คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter I : ปรุงยาเสน่ห์ให้พี่ที
nueng
Philtre
Chapter I “ปรุงยาเสน่ห์ให้พี่ที”
ชายป่าของหมู่บ้านโมเกวังเวงผิดปกตินัก เพราะช่วงนี้มีข่าวลือทั่วว่าปีศาจตนหนึ่งเข้ามายึดครองบริเวณนั้น จนทำให้ชาวบ้านต่างหวาดกลัว ไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียว
....แต่ขณะนี้กลับมีชาย 2 คนเดินอย่างระมัดระวัง ณ ที่แห่งนี้
คนหนึ่งเป็นชายร่างสูงใหญ่อายุย่าง 40 ปี กำลังประคองชายอีกคนที่ดูคร่าวๆคงเป็นลูกของชายคนแรก เลือดที่ซึมออกมาจากผืนผ้าบ่งบอกถึงอาการบาดเจ็บจากเด็กหนุ่มอายุอานามคงไม่เกิน 15
ณ หลังพุ่มไม้ไม่ไกลนัก ดวงตาสีแดงวาวจับจ้องกิริยาของทั้งสองจนแน่ใจจึงค่อยๆ เดินออกมาจากที่ซ่อนพลางสูดกลิ่นหอมของสิ่งอันคุ้นเคยที่ยั่วยวนให้ลิ้มลอง
ร่างบางของสตรีเพศทรุดลงตรงทางด้านหน้าของ 2 พ่อลูกอย่างพอดี ผู้ที่เป็นพ่อรีบวิ่งเข้ามาดูอาการทันที โดยลืมนึกถึงอาการบาดเจ็บของลูกตน
“แม่หญิงๆ แม่หญิงเป็นอะไรรึเปล่า?!”
“ช่วยข้าด้วย...” หญิงสาวเอ่ย ก่อนจะดึงสาบเสื้อของชายหนุ่มแน่น ริมฝีปากซีดเซียวเผยอขึ้นหมายจะเอื้อนเอ่ยคำ
“ช่วย... ช่วยเป็นอาหารของข้า!!” เธอกล่าวเสียงแผ่ว ก่อนแสยะยิ้มแล้วกระชากเสื้อชายหนุ่มให้เข้าใกล้ เขี้ยวขาวยาวงอกออกมาหวังจะฝังลงบนลำคอแกร่ง
ชายหนุ่มผงะออกด้วยความตกใจและกลัว แต่ติดตรงเล็บยาวนั้นดึงรั้งเสื้อเขาเอาไว้ใกล้เกินไปกว่าจะหนีทัน
“ช่วยด้วย!!” ชายหนุ่มร้องตะโกน หันมองไปยังบริเวณที่มีเด็กหนุ่มเคยยืนอยู่หวังให้เข้าช่วยแต่ตอนนี้เด็กหนุ่มนั้นหายไปแล้ว
“ลูกเจ้าก็คงไม่รอดเหมือนเจ้า ฮ่าฮ่า” ปีศาจสาวมองตามไปยังจุดนั้นก่อนจะยิ้มเยาะ พลางนึกถึงคนหนุ่มที่เป็นต้นเหตุให้เธอรู้สึกหิวที่ตามติดมาด้วย
“ด้วยอำนาจของดินจงปกปักษ์รักษาชายผู้นี้ด้วย” สิ้นคำกล่าวเบาๆ จากที่ไหนซักแห่ง ร่างของชายที่เธอตึงไว้ก็ถูกโอบล้อมด้วยบางสิ่งที่คุ้นเคยจนเธอต้องรีบถอยออกมาตั้งหลัก
“ทเวมาซา (หมอผี) !?”
“ด้วยคำสัญญาแห่งแสงจงพันธนาการยักษ์ร้าย!” ฉับพลันเชือกสีขาวก็พุ่งออกมาจากใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง แสงสีขาวที่ติดเชือกมาส่องให้เห็นใบหน้าเดียวกับเด็กหนุ่มที่ชายหนุ่มคิดว่าหนีไปแล้ว
ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็ว
“ท่านหายไปไหนมา ข้าคิดว่าท่านหนีไปเสียแล้ว”
“ข้าต้องจัดการกับอีก 2 ตัวก่อน...”
