ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Philtre (2Min - OnKey)

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter I : “ปรุงยาเสน่ห์ให้พี่ที”

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ค. 54


    nueng

    Philtre

    Chapter I “ปรุงยาเสน่ห์ให้พี่ที”

                   

                    ชายป่าของหมู่บ้านโมเกวังเวงผิดปกตินัก  เพราะช่วงนี้มีข่าวลือทั่วว่าปีศาจตนหนึ่งเข้ามายึดครองบริเวณนั้น  จนทำให้ชาวบ้านต่างหวาดกลัว  ไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียว 

                    ....แต่ขณะนี้กลับมีชาย  2  คนเดินอย่างระมัดระวัง   ที่แห่งนี้

                    คนหนึ่งเป็นชายร่างสูงใหญ่อายุย่าง 40 ปี  กำลังประคองชายอีกคนที่ดูคร่าวๆคงเป็นลูกของชายคนแรก  เลือดที่ซึมออกมาจากผืนผ้าบ่งบอกถึงอาการบาดเจ็บจากเด็กหนุ่มอายุอานามคงไม่เกิน 15

                    ณ หลังพุ่มไม้ไม่ไกลนัก  ดวงตาสีแดงวาวจับจ้องกิริยาของทั้งสองจนแน่ใจจึงค่อยๆ เดินออกมาจากที่ซ่อนพลางสูดกลิ่นหอมของสิ่งอันคุ้นเคยที่ยั่วยวนให้ลิ้มลอง

                    ร่างบางของสตรีเพศทรุดลงตรงทางด้านหน้าของ 2 พ่อลูกอย่างพอดี  ผู้ที่เป็นพ่อรีบวิ่งเข้ามาดูอาการทันที โดยลืมนึกถึงอาการบาดเจ็บของลูกตน

                    “แม่หญิงๆ แม่หญิงเป็นอะไรรึเปล่า?!

                    “ช่วยข้าด้วย...” หญิงสาวเอ่ย  ก่อนจะดึงสาบเสื้อของชายหนุ่มแน่น  ริมฝีปากซีดเซียวเผยอขึ้นหมายจะเอื้อนเอ่ยคำ

                    “ช่วย...  ช่วยเป็นอาหารของข้า!!” เธอกล่าวเสียงแผ่ว  ก่อนแสยะยิ้มแล้วกระชากเสื้อชายหนุ่มให้เข้าใกล้  เขี้ยวขาวยาวงอกออกมาหวังจะฝังลงบนลำคอแกร่ง

                    ชายหนุ่มผงะออกด้วยความตกใจและกลัว  แต่ติดตรงเล็บยาวนั้นดึงรั้งเสื้อเขาเอาไว้ใกล้เกินไปกว่าจะหนีทัน

                    “ช่วยด้วย!!” ชายหนุ่มร้องตะโกน  หันมองไปยังบริเวณที่มีเด็กหนุ่มเคยยืนอยู่หวังให้เข้าช่วยแต่ตอนนี้เด็กหนุ่มนั้นหายไปแล้ว

                    “ลูกเจ้าก็คงไม่รอดเหมือนเจ้า  ฮ่าฮ่า” ปีศาจสาวมองตามไปยังจุดนั้นก่อนจะยิ้มเยาะ พลางนึกถึงคนหนุ่มที่เป็นต้นเหตุให้เธอรู้สึกหิวที่ตามติดมาด้วย

                    “ด้วยอำนาจของดินจงปกปักษ์รักษาชายผู้นี้ด้วย” สิ้นคำกล่าวเบาๆ จากที่ไหนซักแห่ง  ร่างของชายที่เธอตึงไว้ก็ถูกโอบล้อมด้วยบางสิ่งที่คุ้นเคยจนเธอต้องรีบถอยออกมาตั้งหลัก

                    “ทเวมาซา (หมอผี) !?”

                    “ด้วยคำสัญญาแห่งแสงจงพันธนาการยักษ์ร้าย!” ฉับพลันเชือกสีขาวก็พุ่งออกมาจากใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง  แสงสีขาวที่ติดเชือกมาส่องให้เห็นใบหน้าเดียวกับเด็กหนุ่มที่ชายหนุ่มคิดว่าหนีไปแล้ว

                    ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็ว

                    “ท่านหายไปไหนมา  ข้าคิดว่าท่านหนีไปเสียแล้ว”

                    “ข้าต้องจัดการกับอีก 2 ตัวก่อน...”

