ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อธาเรล....ดินแดนปราชญ์ราชันย์

    ลำดับตอนที่ #2 : จดหมาย

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 49



    ตอนที่ 2  จดหมาย
                    

                      สายลมเย็นโชยอ่อนให้กิ่งไม้ไหวไปตามลมเล็กน้อย ใน
    ยามนี้สวนพฤกษากำลังออกดอกบานสะพรั่ง พื้นหญ้าเต็มไปด้วยดอก ไม้ที่โปรยหล่นเป็นครั้งคราว

                     
                     ร่างของพี่ชายและน้องสาวนั่งลงใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่งที่แตกกิ่งก้านสาขาออกไปปกคลุมทั้งคู่จากแสงแดด

                      "ได้พักหลายๆวันนี่มันให้ความรู้สึกที่ดีจริงๆเลย"

                      "ขี้เกียจน่ะสิไม่ว่า ถึงพูดแบบนี้น่ะพี่เรม"
     
                      "นี่ยัยรีน เราจะไม่แขวะพี่สักครั้ง พี่จะดีใจมากเลยรู้ไหม"

                      เรมัลเอ่ยประชดน้องสาวพร้อมๆกับที่ล้มตัวไปพิงกับลำต้นใหญ่ของต้นไม้

                      "นี่รีน เราจะอายุครบที่จะเข้ารับศึกษาเวทมนตร์ขั้นสูงได้แล้วนะ คิดรึยังว่าอยากจะเข้าโรงเรียนไหน"

                       "ก็โรงเรียนพี่เรมน่ะสิ จำไม่ได้เหรอที่รีนพูดบ่อยๆ"

                       "โรงเรียนปราชญ์ราชันย์เนี่ยนะ ทำไมล่ะ หรือว่าที่เข้าเพราะว่าพี่เรียนอยู่ที่นั่น แหม...คิดถึงก็บอกมาเถอะยัยรีน"

                       ประโยคสุดท้ายที่ฟังดูแล้วกวนประสาทเป็นที่สุดถูกส่งมาจากพี่ชายที่เธอมองว่าตอนนี้หลงตัวเองอย่างมาก

                        "คิดถึงเรอะ ฝันไปเถอะพี่เรม อย่าหลงตัวเองให้มากนักเลย"

                        "โธ่! พี่พูดเล่นนิดเดียว ดุไปได้เดี๋ยวก็เหมือนเจ้าเลอาหรอก แล้วทำไมเราถึงอยากจะเข้าไปเรียนที่นั่นล่ะ"

                         "เหตุผลนั้นไม่มีอะไรมากหรอกพี่เรม รีนแค่อยากฝึกตัวเองให้เก่งเวทมากขึ้นเท่านั้น พี่ก็รู้ว่าเวทของรีนน่ะถ้าเทียบกับคนอื่นก็ถือว่ายังไม่ดีเท่าที่ควร อีกอย่างรีนยังไปถนัดพวกดาบ หรือมีดสั้นมากกว่าอีก"

                         เด็กสาวให้เหตุผลที่ออกมาจากใจจริงของตน และดูซีเรียสกว่าทุกครั้ง ซึ่งดูขัดกับบุคลิกร่าเริง ขี้เล่น ของเจ้าตัวอย่างสิ้นเชิง

                          "อย่างนี้นี่เอง แล้วรีนจะทำอย่างไรต่อไปหล่ะ"

                          "อ้าวก็พวกโรงเรียนจะส่งจดหมายมาให้ไม่ใช่เหรอ แต่ว่านี่รินก็ยังไม่ได้รับเลยนะ แล้วจดหมายนี่ก็สำคัญเพราะต้องเอาไปรายงานตัวด้วยหนิ รินจะทำยังไงดีพี่เรม ตายแล้วๆ"

                          รีนเซียกล่าวขึ้นอย่างตระหนก พลางเดินไปเดินมาจนเรมัลรู้สึกปวดหัวกับท่าทีของน้องสาว ก่อนที่เจ้าตัวจะหลุบนัยน์ตาต่ำพร้อมกับดีดนิ้วขึ้นมา

