ตอนที่ 1 : ตอนที่ 1 : อดีตที่เจ็บปวด
“หม๊ามี๊! อยู่ไหนค่ะ”
เสียงเรียกที่ผสานกันเรียกหามารดาของตน เป็นเสียงเด็กผู้หญิงฝาแฝดที่ใครเห็นเธอทั้งสองต่างก็ต้องเอ็นดู และหลงรักสาวน้อยทั้งสอง ดวงตาและสีผมที่เป็นลอนของเด็กทั้งสองบ่งบอกได้เลยว่าต้องมีเชื่อลูกครึ่งฝรั่งอยู่ในตัวเธอทั้งสอง
“ชีช่า ลีนา หม๊ามี๊อยู่ในครัวค่ะ” เสียงตะโกนของมารดาทำให้เด็กทั้งสองต่างวิ่งตามไปในครัวอย่างตื่นเต้น
“หม๊ามี๊ขาๆ ดูซิค่ะ ชีช่าเอาอารายมาฝากหม๊ามี๊ด้วย”
“ใช่ๆ หม๊ามี๊ๆขา ลีนาก็เอาอารายมาฝากหม๊ามี๊ขาเหมือนกันค่ะ”
“ค่ะๆ หม๊ามี๊รู้แล้วค่ะ แต่รอหม๊ามี๊แปปนึงนะค่ะ หม๊ามี๊กำลังทำกับข้าวให้ชีช่ากับลีน่านะค่ะ เราสองคนนั่งรอหม๊ามี๊ก่อนนะค่ะ”
“ค่ะ! ค่ะ!”
ทั้งสองต่างวิ่งนั่งตามคำสั่ง ริสาหันไปยิ้มกับท่าทางสองสาวฝาแฝดอย่างเอ็นดู ทุกครั้งที่เธอเห็นเด็กสองสาวฝาแฝดเมื่อไหร่จะทำให้เขาสะท้อนกลับไปคิดถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา แม้ในหัวใจของเธอนั้นจะย้ำอยู่เสมอว่า มันนานมากแล้วกับเรื่องราวที่ผ่านเธอเองก็พยายามหลายต่อหลายครั้งให้ลืมมันไป แต่สุดท้ายมันต้องนึกถึงทุกครั้งเมื่อเห็นใบหน้าลูกสาวฝาแฝด เธอได้ให้กำเนิดมาด้วยความรัก ความทนุถนอม ด้วยตัวของเธอเอง เธอไม่ต้องการให้ใครบางคนรับรู้และมาพรากสิ่งที่เธอรักที่สุดในชีวิตไป
.............................................................
หกปีก่อน
ก๊อกๆ
“เชิญ”
“ท่านรองค่ะ คุณริสามาขอพบค่ะ” สิ้นเสียงเลขารองประธานหนุ่มวางมือจากเอกสารก่อนหันไปมองอย่างเลขาอย่างใช้ความคิด
“บอกเธอให้เข้ามา แล้วอย่าให้ใครมารบกวน ถ้าผมยังไม่สั่ง”
“ค่ะท่าน” ชายหนุ่มจ้องไปยังเอกสารต่อ
ก๊อกๆ
“เชิญครับ”แม้ชายหนุ่มจะบอกเชิญให้หญิงสาวเข้ามา แต่สายตาก็ยังไม่ละจากเอกสาร ยังคงทำงานต่อไปโดยไม่แยแสในเสียงของฝ่ายหญิง
“แบรี่ค่ะ ริสามารบกวนคุณหรือเปล่าค่ะ” ริสาเดินเข้ามายืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม
“ริสา คุณมีเรื่องอะไรจะพูดก็พูดมาเถิด ผมฟังอยู่ ”
“คือว่า...”สายตาเธอมองไปอย่างชายหนุ่มที่นั่งทำงานโดยไม่สนใจในตัวเธอ เธอนึกหวาดกลัวที่จะพูด
“ริสา...ผมขอเตือนอะไรอย่างนึง ถ้าคุณจะอ้ำอึ้งแบบนี้ ผมคงไม่มีเวลาว่างพอ ที่จะมานั่งฟังคุณพูด”
