คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ฝันหวานนำฝันร้ายตาม T.T~
“ไม่ต้องมาง้อฉันเลยนะไอ้พี่บ้า U^U**”ฉันสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของพี่ไวกิ้ง ฉันโกรธพี่แล้วนะเฟ้ย ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลัง ~_~++
“ยัยซุ่มซ่ามเอ้ย นอกจากจะโก๊ะแล้วเธอยังเจ้าอารมณ์อีกนะ ^O^!!”น้ำเสียงที่พูดนั่นไม่ใช่พี่ไวกิ้งนี่นา ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่กล้าเข้าใกล้ฉันตอนโมโห
“คะ...คีย์ ทำไมเป็นนายล่ะ สรุปว่าพี่ฉันไม่สนใจฉันเลยใช่มั้ย”
“อันนั้นฉันก็ไม่รู้อ่ะนะ พี่อนยูใช้ให้ฉันออกมาตามเธอกลับเข้าไป เธอ...ใจเย็นขึ้นบ้างหรือยัง”คีย์พยุงฉันให้ลุกขึ้น อยากยิ้มให้กว้างๆจังเลยวุ้ย ถ้าไม่ติดว่างอนไอพี่บ้าอยู่
“ยัง ฉันผิดมากหรือไงที่โมโห ฉันมันเป็นคนไม่มีมารยาท ไม่มีความอดทนแล้วผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอคีย์ =O=;”
“ไม่หรอก ฉันคิดว่าที่เธอโกรธขนาดนั้น คงเป็นเพราะมันมีเหตุผลอย่างอื่นด้วย ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธออสองคนโกรธอะไรกันมาก่อน แต่ฉันอยากให้เธอนิ่งไว้จะดีกว่า^_^”
ฉันอยากบอกนายแทบตายว่าฉันโมโหเพราะยัยนั่นได้นั่งข้างนาย ฮ้า~ รอยยิ้มของคีย์ *O*! เปล่งประกายชวนฝันที่สุด ฉันเผลอยิ้มตามคีย์ในที่สุด นั่นทำให้เขาขมวดคิ้วงงๆ อะไร แค่ฉันยิ้มมันดูแปลกจนนายต้องอึ้งเลยเหรอ ฉันบู้ปากให้กับอาการแปลกๆของคีย์ และนั่นก็ทำให้เขาหลุดขำซะอย่างนั้น ยิ่งฉันฮึดฮัดเท่าไหร่เขาก็ยิ่งหัวเราะหนักกว่าเดิม อะไรของเขากันเนี่ยอย่าบอกนะว่าคีย์บ้าไปแล้ว
“นายจะขำอะไรนักหนา ฉันดูตลกขนาดนั้นเลยเหรอ หรือว่านายบ้าไปแล้ว = _+^”
“ฉัน...ก็แค่ขำเรื่องที่ว่าเธอกับพี่อนยูเป็นเหมือนเนื้อคู่กันอ่ะ เธอเหมือนพี่อนยูมากจริงๆ ^^”พูดไปเขาก็ขำไปไม่ยอมหยุด แม้แต่เขายังเอากะแทมินด้วยเหรอเนี่ย
“พี่อนยูอยากออกมาตามเธอด้วยตัวเองจะตาย แต่ติดตรงที่เขาต้องอยู่กับคนอื่นๆในฐานะลีดเดอร์ และอีกอย่างพี่อนยูคิดว่าเธอไม่ค่อยชอบเขา ฉันเองก็อยากให้เป็นอย่างที่พี่เขาคิดนะ”
ขะ...เขาพูดอะไรเนี่ย ไม่อยากให้ฉันชอบอนยูอย่างนั้นเหรอ อ๊ายยย>_<มีหวังแล้วเรา เก็บอาการก่อนดีกว่า ฮึบ!!!
