[Fic Vampire Company] First Valentine (เอซานxเจโนอิส) - [Fic Vampire Company] First Valentine (เอซานxเจโนอิส) นิยาย [Fic Vampire Company] First Valentine (เอซานxเจโนอิส) : Dek-D.com - Writer

    [Fic Vampire Company] First Valentine (เอซานxเจโนอิส)

    โดย Mook_Kung

    "นายรู้จักวันวาเลนไทน์รึเปล่า" แน่นอนว่าไม่...

    ผู้เข้าชมรวม

    768

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    768

    ความคิดเห็น


    11

    คนติดตาม


    16
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 มี.ค. 56 / 18:17 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    [Fic Vampire Company] First Valentine

    เรท G ใสกิ้ง

    คู่ เอซาน เจโนอิส


    ...........................................................................................................................


    cinna mon


     


     

     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ







      นี่คือหนึ่งชีวิตประจำวันของผู้นำแวมไพร์ตระกูลหลัก

       

      ชีวิตประจำวันของเอซาน  ซอร์คัต

       

      “วันนี้ฉันลงไปเมืองมนุษย์มาล่ะเอซาน” แต่วันนี้แปลกหน่อยที่ เจโนอิส ซาลล์ ไม่ได้มาระบายเรื่องของทายาทตระกูลซีลเพียร์ให้เขาฟัง

       

      แถมคนตรงหน้ายังดูระริกระรี้สุดๆ

       

      “นี่ฉันแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ” เจโนอิสหุบยิ้มแล้วออกปากถามเขาอย่างสงสัย

       

      มากเลยล่ะ….

       

      “ขนาดนั้นเชียว?...ช่างเถอะ” เจโนอิสว่าก่อนยิ้มหวานอีกครั้ง ตาสีแดงของเขากำลังเปล่งประกายวิบวับเหมือนคนเจอของถูกใจ จนเอซานอดที่จะรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆไม่ได้

       

      “นายรู้จักวันวาเลนไทน์รึเปล่า เอซาน” แน่นอนว่าไม่

       

      “ฉันลงไปเมืองมนุษย์ช่วงหัวค่ำ เห็นตัวเมืองจัดดอกไม้สวยงามเลยไปถามเอาว่าวันนี้มีอะไรพิเศษรึเปล่า” เจโนอิสเว้นช่วงเล็กน้อยเพื่อเห็นว่าคนฟังเริ่มตามไม่ทัน “รู้ไหม เทศกาลนี้มันสุดยอด!!

       

      ไม่รู้ แต่ดูจากท่าทางคนตรงหน้าคงจะยอดจริงๆ

       

      “เขาบอกว่ามันเป็นเทศกาลแห่งความรัก วาเลนไทน์ ทุกคนจะให้ช๊อคโกแลตกัน!

       

      สรุปว่านายอยากได้ช๊อคโกแลต?  พอคิดถึงตรงนี้  เจโนอิส ซาลล์ก็หยุดพูดพลางคลี่ยิ้มหวาน

       

      “สมเป็นเพื่อนสนิทของฉันจริงๆ เอซาน รู้ใจฉันทุกเรื่อง”

       

      ถ้ารู้ใจของเจโนอิส ซาลล์จริงๆคงไม่ถูกหลอกใช้บ่อยๆ

       

      “ฉันเคยหลอกใช้นายที่ไหน ไม่เค้ยยยยยยยยยย” เมื่ออ่านความคิดของแวมไพร์เพื่อนสนิทได้ เจโนอิสจึงออกปากแก้ตัวทันที “นั่นเขาเรียกว่าเพื่อนช่วยเหลือเพื่อนต่างหาก”

       

      เป็นแบบนั้นเองเหรอเอซานพยักหน้าช้าๆราวกับพึ่งรู้ว่าตนเข้าใจผิดมาตลอด

       

      “ว่าแต่ช๊อคโกแลตฉันล่ะ นายต้องให้ฉันนะ เพราะนายเป็นเพื่อนฉัน”

       

      เพื่อนพูดคำนี้ทีไรเขาก็ปฏิเสธคนตรงหน้าไม่ได้สักที ตอนนี้เขาไม่มีช๊อคโกแลตเลยได้แต่ให้เจโนอิสรอไปก่อน เดี๋ยวเขาจะไปหามาให้

       

      รู้สึกตัวอีกทีเขาก็เดินมาถึงห้องครัวที่ เชอร์คา ซาลัวร์กำลังเตรียมอาหารไปให้แฝดคนน้องของตระกูลซาลล์อยู่

       

