คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : Someone I Can Love
Chapter 1
Someone I Can Love
คุณคิดว่า ระหว่าง . . . คนที่เรารัก . . . กับ . . . คนที่รักเรา
คุณจะเลือกใคร ? . . .
บางครั้ง ผมก็ไม่อาจจะอธิบายได้ว่า ทำไมผมถึงรู้สึกโหวงๆ
เหมือนขาดอะไรไป . . .
(Choi Minho’s Part)
เช้าวันนี้อากาศยังคงแย่เหมือนเดิมในสายตาผม แม้คนอื่นจะมองว่ามันดีกว่าเมื่อหลายวันก่อน แต่ถ้าไม่ใช่ดีที่สุดแล้ว สำหรับผม มันก็คือแย่นั่นเอง ท้องฟ้าที่ควรจะเป็นสีฟ้ากลับขมุกขมัว แต่งแต้มด้วยที่เทาทึบบ้าง บางบ้าง แต่ก็แปลกที่ผู้คนรอบกายผมส่วนใหญ่กลับมีรอยยิ้มสวยงามบนใบหน้าเสมอ ราวกับว่าไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนใด หากเป็นรอยยิ้มทั่วไปผมคงจะไม่พูด แต่กลับเป็น . . . รอยยิ้มที่ผมไม่เคยมี
ผมเดินทอดน่องตามริมฟุตปาทอยู่เพียงลำพัง สองหูของผมไม่ได้ยินอะไรเลยนอกจากเสียงเพลงเร้าอารมณ์ที่ผมเสียบหูฟังอยู่ ทำนองเพลงที่คุ้นเคยแต่ผมกลับร้องไม่ได้ . . . ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ผมเดินทอดอารมณ์อย่างเรื่อยเปื่อยสายตายังคงมองไปรอบข้างเสมอ และผมก็คิดว่า ผมน่าจะเดินกลับมากกว่ารอให้ฝนตก เพราะอย่างไรวันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นวันที่ผ่านๆมา
“เฮ้!!! นั่น . . . มินโฮใช่ไหม?”เสียงเรียกที่ทักชื่อผมดังมาจากทางด้านหลัง เสียงๆนี้ เสียงที่ผม . . . จำขึ้นใจ
“ว่าไง . . . นายจะไปไหน?”เจ้าของร่างบางที่มีใบหน้าที่น่ารัก ผมเองไม่อาจจะบอกได้ว่า สวย หรือ ว่าหล่อ แต่เท่าที่ผมมองดู . . . ทุกอย่างคือความลงตัวของคนๆนี้
“ผมมาเดินเล่น . . . แล้วคีย์ล่ะ”ผมถามกลับไปโดยลืมไปว่า . . . ผมมีคำตอบนั้นอยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว
“เหมือนเดิมน่ะ มาดูพี่อนยูซ้อมร้องเพลง นายก็รู้อยู่แล้วนี่นา”นั่นสิ . . . รู้อยู่แล้ว . . . จะถามให้เจ็บทำไม??
“นายนี่ . . . คิดยังไงน้า มาเดินเล่นตอนฝนใกล้จะตก อยากจะโดดเรียนอย่างมีเหตุผลรึไง”คีย์ถามกระเซ้ามินโฮอย่างไม่ได้จริงจังอะไร แต่ก็อดที่จะทำให้คนร่างสูงเข้าข้างตัวเองหน่อยๆไม่ได้
“เป็นห่วงผมรึไง ฮ่าๆๆ . . . ล้อเล่น ก็แค่ . . . แบบว่า มันเบื่อๆน่ะ”ผมรีบกลับคำพูดเมื่อเห็นอีกฝ่ายตวัดสายตามอง อันที่จริงจะโกรธไหม . . . ถ้าผมบอกว่าไม่ได้มาเดินเล่น แต่มาเพื่อสอดส่องคอยมองหาร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่จากปฏิกิริยาเมื่อสักครู่ . . . ปิดปากไว้น่าจะเป็นการดีเสียกว่า
“งั้น เราก็เดินเล่นไปด้วยกันดีไหม เผื่อว่านายจะหายเบื่อไง ไปกันเลย ย้าฮู้ ฮ่าๆๆ”คีย์ส่งเสียงคึกคักพร้อมกับชูกำปั้นขึ้นมาอดที่จะทำให้ผมหัวเราะไม่ได้
รอยยิ้มนี้ไม่เหมาะกับใครไปมากกว่านายหรอก คีย์ . . .
