ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อธาเรล....ดินแดนปราชญ์ราชันย์

    ลำดับตอนที่ #6 : ทดสอบ

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 49



      ตอนที่ 6 ทดสอบ

                    กึก กึก กึก

                               ความมืดและความวังเวงครอบคลุมทั่วทั้งป้อมผลึก แต่บัดนี้เสียงอะไรสักอย่างดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำเอาคนที่เคยปากเก่งบัดนี้เงียบสนิท นัยน์ตาสีอำพันคู่สวยกวาดไปมองรอบๆอย่างหวาดระแวง ราวกับว่าจะมีอะไรโผล่มาตรงหน้าเธอ

                               "ฮือๆ ทำไงดีล่ะ ทำไมต้องให้หาเหรียญนั่นในที่มืดๆอย่างนี้ด้วยนะ ทดสอบบ้าอะไรเนี่ย"

                                "นั่นสิ ทำเอาคนอย่างเธอเงียบได้ ยอดจริงๆ"

                                 เสียงของเด็กหนุ่มนัยน์ตาสีอัญชัญที่มองเด็กสาวอย่างขบขันในท่าทีของอีกฝ่ายที่แทบไม่เคยกลัวอะไร แต่สิ่งที่กำลังกลัวอยู่ตอนนี้คือ.....

                                 "นี่เคียส นายไม่เป็นอย่างฉันนี่ ผีน่ะน่ากลัวจะตาย ฉันไม่ชอบจริงๆนะ"

                                 "แล้วเธอจะทำยังไงยัยรีน หาเหรียญเราก็ต้องหา หรือจะยอมแพ้"

                                 เด็กหนุ่มใบหน้าติดจะหวานเลิกคิ้วให้อีกฝ่ายในขณะที่ทั้งคู่เดินเข้าไปสำรวจห้องๆหนึ่งในทางด้านตะวันออกของป้อมผลึก

                                  บรรยากาศเป็นไปอย่างวังเวง พร้อมกับเสียงฟันกระทบกันเป็นระยะๆของรีนเซีย ในขณะเดียวกันหมอกไอเวทที่ลอยคละคลุ้งที่อยู่ตรงมุมห้องระหว่างโซฟาสีแดงตัวเก่าสองตัวก็ลอยมาเตะจมูก ทำให้เด็กสาวเริ่มขมวดคิ้ว ความกลัวกำลังถูกแทนที่ด้วยความสงสัย

                              "นายว่ามันแปลกๆไหมเคียส"

                             
                              
    "ไม่เห็นแปลกเลยหนิ"

                             
                               
    โป๊ก
    !

                              
                              
    "เฮ้ย! ทำบ้าอะไรเนี่ยยัยรีน หัวคนนะไม่ใช่หัวหมา โขกมาได้"

                            
                               "นายแกล้งโง่รึยังไง หา เวลามีน้อยนะเคียส นายยังทำเป็นเล่นอีก ตอนนี้ฉันกำลังซีเรียสนะ"

                          
                              
    "รู้แล้วน่า ใครไม่เห็นก็ตาถั่วแล้ว ไอเวทนั่นออกจะแรงขนาดนี้ เดี๋ยวนะ"

                            
                             
    ดิเคียสก้าวเท้าออกเดินไปสำรวจยังมุมห้องที่เป็นแหล่งกำเนิดของหมอกไอเวท ร่างสูงก้มลงสำรวจเล็กน้อยก่อนพึมพำอะไรบางอย่างทำให้หมอกนั้นจางหายไป ในขณะเดียวกันแสงสีทองก็เริ่มทอประกายมากขึ้น แล้วสิ่งที่พบนั้นคือแหวน...

