ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ ร้านขนมหวาน และ คำชี้แจงในการตีพิมพ์
สวัสดีค่ะญาติมิตรทุกท่าน...ที่ติดตามเรื่องแม่ค้าขนมหวานคะ
ตอนนี้ใบไผ่กับเจ้าพ่อของเราก็ได้รับการตีพิมพ์เรียบร้อยแล้วนะคะ โดย สนพ.ยาหยี-ยาใจ ในเครือ ณ บ้านวรรณกรรม เช่นเดียวกับ หนึ่งเดียวในดวงใจ และ เจ้าหญิงใจดวงใจ ค่ะ จึงขอลบเนื้อเรื่องออกนะคะ
กำหนดการวางแผงเลื่อนไปเป็นปลายเดือนมีนาคม ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาตินะคะ ทั้งเล่ม 1 ค่ะ และเล่ม 2 ค่ะ
แบบว่ายาวมากก็เลยต้องแบ่งออกเป็น 2 เล่มนะคะ
และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะได้พบกับความหวานเล็กๆ น้อยๆ ตอนท้ายเรื่องเพิ่มเติมค่ะ
แล้วพบกันในเรื่องดวงตาในดวงใจนะคะ
หรือพบกันที่
http://board.thaidoweb.com/Lilaswriter/
แม่ค้าขนมหวาน บทนำ
เปลวแดดที่สะท้อนกับผิวถนนดูระยิบระยับ บอกถึงไอร้อนที่แผดเผาผู้คนที่เดินขวักไขว่อยู่บนทางเท้าริมถนนในยามบ่ายแก่ๆ เช่นนี้ ร่างสูงเดินฝ่าเปลวแดดบนท้องถนนดูเหมือนจะโดดเด่นกว่าผู้คนที่เดินสวนไปเป็นระยะ ทั้งที่การแต่งตัวก็ไม่ได้แปลกไปกว่าคนทั่วไปเลย เสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกนยีนส์สีซีดและรองเท้าผ้าใบ เป็นสิ่งที่หาได้ดาดเดื่อนทั่วไปในท้องถนน
แต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ร่างสูงนั้นโดดเด่น
อาจเป็นเพราะแว่นตาสีชาเข้มที่เจ้าตัวสวมอยู่ บดบังนัยน์ตาคมที่สอดส่ายหาเป้าหมายที่เขาฝ่าไอร้อนมาในวันนี้
มุมปากเรียวสวยที่ผู้หญิงยังอิจฉาเผยอยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นสิ่งที่ต้องการ
ร้านบริเวณหัวมุม ขนาดสองคูหาในอาคารพาณิชย์ทันสมัย ผนังทั้งหมดเป็นกระจกใสมองเห็นภายในร้านได้อย่างชัดเจน
ป้ายหน้าร้านเป็นป้ายไม้สีน้ำตาลอ่อนแกะสลักชื่อร้าน
'ขนมหวาน'
พร้อมกับรูปศาลาแปดเหลี่ยมหลังน้อย
ชายหนุ่มผลักประตูกระจกใส ก้าวเข้าไปในร้าน
ภายในร้านเย็นเฉียบด้วยแอร์คอนดิชันตัดกับความร้อนภายนอก เสียงเพลงเบาๆ คลอแว่วมา
"ยินดีต้อนรับครับ..." เสียงประสานกันดังมาจากทุกมุมของร้านที่มีบริกรยืนอยู่ ทำเอาผู้เข้ามาใหม่แทบสะดุ้ง
เขาเดินผ่านชุดโต๊ะเก้าอี้ชุดเล็กๆ ที่ทำจากไม้อัดสีน้ำตาลอ่อนเคลือบเงาวาว บนโต๊ะมีแจกันทรงสูงปักด้วยก้านไม้ร้อยดอกรักและ
ส่วนปลายเป็นพุ่มดอกมะลิแม้ดูผ่านๆ ยังรู้สึกถึงความประณีต แต่เขาก็อดอมยิ้มไม่ได้เพราะเป็นอะไรที่ขัดกับบรรยากาศทันสมัยของการ
ตกแต่งร้านทีเดียว
จนมาหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์บริเวณด้านในสุดของร้าน