Someone I Can Love
คุณว่าแปลกไหม?? คนที่เรารัก . . . มักจะรักคนอื่น
แต่ในขณะเดียวกัน คนที่รักเรา . . . เราก็ไม่มอง
เพราะ . . . เราก็รักคนอื่นอยู่เหมือนกัน . . .
โลกใบนี้ ก็แปลกดีเหมือนกันแฮะ . . .
“หอมจังเลยอ่ะ . . . แทมิน”จงฮยอนทจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นหอมที่ลอยตามอากาศ . . . คงไม่พ้นฝีมือแทมินแน่นอน
“อ้าว พี่จงฮยอนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะ”แทมินที่มัวแต่ยุ่งๆอยู่กับการทำขนม ทำให้ไม่ได้สังเกตว่ามีผู้เข้ามาเพิ่มเติม
“ตั้งนานแล้ว มัวแต่ทำขนมไม่สนใจพี่เลยนะ งอนแล้ว”จงฮยอนทำเสียงกระเง้ากระงอดชวนให้แทมินหัวเราะอย่างอดไม่ได้ เจอมาบ่อยก็ยังไม่ชิน
“โอ๋ๆๆ ผมก็สนใจพี่แล้วไง แล้วนี่ . . . พี่มาตามหาพี่คีย์หรอฮะ พี่คีย์ไม่ได้มาที่นี่นี่นา”แทมินพยายามนึก หวังว่าเขาตงไม่ได้ทำขนมจนไม่ได้เห็นว่าพี่คีย์มาที่นี่ใช่ไหม จงฮยอนที่นั่งมองอยู่กลับมองเห็นเพียงความน่ารักของแทมินที่ฉายออกมา ลืมหมดแล้วที่แกล้งงอน ลืมหมดแล้วที่ถามไป . . .
“ไม่เป็นไร พี่ไม่ได้มาตามหาคีย์หรอก มานั่งเล่นนะสงสัยคีย์คงไปนั่งเฝ้าพี่อนยู . . . พี่ชายของเราน่ะแหละ เดี๋ยวนี้ทำอะไรตัวติดกันตลอด ไม่รู้พี่อนยูจะหวงอะไรนักหนา”จงฮยอนบ่นออกมา หลังจากที่พักหลังน้องชายของเขา กลายเป็นคนตัวติดกันกับพี่ของแทมินซะงั้น เขาที่เป็นพี่ชายแท้ๆไม่สนใจ ไปสนใจพี่ชายคนอื่น
“พี่จงฮยอนไม่รู้หรอครับ พี่คีย์คบกับพี่อนยูแล้ว”เด็กน้อยที่โกหกไม่เป็น แทมินเฉลยความลับทุกอย่างเท่าที่รู้มา เรื่องนี้ . . . ไม่มีใครบอกให้เขาเก็บเป็นความลับนี่นา ก็แปลว่าบอกได้น่ะสิ . . .
