คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : กลับสู่ความเป็นจริง
“ไอลิตเติ้ล!!!O0O;;”ฉันเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียกอันคุ้นหู สิ่งที่ฉันเห็นก็คือไอพี่ไวกิ้งกำลังก้าวฉับๆเข้ามาหาฉัน ด้วยแววตาแสนโหด = =++
“อึ๋ยยย~ ไอพี่ไวกิ้ง +_+;;”ฉันเขยิบตัวเข้าไปหลบข้างหลังมินโฮ เพราะหวังว่าความตัวสูงของเขาจะสามรถกันพี่ไวกิ้งเอาไว้ได้
“เป็นอะไรของเธอ -0-;”มินโฮเขยิบตัวหนีฉัน นั่นทำให้พี่ไวกิ้งคว้าคอเสื้อฉันเอาไว้ได้ในที่สุด ตายอย่างเขียดแน่เลยฉันงานนี้ U_U++
“แกหายหัวไปไหนมาไอลิตเติ้ล ภาษาเกาหลีแกก็พูดได้ ทำไมไม่นั่งแท็กซี่ตามมาที่โรงแรม ห๊า!!!>O<!!”พี่ไวกิ้งตะโกนใส่หูฉันท่ามกลางสายตางงๆของชายนี่ อายวุ้ย =.,=^
“เติ้ลจำชื่อโรงแรมไม่ได้ แล้วถึงจำได้ก็ไม่มีตังค์นั่งแท็กซี่หรอก พี่อย่าตะโกนมากได้มั้ย เติ้ลอายชายนี่เขาอ่ะ = =++”ฉันบุ้ยใบ้ไปทางห้าหนุ่มที่ยืนมองอยู่
“นั่นล่ะเรื่องที่เราต้องคุยกันหลังงานแถลงข่าว_o_!!”พี่ไวกิ้งปล่อยมือจากคอเสื้อของฉัน แล้วหันไปจ้องห้าหนุ่มๆแบบเอาเรื่องสุดๆ ช่วยดูหน้าคุณบดิการ์ดเขานิดนึงนะค่ะ = =^^
“ในเมื่อเธอเจอคนที่รู้จักแล้ว งั้นเราก็ควรจะแยกกันตรงนี้ก่อนจะมีนักข่าวเข้ามาเจอ”คีย์พูดตัดหน้าฉันด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างจากเมื่อคืนราวฟ้ากับเหว เพราะอะไรอ่ะ?
“เอ่อ...ขอบใจมากนะที่คอยดูแล ฉันเจอพี่ชายแล้วพวกนายก็ไม่ต้องคอยลำบากแล้ว^^++” ฉันโค้งเป็นการขอบคุณพวกเขา แต่แทมินกลับหัวเราะออกมาเบาๆ
“พี่ชายหรอกเหรอ พี่อนยูเกือบจะออกอาการหึงเธอแล้วนะ เพราะคิดว่าเป็นแฟน ^O^;”
“บ้า!!! ฉันยังเรียนม.ปลายอยู่นะ ยังไม่ถึงเวลามีแฟนหรอก อีกอย่างฉันยังไม่คิดจะมีด้วย”ถ้าไม่ใช่คีย์อ่ะนะ...ฉันต่อประโยคที่เหลือในใจ
“ยังไงก็ขอบใจอีกครั้งนะ ^/ \^”พวกเขาพยักหน้าก่อนเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัว ส่วนฉันก็ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับพี่ไวกิ้ง พี่ทีมงาน และผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ โดยเฉพาะยัยดาร่า
พี่ไวกิ้งเหมือนไล่ฉันด้วยสายตาให้ไปขอโทษพี่ทีมงานทุกคน โดยเฉพาะทีมงานชาวเกาหลีที่หน้ามีรอยฟกช้ำคนหนึ่ง มันหน้าตาคุ้นๆพิกลแหะ ฉันมองหน้าพี่เขานานก่อนจะโค้งศรีษะขอโทษอย่างแรง และขอโค้งอีกรอบเพราะฉันนึกออกแล้วว่าเคยเห็นพี่เขาที่ไหน เป็นคนเดียวกับที่โดนคีย์ต่อยเมื่อคืนน่ะแหล่ะ= =^^ ใครจะรู้ว่าพี่แกจะเป็นคนที่มาตามหาฉัน เล่นมาแบบหลอนซะขนาดนั้นน่ะ ยัยดาร่าพุ่งเข้ามาหาฉันด้วยความรวดเร็ว อยากถามเรื่องชายนี่ล่ะสิ ฉันก็อยากคุยทับเธออยู่เหมือนกัน เอาให้อกแตกตายไปเลย
