คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ขอโทษที ผมมันงี่เง่า
บทที่ 17
ขอโทษที ผมมันงี่เง่า
“ขอบคุณที่มาส่ง”ฮันกยองบอกพร้อมกับเปิดประตูไม่วายหันไปออกคำสั่งกับอีกคน
“ลงมาเลย คุณน่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”สะกิดบอกคนข้างหน้า คยูฮยอนที่ได้ยินถึงกับเสียววาบอีกครา งวดนี้ตูทำอะไรให้ไม่พอใจเปล่าหว่า
“ไม่เอาหรอก ผมง่วงนะ จะกลับบ้าน”คยูฮยอนแกล้งทำเสียงสะลึมสะลือ กับดวงตาที่ปรือเต็มที
“เชื่อคุณก็บ้าแล้ว เมื่อกี้นี้ตาใสแจ๋วเลย มาทำเป็นง่วง ลงมาๆ”ฮันกยองบอกอย่างคนรู้ทัน คยูฮยอนได้แต่จิ๊ปากขัดใจ ในใจนึกเกลียดคนรู้ทัน
“โหย ผมก็เริ่มง่วงแล้วเนี่ย”คยูฮยอนยังโอดครวญไม่เลิก
“จะให้จบวันนี้ หรือจะให้ผมไปเคลียร์ที่ห้องคุณวันพรุ่งนี้ดีครับ”ฮันกยองยื่นคำขาด
“ก็ได้ แต่...ผมให้เวลาแค่ห้านาทีพอ”คยูฮยอนอิดออด ห้านาทีก็น่ากลัวเกินพอแล้ว
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น จะลงมาดีๆหรือลงมาทั้งน้ำตา เลือกเอา”ฮันกยองทำเสียงขู่ แต่นั้นก็ได้ผลเพราะคยูฮยอนยอมลงมารถแม้จะไม่เต็มใจเลยก็ตาม
“แล้วเดี๋ยวเจอกันที่บ้านนะ คยู”คิบอมส่งเสียงยั่วเย้าคยูฮยอน ก่อนจะขับรถหนีไปอย่างลอยนวล ทิ้งไว้ให้เจ้านายกับเลขาฯสนทนากันตามลำพัง
“สรุปว่ามีอะไร”คยูฮยอนถามหลังจากที่ก้าวลงมาจากรถ
“นี่คุณไม่มีผู้หญิงมาให้บริโภคเลยรึไง ถึงต้องมาหาบริการจากสาวมหาลัยแบบนี้”ฮันกยองไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่มีการชักแม่น้ำทั้งมาห้ามาอภิปราย
“จะบ้ารึไงคุณ ถึงผมจะหน้าตาดีแต่ก็ไม่ได้เอาไม่เลือกหน้านะคุณ”คยูฮยอนโวยวายทันที ก็แน่แหละ เขาตั้งปณิธานกับตัวเองแล้วว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเลือกผู้หญิงที่ดีที่สุดอยู่แล้ว
“งั้นหรอ ถ้างั้นคุณช่วยอธิบายทีว่า คุณมาที่นี่ทำไม!”
“ก็อยากจะอธิบายอยู่หรอกนะ แต่ผมได้ข่าวว่า ผมเป็นเลขาฯของคุณ ไม่ใช่เมีย ไม่ใช่ลูก”คยูฮยอนเชิดริมฝีปากอย่างคนไม่พอใจที่ต้องถูกบังคับ
“งั้นผมก็ต้องให้คุณเป็นเมียก่อนงั้นสิ คุณถึงจะบอกผมทุกเรื่อง”ฮันกยองเริ่มโมโหจนตัวสั่น แน่แหละ เขาไม่เคยเลยที่จะถูกใครดื้อรั้นกับเขา เพราะกับที่บ้านแล้วเขาก็เป็นเหมือนหัวหน้าครอบครัว เขาสั่งเท่ากับทุกคนต้องทำ
“ฝันไปรึเปล่าครับ คุณเจ้านาย ผมไม่ไปเป็นเมียใครง่ายๆหรอก และที่สำคัญ ผมไม่คิดที่จะไปเป็นเมียใครให้คนเขาหยามน้ำหน้าหรอกนะ”พูดไป คยูฮยอนก็รู้สึกผิดไป เมื่อใจกระหวัดถึงพี่ชายอย่างลีทึก
“งั้นคุณก็คงต้องตื่นจากฝันเร็วๆนี้แหละ”ฮันกยองโกรธจนเลือดขึ้นหน้า กระชากคนตรงหน้าเข้ามาจูบอย่างดุดัน เขายอมรับว่า ใจหนึ่งบอกกับเขาว่าที่ทำอย่างนี้เป็นเพราะโกรธ แต่อีกใจหนึ่งก็ส่งเสียงบอกเขาว่ามันเป็นเพราะเขากำลังหวงและห่วงคนตรงหน้าที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง อย่างเช่นการเดินเข้าไปในสถานบริการที่มีฉากบังหน้าเช่นนั้น หากมีตำรวจมาตรวจสอบล่ะก็...เขานึกสภาพคนตรงหน้าไม่ออกเลยทีเดียว
ผลั่ก!!