                    ชายหนุ่มหันไปมองด้านหลังของเด็กหนุ่มก็พบว่ามีปีศาจอีก 2 ตัวนอนหมดสภาพอยู่

                    แท้จริงแล้วเด็กหนุ่มคือทเวมาซาหรือหมอผีของตระกูลใหญ่ที่ชายหนุ่มผู้เป็นลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านที่ออกเดินทางไปขอความช่วยเหลือ

                    ....เมื่อแรกที่ตระกูลลีส่งเด็กหนุ่มผู้นี้มา  ชายหนุ่มแทบสิ่งความหวังกับท่าทางของเด็กหนุ่ม  ร่างกายบอบบางเช่นนี้รึจะสู้กับปีศาจได้

                    แต่ตอนนี้เขาหวังพึ่งแต่เด็กหนุ่มตัวน้อยนี่เท่านั้นแล้ว

                    “ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะเจ้าหมอผีเด็ก  ถ้าข้าหลุดออกไปได้เจ้าจะไม่เหลือแม้แต่วิญญาณ” ปีศาจสาวขู่  แยกเขี้ยวโชว์เล็บยาวตวัดไปข้างหน้าจนชายหนุ่มถอยแอบหลังเด็กหนุ่มรุ่นลูกทันที   

                    “เดโกบิ (ยักษ์) หญิง  ท่านมีเหตุอันใดจึงต้องออกมาทำร้ายชาวบ้านเช่นนี้” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ

                    “ข้าชื่อเชว มินฮา  แค่นามเจ้าคงจะรู้ว่าข้าเป็นใคร!

                    “ข้าทราบดีเดโกบิเชว  ส่วนข้านั้นชื่อลี แทมิน”  

                    “หึ!  เดี๋ยวนี้พวกตระกูลลีเขามีแต่พวกหมอผีเด็กไว้ตามล่าพวกข้าแล้วรึ  น่ายกยอจริงๆ”

                    “ขอบใจที่ชม” แทมินรับ  ถึงแม้จะรู้ว่ามันคือคำประชดดีๆ นี่เอง “แต่ตระกูลลีก็ฝึกฝนทเวมาซาทุกคนอย่างดีเช่นกัน”

                    “หึ” ปีศาจสาวขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ “ฝึกดีแค่ไหนกัน!!” สิ้นคำดูถูกเชือกสีขาวที่รัดร่างของนางไว้ก็สลายหายเป็นผุยผง  ปีศาจสาวยิ้มเยาะกับอาการตกใจของเด็กหนุ่มแม้จะออกมาทางแววตาเล็กน้อยแค่นั้น

                    ไม่ทันให้เด็กหนุ่มตั้งตัวคลื่นไฟสีแดงก็ซัดออกมาจากยักษ์สาวอย่างไม่ขาดหาย  พร้อมๆกับเขา 2 ข้างที่เริ่มงอกออกมาอย่างชัดเจนที่ศีรษะ

                    “ในพันธะสัญญาของสรรค์  เทพมังกรลมทิศตะวันออก  กิเลนขาวจงจองจำปีศาจร้าย!!

                    เชือกสีดำโผล่ออกมาจากยันต์ยันต์สีเหลืองที่เด็กหนุ่มดึงออกมาจากชายแขนเสื้อเข้ารัดตรึงร่างของเดโกบิอย่างรวดเร็ว

                    “กรี๊ดด!!...”

                    ปีศาจสาวร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดหากเป็นเพียงแค่เชือกธรรมดาดั่งเมื่อครู่นางเองยังพอแก้ไขได้  แต่นี่เป็นถึงเชือกที่ถักทอมาจาเส้นผมของเหล่าเทพอำนาจแค่นางรึจะสู้ได้

                    แทมินล้วงหยิบโถแก้วใบเล็กออกมาจากอกเสื้อ  ก่อนจะดึงจุกออกพลางท่อนคาถาที่เล่าเรียนมาตั้งแต่จำความ

                    “ฟ้า..  ดิน...  โลก...  สรรค์ - มนุษย์...  ข้าขออัญเชิญเทพพยัคฆ์มานำดวงวิญญาณปีศาจร้ายไปชำระบาป!...

