ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Design love ออกแบบหัวใจให้โดนเธอ (Key&Little)

    ลำดับตอนที่ #2 : Go to Korea ดินแดนที่โหยหา

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 53


    บรรยากาศในโรงเรียนวันนี้มันช่างดูสดใส และสวยงามเอามากๆเลย ความฝันของฉันใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว วันนี้เขาก็จะประกาศผลผู้เข้ารอบแล้ว ฉันต้องเป็นหนึ่งในสามได้แน่ๆ ท้องฟ้าที่เกาหลีจะสวยงามขนาดไหนกันน้อ ฉันมองตามนกกระจิบตัวน้อยที่โบยบินผ่านหน้าต่าง แล้วนึกฝันไปถึงวันที่ตัวเองได้นั่งเครื่องบินโบยบินไปแบบนั้น หนุ่มหล่อเจ้าชายแห่งแฟชั่นจ๋า รอลิตเติ้ลเจ้าแม่แห่งแฟชั่นคนนี้อีกนิดนะจ๊ะ ^O^!!! ฉันจะไปหาพวกนายเร็วๆนี้แล้ว

                  ลดาริน...ลดาริน นี่ ครูเรียกเธอให้อ่านหัวข้อที่สามแน่ะฉันดึงความคิดกลับมาสู่ห้องเรียน เมื่อโดนยัยลินา เพื่อนซี้เพียงคนเดียวสะกิดด้วยเท้าเต็มแรง

                 อะ...อ๋อ อะแฮ่ม ...ฉันร่ายภาษาอังกฤษอันยาวเหยียดโดยที่จิตใจไม่ได้อยู่กับมันสักนิด หัวใจฉันมันลอยไกลถึงเกาหลีซะแล้ว เฮ่อๆ

            เสียงสวรรค์ลอยตามลมมาอย่างน่ายินดี เลิกเรียนแล้วโว้ยยยย!!! >O< ป่านนี้จดหมายแจ้งว่าฉันเข้ารอบคงมาถึงบ้านแล้วล่ะ ฉันลั่นล้ากระโดดโลดเต้นกลับบ้าน ไม่สนใจบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงเม้าส์ของบรรดานักเรียนสาวๆ เป้าหมายของฉันคือบ้านอันเป็นวิมานของเราเท่านั้น จดหมาย...จดหมาย มีแต่คำนี้วกไปวนมาในสมองฉัน ช่างน่าดีใจอะไรชะนี้หนอ

                แหม ดูอารมณ์ดีจังนะจ๊ะ ลิตเติ้ล นัดหนุ่มๆไว้หรือไงเสียงทักทายเหยียดๆของยัยดาร่า ทำเอาฉันอารมณ์บ่ดีขึ้นมาในบัดดล จะตามหลอกตามหลอนไปถึงไหนฟะ

                แน่สิ ก็ฉันกำลังจะได้ไปเกาหลีนี่ จะไปเกาะติดแฟชั่นถึงถิ่น มันก็ต้องดีใจเป็นธรรมดาฉันตอบไปแบบไม่สะทกสะท้าน นี่ดีนะว่าแม่อารมณ์ดี

               ฝันหวานอยู่เหรอลิตเติ้ล อย่างเธอจะเอาปัญญาที่ไหนไปเกาหลี

               ฉันจะถือว่าไม่ได้ยินที่เธอพูดละกันยัยดาร่า เอาไว้จะถ่ายรูปมาให้ดูเป็นขวัญตา ^^”รอยยิ้มเยาะเย้ยถูกส่งออกไปจากริมฝีปากฉัน

               ฉันจะรอดูยัยดาร่าไม่สนใจรอยยิ้มของฉัน แถมยังเดินลอยหน้าลอยตาผ่านฉันไปเฉยเลย ชูคอไปเหอะ อย่าให้ฉันรวยมั่งละกัน ชิ! อิจฉาคนมีเงินเฟ้ย