      “อ้าว เอซาน แปลกนะที่นายจะมาที่นี่ตอนนี้น่ะ” ปกติเขาก็ไม่ได้คิดจะมาที่นี่ช่วงนี้เหมือนกันเขามักจะมาตรวจตราตอนช่วงใกล้รุ่งมากกว่า

       

      “มีอะไรอยากได้รึเปล่า” เชอร์คาเอ่ยถามขณะที่สายตายังไม่ละไปจากอาหารสูตรพิเศษที่ตั้งใจปรุง ท่าทางการปรุงอาหารดูคล่องแคล่วสมกับเป็นยอดพ่อครัว

       

      ” ความเงียบคือคำตอบ การไม่มีเจโนอิส ซาลล์อยู่ข้างๆเพื่อแปลความคิดเขาเป็นคำพูดมันลำบากแบบนี้นี่เอง

       

      เขายืนนิ่งๆมองดูเชอร์คาที่ยังคงจดจ่อกับการทำอาหารอยู่จนเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่ไม่อาจทราบ แต่ตอนนี้อาหารที่เชอร์คาทำเสร็จสมบูรณ์แล้วพร้อมกับส่งกลิ่นหอมลอยไปทั่วห้องครัว

       

      และดูเหมือน เชอร์คาเองก็พึ่งรู้สึกตัวเหมือนกันว่าอีกชีวิตที่อยู่ในห้องครัวยังอยู่ที่เดิมไม่ได้จากไปไหน นั่นทำให้คิ้วของเชอร์คาขมวดอย่างงุนงง

       

      “อยากได้อะไรรึเปล่าน่ะ” เขาถามอีกครั้งเพราะรู้แล้วแน่ๆว่าคนตรงหน้ามีธุระด้วยถึงได้ยืนรอ

       

      ช๊อคโกแลต” เสียงที่นานๆครั้งจะได้ยินดังออกมาจากปากของทายาทตระกูลซอร์คัต

       

      “หืม

       

      “สอนทำช๊อคโกแลต

       

      ตอนนั้นเองที่เขาได้เห็นทายาทซาลัวร์ทำหน้าเหมือนเห็นผี

       

      ……………………………………………………………………………………………

       

       

      “นั่นล่ะค่อยๆเคี่ยว ห้ามไฟแรงเดี๋ยวช๊อคโกแลตจะไหม้” เชอร์คาค่อยๆสอนผู้นำตระกูลหลักอย่าใจเย็น ในขณะที่เอซานค่อยๆเคี่ยวช๊อคโกแลตในหม้ออย่างตั้งอกตั้งใจ

       

      “นายอยากได้แบบหวานหรือดาร์คล่ะ”

       

      เจโนอิสชอบกินแบบดาร์คขมๆ

       

      แต่ดูเหมือนว่าเขาจะลืมตอบ ทำให้เชอร์คาต้องถามอีกครั้ง

       

      ดาร์ก” เขาคงชินกับการให้เจโนอิสอ่านความคิดอย่างเดียวมากไปหน่อย

       

      “ดาร์กเหรอ โอเคว่าแต่นายจะทำไปให้สาวที่ไหนน่ะอซาน ช่วงนี้เมืองมนุษย์มีเทศกาลแห่งความรักพอดี นายคิดจะเลียนแบบเหรอ” เชอร์คาเอ่ยถาม ในขณะที่เอซานยังคงจดจ่อกับช๊อคโกแลตที่เริ่มละลายจนข้นในหม้อ

       

      “ใช่หรือเปล่า” เอซานสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันมามองเชอร์คาที่มองมาทางตนด้วยประกายตาเจ้าเล่ห์

       

      ไม่รู้เมื่อกี้พูดอะไรบ้างแต่เขาก็พยักหน้าช้าๆ

       

      นั่นทำให้เชอร์คาตบมือของตัวเอง ส่งเสียงเหมือนล้อเลียนเขาและทำท่าราวเจอแจ๊คพอต

       

      “มา เดี๋ยวฉันจะสอนวิธีการตกแต่งช๊อคโกแลตระดับสูงที่ใครเห็นต้องชื่มชมและประทับใจในตัวคนทำให้กับนายเอง”

       

      แม้ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นระดับสูงจริงๆ เจโนอิสคงชอบ

       

      “ฉันมีเวลาสอนนายครึ่งชั่วโมงเพราะเดี๋ยวฉันต้องเอาอาหารไปให้เจนีส”

       

      พูดถึงตรงนี้เอซานก็หันไปมองอาหารที่เชอร์คาเตรียมไว้ให้เจนีส กลิ่นหอมของมันยังคงลอยตลบอบอวนไปทั่วห้องครัวแข่งกับกลิ่นหอมของช๊อกโกแลต