“ลิตเติ้ลจ๊ะ ไม่ทราบว่าเธอหายไปไหนมาเหรอ แล้วยังโผล่กลับมาพร้อมชายนี่อีก”ยัยดาร่าหรี่ตามองฉันเหมือนอย่างเคยทำ
“ไม่มีเหตุผลใดที่ฉันต้องตอบเธอ อีกอย่างพวกเขาก็คงไม่อยากให้ฉันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟังเท่าไหร่หรอก”ฉันเชิดหน้าตอบ แอบสะใจอยู่ในที อิอิ~ ^^~
พี่ไวกิ้งพาฉันไปอธิบายกับทีมงานและกรรมการทางเกาหลีถึงเรื่องที่หายตัวไป แต่พอได้รู้ว่าฉันไม่ได้รับอันตรายใดๆ เหล่ากรรมการก็ไม่ได้ว่าอะไร พี่ไวกิ้งยังบอกฉันอีกว่าฉันเกือบโดนถอดจากการแข่งขัน ถ้าหากตามหาไม่เจอก่อนงานแถลงข่าว แต่โชคดีที่พี่ชายสุดหล่อของฉันคนนี้ขอเวลาจนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย ฉันจึงยังเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันอยู่ อันนี้ขอขอบคุณพี่ชายอย่างสุดซึ้ง มีพี่ชายที่ทั้งหล่อทั้งแสนดีมันก็ดีอย่างนี้ล่ะ อีกประเทศหนึ่งที่จัดโครงการนี้ก็มีผู้เข้ารอบมาเพียงสองคน เห็นว่าชื่อ มินนี่ กับดาน่า มาจากประเทศญี่ปุ่น ไม่ทราบว่าคนหลังน่ะเป็นพี่น้องท้องเดียวกับยัยดาร่าหรือเปล่า ชื่อเหมือนกันซะ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ คุณลิตเติ้ล^^”คนที่ชื่อมินนี่ยื่นมือมาตรงหน้าฉัน แบบว่ารอยยิ้มที่ส่งมามีไมตรีกว่ายัยดาร่าซะอีก
“ยินดีเช่นกันค่ะ^^”ฉันคุยกับเธอแบบไม่ต้องใช้ล่ามเพราะเรื่องภาษานั้น ฉันถนัดอยู่แล้ว
“เชิญทุกท่านประจำที่ค่ะ งานแถลงข่าวจะเริ่มแล้ว”ทีมงานเข้ามาตามเราทั้งห้า กำลังเขม่นกันอย่างอกรสออกชาติอยู่ด้านหลังเวทีแถลงข่าว
ฉันรอจนคนอื่นๆเดินขึ้นเวทีไปจนครบ จึงเดินตามพี่ไวกิ้งขึ้นไปเป็นคนสุดท้าย แสงแฟลตจากกล้องของนักข่าวสว่างวาบขึ้นมานิดหน่อย พอให้เราห้าคนแสบตาและเต๊ะท่าทางอยู่พักหนึ่ง ทีม งานก็เชิญเราให้นั่งประจำที่ ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับชายนี่ น่าจะใช่นะถ้าฉันเดาไม่ผิด พอฉันนั่งลงยังไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ ชายนี่ทั้งห้าคนก็เดินยิ้มแย้มออกมายืนให้นักข่าวถ่ายภาพ แสงแฟลตช่างแตกต่างกันลิบลับเลย = =^ ระหว่างที่กำลังนั่งลงนั้นอนยูก็เงยหน้ามาสบตาฉันที่กำลังมองอยู่เช่นกัน
