ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ในห้วงแห่งความทรงจำ ตอน ความฝันวารวัน
ในห้วงแห่งความทรงจำ ตอน ความฝันวารวัน
ศมาเดินลงจากตึกสูงซึ่งเป็นหอพักของนักศึกษา มายังลานกว้างข้างล่าง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าใสกระจ่างของยามเช้า เมฆน้อยสีขาวบนผืนฟ้าสีฟ้าสดกว้างใหญ่ ลมอ่อนๆ โชยมาต้องผิวกายส่งความรู้สึกสดชื่น ยิ่งเมื่อได้สูดกลิ่นหอมของดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานแข่งกันอยู่รอบหอพักด้วยแล้ว
วันนี้ท่าทางจะฤกษ์ดี หลังจากที่เมื่อคืน...
ศมาเดินเรื่อยๆ ไปที่โรงอาหารเพื่อหาอะไรรองท้องก่อนไปหาเพื่อนสาวตามนัด หล่อนเดินเรื่อยๆ ไม่รีบนักจนมาถึงโรงอาหารซึ่งขณะนี้โล่งกว่าปกติเป็นอันมาก เพราะช่วงนี้ยังเช้าอยู่และเป็นเช้าวันหยุดเสียด้วย นักศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่ลุกออกจากที่นอนกันหรอก หล่อนเองก็ไม่ค่อยได้ตื่นเช้าแบบนี้ในวันหยุด แต่วันนี้หล่อนมีโปรแกรมพิเศษ...
\"โห...เจ๊ศมา หวัดดีตอนเช้าตรู่ฮะ\"
ศมาชะงักเท้าอยู่ที่หน้าทางเข้าโรงอาหารนั่นเอง เมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู หล่อนเบือนหน้าไปทางต้นเสียง
...อุตส่าห์คิดว่าฤกษ์ดี
สี่หนุ่มตัว อ ยืนเรียงหน้ากัน ยิ้มกว้างให้หล่อน
วันนี้มันวันหยุดไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเจ้าสี่คนนี้ถึงมาอยู่ที่โรงอาหารตอนเช้าขนาดนี้
\"อือ...พวกนายมาทำอะไรแต่เช้านี่\"
\"พวกเราก็ไปวิ่งมาแล้วก็มาหาอะไรกินตามปกติ...ว่าแต่เจ๊เถอะ วันนี้ลงมาแต่เช้า\" อิฐตอบ เขากับเพื่อนอีกสามต่างก็มาออกกำลังกายตอนเช้าตามปกติ หลังจากกลับไปอาบน้ำกันเรียบร้อยก็มาที่โรงอาหารเพื่อหาพลังงานมาเพิ่มแทนส่วนที่ใช้ไป แต่เพื่อนรุ่นพี่ในคณะนี่สิ...มาเห็นตอนเช้าแบบนี้มาแปลก แล้วก็ยังมาคนเดียวด้วย ปกติเขาเห็นหล่อนชอบไปกันเป็นกลุ่ม
\"ฉันก็มาหาอะไรกินน่ะสิ ผิดตรงไหน\" ศมาตอบ หล่อนก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าสี่หนุ่มพวกนี้นอกจากจะหน้าตาดี เรียนดีชนิดหล่อนยังอยากผ่ากะโหลกออกมาดูว่าไอ้รอยหยักในสมองของคนพวกนี้มันต่างจากคนอื่นยังไงแล้ว ทั้งสี่ยังชอบเล่นกีฬาอีกต่างหาก โดยเฉพาะบาสเก็ตบอลและฟุตบอล นี่แหละปัจจัยที่ทำให้สาวๆ ยิ่งกรี๊ดเข้าไปใหญ่และก็ดูเหมือนเจ้าสี่คนนี้จะรู้ตัวดีเสียด้วย