    เด็กหนุ่มจึงเอื้อมแขนออกไปหยิบมัน แต่ทันใดนั้น

                              
                              
    โครม
     
                                ร่างของเด็กหนุ่มกระเด็นวูบ กระแทกกับฝาผนังอีกด้านหนึ่งโครมใหญ่ ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง ในขณะที่นัยน์ตาสีอำพันเบิกกว้างอย่างตกใจที่เห็นเพื่อนรักกระเด็นวูบ

                                "เคียส นายเป็นอะไรมากไหม"

                                 รีนเซียถลันเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่นั่งพิงอยู่กับผนังอย่างมึนงงเล็กน้อย ในขณะที่ดิเคียสยกหลังมือขึ้นปาดรอยเลือดที่ไหลออกจากมุมปากอย่างลวกๆ

                                 "โหย ฉันตายยากยัยรีน คอยดูละกัน ไอ้แหวนนี้ต้องของจริงแท้ๆ ฟันธง"

                                  "นายรู้ได้ไงว่ามันเป็นของจริง"

                                  "ก็ตอนที่ฉันจะเอื้อมมือไปหยิบแหรียญไง ฉันเห็นสัญลักษณ์สภาปราชญ์อยู่ด้วยล่ะ แล้วเราจะทำยังไง เหรียญมีแค่อันเดียวซะด้วย"

                                   ความเงียบก่อตัวขึ้นระหว่างที่ดิเคียสและรีน เซียต่างนิ่งเงียบกันไปพักใหญ่ ก่อนที่เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างตัดสินใจ

                                    "ยัยรีน เธอเอาไปแล้วกัน ยังไงๆเธอก็เป็นผู้หญิง ถึงแม้ว่าท่าทางจะไม่ให้เลยก็ตาม"

                                    "พูดงี้ก็สวยดิเคียส ปากเปราะชะมัด ไม่เอา!
    นายนั่นแหล่ะที่ต้องไปก่อน ฉันจะหาเหรียญอีกอันเอง และตอนนี้นายก็บาดเจ็บ อย่าอวดดี"

                                    "แต่ว่า..."

                                     "ไม่มีแต่นะจ๊ะเคียสจ๋า ออกไปเร็วๆสิ ฉันจะได้รีบๆหา ยิ่งไม่ถูกกับบรรยากาศที่นี่อยู่ด้วย"

                                     "เออ ก็ได้ๆ"

                                     ดิเคียสจำใจทำตามที่เด็กสาวบอกอย่างขัดใจเล็กน้อย ก่อนที่เด็กหนุ่มจะร่ายเวททำลายไอหมอกเวทนั่น แล้วใช้เวทดึงเหรียญออกจากมุมมาอยู่ในมือของตน แล้วเด็กหนุ่มก็สวมแหวนที่มีสัญลักษณ์แห่งสภาปราชญ์

                                     "เจอกันข้างนอกนะยัยรีน แล้วออกมาเร็วๆด้วยล่ะ"

                                     "อื้ม ฉันสัญญาเคียส เพราะฉันไม่อยากอยู่ในนี้นานๆหรอก"

                                     แล้วทันใดนั้นร่างของดิเคียสก็หายวับไปจากอำนาจของแหวนที่เด็กหนุ่มสวมใส่ไปเมื่อครู่ รีนเซียยืดตัวขึ้นแล้วก้าวออกจากห้องนั้นด้วยความเร็ว

                                     ตอนนี้เธอมาอยู่ตรงหน้าประตูห้องที่อยู่ระหว่างทางเชื่อมของผั่งตะวันตกและตะวันออกของป้อมผลึก หลักจากที่วิ่งออกห้องนั้น เข้าห้องนี้จนหอบแฮกๆเพื่อหาแหวน ซึ่งก็ไม่เจอเลย ถึงเจอก็เป็นของปลอม ขณะนี้เด็กสาวกำลังหยุดยืนสงบจิตสงบใจและภาวนาขอให้เจอแหวนของจริงซะที 

                                     พระเจ้าขอให้รีนเจอแหวนซะทีเถอะ

                                    
    รีนเซียผลักประตูเข้าไปก่อนที่จะสาวเท้าเข้ามาในห้องขนาดใหญ่ที่มีแสงสว่างรำไร ลมเย็นพัดเข้ามาพร้อมกับเสียงหวีดหวิว ร่างของเด็กสาวสะดุ้งสุดตัว

