คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : งานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง ขณะที่พี่ไวกิ้งก็กางงานที่หอบมาถึงที่นี่ทำซะอย่างงั้น ฉันเล่นฟังค์ชั่นต่างๆของมือถือดูจนเกือบหมด มีแต่แบบที่ฉันไม่เคยเห็นทั้งนั้นเลย แต่ก็เล่นได้ไม่นาน ฉันก็กลับมาใจจดใจจ่ออยู่กับเบอร์ของคีย์เหมือนเดิม เมื่อวานเรายังร้องคาราโอเกะอย่างสนุกกันอยู่เลย แล้วตอนนี้ฉันกลับมานอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง และเตียงนี่ก็ไม่ใช่เตียงของคีย์อย่างเคย เฮ้อ!เราน่าจะมาถึงที่นี่ล่วงหน้านานกว่านี้ ฉันจะได้ใช้เวลากับชายนี่นานกว่านี้ โอ้ยยย!! ฉันจะบ้า อยู่กับพวกเขาไม่ถึงสองวันฉันก็บ้าไปขนาดนี้เลย ~O~!!
“ไอเติ้ล แกจะนอนดิ้นไปดิ้นมาให้มันได้อะไรฟะ ฉันไม่มีสมาธิทำงาน=O=++”พี่ไวกิ้งโยนหมอนใส่มาทางฉัน เล่นเอาฉันเกือบหลบไม่ทัน
“พี่บ้า! ทำไมชอบปองร้ายฉันนัก ก็คนมันกลุ้มใจนี่ จะให้นอนเฉยๆมันก็ฟุ้งซ่านสิ”
“ถ้ามันฟุ้งซ่านก็หาอะไรทำให้เลิกฟุ้งซ่านซะ จริงสิฉันกะจะคิดบัญชีแกเรื่องที่หายตัวไปพอดีเลย”ฉันสะดุ้งเมื่อโดนจี้จุดเรื่องที่กำลังคิดถึงพอดี
“เอ...คืนนี้เราต้องไปงานเลี้ยงใช่มั้ยพี่ไวกิ้ง ฉันไปหาชุดสวยยๆเตรียมไว้ดีกว่าเนอะ”ฉันหาเรื่องเฉไฉไปที่งานเลี้ยงตอนเย็น แต่มีหรือที่พี่ชายฉันจะยอมง่ายๆ
“แกไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ ตกลงว่าแกหายไปไหน แล้วทำไมถึงได้กลับมาพร้อมห้าคนนั่น ตอบฉันมาซะดีๆ”
“เอ๋...ชุดนี้สวยมั้ยอ่ะ ฉันว่ามันใช้ได้เลยนะ พี่ว่ามั้ย-- ^”ฉันดึงชุดอะไรออกมาไม่รู้ทาบลงกับตัวให้พี่ไวกิ้งดู สายตาที่บ่งบอกว่าเอาจริงนั่นทำให้ฉันต้องเก็บชุดเข้าที่เดิม
“ตอบฉันมาให้ไว ไอน้องตัวแสบ ~O~**”
ฉันหลบสายตาดุดันนั่น แล้วเริ่มเล่าทุกอย่างให้พี่ไวกิ้งฟัง ตั้งแต่ออกจากห้องน้ำไปจนถึงงานแถลงข่าว ซึ่งเป็นตอนจบของการหลงทางอันแสนมหัศจรรย์ (เค้ามีแต่การเดินทาง = =;;) พี่ไวกิ้งเงียบไปหลังจากฉันเล่าจบ ดูท่าพี่แกจะติดใจกับเรื่องการนอนของฉันเอามากๆ และเรื่องที่ฉันโดนพวกเขาล้อเรื่องเป็นเนื้อคู่กับอนยู แต่ดูท่าว่าเรื่องหลังจะค้างใจมากกว่า พี่ไวกิ้งลุกขึ้นเดินเข้าจับตัวฉัน แล้วจ้องฉันตาไม่กระพริบ จะมองให้ฉันสลายกลายเป็นผุยผงเลยหรือไง ไอพี่บ้า --^
“ฉันว่าพวกเขาคงไม่มีอะไรจะทำ ถึงได้ล้อแกแบบนั้นน่ะ _o_**”อ้าว...ไอพี่เฮงซวย พูดงี้ฆ่าฉันเลยดีกว่ามั้ย กล้าดียังไงมาดูถูกความสวยของฉันน่ะ ห๊า!!