ดูแค่ตอนนี้ที่เดินเข้าโรงอาหาร ขนาดคนน้อยแล้วนะก็ยังมีสายตาแวะเวียนมาที่ร่างสูงๆ ทั้ง ๔ เนืองๆ โดยเฉพาะสาวๆ นั่นแหละ ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่อยากสนิทกับทั้งสี่หรอกนะ แต่เพราะสายตาสาวๆ ที่มองมายังหล่อนเวลาอยู่กับสี่หนุ่มนี่น่ะสิ ทำเอาหล่อนขนลุกอยู่หลายครั้ง
แต่นั่นแหละ ไม่รู้ว่าพวกสี่หนุ่มนี่เห็นความดีอะไรในตัวหล่อนถึงพาตัวเข้ามาสนิทด้วย และหล่อนก็ชอบนิสัยของสี่หนุ่มนี้อยู่มาก เรียกว่าชอบก็ชอบล่ะ แต่มันก็มีรำคาญบ้าง
\"ไม่ผิด...แต่แปลกฮะ\" อาร์ทเอ่ยอย่างไม่เชื่อท่าทางของเพื่อนรุ่นพี่เท่าไร เขายกมือขึ้นเสยผมชื้นๆ จากการสระผมที่หล่นมาปรกหน้าผากขึ้น
\"นั่นสิ... ไหนขอดูหน้าชัดหน่อย\" อิฐเดินไปขวางหน้าร่างเล็กๆ ของหญิงสาว
\"ดูสิ... ตาลอยๆ ชอบกล เมื่อคืนฝันร้ายหรือฮะ\" เขาสันนิษฐาน
ศมาส่งค้อนให้
\"ไม่ต้องมาวิจารณ์ฉันเลย โน่นไปหาข้าวกินได้แล้ว\" ศมาเอามือยันร่างสูงๆ ของอิฐออกซึ่งเขาก็ยอมโดยดี เดินนำสี่หนุ่มไปยังร้านข้าวเจ้าประจำแล้วไปจับจองที่นั่งซึ่งว่างอยู่มากมาย
ฝันร้าย... คำพูดของอิฐทำให้หล่อนนึกถึงความฝันเมื่อคืน
แต่มันไม่น่าจะใช่ฝันร้าย...
หญิงสาวย่นหน้าผากพยายามนึกทบทวนความจำเกี่ยวกับความฝันเมื่อคืน
สาวน้อยที่ก้าวขึ้นจากเรือที่เข้ามาเทียบท่าน้ำของบ้านพระยาวิจิตรอักษราเดินแกมวิ่งลงจากศาลาท่าน้ำไม่ฟังเสียงร้องของพี่เลี้ยงที่ติดตาม
\"คุณหนูดาวเจ้าขา เดินช้าๆ หน่อยเจ้าค่า\"
ร่างบางในสไบสีเม็ดมะปรางไม่ลดฝีเท้าลงตามเสียงของพี่เลี้ยงสูงวัยเลย ตรงกันข้ามเจ้าของดวงหน้าหวานที่แม้จะอยู่ในวัยแรกรุ่นยังฉายความงดงามนัก อีกไม่กี่ปีดวงหน้านี้คงเป็นที่ลือเลื่องไม่แพ้สาวงามคนใด โดยเฉพาะนัยน์ตาโตสีน้ำตาลใสที่ฉายแววสดใสเรียกความรักความเอ็นดูจากผู้พบเห็นได้เสมอ
นางอิ่มได้แต่ส่ายหน้าตามร่างของคุณหนูที่นางดูแลมาตั้งแต่เล็กๆ จนโตถึงแบบนี้แล้วคุณหนูของนางก็ยังไม่เปลี่ยนไปสักนิด
จากศาลาท่าน้ำมาถึงตัวเรือนอันเป็นตึกไม้แบบยุโรปที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มเชื้อพระวงศ์และขุนนางทั้งหลาย รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ตัวตึกรอบด้วยสนามหญ้าสีเขียวและต้นไม้ทั้งไม้ใหญ่และไม้พุ่มที่ได้รับการดูแลอย่างดี