                                      รีบๆหาดีกว่า ก่อนที่จะแย่

                                     
    ความคิดที่ทำให้เจ้าของร่างบางฉุกใจคิดถึงสิ่งๆหนึ่งที่ลืมไปเพียงชั่วครู่ ตอนนี้สิ่งนั้นกลับเข้ามารบกวนจิตใจอีกครั้ง รีนเซียรีบวิ่งเข้าไปหาแหวนที่มุมนั้น ซอกนี้ จนเจ้าตัวเริ่มจะหงุดหงิดกับวิธีการคัดเลือกเข้าปราชญ์ราชันย์

                                       ตอนนี้ร่างบางของรีนเซียกำลังนั่งพักอยู่บนโซฟาที่ตั้งอยู่ริมห้อง เด็กสาวกวาดสายตาไปทั่วแล้วสะดุดเข้ากับบางสิ่งที่ตนจำได้ว่ายังไม่ได้หา เหมือนมีอะไรบางอย่างที่กระซิบบอกอยู่ลึกๆว่าในนั้นมีของที่ตนต้องการอยู่แน่ๆ โดยไม่ต้องตัดสินใจนาน ขาเรียวก็พาร่างบางทะยานไปยังโคมไฟยักษ์ทันที แต่ก่อนที่จะไปถึงที่นั่นก็มีความรู้สึกเย็นวูบๆมาอยู่บริเวณเหนือไหล่ของเธอ

                                       "เฮ้ย!!!!"

                                       "ถ้าจะเอาแหวนนั่น เจ้าต้องผ่านข้ามาก่อน เด็กน้อยเอ๋ย"

                                       ว่าแล้ว พ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยลูกช้างทีเถอะ

                                       
    รีนเซียค่อยๆหันกลับไปมองแล้วก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าความรู้สึกเย็นๆที่สัมผัสได้นั้นแท้จริงแล้วคืออะไร

                                      ร่างโปร่งใสสีเงินกำลังยืนประจันหน้าอยู่กับรีนเซียที่ตอนนี้สติถูกกระชากไปพร้อมกับคำว่าตกใจสุดขีด ร่างโปร่งนั้นยิ้มชวนให้เสียววาบ การกระทำนั้นส่งผลให้ใบหน้าที่เคยมีสีเลือดของเด็กสาวซีดลงเรื่อยๆ ร่างบางก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ

                                       "ทะ...ท่านเป็นใคร"

                                       "ข้านะเหรอ เจ้าเด็กน้อยเจ้าไม่รู้จักข้าอย่างนั้นเรอะ"

                                       ถ้ารู้แล้วจะถามทำไมล่ะ ถามแปลกๆ

                                      
    ข้าคืออดีตอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ที่ดูแลป้อมผลึกแห่งนี้น่ะสิ ถ้าเจ้าคิดจะเอาแหวนนั่นเจ้าต้องผ่านข้าไปให้ได้ หึหึ"

                                        "ได้สิ ฉันต้องผ่านท่านไปได้แน่ๆ ถึงแม่ว่าท่านจะน่ากลัวจนขนหัวลุกก็ตามที"

                                        ประโยคที่เอ่ยชัดถ้อยชัดคำในช่วงแรก หากแต่ช่วงท้ายกับเปรยแผ่วเพราะกลัวร่างโปร่งใสจะได้ยิน นัยน์ตาสีอำพันคู่สวยหรี่ลงเล็กน้อย ริมฝีปากบางแย้มรอยยิ้มบางอย่างคนมีความคิดดีๆ ก่อนที่เด็กสาวจะเริ่มชวนอดีตอัศวินตรงหน้าคุยด้วย

                                        "แต่ก่อนที่เราจะสู้กัน ท่านช่วยเล่าประวัติของท่านให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม ถือว่าเป็นเกียรติแก่ฉัน"

                                        "จริงเรอะ เจ้าอยากฟังเหรอ ดี งั้นข้าจะเล่าให้เจ้าฟังถึงความยิ่งใหญ่ของข้า ข้ามีชื่ออยู่ว่า ลูค เรดาล.......

