ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic SHINee] Ma... Paramour - - > ???Key & HyunMin

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : ...Valentine Day...

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 53




    Chapter 6

     

    Valentine Day

     

              วาเลนไทน์ เทศกาลความรักที่ทุกคนรอคอย

     

                                    ไม่อยากจะบอกว่าผมก็คือหนึ่งในนั้นเหมือนกัน

     

                                                    แม้ว่า วันที่ 14 กุมภาจะไม่มีความหมายสำหรับผมในหลายๆปีที่ผ่านมา

     

                    แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมจะได้เดินเคียงข้างคนที่รัก ท่ามกลางหิมะโปรยปราย เป็นครั้งแรก. . .

     

    (Kim Kibum’s Part)

     

                    ตอนนี้ผมกำลังสิงสถิตตัวเองอยู่ในห้อง   แม้ว่าการปั่นประสาทพี่จงฮยอนจะทำให้บรรยากาศเงียบเหงาในบ้านลดลงไปบ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่   ผมนั่งมองโทรศัพท์ตัวเองเกือบจะพันรอบได้แล้ว   แต่ผมไม่กล้า. . .   ไม่กล้าที่จะโทรไปถามมินโฮว่า. . . เมื่อคืนนี้. . . นายได้ยินอะไรรึเปล่า   ครั้นจะถามตรงๆก็กระดากปาก   แต่เพื่อสลัดความค้างคาในใจทิ้ง   ผมตัดสินใจโทรหามินโฮ

     

                    /สวัสดีครับ”/

     

                    สวัสดี มินโฮ นายนอนอยู่หรอเสียงที่ฟังดูเหมือนกำลังหลับกลางวันอยู่   กลับต้องตื่นมาเพื่อรับโทรศัพท์   ชวนให้ผมเกิดความเกรงใจขึ้นมาทันที

     

                    /อ๋อ คีย์หรอ อืมๆๆ ผมนอนอยู่ ว่าแต่มีธุระอะไรรึเปล่า”/เสียงยังคงสะลึมสะลือเหมือนเดิม   แต่ทำไมผมกลับรู้สึกว่ามันเซ็กซี่ล่ะ   ผมนี่. . . ท่าจะเป็นเอามาก

     

                    แบบว่าเมื่อวานนี้ นายโทรมาอ่ะ. . .ผมหยุดคำพูดไว้แค่ตรงนั้น

     

                    /อ๋อ ว่าจะถามคีย์ ว่าถึงบ้านรึยัง แต่เห็นไม่มีคนรับสาย ผมก็ลืมตัดสาย ผมก็ไม่รู้ว่าคีย์จะรับสาย คีย์ก็เลยไม่ได้ยินเสียงคนพูดใช่มั้ย”/กลายเป็นผมที่งงแทน   แต่นั่นก็หมายความว่า   มินโฮไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยสินะ

     

                    อ๋อ อืมๆ ว่าแต่นายไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยหรอ

     

                    /“คือผมก็วางมือถือไว้ที่โต๊ะด้านนอกแล้วก็เข้านอนเลยอ่ะ ขอโทษนะคีย์ ทำให้คีย์ต้องถือสายรอเกือบครึ่งชั่วโมงน่ะ”/

     

                    อืมๆ ไม่เป็นไรๆ ฉันเองก็น่าจะกดวางสายด้วย นายก็เลยเปลืองค่าโทรแย่น่ะสิผมอดจะรู้สึกผิดไม่ได้จริง ผมนี่แย่ชะมัด

                    /“ไม่หรอก ผมก็สะเพร่าเองด้วย”/

     

                    อืมๆ โทรมาถามแค่นี้แหละ นายนอนต่อเหอะผมพูดตัดบทเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนที่กำลังนอน

     

                    /“อืม สวัสดีครับ”/มินโฮวางสายทันทีที่บอกลา   ผมเดาว่าเขาน่าจะนอนต่อนะ   คงง่วงมากล่ะ   แปลว่าเมื่อคืนนี้. . . นายทำอะไรรึเปล่า   ถึงได้เพลีย   หึๆๆ

     

                    และแล้วพรุ่งนี้ก็คือวันที่ผมรอคอย   ผมกะว่าจะซื้อของขวัญวันวาเลนไทน์ให้พี่อนยูซะหน่อย   แต่ก็ว่าจะชะแว้บไปตอนดึกๆหน่อย   ขี้เกียจฟังพี่จงฮยอนกระแหนะกระแหน   ฟังแล้วเหมือนพวกคนแก่ไร้คู่ที่เห็นคนมีความรักไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ

