คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ความลับแตก
แก้ว แจม เดินมาถึงโรงอาหาร
ก็พบกับเฟย์นั่งกินข้าวอยู่คนเดียวไร้เงาพิม
แจมก็เกิดอาการปี๊ดขึ้นสมองตรงเข้าไปหาเฟย์ทันที
“เฟย์ ทำไมทำตัวแบบนี้ รู้มั้ยพี่สาวเทอเป็นห่วงเทอแค่ไหน หัดคิดซะบ้างสิ”
แจมเดินเข้าไปตบโต๊ะดัง ปึ๊ก!! จนคนในโรงอาหารตกอกตกใจไปตามๆกัน
แถมด้วยด่าเฟย์โดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พูดบ้างเลย
“มันอะไรของเทอนี่ อยู่ดีๆก็มาด่าชั้น ชั้นทำอะไรผิด”
เฟย์งงเหมือนกันที่อยู่ๆแจมก็ด่าเทอเฉยเลย
“ยังมีหน้ามาถามอีก เมื่อคืนไปไหนมา.”
แจมสงบสติอารมณ์เมื่อทุกคนหันมามอง แล้วถามต่อไป
“เมื่อคืนชั้นก็อยู่คอนโดไม่ได้ไปไหนซะหน่อย ทำไมหรอ???”
เฟย์ตอบอย่างใสซื่อย์ โดยไม่ต้องคิดนาน
“อะไรนะ เมื่อคืนอยู่คอนโดหรอ”
แจมตกใจในคำตอบที่เฟย์ตอบมา
“ก็ใช่นะสิจะให้อยู่บนต้นไม้รึไง”
เฟย์ตอบแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไป
‘อะไรกัน ไหนฟางบอกว่าเฟย์หนีออกจากบ้าน ใครโกหกกันแน่’ แจมสับสนอยู่ในหัว
ถ้าเฟย์พูดจริงแล้วทำไมฟางต้องโกหกด้วย
แล้วเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น
หรือแจมจะแค่ฝันไปเท่านั้น
“เป็นไรไปแจม แล้วมันเรื่องอะไรกัน เฟย์ทำอะไร”
แก้วถามเมื่อเห็นแจมนิ่งไปนานแล้ว
“ป่าวหรอก กินข้าวกันเถอะ” แจมบอกแล้วเดินไปซื้ออะไรมากิน
‘ทำตัวน่าสงสัยจริงๆเลยแก’ แก้วคิดแล้วเดินตามแจมไป
“แก้ว กินข้าวรึยัง มานั่งด้วยกันสิ” ขนมจีนเรียกเมื่อแก้วเดินผ่านมา
“ยังไม่กินเลย พอดีมีเรื่องนิดหน่อย” แก้วตอบแล้วนั่งลงข้างๆขนมจีน
“แก้วมีเรื่องอะไรรึป่าว เล่าให้หนมจีนฟังได้นะ อย่าเก็บไว้คนเดียวสิมันไม่ดีต่อสุขภาพจิต”
ขนมจีนบอกด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูเป็นห่วงเป็นใยอย่างกับคนเป็นแฟนกัน
“แจม มานั่งด้วยกันสิ นั่งคนเดียวเหงานะ” จินนี่เรียกเมื่อแจมกำลังจะนั่งลงที่โต๊ะ
“จินนี่กินข้าวรึยัง” แจมเดินมานั่งลงข้างๆจินนี่
“กินแล้วแหล่ะ แจมละ” จินนี่หันมาถามแจมที่อยู่ข้างๆตรงกับที่แจมกำลังจะหันมาถามพอดี
บังเอิญว่าหน้าอยู่ใกล้กันมากเกินไปจนเกิดอาการเขิน
“เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอก” แจมงงงงแล้วหันหน้าไปหาแก้ว