“นี่พี่จะบอกว่าที่ฉันโดนแซวแบบนั้น เพราะพวกเขาหาเรื่องสนุกให้ชีวิตเหรอ”
“อะไรทำนองนั้นล่ะ หรือถ้าไม่เป็นแบบที่ฉันว่า พวกเขาอาจแค่เห็นเธอแป็นของเล่นฆ่าเวลาอะไรเทือกนั้น ฉันพูดถูกมั้ย =O=++”พี่ไวกิ้งลอยหน้าลอยตาพูดแบบไม่รักษาน้ำใจกันเลย
“ถามจริงเหอะ พี่เป็นพี่ชายของฉันจริงๆใช่มั้ย ฉันไม่ได้ถูกพ่อแม่เก็บมาเลี้ยงแน่นะ”ฉันยื่นหน้าเข้าไปหาพี่ไวกิ้ง ทำเอาพี่ไวกิ้งต้องละสายตาจากฉันกลับไปทำงาน
“แกอยากรู้จริงเหรอ เมื่อตอนที่ฉันอายุห้าขวบ แม่ก็คลอดแกออกมาไง ไอน้องบ้า ถ้าแกพูดจาไร้สาระออกมาอีกที ฉันฆ่าแกแน่~O~;;”พี่ไวกิ้งทำท่าจะเข้ามาบีบคอฉัน ขอตัวล่ะค่ะ --^
ฉันสลายตัวเองออกมาจากห้องพัก โรงแรมสุดหรูแบบนี้ดูไม่เหมาะกับฉันเอาซะเลย ทางเดินที่แสนเงียบงันบรรยากาศไม่ได้สนุกสนานอย่างที่ฉันเจอในบ้านพักหลังนั้น ความคิดถึงโผบินมาเกาะกุมความคิดฉันอีกครั้ง การที่ฉันได้เจอเรื่องวุ่นวายพร้อมกับการได้ใกล้ชิดชายนี่ มันเป็นเพราะอะไรเพราะโชคชะตาใช่มั้ย หรือว่าความบังเอิญเท่านั้น แต่จะเพราะอะไร ฉันเองกลับหวังอย่างหนึ่งว่าที่พวกเขาช่วยฉัน ไม่ใช่เพราะเห็นฉันเป็นแค่ตัวแก้เหงา ฉันถอนหายใจก่อนทิ้งตัวลงนั่งกับม้านั่งในสวน ฉันเดินมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ไม่เห็นรู้ตัวเลย
~ La la la La ~ la La la~ ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือถือเครื่องใหม่สั่นเทาอย่างแรง นี่มีเท่าไหร่ทุ่มหมดหรือไง ถึงสั่นแรงขนาดนี้ ฉันมองเบอร์ที่โชว์อยู่แล้วแทบหยุดหายใจ เป็นคีย์จริงๆเหรอที่โทรมา ฉันสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนกรอกเสียงลงไป สะกดกลั้นอารมณ์ตื่นเต้นเต็มที่
“ฮะ...ฮัลโล ฉันลิตเติ้ลพูดค่ะ”
[เอ่อ...ลิตเติ้ลเหรอ คือว่า...]มีเสียงเร่งเร้าทางปลายสายกันยกใหญ่ ที่น่าสงสัยก็คือนี่มันไม่ใช่เสียงคีย์อ่ะ ผิดหวังมากถึงมากที่สุด (_ _**)
“ใครพูดอ่ะ ไม่ใช่คีย์หรอกเหรอ อนยูพูดใช่มั้ย”
[ใช่! ฉันเอง ที่...ที่ฉันโทรมาก็เพื่อ...เพื่อจะบอกเธอว่า นี่เป็นเบอร์ของฉันไม่ใช่เบอร์ของคีย์]
“ว่าไงนะ!!=[]=!! แทมินหลอกฉันงั้นเหรอ แต่ว่าตอนที่เขาโทรไป มันดังอยู่ที่คีย์นี่”
[มือถือของคนอื่นจะเก็บไว้ที่บ้านพัก ส่วนของฉันจะให้คีย์เป็นคนถือ เพราะอะไรเธอคงจะรู้]
“โทรมาบอกแค่นี้เหรอ งั้นก็ลาก่อนตลอดชีวิต ฉันจะไม่ญาติดีกับพวกนายแล้ว >O<!!”
[“พี่อนยูอ่ะ ก็บอกไปสิว่าพี่คิดถึงลิตเติ้ล”]เสียงแทมินกระซิบกระซาบแบบตื่นเต้นสุดๆ แค่คิดถึงมันมีอะไรน่าตื่นเต้น
“คิดถึงฉันเหรอ...”
