ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oh No! ผมเป็นเมียพี่มัน! [yaoi]

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 แจ๋ว 100%

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 58


    ตอนที่ 5 แจ๋ว

     

     

    งั่มๆ งั่ม

    ผมกำลังเดินกินข้าวเหนียวหมูปิ้งอยู่ครับ เช้าๆแบบนี้ผมก็มาวิ่งจ๊อกกิ้งแล้วก็เลยมาซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งต่อ...คุณเชื่อจริงหรอครับว่าผมมาวิ่งจ๊อกกิ้งอะ ฮ่าๆคุณถูกหลอกแล้วอย่างผมเนี้ยะนะจะมาวิ่ง บอกเลยไม่มีทางผมวิ่งตามรถขายหมูปิ่งมาต่างหากครับ วิ่งไปแต่ต้องเดินกลับครับเดินมาก็เจอกับน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋ซื้อกลับดีกว่า เดินมาอีกนิดนั่นขนมครกซื้อเลยครับ รู้แล้วทำไมผมถึงไม่มีซิกแพ็กเพราะเหตุนี้นี่เอง

    ผมเดินถือถุงพะลุงพะลังเตรียมเดินกลับ ระหว่างทางก็กินไปจนหมดกลับมาคอนโดผมก็ไม่ได้ทำอะไร นั่งๆนอนๆว่างจัด วันนี้เป็นวันเลยไม่รู้จะไปไหน รู้สึกเบื่อเหมือนกัน ไปห้างดีกว่าไม่ได้ไปนานแล้ว

    ผมมาถึงห้างก็เที่ยงบ่ายเลยไปหาอะไรกินก่อนเข้าร้านเค้ก เข้ามาผมก็ไม่ได้ทำอะไรอีกนอกจากนั่งกินเค้กของร้านกินแล้วก็กิน  อืม น้ำหนักขึ้นสองโล ฮือ ตูกินไปแค่นิดเดียวเองก็ขึ้นมาแล้วสองโล ให้ตายเถอะเย็นนี้ต้องวิ่งแล้ว...วิ่งตามร้านขายข้าวเหนียวหมูปิ้งอะนะ คนเรามันต้องหาจุดยืนในการทำสิ่งต่างๆจริไหมครับ? จุดยืนของผมคือข้าวเหนียวหมูปิ้ง เพราะฉะนั้นวิ่งตามมัน 

    อยู่ที่นี่ผมก็ไม่ได้ทำอะไร ผมบอกลาพี่นิดเสร็จก็ไปร้านเช่าหนังสือต่อ ผมเดินมาตรงโซนหนังสือการ์ตูนมองหาการ์ตูนเรื่องโทริโกะ จะบอกว่าเรื่องนี้สนุกมากกกกกก ตามหาอารกินกันอย่างเดียวเลยทั้งเรื่อง ผมยอกให้โทริโกะเป็นไอดอลเลยรู้มั้ย คือเขากินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนอะ หุ้นก็แสนมาดแมนต่างจากผม ที่มีแต่กระดูกับชั้นไขมันทั้งนั้น พูดแล้วเศร้า กินกระดาษแม่มเลย แง่ม  หลายๆครั้งที่ผม่านเรื่องนี้แลวเดินออกจากบ้านไปหาขงกินนะ ก็คุณดูเวลามันกินดิ หน้าตามันดูมีความสุขจนอดใจไม่ไหว มีฉากนึกที่มันกินแมมมอธอะไรสักอย่างมันมีว้งๆเต็มไปหมด รู้สึกตอนนั้นผมจะอ่านทั้งหนังสือและดูในยูทูบเลยละ เนื้ออย่างกับเนื้อโคขุนช้นดี ราดซอสปรุงรสแสนอร่อยมีกับแกล้มเช่น แฟร้นฟรายกรอบๆ มีเครื่องดื่มเป็นไวน์ชั้นเลิศ โอ้ คิดแล้วน้ำลายใหลย้อยเลย

    “เออ...น้องครับเป็นอะไรมั้ย พี่เห็นน้องยืนมองหนังสือการ์ตูนเล่มนั้นแล้วน้ำลายใหล” ห้ะ นี่ผมยืนจินตนาการจนน้ำลายใหลเลยหรอเนี้ย ไม่นะ เขาจะหาว่าผมบ้ารึเปล่าวะ ยืนมองหนังสือแล้วน้ำลายใหลเนี้ย