       

      “มาเริ่มกันเลย”

       

      นี่เป็นการทำช๊อคโกแลตครั้งแรกของเอซาน ซอร์คัต

       

      ………………………………………………………………………

       

      หลังจากนั่งรอช๊อคโกแลตแข็งตัวอยู่พักใหญ่ ก็ครบกำหนดเวลาตามที่เชอร์คาบอก

       

      ช๊อคโกแลตเสร็จแล้ว

       

      ด้วยเวลาตกแต่งแค่ครึ่งชั่วโมง พวกเขาจึงตกแต่งได้ไม่มากเท่าที่ควร แต่มันก็มีขนาดใหญ่ เจโนอิสน่าจะถูกใจ

       

      และตอนนี้เขาก็เดินมาถึงอาณาเขตทายาทแห่งซาลล์แล้ว

       

      เหล่าแวมไพร์ทั้งหลายที่เดินผ่านต่างทำความเคารพเอซาน แต่เอซานก็ทำได้เพียงเดินผ่านไปอย่างนิ่งสงบไม่ตอบรับใดๆ นอกจากปรายตาตามองเล็กน้อย เขายังรักษาภาพพจน์ของผู้นำตระกูลหลักที่น่าเคารพยำเกรงไว้ได้

       

      ถ้าพูดอะไรไป อาจจะหลุดสิ่งที่ไม่ควรหลุดได้

       

      ตอนที่คิดอะไรเพลินๆ สายตาของเขาก็บังเอิญเจอคนที่ตนกำลังตามหาอยู่ แต่ดูเหมือนคนที่ถูกตามหาจะไม่รู้ตัว เจโนอิสเดินห่างจากเอซานไปเรื่อยๆ และเอซานได้แต่มองตามเท่านั้น

       

      ร่างสูงของเอซานเดินตามเจโนอิสไปด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น แต่ดูเหมือนคนที่ตนเองกำลังตามอยู่ก็ไวไม่แพ้กัน

       

      ทำยังไงดีทำยังไงดีทำยังไงให้เจโนอิสหันมา

       

      รู้สึกตัวอีกทีเขาก็เผลอ ตะโกน เรียกคนที่ตัวเองกำลังเดินตามอยู่เสียแล้ว

       

      “เจโนอิส!!!

       

      เหมือนกับเวลาหยุดหมุน เหล่าแวมไพร์ที่ทำลังทำงานของตนต่างหยุดชะงักแล้วหันมามองทายาทซอร์คัตเป็นตาเดียว รวมทั้งเจโนอิสที่หันกลับมามองแล้วทำหน้าเหวอไม่แพ้กัน

       

      ตอนนี้เอซานกำลังสับสน ยิ่งเมื่อเหล่าแวมไพร์ใต้อาญัติของซาลล์หันมามองเขาพร้อมทำหน้าเหมือนได้เจอสิ่งล้ำค่าในชีวิตที่พร้อมจะไปบอกต่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานฟัง

       

      เอซาน  ซอร์คัต ตะโกนได้!

       

      เอซานยังคงทำอะไรไม่ถูกจนรู้สึกตัวอีกทีเจโนอิสก็มายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว

       

      “มีอะไรเหรอเอซาน” เจโนอิถาม แต่ตอนนี้ในหัวของเอซานขาวโพลนไปหมดความคิดสับสนจนแม้แต่เจโนอิสที่อ่านความคิดอยู่ยังขมวดคิ้ว

       

      “เจโนอิส ฉันฉัน

       

      พอถึงตรงนี้เจโนอิส ซาลล์ก็รู้ทันทีว่าคนตรงหน้ากำลังหลุดมาดแบบสุดๆ 

       

      ก่อนเอซานจะได้พูดอะไรทำลายภาพพจน์เจโนอิสก็จัดการลากผู้นำตระกูลหลักไปยังที่ลับตาคน โดนมีสายตาของเหล่าลูกน้องมองตามไปอย่างงุนงง

       

      พอถึงที่ลับตาคน เจโนอิสก็เริ่มปลอบทันที

       

      “ใจเย็นนะ เอซาน ใจเย็นๆ” ดูเหมือนเอซานจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้แล้ว ใบหน้าของเขาเริ่มกลับมาเป็นใบหน้าที่แสนเย็นชาดังเดิม แต่ในความคิดกลับตรงกันข้าม

       