\"เจ้าคุณพ่อขา... ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ\" สาวน้อยร้องเสียงสดใสพร้อมกับถลาเข้าไปในห้องสำราญของบิดา แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมิได้มีเพียงบิดาที่อยู่ในห้องนั้น ร่างสูงใหญ่ของบิดานั่งอยู่บนยกพื้นคู่กับบุรุษวัยเดียวกัน และที่พื้นไม้กระดานขัดเป็นมันปลาบปูทับด้วยพรมผืนงามมีร่างสูงใหญ่นั่งพับเพียบอยู่ไม่ห่าง
พระยาวิจิตรอักษราเงยหน้าขึ้นยิ้มอย่างยินดีเมื่อเห็นร่างเล็กๆ ของบุตรสาว
\"เข้ามาสิแม่ดาว... มากราบเจ้าคุณลุงสิ\"
ดาวหลุบตาลง ดวงหน้าซับสีโลหิตเพราะความอายกับกิริยาเมื่อครู่ สาวน้อยค่อยทรุดร่างลงคลานเข่าด้วยกิริยานุ่มนวลที่ฝึกมาอย่างดีจากข้าหลวงผู้ใหญ่ในตำหนักเสด็จพระองค์หญิงที่หล่อนเข้าไปอยู่ตั้งแต่เด็ก ยิ่งเมื่อต้องสบกับนัยน์ตาสีเหล็กที่พราวระยับด้วยแววบางอย่าง แก้มนวลใสยิ่งเห็นสีเรื่อชัดยิ่งขึ้น
\"พระยาสุรไกรฤกษ์เพื่อนพ่อเองแม่ดาว นี่แม่ดาวลูกสาวฉันไงล่ะ คุณหญิงเขาส่งเข้าวังแต่เล็กๆ นานๆ ได้ออกมาบ้านสักที\"
พระยาสุรไกรฤกษ์พิศบุตรสาวเพื่อนสนิท นัยน์ตาคมฉายแววเอ็นดูและพึงพอใจเมื่อหันไปทางบุตรชายที่นั่งอยู่ไม่ห่าง ท่านกลั้นหัวเราะเมื่อบุตรชายที่ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนไม่ว่าจะบุตรสาวขุนนาง หรือบ่าวไพร่สาวๆ สวยๆ ตามแบบหนุ่มฉกรรจ์คนอื่นกลับมาจ้องเด็กสาวคนนี้ไม่วางตา อืม...
\"แม่ดาวหรอกหรือ.... โตเกือบเป็นสาวแล้ว ลุงจำได้ว่าเมื่อสามสี่ปีก่อนยังมางานโกนจุกเจ้าอยู่เลย งามทีเดียว... ต่อไปเห็นหัวกะไดบ้านพ่อจิตรคงจะไม่แห้งกระมัง\" ประโยคหลังหันไปเย้าเพื่อนสนิท
พระยาวิจิตรอักษราหัวเราะเสียงดัง มองบุตรสาวยิ้มๆ ปีนี้แม่ดาวโตขึ้นมาก แม้จะยังไม่เต็มสาวดีนักแต่ก็ฉายแววความงามที่ถ่ายทอดมาจากคุณหญิงจันทรามาครบถ้วน
\"แม่ดาว... นั่นพ่อกล้าลูกชายเจ้าคุณลุง ไหว้พี่เขาสิ\"
ดาวค่อยๆ เงยหน้าขึ้น หากสบนัยน์ตาสีเหล็กแล้วก็ต้องหลบตาลงเพราะความคมกล้าและแววระยับบางอย่างที่หล่อนเองก็บอกไม่ได้ว่าคืออะไร
ชายหนุ่มรับไหว้สาวน้อย มุมปากมีรอยยิ้มน้อยๆ
\"เจ๊... นั่น... นั่งเหม่อไปเลย\"
มือใหญ่แกว่งไปมาอยู่ข้างหน้าทำให้หญิงสาวกระพริบตา
\"อะไรนายเอ้...\"
\"มาถามอีก... ก็เมื่อกี้เห็นเจ๊นั่งเหม่อน่ะสิ วันนี้เจ๊เป็นไรไปน่ะ\" เอ้ถามอย่างสงสัย และอีกสามหนุ่มก็พยักหน้าสงสัยเช่นกัน