ร่างบางในอ้อมแขนผลักคนที่สวมกอดตนออกอย่างรุนแรง ดวงตาฉายแววโกรธระคนเสียใจกับการกระทำที่คนตรงหน้าทำต่อตนเอง
“ถึงผมจะเป็นลูกน้องที่อยู่ในการปกครองของคน ก็ไม่ได้แปลว่าร่างกายของผมเป็นของคุณ ต้องการนักก็เดินไปหาบริการในนั้นเอาเถอะ”แม้ในใจจะโกรธแทบระเบิดออกมา แต่เสียงที่เอ่ยกับคนตรงหน้าช่างเยียบเย็นเสียจนน่าใจหาย
“ขอโทษ... ผม...”ฮันกยองรู้ดีว่าในสถานการณ์แบบนี้คำว่า ขอโทษ มักจะคำพูดที่น่าถีบมากที่สุด เขาเคยด่าละครหลายเรื่องที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วพูดคำว่าขอโทษ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า ทำไมถึงต้องเป็นคำนี้ ก็เพราะมันนึกคำอื่นไม่น่ะสิ!!!
“กองมันไว้ตรงนั้นแหละ ผมไม่ต้องการ หมดธุระเรื่องที่จะคุยแล้วใช่มั้ย ผมจะกลับบ้าน”คยูฮยอนยังคงใช้เสียงอันน่ากลัวกับสถานการณ์นี้เช่นเคย
“เดี๋ยวผมไปส่ง”ฮันกยองกุลีกุจอเปิดประตูรถให้ แต่คยูฮยอนกลับดับความพยายามของเขา
“ไต้อง ผมไปเองจะดีกว่า”คยูฮยอนสาวเท้าเดินออกไปริมฟุตบาท โบกรถแท็กซี่อย่างรวดเร็ว
“ผมบอกว่าเดี๋ยวผมไปส่งไง ฟังภาษาคนรู้เรื่องมั้ย คุณ!!!”ฮันกยองกระชากแขนคนที่กำลังก้าวขึ้นรถแท็กซี่
“ขอโทษทีครับ แต่ไม่ต้องแล้ว”ฮันกยองหันไปสื่อสารกับคนขับรถแท็กซี่ พลางยื่นเงินส่วนหนึ่งให้คนขับ
“คุณ ทำแบบนี้ทำไมเนี่ย”คยูฮยอนแสดงอาการหงุดหงิดออกมาเต็มที่ ตามนิสัยลูกคนเดียว
“ไปกับผม”ฮันกยองลากแขนคยูฮยอนพลางจับเลขาฯตัวดียัดใส่รถทางฝั่งคนขับ เพื่อเป็นการป้องกันการพยายามหนีของเลขาฯ
“เขยิบไปนั่งฝั่งโน้นสิ”ฮันกยองออกคำสั่งอีกครั้ง คยูฮยอนขัดใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ออกอาการกระฟัดกระเฟียดทำตามคำสั่งที่ได้รับเท่านั้น
“จะให้ผมไปส่งที่ไหน”ฮันกยองเอ่ยปากถามคนที่นั่งข้างๆที่เงียบเสียงมาตลอดทาง
“...”คยูฮยอนตั้งใจรวนโดยการทำสงครามประสาทกับฮันกยอง
“ดี ไม่ตอบ งั้นไปบ้านผมล่ะกัน”ฮันกยองบอกเสียงเรียบ ในใจนึกกระหยิ่มยิ้มย่องที่เลขาฯตัวดีมัวแต่ทำเป็นหยิ่ง
“เฮ้ย!!! ผมก็จะกลับบ้านผมสิ”คยูฮยอนโวยวายตามนิสัย ลืมตัวเองไปว่ากำลังทำสงครามเย็นกับร่างสูงอยู่
“พูดได้แล้วหรอ นึกว่าเป็นใบ้ แต่ยังไงก็เถอะ สายไปแล้วล่ะ คุณเลขาฯ”ฮันกยองขับรถเบี่ยงเลนที่จะมุ่งไปทางบ้านตัวเองอย่างรวดเร็วแทนที่จะไปบ้านของคยูฮยอน
“เฮ้ย...”คยูฮยอนทำได้เดพียงอ้ำๆ อึ้งๆกับการกระทำแบบเผด็จการ แต่ที่แน่ๆ เขาต้องหาทางหนีทีไล่ซะก่อน มัวแต่มานั่งช็อคค้าง มีหวังโดนข่มขืนแน่เรา อ๊ากกกกกกก
