ตอนที่ 8 : ตอนที่ 8 : ใกล้แค่เอื้อม2
ทางด้านในของห้องน้ำโรงแรมใกล้กับงานเลี้ยงตอนนี้หญิงสาวที่คนอื่นๆกำลังถามถึงได้หลบตัวเองมาอยู่ในห้องน้ำโดยไม่ออกไปไหน สภาพจิตใจเธอ ณ ตอนนี้ตกในอยู่ความตะลึงและร้อนรนใจกับสิ่งที่เธอได้เจอก่อนจะมานั่งใช้ความคิดอยู่ในนี้
“เขามาที่นี่ได้ไง เขากลับมาทำอะไรที่นี่ แล้วเมื้อกี้เขาเห็นเรามั้ย” ตอนนี้เธอได้แต่กังวลไปต่างๆนาๆไม่เคยคิดว่าเธอเองจะต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้
ก่อนหน้าที่หญิงสาวจะเดินไปถึงห้องน้ำเธอได้เดินผ่านทางเข้าขึ้นบันไดที่นำสู่เข้างาน สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น เพราะในขณะที่เธออยู่นั้นสายตาของเธอได้หันไปสบกับชายหญิงคู่หนึ่งที่เรียกสายตาแขกในงานให้หันไปมองความสวยงามและความเหมาะสมของคนทั้งคู่ แต่เมื่อทันทีที่เธอพยายามเพ่งมองไปนั้น มันยิ่งทำให้โลกทั้งใบของเธอต้องหยุดนิ่งด้วยความไม่คาดคิดมาก่อน บุคคลที่กำลังเดินผ่านสายตาเธอไปนั้นไม่ใช่ใครอื่นใด เธอเป็นคนที่หายไปจากเธอนานถึงหกปี
“แบร์รี่...”
เธออุทานออกมาเหมือนคนละเมอ เพราะเสียงที่แผ่วเบานั้นไม่สามารถส่งไปถึงใครอีกคนที่เดินผ่านเธอไป ให้สัมผัสถึงการมีตัวตนของเธอ เมื่อทั้งสองเดินลับไปจากสายตาของเธอ หญิงสาวก็แทบจะก้าวเท้าไม่ออกลืมเจตนาของตนเองที่จะเข้าห้องน้ำ แรงกายของเธอแทบจะไม่มี มันทำให้เธอแทบจะทรุดลงนั่งไปกับพื้นจึงต้องรีบควานหาที่พักพิงเพื่อจะยึดไม่ให้ตัวเองทรุดลงไปนั่ง
“นะ...นั้น...เขา....”เสียงที่สั่นเทาเริ่มตั้งสติไม่ได้ ความเจ็บปวดที่เก็บไว้ ณ ตอนนี้ได้ย้ำเธออีกครั้ง
“คุณค่ะๆ... เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ ให้ฉันช่วยมั้ยค่ะ”พนักงานที่เดินสำรวจงานในบริเวณนั้นเมื่อเห็นอาการไม่ดีของหญิงสาวตรงหน้าจึงเดินเข้ามาทัก มีเสียงเรียกของพนักงานได้เรียกสติของเธอที่หายไปกลับคืนมา
“มะ...ไม่ค่ะ...ฉันเป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ”เมื่อเธอตั้งสติได้ก็รีบเดินไปยังห้องน้ำพร้อมปาดน้ำตาที่เริ่มไหลออกจากความตกใจที่เกิดขึ้น
“ฮึกๆ...อย่าร้องๆ...ริสาเธอต้องเข้มแข็ง...เธอต้องไม่อ่อนแอ ฮึก”หญิงสาวเงยใบหน้าให้น้ำตาที่กำลังจะไหลออกจากดวงตาให้เหือดหายไป พร้อมปลอบตัวเองไม่ให้อ่อนแอ มือทั้งสองบีบมือตัวเองเน้นเพื่อสกัดกั้นน้ำตาไม่ให้อ่อนไหว
“เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเราแล้ว จำไว้ๆ เธอต้องท่องให้มันขึ้นใจ...ริสา”หญิงสาวพยายามท่องให้ขึ้นใจ เธอนั่งทำใจในห้องน้ำสักพัก เมื่อเธอเริ่มทำใจได้แล้วจึงเดินออกมาโดยไม่ทันระวังจึงโดนชนหญิงสาวที่เดินสวนทางกับเธออย่างจัง
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”เธอมองหญิงสาวที่เธอชนด้วยสายตาที่ขอโทษ ก่อนเธอจะมองคนตรงหน้าโดยสีหน้าทีตกใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ”หญิงสาวที่ถูกชนหันมามองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าไม่ค่อยดีกับท่าทีที่เธอตกใจ