“ชั้นไปก่อนนะแก้ว”
แจมบอกแล้วลุกออกไป
“จินนี่ตามไปดูหน่อยก็ดีนะ เหมือนแจมกำลังมีปัญหาแต่ไม่ยอมบอกแก้ว”
แก้วบอกจินนี่เมื่อเห็นแจมดูท่าทางไม่ค่อยดี
“แล้วแก้วทำอะไรให้แจมไม่พอใจรึป่าว เป็นเพื่อนกันไม่มีอะไรปิดบังกันหรอก”
ขนมจีนหันมาถามข้างๆหูแก้ว
“ป่าวนะ แก้วไม่ได้ทำอะไรเลย”
แก้วรีบปฏิเสธทันที
“งั้นจินนี่ขอไปตามแจมก่อนนะ”
จินนี่บอกแล้วรีบวิ่งตามแจมไปทันที
จินนี่วิ่งตามแจมมาจนถึงอาคารดนตรีที่ไม่ได้ใช้แล้ว
เพราะว่ามีอาคารดนตรีหลังใหม่ แจมจึงจัดเตรียมไว้เป็นที่สำหรับนอนกลางวันได้เป็นอย่างดี
มีเสื่อไว้ปู มีหมอนด้วย ถ้ามีผ้าห่มด้วยคงดีกว่านี้
ที่ที่แจมชอบมาเวลามีเรื่องไม่สบายใจ
หรือบางครั้งก็แอบหนีเรียนมานอนที่นี่กับแก้วบ่อยๆ
มันดูสงบเงียบ ไม่ค่อยมีใครผ่านมา
เป็นที่พักใจได้พอดีเลย
“แจม เดี๋ยวก่อนสิ แจมมีเรื่องอะไรรึป่าว บอกจินนี่ได้นะ”
จินนี่วิ่งเข้ามาคว้าแขนแจมไว้
“....ตามมาทำไม??...”
แจมถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาผิดปกติ
“แจม จินนี่เป็นห่วงแจมนะ มีอะไรก็เล่าให้จินนี่ฟังบ้างสิถ้ามันจะทำให้แจมสบายใจ”
จินนี่เปลี่ยนไปอยู่ตรงหน้าแจม สบตาถามแจมด้วยความจริงใจ
ไม่ใช่แค่เสแสร้งแกล้งทำ
“เรื่องของแจม ไม่มีใครช่วยได้หรอก”
แจมบอกแล้วกำลังจะเดินออกไป
จินนี่จึงโผเข้ากอดไว้ทางด้านหลังเพื่อไม่ให้แจมหนีไปไหน
“แจมอย่าทำแบบนี้สิ จินนี่รักแจมนะ”
คำสารภาพรักของจินนี่กลับทำให้แจมรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย
“ถ้าแจมเป็นคนไม่ดีล่ะ จินนี่จะยังรักแจมรึป่าว”
แจมถามคนที่กอดเทออยู่ทางด้านหลัง
“รักสิ ไม่ว่าแจมจะเป็นยังไงจินนี่ก็รักแจมไม่เปลี่ยน”
คำยืนยันที่ออกจากปากจินนี่ แต่แจมก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร
ถ้าจินนี่รู้เรื่อง แจมกับฟาง
แล้วจินนี่จะคิดยังไง
“แจมก็รักจินนี่นะ”
แจมหันกลับมากอดจินนี่
“แจมมีปัญหาอะไร บอกจินนี่สิ”
จินนี่ก็ยังอยากรู้ปัญหาที่อยู่ในใจของแจม
“ช่างมันเถอะ มันไม่สำคัญเท่าเรื่องของเราหรอก.”
พูดจบแจมก็โน้มลงปะกบจูบจินนี่อย่างอ่อนโยน
แล้วเริ่มทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“อือ..อือ...แจม เดี๋ยวก่อน.”
