ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] T A T T O O . . . ஐ l MINKEY

    ลำดับตอนที่ #3 : STEP 2 :: COLOR

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 52


    STEP 2

     

    COLOR

     

     

     

     

    นี่มินโฮ.. คนเราน่ะ จะรักกันไปได้ถึงเมื่อไหร่หรอ?”

     

     

     

     

     

     

     

     

    แปดโมงสี่สิบห้า..

     

     

    คีย์ยิ้มอย่างเบิกบานสำราญใจเมื่อมาถึงที่หมายก่อนเวลา เหลือเวลาอีกตั้งสิบห้านาที ไม่รู้ป่านนี้นายยิ้มยากจะตื่นหรือยัง คีย์มองหน้าปัดนาฬิกาข้อมือก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อลิฟต์ที่กดมาถึงแล้ว ประตูเปิดออกพร้อมกับมีคนเดินเข้าไปประมาณสามสี่คนทยอยเดินเข้ามา มือบางกระชับกระเป๋าสะพายข้างที่เตรียมพร้อมมาอย่างดี

     

     

    ..............................

     

     

    ภาพแผ่นหลังที่คุ้นตาที่โผล่ออกมจากลิฟต์ตัวข้างๆที่เพิ่งวิ่งลงมาทำให้คีย์ต้องขมวดคิ้ว

     

     

    ดะ..เดี๋ยวครับ

     

     

    คีย์รีบกดปุ่มเปิดประตูที่กำลังจะปิดลงแล้วแทรกตัวออกไปอย่างพอดิบพอดี

     

     

     

     

     

     

    นี่!”

     

     

    คนตัวเล็กหอบแฮ่ก คนอะไรเดินเร็วเป็นบ้า ดวงตาสีน้ำตาลใสมองคนตัวสูงที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์สีซีดๆและหมวกแก๊ปสีดำเข้าชุดอย่างขุ่นเคือง

     

     

    มือเล็กที่คว้าแขนรั้งตัวอีกคนเอาไว้ตอนนี้กำลังเปลี่ยนเป็นเท้ามันเอาไว้เพื่อให้ตัวเองได้พักหายใจ ดวงตาสวยช้อนมองใบหน้าของอีกฝ่าย

     

     

    ชั้นบอกว่าจะมาหานายตอนเก้าโมงไม่ใช่หรือไงฮะ!!??”

     

     

    มินโฮถอนใจพลางมองไปทางอื่นด้วยทีท่าเบื่อหน่ายและนั่นก็ยิ่งทำให้คีย์โมโหโทโสหนักกว่าเดิม

     

     

    นายไม่ใช่หรอที่ผิด มาทำท่าอย่างนี้ใส่คนอื่นได้ยังไงล่ะ!?”

     

     

    ปล่อย

     

     

     

    ดวงตาคมมองมานิ่งสนิทจนคีย์นึกหวาดหวั่นอยู่ในใจแต่ก็หายใจลึกๆเรียกความกล้าหาญ

     

     

    จะต้องไปกลัวอะไรฮะคีย์ หมอนี่ก็แค่คนอวดดีคนนึงเท่านั้นแล่ะ!

     

     

     

    ไม่ปล่อย ชั้นจะไปกับนาย

     

     

    แต่ชั้นไม่อยากไปกับนาย

     

     

    เสียงทุ้มตอบออกมาฟังชัดเจน คีย์ทำหน้ามุ่ยตุ้ย

     

     

     

    ชั้นไปทำอะไรให้นายไม่ชอบใจหรือไงถึงต้องกันท่ากันแบบนี้

     

    เปล่า

     

    แล้วทำไมนายถึงต้อง..

     

     

    แต่ชั้นไม่ชอบหน้านาย

     

     

     

    คำพูดที่สวนออกมาทำให้คีย์ถึงกับเอ๋อไปชั่วขณะ ร่างบางอ้าปากตะกุกตะกักก่อนจะรีบวิ่งตามมินโฮที่ถือโอกาสนี้ในการเดินหนี

     

     

    ชั้นไปหน้าเหมือนศัตรูนายรึไง!??”

     

     

    นี่!”

