ตอนที่ 5 : ตอนที่ 5 : ให้อภัย
Lilly & William
“ริสา...อยู่หรือเปล่า”ลิลลี่เดินเรียกหาริสาอย่างสีหน้ากังวลใจ
“ค่ะ...ริสาอยู่ทางนี้ค่ะพี่ลิลลี่”ริสาเมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวต้องรีบตอบกลับในทันที
“ริสา ว่างหรือเปล่า...คือ...พี่มีเรื่องจะปรึกษาเราหน่อย”
“ว่างค่ะพี่ลิลลี่ พี่มีเรื่องอะไรจะปรึกษาริสาหรือค่ะ”ริสามีสีหน้าที่สงสัย
“พี่ไม่สะดวกคุยที่นี่จ๊ะ เราเข้าไปคุยข้างในได้หรือเปล่า”
“ได้ค่ะๆ”
เมื่อหญิงสาวพูดจบก็เดินนำหน้าเข้าไปยังในตัวร้านของตน โดยเธอเองไม่ทันได้ระวังปิดประตูให้สนิท
“พี่ลิลลี่ ทำไมหน้าตาดูเคร่งเครียดแบบนั้นละค่ะ เหมือนมีเรื่องกังวลใจอะไรอยู่หรือเปล่า บอกริสาได้นะค่ะ”
“พี่ลำบากใจมากเลยตอนนี้ ไม่รู้จะเริ่มอธิบายจากตรงไหนดี พี่เองก็กังวลใจจนจะบ้าตายอยู่แล้ว”
“พี่ลิลลี่...ใจเย็นๆนะค่ะ ค่อยคิดๆแล้วก็ค่อยๆเล่าให้ริสาฟังนะค่ะ ริสาเผื่อจะช่วยอะไรพี่ลิลลี่ได้”
“คืออย่างนี่นะริสา....”
ลิลลี่อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างตนกับพ่อของเคลวิน มันได้สร้างความตกใจให้กับหญิงสาวที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ไม่คิดว่าไม่ใช่มีแค่เธอเพียงคนเดียวที่ต้องตกอยู่ในสภาพที่น่าอับอายและเจ็บปวดแบบเดียวกับเธอ เธอเองก็เข้าใจในเรื่องนี้ดีมากกว่าใคร หากใครไม่ได้เจออย่างเธอคงไม่เข้าใจหรอกว่าช่วงเวลาที่ผ่านมันมาได้นั้นมันช่างทุกข์ทรมานมากแค่ไหน เธอมีชิวิตที่อยู่มาได้ทุกวันนี้ก็เพราะลูกเท่านั้น ลูกเป็นดังแก้วตาดวงใจ หากจะมีใครมาพรากลูกเธอไป เธอคงไม่ยอม
“นี่หมายความว่า...พี่ชายของคุณจีจี้เป็นพ่อของเคลวินหรือค่ะ”
“ใช่แล้วริสา ตอนนี้พี่ไม่แน่ใจว่าเขาจะรู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง แต่ที่แน่ๆเมื่อวานนี้เขาเจอพี่กับลูกแล้ว”
“แสดงว่า เขาเองก็ไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีลูก...แล้วนี่พี่ลิลลี่บอกเขาไปหรือยังค่ะว่า เคลวินเป็นลูกของเขา”
“ไม่...พี่จะไม่บอกเขา แล้วเขาก็ไม่มีวันจะได้เป็นพ่อของเคลวิน” หญิงสาวพูดด้วยท่าทีที่มุ่งมั่นว่าจะไม่มีใครมาเอาลุกของเธอไปได้ทั้งนั้น
“เลิกคิดไปที่จะแยกลูกจากผมไปได้เลนลิน!!”ทันทีบุคคลคนที่สามได้แอบฟังมาตั้งนานแล้วก็อดที่จะขัดขวางการสนทนาของทั้งสองสาวมิได้
“คุณ...”