"ได้ข่าวว่าพี่เปิดร้านขายขนม...นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบนี้" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยกับร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์
เจ้าของร่างสูงโปร่งยกมือเสยปอยผมที่ลงมาปรกใบหน้า เผยให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาเข้มบนดวงตารียาวมีประกายคมกริบขณะนี้พราวระยับ ริมฝีปากสีเรื่อขยับยิ้ม
"แล้วนึกว่าไงล่ะ...คุณดาราใหญ่"
ธราทิตย์เปิดยิ้มกว้าง ปลดแว่นสีชาลง
ดวงหน้าคมคายที่สาวๆ ทั้งเมืองชื่นชอบหนักหนา จากการเป็นนายแบบและนักแสดงที่เป็นที่นิยมของประชาชนมาก
"ไม่รู้สิครับ...แต่ไม่เคยคิดว่าพี่จะมาทำอะไรอย่างนี้" ชายหนุ่มยักไหล่ เขารู้จากที่บ้านว่าลูกผู้พี่คนนี้เปิดร้านขนมหลังจากกลับมา
จากการทำงานที่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขา... ไม่สิ...คนทั้งตระกูลกระมังคิด เพราะร้านขนม...เป็นอะไรที่ไม่เข้ากับใบไผ่เลย
สาวห้าวที่เด็กผู้ชายแถวบ้านเรียกว่าลูกพี่... มาตั้งแต่เด็กจนโต จนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็นั่งยันนอนยันที่จะเรียนวิศวะ แล้วยังเลือกสาขาเครื่องกลอีกต่างหาก เขายังได้ข่าวมาว่าลูกผู้พี่ของเขาคนนี้ยังเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์เชียร์หรือที่เรียกง่ายๆ ว่าว๊ากเกอร์นั่นแหละ แล้วยังสารพัดค่ายอาสาที่เจ้าตัวทำตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีสี่ แล้วยังเพื่อนผู้ชายที่สนิทกันอีกขโยงใหญ่
แล้วอย่างนี้... ใบไผ่กลับมาเปิดร้านขนม
เขากวาดตามองรอบๆ ร้าน บรรยากาศร้านก็คล้ายร้านกาแฟที่เห็นกันเกลื่อนเมืองอยู่ตอนนี้ แต่ถ้าดูให้ละเอียดแล้วจะรู้สึกถึงความแตกต่าง แต่ที่เขาสะดุดตามากตอนนี้เป็นจะเป็นพนักงานในร้าน
"พี่ไผ่...นี่พี่เปิดร้านหรือเปิดฮาเร็มกันแน่"
ใบไผ่หัวเราะร่วน...
ธราทิตย์ส่ายหน้า ก็พนักงานสี่คนในร้านไม่รวมใบไผ่มีแต่ผู้ชาย
แล้วแต่ละคน... ถ้าพวกแมวมองมาเห็นคงยิ้มปลื้มกันล่ะ เพราะถึงจะหน้าตาไม่ได้หล่อทุกคนแต่เด็กหนุ่มพวกนี้...เขาคะเนอายุว่า
คงราวๆ เกือบยี่สิบปีหรืออาจอ่อนกว่านั้นสักปีสองปี ต่างก็มีบุคลิกท่าทางที่ดูดีเหมือนกันหมด ตั้งแต่เสื้อเชิ้ตเรียบกริบสีฟ้าอ่อนกับการเกงแสล็คสีดำที่เหมือนกันทุกคนรวมทั้งตัวใบไผ่ด้วย มีผ้ากันเปื้อนสีขาวปักชื่อร้านและโลโก้ศาลาแปดเหลี่ยมหลังน้อยด้วยสีฟ้าเช่นกัน ผมด้านหน้าปรกหน้าผากนิดๆ ด้านหลังตัดเข้ารูปกับท้ายทอย ประมาณว่าทรงโปรดของเด็กสาวที่คลั่งการ์ตูนญี่ปุ่นหรือหนังเกาหลีล่ะ
ใบไผ่ยักไหล่...รอยยิ้มยังพราวที่ริมฝีปาก
"ความสุขส่วนตัว..."