“ปะ...เปล่าค่ะ ขอตัวก่อนนะค่ะ”ริสารีบเดินหนีออกมาจากจุดนั้นโดยทันที เธอจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนเดียวกับผู้หญิงที่เดินควงคู่มากับชายหนุ่มที่เธอรู้จักเขาดีกว่าใคร
“จะทำยังไงดี...”ริสาบ่นกับตัวเอง เธอเริ่มร้อนใจ ทำอะไรไม่ถูก สถานการณ์ตอนนี้กดดันให้เธอเลือกที่จะ
หลบเลี่ยงจากบุคคลเหล่านั้น
“ไม่ๆ...เราจะไม่หนี ชีช่ากับลีน่ารอเราอยู่ คนในงานออกจะเยอะแยะเขาคงไม่ทันสังเกตเห็นเรา”
เมื่อเธอเลือกได้แล้วก็รีบเดินเข้าไปในงาน เพราะลูกๆของเธอกำลังรอเธอ ด้วยความที่เธอรีบร้อนจนเกินไปโดยไม่ทันสังเกตว่ามีบุคคลที่จำจดเธอได้ยืนมองเธออยู่ในมุมหนึ่งในบริเวณนั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนบุคคลนั้นก็ยังจำเธอได้ดี
“เนส ตามเธอไป”
“ได้เลย รอน”
บอดี้การ์ดทั้งสองของแบร์รี่ที่ทำหน้าที่อาระขาว่าที่คู่หมั้นของจ้านายหนุ่ม ทั้งสองต่างรู้ว่าได้โดยตามสัญชาตญาณว่าต้องทำอย่างไรกับหญิงสาวที่เดินผ่านไป
“ขอโทษนะครับบอส ที่ผมเกินเลยหน้าที่”
ในส่วนงานเลี้ยงด้านในที่ใกล้จะเริ่มพิธีในไม่ช้าแขกเหรื่อมากมายที่ต่างก็พูดคุยและทักทายกันไปมา ไม่ต่างกับสองหนุ่มเพื่อนรักที่ต่างบอกเล่าเรื่องงานของตนอย่างเคร่งเครียด จนสุดท้ายได้เปลี่ยนเรื่องมาเป็นโหมดส่วนตัว
“แบร์รี่ ฉันว่าแก ควรศึกษางานแต่งจีจี้เป็นการพิเศษหน่อยนะ เอาไว้ใช้กับงานแกคราวหน้าไง”
“ทำปากดีไป แกเองจะแต่งก่อนฉันอีกซิไม่ว่า มาอยู่ที่นี่ไม่กี่อาทิตย์กลับได้ลูกโตที่แล้วแถมแม่ของลูกมาอีกด้วย”
“ฮ่าๆ...ก็น้ำยาของข้ามันดีจริงๆนี่หว่า”วิลเลี่ยมภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก
แบร์รี่มองเพื่อนชายที่แสดงความภาคภูมิใจในตนเองด้วยความหมั่นไส้ เขาเองไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันเมื่อรู้เรื่องนี้จากลูกน้องคนสนิทเรื่องที่เพื่อนรักของเขามีลูกแล้วส่วนเพื่อนรักของเขาก็เพิ่งจะมารู้ก็ต่อเมื่อลูกปาเข้าไปหกขวบ มันทำให้เขาต้องกลายเป็นลุงโดยปริยาย
“แล้วไหนละ...ลูกของแก”
“ใจเย็นๆสิวะ...เดี๋ยวแกก็จะได้เห็นเองทั้งลูกฉันและแม่ของลูก”
“นี่แก...ไปทำเขาตอนท้องตอนไหนวะ ไอวิล แกไม่เคยพลาดกับเรื่องแบบนี้ไม่ใช่หรือวะ”
“เอ่อวะ...ตอนไหนวะ ข้าก็จำไม่ค่อยได้ รู้แค่ว่าตั้งใจทำทุกครั้งที่รักกับเธอ”
“แกนี่....หาเรื่องสร้างห่วงมาคล้องคอตัวเองชัดๆ”
“เห้ย!!...พูดให้ดีนะเว้ยไอคุณแบร์รี่ ถ้าเมียฉันได้ยินแกกล่าวหาฉันแบบนี้ เดี๋ยวก็เผ่นหนีฉันไปอีก...กว่าจะเจอกันก็ปาไปเจ็ดปีแล้ว ไม่ตอนนั้นไม่คลาดกันละก็ ฉันอยากจะบอกให้แกรู้ไว้เลยนะว่า ปานนี้ฉันคงมีลูกตั้งทีมฟุตบอลได้ทีมนึงไปแล้ว”
“อย่ามาโม้ข้า...”
