อง : Shadow Online
ผู้วิจารณ์ : PLOY


ก่อนอื่นก็ต้องขอออกตัวตามธรรมเนียมประเพณีที่พึ่งปฏิบัติก่อนนะครับ(มันมีด้วยเหรอ?) ว่าผมเป็นเพียงนักอ่านคนหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่นักวิจารณ์มืออาชีพแต่อย่างใด บางสิ่งที่ผิดพลาดก็ให้อภัยกันด้วยนะครับ พวกเราหวังแค่ว่าคำวิจารณ์ของพวกเราจะเป็นแนวทางในการพัฒนาผลงานการเขียนของทุกท่าน ให้ทุกท่านสร้างสรรค์ผลงานดีๆให้พวกเราได้อ่าน(เสพ)กัน หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ

ก่อนอื่นอีกครั้ง ไรเตอร์ ผมขอโทษครับ ตอนแรกผมอ่านชื่อเรื่องShadow online เป็น เชลฟ์ดอม ออนไลน์ ขอโตดจริงๆนะคร้าบบบบบบ
เอาล่ะ เข้าเรื่อง เอิ่ม…



-โครงเรื่อง

คล้ายกับนิยายแนวเกมออนไลน์ทั่วไป พระเอกก็เรื่องนี้ถูก เดอะป๋าหลอกให้มาเล่นเกมๆหนึ่ง จนต้องมาพบกับเรื่องราวมากมาย สู่การผจญภัยไปกับผองเพื่อน

ชื่อเรื่อง - ชื่อเรื่องมีส่วนสำคัญไม่แพ้เนื้อเรื่อง เพราะมันคือด่านแรกที่จะทำให้ผู้อ่านได้รู้จักกับนิยาย Shadow online ชื่อเรื่องก็เหมาะสมกับเนื้อเรื่องดีครับ แต่ก็ยังดูธรรมดาๆไม่ค่อยแตกต่างไปจากนิยายออนไลน์เรื่องอื่นเท่าไร มีข้อแนะนำเล็กๆน้อยๆ น่าจะมีชื่อเรื่องภาษาไทยแถมไว้ด้วยนะครับ จะช่วยในเรื่องของการจดจำชื่อเรื่อง และดึงดูดความสนใจชวนน่าลองคลิกเข้าไปดูเนื้อหาของเรื่อง

เนื้อเรื่องแบบย่อๆ และข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้ - ขอผ่านนะครับ เพราะว่าเป็นแค่การเชิญชวนจากไรเตอร์ กับการลงรูปของตัวละครและแจ้งการรีไรท์ (พระเอกหล่ออะ)



-การบรรยาย

ในเรื่องของการบรรยายยังทำได้ไม่ดีนะ สาเหตุมาจากไรเตอร์ยังบอกลักษณะของตัวละครผิดๆถูกๆอยู่ เช่นสีตาของพระเอก เดี๋ยวก็แดง เดี๋ยวก็ดำ ทำให้นักอ่านหลายคนงงได้นะครับ ระวังใดจุดนี้หน่อยนะครับ ในบางจุดยังบรรยายไม่ละเอียดพอหรือในบางครั้งก็อธิบายในจุดที่ไม่จำเป็นมากเกินไป



-คำผิด/คำซ้ำ/การหลากคำ

คำผิด พบได้น้อยมากถึงน้อยที่สุด ที่อ่านถึงตอนปัจจุบัน พบคำผิดเพียงแค่ไม่กี่คำเท่านั้นเท่านั้นขอยกตัวอย่างบางตอนนะครับเฉพาะที่ไรเตอร์รีไรท์แล้ว จะได้แวบไปแก้ไขให้เป็นการรีไรท์ที่สมบูรณ์
ตอนที่5 หลงทาง ปราะสาท>>>ประสาท
ตอนที่8 เมฆา (คำเกิน)ดาบสีคาตาคาเนะสีเงิน วตถุดิ>>>วัตถุดิบ
การที่มีคำผิดน้อยหรือทางที่ดีไม่ควรจะมีเลย จะช่วยแสดงถึงความเอาใจใส่ในนิยายของไรเตอร์ได้อย่างมาก ขอชื่นชม ณ จุดนี้ หวังว่าจะคงคุณภาพงานแบบนี้ได้เรื่อยๆนะครับ

ส่วนเรื่องที่ขอตินิดหน่อย(แต่ไม่หน่อย)คือการใช้คำว่า เด็กหนุ่มในร่างเด็กสาว มัยเยอะเกินไปครับ เปลี่ยนเป็นเขาหรือเขา หรือสรรพนามอื่นบ้างจะดีกว่านะครับ และหากไม่ได้เป็นการเปลี่ยนฉากจะใช้ชื่อของตัวละครโดยตรงเลยก็ได้นะครับ



-ตัวละคร

จุดนี้ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ผมรู้สึกไปเองหรือเปล่าว่า นิลกาฬน่าจะเป็นคนที่นิ่งๆ เงียบๆ แต่ทำไมตอนหลังเริ่มสติแตกแล้วล่ะครับ แต่แบบนี้ก็น่าสนใจไปอีกแบบ



-ความสมเหตุสมผล

ขอแบ่งเป็นข้อๆนะครับ
1.พระเอกฆ่าฝูงสไลม์ไปตั้งหลายสิบตัวทำไมเลเวลไม่ขึ้น แถมยังไม่มีของให้เก็บอีก
2.อาชีพสายป้องกันของนางเอกเนี่ย ปกติเขาจะมีทักษะโจมตีไว้ให้หนึ่งทักษะเพื่อใช้เก็บคะแนนไม่ใช้เหรอครับ ไม่งั้นก็ไม่มีคะแนนกันพอดี
3.ความสามารถพิเศษบางอย่างของพระเอกนะไม่ควรมีอภิสิทธิ์มากเกินไปแบบไร้เหตุผมนะครับ แม้ว่าโลกผ่านนอกจะเก่งแค่ไหน แต่ในโลกแห่งเกมส์ทุกคนน่าจะมีแค่ความสามารถเฉพาะตัวนะครับ
4.บทสนทนาของตัวดำเนินเรื่องเกมยังไม่ค่อยสมจริงเท่าไรนะครับ
5.และในบางตอนพระเอกต่อสู้แบบรากเลือดแต่ไม่ได้สกิลเพิ่มได้แต่ค่าประสบการณ์ ไม่โหดไปหน่อยเหรอครับ



-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/น่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง ความลื่นไหล ถือว่านำเสนอออกมาได้อย่างดี นำเสนอผ่านตัวเอกของเรื่องสอดแทรกความคิดขัดแย้งกับความเป็นจริงของพระเอกทำให้เรื่องราวดูไม่เครียดจนเกินไป ดำเนินเรื่องได้อย่างลื่นไหลพอสมควร มีจุดขัดข้องบ้างแต่ก็พอให้อภัยกันได้ โดยรวมแล้วถือว่าทำได้ดี ไม่งั้นไม่ผ่านมาสองร้อยกว่าตอนแบบนี้หรอกนะ



-สรุปโดยรวม

นิยายเรื่อง Shadow online ถือว่านำเสนอโครงเรื่องมาได้อย่างน่าสนใจ พล็อตเรื่องเป็นไปอย่างน่าติดตาม แม้ว่าในส่วนของการบรรยายจะทำไม่ได้ดีเท่าที่ควร แต่เรื่องนี้เราสามารถพัฒนากันได้ครับ เห็นได้จากงานเขียนของไรเตอร์ในแต่ละตอน พยายามเข้านะครับ

ส่วนตัวแล้วผมนับถือไรเตอร์มากนะครับที่สามารถดำเนินเรื่องราวนิยายเรื่องนี้มาได้ถึงขนาดนี้ ถึงแม้ว่าตอนแรกกระแสตอบรับเรื่องพระเอกจะไม่ค่อยดีนัก แต่ไรเตอร์ก็ฝ่ามันมาได้ ผมขอชื่นชมนะครับ

     
 
12 ต.ค. 54
80 %
9 Votes  
#5 REVIEW
 
เห็นด้วย
21
จาก 21 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 13 ก.ย. 54
เรื่อง : Lost Tale Online
ผู้วิจารณ์ : ANN

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเป็นธรรมเนียมก่อนว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ นะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง อยากให้คิดเสียว่าการวิจารณ์นี้เป็นการแสดงแง่คิดในมุมมองของนักอ่านคนหนึ่ง ที่เข้ามาอ่านนิยายของท่าน โดยมุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

-โครงเรื่อง
สำหรับแนวเกมส์ออนไลน์แล้ว การเข้าไปตามหาคนสำคัญในเกมส์ยังไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร ซึ่งตัวเราก็เข้าใจว่า ‘ตัวละครหลัก’ ต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างเพื่อเข้าไปเล่นเกมส์ แต่การหยิบเรื่องการตามหาคนมาใช้ อาจทำให้ความน่าสนใจของเรื่องลดน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ
ชื่อเรื่อง Lost Tale สัมพันธ์กับโครงเรื่องดีค่ะ เห็นชื่อเรื่องแล้วพอเดาได้เลยว่านิยายเรื่องนี้ต้องเป็นไปในลักษณะไหน อะไรหายไป ก็ต้องตามหา แล้วในเรื่องพ่อแม่ฮารุกับมิสุกิก็หายตัวไป เป็นเหตุให้สองพี่น้องฝาแฝดต้องเข้าไปเล่นเกมส์เพื่อหาเบาะแส และได้เกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นในโลกของ Lost Tale Online ที่แฝงไปด้วยปริศนามากมาย พร้อมๆ กับความวุ่นวายที่พ่วงมาได้ตลอดจนเป็นเหตุให้คนทั้งสองไม่สามารถเล่นเกมส์ได้อย่างสบายใจเฉิบ ยิ่งบวกกับหน้าตาด้วยแล้วคงมีเหตุให้วิ่งหนีกันอีกเยอะเลยทีเดียว

-ภาษา สำนวน
การบรรยาย: การบรรยายเป็นไปอย่างนิ่งเรียบ สื่อสารได้ดี อธิบายได้เห็นภาพระดับหนึ่ง ภาษาที่ใช้ก็เหมาะสมดีแล้วค่ะ ยังมีบ้างเล็กน้อยที่การบรรยายยังดูแปร่งๆ อยู่ แต่โดยภาพรวมถือว่าไม่มีปัญหาค่ะ

