คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Travel ทริปป่วน 2!!
ร้านคาราโอเกะสไตล์น่ารักร้านหนึ่งถูกจงฮยอนเลือกใช้บริการ เรามานั่งเฮฮาปาจิงโกะกันอย่างไม่แคร์แทมิน จงฮยอนเลือกเพลงมาร้องแบบไม่สนใจใคร ที่บอกแบบนี้ก็เขาดันเลือกเพลงศิลปินสาวๆมาร้องกันอย่างสนุกสนาน นี่พวกนายเป็นตุ๊ดป่ะเนี่ย (-- );; ผ่านไปไม่นานแทมินก็ลุกขึ้นไปสนุกกับคนอื่นๆ ทั้งที่ก่อนหน้ายังนั่งบอกบุญไม่รับอยู่เลย เพลงจบไปอย่างสนุกที่สุดเท่าที่ฉันเคยฟัง พวกเขารีบรวมหัวกันประชุมเพลงต่อไป ขณะที่ฉันกับอนยูพักดื่มน้ำ แหม๋...ฉันเองก็ร่วมร้องเหมือนกันน่ะแหล่ะ และการประชุมเพลงก็มีวาระออกมาว่า ฉันกับอนยูควรจะร้องเพลง Vanilla love ที่อนยูเคยร้องกับนักร้องคนหนึ่งไว้
“พวกนายจะบ้าเหรอ ฉันร้องไม่ได้หรอกเพลงเนี่ย เปลี่ยนเหอะ ไม่นายก็ร้องเลย” ฉันยื่นไมค์ให้แทมิน แต่ตอนนี้เขากลับเข้าสู่โหมดหน้าบึ้งอีกรอบ
“ไม่! ถ้าเธอไม่ร้อง หรือพี่อนยูไม่ร้อง ทริปนี้จะจบเพียงเท่านี้ ~O~!!”แทมินยื่นประกาศิตให้ฉันกับอนยู ตกลงใครเป็นพี่ใหญ่กันแน่ฟะ
“พวกนายสนุกมากนักใช่มั้ยเนี่ย เห็นฉันเป็นตัวตลกให้พวกนายแกล้งเล่นงั้นเหรอ”อนยูโวยวายขึ้นมาจนได้ พวกเขาเงียบกันไป แต่ขึ้นชื่อว่าดื้อจงฮยอนจึงเป็นตัวแทนมาเกลี้ยกล่อม
“เห็นแก่พวกเราทุกคน ร้องเหอะนะ พวกเราไม่ได้ร้องคาราโอเกะกับสาวๆมานานแล้ว ร้องเหอะนะ”
“ก็แล้วทำไมพวกนายไม่ร้องเองล่ะ โยนมาให้ฉันกับยัยนี่ทำไม”
“เพราะว่านายร้องเพลงนี้ไง และนายกับลิตเติ้ลก็เป็นเนื้อคู่กัน ฉะนั้น เป็นนายสองคนเหมาะที่สุดเลย ร้องนะ */ \*”จงฮยอนพยายามยิ่งกว่าการทำข้อสอบเลยล่ะนั่น
“ฉันร้องก็ได้ แต่ว่าฉันจำเนื้อไม่แม่นหรอกนะ พวกนายต้องช่วยร้องด้วย”ฉันเป็นคนขี้ใจอ่อนน่ะ ยิ่งโดนคนหน้าตาดีอ้อนแบบนี้มันเลยอ่อนใจที่จะค้าน
“โอเค.พวกเราจะช่วยเธอร้อง แล้วพี่ล่ะ พี่จะยอมร้องหรือยัง”แทมินหันไปจ้องอนยู สีหน้าเขาดูอ่อนใจกับน้องเล็กคนนี้เอามากๆ
ในที่สุดฉันกับชายนี่ก็ร่วมฟีทเทอริ่งกันในเพลง Vanilla love พวกเขาพยายามเบียดฉันให้เข้าใกล้อนยูจนแทบขี่คอกันเลยทีเดียว ไม่รู้พวกเขาจะเบียดทำไมกันนักกันหนา พอเพลงจบฉันก็เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของอนยูเป็นที่เรียบร้อย สะใจพวกนายมั้ยล่ะ = _=++ ฉันผละออกมาเขินๆขณะที่คนอื่นๆต่างถอยไปมองเราอยู่ซะไกลลิบ