ชายหนุ่มหันไปมองด้านหลังของเด็กหนุ่มก็พบว่ามีปีศาจอีก 2 ตัวนอนหมดสภาพอยู่
แท้จริงแล้วเด็กหนุ่มคือทเวมาซาหรือหมอผีของตระกูลใหญ่ที่ชายหนุ่มผู้เป็นลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านที่ออกเดินทางไปขอความช่วยเหลือ
....เมื่อแรกที่ตระกูลลีส่งเด็กหนุ่มผู้นี้มา ชายหนุ่มแทบสิ่งความหวังกับท่าทางของเด็กหนุ่ม ร่างกายบอบบางเช่นนี้รึจะสู้กับปีศาจได้
แต่ตอนนี้เขาหวังพึ่งแต่เด็กหนุ่มตัวน้อยนี่เท่านั้นแล้ว
“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะเจ้าหมอผีเด็ก ถ้าข้าหลุดออกไปได้เจ้าจะไม่เหลือแม้แต่วิญญาณ” ปีศาจสาวขู่ แยกเขี้ยวโชว์เล็บยาวตวัดไปข้างหน้าจนชายหนุ่มถอยแอบหลังเด็กหนุ่มรุ่นลูกทันที
“เดโกบิ (ยักษ์) หญิง ท่านมีเหตุอันใดจึงต้องออกมาทำร้ายชาวบ้านเช่นนี้” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ
“ข้าชื่อเชว มินฮา แค่นามเจ้าคงจะรู้ว่าข้าเป็นใคร!”
“ข้าทราบดีเดโกบิเชว ส่วนข้านั้นชื่อลี แทมิน”
“หึ! เดี๋ยวนี้พวกตระกูลลีเขามีแต่พวกหมอผีเด็กไว้ตามล่าพวกข้าแล้วรึ น่ายกยอจริงๆ”
“ขอบใจที่ชม” แทมินรับ ถึงแม้จะรู้ว่ามันคือคำประชดดีๆ นี่เอง “แต่ตระกูลลีก็ฝึกฝนทเวมาซาทุกคนอย่างดีเช่นกัน”
“หึ” ปีศาจสาวขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ “ฝึกดีแค่ไหนกัน!!” สิ้นคำดูถูกเชือกสีขาวที่รัดร่างของนางไว้ก็สลายหายเป็นผุยผง ปีศาจสาวยิ้มเยาะกับอาการตกใจของเด็กหนุ่มแม้จะออกมาทางแววตาเล็กน้อยแค่นั้น
ไม่ทันให้เด็กหนุ่มตั้งตัวคลื่นไฟสีแดงก็ซัดออกมาจากยักษ์สาวอย่างไม่ขาดหาย พร้อมๆกับเขา 2 ข้างที่เริ่มงอกออกมาอย่างชัดเจนที่ศีรษะ
“ในพันธะสัญญาของสรรค์ เทพมังกรลมทิศตะวันออก กิเลนขาวจงจองจำปีศาจร้าย!!”
เชือกสีดำโผล่ออกมาจากยันต์ยันต์สีเหลืองที่เด็กหนุ่มดึงออกมาจากชายแขนเสื้อเข้ารัดตรึงร่างของเดโกบิอย่างรวดเร็ว
“กรี๊ดด!!...”
ปีศาจสาวร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดหากเป็นเพียงแค่เชือกธรรมดาดั่งเมื่อครู่นางเองยังพอแก้ไขได้ แต่นี่เป็นถึงเชือกที่ถักทอมาจาเส้นผมของเหล่าเทพอำนาจแค่นางรึจะสู้ได้
แทมินล้วงหยิบโถแก้วใบเล็กออกมาจากอกเสื้อ ก่อนจะดึงจุกออกพลางท่อนคาถาที่เล่าเรียนมาตั้งแต่จำความ
“ฟ้า.. ดิน... โลก... สรรค์ - มนุษย์... ข้าขออัญเชิญเทพพยัคฆ์มานำดวงวิญญาณปีศาจร้ายไปชำระบาป!...”