     

     

    ภาพที่สะท้อนมาสู่สายตาตอนนี้คือภาพของคนตัวเล็กๆสะพายกระเป๋าใบโตกำลังวิ่งวนอ้อมไปอ้อมมาข้างๆผู้ชายตัวสูงที่ซ่อนใบหน้าไว้ภายใต้หมวกแก๊ปสีดำ ผมสีทองยุ่งไปตามแรงลม..

     

     

    ราวกับแสงอาทิตย์สีทองอ่อนละมุนยามเช้าที่ทำให้เผลอยิ้มได้โดยไม่รู้ตัว

     

     

     

     



     

     

    นี่..

     

     

    มินโฮเหลือบมองคนที่เอามือกระตุกชายแขนเสื้อเขายิกๆ คีย์ที่กำลังมองซ้ายมองขวามองสองข้างทางผ่านกระจกรถไฟ

     

     

    เรากำลังจะไปไหนกันหรอ?”

     

     

    ...................................

     

     

    ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหันหน้ากลับไปสนใจหนังสือในมือตัวเองต่อแล้ว ดวงตาเรียวสอดส่องมองนอกไปนอกหน้าต่างพลางนิ่วหน้า

     

     

    เสียงรถไฟดังฉึกฉัก ภาพวิวทิวทัศน์บ่งบอกว่าตัวรถกำลังแล่นออกนอกเมือง

     

     

     

     

     

    ที่ไหนกันนะ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตลอดไป..

     

     

    ตลอดไปมันมีรึเปล่านะมินโฮ..

     

     

     

     

     

     

     

     

    สวย..

     

     

    คีย์เดินตามมินโฮมาอย่างเชื่องช้าก่อนจะหยุดลงเมื่อร่างสูงวางกระเป๋าลงบนพื้นหญ้า ร่างบางเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆก่อนจะมองไปรอบๆอย่างตื่นตาตื่นใจ ทีที่ทั้งคีย์และมินโฮนั่งอยู่เป็นเนินเขาเตี้ยๆที่มองลงไปด้านล่างจะเป็นภาพกว้างเป็นดอกไม้นานาพันธุ์สุดลูกหูลูกตา

     

     

    ที่นี่..ที่ไหนหรอ?”

     

     

    เสียงหวานกระซิบถามเสียงเบา อาจจะเป็นเพราะว่าสถานที่แห่งนี้เงียบสงบจนไม่อยากแม้แต่จะให้เสียงลมหายใจไปทำลายบรรยากาศที่กำลังลอยละล่องอยู่รอบตัว

     

     

    เสียงกุกกักของคนที่กำลังหยิบกล้องปละอุปกรณ์ออกมาทำให้คีย์ต้องถอนใจ

     

    ถามทำไมเนี่ยคีย์..

     

     

     

     

     

    สวนดอกไม้ของชั้น

     

     

     

    แต่เสียงทุ้มที่ดังลอดออกมาจากปากของคนที่ก้มหน้าก้มตาปรับกล้องก็ทำให้คีย์ต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจ

     

     

    สวนดอกไม้..  ของมินโฮ..?

     

     

     

     

    แต่คนที่เพิ่งตอบคำถามก็ไม่ได้หันมาสนใจคนที่กำลังทำหน้าประหลาดใจอยู่ข้างๆ ร่างสูงลุกขึ้นปัดฝุ่นที่กางเกงก่อนจะสะพายกล้องเดินลงไปจากเนินที่กำลังนั่งอยู่

     

     

     

     

     

     

    นี่..

     

     

    คำเรียกที่เริ่มได้ยินจนชินหูทำให้คนที่กำลังเล็งเลนส์กล้องไปเพื่อหาจุดโฟกัสต้องเบนสายตาตัวเองกลับมามอง คีย์กำลังยืนยิ้มเผล่พร้อมกับชูกล้องที่ห้อยคอเอาไว้อยู่

     

     

    มีแต่นายถ่าย ดอกไม้มันคงเบื่อแย่ งั้นชั้นขอถ่ายด้วยนะ

     

     

     

    ..........................

     

     

    นะ..

     

     

    จะถ่ายก็ถ่ายไป อย่าพูดมาก

     

     

     

     

     

     

    พูดจบมินโฮก็หันหน้าตาเรียบเฉยของตัวเองไปทางมุมอื่นไม่ยอมสนใจคนตัวเล็กที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว

     

     

     

     

     

     

     

    คนเรา..จะรักตลอดไปได้หรอมินโฮ?”