“ไม่ได้โม้โว๊ย...แต่แกรู้อะไรหรือเปล่าว่าฉันยอม...ยอมจะสร้างห่วงให้มาคล้องฉันไว้กับผู้หญิงคนนี้”
“น้ำเน่าดีนะแก...ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าพ่ออย่างแกจะถอนตัวจากคาสโนว่า เพราะแค่เพียงผู้หญิงคนเดียว”
“แกไม่เข้าใจหรอก...เมื่อไหร่ที่แกเจอใครที่รักจริงๆ แล้วแกจะรู้เอง”วิลเลี่ยมตบบ่าเพื่อนชายอย่างปลอบใจ
“ไม่มีวันหรอก...”ชายหนุ่มแสะยิ้มให้กับคำพูดของคนตรงหน้าในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“งั้นฉันว่าแกเริ่มจากคุณลิต้าก่อนละกัน”ยังไม่ทันทีที่วิลเลี่ยมพูดจบหญิงสาวที่เขากล่าวถึงก็เดินเข้ามาหาควงแขนว่าที่คู่หมั้นหนุ่มอย่างถือสิทธิ์
“แบร์รี่ค่ะ คอยนานมั้ยเอย”
“ไม่ครับ”
“คุณวิลเลี่ยมค่ะ...เมื่อกี้ลิต้าเพิ่งสังเกตการตกแต่งรอบๆงานนะค่ะ ลิต้าชอบงานตกแต่งแบบนี้จังเลยค่ะ ดูบรรยากาศเหมือนสรวงสวรรค์มากเลยละค่ะ มันทำให้ฉันนึกอยากจะมีงานตกแต่งแบบนี้ในงานของตัวเองบ้างจัง”หญิงสาวมองบรรยากาศรอบๆงานที่เต็มไปด้วยแขกมากมายที่ทยอยกันเข้ามางาน
“ยัยจีจี้ได้ยินคุณลิต้าพูดแบบนี้...คงยิ้มแก้มปริแน่ๆเลยครับ ที่จริงแล้วคนที่ตกแต่งให้กับงานนี้เป็นเพื่อนรุ่นน้องของภรรยาผมเองครับ ลูกแฝดของเธอก็ยังเป็นเพื่อนกับลูกชายผมอีกด้วยนะครับ”
“จริงหรือค่ะ...แสดงว่าคนกันเองทั้งนั้นสินะค่ะ...การตกแต่งมันสวยมากๆเลยละค่ะ...ใช่มั้ยค่ะแบร์รี่”หญิงสาวถามความคิดเห็นของชายหนุ่มที่เธอควงแขนเพื่อให้ชายหนุ่มเห็นด้วยไปกับเธอ
“ครับ”
“ผมว่าพิธีกำลังจะเริ่มแล้วละครับ เชิญทางนี้ดีกว่าครับ”
เมื่อได้ยินเสียงพิธีกรที่ดำเนินรายการบนเวทีได้กล่าวขึ้น แขกที่เข้ามาร่วมงานต่างให้สนใจกับพิธีการที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้ คู่บ่าวสาวที่ยืนรออยู่ด้านนอกก็พร้อมที่จะเข้ามาในงานแล้วเช่นกัน
“ขอเสียงปรบมือให้แก่คู่บ่าวสาวด้วยครับ”
บ่าวสาวที่เดินควงคู่กันเข้ามาในงาน ช่างอย่างสง่างามเหมือนเจ้าชายที่คล้องแขนมากับเจ้าหญิงที่เขียนในเทพนิยาย เด็กๆที่เป็นตัวแทนของกามเทพน้อยในสรวงสวรรค์นำหน้าขบวนสร้างสีสันของงานโดยการโปรยกลีบกุหลาบหลากสีในตะกร้าด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม ผู้เข้าร่วมมากมายต่างมองขบวนที่เดินเข้ามาอย่างชื่นชมพร้อมเสียงปรบมือเพื่อแสดงความยินดีแด่คู่บ่าวสาว