เป็นอีกครั้งที่ปีศาจสาวต้องกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและความกลัว เธอกอดร่างตัวเองไว้แน่นรู้สึกร้อนไปทั่วสรรพกาย ในหูได้ยินแต่เสียงบทสวดตลอดเวลา สิ่งที่เด็กหนุ่มหยิบออกมานั้นคือโถแก้ววิญญาณที่ปีศาจตนใดเข้าไปอยู่แล้วไม่เคยได้กลับมาซักตน
“อย่า! ได้โปรด ข้าสัญญาข้าจะไม่ยุ่งกับพวกมนุษย์อีก!... อย่าทำข้าเลยนะ!!”
“ขอโทษจริงๆ เดโกบิเชว เพราะว่าท่านคือปีศาจตระกูลเชวที่เข่นฆ่ามนุษย์ที่บริสุทธิ์ข้าจึงไม่อาจให้โอกาสท่านได้”
สิ้นคำกล่าวแสงสีขาวนวลตาก็เจิดจ้าออกมาจากปากโถ กลืนกินร่างที่กำลังร้องขอความเมตตาจนสลายหายไป
“ข...ขอบคุณท่านมาก ท่านทเวมาซาลี แค่นี้หมู่บ้านของข้าก็จะสงบสุขแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวด้วยความดีใจ ก่อนจะวิ่งออกไปป่าวประกาศให้ลูกบ้านทราบทั่วกัน
“ปีศาจถูกกำจัดแล้ว!! หมู่บ้านปลอดภัยแล้ว!!”
เด็กหนุ่มหันมองตามเสียงตะโกนของชายหนุ่มพลางมองบรรดาประตูบ้านและหน้าต่างที่ค่อยๆ แง้มเปิดดูเหตุการณ์ ก่อนจะหันมาสนใจขวดใบย่อมในมือ
เสียงแปลกๆ ที่ดังมาจากพุ่มไม้ใหญ่เรียกความสนใจของแทมินกลับมาอยู่กับสถานการณ์รอบตัวอีกครั้ง
“นั่นใคร!” ร่างเล็กตะโกนถามออกไป
“พี่เองแทมิน”
“ท่านพี่จินกิ...”
ชายหนุ่มร่างสูงอายุไม่ห่างจากแทมินเท่าไหร่นักเดินลงมาจากเนินดินสูงพลางสำรวจร่างกายของผู้เป็นน้อง
“ปลอดภัยใช่มั้ย...”
“ครับ... ไม่ทราบว่าท่านพี่หนีงานไปไหนมาหรือครับ?” เขาแค่นเสียงถามความจริงหน้าที่นี้ควรจะเป็นของพี่ชาย แต่ก่อนวันเจ้าตัวกลับมาเอ่ยขอให้มาแทนเพราะตนมีธุระด่วน
“พี่ไปดูหน้าตาพี่สะใภ้เจ้าน่ะ”
“พี่สะใภ้?...” เขาฉงน ครุ่นคิดถึงเมื่อต้นเดือนก่อนที่พิธีดูตัวของพี่ชายจำได้ว่าเล่นตินู่นนี่ของฝ่ายหญิงจนนางร้องไห้วิ่งออกจากเรือนไม่หันกลับมาเลย
“ใช่ นี่แทมินช่วยอะไรพี่อย่างหนึ่งได้ไหม”
ร่างเล็กเลิกคิ้วขึ้นอย่างชั่งใจ เรื่องที่พี่ชายคนนี้จะขอให้เขาช่วยมักไม่ใช่เรื่องดี ครั้งที่แล้วก็ให้เขาปรุงยาถ่ายให้แต่ก็กลับเอาไปใช้แกล้งพวกคนรับใช้
“เรื่องอะไรหรือครับ”
“ปรุงยาเสน่ห์ให้พี่ที”
“หา?!! ยาเสน่ห์?” แทมินตกใจ การใช้ยาเสน่ห์เป็นสิ่งที่ผิดต่อหลักจรรยาบรรณของเขาอย่างมาก
“ใช่” ร่างสูงตอบหนักแน่น
“แต่นั่นมันผิดนะครับท่านพี่ ยาเสน่ห์เป็นของพวกมนต์ดำ แต่พวกเรา...” ร่างเล็กตั้งใจจะกล่าวถึงวิธีของทเวมาซา
“พี่รู้ แต่นี่พี่กำลังหาพี่สะใภ้ให้เจ้านะแทมิน”
“แต่ข้าทำไม่...” ร่างเล็กตั้งใจเอ่ยปฏิเสธแต่พี่ชายกลับสวนขึ้นกลางคัน
“อย่าบอกพี่นะว่าเจ้าทำไม่ได้ เจ้าหัดทำน้ำมนต์มาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ฝึกปรุงยาแก้พิษตอนอายุ 5 ขวบ ฝึกปรุงยาพิษตอนอายุ 7 ขวบ แล้วนี่เจ้าก็จะอายุ 17 แล้ว ทำไมเจ้าจะปรุงยาเสน่ห์ที่เจ้าเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กไม่ได้ แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้พี่ก็คงต้อง...”