แปลกจังเลยฉันพึ่งได้สัมผัสกับชายนี่อย่างใกล้ชิดเมื่อไม่นานนี้เอง เรายังหยอกล้อกันอย่างสนิทสนมเมื่อกี้นี้เอง ทำไมตอนนี้มันดูเฉยชาจัง คีย์ที่เคยทำกับข้าวให้ฉัน จงฮยอนกับแทมินที่สละชุดให้ฉัน และคอยล้อเรื่องฉันกับอนยู มินโฮที่...ที่...ที่อะไรดีล่ะ คอยปรามแทมินให้ฉันเหรอ เขาเรียกว่าสนับสนุนมากกว่าปรามใช่มั้ยนะ และคีย์คนที่พึ่งช่วยปลอบฉันเมื่อคืน พวกเขาดูเย็นชาเหลือเกินในตอนนี้ ฉันมองหน้าพวกเขาทีละคน เมื่อโดนแทมินขยิบตาให้และพยักพเยิดไปทางอนยูฉันก็ต้องรีบเบือนหน้าหนี และให้ความสนใจกับพิธีกรที่กำลังสัมภาษณ์ถึงการตัดสินในรอบสุดท้าย
พิธีกร : ไม่ทราบว่าวิธีการตัดสินในรอบสุดท้ายเป็นอย่างไร
ชายนี่ : ก็ในรอบแรกนั้นเราจะให้ทางกรรมการที่คัดจากสไตลิสแถวหน้าของสองประเทศตัดสิน ส่วนในรอบนี้เราชายนี่จะเป็นคนตัดสินเอง เนื่องจากเรามั่นใจอยู่แล้วว่า ชุดที่ผ่านเข้ารอบมานั้น ต้องตรงคอนเซ็ปและเหมาะกับชายนี่
พิธีกร : ระยะเวลาที่ใช้ตัดสินนานมั้ย
ชายนี่ : เราก็ได้เห็นชุดกันแล้วล่ะครับ เราขอเวลาตัดสินเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น เพื่อให้ทันกำหนดการ
ฉันมองหน้าด้านข้างของคนที่กำลังตอบคำถามอย่างจริงจัง เขาดูดีกว่าตอนที่โดนเหล่าน้องๆแกล้งอีกนะเนี่ย พอตอบคำถามจบอนยูก็ปลายตามาทางฉัน ดูท่าเขาจะรู้นะว่าฉันจ้องอยู่ ฉันหลบสายตาวาวนั่นไม่อยากทำเหมือนว่าสนใจพวกเขา แต่คนที่น่ากลัวกลับเป็นแทมินเพราะเขาคอยจับตาดูฉันกับอนยูอยู่ตลอด การแถลงข่าวจบลงเกือบเที่ยงภารกิจต่อไปของเราก็คือการไปทานข้าวเที่ยงกับชายนี่ เพื่อเป็นการแนะนำตัวและทำความคุ้นเคยกัน ไม่รู้ว่ามันจำเป็นกับฉันหรือเปล่า เพราะว่าฉันไปตีสนิทพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจมาแล้วเรียบร้อย
ร้านอาหารที่เราทั้งหมดมาทานข้าวนั้น เป็นร้านอาหารที่กว้างในระดับหนึ่ง แหม...ระดับชายนี่ไม่บอกก็คงรู้ว่าต้องเป็นห้องสำหรับวีไอพีอยู่แล้ว นี่ครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ฉันได้มาทานอาหารในห้องอาหารสุดหรูขนาดนี้ เป็นความภูมิใจของวงตระกูลกันเลยทีเดียว แบบนี้ก็ขออนุญาตถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย! ที่ระลึกหน่อยละกัน ฉันสะกิดพี่ไวกิ้งให้ถ่ายรูปให้ ไอพี่ตัวแสบแยกเขี้ยวใส่ฉันแต่ก็ยอมถ่ายให้แต่โดยดี ขณะที่เรากำลังถ่ายรูปกันอย่างเมามันอยู่นั้นหนุ่มๆชายนี่ที่ตามมาทีหลังก็เข้ามา แทมินทำท่าทำทางตื่นเต้นที่ได้มาทานข้าวกับพวกฉันเต็มที่ มันน่าตื่นเต้นตรงไหนเนี่ย +_+^^
“สวัสดีครับทุกคน ยินดีที่ได้มาทานข้าวกับทุกคนนะครับ ^^=”อนยูยิ้มจนตาจะปิดให้กับทุกคน ชิ! ทีกับฉันชอบทำหน้ายักษ์ใส่อยู่ได้
“ขอโทษนะครับที่ให้รอนาน ผมว่าเรามาทานข้าวกันดีกว่านะครับ ^O^!!!”แทมินกล่าวเปิดงานอย่างเป็นกันเอง เมื่อพวกเขานั่งประจำที่กันเรียบร้อย แต่ทำไมอนยูต้องมานั่งใกล้ฉันด้วย