            ฮึ่ม!!! ยัยด๊าด้าดาบ้า ช่างตามหลอกหลอนฉันไปทุกที่จริงๆ ตั้งแต่เกิดจนโต ฉันสะบัดผมบ๊อบแสนเท่ห์สไตล์เกาหลี(เป็นสิ่งเดียวที่มีเงินทำ) เดินฉับๆกลับบ้าน

               พี่ไวกิ้ง มีจดหมายมาถึงเติ้ลบ้างมั้ยอ่ะ จดหมายผลการประกวดน่ะฉันยิ้มร่าเข้าไปหาพี่ชายผู้แสนดี (มาก) แต่ปฏิกิริยาที่ตอบกลับมาคืออาการสยองของไอพี่จอมกวนประสาท

               จดหมายอะไรของแก กลับบ้านมาแทนที่จะรีบทำการบ้านไม่ก็อ่านหนังสือ ดันมาถามหาจดหมาย ทำไม นิชคุณส่งจดหมายหาแกหรือไงนั่นไง พอพูดดีหน่อยทำมากวน

                 ก็วันนี้เขาประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบไง พี่ไม่ได้อ่านรายละเอียดเหรอฉันทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้เล็กๆ ข้างพี่ชายสุดหล่อ

                 มีสิ แต่ว่าฉันเอาไปวางที่ไหนแล้วไม่รู้ น่าจะอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือแกล่ะ ไปดูดิ

         โดยไม่ต้องรอให้พี่ไวกิ้งพูดจบ ฉันก็ถลาออกจากห้องทำงานของเขา พุ่งราวจรวดเข้าห้องตัวเอง อ๋า~ หัวใจฉันเต้นแรงมากเลย ตื่นเต้นสุดๆ ฉันเดินเนิบๆเข้าหาซองจดหมายสีเขียวสดใสที่วางอยู่บนโต๊ะ แหม่...ช่างใช้สีที่ครีเอ็ตมากเลย ฉันหยิบมันขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา แล้วแกะมันออกมาอย่างระมัดระวังยิ่งกว่าตอนลอกโปสเตอร์ซะอีก ข้อความที่ปรากฏในจดหมายทำเอาฉันแหกปากร้องลั่นบ้านด้วยความตื่นเต้น จนพี่ไวกิ้งต้องวิ่งกระหืดกระหอบมาดูฉัน

                 เป็นไรไปฟะ แหกปากยังกับโดนโจรปล้ำ =O=:;”

                 พะ...พี่ไวกิ้ง ฉันผ่านเข้ารอบด้วยล่ะ วู้ๆดีใจที่สุดเลยอ่ะ ฉันทำได้แล้ว ฉันจะได้ไปเกาหลีแล้ว เย้ๆๆ ^O^+++”ฉันกระโดกอดคอพี่ไวกิ้งด้วยความลิงโลด

                 เฮ้ยๆ ปล่อยโว้ย ฉันหายใจไม่ออก ให้แกชนะก่อนเถอะค่อยมาดีใจ เพราะฉันก็เข้ารอบเหมือนกัน ^^++”

                 อะ...อะไรนะ นี่พี่ส่งเข้าประกวดเหมือนกันเหรอ แล้วทำไมไม่บอกกันบ้างเลยล่ะฉันผละมามองหน้าไอพี่ตัวแสบอย่างเคืองๆ

                 แกเป็นแม่ฉันเหรอ ฉันถึงต้องรายงานแกทุกเรื่อง แล้วฉันก็ส่งก่อนหน้าแกเป็นชาติคุณพี่ผู้แสนดีลอยหน้าตอบ แล้วเดินตัวปลิวกลับไปทำงาน ให้มันได้อย่างนี้สิ -^ -;;;