“ขอโทษนะครับ...ที่ต้องเข้ามาขัดจังหวะการสนทนา แต่ผมทนฟังไม่ได้หรอก หากใครบางคนแถวนี้จะมากล่าวหาผมในทางที่ผิดๆ”
“เอ่อ...สวัสดีค่ะ คือว่า...คุณคือ...”ริสาหันไปมองชายหนุ่มอย่างคาดไม่ถึง เธอไม่คิดว่าจะมีใครมาได้ยินบทสนทนาของเธอทั้งสอง
“ผม...วิลลเลี่ยมครับ”
“อย่างไปฟังเขานะริสา พี่ไม่เคยเข้าใจอะไรผิดๆ แล้วอีกอย่าง...คุณ...ควรออกไปจากร้านนี้ได้แล้ว”เมื่อพูดกับริสาเสร็จลิลลี่ก็หันไปไล่ชายหนุ่มที่เธอไม่อยากเจอออกไปนอกร้าน
“ผมจะออกไป...ก็ต่อเมื่อคุณจะออกมากับผม ลิน”สายตาชายหนุ่มมองไปหญิงสาวอย่างคาดโทษ
“ไม่..”
“เอ่อ...พี่ลิลลี่ค่ะ ริสาว่าค่อยๆพูดค่อยๆจากันก็ได้ค่ะ อีกอย่างตอนนี้เด็กๆกำลังจะกลับมาจากโรงเรียนแล้วนะค่ะ หากเด็กๆเข้ามาเห็นเดี๋ยวจะเป็นเรื่องอื่นไปนะค่ะ”ริสากล่าวออกมาเพราะเธอกลัวว่าเด็กๆจะได้ยินเรื่องที่ไม่สมควรที่จะรับรู้ของผู้ใหญ่
“แต่ว่า...”ไม่ทันที่ลิลลี่จะพุดอะไรต่อก็มีเสียงชายหนุ่มดังขัดขึ้นมา
“หมดเวลาแล้วลิน ไปคุยกับผมให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้!!”ชายหนุ่มไม่พูดเปล่า เขาเดินไปจับแขนให้หญิงสาวเดินตามเข้าออกไป
“ปล่อยนะ...คนบ้า...ปล่อยสิ”
ริสาได้แต่มองคนทั้งสองเดินจากไปอย่างลับสายตา โดยที่เธอเองไม่สามารถห้ามคนทั้งคู่ได้ เธอไม่อยากให้คนทั้งสองเธอมีโชคชะตาที่เหมือนเธอ ในเมื่อเส้นทางของคนทั้งสองยังสามารถมาบรรจบกันได้ เธอคิดว่านั้นคือโอกาสที่ดีให้กลับมาใช้ชีวิตที่พร้อมหน้าพร้อมตาด้วยกันอีกครั้งได้ “พี่ลิลลี่ค่ะโชคดีนะค่ะ ริสาขอให้ชีวิตครอบครัวของพี่กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง อย่าได้เหมือนริสาที่ไม่สารถหาสิ่งเหล่านั้นให้กับลูกได้อีกแล้วค่ะ”
ด้านชายหญิงที่เดินฉุดไปมาๆจนถึงหน้าร้านของหญิงสาวสร้างความตกอกตกใจให้กับลูกน้องคนสนิทชายหนุ่มที่ยืนเฝ้าหน้าร้าน
“ทอม...หากเคลวินกลับมา อย่าเพิ่งให้ไปหน่อยก่อน ฉันมีเรื่องจะพูดกับเขา”ชายหนุ้มสั่งการลูกน้องคนสนิทแล้วหันไปฉุดให้หญิงสาวให้เดินตามตนมา
“ครับ”
“ไม่นะ...คุณจะพูดอะไรกับแก ฉันไม่ยอมๆ”
“หยุดโวยวายสักทีนะลิน อย่าให้ผมต้องใช้ไม้แข็งกับคุณ”วิลเลี่ยมจับบ่าทั้งสองข้างของหญิงสาวอย่างรุนแรงให้หันมาเผชิญหน้ากับตน โดยมองเธอด้วยสายตาที่เหลืออดกับความดื้อรั้นของคนที่อยู่ข้างหน้า
“ก็เอาสิ...”
“อย่าท้าทายผม...”