“ทำไมนายต้องมานั่งข้างฉันด้วย ที่นั่งว่างๆตรงอื่นก็มี = =^”ฉันกระซิบถามเขา ที่กำลังยิ้มแย้มให้กับคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ลืมตีหน้านิ่งใส่ฉัน จะแกล้งลืมบ้างก็ดีนะ +_=;;
“เธอน่าจะรู้ว่าทำไมฉันถึงต้องมานั่งข้างๆเธอ ถึงเราจะทำเฉยแต่พวกนั้นไม่เฉยกับเราหรอก ถ้าฉันกับเธอยังเจอกันมันก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ”
“นายก็หัดแก้ข่าวซะบ้างสิ รู้จักปรามเจ้าพวกนั้นซะบ้าง เดียวสักวันพวกเขาก็ขี่คอนายอยู่กันพอดี -0-!”
“เธอไม่ต้องมาสอนฉันหรอกฉันรู้ว่าควรทำยังไง เธอน่ะสนใจอาหารตรงหน้าจะดีกว่า ระวังไม่ได้กินสักอย่าง”
“ว่าแต่ฉันนายก็เหมือนกันล่ะ ~O~!”ฉันแยกเขี้ยวใส่เขาอีกรอบ ก่อนสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นและก็เจอะเข้ากับสายตาสงสัยของยัยดาร่า
“มองอะไรดาร่า หน้าฉันไปเหมือนญาติฝ่ายไหนของเธอยะ >O<++”ฉันหันไปแว้ดใส่สายตาสอดรู้นั่นด้วยว่าอารมณ์ไม่ดี
“อ้าว...ลิตเติ้ลพูดแบบนี้ไม่สวยนะจ๊ะ ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเธอเลยนะ”
“ฉันก็ไม่ได้ว่าเธอสวยนี่ ฉันไม่ชอบให้ใครจ้อง ไม่งั้นมีแหลก โดยเฉพาะเธอ!!!
“ไอเติ้ล แกเป็นบ้าอะไร ใครเอารังแตนให้แกกินฟะ ถึงได้มาอาละวาดเนี่ย นี่ดีนะที่มีแค่เราสามคนที่ฟังออก = =^^”พี่ไวกิ้งดึงแขนฉันเอาไว้ จากการประเมินสายตาของพี่ชายฉันแล้วคงไม่เป็นการดีที่ฉันจะพูดต่อ
ฉันหันกลับมาระบายอารมณ์ไปกับการกิน กิน และกิน อาหารที่วางเรียงอยู่ใกล้มือฉันถูกจัดการซะเรียบภายในเวลาไม่นาน ข้างหนึ่งนี่ก็เนื้อคู่แบบจำใจ อีกข้างก็พี่ชายที่คอยคุมความประพฤติ เฮ้ย!ฉันไม่ชอบแบบนี้เลย อย่างน้อยน่าจะส่งคีย์มานั่งตรงข้ามกับฉัน ไม่ใช่ส่งไปนั่งข้างๆยัยดาร่า หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จฉันก็ต้องแยกกับชายนี่จริงๆสักที แต่ก็อย่างว่าล่ะฉันควรจะเลิกเพ้อฝันอย่างที่ผ่านมา ฉันอยากจะเอามือถือที่ทางทีมงานให้มาใช้วิ่งแจ้นเข้าไปขอเบอร์คีย์ซะให้ได้ แต่ติดตรงที่มันไม่กล้านี่ล่ะ ในขณะที่ฉันยืนเก้ๆกังๆระหว่างล่ำลากับชายนี่แทมินก็ยิ้มกว้างมาทางฉัน ยิ้มแบบนี้ทีไรเป็นต้องมาพูดเรื่องนั้นทุกที
“เอามือถือขึ้นมาทำไม อยากได้เบอร์พี่อนยูเหรอ ^^**”เอิม...ไม่ผิดคาดแหะ ถ้าเขาไม่พูดเรื่องนี้มันจะลงแดงตายหรือไง
“ใครบอกนาย ฉันอยากได้เบอร์คีย์ต่าง...อุ๊บส์!!:OxO!!”ฉันเอามือปิดปากเอาไว้ แต่ไม่ทันแล้ว ฉันเผลอพูดไปได้ไงฟะ คีย์ที่ถูกพูดถึงหันขวับมาทางฉันทันที รวมถึงอนยู จงฮยอน และมินโฮ
“อยากได้เบอร์ พี่คีย์อย่างนั้นเหรอ !!?=_=?!!”