               เย็นวันนั้นฉันกับพี่ไวกิ้ง ก็บอกเรื่องที่เราได้รับคัดเลือกให้ไปเกาหลีให้พ่อฟัง พ่อดีใจกับพี่ไวกิ้งมากที่ประสบความสำเร็จ แล้วหันมาทำหน้ามหัศจรรย์ใส่ฉันที่ฉันก็ทำอะไรสำเร็จกับเขาเหมือนกัน ไม่อยากจะคุยงานนี้นะ ฉันตั้งใจกว่าอ่านหนังสือสอบปลายภาคอีก แต่ดีใจได้ไม่นานฉันก็สังเกตได้ว่าพ่อดูหมองๆไป พอทุกคนแยกย้ายกันเข้านอน ฉันเลยย่องไปหาพ่ออย่างเงียบเชียบโดยไม่ให้พี่ไวกิ้งรู้ ฉันปิดประตูแผ่วเบา จนเจ้าของห้องไม่รู้ตัว ด้วยว่ามัวแต่อ่านหนังสือ

                  อ่านอะไรอยู่คะพ่อ ดูเคร่งเครียดจังเลย ^^=”ฉันปีนขึ้นไปนั่งข้างๆพ่อบนเตียงอันกว้างใหญ่ พ่อวางหนังสือแล้วยิ้มกวนใส่ฉัน รู้เลยว่าพี่ไวกิ้งเหมือนใคร

                  ทำไม สนใจจะอ่านเหรอ ไอตัวขี้เกียจ แอบย่องเบาซะนึกว่าโจรสาวจะมาปล้ำพ่อพ่อพูดติดตลก พลางขยี้ผมฉันจนฟู

                  พ่ออ่ะ ก็เติ้ลเห็นพ่อซึมไป พ่อไม่อยากให้เติ้ลกับพี่ไวกิ้งไปเกาหลีเหรอค่ะ

                  ไม่ใช่ว่าพ่อไม่อยากให้เราไป พ่อแค่คิดว่ามันคงเหงาๆถ้าเจ้าไวกิ้งกับเติ้ลไม่อยู่ แต่พ่อก็ไม่อยากขวางทางก้าวหน้าของลูก

                  พ่อค่ะ เติ้ลรักพ่อที่สุดเลย ^_^=”ฉันโผเข้าหาอ้อมกอดที่อบอุ่นของพ่อ ช่างเป็นพ่อที่ใจดีที่สุดเลย

                                                            ...ในที่สุดก็ถึงวันเดินทาง...

               ฉันกับพี่ไวกิ้งล่ำลาพ่ออยู่เป็นนานสองนาน จนกระทั่งฝ่ายกองการแข่งขันต้องมาเรียกตัวไปขึ้นเครื่อง นี่เป็นครั้งแรกในการนั่งเครื่องบินของฉันเลย ตื่นเต้นจนหายใจไม่ทั่วท้อง ฉันกับพี่ไวกิ้งถูกจัดให้นั่งด้วยกัน อ้อ...ลืมบอกไปฉันกับพี่ไวกิ้งได้รับคำชมจากกรรมการว่าเก่งทั้งพี่ทั้งน้องเลย แหม่...ไม่อยากจะคุยมันเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด อิอิ ^^-- จะว่าไปฉันยังไม่เห็นคนที่ผ่านเข้ารอบอีกคนเลย จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนะ แต่อย่าให้เป็นยัยดาร่าประสาทกลับนั่นเลย

                 อ้าว...ลิตเติ้ล นี่เหรอที่เธอบอกจะไปเกาหลี แหม๋...ดีจังเลยฉันจะได้มีเพื่อน แล้วนี่ คนที่เข้ารอบอีกคนเหรอไม่จริง ฉันคงคิดมากจนเห็นภาพหลอน ต้องไม่ใช่ยัยดาร่า

                แกรู้จักเขาเหรอไอเติ้ล ไม่น่าเชื่อ มีแต่เด็กทั้งนั้นเลยเหรอ ที่เข้ารอบพี่ไวกิ้งสะกิดฉัน ไม่นะ ยัยนี่ผ่านเข้ารอบมาจริงๆเหรอ ฮือออ~ T^ T

                ตายจริง เซอร์ไพรซ์มาก นี่พวกเรารู้จักกันหมดเลย แฟนเธอเหรอลิตเติ้ลฉันเกลียดท่าทางจีบปากจีบคอพูดของยัยนี่ที่สุด

