ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic SHINee] Ma... Paramour - - > ???Key & HyunMin

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : ...Come Back...

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 53




    Chapter 4

     

    Come Back

     

              ถ้าการที่เราโกรธใครสักคน   ชั่ววูบแรกไม่อาจจะปฏิเสธได้

     

                                    อยากจะทำร้ายคนที่ทำให้เราโกรธ   ทำให้เราเจ็บ. . .

     

                                                    แต่ถ้าในกรณีที่เป็นคนที่เรารักล่ะ. . .

     

                    คนที่เราไม่อาจจะทำอะไรได้ เพราะเรารัก. . .   เหตุผลงี่เง่าที่เกิดขึ้นบนความรู้สึกโง่ๆ

     

    (Choi Minho’s Part)

     

              ไม่อาจจะบอกได้ว่าความรู้สึกตอนนี้เป็นอย่างไร   ราวกับโลกหยุดหมุนทั้งๆที่ผมกำลังจะก้าวไป   บางทีอาจจะเป็นเพราะผมงี่เง่าโทรไปหาเขา   โทรไปในช่วงเวลาที่น่าจะรู้ว่าเขากำลังอยู่กับใคร. . .

     

                    ว่าไง แอบฟังชาวบ้านเล่นหนังสดแล้วรู้สึกยังไงบ้างล่ะ

     

                    ถ้อยคำที่ได้ยินสลักแน่นในความคิด   รวมทั้งเสียงที่ได้ยิน   ไม่อาจจะลบเลือนออกจากความทรงจำ   เหมือนกับเป็นรอยแผลที่เกิดขึ้น   และไม่นานก็ต้องกลายเป็นแผลเป็น. . . ที่คอยสะกิดให้นึกถึงที่มาของบาดแผล

     

                    ผมไม่อาจจะว่ากล่าวพี่อนยูได้เลยแม้แต่นิดเดียว   ดังสัจธรรมของโลกที่ว่าโลกใบนี้. . . ไม่มีคนดี. . . หรือ. . . คนเลว   สำหรับผมบนโลกนี้แบ่งออกเป็นแค่. . . คนที่คิดได้   คนที่คิดไม่ได้   และคนที่ไม่ได้คิด. . .   ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้พี่อนยูจัดอยู่ในสถานะใด   แต่อย่างไรแล้ว   เขาก็เป็นพี่ชายที่ดีสำหรับผมเสมอ

     

                    เฮ้อ. . . ผมนั่งมองไปนอกหน้าต่างนานมากจนผมเริ่มรู้สึกเมื่อยล้าร่างกายอย่างไรก็รุ้   ในหัวก็ยังมีแต่เรื่องนี้มาวนเวียนชวนให้เจ็บช้ำ   วันมะรืนนี้ก็จะเป็นวันวาเลนไทน์อยู่รอมร่อ   ท่าทางผมคงต้องทำตัวเป็นเหมือนๆทุกปีผ่านไป   อยู่คนเดียว   ปฏิเสธจากเหล่าสาวๆทั้งหลาย   เพียงเพื่อเก็บหัวใจและความรู้สึกโง่ๆไว้ให้คนๆหนึ่ง   แค่นั้นจริงๆ. . . ที่ทำได้

     

                    ผมเนรเทศตัวเองออกจากเก้าอี้ข้างหน้าต่างมาอยู่บนเตียง   เปิดโทรทัศน์ดูเรื่อยเปื่อย   เสียงผู้ประกาศข่าวยังคงกล่าวต่อไปเรื่อยๆ

     

              ตอนนี้เรามาฟังกันดีกว่าครับ ว่าปีนี้ ใครจะได้ครองแชมป์นักร้องเสียงดีในปีนี้กัน

     

              นั่นสิค่ะ ฉันตื่นเต้นมากเลยค่ะ แถมปีนี้ความสามารถเยอะๆกันทั้งนั้นเลย

     

              ท่าทางปีนี้ท่านคณะกรรมการคงหนักใจกันน่าดู แต่ตอนนี้ผลคะแนนกลับมาอยู่ในมือผมซะแล้ว แย่จังนะครับ ถ้าต้องคัดให้เหลือคนเดียว

     

                    ประกาศกันเลยเถอะค่ะ ฉันลุ้นจะแย่แล้ว

     

