ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ในห้วงแห่งความทรงจำ ตอน...ถนนพระอาทิตย์ ๒
ในห้วงแห่งความทรงจำ ตอน...ถนนพระอาทิตย์ ๒
ลีลาตาโตเมื่อเด็กหนุ่มที่หล่อนสะกิดศมาให้ดูเดินมาทางนี้อย่างไม่มีทางคิดเป็นอื่นไปได้
อยากจะร้องกรี้ดในใจดังๆ แม้ปกติหล่อนจะไม่ชอบผู้ชายเด็กกว่า ก็สี่หนุ่มนี่มองยังไงๆ ก็ดูเป็นเด็กน่าจะราวๆ สิบเก้ายี่สิบกำลังเรียนมหาวิทยาลัย แหม...แต่ความหล่อไปเป็นรองใครเลย แบบนี้ไปเป็นดาราได้สบายทุกคนเลย
สี่หนุ่มเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหล่อนกับเพื่อนสาว หล่อนเลิกคิ้วเมื่อเห็นศมาทำหน้าเอือมๆ ไม่กรี้ดหนุ่มหล่ออย่างที่เคยเป็น จนทั้งสี่ยกมือไหว้พร้อมกับส่งเสียงพร้อมกัน
“สวัสดีครับ...อาเจ๊ศมา...”
ลีลากลั้นยิ้มไม่อยู่
สี่หนุ่มเหล่านี้เป็นรุ่นน้องของเพื่อนหล่อนนั่นเอง... หนอยไอ้ศะมะ ไม่เคยบอกกันบ้างเลยว่ามีเด็กหล่อๆ อย่างนี้
“อือ..หวัดดี” ศมารับไหว้สี่หนุ่มที่ทำหน้าทะเล้น
“เพื่อนเจ๊เหรอครับ...”
“ฮื่อ... นี่ลี ลีนี่เพื่อนที่คณะฉันเอง ”
“โฮ...เจ๊ครับ พวกผมไม่บังอาจเป็นเพื่อนเจ๊หรอกครับ... แบบว่าอายุเราห่างกันหลายปี สวัสดีครับคุณพี่ลี”
“สวัสดีจ้ะ...” ลีลารับไหว้แบบทะเล้นนั่นแล้วเอียงหน้าไปกระซิบกับเพื่อนสาว “นี่เด็กแกหล่อๆ ทั้งนั้นเลยนี่”
ศมาอยากจิ้มนัยน์ตายิ้มๆ ของเพื่อนสาว กับทำร้ายหน้าหล่อๆ สี่หน้านี่เหลือเกิน สี่หนุ่มเป็นเพื่อนปีเดียวกันกับหล่อนแต่อายุน้อยกว่าหลายปีเพราะสอบเข้ามาตามปกติ เพราะหน้าตาหล่อ...ที่ลีลาซึ่งปกติไม่สนใจเด็กแบบนี้ก็เพื่อนหล่อนรสนิยมกระเดียดไปทางแก่ๆ หน่อย ยังตกปากว่าหล่อ สี่หนุ่มนี่จึงเป็นที่กรี้ดกร๊าดของสาวๆ ทั้งในและนอกคณะ
“ผมชื่ออิฐ... ส่วนนี่เอก เอ้ อาร์ทครับคุณพี่ลี” อิฐแนะนำตัวเองกับเพื่อนเมื่อเห็นรุ่นพี่ยืนเฉย ความจริงพวกเขาก็เรียกศมาว่าเจ๊ล้อๆ ไปอย่างนั้นเอง ก็ใครจะไปรู้เห็นตัวเล็กๆ หน้าขาวๆ ใสๆ แบบนั้นว่าเจ๊แกจะเรียนจบแล้ว เกือบหน้าแตกเข้าไปจีบแกแล้วไหมล่ะ ไม่เกือบล่ะไอ้อาร์ทมันเข้าไปจีบแล้วตอนแรกๆ แล้วก็ต้องม้วนเสื่อกลับตอนไอ้เพื่อนอีกคณะก็คณะที่เจ๊ศมาแกจบนั่นแหละ มันยกมือไหว้เจ๊แกซะดิบดี พวกเขาจึงถึงบางอ้อ...ว่าริอ่านจีบรุ่นพี่อยู่
ก็เลยเปลี่ยนจากสาว...กลายเป็นพี่ที่เคารพเสียเลย
ศมามองหน้าหล่อๆ พวกนี่อย่างหมั่นไส้ ก็เพราะพวกนี้นี่แหละที่ทำให้หล่อนยังโสดอยู่ถึงทุกวันนี้ เพราะพอยกหล่อนเป็นพี่ที่เคารพแล้วสี่หนุ่มนี่ก็ทำตัวเป็นน้องที่แสนดีกำจัดทุกคนที่เข้ามาจีบหล่อน
เรียกว่าไม่จีบเอง...แล้วก็ไม่ให้ใครจีบว่างั้นเถอะ
แล้วยังจะเรื่องยุ่งยากใจจากบรรดาสาวๆ แฟนคลับของสี่หนุ่มนี้อีกล่ะ
โอ๊ย...วันหยุดอันแสนสุขของฉัน
“น่า...อาเจ๊อย่าทำหน้าคว่ำสิ...”