แจมผละจูบออกเมื่อรู้สึกว่าจินนี่หายใจไม่ทัน
จากนั้นจึงปะกบจูบลงอีกครั้งอย่างนุ่มนวล
ไม่รอช้าแจมอุ้มจินนี่เข้าไปในห้องทันที
แล้วก็เริ่มบรรจงจูบอีกครั้งโดยที่จินนี่ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด
แถมจูบตอบอย่างที่แจมพอใจ
ลิ้นหนาถูกส่งเข้าไปสำรวจหาความหวานภายในอย่างดูดดื่มอยู่นานสองนาน
จนกระทั่ง
ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์แจมสั่นขึ้นมาพอดี
“เออแก้วว่าไง”
(แจม แกอยู่ไหนวะ มีคนอยากพบแก)
“ใครหรอแก้ว”
(ชั้นว่าแกมาดูเองดีกว่า แค่นี้นะ)
พูดจบแก้วก็วางสายไปทันที
“ไปกันเถอะจินนี่”
แจมลุกขึ้นแล้วส่งมือให้จินนี่จับเพื่อดึงจินนี่ลุกขึ้น
“ขอบใจนะ”
จินนี่จับมือแจมเพื่อลุกขึ้น
ทั้งคู่สบตา ยิ้มกันอย่างมีความสุข
แจมกุมมือจินนี่ขณะที่เดินไปตามทาง
ทำเอาบรรดาแฟนคลับอิจฉาตาร้อนกันทั่ว
เดินมาไม่นานก็ถึงที่ที่แก้วโทรไปบอกว่ามีคนอยากพบแจม
“แก้ว ใครหรอที่แกบอกว่าอยากเจอชั้นน่ะ”
แจมถามถึงทันที
“อยู่นี่ไงคะแจม” เสียงนึงเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งเผยให้เห็นรูปโฉมที่งดงามของเทอ
“ฟาง!!!” ทันทีที่แจมเห็นก็อึ้งจนพูดแทบไม่ออก
“ตกใจอะไรหรอคะ แจม ไม่ดีใจหรอที่เห็น ‘คนรัก’ มาหาถึงที่”
ฟางพูดไปส่งสายตาจิกกัดไปทางจินนี่ ทำเอาจินนี่ต้องหลบสายตา
“ฟางมาได้ไง แล้วไม่มีเรียนหรอ” แจมรีบเปลี่ยนเรื่องถาม
เพราะกลัวว่าจะมีการจิกกัดกันมากไปกว่านี้
“ไม่มีหรอกคะ แต่ฟางว่าน่าจะเปิดหลักสูตรสอนวิชา ‘หน้าด้านศึกษา’
ไว้สอนพวกที่ชอบทำตัวแย่งของคนอื่น แจมว่าดีมั้ยคะ”
ไม่พูดเฉยๆ ฟางเข้ามาดึงแจมออกจากจินนี่ด้วย
“แจม นี่มันหมายความว่าไง ไหนแจมบอกว่า แจมรักจินนี่ไง”
จินนี่ถึงกลับงงที่จู่ๆก็โดนแย่งแจมไปต่อหน้าต่อตา
‘โอย...แจ่มศรีจะแย่แล้ว ใครก็ได้ช่วยที’
“ก็หมายความว่า เทอหน้าสี่เหลี่ยมไงละ(หน้าด้าน)”
ฟางส่งสายตาจิกกัดไปที่จินนี่อีกครั้ง
“แจม ตอบจินนี่สิ มันหมายความว่าไง”
น้ำตาใสๆเริ่มหลั่งไหลออกมาจากใบหน้าเนียนขาวของจินนี่
“นี่เทอแกล้งโง่รึป่าว ชั้นเป็นแฟนแจม แล้วเทอละเป็นใคร”
เจ้าแม่เริ่มพิโรธ
“ชั้นก็เป็นแฟนแจมเหมือนกัน”
จินนี่ก็ไม่ยอมเหมือนกัน ปาดน้ำตาสู้สุดใจ
‘แจ่มน้อยซวยแน่ๆเลย ช่วยด้วย!!’
“หน้าด้าน กล้าพูดได้เต็มปาก หัดดูตัวเองซะมั่งเทอเป็นใครแล้วชั้นเป็นใคร.”
“...ชั้นเป็นแฟนแจม แล้วทำไมล่ะ” จินนี่ก็เถียงเอาจริงเอาจัง เริ่มมีปากเสียงขึ้นเรื่อยๆ
เพี๊ยะ!!
โดนฝ่ามือพิฆาตของเจ้าแม่ทำเอาจินนี่เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ
“หน้าด้านที่สุด ไม่มียางอาย” แถมด้วยการด่าต่ออีก
เพี๊ยะ!!