ธราทิตย์โครงศีรษะ เขาไม่เชื่อหรอก...อย่างใบไผ่ต้องมีเป้าหมายมากกว่านั้น
"เต้... ขอกาแฟเย็นให้พี่แก้วสิ" ใบไผ่หันไปสั่งเด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอยู่ที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มติดกับเคาน์เตอร์ของหล่อน
"นี่พี่ทำได้ไง...ขายเครื่องดื่มวัยรุ่นกับขนมคุณป้าเนี่ย" เขาหยิบเมนูที่เป็นกระดาษขนาดพ็อกเก๊ตบุ๊คพิมพ์สีสดใสอาบมันขึ้น
พิจารณา รายการเครื่องดื่มเป็นจำพวกกาแฟและชาผลไม้ยอดฮิตของวัยรุ่น ส่วนรายการขนมนั้น...เขาอยากรู้เหมือนกันว่าวัยรุ่นรู้จักกันหรือเปล่าว่า ขนมเรไร ขนมน้ำดอกไม้ หรือกระเช้าสีดา หน้าตาเป็นยังไง
"เขาเรียกการบูรณาการของการค้า...ยังไงฉันก็ขายได้ล่ะ...แถมพวกวัยรุ่นทั้งนั้นนะ"
เขาหรีตามองดวงหน้าเจ้าเล่ห์ของลูกพี่ลูกน้องสาว
"อ๋อ...เอาหนุ่มๆ มาล่อเด็กนี่"
"เฮ้ย...พูดอะไรอย่างนั้นนายธรา...เสียหายหมด"
"แล้วจริงไหมล่ะครับ..."
ใบไผ่ยิ้ม... ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
"แล้วนี่พี่ไผ่คิดยังไงมาเปิดร้านนี้..."
คิดยังไงน่ะเหรอ... หญิงสาวทวนคำถามของธราทิตย์
ทำไมหล่อนถึงเปิดร้าน 'ขนมหวาน' ร้านนี้น่ะเหรอ
ก็...
...........................................................................................................................................
ตอนนี้ใบไผ่กับเจ้าพ่อของเราก็ได้รับการตีพิมพ์เรียบร้อยแล้วนะคะ โดย สนพ.ยาหยี-ยาใจ ในเครือ ณ บ้านวรรณกรรม เช่นเดียวกับ หนึ่งเดียวในดวงใจ และ เจ้าหญิงใจดวงใจ ค่ะ จึงขอลบเนื้อเรื่องออกนะคะ
กำหนดการวางแผงเลื่อนไปเป็นปลายเดือนมีนาคม ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาตินะคะ ทั้งเล่ม 1 ค่ะ และเล่ม 2 ค่ะ
แบบว่ายาวมากก็เลยต้องแบ่งออกเป็น 2 เล่มนะคะ
และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะได้พบกับความหวานเล็กๆ น้อยๆ ตอนท้ายเรื่องเพิ่มเติมค่ะ
แล้วพบกันในเรื่องดวงตาในดวงใจนะคะ
หรือพบกันที่
http://board.thaidoweb.com/Lilaswriter/
แม่ค้าขนมหวาน บทนำ
เปลวแดดที่สะท้อนกับผิวถนนดูระยิบระยับ บอกถึงไอร้อนที่แผดเผาผู้คนที่เดินขวักไขว่อยู่บนทางเท้าริมถนนในยามบ่ายแก่ๆ เช่นนี้ ร่างสูงเดินฝ่าเปลวแดดบนท้องถนนดูเหมือนจะโดดเด่นกว่าผู้คนที่เดินสวนไปเป็นระยะ ทั้งที่การแต่งตัวก็ไม่ได้แปลกไปกว่าคนทั่วไปเลย เสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกนยีนส์สีซีดและรองเท้าผ้าใบ เป็นสิ่งที่หาได้ดาดเดื่อนทั่วไปในท้องถนน
แต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ร่างสูงนั้นโดดเด่น
อาจเป็นเพราะแว่นตาสีชาเข้มที่เจ้าตัวสวมอยู่ บดบังนัยน์ตาคมที่สอดส่ายหาเป้าหมายที่เขาฝ่าไอร้อนมาในวันนี้
มุมปากเรียวสวยที่ผู้หญิงยังอิจฉาเผยอยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นสิ่งที่ต้องการ