“นั่นไงล่ะทำมาปฏิเสธที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองนะ นายสองคนปกปิดพวกเราไม่ได้หรอก”จงฮยอนยิ้มเจ้าเล่ห์มองหน้าฉันทีอนยูที นายน่ะฉันไม่สน แต่คีย์จ๋าอย่าคิดแบบนั้นนะ
“ก็พวกนายเล่นเบียดกันซะขนาดนั้น ฉันไม่ขี่คออนยูก็ดีเท่าไหร่แล้ว ~O~!!”ฉันแว้ดใส่พวกเขา แต่ก็ไม่สะเทือนตับพวกเขาสักนิด
“พวกนายเล่นเป็นเด็กไม่รู้จักโตไปได้ ฉันไม่สนุกเท่าไหร่แล้วนะ”อนยูเองก็ดูท่าทางจะหมดความอดทนแล้วเหมือนกัน
“ดูสิ ขนาดโมโหยังโมโหพร้อมกันอีกแน่ะ เห็นมั้ยล่ะว่ามันน่าสงสัยแค่ไหน”มินโฮที่ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ ก็ดันเล่นกับเขาด้วย นี่ฉันทำบ้าอะไรอยู่ที่นี่เนี่ย >., <!!
“ฉะ...ฉันไม่เล่นแล้ว ไปเข้าห้องน้ำดีกว่า -///-;;”ฉันเดินหนีออกมาจากห้องร้องคาราโอเกะ ห้องน้ำมันไปทางไหนกันล่ะเนี่ย หลายห้องซะเหลือเกิน
ฉันเดินสอดส่ายสายตาหาห้องน้ำ และในที่สุดก็เจอป้ายบอกทาง ฉันเดินไปตามที่ลูกศรชี้ ระหว่างทางที่ฉันเดินเข้ามา มีเด็กสาวสองสามคนพูดถึงชายนี่ด้วยล่ะ เด็กสาวสองคนนั้นเดินนำฉันเข้าห้องน้ำไป ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงตามสองคนนั่นไปติดๆ ภายในห้องน้ำเด็กสาวที่ฉันตามมายืนส่องกระจกเช็คความสวยของตัวเอง โดยไม่รู้ว่ามียัยสอดรู้สอดเห็นอย่างฉันตามมา ฉันหลบเข้าห้องน้ำไป เพื่อที่จะฟังสิ่งที่สองคนนั่นพูด เหมือนเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่เนอะ หากมันก็แค่ความสอดรู้เรื่องชาวบ้านน่ะแหล่ะ = =^^
“ฉันว่าฉันเห็นชายนี่มาที่นี่นะ ถ้าตาไม่ฝาดล่ะก็มากับผู้หญิงด้วยนะแก”เด็กสาวคนแรกพูดด้วยน้ำเสียงอันน่าหมั่นไส้
“จริงเหรอ แล้วแกได้ถ่ายรูปไว้มะ แบบนี้ต้องเป็นหัวข้อแห่งการสนทนาที่เยี่ยมที่สุดแน่”เด็กสาวอีกคนตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่ต่างกัน
“ยังเลย แต่เดี๋ยวกลับไปถ่ายก็ได้ รับรองว่าเรื่องนี้ทำเว็บล่มแน่ ฮะฮ่าๆๆ ^O^++!”