“ไม่ใช่ไม่ชอบ ฉันแค่ทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ต่อหน้าเขาเท่านั้นเอง ( --);;”จู่ๆทำไมมาชวนคุยเรื่อง อนยูไปได้เนี่ยคีย์
“ทำไมในตอนนั้นถึงบอกว่าอยากได้เบอร์ฉันล่ะ”
“ฉัน...เอิม...แล้วนายคิดว่าไงล่ะ จะมีสักกี่เหตุผลที่ฉันจะอยากได้เบอร์นาย”
“ดูเหมือนเธอกำลังสารภาพรักกับฉันเลยนะ เธอชอบฉันเหรอ ^_^;”คีย์ยิ้มนิดๆที่มุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ซ่อนอะไรหลายอย่างที่ฉันไม่อาจรู้ได้
“คือฉัน...ฉันอาจจะ...”
“ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องแบบนั้นหรอกนะ อย่างที่เธอว่ายังไม่อยากคิด ฉันว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่ฉันต้องคิดน่ะ”เขาเงยหน้าขึ้นเหม่อมองไปบนท้องฟ้า ก่อนจะพูดต่อ
“แต่หากมันมาเองฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับมันยังไง ความรู้สึกที่มันไม่แน่นอน มันยากจะควบคุม เธอคิดอย่างนั้นมั้ย”
“อื้อ!!!”ฉันตอบไปเท่านั้น เพราะอะไรถึงยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะคิดนะ เขาเองก็ไม่ได้เป็นเด็กแล้วนี่ หรือจะเป็นเพราะงานที่เขาทำ ฉันกอดตัวเองแน่นเข้าเมื่ออากาศเริ่มเย็นกว่าเดิม
“อากาศเริ่มเย็นซะแล้ว เราเข้าไปข้างในกันเถอะ อ๊ะ...เธอนี่นะ นี่มันฤดูหนาวของเกาหลีนะ ไม่ใช่เมืองไทย ทำไมถึงใส่เสื้อบางขนาดนี้”คีย์บ่นอุบเมื่อสังเกตว่าเสื้อกันหนาวฉันบางซะเหลือเกิน
ผ้าพันคอสีน้ำทะเลถูกเจ้าของเดิมย้ายมาไว้ที่คอของฉัน คีย์บรรจงพันผ้าพันคอให้ฉันอย่างช้าๆ แถมด้วยการจัดปกเสื้อกันหนาวให้ฉันอีกแน่ะ เขาชอบมาทำให้ฉันใจเต้นแรงแบบนี้ตลอดเลยไม่รู้หรือไงว่าฉันจะระเบิดอยู่แล้ว คีย์เงยหน้ามาสบตากับฉัน อ๋า...เหมือนในซีรีย์เกาหลีเลยแหะ และขั้นต่อไปก็คือ...ก่อนที่ความคิดของฉันจะเตลิดไปไกล แสงจ้าจากอีกฝั่งของถนนอันอ้างว้างก็ดึงความสนใจของเราให้หันไปมอง มีเพียงความว่างเปล่าที่เรามองเห็น สัญชาตญาณบอกฉันกับคีย์ให้กลับเข้าไปด้านในร้าน หวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่ฉันกลัวนะ
ยัยดาร่าดูจะสงบปากสงบคำลงไปกว่าเดิม แถมไม่ยอมมองหน้าฉันเลยตั้งแต่กลับเข้ามาจนงานเลี้ยงเล็กๆ(เล็กจริงๆ แม้แต่ร้านอาหาร)เลิก และฉันภาวนาให้เป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตเธอเลยนะยะยัยผีดาดา ขณะที่ฉันกับคนอื่นล่ำลาหนุ่มๆชายนี่ก็มีสายตาหนึ่งจับจ้องฉันไม่วาง เป็นสายตาที่ชวนให้อึดอัดที่สุดเท่าที่ฉันเคยโดนจ้องมาเลย (เคยเจอแต่สายตารังเกียจและอาฆาตมาตลอด = =;;) ดูท่าว่าอนยูจะมีคำถามมากมายที่ส่งมาทางสายตานะ แต่ถ้านายไม่พูดฉันก็ไม่สามารถอ่านสายตานายออกหรอก ฉันจ้องตอบอนยูไปด้วยสายตาที่ไม่ต่างกัน เขาจึงรีบหลบตาฉันแทบจะทันที