              ครับ ปีนี้ผู้ที่ได้รางวัลชนะเลิศก็คือ. . . ลีแจจินครับ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ

     

              ผมอดที่จะหันไปมองหน้าของคนที่ได้รางวัลนั้นไม่ได้   ไม่ใช่เพราะอะไรแต่เป็นเพราะคนๆนั้นชื่อเหมือนเพื่อนผมเมื่อตอนมัธยมต้นนั่นเอง

     

                    เฮ้ย นั่นมันไอ้ดื้อนี่หว่าให้ตาย   ผมตกใจจริงๆนะเนี่ย   ใครจะไปรู้ว่าไอ้ดื้อเพื่อนเก่าผมมันไปประกวดร้องเพลงมาแถมเวทีเดียวกับผมด้วยซ้ำ   เสียงกรีดร้องของแฟนคลับยังคงดังต่อเนื่อง   หน้าตาไอ้ดื้อนั้นยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว   ดูโตขึ้นมากกว่าแต่ก่อนนี้เยอะเลยนะนายนี่

     

                    ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้ความสนับสนุนผม รวมทั้งเสียงเชียร์ของทุกๆคน ขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านด้วย แต่. . . จะขาดไม่ได้เลย คนที่ทำให้ผมชื่นชอบเสียงเพลง ทำให้ผมก้าวมาในจุดๆนี้ ขอบใจมากนะ มินโฮ ถ้าไม่มีนายฉันก็คงไม่ทำมันออกมาได้ดีขนาดนี้ ตอนนี้ฉันก้าวมาในจุดๆเดียวกับนายแล้ว รอวันที่ฉันจะไปพบนายนะ รอฉันนะ

     

                    ดวงตาที่สบมองตรงมาที่กล้อง ตอนนี้ราวกับจ้องผมออกมาจากหน้าจอโทรทัศน์เลยทีเดียว ให้ตายวันละหลายๆรอบ สรุปว่าไอ้ดื้อนี่ร้องเพลงตามผมใช่มั้ย นายนี่มันดื้อจริงๆ อุตส่าห์สอนให้ทำในสิ่งที่รักแล้ว แถมใครใช้ให้นายประกาศชื่อของฉันออกโทรทัศน์ห๊ะ. . . ชาวบ้านเขารู้กันหมดแน่ว่านั่นชื่อผม เพราะผมก็เพิ่งได้แชมป์จากเวทีนั้นเมื่อปีที่แล้วเอง

     

                    ตาขวากระตุกแปลกๆ หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ. . . หวังว่างั้น

     

    Come Back

     

              แจจินๆ ทางนี้เสียงกรี๊ดกร๊าดขงแฟนคลับยังคงดังต่อเนื่องแม้แจจินจะเดินเข้ามาด้านหลังเวทีแล้วก็ตาม   หนึ่งในผู้จัดการรายการร้องเพลงกำลังเรียกให้แจจินเดินตามเข้าห้องไป

     

                    ครับๆ ทราบแล้วครับ สักครู่ฮะ ขอผมไปห้องน้ำแล้วเดี๋ยวผมจะตามเข้าไปนะฮะแจจินร้องบอกก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินเข้าห้องน้ำด้านในไป

     

                    โอ้ย ให้ตาย ใครใช้ให้นายบอกชื่อไอ้ฮิตเลอร์เนี่ย ถ้าเกิดไอ้ฮิตเลอร์บ้านั่นนั่งดูทีวีอยู่ล่ะ ตายแน่ๆๆแจจินที่มองซ้ายมองขวาแล้วไม่เห็นว่ามีคนอื่นใดในห้องน้ำนอกจากตัวเองก็จัดการปราวาสนาตัวเองผ่านกระจกเงาเป็นการใหญ่แถมท้ายด้วยการกระทืบเท้าที่เป็นนิสัยเมื่อไม่ได้ดั่งใจ   ครั้นเมื่อสำนึกได้ว่าตัวเองกำลังขยี้ผมชวนให้นึกถึงภาพสไตลิสต์ที่พยายามลวนลามตัวเองด้วยสายตาจะมาฆ่าเขาด้วยหวี   และที่หนีบผมเป็นแน่แท้   นึกภาพแล้วแสลงใจ   ส่องกระจกเช็คความเรียบร้อยว่าทรงผมกลับมาดูดีดังเดิมก็สาวเท้าเดินออกจากห้องน้ำราวกับว่า. . . ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

                    ก็อกๆๆ

     

                    ขอโทษนะครับแจจินเคาะประตูเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆแง้มประตูเปิดเข้าไป   ที่ปรากฏตรงหน้าเป็นห้องประชุมตามที่เคยเห็นผ่านโทรทัศน์   ไม่เคยได้มาประสบด้วยตัวเอง   แต่ตอนนี้เขาพอจะรู้แล้ว   ทีหลังห้ามมาสายเด็ดขาด   อยากจะร้องไห้จริงๆเวลาที่ทุกคนมองมาทางผม โอ้. . .

