ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อธาเรล....ดินแดนปราชญ์ราชันย์

    ลำดับตอนที่ #1 : เด็กสาว

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 49


    ตอนที่ 1  เด็กสาว

                

                 'อธาเรล' มหานครที่ยิ่งใหญ่ อันมีภูมิประเทศเป็นลักษณะกึ่ง

    เกาะกึ่งแผ่นดินซึ่งด้านหนึ่งของดินแดนนี้ติดอยู่กับมหาสมุทร ดินแดน

    นี้เป็นเพียงแห่งเดียวที่มีผู้ใช้มนตราอาศัยอยู่ ทั้งยังไม่ติดต่อสื่อสารกับ

    โลกภายนอก จึงมีน้อยคนนักที่จะรู้จักดินแดนแห่งนี้อย่างแท้จริง ชาว

    อธาเรลไม่เคยปรากฎตัวออกจากดินแดนของตน พวกเขาเก็บดินแดน

    ตนเป็นความลับ เนื่องด้วยโลกภายนอกส่วนใหญ่ยังคงไม่ยอมรับว่าผู้ใช้

    มนตรานั้นมีอยู่จริง


                   อธาเรลดำรงนครอยู่ได้ก็เนื่องด้วยสภาปราชญ์ที่มีจอม

    ปราชญ์ทั้ง 5 คน ที่มาจาก 5 ตระกูลซึ่งเข้ามาดูแลจัดการเรื่องราวต่างๆ

    ภายในอธาเรล จอมปราชญ์ทั้ง 5 คนแห่งอธาเรลต่างเข้ามาทำงานใน

    สภาปราชญ์ก็เนื่องด้วยที่ต่างคนต่างเป็นทายาทของตระกูลนั้นๆ

     
                    เมื่อ 100 ปีที่ผ่านมา จอมปราชญ์ทั้ง 5 ที่ดำรงตำแหน่ง

    ก่อนรุ่นจอมปราชญ์ในปัจจุบันต่างลงความเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะยก

    เลิกการสืบทอดตำแหน่งให้กับลูกหลานสายเลือดของตน ถึงแม้พวก

    เขาว่าจะได้รับการคัดเลือกจาก 'ผลึกแห่งปราชญ์' ก็ตาม จอมปราชญ์

    ทั้ง 5 แห่งอธาเรลต่างเห็นพ้องต้องกันที่จะจัดตั้งโรงเรียนปราชญ์

    ราชันย์ขึ้นมา เพื่อทำการคัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถ และเหมาะ

    สมกับตำแหน่งจอมปราชญ์


                           ...เพราะพวกเขาล่วงรู้ว่าเวลาแห่งคำทำนายกำลังจะเดินทางมาถึง...
               
                                   ....คำทำนายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้....



                       -----------------------------------------------------------



                          วงน้ำที่ถูกตีแตกจนสาดกระจายเป็นหยดเล็กๆโดย

    เรียวขาบางของผู้ที่นั่งอยู่บนโขดหินข้างลำธารสายเล็กราวกับขัดใจ.

    อะไรบางอย่าง ก่อนที่ร่างบางนั้นจะผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วก้าวเท้า

    ฉับๆออกสู่ถนนสายหลัก

                           นี่มันกี่โมงแล้วหา...ทำไมถึงยังไม่มาอีก

                           เจ้าของนัยน์ตาสีอำพันคู่สวยที่บัดนี้ขุ่นอย่างหนัก

    กำลังนึกพาลเจ้าคนที่ทำให้เธอรอมาเกือบค่อนวัน ยามนี้เส้นผมสี

    น้ำตาลเข้มราวกับเปลือกไม้กำลังปลิวไสวเพราะแรงลม ตอนนี้ก็ล่วงเข้า

    เวลาเย็นแล้วและเธอก็กำลังจะกลับบ้าน ขณะเดียวกันร่างบางก็เดิน

    เลี้ยวขวาซึ่งเป็นทางแยกออกมาจากถนนสายหลักที่ถูกปูด้วยพื้นหิน

    อย่างสวยงาม ก่อนที่ขาเรียวจะพาเจ้าของมาหยุดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง

                           "เหมียว"

                           "ไปไหนมาน่ะ รีน"

                           เสียงของเจ้าสัตว์ขนฟูสีดำดังขึ้นข้างๆร่างบางที่ยืน

    หยุดนิ่งอยู่ที่หน้าบ้านหลังเล็กของตน

                           "เลอา เจ้ามาอยู่ข้างนอกได้ยังไง ทำไมถึงไม่อยู่ในบ้านหล่ะ"