“ค่ะ...ริสาขอโทษนะค่ะ แต่ริสามีเรื่องจะคุยกับคุณจริงๆนะค่ะแบรี่...แต่ริสาไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน”
“ริสา...นี่คุณอุตสามาหาผมวันนี้ โดยที่ไม่นัดผมไว้ล่วงหน้า แล้วมานั่งอ้ำๆอึ้งๆ คุณคิดว่ามันไม่เสียเวลาไปหน่อยหรือ” รองประธานหนุ่มเริ่มไม่สบอารมณ์ตัวตัวของหญิงสาวตรงหน้า
“ริสารู้ค่ะ...ริสาผิดเอง แต่หลายวันมานี้คุณหายไป ริสาเองรอจะคุยเรื่องสำคัญกับคุณมาหลายวันแล้ว ริสาก็ไม่มีโอกาส วันนี้ริสาเลยมาหาแบรี่ด้วยตัวของริสาเอง เอ่อ...แบรี่ค่ะ คุณหายไปไหนมาหลายวันค่ะ”เป็นคำถามแรกที่เธอเอยถามชายหนุ่มหลังจากไม่ได้เจอกันหลายวัน
“งานผมยุ่ง”แบรี่บอกปัดๆ
“แล้ว...ทำไมคุณไม่โทรไปหา ริสาบ้างค่ะ”
“พอเถอะริสา ผมบอกว่างานผมยุ่ง คุณจะให้ผมโทรไปหาคุณในตอนไหนละ”
“แต่คุณมีเวลาออกไปกับคนอื่น...นั้นหรือค่ะที่บอกว่างานคุณยุ่ง”สุดท้ายความอดทนอดกลั้นที่เก็บไว้นานหลายวันก็เปิดขึ้นมา
“ริสา! นี่คุณแอบตามผมไปหรอ”สิ้นคำพูดของหญิงสาว ชายหนุ่มนึกเดือดขึ้นมา
“ริสาไม่ได้แอบ แต่คุณเองต่างหาก ที่ไม่เห็นริสาเอง”
เธอเองก็เผอิญเจอกับชายหนุ่มที่ล็อบบี้โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งหลายวันก่อน ตั้งแต่วันที่ชายหนุ่มไม่ได้มาหาเธอเลย เธอเองแทบจะวิ่งไปกอดชายหนุ่มไม่คิดว่าเธอจะเจอกับชายหนุ่มอันเป็นที่รักในวันนี้ หากแต่ว่าเธอยังไม่ทันได้วิ่งเข้าไป เธอก็เห็นผู้หญิงอีกคนที่เดินเข้ามากอดชายหนุ่มจากด้านหลัง แล้วภาพจากนั้นเธอก็ไม่คิดว่าเธอเองจะได้มาเจอกับตัวเอง ชายหนุ่มหันไปยิ้มกับสาวคนนั้นพร้อมจูบกันอย่างดูดดื่ม เธอได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงจุดนั้นนานมาก ไม่รู้จะเริ่มทำอะไร หัวสมองว่างเปล่า เหมือนทุกอย่างมลายหายไปในพริบตา รู้ตัวอีกทีเธอก็ไม่เห็นชายหนุ่มกับหญิงสาวทั้งสองแล้ว สุดท้ายในวันนั้นเธอได้แต่เข้าไปอวยพรงานแต่งงานของเพื่อนสาวแต่ไม่ได้อยู่ร่วมงานแต่งจึงขอกลับก่อน เพราะสภาพร่างกายและจิตใจของเธอตอนนั้นไม่มีเรี่ยวแรงคิดจะทำอะไรทั้งสิ้น
“แบรี่ค่ะ...คุณคิดว่าริสาเป็นใครสำหรับตัวคุณค่ะ”ริสากล่าวออกมาอย่างยากลำบาก เพราะเธอเองก็อยากรู้เหลือเกิน
“ริสา ผมไม่มีเหตุผลอะไรต้องบอกคุณในเรื่องไร้สาระพวกนี้ และเรื่องที่ผมจะออกไปไหนมาไหนกับใครนั้นมันเรื่องของผม คุณไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย”ชายหนุ่มจ้องไปยังหญิงสาวตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง
“ใช่ค่ะ ริสาอาจจะก้าวก่ายเรื่องของคุณไม่ได้ แต่ริสาเองก็คงมีสิทธิ์ที่จะถามคุณนะค่ะ ว่าทำไมคุณไม่ไปหาริสาเลย คุณเป็นอะไรของคุณ ริสาคิดถึงคุณจนทนไม่ไหว กลัวว่าคุณจะลืมริสาไปแล้ว ริสาโทรหาคุณไม่รู้กี่สายต่อกี่สายคุณเองก็ไม่รับสายของริสา ริสาทนไม่ไหวแล้วนะค่ะแบรี่...คุณเคยแคร์ความรู้สึกของริสาบ้างหรือเปล่าค่ะ ” หญิงสาวสุดจะทนจึงปล่อยคำพูดกับน้ำตาเอ่อล้นจากดวงตาออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“หยุดสักทีริสา! ผมเคยบอกคุณแล้วไง ว่าผมเกลียดคนเจ้าน้ำตาเป็นที่สุด เพราะน้ำตาไม่สารถใช้กับผมได้หรอก”
“แบรี่!... คุณใจร้ายกับริสามากไปแล้ว”ริสามองไปยังชายหนุ่มทั้งใบหน้าเปื้อนน้ำตา
“ผมไม่เคยใจร้ายกับใครก่อน หากคนนั้นไม่มายุ่งเรื่องของผม คุณเองก็น่าจะรู้จักผมดีกว่าใคร”
“ใช่ค่ะ ริสารู้ แต่ตอนนี้...ริสาเองเริ่มไม่แน่ใจแล้วค่ะ...ว่าริสารู้จักคุณดีไปกว่าใคร และริสาเอง...ก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า คุณยังเป็นแบรี่ที่ริสาเคยรู้จักอีกรึเปล่า ฮึกๆ” พูดไปก็สะเทือนใจตัวเอง ทนเก็บน้ำตาไม่ไหวได้แต่สะอื้นมันออกมา คำพูดของหญิงสาวได้สร้างความเงียบให้ทั้งสองฝ่าย จนสร้างความอึดอัดเป็นเวลานานกว่าใครจะพูดอะไรออกมา
“แบรี่ค่ะ...ถ้า...ริสาอยากบอกคุณว่า...”ริสาเงียบไปสักพักก่อนจะตัดสินใจบอกเรื่องที่ต้องการบอกกับเขาจริงๆ ซึ่งตอนนี้ชายหนุ่มได้หันหลังให้เธอ สายตาของเขามองออกไปด้านนอกของหน้าต่างโดยที่เธอเองไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่
“ริสา...ทะ...ท้องค่ะ”เป็นเสียงทีเหมือนกับกระซิบพูดกับตัวเองเปล่าๆ แต่ก็ยังดังพอที่จะทำให้ชายหนุ่มได้ยิน
“ริสา คุณจะบอกให้ผมรับผิดชอบสินะ”ชายหนุ่มยังมองออกไปทางหน้าตาโดยไม่สนใจหญิงสาวเลยว่าจะเป็นเช่นไรเมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากชายคนที่เธอรักมากมาย เธอเคยคิดว่าหากบอกเรื่องนี้ไปมันอาจจะทำให้อะไรหลายๆอย่างที่เป้นอยู่ตอนนี้ดีขึ้น แต่ไม่เลยมันกลับตรงกันข้ามกับความคิดของเธอ มันแย่กว่าเดิม มันเจ็บปวดมากจนเธออยากตายอยู่ตรงนี้ อยากหายไปให้ไกลจากตรงนี้ มันน่าสมเพชตัวเองที่ท้องแล้วมาขอความรับผิดชอบจากอีกฝ่าย โดยที่อีกฝ่ายไม่มีเยื่อใยใดๆที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