“นั่นน่ะสิ แล้วทีนี้ชายนี่ก็จะต้องรับมือกับข่าวนี้อย่างน่าปวดหัวแหง๋ๆ ฮิฮิ~ ^_^++”
ต๊าย! ชั่วที่สุดเลย ยัยพวกนี้ต้องเป็นพวกแอนตี้แฟนที่จ้องแต่จะทำลายศิลปินแน่ ถ้าเป็นแบบนี้ฉันควรจะกลับไปเตือนพวกเขา อ๊ะ...แต่ถ้าฉันกลับไปพวกนั้นก็จะถ่ายรูปได้ ชายนี่ก็เดือดร้อนเพราะฉัน ไม่ได้ ฉันควรจะไปรอพวกเขาที่จุดนัดพบ ฉันรอจนแน่ใจว่าเด็กสาวสองคนนั่นออกไปจากห้องน้ำ แล้วจึงโผล่หน้าออกมา ฉันเผ่นออกจากห้องน้ำมารอที่ป้ายรถเมล์ตามที่ได้นัดกันเอาไว้ เผื่อพลัดหลงกัน ฟ้าเริ่มมืดเข้าไปทุกที นี่เราอยู่ในคาราโอเกะนานขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันยกนาฬิกาขึ้นดูตอนนี้ก็หกโมงเศษแล้ว พวกเขาจะออกมากันได้หรือยังนะ ไม่คิดจะไปต่อที่อื่นกันบ้างเหรอไง
มืดเข้ามาแบบนี้ชักกลัวแหะ ทำไมยังไม่มากันอีกนะ ฉันเหลียวซ้ายแลขวาก็เจอะเข้ากับผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจเข้าคนหนึ่ง ต่อให้เป็นเกาหลีเมืองที่ฉันรับรูแต่ด้านดี แต่ยังไงคนที่นี่ก็เป็นคนเดินดิน หากไม่มีโจรขโมยมันคงน่าแปลก ยิ่งตอนนี้มีแค่ฉันกับผู้ชายคนนั้นอยู่ อึ๋ยยย~ถ้าเป็นพวกโจรโรคจิตฉันไม่แย่เหรอ เขาคนนั้นลุกขึ้นท่าทางเงอะงะ ฉันที่ระแวงเป็นทุนอยู่แล้วก็ผวาเดินหน้าตั้งออกมาโดยลืมไปว่ากำลังรอหนุ่มๆชายนี่อยู่ ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งเมื่อเห็นว่าเขาตามฉันมา ตายแน่ๆลิตเติ้ลเอ้ย! U_U;; ฉันวิ่งสุดฝีเท้าเมื่อแน่ใจว่าโดนตามและหลบหายเข้าไปที่พุ่มไม้ข้างทาง
“ฮือๆๆ พี่ไวกิ้งจ๋าเติ้ลกลัวจังเลย ทำไมมันโดดเดี่ยวแบบนี้ล่ะ TT^TT”ฉันพึมพำออกมาด้วยความใจหายใจคว่ำ ฉันรอจนผู้ชายคนนั้นเดินหายไปจึงออกมาจากพุ่มไม้
“ทำไม ฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ ฉันมันเกิดมาพร้อมความซวยมหาซวยหรือยังไง”
ฉันพึมพำกับตัวเองระหว่างที่เดินกลับไปที่ป้ายรถเมล์ แต่ว่าฉันเดินมาถูกทางแน่เหรอ อีตอนวิ่งก็ไม่ได้จำซะด้วยว่าวิ่งมาทางไหนยังไง ฉันเดาเอาว่าตัวเองคงไม่ได้เลี้ยวที่ไหน จึงเดินตรงไปเรื่อยๆป่านนี้พวกเขาคงจะงงที่หาฉันไม่เจอ แต่จะเดือดร้อนหรือเปล่าที่ฉันหายไปนี่ก็ไม่รู้ ฉันกับพวกเขาพึ่งจะรู้จักกันไม่ถึงสองวันด้วยซ้ำ พวกเขาคงไม่เดือดเนื้อร้อนใจเท่าพี่ไวกิ้งหรอก ถ้าหากฉันจะฉลาดจดเบอร์ติดต่อทีมงานไว้ ก็คงไม่ต้องมาเป็นภาระใคร และภาระตัวเองแบบนี้หรอก