    “เออ....คือ แหะๆ” ผมโชว์หนังสือการ์ตูนที่ผมถือให้พี่พนักงานดู เขาก็ยิ้มๆกลับมา

    “อ้อ เรื่องนี้นี่เอง ฮ่าๆ ตอนแรกพี่อ่านอาการก็คล้ายๆน้องนี่แหละ อยากกินนู่นกินนี่เหมือนน้องนั่นแหละ แต่ไม่ถึงกับยืนน้ำลายใหลนะ หึหึ” ง่ะ เหมือนว่ากูบ้าอ้อมๆไงไม่รู้วะ

    “หรอครับ พี่มีโทริโกะเล่มใหม่มั้ยครับ พวกนี้ผมอ่านหมดแล้ว”

    “โชคดีจังนะครับ เหลือเล่มสุดท้ายพอดี ผมเพิ่งอ่านจบเมื่อกี้นี้เอง” โชคดีมากอะ นึกว่าต้องมาเก้ออีกแล้ว

    “ขอบคุณพี่มากนะครับ ที่ยังเหลือให้ผม ผมมาที่นี่หลายรอบแล้วแต่ก็ไม่เคยเหลือให้ผมอ่านเลย” ผมที่แถบถลาติดปีกวิ่งไปหาพี่เขาทันที รับมันไว้ด้วยความดีใจสุดๆกว่าจะออกมาแต่ละเล่มให้ตาย เป็นเดือนอะ

    “ครับๆ น้องไม่ต้องทำท่าดีใจขนาดนั้นหรอกนะครับ ว่าแต่น้องมานี่ประจำหรอ พี่ไม่ยักจะเห็นหน้าน้องมาก่อน”

    “ครับ ผมมาที่นี่จันทร์ถึงศุกร์ครับ เสาร์อาทิตย์แบบนี้ไม่ค่อยได้มาถ้าไม่มีอะไรทำจริงๆ”

    “ถึงว่าพี่ไม่เห็นหน้าเลย พี่ทำงานทุกเสาร์อาทิตย์ครับ ถ้าน้องว่างมากๆก็มาคุยเล่นกับพี่ได้นะครับ”

    “รับทราบครับผม ไว้ผมว่างมากผมจะคุยกับพี่นะครับ คุยกับพี่ก็สนุกดีนะแต่ผมต้องขอตัวไปอ่านโทริโกะก่อนนะครับ” พี่เขารับไปดูรหัสของหนังสือลงวันที่คืนเรียบร้อย

    “พี่แนะนำนะ ถ้าจะอ่านเรื่องนี้ ตรงหัวมุมตรงนั้นมีร้านขนมปังอร่อยๆหลายรสกับนมร้อนแสนอร่อย เอาไว้กินกันแก้น้ำลายหกกับท้องร้องได้อย่างดี” ผมพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มพิมใจให้พี่เขาไป แล้วเดินไปตามทางที่พี่เขาบอกก็เจอเข้ากับร้านขนมปัง ผมลองสั่งดู

    “เอาขนมปังรสสตรอเบอรี่สองแผ่นครับ แล้วก็ชานมปั่นครับ” ผมนั่งรอสักพักก็ได้ของที่สั่ง เตรียมเดินกลับไปนอนอ่านหนังสือตีพุงกินขนมปังไป

     แต่ก็ต้องหันหลังรีบจ้ำไปอีกทางที่ไม่ใช่คอนโดผม ไอ...ไอพี่เรย์อะ มันอยู่ข้างหลังผม มันมาทำอะไรแถวนี้วะ

    “จะรีบไปไหนละมึง รีบหรอ”

    อิ๋บอ๋ายแอ้ว

    “ไฮ ไงพี่หาอะไรกินตอนเที่ยงหรอ อ้อเคๆ ไปละ”  พูเองเออเองจ๊ะ กูไม่ให้มึงพูดหรอกกูรู้มึงจะพูดอะไร กูเผ่นก่อนนน

    “จะไปไหน เดี๋ยวกูพามึงไปกินข้าวเที่ยงเอง มานี่!!”  ช่วยผมด้วยฮะ แง่ๆไม่รอดแน่

    ผมถูกจับยัดใส่รถพี่มันเหมือนเดิม ยานพาหะนะสิ่งนี้กำลังพาผมไปที่ลานประหารชีวิต ตอนนี่มันยังนุ่มนิ่ม แต่ถ้าถึงบ้านมันจากหน้ามือเป็นหลังตีนที่มีน้ำหนองเลย(?)

    ปัง!

    “วันก่อนมึงทำอะไรห้ะ?”

    “......”