“ฮึก...สุดท้าย...ฮึก....คุณก็เป็นแบบนี้เองสินะ...ฮึก..เวรกรรมอะไรของฉัน ฮื้อๆ......”ไม่รู้ว่าเธอสะอื้นกับตอนเองนานแค่ไหน เธอรู้เพียงแค่ว่าเธอเหนื่อยมากเรี่ยวแรงของเธอทั้งหมดไม่สามารถพยุงตัวเธอเองตอนนี้ได้แล้ว แม้ให้เธอร้องไห้แทบตายอย่างไรก้ไม่สะท้อนเข้าไปถึงอีกฝ่ายให้หันกลับมาหาเธอได้ แล้วเธอมาทนอยู่ตรงนี้ทำไม ในเมื่อเขาไม่เห็นค่า ไม่สนใจ ไม่แคร์ในคำพูดและความรู้สึกของเธอ เธอก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทน นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอต้องทำในเมื่อเธอมอบความเชื่อเนื้อเชื่อใจให้แก่เขาแล้ว มอบทั้งตัวและหัวใจ มอบความรับผิดชอบให้เขาแล้ว แต่เขาตัดสินใจไม่ยอมรับ เธอจะต้องหน้าด้านหน้าทนอีกทำไม ต้องให้เขาไล่เธอก่อนหรือ
“คุณต้องการเท่าไหร่ ริสา บอกผมมา”
“คุณเห็นริสาเป็นผู้หญิงหิวเงินขนาดนั้นเลยหรือค่ะ แบรี่”
“แล้วคุณต้องการอะไร ต้องการให้ผมแต่งงานกับคุณหรือ หึ...เสียใจริสา นั้นไม่ใช่เป้าหมายของผมเลย ผู้หญิงที่ผมนอนด้วยทุกคนไม่มีคนไหนเลย ที่หัวสมองของผมคิดจะเอามาเป็นแม่ของลูก คุณคงเข้าใจผมนะ ริสา”
“สุดท้าย ฉันคงเป็นแค่ผู้หญิงที่คุณเคยผ่านมาทุกคนใช่มั้ย...ฉันนี่มันน่าสมเพชนะค่ะ หลงคิดว่าตัวเองสามารถหยุดคุณได้ สักวันฉันจะได้หัวใจคุณมาครอบครอง ทั้งๆที่ฉันเองมอบหัวใจให้คุณหมดแล้ว แต่แล้ววันนี้ฉันก็ได้คำตอบทุกอย่างแล้ว ว่าฉันมันโง่เอง โง่ที่ไปเชื่อคุณและโง่ที่ไปรักคุณ”
“เลิกโวยวายสักที ริสา ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณจะคาดหวังกับผมมากเท่าไหร่ แต่ขอให้คุณรู้ไว้อย่างนึง หยุดมันซะ”
“ง่ายนะค่ะ...คุณพูดได้ง่ายมากเลย แบรี่ จิตใจคุณทำด้วยอะไร”
“ผมจะให้คุณ สองล้านสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ของคุณ ส่วนเรื่องเด็กในท้องไม่ต้องห่วงผมรับผิดชอบเอง คุณคลอดเมื่อไหร่ลูกจะต้องอยู่ในความดูแลของผม แต่ผมคงต้องตรวจดูให้แน่ก่อน ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของผมจริงหรือเปล่า” ชายหนุ่มพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา ริสาก้มหน้าแล้วเริ่มใช้ความคิดทันที เมื่อรู้ว่าเขาจะต้องแยกจากลูกไปจากเธอ ลูกที่เธอตั้งใจให้เกิดมา ลูกที่เธอรักแต่ไม่ใช่เขา เขาไม่เคยคิดที่จะรักและยินดีไปกับสิ่งนั้นตั้งแต่ต้น