“ทำได้ซิครับ ข้าทำให้ท่านพี่ก็ได้” ร่างเล็กตอบเสียงหนักแน่นแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
จินกิคลี่พัดบังใบหน้าพลางลอบมองด้วยความยินดี
...จุดอ่อนของแทมินมีหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นคืออย่าท้าหรือดูถูก...
“นี่ซิน้องชายสุดที่รักของพี่” ร่างสูงกล่าวก่อนจะดึงตัวน้องชายเข้ามากอดด้วยความรัก
“..กี้...กี้...” เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของปีศาจร่างเล็กอีกตัวที่เฝ้ามองมาตั้งแต่นายหญิงของมันเดินออกไปล่ามนุษย์จนถึงตอนที่ทเวมาซาหนุ่มน้อยนั้นใช้คาถาจัดการกับนายหญิงจนหายไป มันจึงได้หนีเตลิดเข้าไปในป่าด้วยความกลัว
ปึ้ก!
เจ้าปีศาจเงยหน้ามองเจ้าของชายผ้าสีดำด้วยความดีใจก่อนจะโอบกอดขาพร้อมเล่าเรื่องราวทั้งหมดกับผู้เป็นนาย
“จริงรึ?”ดวงตาเรียวแหลมเบิกโพลงด้วยความเสียใจก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้น “ตอนนี้มันอยู่ไหน?!!”
“กี้...กี้...”
“ไม่เป็นไร แค้นนี้ข้าจะต้องชำระให้เจ้ามินฮา พวกตระกูลลีต้องชดใช้!”
เสียงทรงอำนาจดังก้องทั่วป่าใหญ่ เหล่ากสุนาต่างบินออกจากรังด้วยความตกใจ
เปลวเทียนสีเหลืองทองบนแท่งเทียนสีขาวแท่งใหญ่วูบไหวไปมาราวกับต้องลม ทั้งๆที่หน้าต่างและประตูปิดสนิท หญิงชราที่ทำหน้าที่ดูแลแท่งเทียนทั้งหลายในห้องจ้องมองเทียนเล่มใหญ่ที่อยู่ในสุด พร้อมกับกล่าวอ้อนวอน
“โอ้สวรรค์แทมินยังอายุน้อยเกินไป ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ด้วย”
“น้ำค้างพันจันทรา.. หิมะร้อยตะวัน... เศษเขากิเลนดิน... แล้วอะไรอีกน้า~
”
ร่างเล็กเอ่ยทวนรายการที่จดไว้ในกระดาษอย่างถี่ถ้วน
“เอ๊? ยังขาดอะไรอีกนะ?”
