ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oh No! ผมเป็นเมียพี่มัน! [yaoi]

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6 แม่ศรีเรือน 100%

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 58


    ตอนที่ 6 แม่ศรีเรือน

     

     

    เอื้อออออออออ!

    ฝากลูกเมียข้าด้วยยย!

    ข้าต้องไปแล้ว ฝากดูแลสิ่งข้ารักด้วย อ๊า อ็อก ค็อก แค่ก!

     

    ไม่ใช่ละ=_=  ผมไม่ได้เล่นหนังจีนถูกเสียบแล้วตายอะไรทั้งนั้นแหละ ผมกำลังบิดขี้เกียจอยู่ ลากสังขานลงจากเตียงด้วยการกลายร่างเป็น เรียกง่ายๆคือ...คลาน  หลังจากผมทำงานทำความสะอาดบ้านพี่เรย์ ที่ต้องทนก้มๆเงยๆทำให้ปวดไปทั้งตัว ตื่นมาก็ อืม สิบโมงพอดี คลานไปอาบน้ำ ขอเวลาสักครึ่งชั่วโมงนะครับในการจัดการตัวเอง จริงอาบแค่ห้านาทีก็เสร็จแต่ตัวอีกสองนาทีก็เสร็จ แล้วเวลาที่เหลือทำอะไร...ผมคงอาบน้ำในห้านาที่เสร็จก็ยืนหลับต่อในนั้น คร่อกzzz

    หลังจากผ่านเหตุการณ์สะเทือนขวัญในหนังจีนไป(?)พร้อมเสียง เอื้อออออออออ ฝากละ...พอเถอะ เมียยังไม่มีแล้วลูกกูมาจากไหนวะ ข้ามๆมัน อาบน้ำเสร็จอะไรเสร็จลงมาหาข้าวเช้า จะเรียกอาหารเช้าคงไม่ถูกนี่ก็ปาไปเที่ยงแล้ว งั้นเรียกว่าลงมาหาอาหารมื้อกลางวันกินก็แล้วกัน

    อืม กินอะไรดีน้า นึกไม่ออกเลยว่าจะกินอะไรดี ลองไปเดินๆดูที่ห้างดีกว่า

    ผมเดินไปห้าง เดินมาผ่านร้านขายของกินมากมายอีกอย่างคือร้านหมูปิ้ง แต่ผมก็ไม่คิดจะซื้อกลับไปกินนะ อยากกินอะไรหรูๆบ้าง กะว่าจะไปกิน ซาบูฯไม่ก็ โออิชิ เคเอฟซี เอ็มเค ยาโยอิ บลาๆ ทุกอย่างที่บอกมาผมอยากกินหมดนะ ผมเดินเลี้ยวไปแลกบัตรอาหารมาร้อยหนึ่ง

    ใช่แล้วครับผมไม่ได้กินที่ผมบอกผมกินที่ศูนย์อาหาร โถ่ ผมจะเอาเงินที่ไหนไปกินละครับ เงินก็ไม่มีกินอะไรต้องประหยัดๆหน่อย

    Trrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

    เอ๊ะ ใครโทรขัดจังหวะคนจะสั่งอาหารวะเดี๋ยวปั๊ด

    “สวัสดีครับ นี่ใครพูดครับ”

    [สวัสดี จำได้มั้ยวันนี้ต้องทำอะไร]

    “นี่ใครครับ ขอทราบชื่อด้วย?” เวลาผมพูดโทรศัพท์จะพูดด้วยถ้อยคำสุภาพไว้ก่อน แต่ถ้ารู้ว่าเป็นเพื่อนค่อยปล่อยคำแบบพ่อขุนรามฯครับ

    [จำเสียงเจ้านายไม่ได้เหรอ]

    “ไอเหี้ยเรย์” นั่นแหละ หลุดเลย

    [เรียกกูดีๆก็ได้ กูเป็นทั้งเจ้านายทั้งรุ่นพี่มึง] ทำตัวไม่น่านับถือเองช่วยไม่ได้

    “เอาเบอร์ผมมาจากไหน ใครให้มา”

    [เป็นเด็กไม่ต้องรู้ เอาเป็นว่าวันนี้มึงต้องมาทำข้าวให้กูกินตามที่สัญญา]

    “ผมไปสัญญากับพี่ตอนไหนวะ”

    [ไม่รู้ มึงรับปากแล้ว เดี๋ยวไปรับเจอกันหน้าที่ห้าง แค่นี้นะ ตี๊ด!]

