ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของหมายเลข 1

    ลำดับตอนที่ #11 : ตุกตาตอนสาม

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 58


    ตอนที่ 3 จงตื่นขึ้น

               ความสุขนั้นมิใช่สิ่งที่ยั่งยืน

               อย่าได้ลุ่มหลงมัวเมา

               จนลืมทุกข์ที่ตามมาข้างหลัง

               ท้องฟ้าสีแดงกร่ำไร้หมู่เมฆใดๆ แผ่นดินแห้งแล้งแตกแขนงมีเด็กหญิงคนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางความอ้างว้าง ตรงหน้าของเธอคือแม่น้ำสายใหญ่ที่มีสะพานไม้สีแดงตัดผ่าน นี่คงจะเป็นยมโลกที่แสนน่าเศร้าสถานที่ผู้คนมักกลัวว่าจะได้มาเมื่อสิ้นอายุขัย

               คิดได้ดังนั้นก็รู้สึกเจ็บใจขึ้นมาที่ไม่สามารถใช้ชีวิตดังคำที่สัญญาไว้กับท่านพ่อท่านแม่ของเธอจนต้องตามพวกท่านมายังที่แห่งนี้ เพราะความอ่อนแอไร้พลังจนน่าสังเวชเหมือนที่ป้าของเธอว่าไว้ถึงไม่สามารถมีชีวิตต่อไปดังที่หวัง ตัวของเธอนั้นช่างอ่อนแอเหลือเกิน

                เมื่อมองดูที่แผ่นอกก็ยังมีร่องรอยที่ถูกทำร้ายจากเมื่อครู่ ก็นึกกลัวถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างสดๆ ร้อนๆ ปีศาจที่หิวกระหายและดุร้ายได้พรากชีวิตของเธอไปแล้ว ชีวิตที่ไม่อาจนำกลับมาได้อีก แต่ชีวิตนั้นก็แสนน่าสมเพชอีกเช่นกัน ตอนนี้เธอก็ตายแล้วสมควรจะไปตามเส้นทางของคนตายต่อไป เรื่องทุกอย่างนั้นควรจะทิ้งไว้ในชาติภพที่จากมาเสียที

                เธอถอนหายใจเล็กน้อย ยิ้มให้กับตัวเองเช่นทุกครั้งที่หดหู่ใจแล้วก้าวเดินตรงไปยังสะพานสีแดง แม้ว่าจะมาที่แห่งนี้ครั้งแรกแต่กลับเดินต่อไปราวกับรู้ว่าเส้นทางนั้นเป็นเส้นทางเดียวที่ควรก้าวต่อไป เธอคิดว่าบางทีเธอในชาติก่อนๆ อาจจะเคยมาบ่อยๆ แล้วจำได้ก็เป็นได้ แต่ทันใดนั้นกลับมีบางอย่างเร้นกายออกมาตรงหน้าอย่างรวดเร็วราวภูตผี ละอองควันสีเทาคล้ำจางเริ่มก่อตัวกันขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วินาที

               “เด็กน้อย จงอย่าได้ก้าวข้ามสะพานนี้เชียว โลกอีกฟากฝั่งนั้นยังมิเปิดต้อนรับเจ้า จงรีบกลับไปก่อนที่ทุกอย่างจะสายกลับไปเร็ว”เสียงแหบพร่าดังขึ้นก้องทั่วทุกบริเวณ บางสิ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอพร้อมกับโซ่สีดำที่เริ่มโผล่ขึ้นมาลามเลียเท้าเปล่า

               “นี่มัน เกิดอะไรขึ้น….กัน”เธอกล่าวอย่างตกใจเมื่อมีเงาดำโผล่มาตรงหน้า เขากล่าวบางอย่างที่ยากจะเข้าใจ ทำไมกันละ ทำไมคนตายอย่างเธอถึงไม่สามารถไปยังโลกฝั่งนั้นได้ ไม่ทันถามก็สัมผัสได้ถึงความเย็นจากโซ่ที่เข้ามารัดร่างของเธออย่างรุนแรง สติที่มีก็พลอยเรือนรางไปอย่างช้าๆ

               “เวลานี้เจ้ายังไม่ตายเด็กน้อย มีผู้เรียกเจ้ากลับไปแล้ว รีบกลับไปเร็วก่อนที่ทุกอย่างจะสาย”เสียงแหบพร่ากล่าวไว้เป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่เธอไม่รับถึงสิ่งใด

     

     