      ขอโทษที่ทำให้ลำบากขอบคุณนะที่ช่วย ถ้าไม่ได้นายฉันต้องแย่แน่ๆ

       

      หน้าตายกับความคิดที่สวนทางทำให้เจโนอิสอดไม่ได้ที่จะยิ้มแห้งๆทุกครั้ง

       

      “ฉันตกใจแทบแย่แหนะ ตอนที่นายตะโกนเรียกชื่อฉัน”

       

      ก็ตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไงดีพยายามจะตามแล้วแต่ก็ตามไม่ทันสักทีเลยเผลอ             เอซานคิดถึงตรงนี้ก่อนเริ่มก้มหน้าหลบตา

       

       ใช่เขาเกือบหลุดต่อหน้าแวมไพร์นับร้อย

       

      “เรื่องนั้นช่างมันเถอะ สุดท้ายก็รอดมาได้ ว่าแต่นายมีอะไรรึเปล่า” เจโนอิสถามอีกครั้ง เอซานจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเจโนอิส

       

      ตอนนั้นเองเขาก็นึกได้ เขาเกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองเอาช๊อคโกแลตมาให้

       

      “ช๊อคโกแลต!!!” เจโนอิสเอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจ ก่อนยื่นมือออกมา ทำท่าออดอ้อนเหมือนสุนัขขออาหารเจ้านายไม่มีผิด เอซานพยักหน้าเล็กน้อยก่อนยกวัตถุในมือขึ้นมา

       

      ทำให้เขารู้ความจริงอีกข้อนึงเมื่อกี้ตอนที่ตอนเหล่าแวมไพร์จ้อง เขาเผลอบีบมันแตก….

       

      แม้ว่าสีหน้าจะยังคงปกติ แต่ความคิดหลังจากนั้นที่เจโนอิสอ่านได้ เหมือนกับโลกกำลังแตกเลยก็ไม่ปาน

       

      “ไม่เป็นไรน่าเอซาน แตกก็กินได้นะ!!!” เจโนอิสว่าพลางฉวยโอกาสหยิบของในมือเอซานมาแกะกินด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข มันอร่อยมากจนเจโนอิสแทบหยุดมือไม่ได้

       

      เมื่อเห็นคนตรงหน้ากินอย่างเอร็ดอร่อย เอซานถึงคิดว่าคุ้มแล้วที่อุตส่าห์เข้าครัวไปทำให้

       

      “นายทำเองเหรอ” เจโนอิสชะงักและถามเมื่อความคิดได้ เอซานจึงพยักหน้าตอบอย่างช้าๆ แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเจโนอิสทำสีหน้าซาบซึ้งมาให้เขา

       

      “ขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่านายทำเอง นึกว่านายซื้อมาจากพวกมนุษย์ ฉันจะค่อยๆกิน จะค่อยๆลิ้มรสชาตินะ” แม้จะไม่เข้าใจแต่เอซานก็พยักหน้ารับอีกครั้งเพราะเห็นว่ามันน่าจะทำให้เจโนอิส ซาลล์พอใจ

       

      “นายทำเพื่อฉันขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆนะเอซาน!!” ว่าเสร็จเจโนอิสก็กอดหมับคนตัวสูงกว่าจนทำให้คนสูงกว่าตัวแข็งทื่อทันที “นี่เป็นช๊อคโกแลตวาเลนไทน์ชิ้นแรกในชีวิตฉันเลย ฉันสัญญาว่าจะกินมันอย่างอร่อยที่สุด!!!

       

      เจโนอิส ซาลล์ไปแล้วพร้อมกับหัวใจของทายาทซอร์คัตที่แทบจะหลุดตามไป ร่างทั้งร่างยังคงยืนแข็งค้างในท่าเดิม สัมผัสนุ่มนิ่มของอ้อมกอดเมื่อกี้ยังไม่หายไป

       

       

      เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร แต่เขาต้องรีบตั้งสติก่อนที่จะมีใครเดินผ่านมาอีก

       

      พอตั้งสติได้ตอนนั้นเองที่เขาฉุกคิดขึ้นมาได้

       

      ว่าทำไมเขาไม่ไปซื้อช๊อคโกแลตตั้งแต่แรก

       

      และที่สำคัญที่สุด ทำไมเขาต้องทำตามคำสั่งของทายาทตระกูลซาลล์ด้วยล่ะ

       

       

       

      THE END

      ---------------------------------------


      เรื่องนี้มันคลอดจากความเพ้อ เพ้อจริงๆนะ กร๊ากกกกกกกกกกกกก ฟินนน รักเฮียมึน น่าร้ากกก

       

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×