     

    Valentine Day

     

              นี่ไอ้ฮิตเลอร์ ข้าฟังแล้วขัดจิตว่ะ แบบว่าเอ็งรับโทรศัพท์แกจะทำเสียงเมาเหล้าทำไมวะแจจินที่อาศัยอยู่บ้านมินโฮชั่วคราวเอ่ยปากถามเรื่องที่ข้องใจ   มันออกจะเสียมารยาทอยู่นิดๆที่แอบฟังคนอื่นคุยโทรศัพท์   แต่ไม่ใช่กับเขาแน่นอน โฮะๆๆ

     

                    เสียงเพิ่งตื่นต่างหากเล่ามินโฮแก้ไขความข้องใจผิดๆ   เป็นตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว   ไอ้เพื่อนคนนี้

     

                    เออๆ นั่นแหละ ทำทำไม

     

                    ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่เอ็งห้ามมาดองตัวอันโสโครกบนเตียงข้านะเว่ย ไปอาบน้ำเลยไปว่าแล้วก็เอาเท้าถีบคนที่นั่งอยู่ปลายเตียงให้ตกลงไปกองที่พื้น

     

                    ไอ้นี่นิ เดี๋ยวเอ็งตาย ย้ากกกกกแจจินกระโดดเข้าหามินโฮพร้อมกับเอาตัวที่เล็กกว่าของตัวเองทาบทับไว้   เอาหมอนข้างใช้แทนดาบฟาดฟันกันอยู่สักพักก็เริ่มเหนื่อย

     

                    พอก่อนๆ โอ้ยเหนื่อยคำที่ว่าไม่เจียมสังขารมันเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง

     

                    นี่ ไอ้ดื้อ ข้ามีอะไรจะถามเอ็งหน่อยมินโฮเอ่ยปากถามอย่างไม่แน่ใจ

     

                    มีอะไรถามมา ผู้รู้คนนี้จะตอบให้เอง โฮะๆๆแจจินเอามือป้องปากพร้อมกับหัวเราะอย่างเขินอาย (?)

     

                    เอาดีๆนะเว่ย ถ้าเอ็งกำลังแอบรักใครสักคน แต่ฟ้าไม่เป็นใจเพราะเขามีเจ้าของแล้ว เอ็งจำทำไงว่ะมินโฮถามด้วยความขับข้องใจ

     

                    เอ็งไปชอบคนมีเจ้าของใช่มั้ย ข้ารู้ ก็ว่าแล้ว มันเหมือนจะเป็นปกติแต่ก็ผิดปกติ เอางี้ข้าจะตอบให้เป็นบุญหูนะเว่ย แต่เอ็งต้องตอบคำถามข้าก่อน คนที่เอ็งรัก เขารักคนๆนั้นอยู่รึเปล่าแจจินเข้าโหมดจริงจัง

     

                    เออ เขารักอยู่นะมินโฮตอบตามที่คิด

     

                    แล้วไอ้ผู้ชายคนนั้นดูแลคนที่เอ็งรักดีรึเปล่า

     

                    ก็ดีนะ เขาก็มีความสุขดีพอพูดมินโฮก็นึกถึงภาพที่คีย์คุยโทรศัพท์กับอนยู   เขาคงจะทำอย่างนั้นให้คีย์ไม่ได้หรอก

     

                    งั้นก็ฟังคำตอบดีๆนะ. . . ตัดใจซะเถอะ!!!”แจจินพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง   มินโฮสบตากับเพื่อนก็พอจะรู้ว่าแจจินไม่ต้องการให้เขาเจ็บปวด   แต่ก็ช่างเป็นคำตอบที่ตรงซะเหลือเกิน

     

                    ยากจังเนอะ กับการตัดใจจากใครสักคนมินโฮพูดพร้อมกับระบายลมหายใจออกมา   ฝืนยิ้มให้กับเพื่อนสนิท

     

                    อยากฟังเหตุผลไหม หนึ่ง ถ้าเขารักกันดี อย่างไงก็ไม่มีวันไปแทรกปนในความรักของเขาได้ สอง อันนี้ถ้าเขาดูแลกันไม่ดี เอ็งก็มีโอกาส แต่เอ็งบอกว่าเขาดูแลกันดี เอ็งสมควรจะตัดใจซะเถอะแม้จะสงสารเพื่อน   ท่าทางที่อ่อนล้าราวกับเดินทางมาไกลของมินโฮ   ทำให้แจจินต้องพูดตรงๆ