                           เจ้าของเสียงที่เอ่ยเรียกชื่อแมวของตนดังขึ้นและไม่

    ตอบคำถามที่ถามมา ในขณะเดียวกันก็ก้มตัวลงไปอุ้มแมวตัวน้อยเข้ามา

    อยู่ในอ้อมแขนของตน ก่อนที่ทั้งเจ้านายและสัตว์เลี้ยงจะเดินตัดผ่าน

    สวนขนาดเล็กที่ถูกจัดขึ้นหน้าบ้านซึ่งมีพื้นที่จำกัดไปอย่างรวดเร็ว

                            ก๊อก ก๊อก

                            "กลับมาแล้วค่ะ"

                             เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดประตูแล้ว

    ก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน

                            "อ้าวยัยรีน ทำไมถึงกลับมาเร็วนักหล่ะ"

                            "ก็นายนั่นไม่มาน่ะสิ แย่ที่สุด"

                            รีน หรือ รีนเซีย วามิลี เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

    ก่อนที่จะขยับรอยยิ้มให้กับพี่ชายของตนเล็กน้อย แล้ววางเจ้าเลอาที่

    หลับไปตอนไหนซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ลงบนเก้าอีตัวยาว พร้อมๆกับที่เจ้าตัว

    นั่งตามลงไปด้วย

                             "แล้วหมอนั่นไปไหนหล่ะ ถึงไม่มาหาเรา"

                             "ไม่รู้สิพี่เรม ไม่เห็นนายนั่นจะส่งข้อความอะไรมาหารีนเลย"

                             ผู้เป็นพี่ชายของรีนเซียพยักหน้าอย่างเข้าใจกับคำ

    ตอบของน้องสาวก่อนที่ใบหน้าคมของเรมัลจะมีสีหน้าเหมือนนึกอะไร

    ได้บางอย่าง

                              "รีนปีนี้เราอายุเท่าไหร่แล้ว"

                              "พี่เรมนี่ถามแปลงจัง ถ้าพี่เรม 17 รีนก็ 15 น่ะสิ"

                            "พี่จำอายุเราไม่ได้ถึงถาม ไม่เจอกันตั้งหลายเดือน"

                              "ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยพี่เรม แล้วทำไมก่อนจะถามถึงทำสีหน้าแปลกๆหล่ะ"

                               เจ้าของนัยน์ตาสีอำพันเช่นเดียวกับน้องสาวเพียง

    แค่ขยับยิ้มอย่างมีเลศนัยเพียงเล็กน้อย

                                "เปล่าซะหน่อย เราตาฝาดรึเปล่า"

                                "นี่พี่เรมอย่าหาเรื่องกันสิ แล้วท่านแม่ไปไหนเหรอ"

                                "เห็นท่านบอกว่าไปธุระ อาจจะกลับดึก แล้ว

    ท่านก็บอกให้เราสองคนนอนกันไปก่อนได้เลย ไม่ต้องรอ"

                                 "อืมๆ พี่เรมมีอะไรให้รีนทานไหม หิวจะตายอยู่แล้ว"

                                 รีนเซียเปรยขึ้นกับพี่ชายที่ขยิบตาให้เป็นนัยว่า

    ให้เดินมาที่ห้องครัว เด็กสาวจึงเดินตามไปแล้วพบว่า ที่โต๊ะไม้มีหม้อ

    ขนาดกลางตั้งอยู่โดยที่ภายในหม้อมีช้อนซุปที่กำลังคนซุปกลิ่นหอมให้

    เข้าที่เอง จากนั้นช้อนซุปคันนั้นก็ตักซุปที่กำลังได้ที่ใส่เข้าไปในชามที่

    ตั้งอยู่บนโต๊ะทั้งสองชาม ก่อนที่มันจะลอยกลับเข้าไปอยู่ในหม้อเหมือนเดิม

                                  "หือม์ ใครทำเนี่ยน่าทานจริงๆ"

                                  "ท่านแม่ไง จะใครซะอีกหล่ะ เป็นยังไงบ้างอร่อยใช่ไหม"

                                  "แน่นอน ท่านแม่ของรีนทำอร่อยที่สุดแล้ว"

                                  เรมัลทำหน้าหมั่นไส้น้องสาวสุดที่รัก ก่อนที่จะ

    จัดการซุปในชามของตนเช่นเดียวกับคนที่นั่งตรงข้าม

                                   "พี่เรม เลอากินอะไรหรือยัง"

