คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความหลังที่แสนลำเค็ญ2
วิกาลยังเป็นเช่นเดิม
ที่เปลี่ยนแปลงไม่ใช่ยามวิกาล
แต่เป็นบรรยากาศ
บรรยากาศที่ถูกย้อมด้วยรังสีอำมหิต!
เสียงอาวุธกระทบกันผนวกกับเสียงแผดร้อง เสียงตวาด
กอปรเป็นภาพความอำมหิตของมวลมนุษย์ฉากหนึ่ง
เหล่านักบู๊ทั้งสิบห้าคนของเล่าออ้วนวั่ว ตอนนี้เหลือเพียงเจ็ดคนเท่านั้น
ในคนทั้งเจ็ดมีอยู่สี่คนที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว
ฝ่ายโจรเหลือเพียงยี่สิบคนเท่านั้นที่ยังครบสามสิบสองประการ นอกนั้นบ้างบาดเจ็บบ้างล้มตาย
การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป สันดานดิบของมนุษย์ถูกดึงออกมาแล้ว
ต่างฝ่ายต่างเป็นบ้าแล้ว บ้าเลือด!
ความอำมหิตแผ่คุกคามทั่วบริเวณ
เฮี้ยงจ้งก้วงกวาดตามองรอบๆการต่อสู้ด้วยความเจ็บปวดใจ
ถึงตอนนี้ท่านต้องยอมรับแล้ว ความหวังในการรอดชีวิตมีศูนย์ส่วนเท่านั้น
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นท่านยังคงเงียบสงบ
มีแต่ความเงียบสงบเท่านั้นที่แก้ไขสถานการณ์ได้ ต่อให้ท่านทราบกระวนกระวายไปก็เปล่าประโยชน์
มีแต่เพิ่มความบ้าให้ท่านเท่านั้น
กลิ่นไอแห่งความตายผสานกลิ่นอายโลหิต
เพลิงอำมหิตได้เผาผลาญจิตใจแล้ว
จิตใจของไต้อ๋องโจรเป็นเช่นนี้ เนื่องเพราะมันต้องทนดูผู้ตามก้นมันล้มลงทีละคนๆ
ต่อให้เป็นคนใจหินย่อมมีความรู้สึก อย่างน้อยตอนนี้มันรู้สึกแล้ว
มันรู้สึกเดือดดาล รู้สึกอับอายที่ผู้ติดตามมันเป็นสัดใส่ข้าว
มันได้คิดมันต้องลงมือแล้ว เนื่องเพราะวิกาลยาวนานความฝันมาก!
เฮี้ยงจงก้วงก็ได้คิดเช่นกันจากการสังเกตจากดวงตาคู่นั้น ท่านทราบมันต้องลงมือแล้ว
ท่านตัดสินใจแล้วท่านไม่หวังรอดชีวิต ขอเพียงชีวิตเจ้านายท่านปลอดภัยก็พอแล้ว
น้ำใจท่านชั่งน่านับถือนัก
คนเช่นนี้ในโลกยังหลงเหลือหรือไม่
หรือมีเพียงแค่คนเห็นแก่ตัวเท่านั้น
เสียงชักกระบี่ดังสะท้อนแปดทิศ กระบี่ของเฮี่ยงจงก้วงหลุดจากฝักแล้ว
ท่วงท่าการชักกระบี่ของท่านรวดเร็วยิ่ง
รวดเร็วราวประกายสายฟ้าสายหนึ่ง รับร่างที่พุ่งทะยานกายเข้ามาของไต้อ๋องโจรได้พอดิบพอดี!
เสียงทึบเมื่อกระบี่กระทบถูกแส้เส้นหนึ่ง
แส้ของไต้อ๋องโจร!
ท่วงท่าการชักแส้ของไต้อ๋องโจรกลับรวดเร็วยิ่งกว่า!
เอี้ยงจงก้วงท่านทราบกระบวนท่านี้คงไม่เป็นผล
พออาวุธสัมผัสท่านรีบเปลี่ยนกระบวนท่าทันที
ด้วยกระบวนท่า พิรุณพร่างฟ้าแปดทิศ
ฝนกระบี่แผ่ครอบคลุมร่างไต้อ๋องโจรดั่งสายฟ้าแลบ
เสียงอาวุธกระทบกันดังถี่ยิบ ฝนกระบี่กระทบถูกวัตถุทรงงกลมอันหนึ่ง
นั่นคือกระบวนท่ากงล้อแส้ที่เลอเลิศในอดีตกาล
ผลจากการปะทะ
เฮี้ยงจงก้วงรู้สึกแน่นหน้าอกพร้อมกับมีพลังชนิดหนึ่งถ่ายเทผ่านกระบี่ท่าน
ไหลเวียนผ่านไปตามชีพจรน้อยใหญ่
ความรู้สึกชาด้านตามจุดต่างๆ พร้อมๆกับการเจ็บแปลบที่ไหล่ซ้าย
จากนั้นสติก็ดับวูบลง
โลกเบื้องหน้าไม่ใช่โลกที่ท่านคุ้นเคยอีกแล้ว
เนื่องเพราะรอบๆข้างคือความมืดและเปลี่ยวเหงา!