ศมาโคลงศีรษะ... เอาวะ ช่วงหัวพวกมันสี่คนเถอะ
“นี่เจ๊ศะมะกินข้าวหรือยัง...”
“กินแล้ว...ทำไม”
สี่หนุ่มร้องประสานเสียงกัน
“โอ๊ย... นึกว่ายัง จะได้มีเจ้ามือเลี้ยงสักหน่อย”
ศมาแยกเขี้ยว...
“ไปหาเอาข้างหน้าเถอะย่ะ... กลับกันดีกว่าไหมลี” หันกลับไปทางเพื่อนสาว
ลีลามองนาฬิกา เกือบทุ่มแล้ว... กลับก็ดีเหมือนกันวันนี้เดินมาทั้งวันแล้วจึงพยักหน้าให้เพื่อนสาว
สี่หนุ่มโอดครวญอีกครั้ง... ก่อนจะยอมปล่อยสองสาวรุ่นพี่
“แกนี่...ปิดเงียบเชียวนะ มีเด็กหล่อๆ ในสังกัดเพียบ” ลีล้าเย้าเพื่อนสนิทเมื่อแยกจากสี่หนุ่มหล่อมาแล้ว
“ฮื่อ... แกจะจีบไหมล่ะ ฉันช่วยเต็มที่เลย”
ลีลายักไหล่...
“เป็นโสดอย่างนี้แหละดีแล้ว... ฉันยังอยากเป็นโสดอีกซักพัก”
“โอ๊ย... ฉันว่าแกหาคนจีบไม่ได้มากกว่า” ศมาหัวเราะร่า...
“เออ... อย่างกับแกหาได้นักนี่...” ลีลาย้อนแล้วหัวเราะ
สองสาววิ่งไล่กันเหมือนเด็กๆ ศมาอาศัยที่ชอบเล่นกีฬาแม้จะตัวเล็กกว่าวิ่งนำไปบนสนามหญ้าปล่อยให้ลีลาวิ่งตาม จังหวะที่หันหลังกลับมาดูเพื่อนสาวศมาก็ชนกับร่างสูงใหญ่อย่างแรงเพราะไม่ทันเห็นว่าเขาขวางทางอยู่
“โอ๊ย...” ศมาร้องเสียงหลง
กานท์รับร่างเล็กที่วิ่งมาชนเขาก่อนที่หล่อนจะกระเด็นล้มลงกับพื้น
“เป็น...” คำถามอย่างห่วงใยหายไปเมื่อเขาสบตากับนัยน์ตาสีน้ำตาลใสแจ๋ว
ศมารู้สึกเหมือนถูกดึงลงไปในบ่อน้ำที่ลึก... ลึกจนสุดหยั่งเมื่อสบนัยน์ตาสีเหล็กที่แม้จะอยู่ในยามกลางคืนก็ยังเปล่งประกายคมกล้า หล่อนไม่รู้สึกตัวเลยว่ากำลังกลั้นหายใจไว้
ริมฝีปากสีแดงเรื่อเผยอขึ้นราวจะเปล่งเสียงเรียกชื่อๆ หนึ่ง หากก็ไม่มีเสียงใดๆ ออกมา
“ศะมะ...” ลีลาเรียกเพื่อนที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายตัวสูงอย่างห่วงใย
“กานท์...เป็นไง” ธีธัชเรียกเพื่อนเหมือนกัน เขานิ่วหน้ากับท่าทางแปลกๆ ของเพื่อนกับหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของกานท์ เขาเห็นทั้งสองได้แต่สบตากันนิ่งเหมือนถูกสะกด
“เอ้อ...” กานท์รับคลายอ้อมกอดเมื่อเสียงของเพื่อนดึงเขาหลุดออกจากภวังค์
ศมารู้สึกถึงความร้อนที่วิ่งขึ้นมาที่ผิวหน้า