                    เป็นอีกครั้งที่ปีศาจสาวต้องกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและความกลัว  เธอกอดร่างตัวเองไว้แน่นรู้สึกร้อนไปทั่วสรรพกาย  ในหูได้ยินแต่เสียงบทสวดตลอดเวลา  สิ่งที่เด็กหนุ่มหยิบออกมานั้นคือโถแก้ววิญญาณที่ปีศาจตนใดเข้าไปอยู่แล้วไม่เคยได้กลับมาซักตน

                    “อย่า!  ได้โปรด  ข้าสัญญาข้าจะไม่ยุ่งกับพวกมนุษย์อีก!...  อย่าทำข้าเลยนะ!!

                    “ขอโทษจริงๆ เดโกบิเชว  เพราะว่าท่านคือปีศาจตระกูลเชวที่เข่นฆ่ามนุษย์ที่บริสุทธิ์ข้าจึงไม่อาจให้โอกาสท่านได้”

                    สิ้นคำกล่าวแสงสีขาวนวลตาก็เจิดจ้าออกมาจากปากโถ  กลืนกินร่างที่กำลังร้องขอความเมตตาจนสลายหายไป

                    “ข...ขอบคุณท่านมาก  ท่านทเวมาซาลี  แค่นี้หมู่บ้านของข้าก็จะสงบสุขแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวด้วยความดีใจ  ก่อนจะวิ่งออกไปป่าวประกาศให้ลูกบ้านทราบทั่วกัน

                    “ปีศาจถูกกำจัดแล้ว!!  หมู่บ้านปลอดภัยแล้ว!!

                    เด็กหนุ่มหันมองตามเสียงตะโกนของชายหนุ่มพลางมองบรรดาประตูบ้านและหน้าต่างที่ค่อยๆ แง้มเปิดดูเหตุการณ์  ก่อนจะหันมาสนใจขวดใบย่อมในมือ

                    เสียงแปลกๆ ที่ดังมาจากพุ่มไม้ใหญ่เรียกความสนใจของแทมินกลับมาอยู่กับสถานการณ์รอบตัวอีกครั้ง

                    “นั่นใคร!” ร่างเล็กตะโกนถามออกไป

                    “พี่เองแทมิน”

                    “ท่านพี่จินกิ...”

                    ชายหนุ่มร่างสูงอายุไม่ห่างจากแทมินเท่าไหร่นักเดินลงมาจากเนินดินสูงพลางสำรวจร่างกายของผู้เป็นน้อง

                    “ปลอดภัยใช่มั้ย...”

                    “ครับ...  ไม่ทราบว่าท่านพี่หนีงานไปไหนมาหรือครับ?” เขาแค่นเสียงถามความจริงหน้าที่นี้ควรจะเป็นของพี่ชาย  แต่ก่อนวันเจ้าตัวกลับมาเอ่ยขอให้มาแทนเพราะตนมีธุระด่วน

                    “พี่ไปดูหน้าตาพี่สะใภ้เจ้าน่ะ”

                    “พี่สะใภ้?...” เขาฉงน  ครุ่นคิดถึงเมื่อต้นเดือนก่อนที่พิธีดูตัวของพี่ชายจำได้ว่าเล่นตินู่นนี่ของฝ่ายหญิงจนนางร้องไห้วิ่งออกจากเรือนไม่หันกลับมาเลย

                    “ใช่  นี่แทมินช่วยอะไรพี่อย่างหนึ่งได้ไหม”

                    ร่างเล็กเลิกคิ้วขึ้นอย่างชั่งใจ  เรื่องที่พี่ชายคนนี้จะขอให้เขาช่วยมักไม่ใช่เรื่องดี  ครั้งที่แล้วก็ให้เขาปรุงยาถ่ายให้แต่ก็กลับเอาไปใช้แกล้งพวกคนรับใช้

                    “เรื่องอะไรหรือครับ”

                    “ปรุงยาเสน่ห์ให้พี่ที”

                    “หา?!!  ยาเสน่ห์?” แทมินตกใจ  การใช้ยาเสน่ห์เป็นสิ่งที่ผิดต่อหลักจรรยาบรรณของเขาอย่างมาก