     

                    นั่นสินะ ฟังๆดูแล้ว ข้าก็ไม่มีโอกาสแม้แต่นิดเดียวมินโฮยิ้มเยาะให้กับความรักของตนเอง

     

                    อย่าดูถูกความรัก มันอาจจะทำให้คนมีความสุขมากมาย แต่ก็เต็มไปด้วยพิษร้ายกาจหากพลาดเพียงนิดเดียวเสียงเรียบเรื่อยของแจจินราวกับคมมีดที่กรีดลงใจ   ทำไมตรงอย่างนี้   ฟังดูแล้วเขาก็เหมือนคนที่ถูกพิษความรักเล่นงาน   นึกถึงวันเก่าก่อน   หากเขาด่วนตัดสินใจ    ทำอะไรเร็วกว่านี้   เขาอาจจะเป็นคนที่กำลังมีความสุขก็ได้

     

                    แกเคยได้ยินคำนี้ไหม ไอ้ฮิตเลอร์แจจินมองเพื่อนที่เงยหน้ามาสบตากับเขาอีกครั้ง

     

                    เพื่ออะไรกับการรอคอยที่ไร้ความหวังนั่นสิ เพื่ออะไร. . . ถ้าไม่มีหวังก็น่าจะตัดใจซะ

     

                    เก็บไปคิด เพราะข้ารู้ดีว่าเอ็งจะหาทางที่เหมาะสมสำหรับคำถามของเอ็งได้ดีกว่าฟังคำตอบจากคนอื่น   ข้าไปอาบน้ำและแจจินว่าแล้วเดินไปคุยตู้เสื้อผ้าราวกับเป็นบ้านของตัวเอง   ทิ้งไว้เพียงมินโฮที่หาคำตอบของตัวเองอยู่ลำพัง

     

    Valentine Day

     

                    พี่อนยู ไหนว่าจะมีคนมาทำความสะอาดครัวให้ผมไงล่ะ ผมหิวข้าวแล้วนะแทมินที่นั่งรอบุคคลที่จะมาล้างครัวจนท้องร้องไม่หยุดไม่หย่อน   จะเข้าไปทำอาหารทานเองก็ทำไม่ได้   เพราะสภาพครัวราวกับสงครามโลกครั้งที่สามเพิ่งจะจบไป

     

                    อืม เดี๋ยวพี่ลองโทรตามให้อนยูทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ ฉับพลันก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น

     

                    อ๊ะ สงสัยมาพอดีอนยูลุกไปเปิดประตูบ้านให้ผู้มาเยือน ทันทีที่แทมินเห็นหน้าแทบจะควันออกหูเลยทีเดียว

     

                    พี่อนยู!!! นี่พี่เรียกพี่จงฮยอนให้มาล้างครัวหรอเนี่ยแทมินโวยวาย ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นพวกแม่บ้านที่รับจ๊อบทั่วไป ที่ไหนได้ หนอย ไอ้พี่ชายตัวแสบ

     

              หือ. . .ผู้มาใหม่อย่างจงฮยอนเกิดภาวะงงกะทันหัน   หมายความว่าอย่างไง   ให้เขามาช่วยล้างครัว

     

                    เอาน่า แทมินก็. . . จงฮยอนเขาเต็มใจช่วยอนยูพูดหน้าตาเฉย ก่อนจะปลีกตัวขึ้นห้องไปทันที   ทิ้งไว้เพียงจงฮยอน   และแทมินสองคน

     

                    เอ่อ. . .แทมินเกิดอาการพูดไม่ออกทันที   จะให้เขาใช้พี่จงฮยอนล้างครัวงั้นหรอ

     

                    ไม่เป็นไรหรอก พี่พอจะช่วยได้นะจงฮยอนเสนอตัว ไหนๆพี่อนยูก็เรียกเขามาแล้ว ร่วมด้วยช่วยกันล้างครัวจะเป็นไร

     

                    เอ่อ เอางั้นก็ได้ฮะทั้งๆที่บอกแล้วว่าจะไม่ล้างครัวเองแต่ท้ายที่สุดก็ต้องทำ   จะให้พี่จงฮยอนทำคนเดียวก็น่าเกลียดไป

     

                    แทมินช่วยล้างพวกเครื่องครัว   ส่วนจงฮยอนเป็นคนล้างพื้นครัว   การทำงานที่ไร้ซึ่งเสียงพูดคุย   อาจจะเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีเรื่องที่จะคุยเล่นกัน   แทมินก้าวเท้าไปบริเวณตู้เย็นเพื่อตรวจดูสภาพอาหารในตู้เย็น   เกรงว่าอนยูจะทำศึกอะไรที่ตู้เย็นรึเปล่า