“แทมินเอ๊ย...” เสียงแหบพร่าดังเรียกชื่อร่างเล็ก แทมินละความสนใจจากกระดาษในมือพลางรีบพับเก็บใส่สาบเสื้อ
“ครับท่านย่า” ร่างเล็กขานรับลุกขึ้นกาวเท้าไปเปิดประตูอย่างรีบเร่ง
“ทำอะไรอยู่รึ”
“เอ่อ... หาส่วนผสมทำน้ำมนต์สูตรใหม่ครับ” แทมินตอบพลางเดินไปดึงกระดาษที่ถูกสมุดวางทับบนโต๊ะขึ้นมาให้ผู้เป็นย่าดู ซึ่งนางก็รับไปดูเช่นกัน
“ถึงกับต้องใช้น้ำตาซินเนริมเชียวรึ”
“ครับ หลานเคยเจอในส่วนหนึ่งของหนังสือที่เคยอ่าน น้ำตาของซินเนริมที่สูงส่งจะช่วยชำระล้างจิตใจของปีศาจได้”
“แต่จะให้ซินเนริมหลั่งน้ำตาก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันไม่ใช่รึ?” หญิงชราเอ่ยทัก
“นั่นน่ะซิครับ อ้อ! ว่าแต่ท่านย่าเรียกหามีธุระอะไรหรอครับ”
หญิงชรายิ้มให้กับเด็กหนุ่มพลางใช้มือลูบหัวเล็กนั้นอย่างเอ็นดู ก่อนจะถอนหายใจด้วยแววตาเศร้าสร้อย
“ย่าจะมาบอกเรื่องเทียนชีวิต...”
สิ้นคำกล่าวความเงียบก็พลันบังเกิดขึ้น มีเพียงสายลมที่พัดเอื่อยๆ ราวกับเฝ้ารอคำพูดของใครซักคนที่จะเริ่มก่อน
“เรื่องนั้น... หลานคาดคิดไว้แล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้นซักวันหนึ่ง ความตายเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ หากเราฉุดรั้งมันไว้ก็เท่ากับเป็นการทำร้ายตัวของเราเอง เพราะฉะนั้นหลานคิดว่าหลานต้องรับมันให้ได้เมื่อมันมาถึง...”
“แทมิน... ไหนมาให้ย่ากอดหน่อยซิ” หญิงชราอ้าอ้อมแขนออกกว้างเพื่อให้เด็กหนุ่มเข้าสวมกอด ซึ่งเด็กหนุ่มก็ยินดีที่จะเข้าสวมกอดเช่นกัน
“หลานรักท่านย่านะครับ”
“ย่าก็รักเจ้า หลานรัก”
ร่างสูงใหญ่จ้องมองเสี้ยวหน้าผู้ที่เป็นถึงทเวมาซาที่เก่งในเรื่องปรุงยาที่สุดแห่งตระกูลลีด้วยสายตาเหยียดหยาม
“รักกันให้มากๆซะพวกตาเฒ่ายายเฒ่าลี ก่อนที่พวกเจ้าจะไม่มีโอกาสนั้น โดยเฉพาะเจ้าลี แทมิน”
ดวงตาสีแดงจับจ้องอยู่แต่ที่ร่างเล็กทุกการกระทำด้วยความแค้นเคือง
เท้าของร่างสูงหยุดลงเมื่อพบม่านกั้นบังตาสีขาวบาง กลิ่นกำยานอบอวลอยู่ทั่วบริเวณ หญิงรับใช้สองคนหน้าม่านกั้นก้มทำความเคารพก่อนจะเอ่ยห้ามเมื่อเห็นร่างสูงกำลังจะแหวกม่านเข้าไป
“ตอนนี้ท่านซินเนริม(ร่างทรง)กำลังฝึกซ้อมการร่ายรำเพื่อใช้ในงานเทศกาลอยู่ มิอาจให้ผู้ใดเข้าไปได้เจ้าค่ะ”
“ให้ท่านจินกิเข้ามาเถอะ ข้าฝึกซ้อมเสร็จแล้ว” เสียงบางเบาดังมาจากด้านในสุดของม่านบังตา
หญิงรับใช้ทั้งสองเปิดม่านชั้นนอกให้ก่อนจะปิดลงดังเดิมเมื่อร่างสูงนั้นเดินผ่านเข้าไปเรียบร้อย
เงาร่างของใครบางคนปรากฏอยู่เลือนรางในม่านชั้นในสุด จินกิเร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อหวังจะได้พบหน้าคนๆ นั้นเร็วขึ้น
...ว่าที่สะใภ้ของตระกูลลี...