     

     

     

     

     

     

     

    โห สีชมพูสวย..

     

     

    เสียงของคีย์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบและเสียงกดชัตเตอร์ คนตัวเล็กหยิบจับดอกไม้สีชมพูอ่อนขึ้นมาพินิจดูด้วยความสนใจ

     

     

    มินโฮชอบสีอะไรหรอ?”

     

     

    คีย์หันไปถามด้วยสีหน้าท่าทางใคร่รู้

     

     

    ไม่มี

     

     

    มินโฮตอบกลับเสียงเรียบพร้อมกับกดถ่ายภาพใบไม้สีเขียวอ่อนตรงหน้าอย่างไม่ใส่ใจจะหันมามองหน้าคนถาม

     

     

    คนอะไรไม่มีสีที่ชอบ

     

     

    งั้น.. เอาสีที่รู้สึกผูกพันด้วยที่สุดละกัน

     

     

     

    ...............................

     

     

     

     

    เสียงกดชัตเตอร์ดังต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีเสียงตอบคำถามหลุดออกมาจากปากมินโฮ คีย์ละมือจากดอกไม้ที่ตัวเองชอบก่อนจะหันไปมองอีกคน

     

     

     

    ไม่มี..หรอ?”

     

     

    .......................................

     

     

     

     

     

    มินโฮยังคงตั้งใจกับการกดถ่ายภาพตรงหน้าเสียเหลือเกินจนคีย์ที่จับกล้องอยู่ในมือต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากัน

     

     

     

     

     

    ..แชะ..

     

     

     

     

    เสียงที่ไม่ได้มาจากกล้องของตัวเองทำให้มินโฮชะงักไปก่อนจะหันมามองคนที่ทำเป็นหันไปถ่ายต้นไม้ใบหญ้าพลางนิ่วหน้า

     

     

     

    มองอะไรหรอ?”

     

     

    ........................

     

     

    นี่..

     

     

    ถ่ายรูปให้หน่อย

     

     

    กล้องที่ไม่ใช่กล้องสำหรับทำงานแต่เป็นกล้องสีชมพูตัวเล็กๆถูกยื่นมาตรงหน้าของมินโฮ ร่างสูงก้มลงมองก่อนที่มันจะถูกยัดเข้ามาไว้ในมือของตัวเองอย่างถือวิสาสะ

     

     

    แสงอาทิตย์เจิดจ้าทำให้คีย์ต้องดึงฮู้ดข้างหลังเสื้อแขนสั้นมาคลุมหัวเอาไว้ ร่างบางชูสองนิ้วเป็นท่าไม้ตายก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง

     

     

    ยิ้มที่เปล่งประกายเจิดจ้าแข่งกับแสงอาทิตย์..

     

     

    ยิ้มที่ทำให้มินโฮเผลอยกกล้องขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เลนส์จับจ้องไปที่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ถือเอาว่าจุดนั้นเป็นจุดโฟกัส

     

     

    ภาพของใครบางคนที่ซ้อนทับขึ้นมาจนแทบจะกลายเป็นคนคนเดียวกัน

     

    รอยยิ้มสดใสที่ทาบลงบนรอยยิ้มของอีกคน.. จนแทบสนิท

     

     

    เหมือน..

     

     

    เหมือน..

     

     

     

    เมื่อยแล้วนะ

     

     

     

     

    มินโฮกระพริบตาเมื่อเสียงของคีย์ดังขึ้น ร่างสูงรีบลดกล้องในมือลงทั้งๆที่ยังไม่ได้กดบันทึกก่อนจะก้าวฉับๆไปหาเจ้าของและยัดมันคืนใส่มือของอีกคนไป

     

     

    อะ..อ้าว บ่นแค่นี้ไม่ได้หรอเนี่ย??”

     

     

    คีย์มองตามคนที่เดินขึ้นเนินไปตาปริบๆด้วยความงุนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันจนตั้งรับไม่ทัน ร่างเล็กรีบเดินแกมวิ่งตามไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเก็บกล้อง

     

     

    นะ..นี่

     

     

    ..............................