     

                    โชคดีที่พี่อนยูไม่ก่อสงครามในตู้เย็น ไม่งั้นช็อคโกแลตสำหรับวันพรุ่งนี้อาจจะกลายเป็นแห้วได้แทมินพูดกับตัวเองเบาๆ   แต่กระนั้นสำหรับสถานที่ที่อยู่กันเพียงสองคนอย่างเงียบเชียบแล้ว   จงฮยอนก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจนด้วย

     

                    พี่จงฮยอนฮะ ผมว่าพี่ทำตรงนั้นเสร็จแล้ว เดี๋ยวผมทำต่อเองก็ได้ เหลือนิดเดียวแล้ว

     

                    ไม่เป็นไร แทมินค่อยๆทำอาหารไปก่อนดีกว่า พี่จะขออาศัยด้วยมื้อนึงปากก็กล่าวด้วยน้ำเสียงทะเล้น   แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยบาดแผล   ถ้ารู้ว่าการรักใครสักคนจะเจ็บถึงเพียงนี้   สู้ว่าไม่มีความรู้สึกใดจะดีกว่า

     

                    ถ้าสิ่งที่เรียกว่า ความรัก ยังไม่ใช่ของเราในวันนี้

     

                                    ต่อให้แลกด้วยน้ำตา   เราก็ไม่ได้ครอบครองอยู่ดี. . .

     

    Valentine Day

     

              บรรยากาศแทบทั้งเมืองกำลังสื่อให้เห็นกับเทศกาลแห่งความรักครั้งนี้   ร้านค้าประดับประดาไปด้วยรูปหัวใจบ้าง   สีชมพูบ้าง   ผู้คนเดินขวักไขว่แม้จะมีความเร่งรีบแต่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า

     

                    พี่อนยู อยู่ไหนเนี่ย ผมรอนานแล้วนะเจ้าของร่างบางที่ยืนแนบโทรศัพท์กับหูกำลังสนทนากับปลายสายด้วยท่าทางหงุดหงิด

     

                    เร็วๆนะ พี่มาช้ากว่านี้อีกสิบนาทีผมกลับบ้านจริงๆด้วยคีย์กดตัดสายอย่างรวดเร็ว   ทั้งๆที่อารมณ์ดีแต่วันนี้กลับมีเรื่องให้อารมณ์เสียจนได้   มองไปยังผู้คนมากมายก็อดเก้อไม่ได้   เมื่อเห็นว่าคนส่วนใหญ่มาเป็นคู่แต่ตัวเองกลับต้องมารอคนที่นัดไว้วะดิบดี   แต่ดันมาสาย เคือง!!!

     

              แฮ่ๆ คีย์ ขอโทษที่มาช้าสองมือกุมเข่าไว้ เวียงหอบหายใจแรงเนื่องจากหายใจไม่ทัน   เมื่อเห็นสภาพแล้วก็อดสงสารไม่ได้

     

                    ใจเย็นๆพี่ ผม. . .ไม่มีคำใดจะเอ่ย   สาวเท้าไปประคองคนที่วิ่งมาจนหอบตัวโยน

     

                    อะ. . . พี่ให้เมื่อลมหายใจกลับมาเป็นปกติแล้ว   ก็คว้ากระเป๋าเป้ประจำตัวควานหาของข้างใน   แล้วก็ยื่นกล่องที่ดำๆให้กับคนตรงหน้า

     

                    อะไรเนี่ยคีย์รับของก็พลิกดูลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมแบนราบ   แต่ตัวกล่องสีดำด้วยผ้ากำมะหยี่ห่อหุ้ม

     

                    เปิดดูดิอนยูเร่งเร้าให้อีกฝ่ายเปิดดู   คีย์ค่อยเปิดแง้มฝากล่องออกมาก็พบว่าเป็นสร้อยคู่สองเส้นวางคู่กันอยู่

     

                    โห พี่. . . แพงน่าดูเลยสร้อยสองเส้นที่เส้นสร้อยทำด้วยทองคำขาวเพิ่มความสวยงามแบบมีสไตล์ด้วยการบิดเกลียว   ห้องจี้เงินแท้ที่ดีไซน์ตัวเป็นรูปลูกกุญแจวางอยู่บนเต้าหู้ก้อนสี่เหลี่ยมเพิ่มความน่ารัก