                          ป็อบ

                          เสียงที่เกิดขึ้นมานั้นเบามาก แม้แต่รีนเซียที่อยู่ด้วยใกล้ๆยังไม่ได้ยินเสียงที่เกิดขึ้น นกสีรุ้งตัวสวยปรากฎขึ้นบนมือ ก่อนที่เจ้าตัวจะป้องปากเรียกให้น้องสาวเข้ามานั่งใกล้ๆ

                          "ยัยรีนมานี่สิ"

                          "มีอะไรเหรอพี่เรม มีอะไรหรือเปล่า"

                          รีนเซียถามขึ้นอย่างร้อนรน ทำให้ผู้เป็นพี่ชายหัวเราะขำกับท่าทีของน้องสาว

                          "เปล่า พี่เอาเจ้านี่มาให้"

                          "นกสีรุ้งหรือพี่เรม"

                          "ใช่ ฝากไว้ที่รีนหนึ่งวันหน่อยสิ วันนี้พี่ขี้เกียจเลี้ยงมัน พี่ไปเพื่อนก่อนนะ อย่ากลับบ้านช้าล่ะ"

                           เรมัลพูดฝากนกสีรุ้งตัวสวยไว้ที่รีนเซีย ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกจากสวน ทิ้งให้เด็กสาวยืนจ้องนกสีรุ้งตัวสวยที่อยู่บนมือของตนอย่างงุนงง

                                ---------------------------------------------------


                              รีนเซียหรี่นัยน์ตาสีอำพันมองนกสีรุ้งตัวสวยลักษณะเด่นจัดของพี่ชายที่ฝากไว้ด้วยสายตาสงสัย เธอลองพูดกับมันไปหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เห้นมีปฏิกิริยาโต้ตอบเลยสักนิดเดียว

                              ปกติสัตว์ส่วนมากที่อธาเรลจะเข้าใจภาษาของผู้ใช้มนตรา แต่นี่ทำไมเราพูดไปตั้งหลายครั้งแล้ว ไม่เห็นมันจะทำอะไรสักอย่างนอกจากเดินกับบินไปบินมารอบๆตัวเรา

                              ช่างเถอะ

                             
    คำตอบสุดท้ายที่รีนเซียสรุปเจ้านกสีรุ้งในใจ ในขณะที่เจ้าตัวกำลังนั่งพิงต้นไม้อยู่

                              "นี่เจ้านก เจ้ารู้ไหมว่าอะไรคือความฝันของฉัน"

                              คำพูดนี้ทำให้เจ้านกที่ดูจะฟังไม่รู้เรื่องจ้องตรงมายังเด็กสาว ราวกับว่ามันเข้าใจคำพูดของเธอ

                              "ฉันอยากจะเรียนที่ปราชญ์ราชันย์นะ จะได้ฝึกเวทย์ให้เก่งพอๆกับพี่เรม แล้วก็จะได้เรียนรู้ในสิ่งที่ฉันไม่เคยรู้หรือสัมผัสมันมาก่อน เจ้าว่ายะ..."

                               คำสุดท้ายที่ต่อประโยคไม่จบเพราะนัยน์ตาสีอำพันกำลังเบิกกว้าง เมื่อเห็นว่าเจ้านกสีรุ้งตัวสวยที่ตอนนี้ตัวโป่งพองราวกับจะระเบิด เด็กสาวจึงรีบสะบัดมือออกจากนกตัวนี้ทันที

                                ปัง

                                เสียงระเบิดที่เกิดขึ้นรอบๆตัวของรีนเซียดังขึ้น เด็กสาวรีบยกมือขึ้นอุดหูพร้อมกับหลับตาลงทันที

                                หากแต่เสียงนั้นเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที เธอจึงลืมตาแล้วคลายมือออกจากใบหูของตน แล้วพบว่าตอนนี้บนตักของเธอมีซองจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ เด็กสาวรีบพลิกซองจดหมายไปทางด้านหลัง ก่อนจะอ้าปากค้างเล็กน้อย

                               "นะ...นี่มันจดหมายจากปราชญ์ราชันย์หนิ แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง"