“นั้นไง ลูกชายฉัน”
วิลเลี่ยมส่งสายตาไปยังเพื่อนหนุ่มให้หันไปดูลูกชายของเขา ซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่เป็นกามเทพนำหน้าขบวนคู่บ่าวสาวเข้ามาในงานพร้อมกับสองสาวฝาแฝดที่เดินตามหลังหนุ่มน้อย แบร์รี่มองหลานชายของเพื่อนรักด้วยความเอ็นดูแล้วต้องอึ้งไปเล็กน้อกับใบหน้าของเด็กหนุ่มที่มีสำเนาถูกแบบแปะๆ
“เป็นไง อึ้งละซิ สำเนาถูกต้องแปะ”วิลเลี่ยมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับลูกชายของตน
แบร์รี่ไม่ตอบแต่ยังคงมองไปเรื่อยๆและตนเพิ่งสังเกตเด็กสาวฝาแฝดที่เดินตามหลังลูกชายของเพื่อนรัก เขาเขามองเด็กสาวแฝดทั้งสองอย่างจดจ้องยิ่งมองกิริยาท่าทางที่ยิ้มแย้มของเด็กทั้งสองแล้วทำให้เขาต้องยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว มันทำให้เขารู้สึกชุ่มชื่นหัวใจแปลกๆเมื่อเห็นเด็กฝาแฝดทั้งสองคนนั้น
“แบร์รี่ค่ะ...คุณยิ้มอะไรหรือค่ะ”ลิต้าทันหันมาเห็นอาการของชายหนุ่มด้านข้างแล้วอดสงสัยไม่ได้ จึงมองตามทิ้งทางที่คนด้านข้างมองไป
“เปล่า...ผมแค่เห็นเด็กสาวฝาแฝดสองคนนั้นแล้วรู้สึกเอ็นดูนะครับ”เมื่อถูกจับพิรุธได้เข้าก็ตีหน้านิ่ง
“หรือค่ะ...แกสองคนน่ารักมากเลยใช่มั้ยละค่ะ”
“คงงั้นมั้งครับ”ชายหนุ่มทำเสียงไม่สนใจกับเรื่องที่หญิงสาวกล่าวมา แต่สายตาก็ยังไม่ละว่างจากเด็กสาวฝาแฝด
“แต่ลิต้าก็อดแปลกใจไม่ได้นะค่ะ ว่ามันจะทำให้คนที่ยิ้มยากอย่างคุณนั้น...กลับยิ้มออกมาได้”
“หรอ...ผมไม่ยักจะรู้ว่าผมจะเป็นอย่างที่คุณพูด”
เมื่อจบคำพูดของคนทั้งคู่ คู่บ่าวสาวในตอนนี้ก็ได้เดินไปถึงด้านหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วเริ่มทำพิธีการสำคัญ
ทางด้านหลังของห้องจัดเลี้ยง
“ริสาเราเดินไปดูทางด้านหน้ากันเถิด”ลิลลี่ที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของงานกับริสาเริ่มอยากเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
“ไปเถิดค่ะพี่ลิลลี่ ริสาขอยืนอยู่ตรงนี้ดีกว่าค่ะ ดูในจอด้านหน้าก็เห็นแล้วละค่ะ”
“อ่าวทำไมละ...พี่ว่าไปดูใกล้ๆจะได้ฟิวมากว่านะ อีกอย่างไปยืนเป็นกำลังใจให้น้องจีจี้ด้วยไงละ”
“ริสา...ไม่ชอบคนเยอะๆนะค่ะ พี่ลิลลี่รีบไปเถอะค่ะ คุณวิลเลี่ยมเริ่มมองหาแล้วนะค่ะ”ริสาตัดบทไม่บอกถึงเหตุผลที่เท้จริงของตนเอง