     

     

    นายโกรธอะไรชั้นหรอ?”

     

     

     

    ยิ่งคีย์ถามก็ดูเหมือนมินโฮจะยิ่งเร่งความเร็วในการเก็บของเข้ากระเป๋ามากขึ้นเท่านั้น ร่างสูงยกสัมภาระขึ้นสะพายบนบ่าก่อนจะก้าวฉับๆของออกไปร้อนถึงคีย์ที่ยืนอ้าปากหวอต้องรีบเก็บกระเป๋าแล้ววิ่งตามไป

     

     

     

    ดะ...เดี๋ยว

     

     

    เสียงเรียกปนหอบดังขึ้นเมื่อขาเล็กๆสาวมาจนทัน

     

     

    เดี๋ยวก่อน

     

     

    มือเล็กคว้าแขนเสื้อของคนตัวสูงเอาไว้ก่อนจะรีบเอ่ยถาม

     

     

    นายเป็นอะไร?”

     

     

    ......................................

     

     

    ........................................

     

     

    นายกลับไปเถอะ

     

     

    ทะ..ทำไมล่ะ??”

     

     

    ชั้นไม่อยากเห็นหน้านายอีก

     

     

     

     

     

    .....................................

     

     

    เข้าใจแล้วก็กลับไปซะ

     

     

     

    เสียงทุ้มเรียบสนิทเอ่ยเป็นประโยคสุดท้าย มินโฮหยิบหมวกแก๊ปสีดำขึ้นมาสวมก่อนจะดึงมาให้ต่ำลงมาปิดใบหน้าแล้วเดินออกไปทันทีที่พูดจบ

     

     

     

     

    คีย์กระพริบตาปริบๆมองตามคนที่เดินห่างออกไปด้วยความรู้สึกที่พูดไม่ออก

     

     

     

     

     

     

     

     

    ชั้น..

     

     

    ไปทำอะไรให้นายไม่พอใจหรือไง..

     

     

     

     

     

    ไม่เข้าใจเลย..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เสียงฝีเท้าค่อยๆชะลอลงพร้อมๆกับเสียงถอนหายใจ มินโฮทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่งสีขาวสะอาดตาแถวนั้นก่อนจะเอนหลังลงไปพร้อมกับหลับตาลงช้าๆ

     

     

    สายลมยามบ่ายพัดมาเบาๆปะทะเส้นผมสีดำสนิทให้ปลิวไหวน้อยๆ

     

     

     

     

    ตั้งแต่ได้เห็นหน้าของคีย์ก็ดูเหมือนว่าหัวใจของเขามันจะปรวนแปรไปหมด ทั้งเสียงใสๆและดวงตาที่เปล่งประกายเวลาพูด..

     

     

     

    มันทำให้เขาเกือบจะเผลอคิดทุกครั้ง..

     

     

     

     

     

    ดอกไม้สีฟ้าสวยจังมินโฮ..

     

     

     

     

     

     

    ยอนฮวา..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว.. คีย์นั่งหงอยอยู่บนม้านั่งใกล้ๆกับสวนดอกไม้ ร่างบางพ่นลมออกจากปากพลางก้มลงเล่นกับเล็บตัวเอง

     

     

    ต่อจากนี้จะทำยังไงดี ในเมื่อเพื่อนร่วมงานพูดถึงขนาดนั้นแล้ว

     

     

     

     

    คิดแล้วก็ยิ่งหงอยหนัก คีย์ใช้ปลายเท้าที่ห้อยลงมาจากเก้าอี้เตะดินแถวนั้นอย่างไม่รู้จะทำอะไร เริ่มจะเย็นเข้าไปทุกทีแต่ก็ยังไม่อยากจะกลับบ้าน คิมคิบอมเอนตัวลงพิงกับพนักม้านั่งพลางคิดนู่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย แต่สรุปแล้วมันก็วนกลับมาที่เรื่องเดิมคนเดิมอยู่ดี

     

     

     

    ..มินโฮ..

     

     

     

     

    คีย์ถอนใจก่อนจะปิดตาลงเมื่อลมยามบ่ายพัดมาเบาๆ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    จะหกโมงเย็นแล้ว..