จินนี่ฮึดสู้ ตบเจ้าแม่คืนบ้าง
“คิดว่าตัวเองดีมากรึไง เที่ยวตบคนอื่นไปทั่ว”
จินนี่ก็ขึ้นเหมือนกัน
“อ๊าย!!!! นังขี้คอก แกกล้าด่าชั้นหรอ...มานี่เลย..ชั้นจะตบแกให้ตายไปเลย.”
ฟางเข้าไปกระชากผมจินนี่เข้ามาแล้วก็ ตบ ตบ ตบ
บรรยากาศดูตรึงเครียด ไม่รู้จะห้ามใครดี
“ทำไรสักอย่างสิแจม จะปล่อยให้ตบกันอย่างนี้หรอ” แก้วรีบบอกเพื่อนห้ามศึกการตบ
“พอเถอะฟาง.!!......มานี่..!!.” แจมลากฟางออกไปก่อนที่จะมีการตายเกิดขึ้น
มาถึงที่รถฟาง
“ทำไมฟางทำตัวแบบนี้???” แจมถามอย่างหงุดหงิด
“ฟางไม่ได้เริ่มก่อน นังนั่งมันก่อนนะแจม” ฟางหงุดหงิดใส่แจม
“แต่นี่มันโรงเรียนแจมนะ ฟางควรให้เกียรติแจมบ้างนะ” แจมพูดใส่อารมณ์เพราะความโมโห
“ทำไมละ คะ แจม ฟางมีสิทธิ์ที่ในตัวแจมเราเป็นอะไรกันแจมลืมไปแล้วหรอ
ถ้าลืมเดี๋ยวฟางทบทวนให้อีกครั้งดีมั้ยคะ”
ฟางทำท่าจะเข้าไปจูบแต่แจมเบรกไว้ซะก่อน
“นี่มันสถานศึกษากรุณาเคารพด้วย”
แจมพูดเบรกฟางเอาไว้ทัน
“แล้วทีแจมจูบกับนังนั่นหล่ะ ไม่อายบ้างรึไง???” ฟางเริ่มโวยวายแต่ยังไม่ถึงที่สุด
“...............O?O.............” แจมงงว่าฟางรู้ได้ยังไง
“แจมไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอก ดูผลงานแจมสิ”
ฟางชี้ไปที่ปกเสื้อแจมที่มีรอยลิปสติกติดอยู่คงไม่ใช่ของแจมหรอกที่จะมาติดที่ปกเสื้อตัวเอง
แล้วก็กระดุมเสื้อที่ถูกปลดออกสองเม็ด
แค่นี้ก็ทำเอาแจมปฏิเสธไม่ได้แล้ว
“โถ....ฟาง จ๊ะ แค่นี้เองหรอที่ทำให้ฟางโกรธ ไม่เอานะไม่งอน เดี๋ยวไม่สวยนะ”
แจมเปลี่ยนอารมณ์มาง้อฟางทันที เพราะความรักที่มีให้ฟางมันมากกว่าใครทั้งสิ้น
“มีอะไรมาง้อฟางละ” ฟางแกล้งเมินหน้าไปทางอื่น
“อะไรก็ได้ที่ฟางต้องการ แจมยอมทุกอย่าง” แจมง้อได้น่ารักจริงๆ
“งั้นก็...จุ๊บ!” ฟางจุ๊บปากแจมทีนึง แล้วยิ้มอย่างมีความสุข
“แค่นี้เองหรอ..” แจมเรียกร้องอะไรที่มากกว่านี้
“อะไรอีกนะ .....” ฟางทำท่าคิด
แล้วก็กระชากแจมเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม
เพราะรู้ว่าจินนี่แอบตามมาจึงจงใจที่จะทำให้จินนี่เห็น
‘ดูซะให้เต็มตา จะได้เลิกโง่ซักที’ ฟางคิดขณะที่จูบแจมอยู่
ฟางถอนจูบออกเมื่อรู้ว่าจินนี่วิ่งออกไปแล้ว
“ฟางกลับก่อนดีกว่า คืนนี้ฟางจะรอนะคะ.”