                               เด็กสาวรีบแกะซองนั้นออกและรีบกวาดสายตาอ่านจดหมายฉบับนั้นทันทีด้วยความอึ้ง งุนงง ปนดีใจ

              ถึง รีนเซีย วามิลี

                   ทางโรงเรียนปราชญ์ราชันย์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะรับท่านเข้ามาเป็นนักเรียนใหม่ของทางโรงเรียนแห่งนี้ ถ้าท่านตัดสินใจได้แล้วว่าจะมาเรียนที่นี่ ขอให้ท่านเตรียมตัวดังรายการข้างล่างต่อไปนี้

           *  เตรียมชุดประจำโรงเรียนปราชญ์ราชันย์

           *  วันรายงานตัวกรุณานำกระดาษฉบับนี้มาด้วย วันรายงานตัวคือ
               วันแรกของอาทิตย์หน้า เวลา 10 นาฬิกา ขอย้ำ 10 นาฬิกา
               เท่านั้น ส่วนสถานที่คือ บริเวณกว้างที่ห่างจากวิหารกลางเมือง
               ไปทางทิศเหนือ 

                 **จงจำไว้ เวลาและสายน้ำไม่เคยคอยผู้ใด**

                                                          
                                                         ด้วยความปรารถนาดี

                                                 คณาจารย์ที่ปรึกษาสภาปราชญ์   



                              -----------------------------------------------------



                            
    ยามนี้เป็ยเวลาบ่ายคล้อย แสงแดดแผดจ้าลดความร้อนจากตอนเที่ยงวันไปไม่มาก รีนเซียอ่านจดหมายทวนเป็นรอบที่สิบระหว่างที่วิ่งกลับบ้านมาตลอดทาง รอยยิ้มกว้างที่บอกถึงความดีใจประดับอยู่บนใบหน้านวลของเจ้าตัว

                              ปัง

                             รีนเซียรีบกระชากประตูบ้านก่อนปิดเข้าไปเสียงดังสนั่น ทำให้ผู้เป็นแม่และเรมัลหันใบหน้ามามองคนที่ทำให้เกิดเสียงเมื่อครุ่ด้วยใบหน้าที่แตกต่างกัน

    หนึ่ง มองลูกสาวด้วยความตกใจ

    สอง มองน้องสาวด้วยสายตาขบขัน

                            "รีนเป็นอะไรไป"

                            "จะเป็นอะไรไปได้ครับท่านแม่ เพียงแต่ตอนนี้รีน เซียที่รักของพวกเรากำลังดีใจจากจดหมายที่ได้รับเท่านั้นเอง"

                             "แล้วพี่เรมรู้ได้ยังไง"

                             "ก็พี่เค้าเป็นคนเก็บจดหมายที่มาเมื่อ 3 วันก่อน จดหมายฉบับนี้น่ะมาตั้งแต่ตอนเช้าเลยรู้ไหม ในรูปของนกสีรุ้งน่ะ แม่คิดว่าเจ้านกตัวนี้คงถูกสร้างขึ้นมาให้กลายเป็นจดหมายต่อผู้ที่มีความต้องการจะเข้าโรงเรียนปราชญ์ราชันย์"

                              ผู้เป็นแม่กล่าวขึ้นแก้ความสงสัยให้กับลูกสาว

                              "จริงเหรอ พี่เรม"

                           "จริงสิ ตอนนี้พี่จะเข้าเรียนพี่ก็เจอแบบนี้แต่เป็นอย่างอื่นน่ะสีรุ้งเหมือนกัน"

                              "รีนก็ว่าทำไมนกตัวนั้นถึงดูแปลกๆ แล้วทำไมพี่เรมถึงไม่บอกรีนเลยล่ะ"

                              "แล้วถ้าพี่บอก เราจะแปลกใจเหรอ"

                              "นั่นสินะ รีนก็เห็นด้วยกับพี่เรม เอ่อแล้วนี่เลอาไปไหนคะท่านแม่"

                              รีนเซียที่ตอนนี้ดีใจสุดขีดถามหาเจ้าแมวน้อยกับผู้เป็นแม่ เพราะเธอไม่เห็นมันอยู่ในบ้านเลย