     

     

     

    มินโฮไม่รู้ว่าตัวเองจะเดินกลับมาที่เดิมทำไม สวนดอกไม้นี่ไม่ใช่สวนดอกไม้ที่เขาเป็นเจ้าของหรอก เพียงแต่ว่ามันเป็นสวนที่เขาพบมันเมื่อประมาณสามปีก่อนแล้วก็ชอบมันมากจนเหมาเอาว่ามันเป็นของตัวเอง วันนั้นตอนเจ้าของสวนเห็นว่าเขาแอบเข้ามาเดินเล่นโดยไม่ได้รับอนุญาต มินโฮนึกว่าจะต้องเป็นเรื่องแล้ว แต่ก็โชคดีที่เจ้าของใจดีไม่เอาเรื่องแถมยังบอกให้เขาเข้ามาเดินเล่นหรือเห็บภาพถ่ายได้ทุกเมื่อที่อยากมา

     

     

    ขายาวก้าวเดินมาเรื่อยๆอย่างไม่รู้ว่าจะเดินไปไหน รู้แต่ว่าตัวเองกำลังเดินกลับมาทางเดิม รองเท้าผ้าใบคู่ใจเตะดินเตะฝุ่นไปเรื่อย พระอาทิตย์ดวงโตกำลังจะลาลับขอบฟ้าไปเลยเหลือแต่แสงสีส้มที่ทาบตัวอยู่บนท้องฟ้า

     

     

    ลมเบาๆพัดมาอีกครั้งเมื่อขาของมินโฮหยุดการเคลื่อนไหว

     

     

     

    คนตัวเล็กในชุดเสื้อแขนสั้นตัวโคร่งกำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนม้านั่ง เส้นผมที่โผล่พ้นฮู้ดที่เจ้าตัวเองดึงเอามาคลุมหัวเพียงเล็กน้อยบ่งบอกว่ามันเป็นผมสีทองสว่าง

     

     

    ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้คีย์รู้สึกตัว ร่างน้อยขยับขยุกขยิกก่อนจะยันตัวเองให้นั่งตรงๆ มือเล็กขยี้ตาอย่างง่วงงุนก่อนที่จะชะงักไปเมื่อเห็นใครบางคนอยู่ในระยะสายตา

     

     

     

    นายมินโฮ..

     

     

     

     

    คีย์ระบายยิ้มกว้างด้วยแววตาเป็นประกายก่อนที่มันจะค่อยๆเจื่อนลงไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงมีสีหน้าที่เรียบเฉย

     

    มินโฮยืนนิ่งตอนที่คีย์ลุกขึ้นมาเอากระเป๋าสะพายบนไหล่เล็กๆของตัวเองพลางรีบเอ่ยอธิบาย

     

     

    อะ..เอ่อ ชั้น.. ชั้นกำลังจะไปแล้วล่ะ

     

     

    คีย์หันกลับไปอย่างเก้ๆกังๆเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ทำหน้าเฉย ร่างบางกัดปากอย่างนึกเจ็บใจที่ตัวเองทำท่าราวกับว่ากลัวอีกคนจะโมโห

     

     

    กลับเองเป็นหรือไง?”

     

     

     

    คนที่กำลังบ่นพึมพำหยุดค้างพลางกระพริบตาช้าๆหันไปมองคนที่ยืนอยู่เยื้องไปข้างหลังอย่างประหลาดใจ แต่มินโฮจับหมวกให้เข้าที่ก่อนจะเริ่มออกเดินแซงหน้าไปทิ้งให้คนตัวเล็กประมวลผลในคำพูดก่อนที่รองเท้าผ้าใบคู่เล็กกว่าจะรีบออกเดินแล้วก้าวให้เร็วขึ้นจนแทบจะกลายเป็นวิ่งเมื่อเห็นว่ามินโฮเริ่มห่างออกไป

     

     

    คีย์ยิ้มแป้นเมื่อวิ่งตามมาทัน ร่างเล็กค่อยๆผ่อนจังหวะก่อนที่เท้าทั้งสองคู่จะก้าวเป็นจังหวะไปพร้อมๆกัน

     

     

     

    ท่ามกลางความเงียบที่มีเพียงเสียงหัวใจเต้นเบาๆ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แล้วนายหายโกรธชั้นแล้วหรอ?”