     

                    ให้คีย์เส้นนึง ของพี่อีกเส้นนึง มะ. . . เดี๋ยวพี่ใส่ให้อนยูว่าพลางหยิบสร้อยเส้นนึงมาให้คีย์

     

                    เดี๋ยวผมใส่ให้พี่เองคีย์ยื่นแขนไปโอบรอบคออีกฝ่ายก่อนจะติดตะขอสร้อย จบท้ายด้วยการประกบริมฝีปากดูดดุนไปที่ลำคออีกฝ่ายสร้างร่องรอยสีแดงจากการกระทำไว้

     

                    ห้ามให้ใครทับรอยผมนะใบหน้าแดงระเรื่อเขินอายกับสิ่งที่ทำ   แต่เพื่อวันๆนี้แล้ว เขายอม!!!

     

                    . . .อีกฝ่ายยังคงงงๆกับการกระทำ   คีย์เห็นแล้วอดที่จะส่ายหน้าระอานิดๆไม่ได้   เห็นเวลาอย่างนั้นล่ะหื่นจัง   เจอเขารุกครั้งเดียวถึงกับค้าง   เดี๋ยวงวดหน้าจับออนท็อปซะเลย เอ้ย! เขาคิดอะไรเนี่ย

     

                    ไปเร็ว เดี๋ยวมีเวลาเหลือน้อยนะเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงจ้องหน้าเขาอย่างเหวอๆอยุ่ก็จัดการลากแขนติดตามมาทันที   สถานที่ที่เขาจะไปไม่ใช่ที่ไหนเลย   สวนสนุกนั่นเอง. . .

     

                    หลายๆคนอาจจะงงว่าทำไมต้องมาที่สวนสนุก   แต่ที่นั่นเป็นแหล่งเก็บความทรงจำชั้นยอด   ไม่ใช่เพียง ทานข้าว ดูภาพยนตร์ แต่เป็นการกระทำอะไรร่วมกัน   ได้จดจำใบหน้าของอีกฝ่าย   ได้เห็นรอยยิ้มที่เกิดขึ้น   ได้เห็นความห่วงใย   นั่นแหละที่เขาอยากจะเก็บมันให้ลึกถึงเซลล์ที่ลึกที่สุดของหัวใจ

     

                    แม้จะเคืองที่อีกฝ่ายรักการเดทแบบธรรมดา   ต้องทำงอนอยู่หลายวันจนอีกฝ่ายยอมให้เขามาสวนสนุก   แต่เขาจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

     

                    ขอบคุณนะครับ พี่อนยู ขอบคุณทุกความรู้สึกที่พี่มอบให้กับผม ผมจะไม่มีวันลืมแน่นอน

     

    Valentine Day

     

              อยากจะเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยความสดใส แต่กลับมีมารผจญอยู่บนเตียงของเขาซะได้   แม้จะยินยอม(อย่างไม่เต็มใจ)ให้เพื่อนสนิทมานอนร่วมห้อง   แต่สภาพที่เกิดขึ้นกับเขาแทบอยากจะย้อนเวลาไปบอกปัดคำขอนั้นเสียจริงๆ

     

                    แจจิน นายช่วยยกข้าขึ้นหน่อยได้มั้ยมินโฮพยายามกล่าวเสียงออกมาอย่างยากลำบาก ทำไมนะหรอ เพราะตอนนี้ไอ้เพื่อนตัวดีเอาขาทั้งแข้งมาวางพาดอยู่ตรงหน้าอกเขาพอดี แถมเท้าอีกฝ่ายกำลังจะพยายามยื่นมาให้เขาชิมลิ้มรสอยู่แล้ว

     

                    หือ อือๆๆส่งเสียงครางอย่างรับรู้ แต่. . . ไม่มีการขยับใดๆทั้งสิ้น

     

                    เฮ้ย เอาขาออกไปมินโฮยื่นมือสะเปะสะปะเลื่อนให้อีกฝ่ายขยับออกไป จนในที่สุดก็สำเร็จสักที

     

                    ให้ตาย วันนี้มันเป็นวันวาเลนไทน์นะมินโฮหันมาตะคอกใส่แจจินที่กำลังหลับสบายละไม่อนาทรร้อนใจกับเสียงที่เกิด

     