     

                    นั่งเลยๆแจจินผู้หญิงคนเดิมที่เรียกเขาเมื่อสักครู่นี่เอง

     

                    เข้าเรื่องเลยนะครับ คือทางค่ายอยากจะให้คุณเป็นนักร้องในสังกัด ไม่ทราบว่าคุณมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างครับหนึ่งในคณะประชุมที่นี้ถามแจจินขึ้นมา   แต่นั่นก็ดีกว่าอ้อมไปอ้อมมา   ตรงๆแบบนี้ประหยัดเวลาไปเยอะเลย

     

                    ผมหรอฮะ เอ่อ. . . ผมยังไม่มีความคิดในเรื่องนี้น่ะครับ ผมพอใจที่จะได้ร้องไปเรื่อยๆมากกว่าแจจินบอกอย่างเกรงใจนิดๆ

     

                    ที่คุณพูดไว้บนเวทีน่ะครับ ไม่ทราบว่าคุณกับ เชวมินโฮ แชมป์เมื่อปีที่แล้ว เกี่ยวข้องกันอย่างไรครับ

     

                    อ๋อ ผมเป็นเพื่อนสนิทกับเขาเมื่อตอนมัธยมต้นฮะแจจินตอบตรงๆไม่มีอะไรให้ปิดบัง

     

                    ถ้าเกิดคุณได้เป็นนักร้องดูโอคู่กับเขา คุณยังจะสนใจไหมครับแจจินอดจะไขว้เขวนิดๆไม่ได้   นักร้องดูโอคู่กับไอ้ฮิตเลอร์เพื่อนเขาน่ะหรอ   มันก็น่าสนใจไม่น้อย

     

                    ว่าไงครับ ปีที่แล้วคุณมินโฮก็ปฏิเสธทางเราเหมือนกัน แต่ถ้าได้ออกร้องเพลงคู่กับคุณก็น่าจะพอใจอยู่นะครับราวกับถ้อยคำขับกล่อมให้คล้อยตามอย่างไม่ยากเย็น   แต่จิตใต้สำนึกกลับคอยเตือนไว้เสมอ

     

                    ถ้ามินโฮปฏิเสธที่จะร้องเพลงนั่นก็หมายความว่าเขาได้เลือกแล้ว พวกคุณคงไม่อาจจะไปเปลี่ยนใจเขาได้หรอกครับ ผมรู้ดี. . . และผมก็ร้องเพลงตามที่ใจสั่งการ ไม่อาจจะเปลี่ยนเป็นเพราะสมองสั่งการได้หรอกครับ แต่ผมขอรบกวนนิดหน่อยได้มั้ยครับ ผมขอที่อยู่ของมินโฮได้มั้ยครับ ผมคิดถึงเขามากแจจินพูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธาในมิตรภาพ และมั่นใจในความคิดของเพื่อนด้วยเช่นกัน

     

                    ได้แน่นอนครับ ถ้าคุณยืนยันว่าเป็นเพื่อนเขาจริง

     

    Come Back

     

                    ท่ามกลางอากาศเย็นยะเยือกกลางเดือนกุมภาพันธ์บ่งบอกได้ดีว่าอยู่ในช่วงฤดูหนาว   อุณหภูมิที่แตะต้องผิวกายติดลง   ไหล่ต้องห่อลงเมื่อลมหนาวมาเยือนให้ตายอีกครั้ง   เขากลับต้องมาเดินหาที่อยู่เพื่อนเก่าที่ไม่น่าตามหา   ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรเหมือนกัน

     

                    อ๊ะ. . . เจอแล้วหลังจากเดินหามานาก็พบบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่ง   เป็นบ้านที่มีลักษณะทั่วไป   ไม่ได้บ่งบอกคุณลักษณะที่พิเศษใดๆของเจ้าของบ้านแม้แต่น้อย