\"เอ่อ...\" ศมานิ่งอึ้ง ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ก็พอดีมีเสียงเพลงจากโทรศัพท์ขึ้นมาขัดจังหวะพอดี
\"เออ... ว่าไง\" หล่อนกรอกเสียงลงไปเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของใคร
\"อือ...\" หล่อนเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ
\"อีกครึ่งชั่วโมง... แกแต่งตัวให้เสร็จแล้วกัน... เออๆแล้วเจอกัน\"
วางสายแล้วก็อยากจะถอนใจเมื่อเจอสีหน้าอยากรู้อยากเห็นของเด็กโค่งสี่คน
\"เจ๊จะไปเที่ยวเหรอ...\" เอกถามนัยน์ตาพราว
ศมาถอนใจกับนัยน์ตาสี่คู่ที่หล่อนอ่านได้ตรงกันว่า พวกเราไปด้วย
\"นี่ฉันจะไปกับเพื่อนฉันนะ...\"
\"โห... เจ๊น่ะ เพื่อนเจ๊ก็เหมือนพี่พวกเรา ขอเราไปด้วยนะ...\"
\"นะ...นะ\" อีกสามเสียงประสานกันขึ้นมา
ศมากรอกตา เด็กพวกนี้นี่...
\"เพื่อนเจ๊คนไหนฮะ... ไม่เห็นเขาลงมากัน\" อาร์ทถามถึงเพราะไม่มีท่าทีว่าเพื่อนสาวๆ ของศมาจะปรากฏตัว
\"ยายลีเพื่อนตั้งแต่มัธยมน่ะ...พวกนายไม่รู้จักหรอก\"
\"ลี...อ๋อ คนที่พวกเราเจอที่สวนสันติชัยปราการใช่ไหมฮะ เรารู้จักแล้ว น่า...เจ๊นะ ให้พวกเราไปด้วยนะ เราจะเป็นเด็กดี น่ารัก เชื่อฟังเจ๊ทุกอย่าง\" อิฐร่ายยาว
ศมาถอนใจเสียงดัง... ลืมไปว่าสี่คนนี้เจอลีลามาแล้ว ไม่น่าเอ่ยชื่อยายลีเลย...
\"อืม...ก็ได้\"
หวังว่ายายลีมันคงไม่ว่าอะไรนะ
\"แล้วก็รีบๆ กิน เดี๋ยวสายหรอก\"
สี่หนุ่มเดินตามร่างเล็กๆ ของเพื่อนรุ่นพี่ไปที่ลานจอดรถซึ่งมีรถยนต์หลากรุ่นหลายยี่ห้อจอดเรียงรายกันอยู่ ศมาเดินมาหยุดที่รถคันเล็กของหล่อนซึ่งทางบ้านซื้อให้หล่อนไว้ใช้จากที่ตอนแรกต้องออกแรงปั่นจักรยานทั่วมหาวิทยาลัยอยู่นาน
หญิงสาวยิ้มกวนๆ ผู้ชายตัวโตๆ สี่คนกับรถคันเล็กๆ ของหล่อน
สี่หนุ่มทำหน้าเมื่อย แต่ก็ต้องยินยอมโดยดีไม่งั้นเดี๋ยวอดเที่ยวเพราะวันนี้ไม่มีโปรแกรมทำอะไรเป็นพิเศษ เรื่องอะไรจะต้องจมอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ของมหาวิทยาลัยได้ไปเที่ยวแก้เบื่อก็ยังดี
\"ว่าแต่เจ๊จะพาเราไปไหนฮะ\" อิฐถามขึ้นเมื่อพาตัวเองกับพรรคพวกเข้ามาในรถคันเล็กของศมาแล้ว
ศมาเลิกคิ้ว... เห็นอยากไปด้วยนัก
\"พระราชวังสนามจันทร์...\"
สี่หนุ่มสบตากัน... พลางพึมพำ
มันอยู่ส่วนไหนของโลกวะ...