    “กูให้มึงเอาเสื้อผ้ากูไปซัก มึงกลับอาเสื้อผ้ากูไปทิ้งข้างถังขยะ กูให้มึงเก็บเศษขยะ เศษขนม แต่มึงกลับฉีกถุงขนมเพิ่มแล้วเทลงใส่ผ้าปูที่นอนจนมดขึ้นเต็มห้องกู มึงเอาดีวีดีหนังกูไปผูกกับเชื่อกแล้วห้อยบนผ้าม้านบ้านกู มันจะมากไปแล้วนะ!!”  พูดเบาๆก็ได้กูกลัว

    “ก็พี่ให้ผมทำเอง ช่วยไม่ได้”

    “โอ๊ย เจ็บนะ ปล่อยๆ”  พี่มันเล่นบีบคางผมเลย บีบเจ็บมาก พี่มันก็กำแขนอีกข้าง ตัวผมแดงด้วยความเจ็บไปทั้งตัว

    “เจ็บหรอ นี่ยังน้อยไป”

    “มึงทำให้มันเป็นเหมือนเดิม อ้อ ไม่ใช่ ทำให้มันเรียบร้อย ถ้ามึงทำไม่ได้มึงไม่ต้องกลับบ้าน ไม่ต้องกินข้าวกูเล่นบทดีกับมึงมามากแล้ว” พี่มันผลักผมเข้าไปในห้อง

    “มองทำไมทำสิ”

    ทำไมผมต้องมาเจอคนอย่างพี่มันด้วย เวรกรรมอะไรของผมวะเนี้ย ผมอยากจะร้องร้องไห้แต่ก็ต้องกลั้นไว้ ผมจะร้องไห้ต่อหน้าพี่มันไม่ได้ ผมก็มีส่วนผิดนะทีลื้อห้องพี่มัน ก้มหน้ารับชะตากรรม

    ช่างชะตากรรมก่อนตอนนี้ผมต้องสวมร้องเป็นยัยแจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดาซะแล้ว หย้า! (บ้าไปแล้ว) มาแล้วครับยัยแจ๋ว ผ้าถูพื้นพร้อม ไม้กวาดพร้อม ถังน้ำพร้อม ถุงขยะพร้อม ไม้ปัดฝุ่นพร้อม ทุกอย่างพร้อม แต่ตูไม่พร้อมวะ ถึงไม่พร้อมก็ต้องพร้อม

    ลุย! (บ้า)

    อย่างแรกต้องเริ่มด้วย

    “ขอบคุณสำหรับของกินนะ ของชอบพอดี”

    หึ้ย! ของกินเล่นผม ผมยืนมองพี่มันที่กำลังนั่งกินอาหารเช้าผมอยู่ สบายใจจริงนะมึง

    เอาแหละเลิกสนใจสิ่งรอบนอกได้แล้ว เรามาเริ่มทำงานกันเถอะ รวบรวมพลังลมปราณแล้วปล่อยมันออกมา อย่างแรก เก็บเสื้อผ้าพี่มันใส่ตะกร้า แยกเสื้อกางเกง และก็... เอิ่มช่างเถอะ ใส่ตะกร้าผ้าเป็นสัดส่วนไว้ แยกบรรดาหนังสือรถ หนังสือเรียน แผ่นดีวีดีแยกๆ ผมจัดการแยกทุกอย่างทุกหมวดหมู่ กลับเข้าที่เข้าชั้นให้เรียบร้อย ต่อมาก็เก็บเศษขนมเศษขยะ ใส่ถุงดำ ปีนไปเก็บแผ่นดีวีดีที่ตัวเองเคยแขวนไว้ แต่พอจะเก็บผมก็สังเกตเห็นการผูกของเชือกซึ้งผมว่าไม่น่าจะใช่ฝีมือผมนะ

    ตอนนั้นผมรีบเลยผูกแบบลวกๆเป็นแบบไม่แน่นขนาดนี้ แต่อันนี้มันแน่นไปแน่นมากด้วย แล้วดีวีดีที่ผมผูกก็ไม่ใช่เรื่องนี้ ผมว่ามันยังไงๆแล้วนะ มันยังไงๆยังไง...ยังไงวะ คิดมากไปเองมั้ง ไม่มีอะไรหรอกมั้ง...เอ๊ะ! หรือว่ามี มันน่าจะมีแน่ๆ มันต้องมีมากแน่ ใช่มั้ยไอไม้กวาด แกมองหน้าแบบนี้แปลว่ามีใช่ป้ะ แกด้วยใช่มั้ยไม้ถูพื้น ห้ะ จริงหรอถังน้ำ ฉันควรรีบทำงาน ได้ๆเดี๋ยวรีบทำ แต่มันมีเรื่องจริงป้ะ

    โครม

    อ่าวถังน้ำแกเห็นด้วยใช่มั้ยละ ถึงได้แสดงอาการอะ (อาการบ้าอะไร แกเตะถังน้ำนะ) ผมว่าผมได้กลิ่นความไม่ปรกตินะ มันต้องมีเบื้องลึกกว่านี้ ผมต้องรู้ให้ได้ แต่ก่อนจะรู้ผมต้องจัดการตรงหน้าก่อน เอาผ้าลงไปซัก...