                                        ".........................."

                                        ให้ตายเถอะ ที่เล่ามาทั้งหมดนึกว่าจะได้เรื่อง หลงตัวเองชะมัดถึงแม้ว่าตอนนี้จะดูสยองก็ตามทีเถอะ

                                       
    ริมฝีปากบางของรีนเซียพึมพำอย่างรวดเร็ว ในขณะที่วิญญาณของอัศวินผู้กล้าที่ตอนนี้กำลังโม้เรื่องของตนอย่างน้ำไหลไฟดับจนไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อย บัดนี้แสงเรืองๆได้ห้อมล้อมร่างโปร่งใสของอัศวินจนแสงนั้นเริ่มขยับเป็นวงแคบเข้ามาเรื่อยๆ จนกลายเป็นเชือกเวทสำหรับรัดวิญญาณ

                                         "เจ้า เจ้าหลอกข้ารึ เจ้าทำให้การต่อสู้เป็นสิ่งสกปรก แต่เจ้าจะทำอะไรข้าได้"

                                         "มันสกปรกตั้งแต่ท่านเริ่มท้าสู้ฉันแล้วล่ะ ท่านเป็นวิญญาณจะมายุ่งอะไรกับคนล่ะ แล้วถึงแม้มันจะทำอะไรท่านไม่ได้ แต่ก็ถ่วงเวลาได้แน่นอน"

                                          รีนเซียค้อมศีรษะให้ร่างโปร่งใสเล็กน้อย ก่อนจะพุ่งตัวไปยังโคมไฟยักษ์อีกครั้ง พร้อมๆกับใช้เวทเรียกให้แหวนนั้นออกมา ทันใดนั้นแหวนก็มีปฎิกิริยาโต้ตอบ มันส่งหมอกไอเวทออกมาอย่างรุนแรง ทำให้เด็กสาวถึงกับผงะ ในขณะเดียวกันมือโปร่งใสของท่านอัศวินก็เอื้อมมาคว้าแหวนตัดหน้าเธอไปอย่างรวดเร็ว

                                          เด็กสาวหันหน้ากลับไปทางร่างโปร่งใสของอดีตอัศวินอย่างรวดเร็ว ก็พบว่าร่างนั้นยังอยู่ในเชือกเวท หากแต่ในมือกลับมีแสงทองทอประกายของแหวนอยู่ด้วย

                                          อย่าบอกนะว่า เมื่อครู่ ยะ ยืดมืออกมา เหวอ.....

                                        

                                  -------------------------------------------------


                              
    ยามนี้บรรยากาศข้างนอกป้อมผลึกเป็นไปอย่างคึกคักเพราะเสียงดีใจของคนที่ผ่านการทดสอบ ตอนนี้ก็เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และหนึ่งในนั้นคือรีนเซีย วามิเลียร์

                                ใบหน้าติดจะหวานของดิเคียสเริ่มมุ่ยเมื่อเห็นว่าคนที่สัญญาจะกลับมาให้ทันเวลาที่กำหนด นั้นยังไม่มา

                                "เร็วหน่อยสิว้า ยัยรีน เดี๋ยวฉันก็โดนพี่เรมด่าเละพอดี"

                                เสียงบ่นที่พูดกับตัวเองเบาๆคนเดียวของเด็กหนุ่ม ในขณะที่เจ้าตัวกำลังชะเง้อมองหาเพื่อนสาวหลายทีแล้ว ขณะเดียวกันก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงที่ดิเคียสจำได้ว่าคือเสียงของอาจารย์ผู้อธิบายกติกาการทดสอบนั่นเอง

                                "ขอประกาศ ณ บัดนี้ เวลาในการทดสอบของเราเหลือเพียง 30 วินาทีเท่านั้น ใครที่ออกมาไม่ทันถือว่าไม่ผ่านการทดสอบ เริ่มจับเวลาได้"

     

                                29.........