ฟางคล้องคอแจมเข้ากระซิบเบาๆ
แล้วเดินขึ้นรถ
ขับออกไปจนลับตา
แจมจึงเดินกลับมาหาแก้ว
“เรื่องนี้ใช่มั้ยที่แกโกหกชั้น”
แก้วถามด้วยสีหน้าที่ดูเครียด เมื่อแจมเดินยิ้มเข้ามา
“แล้วไงละ...ถ้าชั้นบอกแกแล้วมันจะดีขึ้นหรอ”
แจมตอบอย่างไม่ใส่ใจเท่าไร
“แต่แกเป็นเพื่อนชั้นนะ แกปิดบังชั้นทำไม”
แก้วลุกมากระชากคอเสื้อแจม
“เพราะชั้นรู้ไงว่าแกน่ะ รัก ฟาง..”
แจมเงยหน้าขึ้นมองหน้าแก้วด้วยสายตาเย็นชา
แก้วรู้สึกอึ้งในคำพูดของแจม
“ชั้นขอโทษ..”
แก้วปล่อยคอเสื้อแจมแล้วจัดให้จนเข้าที่เหมือนเดิม
“ไม่เป็นไรหรอก”
แจมกระชับคอเสื้อเล็กน้อย
“เรื่องฟาง ชั้นไม่คิดแบบนั้นหรอก แกชอบฟางก็ดีแล้ว”
“ชั้นกลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน”
พูดจบแจมก็เดินออกจากห้องไป
ขึ้นรถแล้วเหยียบออกไป
“แก้ว จะกลับรึยัง”
ขนมจีนเดินมาถามแก้ว
“กลับสิ แก้วไปส่งนะ”
แก้วลุกขึ้นเดินไปช่วยขนมจีนถือหนังสือกองเบ้อเร่อ
“งั้นแก้วไปรอที่รถก่อนนะ เดี๋ยวหนมจีนมา ขอไปส่งงานก่อนนะ.”
ขนมจีนยิ้มแล้วเดินออกไป
แก้วจึงเดินไปรอที่รถ
~ ว่างป่าว รักกันจะได้มั้ย ว่างอยู่ ทั้งตัวและจิตใจ~ ~
“ว่าไงแจม ถึงบ้านแล้วหรอ แกขับรถหรือขับเจตวะเนี่ย”
(เออน่า คืนนี้แกว่างมั้ย)
“ไม่นะเว้ย แกอย่าคิดแบบนั้น มันผิดผี”
(ไอ้บ้า ชั้นจะชวนแกไปผับเว้ย! คิดอะไรไปนู่นน่ะแก)
“งั้นหรอ ชั้นก็นึกว่าแกเกิดอาการ เพื่อนกูรักมึงวะ ตกใจหมด”
(งั้นคืนนี้3ทุ่มเจอกันที่เดิม โอเคมั้ย)
“เออ เออ โอเค..”
(แค่นี้แหละ ไม่อยากรบกวนเวลาอินเลิฟของแก ยังไงก็จับกดเลยนะ โชคดีเพื่อน)
“ไอ้บ้า.!!”
ตู๊ดๆๆๆ
“แก้ว!!.”
“เฮ้ยยย!!!.”
“ตกใจอะไร หนมจีนเอง”
ขนมจีนเรียกแก้วแต่แก้วกลับตกใจ
“เฮ้อออ..ขนมจีนหรอ เอ่ออไปกันได้ยัง”
‘แจมนะแจม บอกให้ชั้นคิดอะไรเนี่ย’ แก้วคิดที่แจมบอกว่าให้จับกด
แก้วรีบตั้งสติทันที
เปิดประตูรถให้ขนมจีน
แล้วขึ้นนั่งที่คนขับ
ขับมาเรื่อยๆไปนานก็ถึงบ้านขนมจีน
“แก้วรีบรึป่าวเข้าไปในบ้านก่อนมั้ย เดี๋ยวหนมจีนทำไรให้ทานก่อน”
ขนมจีนชวนแก้วเข้าบ้าน
“อืมมมม...ก็ได้..”