“งั้นเราก็ควรจะไปขึ้นรถกลับโรงแรมได้แล้ว ฉันมีเรื่องจะคิดบัญชีกับแกด้วยไอเติ้ล ~o~!”พี่ไวกิ้งก้มลงมากระซิบข้างหูฉัน ฉันสะบัดหน้าพรืดหนีไปขึ้นรถเป็นคนแรก
“ไอเติ้ล แกกำลังทำให้ฉันโกรธจริงๆแล้วนะเฟ้ย >O<+++”พี่ไวกิ้งตะโกนตามหลังฉัน ชิ!โกรธไปเลย ฉันคงจะง้อพี่อยู่หรอก-^-**
ฉันล้มตัวลงนอนหนีไอพี่ตัวร้ายที่ไม่ปกป้องน้องสาวในทันทีที่ถึงห้องพัก แต่ไอพี่ไวกิ้งก็อาแต่บ่นๆๆๆ แล้วก็บ่นจนฉันอยากเอาหัวมุดเข้าไปในหมอนให้มันรู้แล้วรู้รอด ฉันเพ่งผ้าพันคอที่พึ่งได้มา(ฟรีด้วยค่ะพี่น้อง ^^)ด้วยอารมณ์สับสน ก่อนหน้าที่จะเจอชายนี่ฉันเคยคิดว่าชอบคีย์ที่สุด แต่ตอนนี้ฉันกำลังสับสนระหว่างคีย์และอนยู อนยูที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ากับคีย์ที่ยากเกินจะเข้าหา เมื่อหลายชั่วโมงก่อนฉันดีใจกับคำว่าคิดถึงของอนยู และตอนนี้ฉันกำลังปลื้มอยู่กับผ้าพันคอของคีย์ ตกลงว่าฉันรู้สึกยังไงกันแน่ นี่ฉันกำลังเลือกระหว่างอนยูกับคีย์โดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเขาอนุญาตให้เลือกหรือเปล่าอยู่เหรอ หลงตัวเองไปมั้งเรา +__+^
ปึ๊กกกก!!! อ๊าก!!+[]+**!! ฉันแหกปากลั่น ในใจ= =;; เมื่อหัวกระแทกเข้ากับขอบเตียง ฉันคลำหัวตัวเองตรงที่โดนขอบเตียง พลางปรือตาขึ้นมามองขอบเตียงอย่างอาฆาต -__-^ ฉันดีดตัวลุกขึ้นเมื่อสังเกตว่ามีอะไรบางอย่างหายไป ผ้าพันคอของคีย์หาย ไม่นะ O_O;; ก็เมื่อคืนฉันยังกอดเอาไว้เลยนี่ มันจะหายไปได้ยังไง ฉันรื้อผ้าห่มหาอย่างลนลาน ไม่ว่าจะขอบเตียงใต้ผ้าปูที่นอน หรือแม้แต่รอบๆเตียงพี่ไวกิ้ง ไม่เจอแม้แต่เศษไหมพรม ไม่เอานะ หรือว่าเมื่อคืนฉันจะฝันไปว่าคีย์ให้ผ้าพันคอกับฉัน ฮือออ...ผ้าพันคอจ๋า~ V_V~
“หาไอ้นี่อยู่เหรอ น้องสาวสุดสวย ^O^++”พี่ไวกิ้งชูผ้าพันคอของคีย์ต่อหน้าฉัน และรีบยกมันขึ้นทันทีก่อนที่ฉันจะคว้าได้
“เอาคืนมานะ พี่ไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับของๆฉัน เอาคืนมาสิ”ฉันกระโดดเหยงๆแต่ก็ไม่สามารถเอื้อมถึงผ้าพันคอได้ ช่างเหมือนกับที่ฉันเอื้อมไม่ถึงคีย์ เฮ้อ...ชีวิตอันน่าอนาถ _*_!