“เอ่อ...เอางั้นหรอ ก็ได้ๆถ้าเปลี่ยนใจยังไงก็เดินตามพี่มาละกันนะ”
“ค่ะ”
เธอมองตามหญิงสาวรุ่นพี่ที่เดินไปก้านหน้า พร้อมกับพยายามจะบดบังให้ตัวเองกลมกลืนหายไปกับแขกที่อยู่ในงาน แต่เธอไม่ทันสังเกตว่ามีใครค่อยสอดส่องมองพฤติกรรมของเธออยู่ในอีกมุมหนึ่งของงาน
เมื่อพิธีจบลงแขกมากมายต่างทยอยร่วมรับประทานอาหารที่ถูกจัดขึ้นเป็นพิเศษจากทางโรงแรม และแขกบางคนก็เดินมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว พร้อมกับเสียงดนตรีที่ขับกล่อมให้อบอวลไปด้วยความรักของคู่บ่าวสาว
“แด๊ดดี๊!!...”เคลวินวิ่งเข้าไปหาบิดาทันทีเมื่อเสร็จภาระกิจ
“ว่าไงคนเก่ง...เหนื่อยมั้ยครับ”
“สบายมาก...”เด็กหนุ่มแสดงท่าทางที่สบายๆให้กับคนเป็นพ่อ
“ฮ่าๆ...เก่งจริงๆลูกพ่อ”คนเป็นพ่ออดลูบศีรษะลูกชายไม่ได้
“เคลวินครับ...สวัสดีคุณลุงแบร์รี่กับอาลิต้าก่อนสิครับ”คุณแม่สาวคนสวยที่ยืนอยู่ข้างสามีของตนสั่งให้
ลูกชายทักทายเพื่อนรักของสามี
“สวัสดีครับ...ผมเคลวินนะครับ เป็นลูกของแด๊ดดี๊กับหม๊ามี๊ครับ”เด็กหนุ่มหันไปหาทั้งสองพร้อมพนมมือไหว้คนทั้งสองด้วยท่าทางที่น่าเอ็นดู
“น่ารักจังเลยค่ะ...อายุเท่าไหร่แล้วค่ะเนี่ย”ลิต้าหญิงสาวอดชื่นชมในความน่ารักของเด็กหนุ่มไม่ได้
“หกขวบครับ”เด็กหนุ่มรีบตอบแทนมารดาทันที
“วัยกำลังซนเลยใช่มั้ยค่ะ...เนี่ย”ลิต้ายิ้มแย้นให้กับเด็กหนุ่ม เพราะเธอเองก้ไม่เคยรังเกียจเด็กๆเลยในทางกลับกันเธอกลับชอบมากๆเด็กน่ารักๆเธอยิ่งชื่นชอบเป็นที่สุด
“ค่ะ”มารดาหันไปตอบหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม...แล้วหันไปมองลูกชายของตนแล้วนึกอะไรขึ้นมาได้
“เอ๊ะ แล้วชีช่ากับลีน่าไปไหนละเคลวิน น้องไม่เดินมากับเราด้วยหรือไง”หญิงสาวเริ่มมองไปตามทางที่ลูกชายเดินมา แต่กลับไม่เห็นเด็กสาวฝาแฝด
“เมื่อกี้หม๊ามี๊น้องชีช่ากับลีน่าพากลับไปแล้วครับ หม๊ามี๊”ชายหนุ่มจำได้ว่าริสาดึงตัวน้องๆของเธอกลับทันทีเมื่อพิธีเสร็จ
“อ่าว..จริงหรือ ทำไมรีบกลับจังละ”ลิลลี่แปลกใจ
“ใครหรือค่ะคุณลิลลี่”
“ก็พี่น้องฝาแฝดที่เดินตามหลังเคลวินเขานะค่ะ แม่ของเด็กพากลับไปแล้วละค่ะ”
“หรอค่ะ เอ๊ะใช่คนเดียวกันกับที่คุณวิลเลี่ยมบอกว่าเป็นคนตกแต่งงานนี้ทั้งหมดหรือเปล่าค่ะ”
“ใช่ครับ..”