    “ฮัลโหล! โหลๆ ไอเหี้ยยย วางหาพ่องงง”

    ผมก่นด่า สาปแช่งพี่มันในใจ ชาติที่แล้วผมทำบาปมาด้วยอะไรวะครับ ชาตินี้ถึงได้มาพบเจอกับคนนิสัยอย่างพี่มัน โชคร้ายจริงๆที่เทสีราดผิดคน

     

    @ห้าง

    “วันนี้มึงต้องทำอาหารให้กูกิน” จะบ้าหรอ หลังจากพี่มันรับผมที่หน้าห้างก็นั่งรถขึ้นมาชั้นบน

    “ผมทำไม่เป็นหรอก อยากกินนู่นร้านอาหารตามสั่งเยอะแยะ” ผมบุ้ยปากไปทางบรรดาร้านอาหารต่างๆที่เรียงรายให้พี่มันเลือก

    “เลี้ยงสเต็กเป็นข้าวเที่ยง บวกของหวาน แลกกับทำอาหารสองสามอย่าง”

    “ตกลง! ไปกัน” อย่ามองครับ ข้อเสนออะไรมาเอาหมด หิวแล้วข้าวอะแถมฟรีนายมิอยากปฏิเสธให้เสียน้ำใจคนรับก็แค่นั้นเองนะ ไม่ได้เห็นแกกินเลย

    ผมจัดการลากพี่มันเข้าร้านทันที เราเข้ามาร้านสเต็กกันผมเลือกสั่งจานที่มีขนาดใหญ่มาก ไม่กลัวอ้วนแล้วหิวขนาดจะกินควายได้ทั้งตัวขนาดนี้ไม่อ้วนหรอก เดี๋ยวค่อยไปวิ่ง(ตามรถขายหมูปิ้ง)เอา พออาหารมาว่างตรงหน้าผมก็จัดการกินไม่สนใจใครอีกคนที่เอาแต่นั่งมองผมกินจนอึดอัด อึดอัดจนอยากจะตดให้ดมมากถ้าไม่ติดว่าที่สาธารณะ ตายคาตดผมแน่ (เอิ่ม)

    “กินดิจะมองหน้าผมหาอะไร”

    “เปล๊า” เสียงสูง โกหกชัวร์

    “ผมสั่งของหวานต่อนะ?”

     “ตามสบาย”

    “นี่เลี้ยงแน่นะ ไม่ใช่ผมสั่งมากินแล้วพี่ให้จ่ายเอง”

    ผมถามหยั่งเชิงก่อน  ถ้าเกิดพี่มันเบี้ยวไม่จ่ายขึ้นมาก็ซวยสิ เล่นเดินเข้ามาร้านที่แพงสุดๆอีกด้วย กระเป๋าเงินก็ไม่ได้เอาลงมาจากรถพี่มันด้วย ขืนสั่งขนมหวานอีก คงต้องล้างจานแทนค่าอาหารซะแล้ว

    “เออ เลี้ยง รีบแดกแล้วก็กลับไปทำข้าวเย็นให้กูกินได้แล้ว”

    “ชิส์ สั่งจริ๊งๆพ่อกูก็ไม่ใช่” ผมบ่นอุบอิบคนเดียวเบาๆ สั่งได้สั่งดีนะ ชิชิ

    ผมสั่งเป็นบลูเบอรี่ชีสเค้กมากิน มันจะได้ไม่ดูแต๋วเกินไป เพื่อเป็นการล้างปาก ส่วนไอคนจ่ายเงินก็เอาแต่นั่งมองผมกินอยู่นั่นแหละ จะมองอะไรนักหนา หาเรื่องแกล้งกูอีกละสิไม่ว่า มึงมันเลวไอพี่เรย์ เลวมากๆที่ล่อคนอย่างนายด้วยของกิน งั่มๆ