    ---------------ต่อจ้า-----------


     

    ย้อนไปเมื่อเช้าก่อนเจอนาย

    “มึงลากกูมาตั้งแต่เช้าทำไมวะ อย่างน้อยให้กูได้อาบน้ำก็ยังดี”  ตอนนี้พี่รหัสของนายได้ถูกลากมาที่บ้านเพื่อนสนิท โดยไม่รู้จุดประสงค์แถวยังไม่ได้อาบน้ำมาด้วย เสื้อนอนลายทางสีเขียวยังอยู่บนตัวของพี่นนท์

    “กูมีอะไรให้มึงช่วยวะ”

    “ช่วยอะไรวะ?”

    “ช่วยลื้อห้องกูที เอาแบบรกๆเลยนะ นั่นตะกร้าเสื้อผ้ากู มึงเทๆเหวี่ยงๆไปไหนก็ได้นะ มึงเห็นถุงขนมนั่นมั้ย มึงแกะแล้วเทลงผ้าปูที่นอนแบบกระจายๆอะนะ มึงเอาหนังสือทุกอย่างละเลงที่พื้นเลย เต็มที่เพื่อน”

    “ห้ะ มึงจะบ้าหรอ ประจำมึงเป็นคนรักสะอาดจะตาย กูไม่ทำอะ” เป็นตายร้ายดียังไงกูก็ไม่ทำอะ เดี๋ยวเกิดมันอยากให้กูเก็บขึ้นมาทำไง กูก็ซวยนะสิ ได้แต่คิดในใจว่ายังไงก็ไม่ทำเด็ดขาด

    “มึงไม่ได้ให้มึงเก็บหรอก กูจะให้น้องรหัสมึงเก็บ”  พูดแค่นั้นก็ทำให้เพื่อนถึงกับเข้าใจความหมายของมันอย่างดี

    “กูก็นึกว่าอะไร คิดจะตบหัวแล้วลูบหลังหรือ ระวังหมาตัวอื่นคาบไปแดกหรอกในระหว่างที่มึงเอาแต่คิดจะตบหัวมันอย่างเดียว อาจจะมีใครลูบหลังมันอยู่ก็ได้ หึหึ”  พูดเพียงเพื่อจะแกล้งเพื่องเขาเฉยๆ แต่คนได้ยินเช่นนั้นกลับคิดไปไกลว่ามันต้องมีแน่ๆ แต่ไม่มีทางจะเอามันไปได้หรอก

    คิดเพียงเท่านั้นก็ลงมือจัดการแปลงโฉมจากห้องที่ถูกจัดเป็นระเบียบเป็นห้องที่รกแบบสุดๆ ฉากทุกอย่างถูกเซ็ตอย่างลงตัวก็เหลือแต่ ที่มันเอาแผ่นดีวีดีของเขาไปแขวนห้อยกับหน้าต่าง เขาก็จัดการห้อยมันไว้เหมือนเดิมผูกแบบแน่นหนาเพื่อให้อีกคนแก้ลำบาก แต่กลายเป็นที่ทำให้อีกคนฉุกคิดว่าน่าจะเป็นการวางแผนจัดเตรียมไว้...แต่ก็แค่นั้น เมื่ออีกคนมันไม่ค่อยมีสมองพอที่จะคิดได้ลึกแค่นั้น

    “แล้วมึงรู้หรอว่ามันอยู่ไหนอะ จะไปลากมันมาเนี้ย” 

    “บ้านสิ มันต้องอยู่ที่นั่นแน่ แล้วกูก็รู้วาบ้านมันอยู่ไหนด้วย”  เป็นคำตอบที่เขาแน่ใจ แต่มันกลับไม่ใช่คำตอบที่ถูก

    “กูว่าแล้วว่ามึงต้องรู้บ้านมัน ติดอยู่ที่มันไม่ได้อยู่บ้านแล้ว...”  คำตอบที่ทำให้คนฟังขมวดคิ้วเข้าหากัน ถ้ามันไม่อยู่บ้านมันจะไปไหนได้

    “แล้วมันไปอยู่ไหน?”