ในที่สุดการเดาสุ่มของฉันก็เหมือนจะพาฉันกลับมาที่ป้ายรถเมล์ (เดิมหรือเปล่าไม่รู้) ที่ฉันพึ่งจากมา พวกเขาไม่ได้รอฉันอยู่ที่นี่ ป้ายรถเมล์ว่างเปล่าที่ปรากฏต่อสายตาฉันมันชวนใจหายจัง ฉันก็แค่คนที่พวกเขาพึ่งรู้จัก ถึงบอกว่าเป็นผู้เข้าแข่งขันในโครงการของพวกเขา แต่ฉันก็ไม่มีสิ่งมายืนยันฐานะตัวเองเลย ไม่แปลกหรอกหากจะโดนทิ้ง พอคิดมาถึงตรงนี้แล้วน้ำตามันชักจะไหลแหะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ล่ะ ฉันอุตส่าห์ยอมหลบมารอพวกเขาที่นี่ เพราะกลัวพวกเขาจะเดือดร้อนเพราะฉันแต่นี่ฉันกลับโดนทิ้งซะเอง มะ...มันน่า...ร้องไห้ยิ่งนัก TTOTT~ โฮๆๆๆ~
โดยไม่คาดคิดบุรุษผู้น่ากลัวคนเดิมกลับมาอีกครั้ง ฉันผุดลุกขึ้นทันทีเตรียมจะเดินหนี หากว่าฉันคงเหนื่อยเกินไปจากการวิ่งในรอบแรก ตอนนี้ขาของฉันเลยก้าวไม่ออกซะอย่างนั้น แถมอากาศก็หนาวยะเยือกขึ้นมาจนน้ำตาของฉันมันแทบจะเกาะเป็นน้ำแข็ง ยิ่งรับรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเดินใกล้เข้ามา น้ำตาของฉันก็ไหลหนักกว่าเดิม จะไม่มีพระเอกมาช่วยนางเอกคนนี้จริงๆเหรอ ฮึก! ไม่ไหวแล้วนะ ฉันจะเป็นลมอยู่แล้ว ทั้งเหนื่อยทั้งหนาวเต็มทีแล้ว ไหล่ฉันถูกมือใหญ่หนาแตะในที่สุด และตามติดมาด้วยเสียงตุบตับสองสามที ก่อนที่ฉันจะถูกกระชากแขนให้วิ่งสุดฝีเท้า
“ลิตเติ้ล!!! ลิตเติ้ล!!!”เสียงทุ้มคุ้นหูเรียกฉัน ที่ตอนนี้สติหลุดลอยเอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนไม่ยอมรับรู้สิ่งรอบข้าง
“ลิตเติ้ล...หยุดร้องไห้ได้แล้ว ไม่มีอะไรแล้ว นะ”ฉันปรือตามองหน้าคนที่กำลังลูบผมปลอบประโลมฉันอยู่ คีย์...เป็นนายเองเหรอ นายไม่ทิ้งฉัน...ดีใจจังที่เป็นนาย
“พวกนายทิ้งฉันทำไม!!! ฮึก! ทิ้งฉันไว้คนเดียวทำไม ฮือๆๆ TOT!!!”ฉันทุบไหล่คีย์ด้วยความโมโห ก่อนจะกอดเขาเอาไว้แน่น
“ไม่เป็นไรแล้ว ฉันไม่ได้ทิ้งเธอ หยุดร้องไห้แล้วฟังนะ ฟังฉัน”น้ำเสียงอ่อนโยนของเขาทำให้ฉันหยุดร้องไห้ในที่สุด แต่ก็ยังคงสะอื้นอยู่เป็นพักๆ
“เรามาหาเธอที่ป้ายรถเมล์ แต่เราไม่เจอเธอ ก็เลยแยกกันตามหาแถวๆนี้ แต่เราก็ไม่เจอเธอ เธอนั่นล่ะที่หายไปไหนมา”
“ฮึก! ฉันกลัวผู้ชายคนนั้น ฉันเลยวิ่งหาที่หลบ แล้วพอกลับมา ฮึก...ก็ไม่เจอพวกนายคอยอยู่เลยสักคน แล้วผู้ชายคนนั้นยังตามมาอีก”
“ช่างมันเถอะ เราตามทุกคนมาที่นี่ดีกว่า”คีย์ดึงมือถือออกมาจากกระเป๋า กดปุ่มหยุกหยิกอยู่พักก่อนยกขึ้นแนบหู
“พี่อนยูครับ ผมเจอลิตเติ้ลแล้ว เราอยู่ห่างจากป้ายรถเมล์ไม่เท่าไหร่หรอก อืม...แล้วเจอกัน”ฉันยืนมองคีย์คุยกับอนยูด้วยสายตาพร่ามัว
“เดี๋ยวพวกนั้นคงมา รอหน่อยละกัน”คีย์หันกลับมาหาฉัน แต่ว่า...เขาพูดว่าอะไรนั้นฉันเองก็ไม่ได้ยินมันเลย
“อ้าวเฮ้ย! ลิตเติ้ล!!!”