     

                    นิ้วเรียวบางเอื้อมไปกดกริ่งเพียงสองครั้งอย่างอัตโนมัติ   โดยที่ลืมไปว่าไม่ได้คิดบทสนทนาไว้ล่วงหน้าเลยสักนิดเดียว

     

                    สักครู่ครับเสียงที่ดังลอดผ่านประตูพอจะเดาได้ว่าเจ้าของบ้านกำลังจะมาเปิดประตูให้เขาในไม่ช้า   แต่ว่า. . . อยากจะวิ่งกลับบ้านเสียเหลือเกินในตอนนี้    เท้าที่ค่อยๆจะขยับถอยหลัง   เตรียมหมุนตัววิ่งกลับ   แต่ประตูก็เปิดผ่างออกมา. . . อย่างไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ

     

                    อ๊ะ. . .ไม่มีคำใดจะเอื้อนเอ่ย   สิ่งที่เห็นคืออาการประหลาดใจของคนที่มาเปิดประตู

     

                    แฮะๆๆ หวัดดีแจจินได้แต่เพียงหัวเราะอย่างเขินๆ   ก่อนจะทักทายออกไป   ดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าของบ้านจะมีสติไม่สมบูรณ์เท่าไหร่   ยังคงมองเขาตาค้างอยู่นานหลายวินาที   แจจินยื่นมือไปโบกที่ด้านหน้าของมินโฮ   มินโฮจึงค่อยรู้สึกตัว

     

                    อ๊ะ โทษทีๆ เข้ามาดิมินโฮเขยิบตัวให้อีกฝ่ายเดินเข้ามาก่อนจะปิดประตูบ้านไว้ดังเดิม

     

    Come Back

     

                    แสงแดดที่มีอยู่น้อยนิดในหน้าหนาวส่องทะลุก้อนเมฆกลุ่มใหญ่กระทบกับร่างบางที่ตอนนี้กำลังหลับสบายบนเตียง   ส่งผลให้เจ้าตัวต้องขยุกขยิกตาพยายามจะหลบแสงที่ก่อกวนสายตาในขณะที่กำลังนอนอยู่   มือเรียวคว้าหมอนอีกใบมาปิดตาไว้ก่อนจะจมเข้าสู่ห้วงนิทราดังเดิม   อนยูที่นั่งมองคีย์อยู่ที่โซฟาก็อดที่จะยิ้มน้อยๆไม่ได้   สิ่งที่เห็นมันอาจจะขัดใจใครหลายๆคน   แต่ที่เขาเห็นกลับเป็นเพียงความน่ารัก   และนิสัยที่ไม่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของตัวเองต่างหาก

     

              ครั้นเมื่อเห็นเวลาอันสมควรที่จะปลุกคนขี้เซาที่นอนอยู่บนเตียงแล้ว   ความคิดพิสดารแปลกๆก็ล่านเข้ามา   จะปลุกทั้งทีก็น่าจะให้ประทับใจกันหน่อย (?)

     

              คีย์อนยูที่ตอนนี้นั่งอยู่บนเตียงใกล้ๆกับร่างบาง   กำลังส่งเสียงเรียกให้คนที่หลับใหลอยู่ตื่นขึ้น

     

                    คีย์ ตื่นได้แล้วนะ จะเที่ยงแล้วอดจะยอมรับไม่ได้ว่าเมื่อคืนนี้เป็นคืนรอบยอดเลยก็ว่าได้   เล่นเอาเขาปวดเมื่อยสะโพกพอๆกัน   แต่ถ้าเทียบกับคีย์แล้ว   ท่าทางคนที่เป็นฝ่ายรองรับน่าจะเจ็บกว่าเขามากโข

     

                    คีย์ จะตื่นไหม หือเมื่อไม่เห็นการตอบสนองจากคนขี้เซาแล้ว   อนยูก็เลือกแผนการที่คิดไว้ในหัวมากมายมาหนึ่งวิธี   อนยูค่อยๆเลื่อนริมฝีปากไปกดจูบที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างหนักแน่น

     

                    ไม่มีการตอบสนองใดๆเช่นเดิม. . .