หรือท่านจะทิ้งความหวังสุดท้ายของท่านไว้แค่นี้?
การต่อสู้รอบด้านใกล้จะจบแล้ว
ไต้อ๋องโจรพุ่งทะยานกายไปข้างหน้ามันไม่ยอมเสียเวลาดูผลงานมันแม้แต่น้อย
เนื่องเพราะสิ่งที่มันหวังอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว
เล่าอ้วนวั่วแม้ท่านจะเห็นจงก้วงท่านล้มลง และพญามัจจุราจอยู่ห่างแค่สองเซียะเท่านั้น
ถึงกระนั้นท่านยังยืดอกเชิดหน้ารอรับความตายเพื่อปกป้องภรรยาและบุตรีท่าน ท่านทราบ
ท่านสู้มันไม่ได้ แต่นี่คือหน้าที่ของบุรุษเพศที่ต้องปกป้องคนที่อ่อนแอกว่า
อย่าว่าแต่นี่คือภรรยาและบุตรีท่าน
"เฮอะๆ น่านับถือ น่านับถือ ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด
ยังบังอาจมาท้าทายความตายต่อหน้าเรา เฮอะๆๆนับว่าเป็นพระดินจริงๆ"
ไต้อ๋องโจรกล่าววาจาแดกดัน
"หุบปาก ! เจ้าจะทำอะไรเล่าฮู้ก็เชิญ เฮอะ รับรองเราไม่ขวัญมุสิกเยี่ยงเจ้าแน่"เ
ล่าอ้วนวั่วกล่าวด้วยความโกรธ
ไต้อ๋องโจรสวนกลับทันที
"เราหรือขวัญมุสิก ผู้ใดมีขวัญมุสิกกันแน่เดี่ยวก็รู้ ตอนนี้เราจะให้ท่านเห็นฮูหยินท่านตายตำตา เฮอะ ดูซิท่านจะมีขวัญมุสิกมอบม้วนภาพให้บิดาหรือไม่"
กล่าวจบฟาดฝ่ามือไปที่เล่าฮูหยินทันที ฝ่ามือปะทะหน้าอกอย่างเหมาะเจาะ ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัส ความรู้สึกที่ไต้อ๋องโจรได้รับไม่ใช่ความอ่อนนุ่มของหน้าอกสตรี แต่เป็นความแข็งแกร่งของบุรุษ!
สายลมพัดผ่านรูขุมขน แต่ความรู้สึกได้ชาด้านแล้ว
ในจิตใจของเล่าฮูหยินมีเพียงความเศร้าเท่านั้น
ความเศร้าที่สามารถหยุดกาลเวลาได้
สายตาของนางผนึกค้างที่ร่างอันไร้วิญญาณของสามีคู่ทุกข์คู่ยากเท่านั้น
แม้นางได้เตรียมใจแล้ว แต่มันกลับทำใจไม่ได้
ความรู้สึกโดดเดี่ยวเริ่มเกาะกุมหัวใจนาง
น้ำตาแห่งความเจ็บปวดรินไหลท่วมดวงใจนาง
นางรู้สึกสับสน ไม่มีสิ่งใดเป็นของนางอีกแล้ว
นางอยากส่งเสียงร่ำไห้ดังๆ แต่แค้นที่เสียงไม่ยอมทำตามคำสั่ง
นางอยากตายตามสามีนาง แต่พอสายตานางเหลือบมองดูบุตรีที่อ้อมอก
ความรู้สึกแห่งมารดาได้เข้ามาแทนที่ความรู้สึกเมื่อครู่
นางปรารถนาให้บุตรีนางรอด แต่น่าเสียดายที่นางไม่มีโอกาสแล้ว
นางรู้สึกแน่นหน้าอกอย่างแรงลมหายใจเริ่มขาดห้วง สุดท้ายก็หยุดลง
แม้นางจะไม่ตื่นขึ้นมาตลอดกาลนาน
แต่ความรู้สึกห่วงใยต่อบุตรีนางจะมีเช่นนี้ชั่วกาลนาน......