“ทำไม...คุณมันก็ได้แค่ขู่ฉัน คุณไม่มีวันทำอะไรฉันได้หรอก”ลิลลี่พูดท้าทายวิลเลี่ยม
“ผมทำแน่...แล้วจะทำมันให้ถูกต้อง โดยที่คนเองก็ไม่มีสิทธิปฏิเสธใดๆทั้งสิ้น”
“คุณพูดเรื่องอะไร...”สีหน้าเริ่มเปลี่ยนเธอเริ่มกังวลว่าเรื่องที่เขาจะพูด คือเรื่องที่เธอกลัวที่สุด
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องดีกว่านะลิน...คุณก็รู้ว่าผมพูดเรื่องอะไร”
“ฉันไม่รู้เรื่อง...”
“คุณนั้นแหละที่รู้เรื่องๆนี่ดี...คุณไม่มีวันจะหลอกตัวเองได้ แล้วคุณเองก็ไม่มีวันจะหลอกผมได้เหมือนกัน”
“...”เธอได้แต่เงียบแล้วเก็บสีหน้าที่กังวลไว้
“เคลวินเป็นลูกที่เกิดจากผม...”
“คุณ...ได้ยิน...”เธอตะลึงในสิ่งในคนตรงหน้าพูดออกมา
“ทำไม...ถึงกับพูดไม่ถูกเลยละซิ เพราะมันเป็นความจริงที่คุณปฏิเสธไม่ได้สินะ”
“ไม่จริง...”
“หยุด!!...หยุดพูดว่าไม่จริง และหยุดพูดว่าไม่ใช่ เพราะคุณหนีมันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว หากคุณยังจะดื้อรั้น ว่าผมไม่ใช่พ่อของ
เคลวินอีก อย่าให้ผมต้องพิสูจน์เลือดเนื้อเชื้อไขของผมด้วยตัวผมเอง ไม่งั้นเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่!!”
“แล้วคุณแน่ใจได้ไง ว่าเคลวินเป็นลูกของคุณ แกอาจเป็นลูกชู้คนที่เท่าไหร่ของฉันก็ได้ ตัวฉันเองก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าแกเป็นลูก
ของใคร”
“อย่ามาทำตัวสำส่อน ไร้ยางอายต่อหน้าผม หากผมไม่สืบเรื่องนี้ให้ดีกับเรื่องที่ผ่านมา วันนี้ผมก็คงไม่มาทวงสิทธิความเป็นพ่อคืนหรอก...ลิน”
“ฮึ...สิทธิความเป็นพ่อ...ที่มันไม่มีอยู่ในตัวคุณเลยนะหรือ คุณนี่น่าไม่อายเลยนะ อยากจะได้อะไรก็ต้องได้โดยไม่เคยคิดถึงจิตใจของคนอื่นเลย ว่าคุณทำฉันเจ็บปวดแค่ไหน ที่ผ่านมาคุณทำให้ฉันเจ็บปวดไม่พออีกหรือไง”
ลิลลี่เริ่มรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาของตนเอง ทำให้น้ำตาที่พยายามเก็บเอาไว้ไม่ให้ชายหนุ่มเห็นก็เริ่มเอ่อล้นออกมา
“ผมไม่เคยคิดอยากทำให้คุณเจ็บปวด แต่คุณต่างหากที่สร้างความเจ็บปวดให้กับผม คนที่ทิ้งผมไปและคนที่ตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดของเราก็คือคุณ”
“คุณต่างหากที่ทำให้ฉันต้องไปจากคุณ คุณนั้นแหละที่หลอกลวงฉัน หลอกว่ารักฉัน หลอกให้ฉันเชื่อใจคุณเป็นปีๆ หลงคิดว่าคุณรักฉันจริง จนฉันต้องมอบทั้งกายและใจให้คุณ แต่ความจริงแล้วเรื่องทั้งหมดมันเป็นแค่เกมที่คุณสร้างขึ้นเพื่อหลอกลวงฉัน คุณทำแบบนี้กับฉันได้ไง คุณเอาฉันไปเดิมพันกับสิ่งของ คุณทำแบบนี้ได้ไง คุณทำให้ทุกคนรอบข้างมองฉันเหมือนคนโง่ที่คุณคิดจะทำอะไรก็ได้ คุณคงคิดว่าฉันโง่มากเลยใช่มั้ย”
“ลิน...คุณรู้เรื่องนี่ได้ไง”