บทสนทนา: อ่านจากบทสนทนาแล้ว พอเดาได้เลยค่ะว่าตัวละครที่พูดนั้นน่าจะมีอุปนิสัยยังไง ซึ่งในส่วนของบทสนทนาท่านทำได้ดีระดับหนึ่งเลยค่ะ แต่อยากให้ระวังเรื่องบทสนทนาที่ไม่จำเป็นหน่อยนะคะ บางครั้งมันโผล่มาเยอะเกินความจำเป็น (โดนเฉพาะฉากทะเลาะหรือเถียงกัน) ทำให้อ่านแล้วรู้สึกขัดๆ อยู่บ้างค่ะ

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดมีให้เห็นอยู่บ้างเป็นธรรมดาค่ะ ไม่เยอะจนน่าเกลียด และไม่ทำให้คนอ่านเสียอรรถรสในการอ่าน อันนี้ไม่นับในตอนแรกที่พระเอกเขียนถึงคุณซานต้านะคะ ^^ เพราะอันนั้นเข้าใจได้ว่าเด็กเขียน สะกดผิดเป็นเรื่องธรรมดา ที่เหลือก็ไม่มีอะไรมากค่ะ คำตก คำเกิน ตามปรกติ ที่เหลือคือท่านต้องค่อยๆ เก็บเอาค่ะ

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : คุยปรกติใช้สัญลักษณ์ “…” คุยโทรศัพท์กับช่วงเวลาทวนความทรงจำใช้ ‘...’ และคุยในช่องปาร์ตี้ใช้ […] เท่าที่ดูก็โอเคดีค่ะ ท่านเลือกใช้สัญลักษณ์ได้ดีพอควรอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวคิดว่า การคุยโทรศัพท์น่าจะใช้สัญลักษณ์ “...” แบบนี้มากกว่าค่ะ เพราะเป็นการดำเนินเรื่องในปัจจุบัน และตัวละครนั้นกำลังพูดคุยกับตัวละครหลักอยู่ จึงไม่อยากให้ไปใช้ซ้ำกับพวกคำพูดที่ใช้เวลาทวนความทรงจำค่ะ ตอนนี้เข้าใจว่าท่านคงอยากให้เห็นความแตกต่างระหว่างบทพูดของตัวเอกกับผู้สนทนาร่วมชัดเจน แต่โดยความเป็นจริงแล้ว คนอ่านอ่านแล้วเข้าใจได้ด้วยสัญชาตญาณอยู่แล้วค่ะ

::: ซาวด์เอฟเฟค โดยรวมไม่มีปัญหาค่ะ ท่านใช้เสียงต่างๆ ได้ดีอยู่แล้ว อ่านแล้วก็ไม่ได้รู้สึกแปลกๆ อะไร เอาเป็นว่าผ่านค่ะ

-ตัวละคร
ตัวละครในเรื่องโผล่ออกมาเยอะมากๆๆ อ่านแล้วบอกตามตรงว่าจำได้ไม่กี่คนเองค่ะ ชื่อจำค่อนข้างยาก+ออกมาเยอะมาก และฉากหนึ่งๆ ไม่ใช่ออกมาแบบทีละคนสองคน ออกมาทีนึงแบบยกโขยงกันมาเป็นพรวนเลย ท่านบริหารตัวละครได้เก่งนะคะ แต่สำหรับเราแล้วมันให้ความรู้สึกว่าเยอะเกินไปค่ะ การให้ตัวเอกค่อยๆ พบเจอคนอื่นๆ ผ่านการเดินทางน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า การสลับฉากไปยังตัวละครอื่นๆ แล้วให้คนเหล่านั้นดำเนินเรื่องแทน ตอนนี้อ่านๆ ไปรู้สึกว่าตัวหลักเด่นสุด แต่ตัวละครอื่นๆ ก็เด่นไม่แพ้ตัวละครหลักเลย จะถามว่ามันเสียหายไหม มันอาจจะไม่(สำหรับคนอื่น) แต่สำหรับเรา เราคิดว่าตัวเด่นของท่านกำลังโดนกลบรัศมีอยู่ค่ะ

-ความสมเหตุสมผล
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นในส่วนของโครงเรื่อง อะไรหายไป ก็ต้องตามหา ซึ่งก็ไม่แปลกที่ฮารุกับมิสุกิเข้าไปเล่นเกมส์ซึ่งเป็นสถานที่เดียวที่จะหาเบาะแสของพ่อแม่ได้ อันนี้ถือว่าสมเหตุสมผลดีค่ะ
เจ้าหน้าที่ที่ประจำการอยู่ในห้องลงทะเบียน อันนี้คิดตามหลักความเป็นจริงนะคะ เกมส์ที่กำลังเป็นที่นิยมจะเอาเพศที่สามที่มีพฤติกรรมคุกคามผู้ลงทะเบียนมานั่งประจำการหรือคะ รวมไปถึงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่างๆ นานาด้วย คือเข้าใจว่าท่านอยากให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกสนุกสนาน แต่ในด้านความเป็นจริงแล้วมันยังห่างไกลอยู่ค่ะ
เควสในเกมส์ มีเหตุผลรองรับตลอดสำหรับส่วนตรงนี้ มีลำดับขั้นตอนจากทอดหนึ่งไปอีกทอดหนึ่งแบบมีเหตุมีผล ซึ่งในส่วนนี้ท่านจัดการได้ดีมากค่ะ

-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม
การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเรื่องถือว่าค่อนข้างช้าถ้าเปรียบเทียบกับนิยายออนไลน์เรื่องอื่นๆ อาจเป็นเพราะฮารุกับมิสุกิทำเควสค่อนข้างเยอะ ผ่านไป 20 บท (รวมบทนำด้วย) ยังทำเควสเมืองแรกกันไม่เสร็จเลย นอกนั้นก็เป็นการหนีการตามล่าของเหล่าผู้เล่นคนอื่นๆ และสู้มอนสเตอร์เก็บของทำภารกิจ ถึงแม้จะมีตบมุขบ้าง แต่อ่านแล้วยังเฉยๆ อยู่ค่ะ

ความสนุกน่าติดตาม: ความเห็นส่วนตัว การที่นิยายท่านไม่น่าติดตามเท่าที่ควรอาจเป็นในเรื่องของตัวละครที่มีมากเกินไป การสลับบทตัวเอกไปใช้กลุ่มตัวละครอื่นดำเนินเรื่องแทนอาจทำให้คนอ่านเดาเรื่องราวคร่าวๆ ได้ก่อนแล้ว ความตื่นเต้นและน่าติดตามเลยพลันหายไปด้วยโดยปริยาย อีกอย่าง พวกตัวเอกก็ไม่บ้าสุดขั้ว เป็นเพียงคนธรรมดาที่ค่อนข้างดูจืดชืด(สำหรับแนวเกมส์ออนไลน์) แถมการต่อสู้ยังเน้นไปในทางใช้สมองอีก โดยรวมแล้ว เรื่องสำนวนภาษาทำให้นิยายนี้น่าติดตาม แต่การดำเนินเรื่องยังมีจุดที่ต้องแก้ไขอยู่ค่ะ

-ภาพรวม/สรุป

การบรรยาย ภาษา และสำนวนอยู่ในเกณฑ์ดีแล้ว แต่การดำเนินเนื้อเรื่องยังไม่น่าติดตามเท่าไหร่ ตัวละครเยอะมากทั้งนี้ยังไม่นับรวมพวก GM ที่ออกมามีบทบาทเล็กน้อยอีกด้วย ฉากต่อสู้ยังไม่น่าสนใจเท่าไหร่นัก ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจเพราะตัวหลักยังเป็นมือใหม่ที่ยังอยู่ในเมืองเริ่มต้น และไม่ใช่พวกบ้าหลุดโลกเหมือนนิยายออนไลน์เรื่องอื่นๆ คาดว่าหลังจากนี้เนื้อหาคงเข้มข้นมากกว่านี้และน่าติดตามมากกว่านี้ ก็จะขอเป็นกำลังใจให้นะคะ เรื่องภาษาดีได้เปรียบอยู่แล้ว ที่เหลือก็คือจะจัดการเรื่องยังไงให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นค่ะ
     
 
ใครแต่ง : รักต์ศรา
26 ก.ย. 66
80 %
38 Votes  
#6 REVIEW
 
เห็นด้วย
20
จาก 20 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 26 ก.ย. 54
เรื่อง : Mystic Land - ฝ่ามิติแดนพิศวง
ผู้วิจารณ์ : SEI


ก่อนอื่นขอออกตัวเป็นธรรมเนียมว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เพราะฉะนั้นยังอาจวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง และมันก็ยังเป็นภาษาสไตล์การวิจารณ์ง่ายๆ ของเราที่มุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

บอกกันตามตรงเลยค่ะว่านิยายของคุณศรานี่เซใช้เวลาอ่านนานทีเดียว เพราะว่าครั้งแรกที่เซอ่านนั้นใช้มุมมองของนักอ่านเข้าไปเต็มๆ เลยค่ะ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นข้อผิดพลาดต่างๆ อย่างชัดเจนได้ จึงต้องมาอ่านในแง่ของการวิจารณ์อีกที ซึ่งทำให้เห็นข้อผิดพลาดที่เซมองไม่เห็นในจุดครั้งแรกพอสมควรเชียวล่ะค่ะ จึงต้องค่อยๆ มองแต่ละจุดไปอย่างใจเย็น (แต่ถึงอย่างนั้นเซก็ไม่มั่นใจว่าจะมองข้อบกพร่องต่างๆ ได้ละเอียดพอ เพราะนิยายของท่านค่อนข้างได้ใจเซไปพอสมควร เอ่อ…ข้อผิดพลาดร้ายแรงของนักวิจารณ์เลยนะนั่น นึกซะว่าไม่เห็นข้อความในวงเล็บนี้แล้วกันค่ะ ฮา)