                 ท่ามกลางป่าดงพงไพรใบไม้หลากสีแสนงดงามกลางป่าเหนือ มีร่างของเด็กผู้หนึ่งหลับใหลอย่างสงบนิ่ง ใบหน้าของเธอนั้นดูไม่ออกว่าเป็นเด็กชายหรอเด็กหญิงคงเป็นเพราะผมสีน้ำตาลที่ถูกตัดสั้นและความเยาว์วัยที่ยังไม่ปรากฏความงดงามเปร่งปรั่งดังวัยเจริญพันธุ์ ในมือของเธอข้างหนึ่งถูกครอบครองด้วยตุ๊กตาแมวสีดำตาขวางที่ดูจะบ้าได้ทุกเมื่อ

                 ใช่เขากำลังจะเป็นบ้าเพราะเด็กหญิงตรงหน้า อีกครึ่งหนึ่งของชีวิตของเขาไม่ฟื้นขึ้นมาสี่วันแล้วสภาพร่างกายของมนุษย์นั้นก็ช่างอ่อนแอจนน่าสะพรึง ยิ่งวันแล้ววันเล่าร่างตรงหน้านี้ก็ตัวซีดลงๆ จนความมั่นใจว่าเขาจะรอดนั้นเหลือน้อยลงอยู่ทุกที

                 “ฟื้นขึ้นมาเสียทีเจ้ามนุษย์ รีบๆ ฟื้นขึ้นมาเสียที ข้ามิมีเวลาเหลือมากนักหรอกนะ”เขาบอกกล่าวเด็กหญิงอย่างอ่อนใจ สภาพจิตใจเริ่มเลื่อนลอยเหม่อมองท้องฟ้าใส และตกอยู่ในภวังค์ความคิด

                  สถานที่ที่เขาจากมานั้นไกลแสนไกลเหลือเกิน ความหวังที่จะกลับไปทวงคืนทุกสิ่งนั้นเริ่มไกลห่างออกไปตั้งแต่วันที่ตื่นขึ้นมาแล้วร่างกายถูกแปรเปลี่ยนและพลังที่หายไป ฮึ ทั้งตัวเหลือแค่นี้ยังจะคิดกลับไปแก้แค้นอีก สภาพตอนนี้แค่สู้กับแมวได้ก็เก่งแล้ว

                  มิหนำซ้ำยังมีตัวถ่วงขนาดใหญ่พ่วงมาอีก สภาพของนางเองก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ดูซิตอนนี้กำลังลืมตามองเขาอย่างตื่นตะลึงเห้ย ลืมตา เจ้าเด็กน้อยนี่ตื่นขึ้นแล้ว!

                  ต่างคนต่างตื่นตะลึงระคนตกใจไม่แพ้กันทั้งคนและตุ๊กตา เอวาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็พูดไม่ออกเพราะพึ่งจะฟื้นขึ้นมาอย่างงงๆ สโนวแวนได้สติก่อนจึงรีบพูดขึ้น

                 “ฟื้นขึ้นมาก็ดีแล้วเจ้ามนุษย์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปชีวิตของเจ้าเป็นของข้าแล้วหากเจ้าไม่มีข้าเจ้าคงไม่อาจมีชีวิตได้จนถึงตอนนี้ จงสำนึกต่อพระคุณของข้าเสียหาไม่ชีวิตของเจ้าข้าจะกำจัดทิ้ง!”ตุ๊กตาแมวกล่าวขึ้นอย่างรวบรัด แม้จะดูผิดความจริงไปบ้างแต่หากไม่รีบทำให้คนตรงหน้าตกเป็นรอง เขาเองก็คงต้องลำบาก แต่ส่วนตัวเขาเองก็เชื่อใจบทพูดที่นายแห่งความตายทิ้งไว้ให้ก่อนกลับไปเมื่อหลายวันก่อนอยู่พอสมควรจึงกล้าพูดตามที่เตรียมกันเอาไว้

                   “……………

                    ผ่านไปหลายนาทียังไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนตรงหน้ายังคงนั่งนิ่งซักพักผิดกับสโนวแวนที่รอลุ้นระทึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

                    “ข ขอบคุณขอบคุณท่านจริงๆ”เสียงแหบๆ เอ่ยขอบคุณผู้มีพระคุณตรงหน้า แม้เป็นเพียงตุ๊กตาแต่ก็เป็นผู้ที่ทำให้เธอฟื้นจากความตาย ขอบตาพลันร้อนผ่าวขึ้นพร้อมกับน้ำตาหยดเล็กที่เริ่มไหลเอ่อหยดลงมา ขอบคุณที่ให้โอกาสเธอกลับมาอีกครั้ง

                   “ฮึก..ชีวิตนี้ของฉัน ฉํฯไม่คิดว่าจะได้กลับมาอีกแล้ว ฮึกขอบคุณที่ให้โอกาสฉันกลับมา นายท่าน”

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×