............................................ จบตอน ความฝันวารวัน ................................................
ศมาเดินลงจากตึกสูงซึ่งเป็นหอพักของนักศึกษา มายังลานกว้างข้างล่าง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าใสกระจ่างของยามเช้า เมฆน้อยสีขาวบนผืนฟ้าสีฟ้าสดกว้างใหญ่ ลมอ่อนๆ โชยมาต้องผิวกายส่งความรู้สึกสดชื่น ยิ่งเมื่อได้สูดกลิ่นหอมของดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานแข่งกันอยู่รอบหอพักด้วยแล้ว
วันนี้ท่าทางจะฤกษ์ดี หลังจากที่เมื่อคืน...
ศมาเดินเรื่อยๆ ไปที่โรงอาหารเพื่อหาอะไรรองท้องก่อนไปหาเพื่อนสาวตามนัด หล่อนเดินเรื่อยๆ ไม่รีบนักจนมาถึงโรงอาหารซึ่งขณะนี้โล่งกว่าปกติเป็นอันมาก เพราะช่วงนี้ยังเช้าอยู่และเป็นเช้าวันหยุดเสียด้วย นักศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่ลุกออกจากที่นอนกันหรอก หล่อนเองก็ไม่ค่อยได้ตื่นเช้าแบบนี้ในวันหยุด แต่วันนี้หล่อนมีโปรแกรมพิเศษ...
\"โห...เจ๊ศมา หวัดดีตอนเช้าตรู่ฮะ\"
ศมาชะงักเท้าอยู่ที่หน้าทางเข้าโรงอาหารนั่นเอง เมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู หล่อนเบือนหน้าไปทางต้นเสียง
...อุตส่าห์คิดว่าฤกษ์ดี
สี่หนุ่มตัว อ ยืนเรียงหน้ากัน ยิ้มกว้างให้หล่อน
วันนี้มันวันหยุดไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเจ้าสี่คนนี้ถึงมาอยู่ที่โรงอาหารตอนเช้าขนาดนี้
\"อือ...พวกนายมาทำอะไรแต่เช้านี่\"
\"พวกเราก็ไปวิ่งมาแล้วก็มาหาอะไรกินตามปกติ...ว่าแต่เจ๊เถอะ วันนี้ลงมาแต่เช้า\" อิฐตอบ เขากับเพื่อนอีกสามต่างก็มาออกกำลังกายตอนเช้าตามปกติ หลังจากกลับไปอาบน้ำกันเรียบร้อยก็มาที่โรงอาหารเพื่อหาพลังงานมาเพิ่มแทนส่วนที่ใช้ไป แต่เพื่อนรุ่นพี่ในคณะนี่สิ...มาเห็นตอนเช้าแบบนี้มาแปลก แล้วก็ยังมาคนเดียวด้วย ปกติเขาเห็นหล่อนชอบไปกันเป็นกลุ่ม
\"ฉันก็มาหาอะไรกินน่ะสิ ผิดตรงไหน\" ศมาตอบ หล่อนก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าสี่หนุ่มพวกนี้นอกจากจะหน้าตาดี เรียนดีชนิดหล่อนยังอยากผ่ากะโหลกออกมาดูว่าไอ้รอยหยักในสมองของคนพวกนี้มันต่างจากคนอื่นยังไงแล้ว ทั้งสี่ยังชอบเล่นกีฬาอีกต่างหาก โดยเฉพาะบาสเก็ตบอลและฟุตบอล นี่แหละปัจจัยที่ทำให้สาวๆ ยิ่งกรี๊ดเข้าไปใหญ่และก็ดูเหมือนเจ้าสี่คนนี้จะรู้ตัวดีเสียด้วย