-โครงเรื่อง

นิยายเรื่อง Mystic Land – ฝ่ามิติแดนพิศวง เป็นนิยายประยุกต์หลากแนว โดยการนำสามหมวดหลักอย่าง ระทึกขวัญ-แฟนตาซี-ผจญภัย เข้ามาผสมผสานกันจนเป็นนิยายที่แปลกใหม่และมีคุณภาพเรื่องหนึ่ง

ธีมหลักของนิยายเรื่องนี้คือ หลังจากที่ฟ้ากับเพื่อนๆ มาเที่ยวล่องแก่งฉลองจบการศึกษามัธยมปลายก็เกิดตกน้ำพลัดหลงจากคณะและได้เข้าไปในหมู่บ้านหนึ่งหนึ่งโดยการนำทางของ “เอื้องคำ” หญิงสาวผู้ลึกลับในหมู่บ้านนั้น แต่แล้วคนทั้งห้าก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติและเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้อย่างแท้จริง

คงต้องบอกว่านิยายเรื่องนี้ค่อนข้างมีการวางพล็อตที่สลับซับซ้อนพอสมควร ตัวปมเรื่องมีทั้งผูกและคลายก่อนจะรั้งมารัดไว้อีกหลายตลบ แม้จะเฉลยบางส่วนออกมาบ้างแต่ก็ยังเหลือปมใหญ่ๆ อยู่มาก ชวนให้อยากอ่านและติดตามพอสมควร โดยที่มีทั้งแนวระทึก (ในช่วงแรก) ผสมผสานกับแฟนตาซีและผจญภัยอย่างแยกไม่ออก นับว่าเป็นความหลากหลายของนิยายเรื่องนี้เลยทีเดียว แต่มันก็มีจุดที่ทำให้อารมณ์สะดุดเช่นกันค่ะ เนื่องจากในช่วงแรกมีการดำเนินเรื่องโดยที่โทนของเรื่องออกแนวระทึกซึ่งจุดนั้นทำให้บทแรกๆ ของนิยายมีความน่าสนใจติดตามมาก และมันก็เริ่มซอฟต์ลงเมื่อออกแนวแฟนตาซียามเมื่อหลุดเข้ามายังอีกโลกหนึ่ง ก่อนที่จะกลายเป็นเอื่อยๆ กับแนวผจญภัยในมุมมองของเอก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการนำเสนอจุดเด่นในแต่แนวมากเกินไปนั่นเองค่ะ

ส่วนตัวแล้วชอบครึ่งแรกมากเพราะสามารถนำเสนอออกมาได้ดีชวนระทึกน่ากดติดตามมาก แล้วความรู้สึกนั้นก็ถูกตัดฉับหายไปดื้อๆ เมื่อนางเอกหลุดไปยังอีกมิติ ออกแนวแฟนตาซี แต่ประยุกต์มากไปหน่อยจนนิยายเริ่ม ‘หลุด’ ในจุดต่างๆ เช่นคำพูด พัฒนาการและอุปกรณ์ไฮเทคของโลกเก่า (ขอเรียกแบบนี้แล้วกันค่ะ) ซึ่งมันค่อนข้างผสมปนเปจนกลบกลิ่นอายแบบเมืองโบราณไปอย่างน่าเสียดายค่ะ ซึ่งในจุดนี้หากผู้แต่งสามารถนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสมและ เนียนไปกับเรื่องไม่โดดออกมาแบบนี้ได้จะถือว่านิยายเรื่องนี้มีความสมบูรณ์น่าสนใจมากทีเดียว

แต่คงต้องชื่นชมว่านิยายเรื่องนี้ได้คะแนนความแปลกใหม่แตกต่างจากนิยายในเด็กดีที่พบเห็นได้ทั่วไปอย่างสิ้นเชิงเต็มๆ เลยค่ะ เพียงแต่ควรปรับปรุงในเรื่องความโดดเด่นของโทนเรื่องในแต่ละจุดที่ต่างกันมากเกินไปดังที่กล่าวข้างต้นไว้เท่านั้นเอง


-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: การบรรยายนับว่าเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่โดดเด่นสำหรับนิยายเรื่องนี้ ซึ่งสังเกตได้จากบทบรรยายที่ปรากฏออกมาราวๆ 60-70% ของเนื้อเรื่อง ซึ่งผู้แต่งก็ถือว่าทำการบ้านในเรื่องนี้มาดี มีการให้น้ำหนักการบรรยาย ฉาก เวลา และสถานที่ได้อย่างชัดเจนและเห็นภาพได้ชัด แต่ก็ยังมีจุดแปลกๆ ในการใช้ภาษาที่ผู้แต่งได้นำคำที่สละสลวย-คำที่ออกแนวทางการ-ราชาศัพท์-คำสมัยใหม่ มาใช้ร่วมกันจนบางครั้งแม้แต่ตัวผู้แต่งเองก็เกิดสับสนและ ‘หลุด’ ในด้านการเลือกใช้คำออกมา ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งในรูปประโยคพอสมควร

มากล่าวถึงข้อด้อยของการใช้บทบรรยายเป็นหลักกันบ้าง การที่ผู้แต่งมักนำเสนอฉากต่างๆ ออกมาในรูปการบรรยายมากเกินไป เช่น การบรรยายฉากต่อสู้ในมุมมองของตัวละคร ในช่วงแรกผู้อ่านจะรู้สึกได้ถึงความแปลกใหม่เพราะไม่ค่อยมีคนนิยมใช้การบรรยายในรูปแบบนี้เท่าใดนัก หากแต่มีฉากต่อสู้ออกมาบ่อยขึ้นๆ ก็จะทำให้ความแปลกใหม่ในตอนแรกกลายเป็นความจำเจขาดสีสันและรสชาติไปทันที จุดนี้จึงเป็นการดึงอารมณ์ผู้อ่านให้รู้สึกเฉยๆ อ่านไปเรื่อยๆ ในบัดดล

บทสนทนา: บทสนทนาค่อนข้างลื่นไหลดี แต่ยังมีจุดชวนสะดุดเช่นเดียวกับการบรรยาย ส่งผลให้มีคำสมัยใหม่หลุดมาในบทพูดเป็นบางครั้งบางคราวค่ะ

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: ในด้านคำผิดนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคำผิดที่มาจากการรีบร้อนพิมพ์จนเกิดความผิดพลาดขึ้นค่ะ ซึ่งก็พบได้ประปรายในแต่ละตอน แต่ก็นับว่ายังไม่มากเท่าใด แนะนำให้ผู้แต่งเช็คความเรียบร้อยก่อนลงนิยายค่ะ เพื่อความสมบูรณ์ของตัวนิยายท่านเอง จะได้ไม่ต้องตามแก้ไขไปทุกตอน

คำซ้ำ ในส่วนของคนซ้ำยังพบเห็นในนิยายเรื่องนี้อยู่พอสมควรค่ะ หากอ่านผ่านๆ โดยไม่สังเกตจะไม่ค่อยรู้สึกเท่าใดนัก เช่นในตอนที่ 30 ผู้แต่งใช้คำว่า “กล่าว” ไปคำเดียวเกิน 40 คำเลยทีเดียว ซึ่งมันปรากฏในประโยคที่เป็นบทสนทนาเยอะมาก ในจุดนี้ผู้แต่งควรจะเลือกใช้คำอื่นทดแทนบ้าง เพื่อลดคำซ้ำในนิยายค่ะ

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : ด้านสัญลักษณ์ผู้แต่งค่อนข้างใช้ได้ดี ส่วนที่ต้องควรระวังคือการใช้ปรัศนี (?) ที่ผู้แต่งมักใช้ในประโยคคำถาม ซึ่งไม่จำเป็นต้องใส่ตลอดก็ได้ค่ะเพราะเชื่อว่าผู้อ่านสามารถรับรู้จากรูปประโยคได้อยู่แล้ว อีกประการคือการใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) ที่ในบางตอนนั้น ผู้แต่งใช้มากเกินความจำเป็นค่ะ ซึ่งคำว่ามากในที่นี้หมายถึงการที่คุณศราใช้เพื่อเน้นประโยคให้ดูน่าตกใจมากเกินไป ขอยกตัวอย่างในตอนที่ 10 ค่ะ จะเห็นได้ว่าหากลองสังเกตแล้วจะพบการใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์แทบจะทุกย่อหน้าเลยทีเดียว แถมบางในย่อหน้าก็มีประโยคย่อยๆ ที่ใส่เครื่องหมายนี้ถึงสามจุดในหนึ่งย่อหน้าเลยทีเดียว

ซาวด์เอฟเฟคนี่ปรากฏในเรื่องน้อยมากๆ และมีการใช้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีจึงขอผ่านในจุดนี้ค่ะ


-ตัวละคร

ด้านตัวละครค่อนข้างมีมิติดีค่ะ แต่ขอเน้นที่ตัวหลักๆ ก็คือ ฟ้าหรือเจ้าหญิงขวัญนภาตัวเอกของเรื่องที่มีมิติอย่างแบนๆ (?) โดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยปลื้มฟ้าเท่าไหร่เลยค่ะ สาเหตุมาจากผู้หญิงคนนี้มีแต่มุมมองด้านดีตลอด เป็นห่วงเป็นใย รักเพื่อนพ้อง เสียสละ ส่วนความโดดเด่นในเรื่องอื่นๆ ก็ไม่ชวนไม่ประทับใจเท่าใดนัก ซึ่งข้อมูลอาจจะกระจ่างขึ้นในอนาคตหากผู้แต่งเพิ่มบทบาทที่มาที่ไปอย่างชัดเจนมากกว่านี้

ต่อมาคือนายเอก หนุ่มแว่นผู้ไม่ได้ใส่แว่น ซึ่งมีมิติมาก ด้านบุคลิก ความโดดเด่นน่าประทับใจกินฟ้าขาดค่ะ เพราะนอกจากบุรุษผู้นี้จะเฉลยตัวเองออกมาซะหมดเปลือกแล้ว ยังมีด้านลบด้านบวกอยู่ในตัวอย่างเห็นได้ชัดเชียวค่ะ (ปลื้มเอกเพราะความซึนของนายคนนี้นี่แหละค่ะ ฮา)