[ก็...มันก็อาจจะใช่ หมายถึงเราทุกคนน่ะ ฉันไม่กวนเธอดีกว่า แล้วเจอกัน]
ฉันแทบจะไม่รับรู้เลยว่าเขาวางสายไปตอนไหน มันทีแต่คำว่าคิดถึงที่แทมินพูดก้องในหูฉัน มันหมายถึงแค่อนยูหรือว่าพวกเขาทุกคนนะ แต่อย่างน้อยสิ่งที่ฉันหวังมันก็เป็นจริง ฉันไม่ใช่แค่คนที่ผ่านมาและผ่านไปสำหรับพวกเขา ฉันอมยิ้มออกมาที่ได้รับรู้เรื่องดีๆแบบนี้ ฉันลุกขึ้นบิดขึ้เกียจเดินตัวปลิวกลับห้อง มีความสุขจังเลย พวกเขาคิดถึงฉัน โลกนี้เป็นสีฟ้าสดใสไปหมด ขนาดเจอยัยดาร่าถากถางระหว่างทาง ฉันยังไม่อยากจะสนใจต่อปากต่อคำเหมือนเคยเลย นี่สินะที่เขาว่ากันว่า ความรักมันเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างได้ เปลี่ยนได้จริงๆ เปลี่ยนคำถากถางเป็นคำพูดแสนหวาน เปลี่ยนความเงียบงันให้คึกครื้น แล้วเจอกันคืนนี้นะชายนี่
ร้านอาหารเล็กๆแต่อบอวลไปด้วยความอบอุ่นเป็นสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงเล็กในคืนนี้ มันเป็นหนึ่งในรางวัลของการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศโดยเฉพาะ ส่วนรางวัลของผู้ชนะนั้นฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร แต่แค่ผ่านเข้ารอบนี้แล้วทำให้ฉันได้มาเที่ยวไกลถึงเกาหลี แถมยังได้รู้จักกับชายนี่แบบใกล้ชิดอีก ฉันนั่งแทบไม่ติดที่เพราะยังรู้สึกตัวลอยกับคำว่าคิดถึงอยู่เลย ห่างกันแค่ไม่ถึงชั่วโมงก็มาบอกว่าคิดถึง เขินชะมัด ^///^:;
“นั่งยิ้มอะไรอยู่เหรอจ๊ะ ลิตเติ้ล ท่าทางดูมีความสุขจังนะ ^^=”เสียงแบบนี้มีคนเดียวเท่านั้นล่ะ ยัยผีดาดาน่ารังเกียจ
“ฉันจะมีความสุขอะไรมันก็เป็นนเรื่องของฉัน เธออย่ามายุ่งกับฉันจะได้มั้ย ~~**”อยากจะฆ่าหั่นศพยัยบ้านี่ไม่ให้เหลือซากจริงๆ ชอบมาวุ่นวายกับฉันอะไรนักหนา
“เชอะ! ถึงฉันจะฟังไม่ออก แต่อย่านึกนะว่าฉันจะเดาไม่ออกว่าเธอรู้จักกับชายนี่ดี”ยัยดาร่ายักคิ้วอย่างรู้ทัน รู้แล้วไงใครสนกันล่ะ
ก่อนที่ฉันกับยัยดาร่าจะเข้าสู่ภาวะคุกรุ่นมากไปกว่านี้ ห้าหนุ่มชายนี่ก็เฉิดฉาย โดดเด่นมาแต่ไกลเลยนะพวกนาย ฉันยิ้มออกมาอย่างลืมตัว โดยไม่ได้รับรอยยิ้มตอบกลับมาแม้แต่นิดเดียว พวกเขาส่งยิ้มทักทายคนอื่นๆยกเว้นฉันอย่างเคย ตกลงพวกนายคิดถึงฉันแน่เหรอ ทำไมทำเหมือนว่าไม่ได้พูดคำว่าคิดถึงออกมา แทมินเป็นคนแรกและคนเดียวที่หันมายยิ้มให้ฉัน แต่ถ้าจะยิ้มแบบนี้ขอร้องว่าอย่ายิ้มดีกว่า แทมินสะกิดอนยูให้หันมามองฉัน เขาปลายตามาเพียงแวบเดียวก็เมินหน้าไปทางอื่น คล้ายจะซ่อนอะไรบางอย่าง อย่าบอกนะว่านายเขินฉัน =O=++
“แค่โดนพวกเขาเมินแค่นี้ ถึงกับหน้าถอดสีเลยเหรอ สงสัยพวกเขาคงไม่อยากให้ใครรู้ละมั้งว่ารู้จักคนอย่างเธอ”ยัยดาร่าที่นั่งยืดอยู่ข้างๆคีย์ยิ้มเยาะฉัน ทำไมข้างๆฉันไม่เป็นคีย์ฟะ ~O~!!