    อยากจะเรอดังๆนะติดอย่าง...นั่นแหละที่สาธารณะ มื้อนี้ถือว่าผ่านไปด้วยวลีเด็ด อิ่มจังตังอยู่ครบ ครบจริงๆไม่ให้ครบได้ไง ผมลืมกระเป๋าเงินไว้ในรถพี่มันอะ

    “กินเสร็จก็ได้เวลาใช้หนี้แล้ว”

    “แต่ผมทำไม่เป็น”


    ผมไม่ได้พูดอะไรนอกจากรับเงินกับรายการของที่ต้องซื้อมา แม่เจ้า!ทำไมมันยาวเยียดแบบนี้ฟร้ะ

    “รีบไปซื้อแล้วรีบกลับมาให้กูกินซะนะ”

    มึงอยากกินมากใช่มั้ย เดี๋ยวกูจะทำให้สมใจเลย ผมเดินไปซื้อของตามรายการ รีบซื้อทุกอย่างเพราะต้องรีบกลับไปทำ จะได้รีบกลับคอนโดไปนอนพักรู้สึกรบกับพี่มันแล้วปวดหัวแปล๊บๆ ผมยืนชั่งใจอยู่สักพักว่าจะเริ่มต้นซื้ออะไรเป็นอย่างแรกก่อน ไอของพวกนี้บางอย่างผมก็ไม่รู้ด้วยว่าเลือกยังไง เนื้อหมูต้องดูเป็นแบบไหนก็ไม่รู้อีกเลยเลือกที่จะหลับหูหลับตาเลือกส่งๆไป ถึงยังไงผมก็ไม่ได้กินกับพี่มันด้วยอยู่แล้วด้วย

    ซื้อของไปมาจนครบ แล้วรีบตรงดิ่งมาที่จุดนัดพบ แต่ยืนมองหาพี่เรย์ก็ไม่เจอ พอผมโทรไปก็ไม่รับ ผมยืนรอเป็นชั่วโมง ก็รู้แล้วว่าผม...โดนทิ้ง

    “ไอเลว!




    มันทิ้งผมแบบนี้แล้วผมจะเอาเงินจากที่ไหนกลับละครับ กระเป๋าผมลืมวางไว้ที่รถพี่มันอะ เงินติดตัวตอนนี้เหลืออยู่แค่ยี่สิบกว่าบาทเอง ผมจะกลับยังไง!? บ้านพี่มันก็ใช่ใกล้ๆนะ ค่าบีทีเอสก็หมดแล้ว ไหนจะต้องจ่ายค่ารถต่อไปบ้านพี่มันอีก ไหนผมจะ...ดีออก!

    ผมมาถึงบ้านพี่มันด้วยสภาพเหมือนหมาหอบแดด เหมือนไปวิ่งมาราธอนมาเลย ถามหรอว่ามาไง? หึหึ คนอย่างไอนายขั้นนี้จะเดินมาหรอ...ก็ใช่นะเซ่! เอ้าถ้าผมไม่เดินมาจะให้ผมเหาะมาหรือครับ ผมจะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย มีทางเดียวก็คือเดิน เงินหมดตั้งแต่ค่าบีทีเอสแล้ว อย่าถามบัตรแรบบิทหายไปไหน อยู่ในกระเป๋าเงิน ด้วยเหตุนี้ผมถึงตระหนักได้ว่า ห้ามลืมบัตรแรบบิทเด็ดขาด

    “เอะ”

    ระหว่างที่เดินเอาของมาเก็บที่ห้องครัว มีข้อความส่งมาพอดี ส่งมาว่า มีธุรด่วนกลับบ้านเองก่อน ชิส์ ข้ออ้าง อยากแดกมากใช่ม้ย ได้เดี๋ยวกูจะทำให้มึงอึ้งเลยไอพี่เรย์ อย่าคิดว่าผมจะหาเรื่องแกล้งพี่มันอีกนะ เข็ดแล้ว ผมขี้เกียจโดนแกล้งคืน ผมจะโชว์ฝีมือที่แท้จริงที่ไม่เคยมีใครได้ลิ้มลองมาก่อน

    ผมเริ่มลงมือหั่นผักในเมนู ผัดผักน้ำมันหอยยยยยยยอยๆ(จะเอ็คโค่เพื่อ?) อย่างแรกต้องหั่นผักเป็นชิ้นพอดีคำ หั่นเสร็จก็นำไปแช่น้ำทิ้งไว้ ไปตีกระเทียมกับพริกเอาเยอะหน่อยเผื่อพี่มันกินเผ็ด อืม เอาพริกสักครึ่งถุงพอ ผมทั้งทุบทั้งตีพริก ปั๊กๆ!