“ห๊า . . . ตั้งแต่เมื่อไหร่”จงฮยอนหน้าเสียทันทีที่ได้ฟังคำตอบ
“ก็ตั้งแต่ที่พี่อนยูแข่งร้องเพลงพลาดน่ะครับ เห็นวันรุ่งขึ้นก็คบกันเลย”แทมินเริ่มกลัวคนที่อยู่ๆข้างกาย ตัดสินใจค่อยๆหันกลับไปทำขนมต่อ เขาเพียงแค่รอให้ช็อคโกแลตเย็นแค่นั้นเอง
“ก็จะสองเดือนแล้วสิ ทำไมฉันไม่สังเกตว่ะ ว่ามันแปลกๆไป ก็เห็นแค่คีย์ไปปลอบพี่อนยู คบกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!!!”จงฮยอนสบถด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แทมินที่ยืนทำขนมอยู่สะดุ้งสุดตัว เผลอทำช็อคโกแลตร้อนๆโดนมือ
“โอ้ย!!!”แทมินสะบัดเร้าๆเผื่อที่จะทำให้หายเจ็บ แต่นั่นก็ไม่ช่วยอะไรเลย จงฮยอนที่รู้สึกกลับกระวนกระวายมากกว่า
“ล้างมือก่อนแทมิน มา เดี๋ยวพี่ช่วย”ว่าแล้วจงฮยอนก็จัดการลากร่างบางไปยังซิงก์ล้างมือ ค่อยล้างคราบช็อคโกแลตออกก่อนจะสังเกตว่ามาอาการพองบ้างรึเปล่า
“โชคดีที่ไม่พองมาก งั้นเอาแค่ยาสีฟันทาๆก่อนล่ะกันนะ”จงฮยอนบีบยาสีฟันค่อยๆทาให้ร่างบางเบาๆ
“พี่ถามอะไรได้มั้ย”จงฮยอนสบตาแทมินที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา
“อะไรหรอฮะ”
“ช็อคโกแลตนั่น แทมินทำ . . . ให้ใครหรอ”
“อ๋อ เอ่อ . . . ผมทำให้ เอ่อ . . . พี่มินโฮ น่ะฮะ”แทมินตอบด้วยหน้าตาที่แดงก่ำ แต่จงฮยอนกลับรู้สึกเจ็บปวดกับคำตอบซะมากกว่า นั่นสิ . . . ก็พอจะเดาได้อยู่แล้ว อีกไม่กี่วันก็วาเลนไทน์แล้ว แทมินจะให้คนอื่นได้ไง . . . ในเมื่อมีคนที่ชอบมากว่าสองปีแล้ว
“อ้อ เอ่อ . . . แทมิน พี่ขอกลับก่อนนะ เผอิญว่าพี่มีธุระต่อ ยังไงก็ฝากบอกคีย์ด้วย ว่าพี่ไม่โกรธหรอกที่คบกับใคร พี่เข้าใจ เอาเป็นว่าพี่กลับก่อนนะ บาย”จงฮยอนบอกลาก่อนจะเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงแทมินที่ยังคงงงกับท่าทีของจงฮยอน
ไม่รู้ทำไม . . . หัวใจเจ็บจนไม่อาจจะบรรยายได้ ไม่รู้ทำไม . . . ถึงรู้สึกเจ็บ ทั้งๆที่ไม่มีใครมาทำร้าย เมื่อไหร่ไม่รู้ที่หลงรักร่างบางคนนั้น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะตัดใจได้ ต้องทนเจ็บอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่ เตือนตัวเองมากี่รอบ ว่าเขามีตัวจริงอยู่แล้ว ก็รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีใครแทนที่ใครได้ แต่ทำไมยังพยายามทำอยู่ . . .
ไม่เข้าใจจริงๆ . . .
ไม่เคยเข้าใจเลยแม้สักนิด ความรักเล่นตลกอะไรอยู่ . . .
Someone I Can Love
“มินโฮ ตอนนี้นายยังร้องเพลงอยู่รึเปล่า”อยู่ดีๆคนที่เดินเล่นเป็นเพื่อนมินโฮก็ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“ไม่แล้วล่ะ”มินโฮตอบพร้อมกับจ้องหน้าอีกฝ่าย ร่างบางที่ถูกจ้องหน้าก็ทำอะไรไม่ถูก เสหลบตาไป
“ทำไมล่ะ”อดสงสัยไม่ได้จริงๆ ตั้งแต่ที่แข่งร้องเพลงครั้งล่าสุด มินโฮก็คว้าอันดับหนึ่งมาครองแท้ๆ ทำไมไม่ร้องเพลงต่อ . . .