ร้านบริเวณหัวมุม ขนาดสองคูหาในอาคารพาณิชย์ทันสมัย ผนังทั้งหมดเป็นกระจกใสมองเห็นภายในร้านได้อย่างชัดเจน
ป้ายหน้าร้านเป็นป้ายไม้สีน้ำตาลอ่อนแกะสลักชื่อร้าน
'ขนมหวาน'
พร้อมกับรูปศาลาแปดเหลี่ยมหลังน้อย
ชายหนุ่มผลักประตูกระจกใส ก้าวเข้าไปในร้าน
ภายในร้านเย็นเฉียบด้วยแอร์คอนดิชันตัดกับความร้อนภายนอก เสียงเพลงเบาๆ คลอแว่วมา
"ยินดีต้อนรับครับ..." เสียงประสานกันดังมาจากทุกมุมของร้านที่มีบริกรยืนอยู่ ทำเอาผู้เข้ามาใหม่แทบสะดุ้ง
เขาเดินผ่านชุดโต๊ะเก้าอี้ชุดเล็กๆ ที่ทำจากไม้อัดสีน้ำตาลอ่อนเคลือบเงาวาว บนโต๊ะมีแจกันทรงสูงปักด้วยก้านไม้ร้อยดอกรักและ
ส่วนปลายเป็นพุ่มดอกมะลิแม้ดูผ่านๆ ยังรู้สึกถึงความประณีต แต่เขาก็อดอมยิ้มไม่ได้เพราะเป็นอะไรที่ขัดกับบรรยากาศทันสมัยของการ
ตกแต่งร้านทีเดียว
จนมาหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์บริเวณด้านในสุดของร้าน
"ได้ข่าวว่าพี่เปิดร้านขายขนม...นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบนี้" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยกับร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์
เจ้าของร่างสูงโปร่งยกมือเสยปอยผมที่ลงมาปรกใบหน้า เผยให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาเข้มบนดวงตารียาวมีประกายคมกริบขณะนี้พราวระยับ ริมฝีปากสีเรื่อขยับยิ้ม
"แล้วนึกว่าไงล่ะ...คุณดาราใหญ่"
ธราทิตย์เปิดยิ้มกว้าง ปลดแว่นสีชาลง
ดวงหน้าคมคายที่สาวๆ ทั้งเมืองชื่นชอบหนักหนา จากการเป็นนายแบบและนักแสดงที่เป็นที่นิยมของประชาชนมาก
"ไม่รู้สิครับ...แต่ไม่เคยคิดว่าพี่จะมาทำอะไรอย่างนี้" ชายหนุ่มยักไหล่ เขารู้จากที่บ้านว่าลูกผู้พี่คนนี้เปิดร้านขนมหลังจากกลับมา
จากการทำงานที่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขา... ไม่สิ...คนทั้งตระกูลกระมังคิด เพราะร้านขนม...เป็นอะไรที่ไม่เข้ากับใบไผ่เลย
สาวห้าวที่เด็กผู้ชายแถวบ้านเรียกว่าลูกพี่... มาตั้งแต่เด็กจนโต จนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็นั่งยันนอนยันที่จะเรียนวิศวะ แล้วยังเลือกสาขาเครื่องกลอีกต่างหาก เขายังได้ข่าวมาว่าลูกผู้พี่ของเขาคนนี้ยังเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์เชียร์หรือที่เรียกง่ายๆ ว่าว๊ากเกอร์นั่นแหละ แล้วยังสารพัดค่ายอาสาที่เจ้าตัวทำตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีสี่ แล้วยังเพื่อนผู้ชายที่สนิทกันอีกขโยงใหญ่
แล้วอย่างนี้... ใบไผ่กลับมาเปิดร้านขนม
เขากวาดตามองรอบๆ ร้าน บรรยากาศร้านก็คล้ายร้านกาแฟที่เห็นกันเกลื่อนเมืองอยู่ตอนนี้ แต่ถ้าดูให้ละเอียดแล้วจะรู้สึกถึงความแตกต่าง แต่ที่เขาสะดุดตามากตอนนี้เป็นจะเป็นพนักงานในร้าน
"พี่ไผ่...นี่พี่เปิดร้านหรือเปิดฮาเร็มกันแน่"
ใบไผ่หัวเราะร่วน...