“คุณคงแปลกใจมากใช่มั้ย...ฉันรู้เรื่องนี่ได้ไง ฉันรู้ก่อนที่จะตัดสิ้นใจเดินออกมาจากชีวิตของคุณ ฉันคงเป็นผู้หญิงหน้าโง่มากเลยใช่มั้ยค่ะ โง่พอจนมองไม่เห็นความจริง ว่าคนอย่างคุณไม่มีทางลดตัวมารักผู้หญิงธรรมดาอย่างฉันได้”
ยิ่งพูดก็ยิ่งสร้างน้ำตามากมายที่เก็บไว้เกือบเจ็ดปีได้พรั่งพรูออกมาไม่แคร์สายตาของคนตรงหน้า เมื่อชายหนุ่มยิ่งเห็นหญิงสาวตรงหน้าร้องออกมาเขาก้เริ่มอ่อนลง
“ลิน...ฟังนะเรื่องทั้งหมดมันเป็นอย่างนั้นก็จริงอยู่ แต่ผมไม่เคยคิดเล่นๆกับคุณเลยสักครั้ง”
“ไม่คิดหรือค่ะ...แล้วที่ผ่านมาเจ็ดปีคุณทิ้งฉันกับลูกโดยไม่เคยจะตามหาเลย นี่หรือค่ะไม่เคยคิดเล่นๆ”
“คุณจะให้ผมตามคุณได้ยังไง ในเมื่อคุณเองเป็นคนเขียนโน๊ตทิ้งไว้ให้ผม....ว่าคุณเจอคนที่ดีกว่าผม แล้วรักเขามากกว่าผม คุณรู้มั้ยผมทรมานมากแค่ไหน ที่เห็นผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด ทำตัวไร้ยางอาย ทั้งที่เธอเองก็มีสามีอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังหักหลังผมได้”
“ไม่จริง...ฉันไม่เคยเขียนโน้ตแบบนั้นให้คุณ”
“แล้วที่ผมอ่านมันและยังจำมันได้ถึงทุกวันนี้...คุณคิดว่าผมคิดไปเองหรือไง รู้มั้ยว่าสิ่งนั้นมันทำให้ผมต้องกลายเป็นคนละคน จากชีวิตที่คิดว่าจะหยุดไว้กับผู้หญิงเพียงแค่คนเดียว มันยิ่งทำให้ผมกลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม ก็เพราะคุณ”
“อย่าเอาฉันเข้าไปเกี่ยวกับความมักมาก...ของคุณ ผู้ชายอย่างคุณมันไม่เคยพอ”
“อย่าดูถูกความรักที่ผมมีให้คุณนะลิน...หากถ้าผมมักมากจริงๆ คุณก็คงไม่มีสายใยที่เราสองคนสร้างมาด้วยกันหรอก เพราะผมตั้งใจที่จะไม่ป้องกันตั้งแต่ต้น คุณเองก็น่าจะรู้ดี”
“หยุดพูดเรื่องนี้นะ...ฉันไม่อยากฟัง”
“ไม่หยุด...จนกว่าเราจะพูดกันรู้เรื่อง ตกลงคุณทิ้งผมมาทำไมเพราะใคร...มันทำให้ผมกับลูกต้องพรากจากกันถึงเจ็ดปี บอกผมมาลิน”
“ไม่...ไม่มีใครทั้งนั้น คุณนั้นแหละที่บ้าคิดไปเองคนเดียว และอีกอย่างที่ฉันจะบอกคุณ...ฉันไม่เคยเขียนโน๊ตบ้าๆนั้นเพื่อทำลายศักศรีของตนเอง คุณนั้นแหละที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย ไม่เคยมองเห็นคุณค่าของฉันเลยว่าฉันรักคุณมากแค่ไหน ซื่อสัตย์กับความรักที่มีให้คุณมากแค่ไหน แต่คุณกลับไปเชื่อโน้ตบ้าๆนั้น”
“ลิน...นี่คุณจะบอกผมว่าเรื่องโน๊ตนั้นไม่เป็นความจริง”
“ใช่...คุณมันบ้า คุณมันร้ายกาจ...งี่เง่าที่สุด”
“ผมขอโทษลิน...ผมไม่เคยคิดเลย ว่ามันทำลายเรื่องของเราให้จบแบบนี้”
วิลเลี่ยมอดไม่ได้ที่จะดึงตัวคนตรงหน้าเข้ามากอดเอาไว้ หญิงสาวคิดว่ามันนานเหลือเกินที่เธอไม่ได้อ้อมกอดจากเขา เธอจำได้ถึงความอบอุ่นที่เขามอบให้ กลิ่นกายที่เป็นของเขา เธอยังจำได้ว่ามันรู้สึกดีแค่ไหน ความอบอุ่นที่ได้จากเขามันยิ่งสร้างน้ำตาแห่งความคิดถึงพร้อมกับความดีใจที่มีต่อชายอันเป็นที่รักมากขึ้นไปอีกจนต้องร้องไห้โฮออกมา
“อื้อๆ....”