     

    คนที่กำลังเคี้ยวแฮมเบอร์เกอร์ตุ้ยๆเหลือบตาขึ้นมามองหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ มินโฮปรายตามามองทีหนึ่งก่อนจะหันกลับไปทางเดิมโดยไม่ได้ตอบคำถาม

     

    คีย์นิ่วหน้าก่อนจะก้มลงงับอาหารในมือคำต่อไป

     

     

    คนประหลาด..

     

     

     

     

     

    แต่ถึงอย่างนั้น..

     

     

     

    ดวงตาเรียวเหลือบมองคนตัวสูง

     

     

     

     

    ถึงอย่างนั้น..

     

     

     

     

     

     

     

     

    อะไรๆก็น่าจะดีขึ้นใช่มั้ย?

     

     

     

     

     

     

    งั้นชั้นกลับก่อนนะ

     

    อืม..

     

     

    คีย์โบกไม้โบกมือลา

     

     

    พรุ่งนี้จะมาหาตอนเก้าโมงเหมือนเดิมนะ

     

    ..............................

     

    อย่าหนีไปเหมือนวันนี้ล่ะ

     

     

    คีย์เหล่มองด้วยสายตาไม่ไว้ใจก่อนจะล่ำลาอีกรอบแล้วเดินแกมวิ่งออกไป มินโฮมองตามแผ่นหลังเล็กๆและหมวกข้างหลังเสื้อที่กระดกขึ้นลงตามจังหวะการวิ่งก่อนจะหันกลับไปในทิศทางที่ตัวเองต้องเดิน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ประตูห้องปิดลงเบาๆ..

     

     

    มินโฮเดินเหนื่อยๆเข้าไปในห้องนอนก่อนจะวากระเป๋าแล้วทิ้งตัวลงบนฟูกสีขาวอย่างเมื่อยล้า ใบหน้าคมเอียงไปทางด้านซ้าย ดวงตาคมมองลิ้นชักชั้นบนสุดนิ่งๆก่อนจะตัดสินใจลุกเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงนั้น

     

    เสียงเข็มนาฬิกาดังไปตามจังหวะที่เวลาค่อยๆหมุนไป มือใหญ่เอื้อมไปดึงลิ้นชักนั้นออกมาช้าๆ

     

     

    กรอบรูปที่นอนคว่ำอยู่ในนั้นถูกเอาออกมาอย่างทะนุถนอม

     

     

    ในที่สุดมันก็ถูกหงายขึ้นเผยให้เห็นรูปของหญิงสาวตัวเล็กผิวขาวจัด ดวงตากลมโตเปล่งประกายสดใสยามที่ริมฝีปากอ่อนบางนั้นส่งยิ้มกว้างมาให้คนที่ยืนดูรูปนั้นอยู่

     

     

    มินโฮมองภาพนั้นเนิ่นนานก่อนจะค่อยๆใช้นิ้วไล้ไปตามโครงหน้าสวยของคนในภาพ

     

     

     

     

     

    ยอนฮวา..

     

     

     

     

    รักครั้งแรก..และผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับคำว่ารัก ดวงตาคมอ่อนแสงลงเพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มอ่อนหวานของคนในรูป

     

     

     

     

     

    ชั้นเจอ.. คนที่เหมือนเธอมากๆเลยนะ

     

     

    เค้ายิ้มเก่งแล้วก็พูดมากเหมือนเธอไม่มีผิด

     

     

    เสียงทุ้มพูดพลางหัวเราะน้อยๆราวกับว่าคนในภาพจะได้ยิน

     

     

     

    ตัวเล็กเหมือนเธอ.. ผิวขาวเหมือนเธอ.. ตาก็สวยเหมือนเธอ..

     

     

     

     

     

     

    เหมือนจนชั้นตกใจเลยรู้มั้ย..

     

     

     

     

     

    มินโฮหัวเราะตัวเองก่อนจะเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยให้ความเงียบพาความคิดไปถึงใครบางคน

     

     

     

     

     

     

    ใครบางคน..

     

     

    ที่อยู่ในหัวใจตลอดมา..

     

     

     

     

     

    ยอนฮวา..

     

     

     

     

     

     

    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×