    ฟึบ!

    “โอ๊ยๆ แสบๆ น้ำาาา”

    ไม่ต้องเดาเลยว่าโดนอะไร ฮือ พริกกระเด็นเข้าตาอ่า ผมเทกะละมังใส่ผักเอาผักออก เอาน้ำมาใส่ใหม่แล้วเอาหน้าทั้งหน้าจุ่มลงในอ่างทันที อ่า พอทิ้งไว้สักพักก็ดีขึ้นหน่อย จึงเอาหน้าออกจากอ่างล้างผักทันที พอเงยหน้าเท่านั้นแหละ...

    “ผักกู!

    ใช่ครับผักเกลื่อนพื้นเลยในอ่างก็มีนะ ตกลงนี่ผมทำอาหารหรือหว่านพืชวะครับ ผมรีบเก็บผักเอาล้างใหม่ ทนกินไปหน่อยนะพี่เรย์ ผมลงมือทำต่อ พักเรื่องผักไว้ก่อน เอาเรื่องตั้งกระทะใส่น้ำมันนิดหน่อย รอจนร้อนจึงเอากระเทียมที่ทุบโยนลงในน้ำมันเดือดๆ

    ซ่า

    “อ๊าก ร้อนๆๆ”

    น้ำมันมันกระเด็นใส่ผมอะ จะบ้าตาย พองเลยอ่า ผมหาน้ำไม่เจอเจอแต่กะละมังแช่ผัก ผมเดินตรงไปเอามือจุ่มลงกับกะละมังแช่ผัก อูย ค่อยดีขึ้นมา ตอนนี้น้ำมันกับกระเทียมก็เข้ากันแล้ว...มั้ง ผมก็เอาผักลงทันทีต่อมาตามด้วยน้ำมันหอยใส่ลงไป เฮ้ย ตะเถรหก น้ำมันหอยหกลงไปครึ่งขวด งือ งานนี้ใช้ของคุ้มมาก ช่างมันต่อไปขั้นตอนสุดท้ายใส่พริกผัดพัก เหลือบไปเห็นผักก่อนอยู่ตรงพื้นกระจุกหนึ่ง เลยเอาเก็บมาล้างยังไม่ได้สะบัดน้ำก็เอาลงกระทะ ทีนี้ละไฟลึกขึ้นมาเลย

    พรึบ!

    “ว๊าก ไฟไหม้”

    ซู่!

    เอาน้ำราดซะก็จบ น้ำอะไรหรออ๋อน้ำล้างพักครับสาดลงทีเดียวไฟดับปุ๊บ ทันใจสุดๆใกล้มือมากๆพูดถึงน้ำล้างผักก็มีประโยชน์นะเนี้ยใช้ได้แทบจะทุกสถานการณ์เลย ไม่ต้องห่วงครับว่าผัดผักน้ำมันหอยยอยๆของผมจะโดนน้ำ ผมพลักมันไปทันก่อนสาดน้ำอีก ตอนนี้ก็คงอยู่...