แก้วลงรถไปพร้อมกับขนมจีน
บ้านขนมจีนขายไม้ดอกไม้ประดับ
มีดอกไม้หลากหลายชนิด
แก้วเดินเข้าบ้านก็ชมดอกไม้ไปเรื่อย
“คุณ
ขนมจีนไหว้แม่แล้วโผเข้ากอดเหมือนเด็กตัวเล็กๆ
ทำเอาแก้วอมยิ้มได้เหมือนกัน
“จ๊ะ ลูก” แม่ ก็กอดตอบอย่างน่ารัก
“ตายแล้ว!!! คุณแก้ว .....คือว่าตอนนี้ไม้ดอกขายไม่ค่อยดีเลยขอเวลาหน่อยนะคะ
ไม่เกินสิ้นเดือนนี้เดี๋ยวดิฉันหาไปให้นะคะ”
แม่ขนมจีนตกใจมาก นึกว่าแก้วมาทวงหนี้ จึงรีบต่อรองทันที
“เอ่อ..คือ..สวัสดีฮะแม่”
แก้วยกมือไหว้แม่ขนมจีนแบบเก้ๆกังๆ ทั้งงงว่า ตกใจอะไรกัน
“คุณแก้ว...ไหว้ฉันทำไมคะ”
แม่ขนมจีนรับไหว้แก้วแบบเกร็งๆ
“แม่ นี่เพื่อนหนมจีนเอง เค้ามาส่งหนมจีน ไม่ได้มาทวงหนี้หรอกคะ”
ขนมจีนเรียกสติแม่กลับมาก่อนที่จะเตลิดไปมากกว่านี้
“ทำไมพูดแบบนี้ นี่คุณแก้ว ทายาทมหาเศรษฐีไฮโซชื่อดังเลยนะ”
สงสัยสติคุณแม่ยังไม่กลับมา
“คือ...แก้ว เป็นเพื่อนขนมจีนฮะแม่ ไม่ได้มาทวงหนี้อะไรหรอกฮะ”
แก้วก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน
“หรอคะ งั้นเชิญคุณแก้วนั่งก่อนนะคะ ดื่มน้ำก่อน”
แม่ขนมจีนจัดที่นั่งให้แก้วเป็นพิเศษ
“ขอแก้ว ไปหาขนมจีนได้มั้ยฮะ”
แก้วขออนุญาตแล้วเดินไปหาขนมจีนในห้อง
“ขนมนจีน แก้วว่า..”
แก้วดันพรวดพราดเข้าไปไม่เคาะประตู ขนมจีนกำลังเปลี่ยนชุดอยู่ เห็นหมดเลย
“ว้ายยยย!!!! แก้ว!!!”
ขนมจีนกรี้ดออกมาเต็มที่
“เฮ้ยยย!!!! แก้วไม่ได้ตั้งใจนะ”
แก้วตกใจแต่ก็ยังยืนดูเหมือนเดิมไม่ยอมปิดประตู
“แก้ว ปิดประตูสิ”
ขนมจีนบอกให้แก้วปิดประตูเข้าเหมือนเดิม
ปัง!
แก้วปิดประตูแต่ตัวเองดันเข้ามาอยู่ในห้อง (แล้วจะปิดทำไม)
“แก้ว เข้ามาทำไม ปิดตาสิ”
เอาไงก็เอา บอกให้แก้วปิดตาเอาไว้
“เสร็จยังเนี่ย เมื่อยแล้วนะ”
แก้วยืนหันหลังปิดตาอยู่
“เสร็จแล้ว เปิดได้”
ขนมจีนบอกแก้วเปิดตา
“เฮ้อ!!!.....”
แก้วถอนหายใจแล้วเซมาทิ้งตัวลงที่เตียงนอนอย่างสบายอย่างกับบ้านตัวเอง
“เป็นอะไรไปหรอ ถอนหายใจทำไม”
ขนมจีนเข้ามานั่งลงข้างๆแก้วที่นอนเหยียดตัวอยู่จนสุดเตียง
“อยากมีแฟนอ่ะ เป็นแฟนแก้วได้มั้ย???”