                    “ใช่” ร่างสูงตอบหนักแน่น

                    “แต่นั่นมันผิดนะครับท่านพี่  ยาเสน่ห์เป็นของพวกมนต์ดำ  แต่พวกเรา...” ร่างเล็กตั้งใจจะกล่าวถึงวิธีของทเวมาซา

                    “พี่รู้  แต่นี่พี่กำลังหาพี่สะใภ้ให้เจ้านะแทมิน”

                    “แต่ข้าทำไม่...” ร่างเล็กตั้งใจเอ่ยปฏิเสธแต่พี่ชายกลับสวนขึ้นกลางคัน

                    “อย่าบอกพี่นะว่าเจ้าทำไม่ได้  เจ้าหัดทำน้ำมนต์มาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ  ฝึกปรุงยาแก้พิษตอนอายุ 5 ขวบ  ฝึกปรุงยาพิษตอนอายุ 7 ขวบ  แล้วนี่เจ้าก็จะอายุ 17 แล้ว  ทำไมเจ้าจะปรุงยาเสน่ห์ที่เจ้าเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กไม่ได้  แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้พี่ก็คงต้อง...”

                    “ทำได้ซิครับ  ข้าทำให้ท่านพี่ก็ได้” ร่างเล็กตอบเสียงหนักแน่นแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น     

                    จินกิคลี่พัดบังใบหน้าพลางลอบมองด้วยความยินดี

                    ...จุดอ่อนของแทมินมีหลายอย่าง  และหนึ่งในนั้นคืออย่าท้าหรือดูถูก...

                    “นี่ซิน้องชายสุดที่รักของพี่” ร่างสูงกล่าวก่อนจะดึงตัวน้องชายเข้ามากอดด้วยความรัก

                    “..กี้...กี้...” เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของปีศาจร่างเล็กอีกตัวที่เฝ้ามองมาตั้งแต่นายหญิงของมันเดินออกไปล่ามนุษย์จนถึงตอนที่ทเวมาซาหนุ่มน้อยนั้นใช้คาถาจัดการกับนายหญิงจนหายไป  มันจึงได้หนีเตลิดเข้าไปในป่าด้วยความกลัว

                    ปึ้ก!

                    เจ้าปีศาจเงยหน้ามองเจ้าของชายผ้าสีดำด้วยความดีใจก่อนจะโอบกอดขาพร้อมเล่าเรื่องราวทั้งหมดกับผู้เป็นนาย

                    “จริงรึ?”ดวงตาเรียวแหลมเบิกโพลงด้วยความเสียใจก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้น “ตอนนี้มันอยู่ไหน?!!

                    “กี้...กี้...”

                    “ไม่เป็นไร  แค้นนี้ข้าจะต้องชำระให้เจ้ามินฮา  พวกตระกูลลีต้องชดใช้!

                    เสียงทรงอำนาจดังก้องทั่วป่าใหญ่  เหล่ากสุนาต่างบินออกจากรังด้วยความตกใจ
                                     
     

                    เปลวเทียนสีเหลืองทองบนแท่งเทียนสีขาวแท่งใหญ่วูบไหวไปมาราวกับต้องลม  ทั้งๆที่หน้าต่างและประตูปิดสนิท  หญิงชราที่ทำหน้าที่ดูแลแท่งเทียนทั้งหลายในห้องจ้องมองเทียนเล่มใหญ่ที่อยู่ในสุด  พร้อมกับกล่าวอ้อนวอน

                    “โอ้สวรรค์แทมินยังอายุน้อยเกินไป  ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ด้วย”
                                         

     

                    “น้ำค้างพันจันทรา..  หิมะร้อยตะวัน...  เศษเขากิเลนดิน...  แล้วอะไรอีกน้า~…

                    ร่างเล็กเอ่ยทวนรายการที่จดไว้ในกระดาษอย่างถี่ถ้วน

                    “เอ๊?  ยังขาดอะไรอีกนะ?”