ว่ากันต่อที่นายจักร (หรือองค์ชายใหญ่ ซึ่งจะควบตำแหน่งพระเอกหรือไม่ กำลังรอบทเฉลยอยู่เชียวค่ะ) จะบอกว่าตัวละครตัวนี้มีกลิ่นโชยหึ่งๆ มาก แม้จะไม่ได้เปิดตัวออกโรงจริงๆ จังๆ แต่กลับมีอิทธิพลต่อเรื่องขนาดหนัก ด้านบุคลิกและท่าทางลักษณะนิสัย อีกทั้งยังแฝงไปด้วยความลึกลับ (ที่ผู้อ่านสามารถเดาทางกันไปเรื่อยๆ ได้) ทำให้ตัวละครนี้เป็นตัวที่มีมิติมากอีกตัวหนึ่ง

เอื้องคำ ตัวละครนี้น่าสนใจมากค่ะ แม้จะไม่มีบทเลยตั้งแต่จบช่วงแรกมา แต่ด้วยความลึกลับที่ยังคงดำมืดอยู่ทำให้ตัวละครนี้มีเสน่ห์มาก

ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็จัดอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอรัญญาณี จอมพรานหรือมิ้นท์ (ต่ายกับกัซหลบฉากไปเพราะบทน้อย) ผู้แต่งก็สามารถนำเสนอออกมาได้น่าสนใจทั้งสิ้น จึงขอยกนิ้วโป้งให้ในส่วนนี้


-ความสมเหตุสมผล

จุดที่สามารถเห็นได้ชัดคือการรับรู้ของฟ้าในตอนหมดสติช่วงแรกๆ ค่ะ ซึ่งเมื่อผู้แต่งใช้มุมมองของฟ้าในการดำเนินเรื่องด้วยแล้ว ทำให้ฟ้านั้นถือว่ามีการรับรู้เกินขอบเขตมนุษย์ที่พึงทำได้ในทันที หรืออาจเป็นเพราะความจริงเธอไม่ใช่มนุษย์อยู่แล้วถึงได้มีประสาทสัมผัสในการรับรู้มากกว่าคนปกติ ในจุดนี้เป็นหน้าที่ของผู้แต่งต้องสอดแทรกอธิบายรายละเอียดให้คนอ่านเข้าใจค่ะ แม้มันอาจไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อหา แต่ควรหาวิธีอธิบาย เพื่อจะได้ไม่เป็นปัญหาในด้านความสมเหตุสมผลค่ะ

อีกจุดก็คือวิทยาการของโลกปัจจุบันที่ไปมีอิทธิพลในอีกมิติหนึ่ง ซึ่งจะสังเกตเห็นเหล่าวิทยาธร คนธรรพ์ รวมไปถึงเผ่าพันธุ์ต่างๆ ที่เรียกว่าใช้อุปกรณ์ไฮเทคนั้นยังค่อนข้างขาดที่มาที่ไปอยู่บ้าง จึงเป็นอีกจุดที่ผู้แต่งควรให้ความสำคัญในส่วนนี้ด้วยค่ะ


-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง: ในช่วงครึ่งแรกสำหรับการดำเนินเรื่องผ่านมุมมองของฟ้านั้นค่อนข้างเป็นไปอย่างรวดเร็ว กระชับ ลื่นไหล มากค่ะ แต่พอมาถึงมุมมองของเอกกลับรู้สึกว่ามันให้อารมณ์เอื่อยๆ พอสมควรซึ่งเมื่อผ่านไปสองสามตอนก็กลับมาลื่นไหลชวนอ่านได้เรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะผู้แต่งต้องย้อนความในมุมมองของเอกจึงทำให้อารมณ์สะดุดซวนเซไปเล็กน้อยก่อนจะใช้เวลาตั้งหลักได้อีกครั้ง และเมื่อถึงจุดเปลี่ยนมุมมองให้ฟ้าดำเนินเรื่องอีกครั้งก็ยังสามารถคงความลื่นไหลได้ดีในระดับหนึ่ง

ในด้านการดำเนินเรื่องผ่านมุมมองของตัวละครนั้นนับว่ายังมีจุดที่หลุดมุมมองที่สามมาให้เห็นบ้างค่ะ ซึ่งก็ไม่มากจนสังเกตเห็นได้ชัด แต่ก็ควรระวังในด้านการใช้มุมมองด้วยค่ะ

การตัดฉาก บางจุดยังมีการใช้ขีดคั่น ซึ่งโดยมาตรฐานของ สนพ. แล้วสามารถตัดฉากโดยการเว้นบรรทัด 1-2 บรรทัดแล้วขึ้นย่อหน้าใหม่ก็เพียงพอค่ะ

ความสนุกน่าติดตาม: คงต้องบอกว่าในช่วงแรกเซเทคะแนนให้ความน่าติดตามเรื่องนี้หมดใจเลยค่ะ แต่พอเนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหักเหพลิกผันของตัวละครมันก็เกิดอาการแผ่วปลายขึ้นมาดื้อๆ ซะอย่างนั้น แต่ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะการดำเนินเรื่องที่กล่าวไปข้างต้นบวกกับแนวของเรื่องที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันจึงทำให้เกิดการปรับตัวปรับใจยอมรับแนวใหม่ไม่ทัน ทำให้นิยายเรื่องนี้ถูกลดระดับความน่าติดตามไประดับนึงเลยค่ะ แต่จุดที่ยังคงส่งผลให้นิยายเรื่องนี้น่าดึงดูดคือปมปริศนาและปัญหาที่ยังไม่เฉลย ซึ่งมีอิทธิพลชักจูงใจในการติดตามอ่านบทต่อไปมากเลยทีเดียว

-ภาพรวม/สรุป

ในมุมมองของภาพรวมสามารถจัดได้ว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่ ดี และ เด่น เรื่องหนึ่งทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตัวโครงเรื่องที่มีความแปลกใหม่น่าสนใจสำหรับนิยายแนวแฟนตาซี-ผจญภัย ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นไทยอย่างชัดเจน รวมถึงการนำเสนอในรูปแบบที่ค่อนข้างต่างจากนิยายทั่วไป ซึ่งมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียซึ่งผู้แต่งต้องพัฒนาฝีมือเพื่อดึงจุดเด่นให้กลบจุดด้อยให้ได้ค่ะ เซเชื่อว่าคงไม่ยากเกินฝีมือคุณศราแน่ๆ เพราะจากผลงานที่ผ่านมาก็เป็นตัวบ่งชี้ได้อย่างดีอยู่แล้ว ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณศราเขียนงานดีๆ แบบนี้ต่อไปนะคะ
     
 
ใครแต่ง : Adiemus/Log-ON/The Storyteller
1 พ.ค. 56
80 %
18 Votes  
#7 REVIEW
 
เห็นด้วย
17
จาก 17 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 15 ก.ย. 54
เรื่อง : Islue’s Blood บัลลังก์กษัตริย์แห่งอีสลูว์
ผู้วิจารณ์ : ANN

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเป็นธรรมเนียมก่อนว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพนะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง อยากให้คิดเสียว่าการวิจารณ์นี้เป็นการแสดงแง่คิดในมุมมองของนักอ่านคนหนึ่ง ที่เข้ามาอ่านนิยายของท่าน โดยมุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

-โครงเรื่อง

บัลลังก์กษัตริย์แห่งอีสลูว์ เป็นนิยายแฟนตาซีแนวย้อนยุคที่มีกลิ่นอายของสงครามมาตั้งแต่ต้นเรื่องกันเลยทีเดียว เริ่มเรื่องเปิดมากษัตริย์แห่งอีสลูว์ก็ได้มอบหมายหน้าที่สำคัญให้แม่ทัพคู่ใจคือ การพาหัวใจแห่งอีสลูว์หลบหนีไป พร้อมกับการตามหาไดมอนต์แห่งอินดารอส ซึ่งเขาคือผู้ที่จะมากอบกู้ดินแดนคืนจากพวกคนชั่วที่มายึดบ้านเกิดเมืองนอนของพวกตน เรื่องราวต่างๆ จึงได้เริ่มต้นขึ้นผ่านการเดินทางของชาวคณะที่มีทั้งองค์หญิง แม่ทัพใหญ่ พลทหาร และนักโทษแหกคุก(?)

อันที่จริงแนวกษัตริย์ เจ้าชาย เจ้าหญิง อัศวิน ก็มีให้เห็นกันอยู่ร่ำไป ขึ้นอยู่กับว่าผู้แต่งจะดำเนินเรื่องได้น่าสนใจหรือเปล่ามากกว่า ซึ่งการโดนล้มบัลลังก์ การหลบหนี และการกอบกู้อาณาจักรคืน ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าคือพื้นฐานของแนวกษัตริย์เลยก็ว่าได้ ทว่ามีตัวละครตัวหนึ่งที่ท่านเสริมเข้าไปแล้วทำให้นิยายเรื่องนี้ดูแปลก แหวกแนว และไม่เหมือนใครขึ้นมา นั่นคือนักโทษแหกคุกหลวง! ซึ่งไม่รู้ว่าเขามาดีหรือมาร้ายกันแน่ และนั่นทำให้นิยายเรื่องนี้ดูน่าสนใจขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยล่ะค่ะ

ชื่อเรื่อง Islue’s Blood บัลลังก์กษัตริย์แห่งอีสลูว์ ชื่อเรื่องมีความน่าสนใจและน่าดึงดูดใจอยู่พอตัว ที่สำคัญจำง่าย และมีความสัมพันธ์กับโครงเรื่องโดยตรง นับเป็นชื่อเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งเลยค่ะ

การแนะนำเรื่องแบบย่อ ตอนนี้ยังไม่น่าดึงดูดใจผู้อ่านเท่าที่ควร ท่านมีของดีอยู่ในมือแล้ว ทางที่ดีน่าจะใช้จุดขายของมันออกมาให้มากกว่านี้ เพราะในส่วนของการแนะนำเรื่องแบบย่อมันเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้อ่านเกิดความสนใจนิยายของท่าน และคลิกเข้ามาอ่านค่ะ