“หยุดตรงนั้นก่อนท่านจินกิ”
จินกิหยุดฝีเท้าลงพลางชะงักมือที่กำลังจะแหวกม่านออกทั้งๆ ที่แค่อีกชั้นเดียวก็จะได้พบแล้ว
.ผู้ที่กุมหัวใจของเขาเอาไว้...
“ข้ากำลังเปลี่ยนชุดอยู่ ไม่นึกว่าท่านจะเข้ามาเร็วเช่นนี้”
เสียงหวานกล่าวราวตำหนิ
“เพราะข้าอยากเห็นหน้าเจ้า ข้าเลยรีบเร่งฝีเท้ามาหาเจ้า ได้ยินพวกสาวใช้หน้าห้องบอกว่าเจ้าซ้อมร่ายรำอยู่ ไม่ทราบว่าเจ้าซ้อมบทเพลงอะไรรึ”
“ข้าซ้อมนกกระสาขาว... ข้าเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเปิดม่านเข้ามาเถอะ” เสียงหวานกล่าวอนุญาต
จินกิเปิดม่านชั้นสุดท้ายออก ณ กลางห้องนั้นมีร่างในชุดสีขาวนั่งอยู่ ใบหน้านั้นสวยหวานเหมือนดั่งหญิงสาว เพียงแต่คนๆนี้กลับเป็นผู้ชาย
...ไม่ผิดใช่ไหมที่จะรักผู้ชายที่สวยงามเช่นนี้...
...คิม คีบอม...
ตระกูลซินเนริมที่สืบเชื้อสายมาจากปีศาจตระกูลคิม
...ศัตรูอันดับ 2 ของตระกูลเขา..
ตระกูลทเวมาซาที่แม้แต่พระราชายังทรงไว้วางใจ
...ลี จินกิ...
“ไม่ทราบว่าท่านมีปัญหาอะไรให้ข้าช่วยรึเปล่า”
“เวลาข้ามาหาเจ้า ข้าจำเป็นต้องมีเรื่องค้างคาใจเช่นคนอื่นงั้นรึ” ร่างสูงกล่าวตัดพ้อ
“หน้าที่ของซินเนริมคือติดต่อกับวิญญาณของผู้ล่วงลับ เป็นร่างทรงของเทพ ช่วยแก้ปัญหาให้ชาวเมือง...”
“แต่ถ้าปัญหาของข้าคือเจ้าล่ะ จะช่วยข้าได้ไหม?”
ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองผู้พูดราวกับที่ได้ยินเมื่อครู่นี้ตนหูฝาด ดวงตาเรียวจ้องเข้าไปในตาของอีกฝ่ายราวกับจะค้นหาบางสิ่ง
“ข้าไม่เคยไปทำเรื่องให้ท่านต้องเดือดร้อน”
“ข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น เพียงแต่ข้าจะมาขอขอบางสิ่งจากเจ้า”
“ของจากข้า?”
“น้ำตา...”
ร่างบางลุกขึ้นจากพื้นเย็น ก่อนจะก้าวตรงไปยังหน้าต่างบานเล็กที่สาดแสงเข้ามาในห้องเพียงน้อยนิด
“งั้นท่านก็คงต้องผิดหวัง”
“ข้ารู้ว่าซินเนริมทุกคนไม่สามารถมีอารมณ์อันได้ เพราะว่านั่นหมายถึงซินเนริมคนนั้นจะไม่สามารถเป็นคนทรงได้อีก”
“ทั้งๆที่ท่านก็รู้ แต่ท่านก็ยังมาขอมันจากข้าอีก”
“นั่นเพราะข้าอยากให้เจ้าเลิกเป็นคนทรงต่างหาก...”
“มันคงไม่มีวันนั้นเป็นอันขาด” ดวงตาเรียวจ้องมองออกไปยังจุดหมายที่ไม่มีสิ้นสุด
ความคิดเห็น