“อย่าร้องนะลิน...ผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว ผมมันโง่ที่มองไม่เห็นความรักที่คุณมีให้กับผม แต่ผมขอสาบานว่าเรื่องที่ผมรักคุณผมไม่เคยหลอก เรื่องที่พนันนั้นก็เหมือนกันตอนนั้นผมทำไปเพราะสนุกแต่เมื่อคบกับคุณจริงๆทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็นความรักและความจริงใจที่ผมมีให้คุณ มันทำให้ผมรู้ว่าผมรักคุณมาก มากพอที่ผมจะเปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นคนละคน ให้อภัยให้ผมได้มั้ยลิน ”
“อื้อๆ...ฉันเจ็บ เจ็บตรงนี้ มันนานมากๆฉันไม่รู้ว่าจะให้อภัยคุณได้มั้ย”ลิลลี่ระบายความเจ็บปวดที่แสนยาวนานพร้อมทุบตรงหัวใจของตนเอง ให้เขาได้รับรู้ว่าเธอเจ็บปวดมากเพียงใด
“ไม่นะลิน...คุณอย่าพูดว่าคุณจะไม่ให้อภัยผม จนกว่าคุณจะได้ลองให้ผมแสดงให้คุณเห็นอีกครั้ง ว่าผมรักคุณมากแค่ไหน ผม
ไม่ปฏิเสธว่าผมเคยทอดทิ้งคุณกับลูกมานาน แต่เมื่อผมเจอคุณอีกครั้ง ผมไม่สามารถปล่อยคุณกับลูกไปได้อีกแล้ว”
วิลเลี่ยมยิ่งกระชับกอดเธอแน่นกว่าเดิมให้สมกับสิ่งที่เขาได้เคยละทิ้งไป
“วิลเลี่ยม...ฮื้ออ”
“ลิน...เรามาเริ่มต้นใหม่ได้มั้ย ให้เราสามคนได้กลับมาอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา คุณไม่สงสารลูกบ้างหรือ”
“วิลเลี่ยม...ลินกลัว...กลัวว่าลูกทำใจไม่ได้นะค่ะ มันเร็วเกินไป อีกอย่างแกจะสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
“ไม่เป็นไรลิน...ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง แต่คุณต้องรับปากผมก่อน ว่าคุณเองจะไม่ทิ้งผมไปไหนอีกแล้ว”
“ค่ะ...ฉันจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีกแล้ว”
ชายหนุ่มมองใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของคนตรงหน้า หญิงสาวก็มองไปยังชายหนุ่ม ต่างฝ่ายต่างโหยหาสิ่งขาดหายไปนานถึงเจ็ดปี วิลเลี่ยมก้มลงมาอย่างช้าๆและมอบจุมพิตที่ดูดดื่มให้กับอีกฝ่ายสุดที่จะต้านทานได้ให้สมกับเวลาที่ล่วงเลยม
...........................................100%...........................................................
ปล.คอมเม้นมาได้เลยนะค่ะ อยากให้แก้ไข หรืออยากจะติชมตรงไหน คนเขียนรับคำชี้แนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์นะค่ะ จะพยายามมากๆค่ะ
ขอโทษด้วยนะค่ะที่ไม่สามารถดำเนินเรื่องให้มาถึงคู่เอกของเรื่อง ใกล้แล้วค่ะๆ ไรเตอร์จะเร่งรีบๆใก้คนอ่านได้อ่านกันนะค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แต่แบรรี่คงไม่ใช่เพราะตัวเองเลือกที่จะตัดสัมพันธ์กับริสาเอง