-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: การบรรยายอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ท่านเลือกใช้การบรรยายได้อย่างเหมาะสม และส่งกลิ่นอายของแฟนตาซีแบบย้อนยุคออกมาเต็มที่ อ่านแล้วนึกภาพตามได้เป็นฉากๆ เลยว่าสถานที่นั้นๆ มีลักษณะเป็นอย่างไร รวมไปถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านด้วย ที่เด่นสุดเห็นจะเป็นฉากต่อสู้ ดูก็รู้ว่าท่านให้ความสำคัญและละเอียดอ่อนกับมันมากขนาดไหน ซึ่งต้องขอชื่นชมกับภาพรวมทั้งหมดดังที่กล่าวไปค่ะ

บทสนทนา: ตัวละครแต่ละตัวมีเอกลักษณ์ในคำพูดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะในหมู่คณะที่ร่วมเดินทางมีฐานะต่างศักดิ์กันอย่างชัดเจน ทำให้เห็นภาพชัดมากเวลาที่คนทั้งหมดพูดคุยกัน หากอ่านจำเพาะแค่บทสนทนาจะรู้ได้เลยว่าประโยคนั้นๆ ผู้พูดมีอุปลักษณ์นิสัยอย่างไร และเลือกใช้คำได้เหมาะสมดีค่ะ

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดมีให้เห็นอยู่บ้างประปรายค่ะ หากไม่อ่านแบบครบทุกตัวอักษรต้องขอบอกเลยว่าแทบหาไม่เจอเลย เห็นได้ชัดว่าผู้แต่งให้ความใส่ใจกับเรื่องนี้มาก การใช้คำก็ไม่มีปัญหาค่ะ ใช้ได้ถูกต้องและเหมาะสมดี อันนี้ไม่มีปัญหาค่ะ

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : เรื่องสัญลักษณ์และซาวด์เอฟเฟคท่านควบคุมสองเรื่องนี้ได้ดีอยู่แล้ว แต่อยากให้ระวังในส่วนของการใช้สัญลักษณ์ … เพิ่มสักเล็กน้อยค่ะ เท่าที่เห็น มีการใช้สัญลักษณ์นี้อยู่เยอะพอสมควร มันไม่ได้มีเยอะจนทำให้เสียอรรถรสในการอ่าน แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าท่อนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ ก็อย่าใส่มันจะดีกว่าค่ะ

-ตัวละคร

ตัวละครต้องขอบอกเลยว่ามีมิติและมีบุคลิคชัดเจนมาก ในฐานะเชื้อพระวงศ์ท่านก็จัดการได้ดีมาก ทั้งกษัตริย์แห่งอีสลูว์ที่โผล่มาในตอนแรก รวมไปถึงองค์หญิงที่เป็นหัวใจของอีสลูว์ ในส่วนของแม่ทัพและพลทหารก็จัดการได้ดี เห็นได้ชัดถึงความจงรักภัคดีและทัศนคติในแง่มุมที่แตกต่างไปจากคนธรรมดา จะมีก็แต่นักโทษแหกคุกที่ร่วมขบวนไปด้วยนี่แหละที่ออกมาแบบคาดเดาได้ยาก แต่ท่านก็จัดการได้ดี เพราะเสน่ห์ของตัวละครนี้แพรวพราวเสียจนฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว ดังนั้นต้องระวังให้มาก เพราะตัวเอกซึ่งก็คือองค์หญิงอิลญ่าอาจจะถูกรัศมีของนักโทษนามลูซกลบเอาได้ค่ะ

-ความสมเหตุสมผล

ทุกฉากทุกสถานการณ์ดำเนินไปอย่างมีเหตุมีผลรองรับตลอด ต้องขอชื่นชมเลยว่าท่านวางโครงเรื่องไว้ได้ดีมาก โดยภาพรวมแล้วเอาเป็นว่าผ่านฉลุยค่ะ

-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็ว ลุ้นระทึกตั้งแต่บทแรกยันบทล่าสุดเลยทีเดียว ภาษาและสำนวนที่ใช้กระชับและลื่นไหลมาก การตัดฉากทำได้ดี แต่ต้องระวังเรื่องบทอิลญ่าให้มากด้วยค่ะ

ความสนุกน่าติดตาม: แรกเริ่มอ่านแล้วหลงใหลในภาษาและสำนวนที่ใช้ แต่อ่านๆ ไปไม่อยากเชื่อเลยว่านิยายเรื่องนี้จะรั่วได้ ซึ่งหลังจากนั้นความน่าติดตามก็พุ่งกระฉูดแบบฉุดไม่อยู่อีกแล้ว ผู้แต่งขยันตบมุขเรียกรอยยิ้ม ซึ่งนับว่าทำได้ดีและไม่มากจนฐานะเจ้าหญิงถูกมองติดลบ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คาดเดาตอนต่อไปได้ยาก เพราะมีความพลิกแพลงอยู่ตลอดเวลาทำให้คนอ่านเดามั่วแล้วมั่วอีก นับว่าเป็นสีสันอีกอย่างที่ทำให้เรื่องนี้น่าติดตามยิ่งขึ้นค่ะ

-ภาพรวม/สรุป

ภาพรวมของเรื่องนี้ไม่มีปัญหาค่ะ อ่านง่าย ภาษาสวย สำนวนดี และมีตบมุขให้ได้ขำเล่นอีก ทั้งบทการบรรยายและบทสนทนาก็ทำได้ดี โดยเฉพาะฉากต่อสู้ที่แม้จะไม่มีเวทมนต์เข้ามาช่วยแต่ก็ยังกุมความน่าสนใจไว้อย่างอย่างดีเยี่ยม ปมปริศนาแม้มีไม่มาก แต่ทิศทางการคาดเดาต้องยอมรับเลยว่าท่านทำได้ดีมาก สุดท้าย...เนื้อเรื่องดำเนินมาถึงตอนสำคัญแล้ว ขอให้ท่านอย่าย่อท้อ และเพียรตั้งใจแต่งมันให้จบนะคะ เรื่องนี้จัดว่าเป็นนิยายที่ดีแล้ว ขอให้ท่านพยายามต่อไป ขยันอัพนิยายอย่างสม่ำเสมอ แล้วฝันของท่านจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ

นิยายเรื่องนี้ ขอการันตีว่าไม่ควรพลาด แล้วคุณจะหลงรักคู่พระนางเรื่องนี้ไปพร้อมๆ กับ ANN!
     
 
ใครแต่ง : makok_num/ Martian
9 ส.ค. 58
80 %
13 Votes  
#8 REVIEW
 
เห็นด้วย
15
จาก 15 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 17 ก.ย. 54
เรื่อง : Change to boyfriend เปลี่ยนเพื่อนตัวร้าย ให้กลายเป็น (ที่) รัก
ผู้วิจารณ์ : SEI

ก่อนอื่นขอออกตัวเป็นธรรมเนียมว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เพราะฉะนั้นยังอาจวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง และมันก็ยังเป็นภาษาสไตล์การวิจารณ์ง่ายๆ ของเราที่มุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ


-โครงเรื่อง

โครงเรื่องนับว่ายังไม่ถือว่าแปลกใหม่ค่ะ อารมณ์ออกแนวรักเพื่อนสนิท คนใกล้ตัว จุดที่น่าสนใจที่ทำให้นิยายเรื่องนี้ไม่เป็นนิยายธรรมดาที่พบเห็นเกลื่อนกลาดไปก็คือ การที่นางเอกของเราซึ่งมีเพื่อนซี้แสนสนิทที่วันดีคืนดีก็มองว่าเพื่อนหนุ่มของเรานั้นมันก็มีส่วนดีๆ กับเค้าเหมือนกัน จนเริ่มที่จะเกิดความรู้สึกแปลกใหม่ที่เรียกว่า “หวั่นไหว” ขึ้นมา

ขอบอกตามตรงว่าจุดที่เซอ่านแล้วเกิดความรู้สึกชอบเป็นพิเศษก็คือ นิยายเรื่องนี้แตกต่างจากนิยายแนวรักเพื่อนสนิทปกติทั่วไปค่ะ ซึ่งมันอาจจะมีสาเหตุมาจากการที่ไม่ได้ขายฉากหวานประทับใจจนเลี่ยน หรือเล่นบทโศกเศร้าเคล้าน้ำตา บวกกับความรู้สึกที่ว่าทั้งสองคนมีการแสดงออกและบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นเพื่อนรักกันจริงๆ ในตอนแรก (หรืออย่างน้อยในความคิดของนางเอก) ซึ่งมันเป็นมุมมองที่น่าสนใจมากค่ะ น้อยเรื่องนักที่จะนำพล็อตแบบนี้มาเป็นธีมของเรื่อง แตกต่างจากนิยายปกติที่นางเอกแอบรักพระเอกข้างเดียว คู่กัดคู่กรรมชวนทะเลาะแบบลิ้นกับฟัน หรือพวกแอบรักแล้วมาทำเป็นปากแข็งไม่ยอมรับ (หรือที่เรียกว่าซึนเดเระ) และยังมีอีกหลายๆ แนวในกรณีคล้ายๆ กัน ซึ่งบอกได้เลยว่ามันเป็นแนวเรื่องธรรมดาที่จืดชืดมาก โชคดีแล้วค่ะที่ท่านไม่ได้เลือกหลายๆ สาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นธีมดำเนินเรื่องเพราะจะทำให้นิยายดูไม่น่าสนใจทันที

ด้วยความที่นิยายเรื่องนี้ยังมีจำนวนตอนไม่มาก ในด้านของเนื้อหาก็ยังถือว่าอยู่ในช่วงปูเรื่องก่อนจะชักนำเข้าสู่ปมปัญหาอย่างแท้จริง แน่นอนค่ะว่าทิศทางทางๆ จึงยังไม่ชัดเจนนัก ซึ่งมันก็ไม่น่าเป็นปัญหาเมื่อมีการลงเนื้อหาส่วนที่เหลือตามมา ที่เหลือก็คือผู้แต่งจะชักนำเรื่องไปในทิศทางใดและจะงัดไม้ไหนมาทำให้คนทั้งคู่เกิดความรู้สึกว่า ‘ใจตรงกัน’ ก็คงต้องรอติดตามกันต่อไปค่ะ