    “เชี่ยยย”

    ผักติดผนังเลยอะ ผมรีบวิ่งไปเอาผักใส่กระทะเหมือนเดิม ว้า แย่จังหกไปตั้งครึ่งหนึ่ง ส่วนไอผักที่หกก็เป็นผักที่เพิ่งใส่ลงไปเมื่อกี้นี้ ช่างมันเหลือแค่นี้ก็ดีแล้ว ผมเลิกผัดทันทีแกรงว่าถ้าผัดต่อผักมันจะไม่มีเหลือเลยตักใส่จานดีกว่า(ควรจะทำตั้งนานแล้ว) เมนูต่อไปไข่เจียวเกี่ยวใจ อย่างแรกตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน ระหว่างรอผมหยิบไข่มาตีๆ ตีจนขึ้นฟองก็เทลงในกระทะที่มีน้ำมันเดือดๆ(แกไม่คิดใส่เครื่องปรุงเลยเรอะ?)  เมนูนี้ผมระวังน้ำมันกระเด็นสุดๆโดยเอาฝาหม้อมาเป็นโล่กำบัง เมนูไข่เจียวผ่านไปด้วยดี

    เมนูสุดท้ายเมยูต่อไป...ตูจะทำได้มั้ยเนี้ย เมนูแกงจืดอะ มีอีกวิธี...ทำตามสัญชาตญาณของเรา หึ้ย ลุย! ตั้งน้ำให้ร้อนใส่คนอร์แกงจืดลงไปคนให้ละลายทั่วๆ ตามด้วยกระตูกหมูที่หมาชอบแทะ(?)ทั้งท่อน โยนลงไป ทีนี้ก็คนๆอีกตามเคย ใสหมูสับปั้นเป็นก้อนๆค่อยๆย่อนลงในหม้อกลัวน้ำกระเด็น ต้มให้หมูเดือนสักพัก เอาผักกาดขาวใส่ลงไปตามด้วยผักอื่น คนๆให้ผักสุกนิ่ม เหลือสาหร่ายใส่ไงวะ ผมยืนเกาหัวงงอยู่ว่าจะใส่มันยังไงและก็ตัดสินใจได้ว่า ใส่มันทั้งแผ่นเลย ผมใสลงไปสองแผ่นหมดเลย ไม่ได้ฉีกหรืออะไรทั้งนั้นเอากระบวยกดๆคนไปมาให้เปื่อยจบ

    “อืม ลืมข้าวเลย”

    ผมหุงข้าวไม่เป็นซะด้วยสงสัยต้องไปซื้อที่เซเว่นฯมา ผมมองหาพาหนะที่จะพาผมไปได้ วินมอไซค์ก็ไม่มี จนสายตาสะดุดเข้ากับจักรยานสีชมพูลายคิตตี้ ของพี่มันแต่คงไม่น่าใช่ น่าจะของมิวมากกว่าสีชมพูขนาดนี้

     ผมปั่นจักรยานออกไปซื้อข้าวที่เซเว่นฯให้เขาเวฟให้เสร็จสัพเรียบร้อยจึงปั่นกลับมา จัดการจัดปูผ้าบนโต๊ะกินข้าวอย่างดี ค่อยตักอาหารทุกอย่างใส่จานชามยกมาว่างที่บนโต๊ะ ตักข้าวใส่จานวางเรียงอย่างเรียบร้อย อ่า ได้เวลาชื่นชมผลงานของตัวเอง...เอิ่ม ข้าวสวย โต๊ะสวย ส่วนอาหาร...เอาเป็นว่ามันอาจจะดูไม่น่ากินแต่มันก็กินได้ (กินไม่ได้สักอย่างอะ)

    จัดทุกอย่างเสร็จผมมาเก็บห้องครัวต่อ  ถ้าผมทำภาพBeforeและAfterได้ ทุกคนจะได้เห็นสภาพห้องครัวก่อนหลังอย่างเห็นได้ชัดว่ามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรน่านะ ผมลงมือรีบๆเก็บพอพี่มันมาผมจะได้รีบกลับ

    พูดยังไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถเคลื่อนตัวเข้าบ้านทันที

    ตายยากจริงๆผู้ชายคนนี้

    เดินผิวปากอารมณ์ดีมาเลยนะมึง ชิส์

    “อะแฮ่ม!”  ผมกระแอมไอเมื่ออีกคนเดินผ่านไปเหมือนมองไม่เห็น



    “อ่าว มึงยังอยู่นี่อีกหรอ นึกว่ากลับไปแล้ว”  กลับไปแล้ว?