    “คอนโดมัน แต่กูไม่รู้ว่าคอนโดมันอยู่ที่ไหนอะนะ มึงลองไปแถวห้างดูดิมันคงวนเวียนแถวนั้น”  พูดแค่นั้นก็ตรงบึ่งไปยังจุดหมายทันที ทิ้งให้คนเป็นเพื่อนได้แต่มองตามแล้วตั้งคำถามว่า กูจะกลับบ้านยังไงวะ

    “เฮ้ย ไอเรย์!! แล้วกูจะกลับบ้านยังงายยยยยยยยย” คงต้องใช้วิชาเดินกลับแล้วละ

     

     

    นาย

    เก็บเสร็จสักที...

    พรึบ!

    อย่าถามว่าเสียงอะไรครับ มันคือเสียงที่ตัวผมทรุดลงกับพื้นด้วยความเหนื่อยอ่อน เหลืออีกไม่กี่อย่างที่ต้องทำนั่นก็คือการซักผ้า ติดปัญหาอย่าง ผมซักผ้าไม่เป็นอะ ไหนจะเสื้อผ้า ผ้าปูที่นอนอีก ฮือๆแค่นี้ก็เหนื่อยแล้วไม่เอาล้าววววว

    ถึงไม่เอายังไงผมก็ต้องเอา ผมหิ้วตะกร้าผ้าสามใบลงมาอย่างทุลักทุเลมาว่างไว้ด้านล่าง แล้วจึกขึ้นไปหยิบผ้าปูที่นอนลงมาอีกที พอจะเดินไปถามว่าจะเอายังไงกับผ้าพวกนี้ดี ก็เจอคนที่ชอบสั่งๆนอนหลับปุ๋ยคาของกินที่ผมซื้อมา น้ำถูกดื่มหมดขนมปังที่สั่งมาสองแผ่นเหลือเพียงแค่แผ่นเดียว อืม ให้มันได้ยังนี้ดิ

    ผมเดินเข้าไปดูใกล้ใบหน้าเกลี้ยงเกล้าไร้สิว ทุกอย่างบนใบหน้าพี่มันเปะเว่อร์จนผมอิจฉา หล่อนักใช่มั้ยเดี๋ยวจะทำให้หมดหล่อเลย อยากแย่งกินนักใช่มั้ยขนมปังอะเดี๋ยวป้อน คริๆผมจัดการเอาแย้มที่ทาขมนปังมาทาหน้าพี่มันเป็นรูปแมว ตรงหน้าผากก็เป็นเสี้ยวดวงจันทร์เหมือนเปาปุ้นจิ้น สุดยอด!

    นั่งรอพี่มันตื่นแล้วค่อยถามดีกว่า เป็นคนมารยาทดีไงไม่ปลุกคนนอนให้ตื่น เรานี่ก็มีมารยาทใช้ได้เนอะ ผมนั่งเล่นโทรศัพท์รอไปสิบกว่านาทีพี่มันก็ตื่น

    “ตื่นแล้วหรอ จะถามพอดีผ้าพวกนั้นให้ทำไง จะเอาไปซักร้านอบรีบตรงข้ามบ้านมั้ย” ผมสังเกตเห็นว่ามีร้

    านซักอบรีดตรงข้ามบ้างพี่มันพอดี

    “ไม่ต้อง...มึงไปซักเอง”  ห้ะซักทั้งหมดนี่? ฝันไปเถอะ

    “ถ้าให้ผมซักผมก็กลับบ้านแล้ว”

    “เดี๋ยวๆ กูล้อเล่น ใครจะบ้าให้มึงซักยกทั้งหมดนี่ไปให้เขา” แล้วไปนึกว่าจะให้ซักจริงถ้าซักจริงนะผมคงตายอะ นี่ก็เย็นแล้วถ้าให้ซักคงได้นอนที่นี่อะ

    ผมยกผ้าไปให้ทางร้านเรียบร้อย เดินกลับมาเก็บของนิดหน่อยก็กะว่าจะกลับคอนโด

    “ทำไร”

    “จะกลับแล้ว”

    “พอดีเลย ฉันอยากอาบน้ำมีนัดไปดินเนอร์” พี่มันว่าจบก็ถอดเสื้อแล้วโยนมาคลุมหัวผม เหม็นเฟงื่อชะมัด  “ไปเตรียมน้ำใส่อ่างให้กูที่ อีกห้านาทีเดี๋ยวตามไปแช่”

    “เรื่องสิ มีปัญญาก็อาบเอง แล้วเสื้อก็มีแต่เหงื่อ”

    “ทำเป็นรังเกลียด ตัวเองสะอาดตาย”

    “สะอาดกว่าเยอะแล้วกัน”

    “พอได้แล้ว เลิกเถียงสักทีไปเตรียมน้ำไป เหนียวตัว” พี่เรย์โบกมือไล่ แล้วเดินขึ้นไปที่ห้องตัวเอง ทิ้งให้ผมอยู่กับผ้าเน่าๆของเขา

    “หยี๋ แหยะ!