“คุณ...เอ่อ....”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ...” หล่อนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองดวงตาสีเหล็กนั้น ตอนนี้หัวใจหล่อนก็ยังเต้นโครมครามไม่ยอมช้าลง
“ศะมะ...ไม่เป็นไรนะแก” ลีลาถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง เมื่อศมาพยักหน้าก็ถอนใจ หล่อนเงยหน้ามองคู่กรณีของเพื่อนสาวแล้วก็ต้องอุทานในใจ
โห...วันนี้วันอะไรนี่ เจอแต่คนหล่อๆ
หญิงสาวหันไปทางเพื่อนของคู่กรณีของศมาที่เข้ามาสมทบ นี่ก็หล่อๆ กันทั้งนั้นเลยแฮะ... ถึงจะหล่อกันคนละแบบก็เถอะ
ศมากระตุกมือเพื่อนสาว พูดโดยที่ไม่เงยหน้า
“ไปกันเถอะลี... ขอโทษค่ะที่ชนคุณ”
“อะ...อื้อ” ลีลาเดินตามแรงฉุดของเพื่อนสาวที่ไม่ยอมฟังเสียงเรียกของคนที่หล่อนชนเลย
กานท์ขยับตัวตามร่างเล็กที่กึ่งลากกึ่งจูงเพื่อนสาวออกไป แต่ไม่ทัน...หล่อนขึ้นแท็กซี่จากไปแล้ว ชายหนุ่มถอนใจ...
สามหนุ่มที่เหลือมองหน้ากันกับกิริยาแปลกๆ ของเพื่อนสนิท
กานท์ทองตามแทกซี่คันนั้นจนลับสายตา พลางนึกตำหนิตัวเองที่มัวแต่ตกตะลึงจนปล่อยให้หล่อนจากไปโดยที่ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับหล่อนเลย นอกจาก...
    ศะมะ... เพื่อนของหล่อนเรียกอย่างนั้น
และดวงตาสีน้ำตาลใส...
.............................................. จบตอน ถนนพระอาทิตย์ .............................................
ลีลาตาโตเมื่อเด็กหนุ่มที่หล่อนสะกิดศมาให้ดูเดินมาทางนี้อย่างไม่มีทางคิดเป็นอื่นไปได้
อยากจะร้องกรี้ดในใจดังๆ แม้ปกติหล่อนจะไม่ชอบผู้ชายเด็กกว่า ก็สี่หนุ่มนี่มองยังไงๆ ก็ดูเป็นเด็กน่าจะราวๆ สิบเก้ายี่สิบกำลังเรียนมหาวิทยาลัย แหม...แต่ความหล่อไปเป็นรองใครเลย แบบนี้ไปเป็นดาราได้สบายทุกคนเลย
สี่หนุ่มเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหล่อนกับเพื่อนสาว หล่อนเลิกคิ้วเมื่อเห็นศมาทำหน้าเอือมๆ ไม่กรี้ดหนุ่มหล่ออย่างที่เคยเป็น จนทั้งสี่ยกมือไหว้พร้อมกับส่งเสียงพร้อมกัน
“สวัสดีครับ...อาเจ๊ศมา...”
ลีลากลั้นยิ้มไม่อยู่
สี่หนุ่มเหล่านี้เป็นรุ่นน้องของเพื่อนหล่อนนั่นเอง... หนอยไอ้ศะมะ ไม่เคยบอกกันบ้างเลยว่ามีเด็กหล่อๆ อย่างนี้
“อือ..หวัดดี” ศมารับไหว้สี่หนุ่มที่ทำหน้าทะเล้น
“เพื่อนเจ๊เหรอครับ...”