ประการสุดท้ายคงต้องชมว่า ชื่อเรื่อง Change to boyfriend เปลี่ยนเพื่อนตัวร้าย ให้กลายเป็น (ที่) รัก ตรงกับประเด็นหลักของเรื่องมาก ในด้านเกริ่นเรื่องก็ถือว่าทำได้ดี บทนำก็ใช้ได้ ติดแต่ตรงแนะนำเรื่องย่อนี่ถ้าแก้ไขให้ดีกว่านี้จะเป็นที่สนใจของนักอ่านได้ไม่ยากค่ะ


-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: การบรรยายจัดว่าดีเลยค่ะ มีการเลือกใช้คำหรือประโยคบรรยายไม่ยาวนักแต่ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนโดยรวมทั้งหมด คงต้องบอกว่าการใช้อิโมเพิ่มเติมแทบจะไม่จำเป็นสำหรับนิยายเรื่องนี้เลย เพราะรูปประโยคมันแสดงความชัดเจนในเรื่องต่างๆ ได้ดีอยู่แล้ว (ยกเว้นแต่บทบรรยายของรันโซ นี่คงขาดไม่ได้จริงๆ )

บทสนทนา: มีความลื่นไหล และเป็นธรรมชาติดีมาก ทำให้สามารถเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้ดีเยี่ยมเชียวละค่ะ

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดมีน้อยมากจนขนาดที่ถ้าไม่สังเกตให้ละเอียดถี่ถ้วนนี่รับรองว่าไม่มีทางหาเจอเลยค่ะ การหลากคำก็สามารถใช้ได้ดีมาก ยอมรับว่าผู้แต่งสามารถใช้คำต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมทีเดียวค่ะ

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : เป็นอีกจุดที่คิดว่าผู้แต่งสามารถใช้สัญลักษณ์ได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ มีแค่บางจุดที่ใส่อัศเจรีย์ (!) ย้ำไปหน่อย แต่ก็ไม่มากพอจะทำให้เสียอรรถรสและเป็นที่สังเกตได้ค่ะ


-ตัวละคร

ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ตัวละครทั้งน้ำอบและฮาล์ฟ ถือว่ามีจุดเด่นบ้างแต่ยังไม่ค่อยดึงดูดใจเท่าใดนัก ซึ่งต่างจากรันโซที่ถือว่าเป็นตัวละครที่มีมิติมาก เพราะมีเอกลักษณ์ อารมณ์ ความชัดเจนในเรื่องต่างๆ นั้นอย่างเห็นได้ชัด ในจุดนี้หากผู้แต่งควบคุมความโดดเด่นของตัวละครไม่ได้ คงต้องบอกเลยว่าคู่พระ-นางอาจโดนข่มเอาได้ง่ายๆ โดยเฉพาะปกติบทพระรองก็มักจะเป็นตัวละครที่บรรดาแม่ยกทั้งหลายปลาบปลื้มเป็นพิเศษอยู่แล้ว จึงต้องระวังเป็นพิเศษค่ะ


-ความสมเหตุสมผล

สามารถใช้สถานการณ์สร้างความสมเหตุสมผลในเนื้อเรื่องได้ดี ทำให้เข้าใจว่าทำไมนางเอกถึงไม่อยากกลับไปอยู่บ้านป้าหากไม่สิ้นไร้ไม้ตอกจริงๆ ภาพรวมแล้วยังไม่ค่อยมีการดำเนินเรื่องที่ขัดต่อความสมเหตุสมผลนัก จุดที่เอะใจก็คือฉากที่ใช้ดำเนินเรื่องทั้งหมดแทบจะไม่มีเนื้อหาภายในช่วงที่เรียนในมหาวิทยาลัยเลย ส่วนใหญ่มักเป็นฉากที่เกิดภายนอกมากกว่า


-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง: มีการดำเนินเนื้อเรื่องได้ไว กระชับได้ใจความดีค่ะ ทำให้เกิดความรู้สึกที่อยากจะรู้ถึงเนื้อหาตอนต่อๆ ไปได้อย่างไม่ยาก ด้านการตัดฉากก็คือว่าสามารถทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยจ้า

ความสนุกน่าติดตาม: ความสนุกของนิยายเรื่องนี้ส่วนหนึ่งมาจากเนื้อเรื่องที่มีสีสันน่าประทับใจ อีกส่วนก็เป็นเพราะการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วในระดับหนึ่งช่วยทำให้นิยายน่าติดตามและชวนกดอ่านต่อไปเรื่อยๆ

แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าความสนุกจริงๆ กำลังจะเริ่มหลังจากนี้มากกว่า เพราะใกล้ถึงช่วงที่ปมปัญหาต่างๆ ของเรื่องเริ่มจะมีบทบาทขึ้น อีกประการหนึ่งก็คือการที่คู่พระ-นางชักเริ่มหวั่นไหวลึกๆ กันแล้วนี่ล่ะค่ะ


-ภาพรวม/สรุป

นิยายเรื่อง Change to boyfriend เปลี่ยนเพื่อนตัวร้าย ให้กลายเป็น (ที่) รัก เป็นนิยายที่มีสีสันโดดเด่นเรื่องหนึ่ง คุณจะเพลิดเพลินไปกับคู่พระ-นาง ที่มันไม่ได้มีความหวานกันเลยสักนิด (?) และพระรองที่น่ารักกับบุคลิกชวนงงทุกอิริยาบถจนคุณไม่สามารถปฏิเสธได้ ข้อแนะนำ.นิยายเรื่องนี้จะน่าติดตามมากขึ้นหากผู้แต่งหมั่นขยันลงบทความอย่างสม่ำเสมอ
     
 
ใครแต่ง : - + Shadow Priest + -
5 ก.พ. 55
80 %
6 Votes  
#9 REVIEW
 
เห็นด้วย
15
จาก 15 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 19 ก.ย. 54

เรื่อง : Braward : The Return of The Black Prarl
ผู้วิจารณ์ : ANN

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเป็นธรรมเนียมก่อนว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพนะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง อยากให้คิดเสียว่าการวิจารณ์นี้เป็นการแสดงแง่คิดในมุมมองของนักอ่านคนหนึ่ง ที่เข้ามาอ่านนิยายของท่าน โดยมุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

ตอนล่าสุดที่อ่าน : ตอนที่ 5 – Chapter 3

-โครงเรื่อง

เด็กหนุ่มนาม บากิอุส อองโคนีล พลทหารผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์จากการปะทะกับกลุ่มกบฏนับหมื่น เขาถูกชื่นชม และถูกยกย่องในความเก่งกล้า ทว่าความทรงจำในระหว่างนั้นกลับสูญหายไป โดยที่บากิเองก็ไม่ทราบว่ามันเกิดขึ้นเพราะเหตุใด ทั้งนี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับหินชนิดหนึ่งที่ถูกเรียกว่า ‘อัญมณีแห่งอำนาจ’ หินสีสวยล้ำค่าที่มีอำนาจประหลาดคอยชักจูงมนุษย์ให้ลุ่มหลงในกิเลสอย่างยากจะหลีกเลี่ยงได้

ชื่อเรื่อง – Braward : The Return of The Black Prarl – ชื่อเรื่องจัดได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักอ่านจดจำนิยายของคุณได้ ทว่าชื่อที่ใช้อยู่ตอนนี้ยังไม่มีความน่าสนใจเท่าที่ควร บวกกับเป็นภาษาอังกฤษล้วน ทำให้หลายๆ คนอาจมองข้ามนิยายเรื่องนี้ไปได้ค่ะ แนะนำว่าให้มีชื่อภาษาไทยด้วยจะดีกว่า

แนะนำเรื่องแบบย่อๆ – ตอนนี้อ่านแล้วยังเฉยๆ ค่ะ ไม่ได้ดี ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ดึงดูดเท่าที่ควร

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่อง – แนะนำได้น่าสนใจดีค่ะ ถือว่าครอบคลุมเนื้อหาโดยรวมดี น่าจะเว้นบรรทัด และเว้นวรรคให้ดูน่าอ่านกว่านี้อีกสักเล็กน้อย ตอนนี้ตัวหนังสือมันติดๆ กันไปหน่อย คิดว่าถ้าจัดระเบียบอีกนิดจะทำให้ดูน่าอ่านขึ้นค่ะ

-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: ใช้คำบรรยายได้ดี อ่านแล้วลื่นไหล ภาษาสวย อ่านง่าย และไม่สะดุดเลยค่ะ ด้านฉาก สถานที่ เวลา ตัวละคร ทุกอย่างลงตัวมาก เห็นภาพตามได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ

บทสนทนา: บทสนทนาในเรื่องนับว่ามีส่วนทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามขึ้นอย่างมาก เพราะจากการบรรยายอย่างเดียวที่เน้นไปทางภาษาสละสลวย ทำให้เนื้อเรื่องดูราบเรียบเป็นโทนเดียว เมื่อมีบทสนทนาเข้ามา เรียกได้ว่ามาช่วยกลบตรงจุดนั้น และเสริมให้นิยายชวนอ่านมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดแทบหาไม่เจอ แสดงว่าเก็บค่อนข้างละเอียดและให้ความสำคัญกับนิยายตัวเองมาก มีพิมผิด พิมตก พิมหล่นบ้าง แต่ไม่ทำให้เสียอรรถรสในการอ่านค่ะ มีเก็บมาให้เล็กน้อย เช่นคำว่า อ่อล้น=เอ่อล้น / อยู่กลับที่=อยู่กับที่ / เคราะร้าย=เคราะห์ร้าย / หน่อยเส่=หน่อยเซ่ / ปฏิกริยา=ปฏิกิริยา / ถุก=ถูก / สเบียง=เสบียง ที่เห็นก็มีเท่านี้มั้งคะ เราก็ไม่ได้เก็บละเอียดมาก ส่วนการใช้คำที่เหลือโดยรวมเรียกได้ว่าไม่มีปัญหาค่ะ ท่านใช้คำได้ดี และเหมาะสมอยู่แล้ว