“ฉะ...ฉัน เออ...ฉันหมายถึงว่า...นี่ฉันแก้ตัวไม่ทันแล้วใช่มั้ย ( --)++”
“ก็คงงั้นล่ะ ^^++”แทมินอมยิ้มฉกมือถือฉันไปกดหน้าตาเฉย เขายื่นมือถือมาให้ฉันเป็นจังหวะเดียวกับที่มือถือของคีย์ดังขึ้น เขาให้จริงเหรอเนี่ย *O*!!
“เบอร์นี้สามารถติดต่อเราได้ทุกคน เธออย่าเอาเบอร์เราไปขายล่ะ ไม่งั้นเจอดีแน่ ~ ~!!”แทมินขู่ฉัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นดูเด็กน่ารักๆคนหนึ่งอยู่ดี
“ไม่ขายหรอก ไม่ขายแน่นอนเลย**O**!!”ฉันตอบกลับ ในขณะที่สายตาก็จ้องเบอร์โทรอย่างตื่นเต้น ต่อมจินตนาการในหัวสมองฉันฝันไปไกลแล้ว...
“ตื่นได้แล้ว จะนอนฝันที่นี่เลยหรือไง พึงระลึกถึงความจริงหน่อย นั่นน่ะดารานะเฟ้ย เขาไม่มีเวลามาคิดเรื่องเด็กบ้าๆบอๆอย่างแกหรอก”พี่ไวกิ้งเข้ามาดีดหน้าผากฉันอย่างไม่ให้ฉันระวังตัว
“พี่อ่ะ เจ็บนะเนี่ย!!~3~”ฉันถูหน้าผากเพื่อให้หายเจ็บ พลางยกกำปั้นขึ้นหวังจะทุบพี่ไวกิ้ง แต่พอนึกขึ้นได้ว่ามือถืออยู่ในมือก็รีบลดมือลงทันที
ระหว่างทางนั่งรถกลับโรงแรมที่พัก ฉันก็มองเบอร์ของคีย์ไปยิ้มไปอย่างมีความสุข นี่ฉันได้เบอร์ของคีย์ชายนี่เชียวนะ คนที่ฉันฝันถึงทุกวัน อร๊ายยย~ มีความสุขที่สุดเลยอ่ะ ฉันเป็นผู้โชคดีได้รับโชคถึงสองชั้นเลยะเนี่ย ...พึงระลึกถึงความจริงหน่อย นั่นดารานะเฟ้ย เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องเด็กบ้าๆบอๆอย่างแกหรอก...คำพูดที่ทำร้ายจิตใจของพี่ไวกิ้งตามมาหลอกหลอนฉันจนได้ แต่ถ้าคิดดีๆ มันก็จริงอย่างที่พี่ไวกิ้งพูด ถึงฉันโทรไป พวกเขาจะมีเวลารับสายฉันเหรอ จะมีเวลาคุยกับฉันแน่ๆเหรอ นี่คือความจริงที่ฉันต้องยอมรับใช่มั้ยนะ ใจหายแปลกๆแหะ...
ความคิดเห็น