ธราทิตย์ส่ายหน้า ก็พนักงานสี่คนในร้านไม่รวมใบไผ่มีแต่ผู้ชาย
แล้วแต่ละคน... ถ้าพวกแมวมองมาเห็นคงยิ้มปลื้มกันล่ะ เพราะถึงจะหน้าตาไม่ได้หล่อทุกคนแต่เด็กหนุ่มพวกนี้...เขาคะเนอายุว่า
คงราวๆ เกือบยี่สิบปีหรืออาจอ่อนกว่านั้นสักปีสองปี ต่างก็มีบุคลิกท่าทางที่ดูดีเหมือนกันหมด ตั้งแต่เสื้อเชิ้ตเรียบกริบสีฟ้าอ่อนกับการเกงแสล็คสีดำที่เหมือนกันทุกคนรวมทั้งตัวใบไผ่ด้วย มีผ้ากันเปื้อนสีขาวปักชื่อร้านและโลโก้ศาลาแปดเหลี่ยมหลังน้อยด้วยสีฟ้าเช่นกัน ผมด้านหน้าปรกหน้าผากนิดๆ ด้านหลังตัดเข้ารูปกับท้ายทอย ประมาณว่าทรงโปรดของเด็กสาวที่คลั่งการ์ตูนญี่ปุ่นหรือหนังเกาหลีล่ะ
ใบไผ่ยักไหล่...รอยยิ้มยังพราวที่ริมฝีปาก
"ความสุขส่วนตัว..."
ธราทิตย์โครงศีรษะ เขาไม่เชื่อหรอก...อย่างใบไผ่ต้องมีเป้าหมายมากกว่านั้น
"เต้... ขอกาแฟเย็นให้พี่แก้วสิ" ใบไผ่หันไปสั่งเด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอยู่ที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มติดกับเคาน์เตอร์ของหล่อน
"นี่พี่ทำได้ไง...ขายเครื่องดื่มวัยรุ่นกับขนมคุณป้าเนี่ย" เขาหยิบเมนูที่เป็นกระดาษขนาดพ็อกเก๊ตบุ๊คพิมพ์สีสดใสอาบมันขึ้น
พิจารณา รายการเครื่องดื่มเป็นจำพวกกาแฟและชาผลไม้ยอดฮิตของวัยรุ่น ส่วนรายการขนมนั้น...เขาอยากรู้เหมือนกันว่าวัยรุ่นรู้จักกันหรือเปล่าว่า ขนมเรไร ขนมน้ำดอกไม้ หรือกระเช้าสีดา หน้าตาเป็นยังไง
"เขาเรียกการบูรณาการของการค้า...ยังไงฉันก็ขายได้ล่ะ...แถมพวกวัยรุ่นทั้งนั้นนะ"
เขาหรีตามองดวงหน้าเจ้าเล่ห์ของลูกพี่ลูกน้องสาว
"อ๋อ...เอาหนุ่มๆ มาล่อเด็กนี่"
"เฮ้ย...พูดอะไรอย่างนั้นนายธรา...เสียหายหมด"
"แล้วจริงไหมล่ะครับ..."
ใบไผ่ยิ้ม... ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
"แล้วนี่พี่ไผ่คิดยังไงมาเปิดร้านนี้..."
คิดยังไงน่ะเหรอ... หญิงสาวทวนคำถามของธราทิตย์
ทำไมหล่อนถึงเปิดร้าน 'ขนมหวาน' ร้านนี้น่ะเหรอ
ก็...
...........................................................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น