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : สัญลักษณ์อยากให้ระวังเรื่องจุดไข่ปลาค่ะ (...) แนะนำว่าใช้แค่ 3 จุดก็พอ ในท่อนโฆษกนี่ยาวเกินไปหน่อยค่ะ ส่วนซาวด์เอฟเฟคโดยรวมก็ไม่มีปัญหา มีบางตรงเสียงร้องของคน เช่น “หะ เห้ย บากิ!!” มันดูทื่อไปนิดค่ะ ลองใช้จุดๆ เข้าช่วย “หะ...เห้ย! บากิ!!” อะไรอย่างนี้ดูนะคะ เผื่อจะทำให้มันสื่ออารมณ์ได้มากยิ่งขึ้นค่ะ

-ตัวละคร

บากิ ตัวละครหลัก จากที่อ่านไป 5 ตอน ก็ยังจับคาแรคเตอร์เขาไม่ค่อยได้ค่ะ ไม่รู้เขาเป็นคนกล้าหาญ หรือขี้ขลาดกันแน่ ทั้งนี้เพราะการบรรยายในช่วงแรกๆ รู้สึกเขาเหมือนคนกล้า แต่พอเจอแพทย์หญิงกับพระราชาเข้าให้ ดูกลายเป็นคนขี้กลัวขึ้นมาทันตา แล้วพอเข้าสู่สนามประลอง กลับดูเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ ซึ่งตอนนี้อ่านแล้วรู้สึกมันยังตีกันเองอยู่พอควรค่ะ หรือเป็นเพราะแรงกดดันที่ถูกตัวละครสองตัวนั้นกดจนมีลักษณะเช่นนั้นออกมา (อันนี้ก็ได้แต่สงสัยค่ะ)

ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็อยู่ในเกณฐ์ดีค่ะ ไม่มีปัญหา อาจเป็นเพราะยังไม่เห็นภาพรวมมากที่ควรก็ได้

-ความสมเหตุสมผล

เนื้อเรื่องตั้งแต่แรกอ่านแล้วรู้เลยว่าวางโครงมาดี อ่านแล้วรู้สึกเหมือนกำลังอ่านตำนานสักเรื่องอยู่เลยค่ะ แต่ต้องระวังเล็กน้อย หลังๆ มีการให้เนื้อเรื่องพวกนี้เพิ่มเติมมาเรื่อยๆ นั่นทำให้คนอ่านสับสนพอควรว่าเรื่องนั้นมันมาจากไหนบ้าง เพราะทุกคนยังติดภาพเรื่องหินที่กล่าวไว้ในบทนำอยู่ค่ะ

เรื่องพระราชาทำการขอโทษบากิในท้องพระโรง อันนี้ดูไม่ค่อยน่าเป็นไปได้เท่าไหร่ค่ะ ในฐานะคนเป็นกษัตริย์ด้วยแล้ว แถมยังต่อหน้าขุนนางและคนอื่นๆ อีก อันนี้อ่านเสร็จแล้วรู้สึกขัดแย้งขึ้นมาเลยทีเดียว คาดว่าน่าจะเป็นการกลั่นแกล้งขององค์กษัตริย์เขา ว่าไงดีล่ะ อ่านแล้วให้ความรู้สึกเหลือเชื่อมากๆ เลยค่ะ

-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม
การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเนื้อเรื่องเหมือนเอาตำนานมาเล่าขาน อ่านแล้วชวนให้ติดตาม แต่ต้องระวังในเรื่องของโทนเนื้อเรื่องด้วยค่ะ คือตอนนี้อ่านไปแล้วมันรู้สึกราบเรียบแบบเป็นเส้นตรงเลย จะรู้สึกหวือหวาขึ้นบ้างตอนมีบทสนทนาเข้ามาแทรกค่ะ

ความสนุกน่าติดตาม: หากคนชอบภาษาสละสลวย นับว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าแนะนำให้อ่านต่อเลยทีเดียว แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ความรู้สึกเวลาอ่านมันเป็นโทนราบเรียบไปหน่อย เลยชวนให้อ่านแล้วเคลิ้มมากกว่าน่าติดตามค่ะ

-ภาพรวม/สรุป

โครงเรื่องน่าสนใจ เนื้อหา+ภาษาที่ใช้อยู่ในเกณฑ์ดีมาก ที่เหลือคือการทำอย่างไรให้เนื้อเรื่องไม่เรียบนิ่งจนเกินไป เนื่องจากเนื้อหาเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น ทำให้ยังไม่เห็นภาพนัก แต่จากที่ดูโดยรวมแล้วคาดว่าผู้เขียนคงมีพัฒนาการได้ดีกว่านี้ เนื้อเรื่องเริ่มมีฉากต่อสู้แล้ว อาจทำให้เนื้อเรื่องในภายหลังมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ดังนั้นขอให้พยายามต่อไป ลงนิยายให้สม่ำเสมอ และคิดชื่อตอนแต่ละตอนด้วยจะดีมากค่ะ ตอนนี้มาแบบเป็น Chapter เห็นแล้วไม่ชวนคลิกอ่านเท่าไหร่นัก ถ้าระบุเป็นตอนๆ ไปเลย น่าจะทำให้นิยายมีความน่าสนใจขึ้นค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ในฐานะนักอ่านคนหนึ่งของท่านค่ะ :)

     
 
ใครแต่ง : _NJ_
21 ก.ค. 57
80 %
44 Votes  
#10 REVIEW
 
เห็นด้วย
14
จาก 15 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 21 ก.ย. 54
เรื่อง : My B friend สะกดหัวใจ เติมรักที่หายไป มอบให้นายเพื่อนสนิท
ผู้วิจารณ์ : SEI

ก่อนอื่นขอออกตัวเป็นธรรมเนียมว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เพราะฉะนั้นยังอาจวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง และมันก็ยังเป็นภาษาสไตล์การวิจารณ์ง่ายๆ ของเราที่มุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ


-โครงเรื่อง

นิยายเรื่อง My B friend สะกดหัวใจ เติมรักที่หายไป มอบให้นายเพื่อนสนิท นั้นเป็นนิยายรักหวานแหวววัยรุ่นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีธีมเรื่องหลักๆ คือการแอบหลงรักเพื่อนสนิทของตัวเอง ในจุดนี้คงต้องบอกว่ามันเป็นโทนเรื่องค่อนข้างสำเร็จรูปสำหรับนิยายแนวเดียวกันเลยล่ะค่ะ จึงไม่มีความแปลกใหม่เท่าใดนัก

เท่าที่อ่านมา ดูเหมือนเรื่องนี้อาจจะเป็นนิยายเรื่องแรกในการแต่งนิยายของท่าน จึงมีข้อผิดพลาดหลายประการ โดยเฉพาะตัวโครงเรื่องค่ะ จากการอ่านนิยายของท่านตั้งแต่ต้นจนจบก็พบว่าโครงเรื่องและเนื้อหาดูค่อนข้างจะสะเปะสะปะพอสมควร คล้ายกับหยิบยกเฉพาะจุดที่ตนเองสนใจมาเขียนลงในนิยาย ทำให้สามารถรู้ได้ทันทีว่าผู้แต่งไม่ได้วางโครงเรื่องไว้ตั้งแต่แรกซึ่งมันทำให้ส่วนของเนื้อเรื่องดูค่อนข้างเคว้งคว้างไร้ทิศทาง หาจุดสำคัญของนิยายเรื่องนี้ไม่เจอค่ะ แน่นอนว่าการที่ท่านไม่ได้วางโครงเรื่องเอาไว้ค่อนข้างส่งผลต่อผู้อ่านอย่างมากทีเดียวเพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเนื้อหาจะเป็นอย่างไรต่อไป จะออกทะเลหรือไม่? ผู้อ่านก็ไม่มีทางรู้ได้เลย

ความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ คงต้องยอมรับจริงๆ ว่าเซไม่ค่อยประทับใจในตัวเนื้อเรื่องของนิยายท่านเท่าใดนัก สืบเนื่องมาจากเนื้อหาที่ท่านนำเสนอค่อนข้างสื่อถึงความรุนแรงแบบไม่ค่อยมีเหตุผลของตัวละคร ซึ่งมันทำให้ความประทับใจในนิยายของท่านลดลงไปกึ่งหนึ่งเลยทีเดียว แต่หากอ่านในแง่สบายๆ เชิงสนุกก็คิดว่ายังพอโอเคอยู่ค่ะ


-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: การบรรยายรายละเอียด ฉาก เวลา สถานที่ สามจุดนี้แทบจะไม่ปรากฏเลยในนิยายเรื่องนี้ค่ะ ซึ่งต้องบอกเลยว่ามันทำให้นิยายของท่านขาดความสมบูรณ์มาก ทำให้นิยายเรื่องนี้ขาดจินตนาการในการชักนำเนื้อเรื่องให้ผู้อ่านนึกภาพตามพอสมควร อยากให้ผู้แต่งเล็งเห็นถึงความสำคัญในการบรรยายทั้งสามจุดนี้ด้วยค่ะ

การตัดฉาก ยังถือว่าทำได้ไม่ดีค่ะ เพราะเกือบทุกครั้งที่ผู้แต่งตัดฉาก หรือเปลี่ยนฉากใหม่ จะใช้คำว่า ณ…(ตามด้วยสถานที่) ตลอด ซึ่งมันทำให้รู้สึกถึงความซ้ำซ้อนและขาดความหลากหลายในการนำเสนอมากค่ะ ข้อแนะนำก็คือควรใช้การเว้นบรรทัดซักสองบรรทัดแล้วนำการบรรยายฉากสถานที่หรือเหตุการณ์ต่างๆ เข้ามาช่วยจะทำให้ลดความซ้ำซ้อนได้มากขึ้นค่ะ

บทสนทนา: บทสนทนายังมีหลายจุดที่ดูเกร็งๆ ไม่เป็นธรรมชาติค่ะ อีกประการก็คือนิยายเรื่องนี้มีบทสนทนาเยอะเกินไป ซึ่งหากดูภาพรวมแล้วการดำเนินเรื่องทั้งหมดแทบจะใช้บทสนทนาเกือบทั้งหมดทีเดียว ทำให้ตัวนิยายนั้นดูไม่สมบูรณ์ และขาดความสมดุลอยู่มาก ผู้แต่งจึงควรลดการใช้บทสนทนาลงแล้วควรเพิ่มบทบรรยายให้นิยายบ้างเพื่อเสริมให้ได้อรรถรสของเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดยังมีการใช้คำไม่ถูกต้องเช่น คะ-ค่ะ/พึ่ง-เพิ่ง/ง้วน-ง่วน ส่วนใหญ่จะเป็นคำที่ผู้แต่งใช้ผิด หรือเป็นคำที่พิมพ์ผิดจากการเล่นเสียงวรรณยุกต์ค่ะ เช่น จะ-จ่ะ,คะ-ค่ะ