    พรึ่บบ!!

    ผมโยนเสื้อพี่มันเอาไว้ที่หน้าบ้านด้วยความขยะแขยง ก่อนที่จะเดินตัวปลิวไปเก็บของเตรียมเดินออกจากบ้านไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

    ตอนแรกกะว่าจะเดินกลับแล้วนะ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นพี่เรย์อาจจะตามมารังควานอีกก็ได้ เดี๋ยวก็หาว่าไม่ทำตามคำสั่งอีก หรือไม่อาจจะหาเรื่องแกล้งนู่นใช้นี่อีก ชาตินี้ทั้งชาติผมจะได้เอาคืนพี่มันบ้างไหมมีอย่างเดียวคือตอนนี้ตามใจมันไปก่อน ค่อยไปล้างแค้นทีหลังก็ยังไม่สาย

    ถึงแม้ความแค้นมันแทบจะทะลักออกมาก็ตาม!

    ผมเปิดประตูห้องอาบแล้วกระแทกลงกับกรอบอย่างขัดใจ แล้วยิ่งเห็นห้องน้ำกว้างๆ อ่างอาบน้ำของพี่เรย์ยิ่งขัดใจอยากกลับไปอาบน้ำที่บ้านมากเข้าไปอีก

    พอเห็นแล้วผมก็อยาจจะลงไปแช่สักหน่อย ติดอยู่ที่ว่าไม่ใช่บ้านผมนี่สิ อยากๆจะทุบไออ่างจากุชชี่นี่จัง

    “เฮ้อ อยากอาบบ้างก็ไม่ได้อาบ”

    ผมบ่นงึมงำกับตัวเองลอยๆ สุดท้ายผมก็ต้องหมุนวาล์วก๊อกน้ำเล่นๆ ไม่นานน้ำก็ออกมาเปิดไปเอยๆไม่ได้สนว่าเปิดมามันจะเป็นน้ำร้อนหรือน้ำเย็น ถ้าผสมกันมันก็คงจะลงตัวมั้ง

    “แล้วสนใจจะอาบด้วยกันมั้ยละ”

    “เห้ย!!” ผมร้องออกมา พลางลุกขึ้นทันทีเดินออกทันทีที่พี่มันเดินเข้ามาในห้องน้ำด้วยสภาพผ้าขนหนูพันรอบเอว จะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่อยู่ละ

    “อะไร จะไปไหน”

    “ผมไปละหมดหน้าที่แล้ว”

    “เดี๋ยว”

    พี่มันเอื้อมมือมาคว้าข้อมือผมไว้ ก่อนจะดึงเบาๆก็ทำให้ร่างทั้งร่างผมกลับพี่ตรงหน้าพี่มัน ผมไม่ได้มองหน้าพี่มันแค่เสมองไปทางอื่น

    หุ่นพี่มัน...ดูดีชะมัด พอก้มดูหุ่นตัวเอง...ฮือ สวรรค์ใจร้ายอ่า ทำไมสร้างเรือนร่างของมนุษย์มาไม่เหมือนกันครับ ทำไมต้องทำให้พี่มันดูดีไปหมด ยกเว้นอย่าง นิสัยแย่ ทราม เลวที่สุด!

    “มีอะไรอีกผมรีบกลับ”

    “มาอาบให้ทีดิ กูรีบ เดี๋ยวจะพลาดดินเนอร์”



    ---------ต่อคะ--------



     

    “รีบก็อาบเองดิ ให้คนอื่นอาบให้จะเร็วได้ไง ใช้อะไรคิดวะ”  ประโยคหลังผมพูดเบาๆไม่ให้พี่มันได้ยิน มันบ้ารึเปล่า อยากจะเอาน้ำกรดสาดจริงๆ

    “ขนาดผมอยู่บ้านสบายๆ ผมยังอาบเองเลย ไม่เห็นต้องมาให้ใครอาบให้ ไม่อายบ้างหรือไง”

    “ทำไมต้องอาย คนมันมีหุ่นเร้าใจไว้ยั่วยวนคนอื่น มีแต่ต้องโชว์” พี่มันไปเอาความมั่นใจมากจากไหนเยอะแยะ ถึงได้มั่นใจขนาดนั้นนะ สงงสารพ่อแม่พี่มันจริงๆมีลูกหลงตัวเองเข้าขั้นประสาท

    “มาอาบให้กูได้และ ยืนบื้อทำไม” พี่เรย์บอกพร้อมกับดึงผ้าขนหนูออกจากตัวเอง ผมนี่ตกใจมากนึกว่าจะได้เห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นซะแล้ว ยังดีที่พี่มันใส่บ๊อกเซอร์ไว้

    “อยากอาบก็อาบเองเถอะ”

    “น่านะ อาบให้กูหน่อย”

    แหม ทีอย่างนี้พูดเพราะเสนาะหูเลยนะ บอกเลยกูไม่หลงกล ผมลุกขึ้นแต่ก็ต้องโดนอีกคนสาดน้ำใส่

    ซ่า!