“ดาร่า! ฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอในเวลาดีๆแบบนี้ กรุณาหุบปากได้มั้ย อย่าพูดอะไรที่มันทำลายความอดทนของฉันเลย + +**”ฉันยิ้มคืนอย่างแสนหวาน แต่ซ่อนความร้ายไว้ข้างใน
“พวกเธอคุยอะไรกัน ทำไมถึงได้ยิ้มแปลกๆแบบนั้น”จงฮยอนยื่นหน้าเข้ามา จับจ้องฉันกับยัยดาร่าเขม็ง
“ยุ่ง!!! เออ...ขอโทษที ฉันโมโหนิดหน่อยน่ะ”จงฮยอนหน้าเหว๋อไปเล็กน้อย แต่พอได้ยินคำอธิบายเขาก็ยิ้มเหยๆแล้วเงียบไป
“คงเพราะนิสัยแบบนี้ละมั้ง พวกเขาถึงไม่อยากแสดงออกว่ารู้จักเธอ ลิตเติ้ลจ๊ะโตแล้วก็เปลี่ยนนิสัยเด็กๆแบบนี้ซะทีเถอะ ^_^++”ฮึ่มมม...ฉันโมโหแล้วนยัยดาร่า
ฉันลุกพรวดพราดขึ้นโดยลืมไปว่าไม่ได้นั่งบนเก้าอี้ นั่นทำให้เข่าของฉันกระแทกเข้ากับขอบโต๊ะเต็มเปา ฉันเซเล็กน้อยแต่ก็กัดฟันยืนจนมั่นคง ฉันเม้มปากพยายามกลั้นอารมณ์เอาไว้ ยัยดาร่ายิ้มเยาะฉันอีกรอบ นั่นยิ่งทำให้ฉันโมโหเข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วฉันไปเหยียบตาปลายัยนี่ไว้หรือไง ถึงได้ตามจองล้างจองผลาญฉันไม่หยุดหย่อน
“ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ เธออยากตายจริงๆใช่มั้ย~[]~!!”ฉันตะโกนใส่หน้ายัยดาร่า คุณเธอผุดลุกขึ้นมาจ้องตอบฉัน แล้วเอ่ยน้ำเสียงเรียบๆ
“คิดว่าจะฆ่าฉันได้แน่เหรอ หัดใจเย็นซะบ้างสิ แค่นี้มาทำเป็นทนไม่ได้ ^^**”
“จะลองดูมั้ยล่ะ!!>O<!!!%~”ฉันตั้งท่าเตรียมกระโจนเข้าใส่ยัยดาร่า แต่ติดตรงที่โดนพี่ไวกิ้งกับอนยูดึงแขนไว้คนละข้าง
“ใจเย็นๆสิฟะไอเติ้ล “พี่ไวกิ้งดึงแขนฉันให้นั่งลง อนยูผุดลุกตามอีกคนเขามองฉันกับยัยดาร่าสลับไปมา ก่อนเอ่ยเสียงเครียด
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพวกเธอทะเลาะอะไรกัน แต่ฉันไม่อยากให้บรรยากาศดีๆต้องถูกทำลาย”
“ฉันก็ไม่อยากทำลายบรรยากาศดีๆที่เป็นหรอก แต่นายโดนกดดันมากๆนายจะระเบิดมั้ยล่ะ ฉันก็อยู่ของฉันดีๆ ไม่ได้ไปเหยียบหางยัยบ้านี่สักหน่อย”
“เธอว่าอะไรฉัน =O=!”ยัยดาร่าชักสีหน้าเมื่อเห็นฉันสะบัดหน้ามามอง
“ลิตเติ้ล! เกรงใจคนอื่นบ้างสิฟะ พวกเขาจะพลอยไม่สนุกไปด้วยนะเฟ้ย”ฉันหันไปมองหน้าพี่ไวกิ้ง ตกลงว่าฉันเป็นฝ่ายผิดใช่มั้ยเนี่ย
“ก็ได้ เติ้ลผิดใช่มั้ย เติ้ลไปก็ได้ ทุกคนจะได้ทานข้าวอย่างมีความสุขไง”ฉันยิ้มฝืดๆในขณะที่น้ำตาเริ่มคลอออกมา ฉันสะบัดหน้าเดินออกมาจากโต๊ะอาหารอย่างรวดเร็ว
ความผิดฉันอย่างนั้นเหรอ แม้แต่พี่ชายของฉันยังเข้าข้างยัยดาร่า ฉันปาดน้ำตาแล้วยิ้มให้กับโชคชะตาของตัวเอง ตั้งแต่เกิดไม่มีครั้งไหนที่ฉันชนะยัยดาร่าได้ ฉันทรุดตัวลงเพราะเริ่มเจ็บเข่าที่ฟาดกับขอบโต๊ะ เจ็บทั้งใจเจ็บทั้งกาย ทำไมมันซวยอย่างนี้น้า! ฮืออออ~T^T~ สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนี้ก็คือการนั่งร้องไห้อยู่หน้าร้าน จะไปไหนก็ไปไม่ได้ โอ้ยยย~ฉันอยากจะบ้าๆๆ บ้าแล้วไม่ต้องรับรู้อะไรเลย ไม่ต้องรับรู้ว่ามียัยดาร่าอยู่บนโลกใบนี้
ความคิดเห็น