“แล้วที่ถามเนี่ย มีอะไรรึเปล่า”
“ก็ไม่ทำไมหรอก แค่อยากรู้เฉยๆ”คีย์หันกลับไปแล้วสาวเท้าก้าวเดินต่อ
“อยากรู้จริงๆหรอ มองตาผมสิ อาจจะรู้ก็ได้”มินโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงติดเล่น แต่ตัวเขาเองรู้ดีที่สุด ที่พูดหมายความเช่นนั้นจริงๆ
“ล้อเล่นหรอ ไหนมองตาหน่อยสิ”คีย์ที่เข้าใจว่ามินโฮพูดเล่น หันไปสบตากับมินโฮจริงๆ
บางครั้ง สิ่งที่ไม่อาจจะแทนค่าด้วยคำพูด กลับเผยออกมาเพียงชั่ววินาทีด้วยการกระทำ
ไม่ยากนักที่จะเห็นมัน แต่ยากยิ่ง . . . ที่จะเข้าใจ
“ . . . ”ทั้งคู่ตกอยู่ในภวังค์ ในสายตาไม่อาจจะมองเห็นสิ่งที่อยู่รอบกายได้ เพียงเพราะสายตากลับจ้องมองคนที่อยู่ตรงหน้า ความรู้สึกทั้งหมดถูกถ่ายทอดออกมา หวังเพียงแค่คนที่เห็นจะเข้าใจมัน ไม่มาก . . . ก็น้อย . . . แค่นั้นเอง แค่นั้นจริงๆที่ขอ
พลั่ก! ! ! ทั้งคู่สะดุ้งจากภวังค์ ตื่นได้แล้ว . . . ความฝัน อย่างไรก็ไม่มีจริง
“ขอโทษค่ะ”เสียงจากผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินชน กล่าวคำขอโทษแล้วจากไปทันที ทิ้งไว้เพียงคนที่ถูกชนอย่างมินโฮเก้อ คีย์แสร้งหัวเราะขำกับท่าทีของมินโฮ ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่ามินโฮคิดอย่างไรกับเขา แต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่ารักพี่อนยู ก็น่าจะตัดใจได้แล้วนะ
“ขำอะไร”มินโฮทำเสียงหาเรื่อง รู้ว่าเปลี่ยนเรื่อง . . . แต่ไม่เคยมีใครขัดใจคนที่เรารักได้หรอก ไม่มีจริงๆ
“เปล๊า”คีย์ทำเสียงสูงเป็นการปฏิเสธ ก่อนจะออกวิ่งนำหน้ามินโฮไป
“ตามให้ทันนะมินโฮ แบร่”ไม่วายหันกลับมากระเซ้าเหย้าแหย่คนที่ถูกทิ้งอยู่ข้างหลัง มินโฮส่ายหน้าเบาๆกับตนเอง ก่อนจะสาวเท้าก้าวตามร่างบางไป ขาสั้นๆแบบนั้น คนอย่างเขาแค่เดินตามก็ถึงแล้ว
‘อยากรู้ใช่มั้ยคีย์ ทำไมผมถึงไม่ร้องเพลง จะมีใครบ้างที่ร้องเพลงได้ . . . โดยไม่มีคีย์ ในเมื่อผมไม่มีคีย์ ไม่รู้คีย์ ผมก็คงไม่อาจจะร้องเพลงได้ แล้วที่คีย์วิ่งหนีผมอย่างที่ทำในวันนี้มันสื่อว่าอะไรรู้ไหม สื่อว่า . . . ผมต้องตามคีย์ตลอดไปไง ไม่ยากที่จะเห็น แต่ยากที่จะเข้าใจ คนที่บอกว่าเข้าใจ แท้จริงแล้ว . . . ไม่เคยเข้าใจอะไรเลยต่างหาก’
Someone I Can Love
“พักสิบนาทีก่อนนะ จินกิ เดี๋ยวครูมา”ผู้หญิงมีวัยคนหนึ่งกล่าวจบก็เดินออกจาห้องไป ทิ้งไว้เพียงเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่ยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ดังเดิม เมื่อเห็นร่างของครูสาวลับตาไป มือหนาก็ควักโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าเสื้อมาเป็นการด่วน นิ้วเพรียวยาวกดเลขหมายที่จำได้ขึ้นใจ แล้วกดโทรออกทันที
-กำลังเชื่อมต่อ My Key-
/“ว่าไง พี่อนยู”/เสียงที่ร่าเริงทักมาตามสายทั้งๆที่รอสายไม่นาน
“ไม่ว่าไง แล้วเราน่ะ อยู่ไหน”อนยูถามเจ้าของเสียงร่าเริงที่ฟังดูแล้วเหมือนหัวเราะอยู่กับใคร