    พี่มันรวบแขนผมดึงลงมาอย่างแรง

    “ทำบ้าอะไรของพี่หา ผมเปียกหมดแล้ว”

    ผมว่าพี่มัน แต่พี่มันก็ไม่ได้สนใจอะไรเอาแต่หัวเราะอยู่อย่างเดียว ไม่สนใจหรือใส่ใจกลับผมที่โดนแกล้เปียกไปครึ่งตัวเลย น่าน้อยใจมาก ผมหยิบครีมอาบน้ำมาบีบพลวดใส่หน้าพี่เรย์มันอย่างเต็มๆ สะใจวะ

    “โอ๊ย! กูแสบนะ”

    “อุ๊บ...คิกๆ ฮ่าๆๆๆๆ” แล้วผมก็กลั้นขำไว้ไม่ไหว เลยเลือกที่จะระเบิดหัวเราะออกมา ขำจนเกร็งหน้าท้องไปหมด

    “ไอนาย เปิดฝักบัวมาล้างตาฉันเดี๋ยวนี้นะ!

    “ไม่โว๊ย สะใจ”

    “ทำเร็ว กูแสบตาจะตายอยู่แล้ว อย่าให้กูลุกไปได้นะ มึงไม่ตายดีแน่”

    “กลัวหรอ คิดว่ากลัวหรอ ดูสภาพตัวเองก่อนเถอะ ชิส์”

    ผมยังคงหัวเราะต่อไปกับอาการของพี่เรย์ ที่ยิ่งเอามือเช็ดยิ่งทำให้แสบตาหนังเข้าไปอีก จนเมื่อผมหันไปเห็นฝักบัวที่ติดอยู่กับอ่าง ก็หยิบมันขึ้นมาจ่อหน้าพี่มัน

    “ก็ได้ผมจะล้างให้นะ”

    “รีบเข้าสิรออะไร” ขนาดสภาพไม่เจียมอย่างนี้แล้วปากดีได้ อย่างนี้มันต้องโดน

    “ได้เลย เดี๋ยวจัดให้ หึ” อยากล้างหน้ามากใช่มั้ย ผมบิดฝักบัวจนสุดแรง น้ำจึงพุ้งตรงไปหาเบ้าหน้าพี่มันอย่างแรง

    “เฮ้ย แสบๆ”

    แรงอัดน้ำทำให้พี่มันเอามือขึ้นมาบังหน้าบังตาตัวเอง ยิ่งเอามือปิดครีมอาบน้ำก็ยิ่งเข้าตาพี่มัน จนทนไม่ไหวสุดท้ายพี่มันก็ก้มหน้าจุ่มลงในอ่าง ผมเลยเทครีมอาบน้ำลงไปอีก สภาพทุเรศมากเหมือนหมาตกน้ำเลยจริงๆ ปากผมกระตุกจนกรามค้างไปเลย

    สะใจสุดๆ นานๆจะได้เอาคืนพี่มัน เอาคืนทีต้องจัดให้หนัก

    “อยู่กับครีมอาบน้ำ ฟองสบู่ไปก่อนนะคร้าบบบ ตัวจะได้หอมฟุ้งกระจายตอนไปดินเนอร์นะ บ๊ายบาย ฮ่าๆ”

    ผมพูดเสียงหวานบอกพี่มัน

    “กลับมานี่นะไอตัวแสบ โอ๊ย ตากูๆ ซี๊ดๆ แสบๆ”

    ปล่อยพี่มันไว้อย่างนั้นแหละครับอย่าไปสนใจ ส่วนผมก็กลับบ้านในสภาพกรามค้างด้วยความสะใจ


     

    ผมต้องกลับไปซื้อของที่พี่ร้านเช่าหนังสือการ์ตูนอีกครั้ง อยากกินจริงๆนะ คือหน้าตามันหน้ากินเอามาก เสียเวลากลับไปซื้อก็คงไม่เสียหายอะไรเพื่อของอร่อยนายทนได้ อิอิ