                    “แทมินเอ๊ย...” เสียงแหบพร่าดังเรียกชื่อร่างเล็ก  แทมินละความสนใจจากกระดาษในมือพลางรีบพับเก็บใส่สาบเสื้อ

                    “ครับท่านย่า” ร่างเล็กขานรับลุกขึ้นกาวเท้าไปเปิดประตูอย่างรีบเร่ง

                    “ทำอะไรอยู่รึ”

                    “เอ่อ...  หาส่วนผสมทำน้ำมนต์สูตรใหม่ครับ” แทมินตอบพลางเดินไปดึงกระดาษที่ถูกสมุดวางทับบนโต๊ะขึ้นมาให้ผู้เป็นย่าดู  ซึ่งนางก็รับไปดูเช่นกัน

                    “ถึงกับต้องใช้น้ำตาซินเนริมเชียวรึ”

                    “ครับ  หลานเคยเจอในส่วนหนึ่งของหนังสือที่เคยอ่าน   น้ำตาของซินเนริมที่สูงส่งจะช่วยชำระล้างจิตใจของปีศาจได้”

                    “แต่จะให้ซินเนริมหลั่งน้ำตาก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันไม่ใช่รึ?” หญิงชราเอ่ยทัก

                    “นั่นน่ะซิครับ  อ้อ! ว่าแต่ท่านย่าเรียกหามีธุระอะไรหรอครับ”

                    หญิงชรายิ้มให้กับเด็กหนุ่มพลางใช้มือลูบหัวเล็กนั้นอย่างเอ็นดู  ก่อนจะถอนหายใจด้วยแววตาเศร้าสร้อย

                    “ย่าจะมาบอกเรื่องเทียนชีวิต...”

                    สิ้นคำกล่าวความเงียบก็พลันบังเกิดขึ้น  มีเพียงสายลมที่พัดเอื่อยๆ ราวกับเฝ้ารอคำพูดของใครซักคนที่จะเริ่มก่อน

                    “เรื่องนั้น...  หลานคาดคิดไว้แล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้นซักวันหนึ่ง  ความตายเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้  หากเราฉุดรั้งมันไว้ก็เท่ากับเป็นการทำร้ายตัวของเราเอง  เพราะฉะนั้นหลานคิดว่าหลานต้องรับมันให้ได้เมื่อมันมาถึง...”

                    “แทมิน...  ไหนมาให้ย่ากอดหน่อยซิ” หญิงชราอ้าอ้อมแขนออกกว้างเพื่อให้เด็กหนุ่มเข้าสวมกอด  ซึ่งเด็กหนุ่มก็ยินดีที่จะเข้าสวมกอดเช่นกัน

                    “หลานรักท่านย่านะครับ”

                    “ย่าก็รักเจ้า  หลานรัก”           

                    ร่างสูงใหญ่จ้องมองเสี้ยวหน้าผู้ที่เป็นถึงทเวมาซาที่เก่งในเรื่องปรุงยาที่สุดแห่งตระกูลลีด้วยสายตาเหยียดหยาม

                    “รักกันให้มากๆซะพวกตาเฒ่ายายเฒ่าลี  ก่อนที่พวกเจ้าจะไม่มีโอกาสนั้น  โดยเฉพาะเจ้าลี  แทมิน”

                    ดวงตาสีแดงจับจ้องอยู่แต่ที่ร่างเล็กทุกการกระทำด้วยความแค้นเคือง
                                      

     

                    เท้าของร่างสูงหยุดลงเมื่อพบม่านกั้นบังตาสีขาวบาง  กลิ่นกำยานอบอวลอยู่ทั่วบริเวณ  หญิงรับใช้สองคนหน้าม่านกั้นก้มทำความเคารพก่อนจะเอ่ยห้ามเมื่อเห็นร่างสูงกำลังจะแหวกม่านเข้าไป

                    “ตอนนี้ท่านซินเนริม(ร่างทรง)กำลังฝึกซ้อมการร่ายรำเพื่อใช้ในงานเทศกาลอยู่  มิอาจให้ผู้ใดเข้าไปได้เจ้าค่ะ”

                    “ให้ท่านจินกิเข้ามาเถอะ  ข้าฝึกซ้อมเสร็จแล้ว” เสียงบางเบาดังมาจากด้านในสุดของม่านบังตา

                    หญิงรับใช้ทั้งสองเปิดม่านชั้นนอกให้ก่อนจะปิดลงดังเดิมเมื่อร่างสูงนั้นเดินผ่านเข้าไปเรียบร้อย

                    เงาร่างของใครบางคนปรากฏอยู่เลือนรางในม่านชั้นในสุด  จินกิเร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อหวังจะได้พบหน้าคนๆ นั้นเร็วขึ้น

                    ...ว่าที่สะใภ้ของตระกูลลี...