“หว่า...แย่จัง ลิต้าอดเจอเขาเลยค่ะ อยากจะเชิญให้เขามาออกแบบงานของลิต้าบ้างจัง”
“เอ่อ...ถ้าคุณลิต้าสนใจจริงๆลินก็พอจะช่วยพาไปแนะนำให้ได้นะค่ะ”
“จริงหรือค่ะ ดีจังเลย ขอบคุณมากนะค่ะคุณลิลลี่”
“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ”
ทางด้านลานจอดรถใต้ดินเด็กๆทั้งสองต่างรีบเดินตามแรงดึงของมารดา เธอเดินอย่างเร่งรีบไม่คิดจะฟังคำคัดค้านของเด็กสาวฝาแฝด เธอคิดเพียงแค่ว่าต้องรีบออกมาจากงานให้ไวที่สุด
“หม๊ามี๊ๆ จะรีบไปไหนหรือค่ะ ชีช่ายังไม่อยากกลับเลยนะค่ะ”ชีช่าเริ่มไม่เข้าใจในการกระทำของคนเป็นแม่
“ใช่ๆลีน่าก็ยังไม่อยากกลับ ยังไม่ได้เล่นกับพี่เคลวินเลย”ลีน่าเสียดายที่เธอไม่ได้เล่นกับพี่ชาย
“เอ่อ...หม๊ามี๊ติดธุระนะค่ะ ต้องรีบไปมากค่ะ ไม่งั้นไม่ทันรู้มั้ยค่ะ”หยุดตอบคำถามลูกสาวแล้วรีบเดินต่อไปยังที่รถที่จอดอยู่
“ทำไมหม๊ามี๊ไม่ปล่อยให้ชีช่ากับลีน่ากลับพร้อมป้าลิลลี่ละค่ะ”เด้กทั้งสองยังห่วงที่จะเล่นกับเด็กหนุ่ม
“ไม่ได้!!...”หญิงสาวเริ่มไม่สบอารมณ์จึงสบทใส่ลูกสาวอย่างลืมตัว
“...”ทั้งสองต่างตกใจไม่คิดว่ามารดาของตนจะโกรธพวกเธอได้ขนาดนี้ จึงยืนนิ่งแล้วก้มหน้า
“หม๊ามี๊บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าดิ้อกับหม๊ามี๊..กลับบ้าน”เธอเปิดประตูรถให้เด็กเดินเข้าไปนั่งแล้วรีบขับรถออกไป พร้อมพูดกับตัวเองในใจ
“ไม่...เธอจะไม่ปล่อยให้เด็กสองคนนี้เข้าไปใกล้เขาอีกเป็นอันขาด แค่เขาได้เห็นเด็กสองคนในวันนี้ เธอก็กังวลใจจนแทบจะบ้าตาย แม้จะรู้ว่าเขาไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องของเด็กสองคนนี้ แต่เธอไม่อยากให้เด็กสองคนนี้จดจำใบหน้าของใครบางคนได้ คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อ ต่อให้คุณอยู่ใกล้แค่เอื้อม ฉันก็ไม่มีวันให้คุณได้เจอกับแกอีกเป็นอันขาด”
เมื่อลับสายตาของรถที่หญิงสาวขับออกไป ร่างชายหนุ่มที่แอบดูเหตุการณ์อยู่ตลอดก็โผล่ออกมาจากที่ซ่อน เขาได้ยินทุกคำพูดของหญิงสาว
“เรื่องนี้น่าสนใจกว่าที่คิดแหะ”บอดี้การ์ดหนุ่มพูดกับตัวเองแล้วเดินกลับเข้าไปในงานพร้อมกับภาพที่ตนเป็นคนถ่ายไว้ในมือถือตั้งแต่หญิงสาวอยู่ในงานแล้วขับรถออกไป
.................................100%.........................................................
ปล.ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ วันนี้ไรเตอร์แค่นี้ก่อนนะค่ะ ง่วงนอนมากๆเลยค่ะ เอาไว้จะมาอัพใหม่อีกนะค่ะ คอมเม้นมาได้เรื่อยๆเลยนะค่ะ ไรเตอร์จะได้มีแรงกำลังใจ ขอบคุณคนอ่านมากๆนะค่ะ
หากงานเขียนเกิดขอหิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
(รักคนอ่านทุกคนนะค่ะ)









โดย โกจุนฮี (ไรเตอร์มีความชอบเป็นก่อนส่วนตัวจร้า

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สงสารริตางะ