     

                    คีย์ ยังไม่ตื่นอีกหรออนยูถามอีกครั้ง เหมือนครั้งนี้ร่างบางจะส่งเสียงผ่านลำคอมา   พอจะจับใจความได้ว่า. . .

     

                    อย่ามายุ่งน่า คนจะนอนอนยูอดจะหัวเราะเบาๆไม่ได้   ไม่น่าเชื่อว่านิสัยของคีย์จะใกล้เคียงกับเด็กสามขวบถึงเพียงนี้

     

                    ได้ส่งเสียงเหี้ยมเกรียมก่อนจะค่อยเลื่อนผ้าห่มของคีย์ออก   เผยให้เห็นอกที่เคยเป็นสีชมพูระเรื่อ   ที่บัดนี้กลายเป็นสีแดงช้ำซึ่งเกิดจากผลพวงการกระทำของเมื่อคนนั่นเอง   เสียงน้ำลายที่กลืนเอื้อกลงคอพอจะทำให้รู้ว่าตนเองคิดอะไรกับภาพตรงหน้า   ทำไมเมียเขาถึงได้สวยยั่วเหลือร้ายขนาดนี้เนี่ย

     

                    นิ้วเรียวที่เกิดอาการสั่นระริกค่อยๆเลื่อนไปสัมผัสยอดอกของอีกฝ่ายเบาๆ   เมื่อเห็นว่าไม่มีอาการตอบสนองใดจึงเลื่อนมือไปสัมผัสยอดอกอีกข้างแทน   ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปครอบครองยอดอกอีกข้างแทน  

     

                    อืม. . .ฝ่ายที่นอนหลับอยู่ไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรกับตนเอง   เสียงครางผ่านลำคอไม่อาจจะบอกได้ว่ารู้สึกดีหรือว่าหงุดหงิดจากการถูกก่อกวนเวลานอนหลับอันแสนสบายนี้

     

                    อนยูเม้มริมฝีปากมากขึ้น   ส่วนมืออีกข้างก็บีบเคล้นยอดอกให้เกิดอาการเจ็บแปลบเป็นระยะ   เรียวลิ้นที่คอยตวัดราวกับหยอกล้อยอดยกสลับกับการขบกัดในบางคราส่งผลให้ร่างบางที่กำลังหลับพริ้มขมวดคิ้วน้อยๆไม่ได้   อนยูยังไม่ละความพยายาม   สร้างร่องรอยแห่งการกระทำให้มากขึ้น   เลื่อนริมฝีปากลัดเลาะขึ้นไปยังลำคอขาวผ่องก่อนจะกดจูบที่ฝากร่องรอยแห่งการกระทำที่ชัดเจน   รอยสีแดงเข้มปรากฏเด่นชัดทันที   คีย์ที่เกิดอาการหงุดหงิดจากการนอนไม่พอลืมตาตื่นขึ้นด้วยอารมณ์ขุ่นมัว   ทำความเข้าใจเพียงสามวินาทีก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเองทันที

     

                    เฮ้ย พี่อนยู. . . ทำอะไรเนี่ย ลุกออกจากตัวผมเดี๋ยวนี้เลยคีย์สะดุ้งพรวดพยายามจะลุกจากที่นอนก็ติดที่ร่างสูงคร่อมเขาไว้   ตอนนี้เสียงจึงเป็นเครื่องมืออย่างเดียวที่ช่วยตัวเองให้พ้นจากสถานการณ์อันล่อแหลม   สองมือก็พยายามดันอีกฝ่ายให้พ้นจากร่างกายตนเอง

     

                    รู้แล้วๆ ก็ใครใช้ให้อยากปลุกยากเองนี่ หืออนยูเบี่ยงตัวหลบอย่างโดยดี   ก่อนจะขยับตัวไปหยิบผ้าเช็ดตัวให้อีกฝ่ายไปอาบน้ำ   แถมยังเตรียมเสื้อผ้าให้อีกฝ่ายอย่างไม่ขัดเคืองใจแต่อย่างใด

     

                    ไปอาบน้ำได้แล้ว ไปๆอนยูส่งผ้าเช็ดตัวให้ก่อนจะจัดวางเสื้อผ้าไว้บนเตียงให้เสร็จสรรพ   คีย์ที่รับผ้าเช็ดตัวก็รีบนำมาพันรอบกายตนเองอย่างรวดเร็ว   แหม. . . ถึงจะเคยมีอะไรกันหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องชินกับการเปลือยกายด้วยนี่นา