                                   "เจ้านั่นน่ะเรอะ กินแล้ว กินเยอะมากด้วย เรา
    น่ะเลี้ยงไปได้ยังไง ก็รู้อยู่ว่าบ้านเราคงจะเลี้ยงมันไม่ได้ถ้าหากยังกินเยอะแบบนี้อยู่"

                                   "นี่พี่เรม เลอาตัวเล็กนะ แล้วมันก็กินไม่เยอะด้วย พี่อย่ามามั่วว่าแมวของรีนเลยดีกว่า"

                                   เด็กสาวเถียงแทนเจ้าแมวของตนกับพี่ชายที่

    ชอบแหย่ว่าเจ้าเลอากินเยอะอย่างนั้น กินมากอย่างนี้ ทั้งที่ตัวมันออกจะ

    เล็ก ก่อนที่พี่ชายจะยกมือขึ้นเป็นสัญญาณว่าเถียงไม่ออกของยอมแพ้

                                   "โธ่! ยัยรีน พี่แค่ล้อเล่นนะ"

                                    "ไม่รู้หล่ะ รีนจะขึ้นห้องแล้ว ขอตัว"

                                   รีนเซียยิ้มทะเล้นให้พี่ชาย แล้วเดินไปหาเจ้า

    เลอาที่นอนอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวนอกห้องครัว แล้วพามันขึ้นไปที่ห้องนอน

    ของตนด้วยกัน

                                   เด็กสาวเปิดประตูห้องของตนเข้าไป ยามนี้ลม

    เย็นโชยเข้ามาในห้องของเด็กสาวเบาๆ ทำให้ม่านสีลาเวนเดอร์ไหวเล็ก

    น้อย ก่อนที่เจ้าตัวจะวางเจ้าแมวเลอาที่หลับสบายลงบนเตียงของตน

    แล้วไปอาบน้ำ

                                   เมื่อจัดการตัวเองเสร็จสรรพเรียบร้อย รีนเซียก็

    เดินเข้าไปใกล้ที่เตียง ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆเจ้าเลอา จากนั้นเด็ก

    สาวก็พึมพำอะไรบางอย่าง แล้วนัยน์ตาสีอำพันคู่นั้นก็ปิดสนิท


                                 --------------------------------------------------


                              
                                  ยามนี้แสงแดดอ่อนๆส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา

    ต้องร่างของรีนเซียที่นอนหลับอย่างสงบอยู่บนเตียง ร่างเล็กขนฟูสีดำ.

    ของเจ้าเลอาในอ้อมแขนของรีนเซียขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเช้าวันใหม่

    ได้มาถึง เจ้าเลอาลืมนัยน์ตากลมโตสีเหลืองขึ้นมองเจ้าของขี้เซาที่

    หลับสนิทอยู่ข้างๆตัวมัน

                                  "เหมียว ตื่นได้แล้วรีน เช้าแล้วนะ"

                                  "อืมๆ ฉันรู้แล้ว ขอเวลาอีก 5 นาทีนะเลอา"
     
                                  เด็กสาวพลิกตัวหันหลังให้กับเลอาทันทีหลัง

    จากที่ขอเวลาเพิ่มจากเจ้าแมวขนปุยสีดำ

                                   "ไม่ได้ รีนโตแล้วนะ"

                                   "ตื่นสิ ตื่นๆๆ"

                                   คราวนี้ไม่พูดปล่าว เจ้าแมวดำกระโดดผลุงขึ้น

    มาเดินบนตัวของเด็กสาว

                                    "ก็ได้ๆ ตื่นก็ตื่นสิ"

                                    "เจ้าน่ะนะ จะเป็นแม่ฉันอีกคนรึไงกัน"

                                    เด็กสาวครวญขึ้นอย่างอดไม่ได้ จะว่าไปเจ้า

    เลอามันก็ทำตัวราวกับเป็นพี่เลี้ยงของเธอ ถึงจะดูเหมือนลูกแมวก็เถอะ

    เวลาบ่นทีนี่หูแทบชาจนไหม้เหมือนกัน แต่เธอก็รักมันมาก ในยามที่เธอ

    เหงาเพราะพี่เรมไม่อยู่ด้วยด้วย มันก็จะคอยอยู่ข้างๆตลอดเวลา เธอจึง

    ไม่เคยเห็นเลอาเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงของผู้ใช้มนตรา แต่เธอถือว่าเลอา