                    “หยุดตรงนั้นก่อนท่านจินกิ”

                    จินกิหยุดฝีเท้าลงพลางชะงักมือที่กำลังจะแหวกม่านออกทั้งๆ ที่แค่อีกชั้นเดียวก็จะได้พบแล้ว

                    ….ผู้ที่กุมหัวใจของเขาเอาไว้...

                    “ข้ากำลังเปลี่ยนชุดอยู่  ไม่นึกว่าท่านจะเข้ามาเร็วเช่นนี้”

                    เสียงหวานกล่าวราวตำหนิ

                    “เพราะข้าอยากเห็นหน้าเจ้า  ข้าเลยรีบเร่งฝีเท้ามาหาเจ้า  ได้ยินพวกสาวใช้หน้าห้องบอกว่าเจ้าซ้อมร่ายรำอยู่  ไม่ทราบว่าเจ้าซ้อมบทเพลงอะไรรึ”

                    “ข้าซ้อมนกกระสาขาว...  ข้าเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเปิดม่านเข้ามาเถอะ” เสียงหวานกล่าวอนุญาต

                    จินกิเปิดม่านชั้นสุดท้ายออก    กลางห้องนั้นมีร่างในชุดสีขาวนั่งอยู่  ใบหน้านั้นสวยหวานเหมือนดั่งหญิงสาว  เพียงแต่คนๆนี้กลับเป็นผู้ชาย

                    ...ไม่ผิดใช่ไหมที่จะรักผู้ชายที่สวยงามเช่นนี้...

                    ...คิม  คีบอม...

                    ตระกูลซินเนริมที่สืบเชื้อสายมาจากปีศาจตระกูลคิม

                    ...ศัตรูอันดับ 2 ของตระกูลเขา..

                    ตระกูลทเวมาซาที่แม้แต่พระราชายังทรงไว้วางใจ

                    ...ลี  จินกิ...

                    “ไม่ทราบว่าท่านมีปัญหาอะไรให้ข้าช่วยรึเปล่า”

                    “เวลาข้ามาหาเจ้า  ข้าจำเป็นต้องมีเรื่องค้างคาใจเช่นคนอื่นงั้นรึ” ร่างสูงกล่าวตัดพ้อ

                    “หน้าที่ของซินเนริมคือติดต่อกับวิญญาณของผู้ล่วงลับ  เป็นร่างทรงของเทพ  ช่วยแก้ปัญหาให้ชาวเมือง...”

                    “แต่ถ้าปัญหาของข้าคือเจ้าล่ะ  จะช่วยข้าได้ไหม?”

                    ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองผู้พูดราวกับที่ได้ยินเมื่อครู่นี้ตนหูฝาด  ดวงตาเรียวจ้องเข้าไปในตาของอีกฝ่ายราวกับจะค้นหาบางสิ่ง

                    “ข้าไม่เคยไปทำเรื่องให้ท่านต้องเดือดร้อน”

                    “ข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น  เพียงแต่ข้าจะมาขอขอบางสิ่งจากเจ้า”

                    “ของจากข้า?”

                    “น้ำตา...”

                    ร่างบางลุกขึ้นจากพื้นเย็น  ก่อนจะก้าวตรงไปยังหน้าต่างบานเล็กที่สาดแสงเข้ามาในห้องเพียงน้อยนิด

                    “งั้นท่านก็คงต้องผิดหวัง”

                    “ข้ารู้ว่าซินเนริมทุกคนไม่สามารถมีอารมณ์อันได้  เพราะว่านั่นหมายถึงซินเนริมคนนั้นจะไม่สามารถเป็นคนทรงได้อีก”

                    “ทั้งๆที่ท่านก็รู้  แต่ท่านก็ยังมาขอมันจากข้าอีก”

                    “นั่นเพราะข้าอยากให้เจ้าเลิกเป็นคนทรงต่างหาก...”

                    “มันคงไม่มีวันนั้นเป็นอันขาด” ดวงตาเรียวจ้องมองออกไปยังจุดหมายที่ไม่มีสิ้นสุด
     
                                      







                                       

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×