"เปรี้ยง เปรี้ยง" เสียงสายฟ้าฟาดดังก้องออกมาจากโพ้นขอบฟ้าช่วยเรียกสติของ
จ้อเทียนฮ้ง(เล่าจ้อ) กลับคืนมา นี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วที่ภาพความหลังหวนกลับ
คืนมา มันแค้นตนเองที่ไม่มีความสามารถเพียงพอ หลังจากเหตุการณ์นั้นมันมีปณิธานอันยิ่งใหญ่ไว้แล้ว นั่นคือเป็นวีรบุรุษ นี่เป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ของบุรุษเยาว์วัยทุกคน โดยเฉพาะฝ่ายธรรมะ วีรบุรุษก็คือวีรบุรุษ
วีรบุรุษไม่ใช่อดีตของมันแต่เป็นปัจจุบันของมัน วีรบุรุษไม่สามารถพ่ายแพ้ได้
วีรบุรุษไม่สามารถอ่อนแอได้ แต่ท่านคงลืมไปแล้ว "วีรบุรุษคือคน คนที่มีชีวิตจิตใจ"
"ตั้วกอ ท่านชั่งชาเย็นต่อลั้งยี่นัก ฮึ...ลั้งยี่โกรธตั้วกอยิ่งนักที่ตัวกอปล่อยให้อยู่คนเดียว ต่อไป...
ลั้งยี่จะไม่สนใจตั้วกออีก ฮึ" กล่าวจบพร้อมกับสะบัดหน้าไปทางอื่น
จ้อเทียนฮ้งเอี้ยวตัวมองตามเสียงที่พูด สายตากระทบถูกร่างๆหนึ่ง เป็นร่างทาริกาน้อยนางหนึ่ง
ที่น่ารักน่าเอ็นดูจนไม่อาจตัดใจให้ขัดใจนางได้ ท่าแง่งอนนี่ชั่งเสียดแทงใจจ้อเทียนฮ้งนักจนมันต้องรีบกล่าวอย่างร้อนรนว่า
" ตั้วกอผิดไปแล้ว ๆๆ ลั้งยี่อย่าโกรธตั้วกอเลย ต่อไปตั้วกอจะอยู่ข้างๆเจ้าไม่จากเจ้าไปไหนอีกแล้ว
เจ้าก็ทราบว่าตั้วกอมีม่วยๆที่น่ารักคนเดียวเท่านั้น ถ้าเจ้าไม่พูดกับตั้วกอๆคงต้องเจ็บปวดใจยิ่งนัก"กล่าวจบภาพอดีตก็หวนกลับมาอีกครั้ง
ทาริกาน้อยดูท่าจะเข้าใจความรู้สึกของตั้วกอบุญธรรม ฉีกยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า
“ตั้วกอ ลั้งยี่ยกโทษให้ตั้วกอก็ได้ แต่ตั้วกอต้องสัญญากับลั้งยี่ว่าตั้วกอจะอยู่กับลั้งยี่ตลอดไป ไม่เช่นนั้น ฮึ” กล่าวจบพร้อมกับสะบัดหน้าไปทางอื่น
จ้อเทียนฮ้งใช้มือลูบผมม่วยๆน้อยอย่างแผ่วเบาพร้อมกับกล่าวอย่างเข้าใจว่า
“ได้ ตั้วกอให้สัญญากับเจ้า ตั้วกอจะอยู่เคียงข้างเจ้าตลอดไปแน่นอน”
ทาริกาน้อยคว้าแขนจ้อเทียนฮ้งพร้อมทั้งกระโดดไปมาด้วยความดีใจพร้อมกับกล่าวว่า
“ตั้วให้สัญญากับลั้งยี่แล้วนะเท่านี้ลั้งยี่ก็วางใจแล้ว อา...นี่ตั้วกอท่านว่าตัวหนังสือนี้น่าเล่นหรือไม่ คิกๆๆ ตั้วกอช่วยสอนลั้งยี่ได้หรือไม่” พร้อมกั้บยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้ดู
“ฮา...นับว่าตาเจ้ายังไม่เลว นี่คืออักษรภาพโบราณหรือที่เรียกกันว่าอักษรกระดองเต่าเกิดขึ้นจากการวาดภาพเพื่อสื่อความหมายของคนโบราณ ผ่านเวลานับพันปีตัวอักษรก็เริ่มผิดเพี้ยนจนเป็นตัวอักษรในปัจจุบัน มาๆ ตั้วกอจะสอนเจ้าเอง”พร้อมทั้งคว้าหนังสือไปที่โต๊ะมุมห้อง
ห้องหนังสือยังเป็นเช่นเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปกลับเป็นเมล็ดพันธุ์ ที่กำลังเจริญเติบโตก้าวทะยานไปข้างหน้าพร้อมๆกับเสียงท่องหนังสือดังกังวาลออกจากตึก
ความคิดเห็น