    “ก็มึงสั่งให้กูทำกับข้าวไว้ กูก็ทำไง ทำตั้งนาน มึงเห็นแล้วจะตะลึง”  ผมเชิดหน้าเข้าหาแสงไฟเพื่อให้ตัวเองดูหล่อ(?)

    “กูกินมาแล้ว”  จะชมผมว่ายอดเยี่ยมสิ...นะ เดี๋ยวมันว่าอะไรนะ

    “มึงพูดว่าอะไรนะ?” 

    “กูไม่คิดว่ามึงจะทำ กู...กูเลยไปกินมาแล้ว”

    พี่มันพูดเล่นใช่มั้ย มันบอกว่ากิน...กินมาแล้ว? แล้ว...แล้วมีนจะให้ผมทำทำไม!

    แหมะ

    “มึง กู...”  มันเอื้อมมือมาหมายจะจับผมแต่ผมก็สะบัดทิ้ง ไอน้ำตาเจ้ากรรมก็ร่วงเอาๆ

    “มึงทำอย่างนี้ได้ไง ฮึก...มึงบอกให้กูทำทำไม!ไอเหี้ย!

    !!

    “มึงรู้มั้ย กูไม่เคยทำเลยนะพวกนี้! แต่ก็ต้องมานั่งทำให้หมาอย่างมึงกิน แล้วไหนมึงจะทิ้งกูไว้ที่ห้างอีก มึงก็รู้ว่ากระเป๋าเงินกูอยู่ในรถมึง...”

    “กูขอทะ...”

    “มึงหุบปากไปเลย! มึงรู้มั้ยกูต้องหิ้วของมากมายขึ้นบีทีเอส แล้วกูก็ต้องเดินมาบ้านมึงอีกเพระกูไม่มีเงิน! กูมาทำอาหารให้มีดก็บาด น้ำมันก็กระเด็นใส่ และกูก็ต้องปั่นจักรยานไปซื้อข้าวให้มึงอีก...” ผมพูดพลั้งพลูทุกอย่างออกมาด้วยความอัดอั้น

    “แต่กลับบอกว่าไปกินมาแล้ว...” ผมพูดเสียงเบาละคนหมดแรง

    !!

    “มึงทำแบบนี้ได้ยังไง ไอเหี้ย!!! ฮึก”

    “กู...” ผมไม่ปล่อยให้พี่มันพูด

    “มึงอยากกินมากใช่มั้ย อยากให้กูทำมากใช่มั้ย ด้ายย งั้นมึงเอานี่ไปกิน!

    “เฮ้ย!

    ผมปาดน้ำตาทิ้ง ด้วยความโกรธ ผมจึงคว้าจานไข่เจียวไปเทลงบนหัวพี่มันแล้วก็ยีบนนั้นจนมันเละคาผม พี่มันก็ปัดป้องนะ ผมเอามืออีกข้างล็อกมือพี่มันเอาไว้พยายามใช้แรงที่มีจับเอาไว้ให้ได้ แค่ไข่เจียวมันยังไม่พอหรอก มันต้องผัดผักน้ำมันหอยต่อ

    “แดกผักซะจะได้กินครบห้าหมู่”

    เช่นเคยครับเทลงบนหัวพี่มันเหมือนเดิม คราวนี้พี่มันร้องโอดโอย ยังจำได้ใช่มั้ยครับว่าผมใส่พริกไปครึ่งถุงนะ พอพี่มันลืมตา พวกน้ำมันหอยก็ใหลเข้าตาซึ้งในนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่เรียกว่าพริก มือที่ไว้ปักป้องก็เริ่มจับไปขยี้ตา แต่มันยังไม่พอ ผมแค้นพี่มันมากแค่นี้มันยังน้อยไป

    “แดกข้าวซะ แดกแต่กับอยู่นั่นแหละ”

    “โอ๊ย!! ร้อนๆ”

    ข้าวร้อนๆที่เพิ่งปั่นไปซื้อมาถูกเทลงบนหัวพี่มัน ควันยังลอยอยู่บนหัวด้วยซ้ำ หึ สมน้ำหน้าสภาพพี่มันตอนนี้ดูไม่ได้เลยเหมือนไปตกถังขยะมาอย่างนั้นเลย เอ๊ะ! ลืมอีกอย่าง

    “กูกลัวมึงติดคอ แดกแกงจืดหน่อยนะ”

    “โอ๊ย ไอสัส! มันร้อน!