    เป็นสมาชิกของครอบครัวเธอด้วย

                                    "นี่รีน รีบๆอาบน้ำสิ แล้วลงไปทานข้าวซะ ฉันลงไปก่อนนะ"

                                     "เจ้าค่ะ เจ้าลงไปก่อนเลยเลอา"

                                    รีนเซียพูดขึ้นไล่หลังเจ้าแมวตัวดีที่เดินออก

    จากห้องทัน ก่อนที่มันจะผลุบหายไปข้างล่าง

                                    
                                   -----------------------------------------------


                                    "ท่านแม่ มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"

                                    เสียงใสของรีนเซียดังขึ้น พร้อมๆกับที่เจ้าตัว

    โผเข้าไปกอดหญิงผู้เป็นแม่ของตน เธอเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าที่ดู

    เหนื่อยอ่อนของผู้เป็นแม่

                                    แม่ของเธอและเรมัลผู้เป็นพี่ชายต้องทำงาน

    หนักเพื่อค่าใช้จ่ายต่างๆให้กับครอบครัว และอีกไม่นานก็จะถึงเวลาที่

    เธอต้องเข้าโรงเรียนเพื่อศึกษามนตราขั้นสูง

                                    แล้วใครจะอยู่ดูแลท่านแม่กันหล่ะ

                                    คำถามที่เกิดขึ้นในใจของรีนเซียบ่อยครั้ง

    หลังจากที่รู้ว่าใกล้ถึงเวลาของตนที่จะต้องเข้ารับการศึกษา แต่เธอก็ยัง

    ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเข้าที่ไหนดี เพราะที่อธาเรลนั้นมีโรงเรียนหลาย

    โรงเรียนให้เลือก และโรงเรียนต่างๆนั้นก็จะส่งจดหมายด่วนมาให้ แต่

    เธอก็มีโรงเรียนที่อยากเข้าอยู่ในใจแล้ว

                                   "เมื่อคืนน่ะ พอแม่กลับมาพวกลูกก็หลับกันหมดแล้ว"

                                   "เหรอคะ แล้วนี่ทำไมพี่เรมยังไม่ตื่นอีกนะ ขี้เซากว่ารีนเยอะเลย"

                                   โป๊ก

                                   "โอ๊ย! พี่เรมที่โขกมามันเจ็บนะ"

                                   "นี่ยัยรีนแล้วใครใช้ให้เรานินทาพี่หล่ะ เจ็บก็ดีสิจะได้จำว่าต่อไปห้ามนินทาพี่ ใช่ไหมครับท่านแม่"

                                    "เอาหล่ะๆ แม่คิดว่าพวกลูกควรจะเลิกทะเลาะกันเป็นเด็กๆได้แล้ว นั่งลงทานข้าวเร็วๆเลย"

                                    ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นขัดตาทัพก่อนจะเกิดสงคราม

    น้ำลายที่น่าปวดหัวระหว่างน้องสาวกับพี่ชายบนโต๊ะอาหาร พร้อมๆกับ

    ที่เธอวางอาหารลงบนโต๊ะ แล้วนั่งลงข้างรีนเซีย

                                    "เรม ลูกเปิดเรียนวันไหนเหรอ"

                                    "อาทิตย์หน้าครับท่านแม่ มีอะไรรึเปล่าครับ"

                                    "เปล่าจ๊ะ แม่คิดว่าลูกควรพารีนไปเดินเล่นนะ เผื่อลูกมีอะไรอยากจะบอกรีน"

                                     "อะไรเหรอคะ ที่จะบอกรีน"

                                 รีนเซียตั้งคำถามไปด้วยใบหน้าที่สงสัยเต็มแก่
    จะว่าไปพี่เรมก็ทำหน้าแปลกๆตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

                                      ช่างเถอะ เดี๋ยวพี่เรมก็คงจะบอกเอง

                                     "ครับแม่ รีนวันนี้เราไปเดินเล่นกับพี่นะ"

                                     "ได้สิ ยังไงรีนก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว รีนขอตัวไปหาเลอาข้างนอกก่อนนะคะ อิ่มแล้ว"

                                      เด็กสาวเอ่ยขึ้นก่อนจะขอตัวลุกออกจาก
    เก้าอี้ แล้วเดินออกไปหาเจ้าเลอาที่อยู่นอกบ้าน ทิ้งให้พี่ชายยิ้มกว้างกับ
    ผู้เป็นแม่



    ---------------------------------------------------------------------------

    ยังไงก็ฝากเม้นต์ด้วยน้า ^^ เรื่องแรกของเรา


                                   


                                    

                                 


         

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×