“ฮื่อ... นี่ลี ลีนี่เพื่อนที่คณะฉันเอง ”
“โฮ...เจ๊ครับ พวกผมไม่บังอาจเป็นเพื่อนเจ๊หรอกครับ... แบบว่าอายุเราห่างกันหลายปี สวัสดีครับคุณพี่ลี”
“สวัสดีจ้ะ...” ลีลารับไหว้แบบทะเล้นนั่นแล้วเอียงหน้าไปกระซิบกับเพื่อนสาว “นี่เด็กแกหล่อๆ ทั้งนั้นเลยนี่”
ศมาอยากจิ้มนัยน์ตายิ้มๆ ของเพื่อนสาว กับทำร้ายหน้าหล่อๆ สี่หน้านี่เหลือเกิน สี่หนุ่มเป็นเพื่อนปีเดียวกันกับหล่อนแต่อายุน้อยกว่าหลายปีเพราะสอบเข้ามาตามปกติ เพราะหน้าตาหล่อ...ที่ลีลาซึ่งปกติไม่สนใจเด็กแบบนี้ก็เพื่อนหล่อนรสนิยมกระเดียดไปทางแก่ๆ หน่อย ยังตกปากว่าหล่อ สี่หนุ่มนี่จึงเป็นที่กรี้ดกร๊าดของสาวๆ ทั้งในและนอกคณะ
“ผมชื่ออิฐ... ส่วนนี่เอก เอ้ อาร์ทครับคุณพี่ลี” อิฐแนะนำตัวเองกับเพื่อนเมื่อเห็นรุ่นพี่ยืนเฉย ความจริงพวกเขาก็เรียกศมาว่าเจ๊ล้อๆ ไปอย่างนั้นเอง ก็ใครจะไปรู้เห็นตัวเล็กๆ หน้าขาวๆ ใสๆ แบบนั้นว่าเจ๊แกจะเรียนจบแล้ว เกือบหน้าแตกเข้าไปจีบแกแล้วไหมล่ะ ไม่เกือบล่ะไอ้อาร์ทมันเข้าไปจีบแล้วตอนแรกๆ แล้วก็ต้องม้วนเสื่อกลับตอนไอ้เพื่อนอีกคณะก็คณะที่เจ๊ศมาแกจบนั่นแหละ มันยกมือไหว้เจ๊แกซะดิบดี พวกเขาจึงถึงบางอ้อ...ว่าริอ่านจีบรุ่นพี่อยู่
ก็เลยเปลี่ยนจากสาว...กลายเป็นพี่ที่เคารพเสียเลย
ศมามองหน้าหล่อๆ พวกนี่อย่างหมั่นไส้ ก็เพราะพวกนี้นี่แหละที่ทำให้หล่อนยังโสดอยู่ถึงทุกวันนี้ เพราะพอยกหล่อนเป็นพี่ที่เคารพแล้วสี่หนุ่มนี่ก็ทำตัวเป็นน้องที่แสนดีกำจัดทุกคนที่เข้ามาจีบหล่อน
เรียกว่าไม่จีบเอง...แล้วก็ไม่ให้ใครจีบว่างั้นเถอะ
แล้วยังจะเรื่องยุ่งยากใจจากบรรดาสาวๆ แฟนคลับของสี่หนุ่มนี้อีกล่ะ
โอ๊ย...วันหยุดอันแสนสุขของฉัน
“น่า...อาเจ๊อย่าทำหน้าคว่ำสิ...”
ศมาโคลงศีรษะ... เอาวะ ช่วงหัวพวกมันสี่คนเถอะ
“นี่เจ๊ศะมะกินข้าวหรือยัง...”
“กินแล้ว...ทำไม”
สี่หนุ่มร้องประสานเสียงกัน
“โอ๊ย... นึกว่ายัง จะได้มีเจ้ามือเลี้ยงสักหน่อย”
ศมาแยกเขี้ยว...
“ไปหาเอาข้างหน้าเถอะย่ะ... กลับกันดีกว่าไหมลี” หันกลับไปทางเพื่อนสาว
ลีลามองนาฬิกา เกือบทุ่มแล้ว... กลับก็ดีเหมือนกันวันนี้เดินมาทั้งวันแล้วจึงพยักหน้าให้เพื่อนสาว
สี่หนุ่มโอดครวญอีกครั้ง... ก่อนจะยอมปล่อยสองสาวรุ่นพี่
“แกนี่...ปิดเงียบเชียวนะ มีเด็กหล่อๆ ในสังกัดเพียบ” ลีล้าเย้าเพื่อนสนิทเมื่อแยกจากสี่หนุ่มหล่อมาแล้ว
“ฮื่อ... แกจะจีบไหมล่ะ ฉันช่วยเต็มที่เลย”
ลีลายักไหล่...
“เป็นโสดอย่างนี้แหละดีแล้ว... ฉันยังอยากเป็นโสดอีกซักพัก”
“โอ๊ย... ฉันว่าแกหาคนจีบไม่ได้มากกว่า” ศมาหัวเราะร่า...