“เข้ามาด้านในสิ”ฮันกยองบอกหลังจากที่เลี้ยวรถมาจอดในตัวบ้าน คยูฮยอนสอดส่องสายตาเพื่อตรวจสอบทางหนีทีไล่แล้วก็สรุปได้ว่า เจ้านายของเขาเป็นพวกมีรสนิยม แต่ก็ออกแนวสมถะเล็กน้อย เนื่องจากตัวบ้านเป็นทาวน์เฮาส์ธรรมดา แต่การตกแต่งด้านในนั้นนับว่าระดับมืออาชีพทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเรือน หรือแม้แต่แผนผังบ้าน เพราะดูๆแล้วมันไม่ใช่บ้านแบบสำเร็จรูปทั่วไปแน่ๆ
“นี่คุณ ผมอยากกลับบ้าน”คยูฮยอนแสร้งยื่นคำขาด
“ผมรู้ แต่คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม เมื่อวันนี้เราก็ไม่ได้ไปทำงาน ผมต้องการให้คุณช่วย เพราะงานนี้มันงานด่วน ผมมีประชุมช่วงเช้าวันจันทร์ ผมทำคนเดียวไม่ทัน ไม่งั้นผมก็ไม่ลากคุณมาหรอก”ฮันกยองเลือกที่จะอธิบายเหตุผลให้ฟังอย่างชัดแจ้งในที่สุด
“บอกมาตั้งแต่แรกก็เข้าใจแล้ว”คยูฮยอนบ่นพึมพำ
“แล้วอีกเรื่อง ผมขอโทษที่ทำแบบนั้นไป คือ...”ฮันกยองพยายามนึกคำพูดที่จะพูดต่อ แต่ในหัวของเขากลับว่างเปล่า
“ช่างเหอะ แต่อย่าทำแบบนั้นอีกแหละกัน ผมไม่ชอบ”คยูฮยอนออกอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังจะพูดอะไร
“งั้นเรามาเริ่มงานกันเถอะ”ฮันกยองรีบเปลี่ยนเรื่อง เพื่อให้คนตรงหน้าเปลี่ยนอารมณ์เช่นกัน ฮันกยองเดินนำไปยังห้องทำงานที่เขาเลือกจะให้มันอยู่ชั้นล่าง แทนที่จะอยู่ชั้นบนแบบคนอื่นๆ
“ห้องรกหน่อยนึงนะ”ฮันกยองบอกอย่างอายๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วสิ่งที่ปรากฏต่อตาของคยูฮยอนก็คือความรก!!! ไม่อยากจะบอกว่ามันรกแค่ไหน แต่เรียกกว่า แทบจะหาที่นั่งไม่ได้ แม้ที่จะเหยียบเท้าเข้าไปยังจะไม่มีเลย
“ผมรู้นะว่าคนโสดมักจะเป็นแบบนี้ แต่นี่มันเกินไปรึเปล่าคุณ”คยูฮยอนบอกทั้งๆที่ยังไม่สาวเท้าเข้าไปในห้องด้วยซ้ำ
“ผมรู้ แต่ว่าอาทิตย์นึงจะมีวันเดียวที่ผมได้นอนในห้องนอนก็คือวันเสาร์ ส่วนใหญ่ผมก็กิน นอน ทำงานในห้องนี้นี่แหละ”ฮันกยองอธิบายเหตุผลของความรกที่บังเกิด
“แต่ก็ช่วยทำให้เหมือนห้องของคนหน่อยก็ไม่ได้”คยูฮยอนบ่นไม่เลิก
“งั้นเอาอย่างนี้ เดี๋ยวเราไปทำงานในห้องรับแขกล่ะกัน คุณไปรอที่ห้อง เดี๋ยวผมขนของออกไป”ฮันกยองบอกแล้วหายลับเข้าไปในห้องที่กองรกๆอย่างรวดเร็ว คยูฮยอนส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา ก่อนจะแยกตัวไปรอที่ห้องรับแขก