เพดานสีขาวสะอาดปรากฏแกสายตาฉัน ข้างๆฉันก็มีชายหนุ่มหน้าตาดียืนมองอยู่ นี่ฉันมีแฟนแล้วเหรอ บทจะมีมีถึงห้าคนเลยหรือนี่ ฉันลืมตาขึ้นเพื่อจะได้เห็นทุกอย่างชัดขึ้น และความจริงก็คือฉันนอนอยู่ที่ห้องของอนยูและคีย์ในบ้านพักของชายนี่นั่นล่ะ ฉันก็อุตส่าห์ดีใจนึกว่ามีแฟนมาเฝ้าไข้ถึงห้าคน ฮุฮุ -0-!! (ขนาดนี้แล้วยังจะมาเล่นอีกวุ้ย) ฉันยันตัวลุกขึ้นนั่งในขณะที่หนุ่มๆก็ยังคงยืนมองเช่นเดิม ไม่คิดจะช่วยกันสักนิดเลยใช่มั้ยเนี่ย = _=^^ ฉันหรี่ตามองพวกเขาแบบตำหนิสุดๆ แต่เชื่อเหอะไม่สะเทือนกันสักนิดเดียว
“สรุปว่าไม่คิดจะช่วยพยุงกันจริงๆเหรอ ใจร้ายมาก -3-++”ฉันท้วงออกไป นั่นยิ่งทำให้พวกเขายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน รู้นะว่าคิดอะไร ไม่น่าพูดเลยเรา
“พี่อนยูครับ เข้าไปช่วยพยุงลิตเติ้ลหน่อยสิ ^^=”มินโฮที่โดนแทมินสะกิด เอ่ยคำแนะนำที่สร้างสรรค์แก่อนยู นี่ฉันประชดอยู่นะ อย่านึกว่าชม (-- ^ )
“ไม่เป็นไรหรอกฉันแค่ถามไปงั้นเองแหละ”
“แหม...อย่าปฏิเสธเลย ฉันว่าอนยูอยากไถ่โทษที่ไม่ได้เป็นคนช่วยเธอเมื่อคืน^O^+”จงฮยอนแซวขึ้นมา ฉันไม่โทษนายหรอกนะอนยู ขอบคุณด้วยซ้ำ อิอิ~ฉันแอบขำพลางเหล่มองคีย์
“นายพูดเรื่องอะไรของนายจงฮยอน ( --);”ฉันตีหน้าซื่อขณะที่อนยูมีอาการแปลกๆไป แล้ว นายอย่าออกอาการหึงมากขนาดนั้นสิ อนยู (โคตรหลงตัวเองเลย--^;)
“เลิกพูดเรื่องนี้เหอะ เธอก็ไปอาบน้ำได้แล้ว วันนี้เราจะได้รู้กันสักทีว่าเธอเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันหรือเปล่า”คีย์ตัดบทการเล่นสนุกของจงฮยอนกับแทมิน ขอบใจมากนะ คีย์^/\^=
“เสื้อผ้าของเธอ แม่บ้านซักให้แล้ว แขวนที่ราวน่ะแหละ และกรุณาเร็วๆด้วยนะครับ ^^”
ฉันพยักหน้ารับมองพวกเขาทยอยเดินออกไปจึงพุ่งไปล็อกประตู เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่ไปสะดุดขาใครล้มอีกน่ะนะ ฉันยืนนิ่งอยู่นานสมองก็พยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ฉันไปกอดคีย์เข้านี่นา ไม่รู้สิคนมันกำลังกลัวนี่นา ทำอะไรลงไปก็ไม่ค่อยได้คิดหรอก ฉันเผลอยิ้มออกมาเมื่อนึกไปถึงน้ำเสียงอันอ่อนโยนที่ปลอบฉัน และสัมผัสที่แสนจะอบอุ่นที่ยังติดอยู่กับผมฉัน เขาเป็นคนที่นอกจากจะมีบุคลิกที่อบอุ่นแล้ว การกระทำของเขาก็ยังอบอุ่นมากจริงๆ
ความคิดเห็น