“เออ... อย่างกับแกหาได้นักนี่...” ลีลาย้อนแล้วหัวเราะ
สองสาววิ่งไล่กันเหมือนเด็กๆ ศมาอาศัยที่ชอบเล่นกีฬาแม้จะตัวเล็กกว่าวิ่งนำไปบนสนามหญ้าปล่อยให้ลีลาวิ่งตาม จังหวะที่หันหลังกลับมาดูเพื่อนสาวศมาก็ชนกับร่างสูงใหญ่อย่างแรงเพราะไม่ทันเห็นว่าเขาขวางทางอยู่
“โอ๊ย...” ศมาร้องเสียงหลง
กานท์รับร่างเล็กที่วิ่งมาชนเขาก่อนที่หล่อนจะกระเด็นล้มลงกับพื้น
“เป็น...” คำถามอย่างห่วงใยหายไปเมื่อเขาสบตากับนัยน์ตาสีน้ำตาลใสแจ๋ว
ศมารู้สึกเหมือนถูกดึงลงไปในบ่อน้ำที่ลึก... ลึกจนสุดหยั่งเมื่อสบนัยน์ตาสีเหล็กที่แม้จะอยู่ในยามกลางคืนก็ยังเปล่งประกายคมกล้า หล่อนไม่รู้สึกตัวเลยว่ากำลังกลั้นหายใจไว้
ริมฝีปากสีแดงเรื่อเผยอขึ้นราวจะเปล่งเสียงเรียกชื่อๆ หนึ่ง หากก็ไม่มีเสียงใดๆ ออกมา
“ศะมะ...” ลีลาเรียกเพื่อนที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายตัวสูงอย่างห่วงใย
“กานท์...เป็นไง” ธีธัชเรียกเพื่อนเหมือนกัน เขานิ่วหน้ากับท่าทางแปลกๆ ของเพื่อนกับหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของกานท์ เขาเห็นทั้งสองได้แต่สบตากันนิ่งเหมือนถูกสะกด
“เอ้อ...” กานท์รับคลายอ้อมกอดเมื่อเสียงของเพื่อนดึงเขาหลุดออกจากภวังค์
ศมารู้สึกถึงความร้อนที่วิ่งขึ้นมาที่ผิวหน้า
“คุณ...เอ่อ....”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ...” หล่อนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองดวงตาสีเหล็กนั้น ตอนนี้หัวใจหล่อนก็ยังเต้นโครมครามไม่ยอมช้าลง
“ศะมะ...ไม่เป็นไรนะแก” ลีลาถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง เมื่อศมาพยักหน้าก็ถอนใจ หล่อนเงยหน้ามองคู่กรณีของเพื่อนสาวแล้วก็ต้องอุทานในใจ
โห...วันนี้วันอะไรนี่ เจอแต่คนหล่อๆ
หญิงสาวหันไปทางเพื่อนของคู่กรณีของศมาที่เข้ามาสมทบ นี่ก็หล่อๆ กันทั้งนั้นเลยแฮะ... ถึงจะหล่อกันคนละแบบก็เถอะ
ศมากระตุกมือเพื่อนสาว พูดโดยที่ไม่เงยหน้า
“ไปกันเถอะลี... ขอโทษค่ะที่ชนคุณ”
“อะ...อื้อ” ลีลาเดินตามแรงฉุดของเพื่อนสาวที่ไม่ยอมฟังเสียงเรียกของคนที่หล่อนชนเลย
กานท์ขยับตัวตามร่างเล็กที่กึ่งลากกึ่งจูงเพื่อนสาวออกไป แต่ไม่ทัน...หล่อนขึ้นแท็กซี่จากไปแล้ว ชายหนุ่มถอนใจ...
สามหนุ่มที่เหลือมองหน้ากันกับกิริยาแปลกๆ ของเพื่อนสนิท
กานท์ทองตามแทกซี่คันนั้นจนลับสายตา พลางนึกตำหนิตัวเองที่มัวแต่ตกตะลึงจนปล่อยให้หล่อนจากไปโดยที่ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับหล่อนเลย นอกจาก...
    ศะมะ... เพื่อนของหล่อนเรียกอย่างนั้น
และดวงตาสีน้ำตาลใส...
.............................................. จบตอน ถนนพระอาทิตย์ .............................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น