    พล่านเลยสิทีนี้ ก็ผมเล่นเทแกงจืดลงบนหัวพี่มันซึ้งแกงจืดก็เพิ่งตักลงมาจากเตาแล้วจะไม่ให้มันร้อนได้ไง สภาพที่ว่าเมื่อกี้แย่แล้วตอนนี้ดูแย่เหมือนตกถังขยะเปียกดีๆนี่เอง อยากแกล้งกูก่อนดีนักก็ต้องเจอแบบนี้แหละ

    “กูไม่มาทำงานเป็นคนใช้มึงอีกแล้ว มึงอยากมีคนใช้มึงไปหาพี่นนท์นู่น กูไม่ทำแล้ว!

    ปั้ง!

    ผมปิดประตูดังปัง ไม่สนใจว่ามันจะพังมั้ย เพราะตอนนี้ผมโมโหมาก มากที่สุดในชีวิต ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองตกต่ำขนาดนี้เลย ไม่คิดว่าจะมาอยู่ในสภาพนี้ด้วยซ้ำ สภาพเหมือนตัวอะไรสักอย่างที่เอาไว้ให้เขาหลอก

    “น้องนาย ใช่น้องนายเปล่าครับ นี่พี่คิวไง พี่ที่ร้านเช่าหนังสือการ์ตูนไงจำได้มั้ย”

    พี่เขาคงเห็นหน้าผมที่เหมือนจำไม่ได้ พอลงลายละเอียดผมก็จำหน้าพี่เขาได้ทันที

    “ใช่ครับ พี่คิวใช่มั้ย”

    “ใช่ครับ ทำไมวันนี้หน้าน้องนายดูไม่พอใจมานะครับ มีอะไรหรือเปล่า” พี่เขาคงถามด้วยความเป็นห่วง หน้าผมตอนนี้นี่คงจะบูดบึ้งน่าดู

    “ไม่มีอะไรครับ ว่าแต่พี่คิวจะไปไหนหรอ”

    “พี่จะไปร้านเช่านะ ช่วงนี้พี่มีสอบติดๆกันจะขอลาเจ้าของร้านเขาก่อนน่ะ”

    “นายไปด้วยกันมั้ยเผื่อมีการ์ตูนเรื่องใหม่มา” พี่คิวเอ่ยชวน ก็ดีเหมือนกันนะหาอะไรทำแก้เครียด

    “ก็ดีครับ ผมจำได้ว่าคราวที่แล้วพี่แนะนำร้านขนมให้ผม คราวนี้ผมจะแนะนำให้พี่บ้างรับลอง อร่อยไม่แพ้ร้านที่พี่แนะนำเลย”

    “จริงหรอ ถ้างั้นไปกันเลยครับ”

     

    เรย์

    กูไม่มาทำงานเป็นคนใช้มึงอีกแล้ว มึงอยากมีคนใช้มึงไปหาพี่นนท์นู่น กูไม่ทำแล้ว!

    ปั้ง!

    “เดี๋ยวมึง! เดี๋ยวนาย!

    ผมเรียกมันไว้ แต่มันคงไม่ได้ยิน มันเล่นวิ่งแล้วปิดประตูเสียงดังจนกลบเสียงผม ในเมื่อรั้งมันไว้ไม่สำเร็จ ผมจึงหันมาล้างหน้าล้างตาก่อน พอสภาพโอเคขึ้นผมหันไปมองซากต่างๆบนพื้นที่เกลื่อนไปหมด เห็นแล้วผมรู้สึก...ผิด ผิดมากที่ทำกับมันแบบนี้

    โอเค ผมผิด ผิดตั้งแต่ทิ้งมันไว้ที่ห้าง ตอนที่ทิ้งมันไว้ที่ห้างอันนั้นผมตั้งใจแค่จะแกล้งมันเฉยๆ แล้วอยู่ๆน้องผมโทรมาชวนไปกินข้าว ตอนแรกก็ปฏิเสธนะ อยากกลับไปดูนายมันทำอาหารมากกว่า แต่น้องมันขอร้องเสียงออดอ้อนผมเลยต้องจำใจไป แต่ผมก็ส่งเมสเสจไปบอกมันว่ามีธุระด่วนนะ ไม่คิดว่ามันยังทำ