    “อ่าวพี่ที่ร้านเช่าหนังสือนี่นา เพิ่งเลิกงานหรอครับ” พอผมจะเข้ามาซื้อของ ก็เจอพี่พนักงานร้านหนังสือเข้า

    “อ่าครับมันเย็นแล้วหมดหน้าที่พี่แล้วละ แล้วน้องเพิ่งมาซื้อหรอ” เป็นพอดีกับพนักงานร้านนี้หันมาส่งของที่พี่เขาสั่งพอดี

    “น้องคนนี้อีกแล้ว สั่งไปตอนเที่ยงแล้วไม่ใช่หรอคะ อย่าบอกนะว่าติดใจขนมปังที่นี่อะ”

    “ผมยังไม่ได้กินเลยสักชิ้นอะ ถูกเพื่อนขโมยกินหมดเลยต้องกลับมาซื้อใหม่”

    “จริงหรอ พี่ดีใจจริงๆที่มีคนชอบกินขนาดนี้ ว่าแต่น้องถูกน้องคนนี้แนะนำมาใช่มั้ยละ” พี่คนขายพูดยิ้มๆ

    “ใช่ครับ พี่เขาแนะนำผมมา”

    “พี่เพิ่งจะเปิดร้านใหม่นะ น้องคนนี้มากินแล้วช่วยโปรโมทร้านให้ น้องคงเป็นอีกคน”

    “พี่ก็พูดเกินไป ผมแค่เห็นว่าร้านพี่อร่อยจริงเลยช่วยบอกต่อ” พี่ร้านเช่าหนังสือพูดยิ้มๆ

    “แล้วน้องจะสั่งอะไรละ เอาเหมือนตอนเที่ยงมั้ย?” ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปคุยกับพี่ร้านหนังสือต่อ

    “พี่ยังไม่รู้จักชื่อน้องเลย น้องชื่ออะไรครับ พี่ชื่อคิวนะ” พี่คิวบอก ดีแล้วที่บอกชื่อไม่งั้นผมคงเรียกพี่ร้านเช่าหนังสืออีกครึ่งเรื่องละมั้ง

    “ผมชื่อนายครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่คิว” ผมยิ้มให้พี่คิวอย่างเป็นมิตร ไม่นานผมก็ได้ของตามที่สั่งจ่ายเงินเรียบร้อย กำลังจะเดินกลับพี่คิวก็เอยเรียก

    “น้องนายครับเดี๋ยวพี่เดินไปเป็นเพื่อนว่าแต่นายไปทางไหนละ”

    “เดี๋ยวขึ้นบีทีเอสกลับครับ”

    “พี่ก็กลับทางนั้นพอดี งั้นไปกันเถอะ” พี่คิวพูดจบก็เดินนำหน้าผมไปเลย ผมได้แต่ยืนเกาหัวแกลกๆอยู่อย่างนั้น จนพี่เขาหันมาเรียกผมจึงเดินตามไป น่าแปลกที่ทางกลับบ้านผมกับพี่เขาไปทางเดียวกันแค่ลงคนละสถานี ก็ดีผมจะได้มีเพื่อนเดินกลับบ้าน



     _________TBC

          อัพแล้วๆ  คงจะทราบแล้วเนอะว่าตัวละครที่ไรท์บอกว่าจะมาเป็นคู่แข่งพี่เรย์เรา ขอบอกคนนี้นะทั้งอบอุ่นผู้ชายในฝันของผู้หญิงของทุกคนเลยละ แถมร้ายเงียบด้วยนะเออ

       ไรท์อาจหายไปหลายวันนะคะ เพราะเห็นยอดวิวคนเข้าอ่านแล้ว ไรท์แทบสลบน้อยมาก คงเพราะไรท์อัพช้าด้วยก็ขอโทษด้วยนะคะ

            @yamol0609 <<<อันนี้คือทวิตเตอร์ไรท์นะคะ คือไรท์เคยใช้ทวิตนี้กับนิยายเรื่องอื่นแล้ว เลยไม่สามารถเชื่อต่อแล้วลงได้ ไรท์เลยให้แบบนี้ หรือมันมีวิธีอื่นที่ไรท์ไม่รู้ ก็ขออภัยในความกากคอมของไรท์นะคะ มีอะไรจะคุย จะบอกคำผิดหรือจิกให้อัพนิยายได้นะคะ

          สุดท้ายไปแล้วคะ รักนักอ่าน คิดถึงรีดเดอร์ มิสยูแฟนคลับ รักและคิดถึงทุกลมตด เอ๊ย ลมหายใจ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×