     

                                           28.........

     

                                                       27........

     

                                                                  26........

     

     

     

                                 --------------------------------------------------

     

     

     

                                รีนเซียตั้งสมาธิอีกครั้งหลังจากที่อึ้งกับวิธีการเอาแหวนไปของวิญญาณอัศวิน จากนั้นไม่นานเด็กสาวก็แบฝ่ามือออก พลังสีน้ำเงินปรากฎขึ้นรอบๆฝ่ามือนวล แล้วเด็กสาวก็ปล่อยพลังนั้นไปที่ร่างโปร่งใสของอดีตอัศวินทันที บัดนี้วิญญาณนั้นกลับแข็งราวกับหินต้องคำสาป เด็กสาวรีบรุดไปหาอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะรู้ดีว่ายังไงร่างตรงหน้าก็เป็นวิญญาณอยู่ดี

     

                                 "สุดท้ายนี้เดี๋ยวฉันจะไปกรวดน้ำท่านนะ จะได้ไปเกิดซะที อยู่ที่นี่คงน่าเบื่อแย่ แหะๆ"

                                  เด็กสาวเอ่ยลากับรูปปั้นหินนั่นเบาๆ แล้วรีบดึงแหวนออกมาใส่อย่างรวดเร็ว ทันทีที่แหวนสัมผัสนิ้วเด็กสาวก็รู้สึกราวกับว่าโลกทั้งโลกถูกกระชากออกจากกัน ร่างบางหายวับไปทันที ทิ้งไว้แต่ความเงียบและวิญญาณที่แข็งดั่งหินของอดีตอัศวิน

     
                               ----------------------------------------------------


                               3........

                                      2.......
                       
                                              1.......

                                                       หมดเวลา.......


                               ปัง!!

                                เสียงสัญญาณที่ดังขึ้นบ่งบอกว่าเวลาในการทดสอบได้สิ้นสุดลงแล้ว พร้อมๆกับที่ร่างของรีนเซียปรากฎขึ้นอย่างทันท่วงที

                                เด็กสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพบว่าดิเคียสกำลังเดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าที่บอกบุญไม่รับอย่างแรง

                                "นี่ยัยรีน ถ้าช้าอีกนิดเดียว เธอไม่ได้เข้าเรียนแล้ว"

                                "อ่า....คือว่า พอดีเจอเหตุขัดข้องเล็กน้อย"

                                "เหตุอะไร แค่หาเหรียญ บอกฉันมาให้หมด"

                                "ก็ฉัน จะ...เจอผี น่ากลัวอ่ะ"

                                คำตอบที่ทำให้นัยน์ตาสีอัญชัญพราวระยับ ก่อนจะปลงตกกับเหตุผลนั่น ที่ฟังยังไงก็ดูไม่ขึ้น

                                "ขอให้ทุกคนที่ผ่านการทดสอบมารวมกัน ด่วน"

                                 "ฉันไปข้างหน้าก่อนนะ เค้าเรียกรวมแล้ว อีกอย่างนะเคียส นายก็ไม่โดนพี่เรมด่าแล้ว ไม่ดีเหรอ"

                                  รีนเซียกล่าวขึ้นอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นว่านานๆทีคนอย่างดิเคียสจะหงุดหงิดเป็นเหมือนกัน ก่อนที่ร่างบางจะเดินหายไปรวมกับกลุ่มคนข้างหน้า ทิ้งให้ผู้เป็นเพื่อนต้องเดินตามไปทีหลัง



    ---------------------------------------------------------------------------
     ครบ 100 แล้ว ดีใจจัง หลังจากเครื่องแฮงค์ไป 3-4 วัน

     

                                       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×