ดูแค่ตอนนี้ที่เดินเข้าโรงอาหาร ขนาดคนน้อยแล้วนะก็ยังมีสายตาแวะเวียนมาที่ร่างสูงๆ ทั้ง ๔ เนืองๆ โดยเฉพาะสาวๆ นั่นแหละ ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่อยากสนิทกับทั้งสี่หรอกนะ แต่เพราะสายตาสาวๆ ที่มองมายังหล่อนเวลาอยู่กับสี่หนุ่มนี่น่ะสิ ทำเอาหล่อนขนลุกอยู่หลายครั้ง
แต่นั่นแหละ ไม่รู้ว่าพวกสี่หนุ่มนี่เห็นความดีอะไรในตัวหล่อนถึงพาตัวเข้ามาสนิทด้วย และหล่อนก็ชอบนิสัยของสี่หนุ่มนี้อยู่มาก เรียกว่าชอบก็ชอบล่ะ แต่มันก็มีรำคาญบ้าง
\"ไม่ผิด...แต่แปลกฮะ\" อาร์ทเอ่ยอย่างไม่เชื่อท่าทางของเพื่อนรุ่นพี่เท่าไร เขายกมือขึ้นเสยผมชื้นๆ จากการสระผมที่หล่นมาปรกหน้าผากขึ้น
\"นั่นสิ... ไหนขอดูหน้าชัดหน่อย\" อิฐเดินไปขวางหน้าร่างเล็กๆ ของหญิงสาว
\"ดูสิ... ตาลอยๆ ชอบกล เมื่อคืนฝันร้ายหรือฮะ\" เขาสันนิษฐาน
ศมาส่งค้อนให้
\"ไม่ต้องมาวิจารณ์ฉันเลย โน่นไปหาข้าวกินได้แล้ว\" ศมาเอามือยันร่างสูงๆ ของอิฐออกซึ่งเขาก็ยอมโดยดี เดินนำสี่หนุ่มไปยังร้านข้าวเจ้าประจำแล้วไปจับจองที่นั่งซึ่งว่างอยู่มากมาย
ฝันร้าย... คำพูดของอิฐทำให้หล่อนนึกถึงความฝันเมื่อคืน
แต่มันไม่น่าจะใช่ฝันร้าย...
หญิงสาวย่นหน้าผากพยายามนึกทบทวนความจำเกี่ยวกับความฝันเมื่อคืน
สาวน้อยที่ก้าวขึ้นจากเรือที่เข้ามาเทียบท่าน้ำของบ้านพระยาวิจิตรอักษราเดินแกมวิ่งลงจากศาลาท่าน้ำไม่ฟังเสียงร้องของพี่เลี้ยงที่ติดตาม
\"คุณหนูดาวเจ้าขา เดินช้าๆ หน่อยเจ้าค่า\"
ร่างบางในสไบสีเม็ดมะปรางไม่ลดฝีเท้าลงตามเสียงของพี่เลี้ยงสูงวัยเลย ตรงกันข้ามเจ้าของดวงหน้าหวานที่แม้จะอยู่ในวัยแรกรุ่นยังฉายความงดงามนัก อีกไม่กี่ปีดวงหน้านี้คงเป็นที่ลือเลื่องไม่แพ้สาวงามคนใด โดยเฉพาะนัยน์ตาโตสีน้ำตาลใสที่ฉายแววสดใสเรียกความรักความเอ็นดูจากผู้พบเห็นได้เสมอ
นางอิ่มได้แต่ส่ายหน้าตามร่างของคุณหนูที่นางดูแลมาตั้งแต่เล็กๆ จนโตถึงแบบนี้แล้วคุณหนูของนางก็ยังไม่เปลี่ยนไปสักนิด
จากศาลาท่าน้ำมาถึงตัวเรือนอันเป็นตึกไม้แบบยุโรปที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มเชื้อพระวงศ์และขุนนางทั้งหลาย รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ตัวตึกรอบด้วยสนามหญ้าสีเขียวและต้นไม้ทั้งไม้ใหญ่และไม้พุ่มที่ได้รับการดูแลอย่างดี