                    มินโฮทำกิจวัตรประจำวันด้วยความไม่เร่งรีบ แถมท้ายด้วยการทำอาหารเช้าไว้เพื่อรอรับเพื่อนอย่างไอ้ดื้อที่หลับอุตุอยู่ในห้องเพียงลำพัง   ไม่ทันที่จะได้จัดเตรียมทุกอย่างพร้อมเสียงออดก็ดังขึ้นบ่งบอกถึงการมีผู้มาเยือนในช่วงเช้านี้

     

                    สักครู่ครับแม้จะแปลกใจว่าใครมา   แต่ก็ช้าไม่ได้   สาวเท้ายาวๆก้าวไปเปิดประตูเพื่อให้เห็นว่าใครมา

     

                    อ้าว แทมินเองหรอเขทำได้เพียงยืนชะงักที่หน้าประตูเท่านั้น ไม่มีคำจะพูดไปมากกว่านี้

     

                    เอ่อ. . . ผมแค่อยากจะเอาของมาให้ครับแทมินรู้สึกเก้อนิดๆเมื่อมองเห็นคนที่เขาเฝ้าใจจดใจจ่อรอคอยทำเพียงยืนอยู่เฉยๆ แม้จะเห็นแววประหลาดใจนิดๆจากแววตา   แต่กลับไม่เห็นแม้ความรู้สึกดีใจเลยสักนิด

     

                    นี่ฮะ สุขสันต์วันวาเลนไทน์แทมินหยิบยื่นกล่องช็อคโกแลตที่ทำขึ้นมาอย่างอุตสาหะให้กับมินโฮ   มินโฮเกิดความลังเลใจว่าจะรับดีหรือไม่   แต่เมื่อเห็นใบหน้าอีกฝ่ายค่อยๆเลือนรางซึ่งรอยยิ้มก็รับไว้

     

                    ขอบใจนะ แต่ทีหลังอย่าดีกว่ามินโฮเลือกที่จะกล่าวให้รับรู้ตรงๆ ไม่อยากแล้ว ที่จะทำให้ใครๆเข้าใจผิดกับคำว่า ความหวัง

     

                    ทะ... ทำไมหรอฮะเสียงที่เอ่ยตะกุกตะกักเล็กน้อย

     

                    เพราะว่าพี่มีคนที่ชอบแล้ว แทมินเลิกตามพี่เถอะนะ ถือว่าพี่ขอร้องก็ได้ แต่ขอโทษนะ พี่มีแขกอยู่ในบ้านมินโฮทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดกับในคำพูดเขา   แต่เพื่อให้นายได้เจอคนที่ดีกว่า   ฉันต้องทำ

     

                    งั้นหรอฮะยากเย็นเต็มทีกับการที่จะพูดออกมาโดยไม่ให้มีเสียงสะอื้น   น้ำตาเริ่มไหลคลอที่ตา   เจ็บหนึบที่หัวใจ   ไม่ยักรู้ว่าความรักที่เขามองว่าสวยงามจะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้   นัยน์ตาร้อนผ่าวพยายามกลั้นไม่ให้น้ำหยดใสได้ไหลลง   แม้จะไม่เหลือศักดิ์ศรีในความรัก   แต่ก็ขอเหลือไว้ซึ่งความเข้มแข็งที่จะยอมรับด้วยเถอะ

     

                    นายลองมองไปที่คนข้างหลังนายบ้างเถอะ บางทีอาจะมีคนที่ดีกว่าพี่ ขอตัวนะมินโฮกล่าวจบก็รีบปิดประตูทันที   ไม่อยากที่จะจ้องมองอีกฝ่าย   ความสงสารมันท่วมล้นหัวใจ   แต่เขารู้ดีว่าความสงสารที่ให้มันอาจจะกลายเป็นความหวังลมๆแล้งของอีกฝ่ายได้

     

                    แทมินปลดปล่อยให้น้ำตาไหลลงคลอรอบดวงตา   แม้จะเจ็บที่อีกฝ่ายบอกปฏิเสธ   แต่ทำไมต้องยัดเยียดเขาให้คนอื่น   ไม่มีใครห้ามใจที่ตัวเองรักได้หรอก   ต่อให้พยายามทั้งชีวิตนี้ก็ตาม

     

                    การหันกลับไปมองคนอื่นมันก็คือ เรื่องยาก

     

                                    แต่การที่จะให้ตัดใจจากคนข้างหน้า มันเป็นเรื่องที่ยากกว่าเรื่องยากซะอีก

     

                    แล้วอย่างนี้ เขาจะทำทั้งสองเรื่องที่ยากต่างกันนี้ได้อย่างไร

     

    Valentine Day

     

    End ofValentine Day

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×