“ฉันไม่ต้องการ ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นจากคุณ แบรี่ ในเมื่อถึงขึ้นนี้แล้ว ฉันรู้ความรู้สึกของคุณแล้ว ฉันไม่มีความจำเป็นจะโกหกคุณต่อไปแล้ว แบรี่” ในเมื่อความต้องการไม่ตรงกันมันมีทางเดียวเท่านั้นที่เธอต้องรักษาสายใยของเธอไว้ให้อยู่กับเธอตลอดไป แม้ต้องโกหกเธอก็ยอม
“ริสา คุณจะพูดเรื่องอะไรของคุณอีก หรือแค่นี้ยังไม่พอ แล้วเรื่องที่คุณโกหกผมมันเรื่องอะไร”
“ใช่ค่ะ ริสาโกหกคุณ ริสาโกหกคุณ...ว่าริสารักคุณ ริสาโกหกว่าริสาให้ใจคุณไปหมดแล้ว ริสาโกหกว่า ริสา...ท้อง”
“นี่คุณคิดว่าผมว่างมากเลยหรือไง ที่มาฟังเรื่องที่คุณแสแสร้งบีบน้ำตาให้ผมเห็นใจคุณ นี่มันจะมากไปแล้วนะริสา”
“ค่ะ...มันมากพอที่ทำให้ฉันตาสว่าง แล้วรู้อะไรหลายๆอย่าง ไม่ต้องนั่งโง่งมงายกับตัวเอง รอความหวังที่ไม่เป็นความจริง”
“ริสา คุณทำแบบนี้แล้วคุณจะได้อะไรขึ้นมา ฟังนะริสา ผมจะไม่มีวันเอาชิวิตของผมไปสร้างห่วงกับใครทั้งนั้น”
“ค่ะ ฉันรู้ ว่าคนอย่างคุณไม่สร้างห่วงที่ไม่เป็นประโยชน์กับคุณเด็ดขาด แล้วฉันก็รู้ฐานะของตนเองดีค่ะ แล้วที่ฉันมาในวันนี้ก็เพื่อจะมาบอกคุณว่า...ลาก่อน ลาขาด ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งค่ะ” เมื่อจบประโยค ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวด้วยสายตาที่อึ้งแต่ยังไม่ทันได้เห็นสายตาที่เจ็บปวดของอีกฝ่าย เธอก็เดินหันหลังให้เขาแล้ว
“เดี๋ยวก่อน ริสา”แบร์รี่พูดออกมา ทำให้ริสาหยุดก้าวเดินออกจากห้องแต่ยังหันหลังให้กลับชายหนุ่ม
“เรามีเรื่องอะไรต้องพูดกันอีกหรือค่ะ”ริสาพยายามสะกดน้ำเสียงให้เป็นปกติมากที่สุด
“ขอให้คุณโชคดี แล้วผมจะจ่ายค่าตอบแทนให้คุณในเรื่องที่ผ่านมา”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งขรึม
“ขอบคุณค่ะ แต่อย่าได้เสียเวลากับฉันอีกเลยค่ะ ขอให้เรื่องของเราจบลงตรงนี้เถอะค่ะ โชคดีค่ะ...แบร์รี่” หญิงสาวไม่รอฟังคำพูดใดๆจากชายหนุ่มที่เขารักมากมายอีกต่อ เธอวิ่งออกไปจากห้องของเขาอย่างไม่แคร์สายตาใครๆที่มองมาที่เธอ พร้อมกับคำพูดที่อยู่ในใจเธอไปตลอดกาล ลาก่อนความรักแสนสมเพช
...........................................................
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เป็นกำลังใจให้จ้ะ