แก้วถามทั้งๆที่นอนอยู่ ถามแบบไม่ได้มองหน้าคนตอบ
เล่นถามออกมาแบบนี้จะให้ตอบยังไงละทีนี้
ถามจริงๆหรือแกล้งพูดเล่นก็ไม่รู้
“ได้มั้ย??” แก้วเงยหน้าขึ้นมาถามขนมจีนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“แก้ว...ก็ เล่นถามอะไรแบบนี้ จะให้ตอบยังไงละ”
ขนมจีนเขินนิดๆๆๆ เอียงหน้าหนีเล็กน้อย
“ก็ตอบสิ ว่า อยากเป็นแฟนกับแก้วรึป่าว หึ??”
แก้วลุกขึ้นมานั่งอยู่ตรงหน้า สบตา รอฟังคำตอบ
“ไม่รู้ สิ!!”
ขนมจีนตอบอย่างอายๆ
“ไม่รู้ได้ไงอ่ะ หึ!! หัดรู้ใจตัวเองบ้างสิ แก้วน่ะ รักขนมจีนนะ จริงๆ”
แก้วลุกขึ้นมากระซิบคำว่ารักที่ข้างหูขนมจีนเบาๆ
“ไม่อ่ะ กลัว ถ้าเกิดว่าแก้วมีแฟนแบบคุณฟาง ตามมาตบถึงโรงเรียนแบบนี้ก็แย่สิ”
ขนมจีนทำท่ากลัวหลังจากเห็นเหตุการเมื่อตอนอยู่ที่โรงเรียน
“ไม่มีหรอก แก้วน่ะ ยังไม่มีแฟนซักหน่อย หมดกังวลไปได้เลย
แก้วทั้งหล่อแถมบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์”
แก้วตอบอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง
“แหว่ะ!! หลงตัวเอง ใครบอกมิทราบว่าตัวเองหล่อ”
“อ้าว..ถ้าไม่หล่อแล้วขนมจีนจะรักหรอ จริงมั้ย5555++”
แก้วหัวเราะด้วยความพอใจ ตั้งแต่รู้จักกับขนมจีนแก้วเริ่มเป็นมีน้ำใจ ไม่หยิ่งเหมือนเดิม
“หยี!!! หนมจีนยังไม่ได้บอกเลยว่ารักแก้ว คิดเองอีกแล้ว”
ขนมจีนทำท่าทางใส่แก้ว
“แล้วบอกตอนนี้ได้มั้ยละ แก้วอยากฟัง”
คราวนี้แก้วกลับไม่หลงเหลือท่าทางขี้เล่นเลยแม้แต่นิดคำที่ถามออกมาดูจริงจังที่สุด
“...............................” ขนมจีนได้แต่เงียบ
“ได้มั้ย...รักแก้วบ้างรึป่าว.”
แก้วก้มหน้ามาถามใกล้ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ
“รักสิ ‘หนมจีนรักแก้ว’”
ก้มหน้าก้มตาพูดออกมาไม่กล้าสบตาเพราะความเขินอายที่มีท่วมท้น
หน้าแดงอย่างกับตำลึงสุก
เพราะไม่เคยมีแฟนมาก่อน แก้วคือแฟนคนแรกของเทอ
“จริงนะ ..จุ๊บ!..”
ทันที แก้วขโมยหอมแก้มอย่างรวดเร็ว
“แก้วอ่ะ..เล่นทีเผลอ”
ขนมจีนยิ่งหน้าแดงขึ้นมาอีก เอียงหน้าหนีนิดๆเพราะความอาย
“ไม่ชอบทีเผลอหรองั้นก็..นี่เลย...”
แก้วโน้มขนมจีนลงที่นอนพร้อมกับตัวเอง
“ไม่เอ๊า! แก้ว ปล่อยนะ!..”
“55555555+++”
“ปล่อยน้า!!!”
“ไม่ปล่อยยยหรอกก555555++”
เอาเป็นว่าแฮปปี้แล้วกัน55555+++
ความคิดเห็น