/“ตอนนี้ผมอยู่ที่สวนสาธารณะ เมื่อไหร่พี่จะซ้อมร้องเพลงเสร็จสักทีล่ะ เราจะได้ไปกินอาหารฝีมือแทมินกัน”/ปลายสายเริ่มกระเง้ากระงอด
“อีกเดี๋ยวก็เลิกแล้วล่ะ ว่าแต่ตอนนี้คีย์อยู่กับใครหรอ”อนยูยิ้มขำๆกับเสียงของอีกฝ่ายที่ฟังดูแล้วเหมือนเด็กเล็กๆมากกว่าเด็กม.ปลายซะอีก
/“ตอนนี้ผมอยู่กับเพื่อนผมไง ที่ชื่อมินโฮน่ะ พี่จำได้ไหม”/รอยยิ้มเริ่มจางหายไปจากหน้าของอนยู มินโฮ . . . นี่นายอีกแล้วหรอ
“จำได้สิ ว่าแต่คีย์จะกลับเมื่อไหร่ ให้พี่ไปรับไหม”
/“อืม . . . ไม่ต้องดีกว่า มินโฮบอกว่าจะเดินไปส่งผม พี่ก็รีบๆกลับล่ะ”/ร่างบางหาข้ออ้างทันที อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ต้องการให้คนที่เรารัก . . . เหนื่อย
“อืม ถ้าพี่กลับไปถึงก่อนคีย์ คีย์โดนทำโทษแน่”
/“พี่อ่ะ งอนแล้ว”/ปลายสายกดตัดสายทิ้งอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่อนยูกำลังกังวลกลับไม่ใช่เรื่องที่คนรักงอน แต่กลับเป็น . . . คนที่คีย์อยู่ด้วย
‘นายเป็นโรคจิตอะไร ถึงได้มายุ่งกับทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน เรื่องของแทมินยังไม่ทันจบ นายยังจะมายุ่งกับคีย์ของฉันอีกงั้นหรอ ฉันตัดสินใจไม่บอกความจริงกับแทมินก็ดีแค่ไหนแล้ว นายนี่ . . . ไม่รู้จะเข็ดหลาบนะ
!!!’
ความจริงของวันนั้น ไม่ใช่อะไรเลย เพียงแค่วันนั้นเขาไม่ได้ร้องเพลงพลาดอย่างที่บอกกับแทมิน แต่ไม่ได้ขึ้นร้องเพลงเลยต่างหาก วันนั้นเป็นวันที่แทมินประสบอุบัติเหตุ . . . ถูกรถชน เขาได้รับโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาล เพราะพ่อแม่ของเขาทำงานที่ต่างประเทศ เขากระวนกระวายแทบตายและตัดสินใจไปที่โรงพยาบาล แต่ไอ้คนที่น้องของเขารัก กลับกลายเป็นว่าไม่สนใจ แล้วตอกหน้าเขาด้วยคำพูดอันเจ็บแสบ
‘ผมไม่ได้เป็นอะไรกับแทมิน และไม่ได้ขอร้องให้น้องชายพี่มารักผมด้วย ไปหาแทมินเถอะครับ ไม่ว่ายังไงผมก็จะแข่งต่อ’
‘ยังไง แกก็เป็นคนที่ฉันไม่มีวันให้อภัย ไม่มีวัน!’
Someone I Can Love
End of
Someone I Can Love
นั่งมองจำนวนคอมเม้นท์ แล้วเศร้าใจ
ขอคอมเม้นท์เยอะได้มั้ยอ่า
ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรืออยากได้จำนวนคอมเม้นท์นะ
แต่อยากจะรู้ว่าคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้
รู้สึกยังไงบ้าง แบบนี้อ่ะค่ะ
ขอบคุณนะค่ะที่เข้ามาอ่าน
ป.ล. สงกะสัยว่าทำไมหลายๆคนบอกงง (เริ่มกังวล)
ลองอ่านเนื้อเรื่องไปเรื่อย อินโทรก็จะเข้าใจตามหลังนะคะ (หวังว่างั้น)
คนแต่งโง่เองค่ะ
คิดจะทำโพลสำรวจว่าจะให้เรื่องนี้เป็นยังไง แต่ไว้ก่อนเนอะ อ่านไปเรื่อยๆ
แล้วเราค่อยมาดูกันเนอะ
รักคนอ่านค่ะ ขอบคุณจริงๆที่เข้ามาอ่านค่ะ แม้อาจจะเข้ามาดูๆเฉยๆ
ก็ดีใจแล้ว
จะไม่มีคนเขียนคนนี้ ถ้าไม่มีคนอ่านอย่างพวกคุณค่ะ ^ ^
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
ความคิดเห็น