:::ข้อแนะนำ หากต้องการเน้นคำเป็นพิเศษ ใช้แค่ตัวหนาก็พอค่ะ เพราะการเปลี่ยนไซส์ของตัวอักษรนั้นทำให้เนื้อเรื่องดูไม่เป็นระเบียบเท่าใดนัก และบางประโยคผู้แต่งก็เน้นพร่ำพรื่อเกินไปนิดค่ะ:::

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : ด้านการใช้อัศเจรีย์ (!) ค่อนข้างใช้เยอะเกินความจำเป็นค่ะ ควรระวังในการใช้ด้วยนะ / จุดไข่ปลา (…) ใส่แค่สามจุดพอค่ะ ซึ่งในส่วนของสัญลักษณ์นี้พบเป็นบางตอนเท่านั้น เข้าใจว่าผู้แต่งพยายามสื่อถึงอารมณ์ในบางประโยคแต่ละตอนนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วใส่สามจุดก็พอค่ะเชื่อว่าผู้อ่านจะสามารถรับรู้และเข้าใจได้เอง

ซาวด์เอฟเฟค คงต้องบอกว่านิยายของท่านมีการใช้ซาวด์เอฟเฟคแปลกๆ พอสมควร สืบเนื่องจากมีการใช้ในประโยคที่พิมพ์ยาว รวบรัดไปกับเนื้อหาเลย ซึ่งมันทำให้การสื่อถึงเหตุการณ์หรืออารมณ์นั้นขาดความโดดเด่นและไม่น่าสนใจ สื่ออารมณ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร

การใส่อีโมติคอน ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ยกเรื่องนี้มาแนะนำเพราะเห็นว่า ในการใช้อีโมติคอนนั้น ส่งผลระทบในเนื้อเรื่องพอสมควรค่ะ จุดที่เห็นชัดเจนเลยก็คือการใส่อีโมนี้ในฉากอารมณ์ค่ะ จากอารมณ์ที่ผู้แต่งต้องการให้คนอ่านรู้สึกเศร้าอินไปกับเนื้อเรื่องแต่เมื่อใส่อีโมหลังคำพูด ทำให้แทนที่เนื้อเรื่องที่สมควรต้องดึงอารมณ์ให้เศร้ากลับกลายเป็นว่าอีโมติคอนนั้นทำให้อารมณ์ที่ผู้แต่งพยายามส่งมาชะงักค้างเติ่งหายซีเรียสทันตาเห็นเลยค่ะ

การเว้นบรรทัด เว้นวรรค จัดย่อหน้า ทั้งสามส่วนนี้ยังถือว่าบกพร่องอยู่ค่ะ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคิดว่ามันค่อนข้างมีผลต่อความอยากอ่านนิยายเรื่องหนึ่งทีเดียว หากลองแก้ไขในส่วนนี้คิดว่านิยายเรื่องนี้จะน่าติดตามอีกมาก


-ตัวละคร

ด้านตัวละครคงต้องบอกว่ายังไม่มีมิติเท่าใดนัก ขาดความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ชวนให้น่าสนใจเป็นพิเศษ ยิ่งตัวละครหลักอย่างเจเจและฟาร์บนี่ควรต้องน่าดึงดูดใจผู้อ่านมากๆ เพราะเป็นตัวเอกของเรื่อง แต่กลับกลืนไปกับตัวละครอื่นหมดเลยค่ะ โดยเฉพาะนิยายของท่านที่ถือว่าตัวละครมีเยอะมาก ทั้งกลุ่มของนางเอก กลุ่มของพระเอก ตัวละครในชมรมบาส กลุ่มศัตรูอย่างซิลเวอร์ ฯลฯ และยังไม่รวมถึงตัวละครอื่นที่กำลังจะทยอยกันออกมาอีกค่ะ ซึ่งมันทำให้เกิดความงุนงงสับสนกับตัวละครมาก ในจุดนี้ท่านควรต้องจัดการบริหารตัวละครดีๆ ค่ะ เพราะหากเยอะแบบนี้นอกจากจะทำให้ผู้อ่านงุนงงแล้ว ก็ยังทำให้ตัวละครแต่ละตัวข่มกันเองด้วยค่ะ


-ความสมเหตุสมผล

ในเรื่องของความสมเหตุสมผลนั้น ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอยู่มากค่ะ เช่น ในตอนที่ปาร์ตี้เอาส้อมมาแทง(?)เจเจ แต่ชินยะมาขวางไว้ โดยปกติส้อมมันไม่แหลมมากหรอกค่ะ ออกจะทื่อๆ ซะด้วยซ้ำ ซึ่งมันต้องออกแรงมากจริงๆ ส้อมถึงจะไปปักในเนื้อเป็นแผลได้ และด้วยสาเหตุนั้นทำไมปาร์ตี้ที่เป็นคนทำร้ายทำไมถึงยังทำเหมือนมันเป็นเรื่องเล่นๆ จุดนี้อ่านแล้วขัดใจอยู่พอควรเลยค่ะ อีกอย่างก็คือการที่นักเรียนมีการลงไม้ลงไม้กันขนาดที่เลือดตกยางออกนี่ยังไงก็ไม่ควรรอดพ้นจากสายตาของอาจารย์แน่ๆ ค่ะ แต่นี่กลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย อาจารย์หายไปไหนกันหมด? อีกจุดคืออาจารย์ห้องพยาบาลค่ะ บาดแผลก็เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเป็นรอยสี่รอยระยะห่างเท่าๆ กัน ฟังแก้ตัวว่าเป็นแผลจากไปเกี่ยวกิ่งไม้นี่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย โดยเฉพาะการที่จะเป็นอาจารย์ประจำห้องพยาบาลก็ต้องมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องบาดแผลอยู่แล้วล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นในจุดนี้ยังถือว่าขาดความสมจริงอยู่มาก

อีกฉากก็คือตอนที่เจเจถูกบรรดาสามสาวเล่นงานในการทดสอบเป็นผู้จัดการทีมบาส ประเด็นแรกคือไม่เข้าใจอย่างแรงว่ามูลเหตุที่ทำให้ทั้งสามสาวต้องทำถึงขนาดนี้เพื่อเข้าชมรมบาสคืออะไร? ถึงขนาดมีแค้นกัน ยอมจ่ายเงินให้เจเจยอมแพ้การแข่งขันนี่มันชวนงงจริงๆ ค่ะ หรือจะเป็นเพราะสาเหตุที่มีชมรมบาสมีแต่หนุ่มหล่อ? แต่ทำกันถึงขนาดนี้มันก็ดูไม่สมเหตุสมผลอยู่ดีล่ะค่ะ

ในด้านของตัวละครก็ขาดความสมเหตุสมผลเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้หรือสามสาวกลุ่มคิงคองก็ดี ทั้งสองกลุ่มนี้ค่อนข้างอารมณ์ร้ายมากเกินไป ตัวปาร์ตี้เองเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรกับชินยะเลยแต่ทำไมถึงกล้าแสดงออกวางอำนาจเหมือนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบนั้น ส่วนสามสาวกลุ่มคิงคองก็ดังที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ พวกเธอมีเหตุผลอะไรถึงต้องการชนะการทดสอบขนาดนั้น จึงเป็นเรื่องที่ผู้แต่งต้องให้ความสำคัญในการให้รายละเอียดพวกนี้อยู่พอสมควรเชียวละค่ะ


-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง: แม้ว่าจากการอ่านดูเหมือนว่าผู้แต่งจะดำเนินเรื่องในทิศทางที่ดูเหมือนจะเร็ว แต่หากสังเกตจากเนื้อหาของแต่ละบทที่ค่อนข้างจะไม่ขยับไปไหนเลยจึงต้องบอกว่าความจริงแล้วท่านยังดำเนินเรื่องช้าอยู่นะคะ อาจจะเป็นเพราะส่วนหนึ่งมาจากการวางโครงเรื่องที่ไม่ชัดเจนทำให้นิยายเรื่องนี้มีลำดับขั้นตอนในการนำเสนอค่อนข้างคลุมเครืออยู่ด้วยน่ะค่ะ

ความสนุกน่าติดตาม: หากกล่าวในแง่ของความสนุก ในภาพรวมแล้วคงต้องบอกว่ายังอยู่ในเกณฑ์กลางๆ อยู่ค่ะ ซึ่งมันไม่ได้หมายความว่านิยายเรื่องนี้จะไม่สนุกนะ แต่บางตอนมันก็ดูจืดชืด บางตอนผู้แต่งก็เขียนได้สนุกดี ซึ่งเมื่อรวมๆ กันแล้วนิยายเรื่องนี้จึงถูกจัดอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ค่ะ


-ภาพรวม/สรุป

นิยายเรื่องนี้ยังมีจุดบกพร่องหลักๆ ที่สมควรแก้ไขอยู่อาทิ เช่น การวางโครงเรื่อง/พล็อต การบรรยายต่างๆ ในเนื้อเรื่อง ความสมเหตุสมผล ตัวละคร ฯลฯ แต่ข้อดีของนิยายเรื่องนี้คือจุดที่ผู้แต่งเป็นคนอารมณ์ดี มีความตั้งใจเอาใจใส่ในการแต่งนิยายอย่างมากซึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นได้จากตัวนิยายของท่านเลยล่ะค่ะ ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่นักเขียนต้องมีเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว

การเขียนเรายังสามารถปรับปรุงพัฒนาได้ แต่หากไร้ซึ่งความตั้งใจ เอาใจใส่ต่องานเขียน และความอดทนแล้วล่ะก็…นิยายเรื่องนั้นคงไม่อาจประสบผลสำเร็จแน่นอนค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ เชื่อว่าท่านจะพัฒนาฝีมือในการเขียนไปอีกไกลแน่ๆ จ้า
     
 
หน้าที่ 1 , 2 , 3 , 4