     

              จะอายอะไรหนักหนา ห๊ะ. . . เห็นมามากกว่านี้ก็แล้ว จับก็ทำแล้ว ยังไม่ชินอีกหรือไงอนยูที่เห็นท่าทางแบบนั้นของคีย์ก็อดจะกระเซ้าเหย้าแหย่ไม่ได้   คีย์พองลมในปากทำท่างอนเหมือนเด็กๆตามที่อนยูเคยว่า   ก่อนจะค่อยๆขยับเขยื้อนร่างกายไปยังห้องน้ำอย่าง. . .ยากเย็น เฮ้อ. . .

     

                    คีย์ พี่รอข้างล่างนะ เดี๋ยวลงไปทานข้าวด้วยอนยูส่งเสียงบอกคที่กำลังชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ   คีย์เพียงแค่ส่งเสียงขานรับก่อนจะเปิดสายฝักบัวให้ทำงานดังเดิม   เสียงน้ำที่ตกกระทบพื้นกระเบื้องเป็นไปตามปกติ   อนยูจึงวางใจว่าคนรักคงไม่ถึงขนาดกับทรุดไปกองที่พื้นแน่ๆ   เมื่อนึกถึงเรื่องที่จะต้องทำก็รีบเร่งสาวเท้าไปยังห้องครัวจัดแจงเตรียมอาหารเช้าในเวลาเที่ยงให้คีย์และตัวเขาเอง    ส่วนน้องชายที่น่ารักของเขาก็ไปเรียนพิเศษตั้งแต่เช้า ชีวิตเด็กม.ปลายของน้องเขามองดูแล้วก็เหนื่อยแทนจริงๆ. . . เฮ้อ

     

    Come Back

     

              ว่าแต่นายเหอะ ไปประกวดร้องเพลงทำไมห๊ะ ไหนบอกว่าชอบเล่นดนตรีมากกว่าไงมินโฮเปิดประเด็นถามทันทีหลังจากที่ไปเอาน้ำมาให้แขกที่ไม่ได้เตรียมตัวรับเชิญอย่างแจจิน

     

                    ก็. . . พอใจอ่ะ ทำไมนอกจากไม่ตอบแล้วยังจะกวนโอ้ยอีก ไอ้ดื้อนี่   มินโฮทำเพียงสายตาคาดโทษแต่ก็ไม่ได้ต้องการคำตอบมากมาย   อาจะเป็นเพราะเคยชินแล้วก็ได้กับไอ้นิสัยแบบนี้

     

              ช่างมัน เรื่องนั้นไม่สำคัญ ไอ้ที่สำคัญ. . . ใครใช้ให้นายไปประกาศชื่อฉันออกโทรทัศน์ว่ะนั่น มีเคืองนะ มีเคือง

     

                    พอใจอ่ะ มีไรป่ะถามมาเขาก็จะตอบกวนโอ้ยอย่างนี้ต่อไป   ไม่ได้จะตั้งใจกวน   แต่แก้เก้ออาการเขินนิดๆเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง   ไม่ยักจะรู้ว่าผู้ชายก็เขินเป็น

     

                    กวนนะ ไอ้ดื้อ เดี๊ยะเอ็งตายสรรพนามเก่าเริ่มกลับคืนมาอีกครั้ง

     

                    แล้วทำไม ไอ้ฮิตเลอร์จอมโหด วันๆคิดแต่จะฆ่าชาวยิวนะเอ็ง

     

              พอและๆ เดี๋ยวไม่จบ ว่าแต่ไม่เล่นดนตรีแล้วรึไงมินโฮถามอย่างสงสัยจริงๆ

     

                    เล่นเว้ย แต่จะให้แบกเบสไปๆมาๆ หาแป๊ะเอ็งรึไงไอ้นี่. . . ถามดีๆตอบกวนๆ

     