\"เจ้าคุณพ่อขา... ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ\" สาวน้อยร้องเสียงสดใสพร้อมกับถลาเข้าไปในห้องสำราญของบิดา แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมิได้มีเพียงบิดาที่อยู่ในห้องนั้น ร่างสูงใหญ่ของบิดานั่งอยู่บนยกพื้นคู่กับบุรุษวัยเดียวกัน และที่พื้นไม้กระดานขัดเป็นมันปลาบปูทับด้วยพรมผืนงามมีร่างสูงใหญ่นั่งพับเพียบอยู่ไม่ห่าง
พระยาวิจิตรอักษราเงยหน้าขึ้นยิ้มอย่างยินดีเมื่อเห็นร่างเล็กๆ ของบุตรสาว
\"เข้ามาสิแม่ดาว... มากราบเจ้าคุณลุงสิ\"
ดาวหลุบตาลง ดวงหน้าซับสีโลหิตเพราะความอายกับกิริยาเมื่อครู่ สาวน้อยค่อยทรุดร่างลงคลานเข่าด้วยกิริยานุ่มนวลที่ฝึกมาอย่างดีจากข้าหลวงผู้ใหญ่ในตำหนักเสด็จพระองค์หญิงที่หล่อนเข้าไปอยู่ตั้งแต่เด็ก ยิ่งเมื่อต้องสบกับนัยน์ตาสีเหล็กที่พราวระยับด้วยแววบางอย่าง แก้มนวลใสยิ่งเห็นสีเรื่อชัดยิ่งขึ้น
\"พระยาสุรไกรฤกษ์เพื่อนพ่อเองแม่ดาว นี่แม่ดาวลูกสาวฉันไงล่ะ คุณหญิงเขาส่งเข้าวังแต่เล็กๆ นานๆ ได้ออกมาบ้านสักที\"
พระยาสุรไกรฤกษ์พิศบุตรสาวเพื่อนสนิท นัยน์ตาคมฉายแววเอ็นดูและพึงพอใจเมื่อหันไปทางบุตรชายที่นั่งอยู่ไม่ห่าง ท่านกลั้นหัวเราะเมื่อบุตรชายที่ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนไม่ว่าจะบุตรสาวขุนนาง หรือบ่าวไพร่สาวๆ สวยๆ ตามแบบหนุ่มฉกรรจ์คนอื่นกลับมาจ้องเด็กสาวคนนี้ไม่วางตา อืม...
\"แม่ดาวหรอกหรือ.... โตเกือบเป็นสาวแล้ว ลุงจำได้ว่าเมื่อสามสี่ปีก่อนยังมางานโกนจุกเจ้าอยู่เลย งามทีเดียว... ต่อไปเห็นหัวกะไดบ้านพ่อจิตรคงจะไม่แห้งกระมัง\" ประโยคหลังหันไปเย้าเพื่อนสนิท
พระยาวิจิตรอักษราหัวเราะเสียงดัง มองบุตรสาวยิ้มๆ ปีนี้แม่ดาวโตขึ้นมาก แม้จะยังไม่เต็มสาวดีนักแต่ก็ฉายแววความงามที่ถ่ายทอดมาจากคุณหญิงจันทรามาครบถ้วน
\"แม่ดาว... นั่นพ่อกล้าลูกชายเจ้าคุณลุง ไหว้พี่เขาสิ\"
ดาวค่อยๆ เงยหน้าขึ้น หากสบนัยน์ตาสีเหล็กแล้วก็ต้องหลบตาลงเพราะความคมกล้าและแววระยับบางอย่างที่หล่อนเองก็บอกไม่ได้ว่าคืออะไร
ชายหนุ่มรับไหว้สาวน้อย มุมปากมีรอยยิ้มน้อยๆ
\"เจ๊... นั่น... นั่งเหม่อไปเลย\"
มือใหญ่แกว่งไปมาอยู่ข้างหน้าทำให้หญิงสาวกระพริบตา
\"อะไรนายเอ้...\"
\"มาถามอีก... ก็เมื่อกี้เห็นเจ๊นั่งเหม่อน่ะสิ วันนี้เจ๊เป็นไรไปน่ะ\" เอ้ถามอย่างสงสัย และอีกสามหนุ่มก็พยักหน้าสงสัยเช่นกัน