    ตอนที่ผมเห็นอาหารที่มันทำ ผมถึงกับอึ้ง ทุกอย่างมันอาจจะดูไม่น่ากิน อาจจะรสชาติ...ไม่ดี ทำไมผมถึงรู้ว่ารสชาติไม่ดีอะหรอ? ก็เพราะตอนมันเอาราดหัวผมและยีๆ ทั้งไข่เจียว ผัดผักน้ำมันหอย  แกงจืด ผมได้ลิ้มลองชิมหมด จนสามารถวิจารณ์อาหารของมันได้เลย... เช่น

    ไข่เจียว-จืดมาก เท่าที่เคยกินมา ไม่มีรสชาติใดๆทั้งสิ้น

    ผัดผักน้ำมันหอย-ทั้งผิดและเค็ม และนี่ยังเกือบเป็นสาเหตุที่ทำให้ตาผมบอดด้วยความเผ็ดอีก

    แกงจืด-ผมถือว่าใช้ได้ รสชาติก็โอเค ผักก็เปื่อย เปื่อยแบบเข้าปากไม่ต้องเคี้ยวเลย

    แต่คุณรู้มั้ยว่ามีอยู่เมนูหนึ่ง ที่อร่อยมาก นั่นคือข้าวนั่นเอง ใช่ครับ ข้าวที่นายมันยีหัวผม ผมลองกินดูแล้วมันนิ่มมาก อร่อยมากพอดิบพอดีเลย ร่วนน่ากินมาก

    ยื่นชื่นชมข่าวมันได้ไม่นาน ผมก็ต้องกลับมากลุ้มอีกว่าจะหาทางขอโทษมันอย่างไรดี กว่าผมจะหาทางให้มันมาทำงานบ้านผมได้ก็อยากพอแล้ว นี่ยังต้องหาทางขอโทษและยังหาเรื่องมาให้มันมาอยู่บ้านผมอีก เห้อ ไหนจะคำพูดต่างๆที่มันพูดออกมาจนผมรู้สึกผิดอีก เอากับชีวิตผมสิ 


    _______TBC

    อัพฮะๆ มาแล้วๆ ก่อนอื่นเลยไรท์ขอโทษนะคะที่หายไปนานนิดนึง (นานมากจนคนอ่านนึกว่าเลิกแต่งไปละ) ไรท์ยังไม่เลิกน้าาาา เขาอาจจะมาอัพช้าแต่สัญญาว่าขอไรท์สอบย่อยผ่านไปก่อนนะคะจะลงให้ๆ เขาแต่งรอไว้แล้วหรอกกก แต่งไว้แต่ไม่ได้ลง แฮ่ ไม่ตลกหรอ (ไม่) แหงะ เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งทิ้งไรท์ไปไหนนะคะ เม้นไม่เม้นไรท์ไม่สนแต่อย่าเพิ่งกดอันไรท์เป็นพอนะคะ -^-*กราบงามๆ*


    เข้าที่เนื้อเรื่อง ใครเกลียดอีพี่เรย์บ้างคะ ไรท์คนนึงอะตอนนี้ที่เกลียดอะ ก็บอกให้เขาทำเขาก็ต้องทำนิ แล้วมาบอกทำเป็นไม่คิดว่าจะทำ ประสาทเลิกจ้างแม่มเลยไอพระเอกคนนี้ (อินเกิ๊นนน) 


    (ไรท์มีความคิดว่าอยากลบเรื่องนี้อะคะ แต่มันเป็นแค่ความคิดน้าาายังไม่ลบหรอก แฮ่ ;P)

    ปล.ตอนนี้มันสั้นหน่อยนะคะ


    สุดท้ายนี้รักและคิดถึงนักอ่าย รีดเดอร์ทุกคนที่ไม่ทิ้งกันนะ ขอบคุณนะ ชุ๊บๆ-3-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×