                               "เลอาเหรอ อยู่ข้างบนน่ะ เห็นมันบอกว่าง่วง"

                               "เลอาเนี่ยนะ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ"

                               เด็กสาวเปรยขึ้นอย่างประหลาดใจ เธอไม่เคยเห็นเจ้าเลอานอนตอนกลางวันมาก่อน แล้วเจ้าตัวก็บอกเองว่านอนตอนกลางวันไม่ดี แล้วทำไมเจ้าตัวถึงทำเองก็ไม่รู้

                               "ยัยรีน แล้วเราคิดจะบอกเพื่อนเรารึเปล่า"

                               "นายนั่นนะเรอะพี่เรม ฝันไปเถอะ ปล่อยให้คนอื่นรอแล้วตัวเองหายไปไหนก็ไม่รู้ ไม่มีทาง"

                                "เหรอ งั้นก็ช่วยไม่ได้สินะ พี่ว่ายังไงเราก็ต้องบอกอยู่ดี"

                                ประโยคสุดท้ายของเรมัลที่รีนเซียแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เพราะรู้ว่าพี่ชายของตนนั้นพูดถูก

                               "รีน ลูกตัดสินใจได้รึยังว่าจะเข้าโรงเรียนไหน"

                               "แน่นอนอยู่แล้วว่ารีนของเราจะต้องเลือกปราชญ์ราชันย์ ใช่ไหมรีน"

                               เด็กสาวพยักหน้าก่อนเอ่ยถามในสิ่งที่มันเกิดขึ้นในใจอีกครั้ง

                               "ถ้ารีนไม่อยู่ แล้วท่านแม่จะอยู่กับใครล่ะคะ"

                               "ไม่ต้องห่วงแม่หรอก เลอาก็อยู่นี่จ๊ะ แม่อยู่ได้"

                               "ถ้าท่านแม่รับรองอย่างนี้รีนก็เบาใจ"

                             รีนเซียรู้สึกดีขึ้นเมื่อรู้ว่าแม่ของเธออยู่ได้เพียงลำพังกับเจ้าเลอา ถึงแม้ว่าเจ้าเลอาจะเป็นแค่แมว แต่มันก็ทำให้คนที่อยู่รอบๆข้างมันรู้สึกสบายใจ ก่อนที่เด็กสาวจะขอตัวขึ้นไปที่ห้องของตน

                       
                            ------------------------------------------------------


                            เวลาแห่งรัตติกาลนั้นมาเยือนอีกครา ความเงียบสงบเข้าปกคลุมทั่วทุกอณาบริเวณ บรรยากาศตอนนี้นั้นดูทะมึนยิ่งนัก  หากแต่มีร่างหนึ่งที่นั่งนิ่งอยู่ในความมืดมิด ก่อนที่ห้วงอากาศสีดำเข้มจะปรากฎออกมาตรงหน้าของร่างนั้น แล้วร่างของชายคนหนึ่งก็ก้าวเท้าออกมา

                           "นายท่าน ข้าไปสืบข่าวจากอธาเรลมา"

                           "จริงรึ แล้วจะได้อะไรมาบ้าง ชีล"

                           "เป็นปกติทุกอย่างครับ ทุกอย่างเรียบร้อยสงบสุข ผมคิดว่าเหมาะแก่การลงมือมากที่สุด"

                           "ดี ข้าก็คิดเช่นเดียวกับเจ้า ชีลเจ้าไปบอกคนของเราให้เริ่มเตรียมตัวได้เลย แล้วรอคำสั่งจากข้าก็พอ"

                          ผู้เป็นนายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ก่อนที่ชายคนนั้นจะกลับเข้าไปในห้วงอากาศสีดำเข้มอีกครั้ง รอยยิ้มเยาะปรากฎขึ้นในความมืด ไม่มีใครสามารถเห็นได้ว่าตอนนี้เจ้าตัวมีสีหน้าเป็นเช่นไร

                          แล้วเราจะได้เห็นดีกัน อธาเรล...ถึงเวลาที่ข้าจะทวงเวลาของข้าคืน


                               


     


                       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×