\"เอ่อ...\" ศมานิ่งอึ้ง ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ก็พอดีมีเสียงเพลงจากโทรศัพท์ขึ้นมาขัดจังหวะพอดี
\"เออ... ว่าไง\" หล่อนกรอกเสียงลงไปเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของใคร
\"อือ...\" หล่อนเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ
\"อีกครึ่งชั่วโมง... แกแต่งตัวให้เสร็จแล้วกัน... เออๆแล้วเจอกัน\"
วางสายแล้วก็อยากจะถอนใจเมื่อเจอสีหน้าอยากรู้อยากเห็นของเด็กโค่งสี่คน
\"เจ๊จะไปเที่ยวเหรอ...\" เอกถามนัยน์ตาพราว
ศมาถอนใจกับนัยน์ตาสี่คู่ที่หล่อนอ่านได้ตรงกันว่า พวกเราไปด้วย
\"นี่ฉันจะไปกับเพื่อนฉันนะ...\"
\"โห... เจ๊น่ะ เพื่อนเจ๊ก็เหมือนพี่พวกเรา ขอเราไปด้วยนะ...\"
\"นะ...นะ\" อีกสามเสียงประสานกันขึ้นมา
ศมากรอกตา เด็กพวกนี้นี่...
\"เพื่อนเจ๊คนไหนฮะ... ไม่เห็นเขาลงมากัน\" อาร์ทถามถึงเพราะไม่มีท่าทีว่าเพื่อนสาวๆ ของศมาจะปรากฏตัว
\"ยายลีเพื่อนตั้งแต่มัธยมน่ะ...พวกนายไม่รู้จักหรอก\"
\"ลี...อ๋อ คนที่พวกเราเจอที่สวนสันติชัยปราการใช่ไหมฮะ เรารู้จักแล้ว น่า...เจ๊นะ ให้พวกเราไปด้วยนะ เราจะเป็นเด็กดี น่ารัก เชื่อฟังเจ๊ทุกอย่าง\" อิฐร่ายยาว
ศมาถอนใจเสียงดัง... ลืมไปว่าสี่คนนี้เจอลีลามาแล้ว ไม่น่าเอ่ยชื่อยายลีเลย...
\"อืม...ก็ได้\"
หวังว่ายายลีมันคงไม่ว่าอะไรนะ
\"แล้วก็รีบๆ กิน เดี๋ยวสายหรอก\"
สี่หนุ่มเดินตามร่างเล็กๆ ของเพื่อนรุ่นพี่ไปที่ลานจอดรถซึ่งมีรถยนต์หลากรุ่นหลายยี่ห้อจอดเรียงรายกันอยู่ ศมาเดินมาหยุดที่รถคันเล็กของหล่อนซึ่งทางบ้านซื้อให้หล่อนไว้ใช้จากที่ตอนแรกต้องออกแรงปั่นจักรยานทั่วมหาวิทยาลัยอยู่นาน
หญิงสาวยิ้มกวนๆ ผู้ชายตัวโตๆ สี่คนกับรถคันเล็กๆ ของหล่อน
สี่หนุ่มทำหน้าเมื่อย แต่ก็ต้องยินยอมโดยดีไม่งั้นเดี๋ยวอดเที่ยวเพราะวันนี้ไม่มีโปรแกรมทำอะไรเป็นพิเศษ เรื่องอะไรจะต้องจมอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ของมหาวิทยาลัยได้ไปเที่ยวแก้เบื่อก็ยังดี
\"ว่าแต่เจ๊จะพาเราไปไหนฮะ\" อิฐถามขึ้นเมื่อพาตัวเองกับพรรคพวกเข้ามาในรถคันเล็กของศมาแล้ว
ศมาเลิกคิ้ว... เห็นอยากไปด้วยนัก
\"พระราชวังสนามจันทร์...\"
สี่หนุ่มสบตากัน... พลางพึมพำ
มันอยู่ส่วนไหนของโลกวะ...
............................................ จบตอน ความฝันวารวัน ................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น