“แกพูดว่าอะไรนะไอเติ้ล แกบอกว่าฉันไม่มีสิทธิ์ยุ่งงั้นเหรอ ฉันเป็นพี่ชายแกนะเฟ้ย=O=!”
“พี่ชายเหรอ แล้วที่พี่ไม่เคยปกป้องฉันล่ะ ฉันก็เป็นน้องสาวพี่นะ ~O~=”
“เรื่องนั้น ฉันไม่อยากให้แกทำนิสัยไม่ดีต่อหน้าคนอื่น ฉันอยากให้แกสำนึกว่าควรรักษามารยาท แกหัดเข้าใจบ้างเซ่”พี่ไวกิ้งลดมือลงจึงเป็นโอกาสอันดีที่ฉันสามารถแย่งผ้าพันคอคืนมาได้
“พี่ไม่ต้องมาพูดเลย ยังไงฉันก็หายไม่โกรธพี่อยู่ดีแหล่ะ หลบเลยจะไปอาบน้ำ -3-**”ฉันเดินชนไหล่พี่ไวกิ้ง ที่เอสแต่ยืนทำหน้าหน่ายๆ จะทำไปทำไม ยังไงฉันก็จะเป็นของฉันแบบนี้
โปรแกรมของเราในวันนี้ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับชายนี่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นไปดูการบันทึกเทปรายการต่างๆ ไปดูการถ่ายแฟชั่น ถ่ายโฆษณา เดินแบบ และอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง ก่อนจะจบลงที่การช็อปปิ้งที่ทงแดมุน ฉันไม่ประทับใจคงไม่ใช่ที่ เป็นโปรแกรมที่สุดๆจริงๆถึงจะน่าเหนื่อยไปหน่อยก็เถอะ ฉันวางกระดาษร่ายโปรแกรมลงแล้วหันไปจัดการมื้อเช้าตรงหน้าให้เสร็จอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะได้เจอกับยัยผีดาดาให้ความดันพุ่งแต่เช้า
“สวัสดีตอนเช้า ลิตเติ้ล อาหารเช้าอร่อยดีมั้ยจ๊ะ ^^=”นี่แค่คิดก็เหมือนจุดธูปเชิญ โผล่มาทันทีไม่ต้องคอยนาน อยากรู้จริงๆว่ายัยนี่เลี้ยงกุมารทองไว้หรือไง(-- )**
“ฉันแทบอยากจะเอามันออกมาเมื่อเห็นหน้าเธอ เมื่อไหร่จะไปให้พ้นๆฉันซะที~~**”ฉันขยับตัวลุกออกมา เมื่อยัยดาร่านั่งลงกับเก้าอี้ตรงหน้าฉัน
“แสดงว่าท้องบ้านๆอย่างเธอคงจะไม่เคยสัมผัสกับอาหารในโรงแรมหรูๆแบบนี้ เลยอาจจะต่อต้าน น่าสงสารจังเลย”ยัยดาร่าเบ้ปากอย่างน่ารังเกียจ อยากตั้นหน้ายัยนี่ชะมัด> <!!
“ฉันไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่ไม่อยากเสวนากับคนไร้สาระอย่างเธอ”ฉันหันหลังก้าวเท้าจะเดินหนี แต่ก็ต้องชะงักกับประโยคต่อมาของยัยดาร่า
“ที่เธอแอบไปสนิทกับชายนี่ท่าจะจริงสินะ เธอคงจะยังไม่เห็นข่าวล่ะสิ ลงแบบด่วนซะด้วย ปาปาราซซี่คีย์ชายนี่พันผ้าพันคอให้สาว”
“เธอ...ว่ายังไงนะ ข่าวลงที่ไหน oOo!!”ฉันถลากลับมาที่เดิม ยัยดาร่าจ้องหน้าฉันแบบไม่พอใจ แต่ก็ยอมสาธยายรายละเอียดให้ฟัง
“ฉันเดาว่ามันเป็นเว็ปแอนตี้แฟน พวกนั้นโพสด่าทั้งเธอและคีย์จนเว็ปล่ม ถึงฉันจะยังไม่มีทักษะการฟังการพูดเท่าเธอ แต่ทักษะการอ่านฉันเป็นเลิศ”
ฉันไม่สนใจคำพูดอื่นของยัยดาร่า สติของฉันมันหลุดลอยไปที่ภาพเหตุการณ์เมื่อคืน เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ แต่ว่าไม่ใช่ของนักข่าวมันกลายเป็นพวกแอนตี้แฟน และน่ากลัวกว่านักข่าวหลายสิบเท่า เขาจะเดือดร้อนมั้ยนะ จะเกิดอะไรกับเขาหรือเปล่า พวกแอนตี้แฟนอะไรนั่นยิ่งน่ากลัวกันอยู่ด้วย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาล่ะ เป็นเพราะฉันที่ทำตัวงี่เง่าทุกอย่างถึงออกมาแบบนี้ ฉันเดินอย่างไร้สติเข้ามาในห้องน้ำ เด็กสาวสองคนที่หน้าตาคุ้นๆกำลังจ้องฉันแปลกๆ ฉันไม่สนใจสายตาพิลึกนั่นเลยสักนิด สิ่งที่กำลังทำลายสติของฉันคือเรื่องข่าวนั่น
“ฉันว่าแล้วว่าต้องเป็นหนึ่งในคนที่เข้ามาในโครงการของพวกเขา เป็นยัยนี่คนที่เราเจอที่คาราโอเกะจริง”น้ำเสียงแบบนี้ เหมือนเคยได้ยินแหะ คาราโอเกะเหรอ เฮือก!!O_O!!
“ตีสนิทกับชายนี่เพื่อชัยชนะ มันเอาเปรียบคนอื่นไปมั้ง ~^~**”อีกคนปัดน้ำที่เปิดเอาไว้มาทางฉัน เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย = =++
“พวกเธอทำบ้าอะไรเนี่ย เราไม่รู้จักกันสักนิด กล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับฉัน!”ฉันแว้ดใส่เมื่อควบคุมสติได้ ฉันเป็นคนสู้คนนะยะ ~_~**
“เลิกยุ่งกับคีย์ซะ และทุกคนในชายนี่ ไม่งั้นเธอโดนมากกว่านี้แน่ และคนที่เธอยุ่งด้วยก็จะโดนไม่ใช่น้อย”
“เราเตือนเธอแล้วนะ เด็กน้อย ^_^#”คนที่วิดน้ำใส่ฉันเอื้อมมือมาตีแก้มฉันเบาๆ แล้วเดินยิ้มร้ายออกไป มะ...เมื่อกี้มันชีวิตจริงใช่มั้ยนะ =3=**
ฉันอ้าปากหวออย่างทำอะไรไม่ถูก สองคนเมื่อกี้ทำเอาฉันรู้สึกว่ากำลังอยู่ในละครก็ไม่ปาน ฉันโดนขู่ใช่มั้ยนั่น ฉันควรกลัวแล้วทำตามงั้นเหรอ เฮอะ!เห็นฉันหง๋อแบบพวกนางเอกละครหรือไงกัน อยากจะบ้าตาย นี่ฉันมีศรัตรูรอบด้านเลยนะเนี่ย มันน่าภูมิใจโดยแท้ ควรฉลองดีมั้ยน้อ~ ฉันลูบแก้มข้างที่ยัยนั่นตี คราวต่อไปถ้าเจอกันอีกฉันจะฟาดแบบให้ครบห้านิ้วเลย ไม่ใช่เบาๆแบบนี้แน่นอนสาบาน~ ~** หวังว่าโชคจะเข้าข้างให้ฉันได้เอาคืนบ้าง จะได้เห็นฤทธิ์หญิงไทยอย่างฉันว่าจะร้ายกาจแค่ไหน อย่าให้เจอนะ ฮึ่มมมม!!~^~!!
ความคิดเห็น