“เดี่ยวคุณช่วยตรวจเอกสารตรงนี้ เผื่อมีอะไรผิดพลาด แล้วเดี๋ยวส่งมันมาให้ผม”ฮันกยองส่งแฟ้มในมือให้ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงกับพื้น เปิดแล็ปท็อปเพื่อใช้งาน หลังจากนั้นก็มีเพียงเสียงพลิกกระดาษ เสียงรัวคีย์บอร์ด เสียงลมหายใจ และเสียงจากเครื่องปรับอากาศเท่านั้น
“ฮ้าว เฮ้อ”คยูฮยอนบิดขี้เกียจหลังจากเงยหน้ามาพักสายตาจากเอกสารที่ตอนนี้ลดลงไปจากปริมาณเดิมค่อนข้างเยอะทีเดียว
“เอาน้ำอะไรไหมคุณ”ฮันกยองเงยหน้ามองตามเสียงหาวหวอดนั้น พลางถามอย่างมีน้ำใจ
“ขอกาแฟล่ะกันครับ”คยูฮยอนบอกสิ่งที่ต้องการอย่างง่ายดาย ไม่ใช่อะไร แต่เป็นเพราะว่าเขาไม่ต้องการเสียพลังงานที่มีอยู่น้อยนิดไปกับการต่อปากต่อคำกับเจ้านาย ฮันกยองลุกไปยังเคาน์เตอร์บาร์เพื่อชงกาแฟให้คยูฮยอนและตัวเขาเอง เพราะตอนนี้เขาก็ล้าเหมือนกัน
“กาแฟมาแล้วคุณ”ฮันกยองพยายามประคองถ้วยกาแฟสองถ้วยไม่ให้เกิดการกระฉอกออกมา แต่แล้วสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาหลังจากที่วางแก้วก็คือ เลขาฯของเขาหลับไปแล้วนั่นเอง
“เฮ้อ เด็กหนอเด็ก”ฮันกยองว่าพลางหันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืน และกำลังจะเข้าวันใหม่ในไม่ช้า ฮันกยองมองตามความยาวโซฟาที่เขาคิดว่ายังไงก็ไม่พอให้คนตรงหน้าได้นอนอย่างสบายแน่นอน
“คุณๆ ไปนอนข้างบนไป จะได้สบาย”ฮันกยองสะกิดคนตรงหน้า มีเพียงเสียงตอบรับกับคำพูด แต่ไม่มีการกระทำตามแต่อย่างใด
“เฮ้ย คุณ ไปนอนข้างบน”ฮันกยองพยายามสะกิดเรียกคนที่นอนไม่ได้สติอีกครั้ง
“งั้นก็นอนข้างล่างไปล่ะกัน”ฮันกยองบอกกับคยูฮยอนที่ยังคงหลับอยู่ อย่าคิดเลยว่าเขาจะเป็นคนดีขนาดที่จะแบกคนอื่นขึ้นไปนอน ยิ่งกับผู้ชายด้วยกันแล้วล่ะก็...ฝันไปเถอะ มันเป็นการกระทำที่เรียกได้ว่าเตี้ยอุ้มค่อม เขาไม่กล้าที่จะอุ้มคนที่มีขนาดเท่ากับตัวเองหรอก
“ราตรีสวัสดิ์นะ คุณเลขาฯ”ฮันกยองเอาผ้าห่มที่เขาเดินขึ้นไปเอาที่ห้องมาห่มให้คยูฮยอน บอกกล่าวราตรีสวัสดิ์พร้อมรอยยิ้มชวนฝันหวานให้คนที่มองไม่เห็น
“หาว”ฮันกยองหาวหวอดตามกัน สายตาเหลือบไปมองแก้วกาแฟที่ตอนนี้เป็นหมันไปซะแล้ว
“พรุ่งนี้ค่อยล้างล่ะกัน”ร่างสูงบอกกับตัวเอง หลังจากนั้นก็เดินขึ้นห้องไปโดยไม่ลืมปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ และปิดไฟด้านล่างให้เรียบร้อยตามที่รัฐบาลรณรงค์
...สงสัยคุณเลขาฯตื่นขึ้นมา คงจะโวยวายน่าดู...
******
ซอรี่ หายนานชาติ อยากแต่งแต่หัวมิไป จะพยายามไม่หายอีกน้า อย่าทิ้งกันล่ะ
ความคิดเห็น