                    เออ ว่าแต่วาเลนไทน์ นัดเดทไว้กับสาวไหนเปล่าเอ็งอ่ะมินโฮถามกระเซ้า   ตั้งแต่ตอนมัธยมต้นแล้ว กว่าเขากับแจจินจะได้เป็นเพื่อนกัน เขม่นจนเกือบลงมือกันหลายต่อหลายครั้งแล้ว   เพราะสาเหตุเดียวก็คือ. . . หนุ่มป็อปของโรงเรียนจะต้องมีเพียงคนเดียว   จนท้ายที่สุดต้องยอมมาเป็นเพื่อนกันเพราะครูฝ่ายปกครองเกิดการระอาจนให้เป็นบัดดีกันหนึ่งปีเต็มๆ   เลยได้มาเป็นเพื่อนสนิทกัน

     

                    ไม่มีว่ะ หาไม่ถูกใจซักทีก็พอรู้ว่าไอ้เพื่อนคนนี้หัวสูงพอสมควร   ใครใช้ให้เอ็งเกิดมาหน้าหวานล่ะ   สาวสวยๆที่ไหนจะเอาเป็นแฟน    ไอ้บ้านี่. . . วันๆไม่เคยส่องกระจก   เพ้อพกว่าตัวเองหล่อเลิศเป็นประจำ

     

                    เฮ้อ. . .มินโฮทำท่าอิดหนาระอาใจพร้อมกับมองหน้าคนไม่เจียมตัว

     

                    ว่าแต่เอ็งล่ะ หล่อนักพ่อคู้ณ นัดสาวไหนไว้ล่ะแจจินอดที่จะแขวะเชิงประชดประชันไม่ได้

     

                    เยอะจนเลือกไม่ถูกเลยว่ะ ก็เลย. . .

     

              เลย?แจจินถามพลางเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับเบิกตากว้างๆ   เป็นนิสัยเมื่ออยากรู้อะไร

     

                    เลยไม่เลือกสักคน ฮ่าๆๆว่าแล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา   ก็หน้าตาเพื่อนเขามันชวนฮาเองนี่นา

     

                    โหย ไอ้ฮิตเลอร์ ข้าก็หลงคิดว่าเรื่องจริง ถุ้ยแจจินด่าว่ามินโฮ   ความคุ้นเคยเริ่มกลับมา   บทสนทนาสลับการต่อว่าต่อขาน   แขวะกันบ้างดำเนินต่อไปเรื่อยๆ   นี่แหละนาที่เขาบอกว่าความสัมพันธ์แบบเอนผู้ชาย   มันจูนกันง่ายขนาดที่พวกผู้หญิงยังงง (มันไปซี้กันตอนไหนวะ  <- - ได้ยินประจำ - -)

     

    Come Back

     

                    คีย์เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียว   แม้ในห้องจะเปิดฮีตเตอร์ไว้   ความหนาวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็ไม่เคยลดหย่อนแม้แต่น้อย   คีย์ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นมือถือของตนเองวางไว้อยู่บริเวณโต๊ะเล็กๆข้างเตียง   คีย์หยิบมาดูเมื่อนึกได้ว่าเมื่อวานนี้น่าจะมีคนโทรมาหาเขาตอนที่. . .เอ่อ. . . ตอนที่เล่นจ้ำจี้อยู่ เฮ้อ. . .

     

                    คีย์เปิดเช็คบันทึกการโทรเห็นชื่อที่โทรเข้ามา   มินโฮ   นั่นเอง   แต่ทำไมเป็นสายโทรเข้าทั้งๆที่น่าจะเป็นสายที่ไม่ได้รับซะมากกว่า เมื่อเปิดเช็คดูก็เป็นช่วงเวลานั้นจริงๆ   แถมมีบันทึกเวลาการสนทนาด้วย   เกือบครึ่งชั่วโมงเลยหรอ   คีย์ยิ่งหน้าซีดเข้าไปใหญ่   นี่หมายความว่า. . .

     

                    เรื่องนี้ต้องเคลียร์ซะแล้ว

     

    Come Back

     

    End of Come Back

     

     

     

     

     
    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

    ขอโทษนะค่ะ มาอัพช้าไปหนึ่งวัน

    เผอิญว่าเมื่อวานไปหาหมอมาอ่ะค่ะ

    เลยไม่ได้อัพ

    หวังว่าตอนนี้น่าจะเป็นอะไรที่สบายๆไม่เครียดกัน

    งวดหน้าไรเตอร์มาอัพวันที่ 9 นะค่ะ

    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ แล้วอย่าลืมเม้นต์กันนะค่ะ

    ทานยาแล้วง่วงนอน แล้วเจอกันนะค่ะ

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×