                หุบปากไปเลย ยัยดาร่า นี่พี่ชายฉัน เธอ ไม่ต้องอยากมารู้จักหรอก จะไปไหนก็ไปเลยไปฉันไม่อดทนอีกแล้ว ปิดเทอมแล้วยังมาหลอกมาหลอนกันได้อีก

               สวัสดีค่ะ ชื่อดาร่าค่ะ เป็นเพื่อนกับลิตเติ้ล แล้วพี่ชื่ออะไรค่ะ ^^++”ยัยดาร่าส่งสายตาวิ้งๆใส่พี่ไวกิ้ง พร้อมยื่นมือขาวซีดข้ามหัวฉันไปเฉยเลย จะมากไปแล้วนะ > <+++

              ไวกิ้งครับ ^^=”ไอพี่ตัวแสบยื่นมือไปหายัยดาร่า แต่ก่อนจะถึงฉันก็ปัดมือยัยนั่นออกไป ให้พ้นหน้าพ้นตา

              ไม่ต้องไปรู้จักคนบ้าหรอกพี่ไวกิ้ง ฉันมีเพื่อนคนเดียวชื่อลินา นอกนั้นไม่อยากคบให้เสียประวัติฉันจ้องหน้ายัยดาร่าด้วยสายตาอันเกรี้ยวกราด เริ่มมีน้ำโหแล้วนะคะ

              อะไรของแกฟะ เขามาทักดีๆไปว่าเขาทำไม ใช้ไม่ได้เลย

              จะไปไหนก็ไปดิ มายืนทำบ้าอะไรตรงนี้ ที่นั่งเธออยู่ไหนไสหัวไปเลย ไปเลยชิ่วๆ ฉันหายใจไม่ออกฉันไม่สนใจน้ำเสียงตำหนิของพี่ไวกิ้ง หันไปโบกมือไล่ยัยดาร่า

             ไอลิตเติ้ล -^-!!”พี่ไวกิ้งทำหน้าดุใส่ฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น เกลียดขี้หน้ายัยบ้านี่จะตายอยู่แล้ว

             อุ้ย! อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ ดาร่าไปนั่งที่ดีกว่า เครื่องจะขึ้นแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ พี่ไวกิ้งยัยดาร่ายิ้มร้ายให้ฉัน ก่อนเดินหายไปทางด้านหลัง ค่อยโล่งขึ้นมาหน่อย

             ไม่ต้องพูดถึงยัยนั่นนะ ฉันไม่เคยญาติดีกับยัยบ้านั่นหรอกฉันเบรกพี่ไวกิ้งที่กำลังจะอ้าปากพูด ไม่อยากจะได้ยินชื่อยัยบ้านั่นให้อารมณ์เสีย

           ไม่กี่ชั่วโมงถัดมาเครื่องบินก็แลนดิ่งลงพื้นรันเวย์สนามบินนานาชาติอินซอน ฉันรีบปลุกพี่ชายตัวดีด้วยความตื่นเต้น ตื่นเต้นจนไม่ยอมหลับมาตลอดการเดินทางเลย สนามบินที่ฉันเคยเห็นแต่ในทีวี ตอนนี้ฉันกำลังก้าวเดินในส่วนของผู้โดยสารขาเข้า ฉันต้องฝันไปแน่ๆเลย ฉันมองไปรอบๆตัว ดูเหมือนว่าผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่เดินตามหลังฉันมา จะเป็นดาราแหะ ใส่หมวกใส่แว่นซะมิดชิดเลยแถมมีชายชุดดำละม้ายคล้ายบดิการ์ดตามคุมอีก จะเป็นดาราวงไหนน้อนั่น ฉันไม่ทันจะดูออกว่าเป็นใคร ก็ถูกต้อน(เอ่อ ฟังดูคล้ายฝูงอะไรสักอย่าง = =;;)ให้ไปรอรถจากบริษัทมารับ ฉันตื่นเต้นมากจนปวดฉิ้งฉ่องซะแล้วอ่ะ

                 พี่ไวกิ้ง พี่ช่วยถามทีมงานทีสิ ว่าห้องน้ำอยู่ไหน ฉันปวดฉี่อ่ะ-_-//”ฉันดึงแขนเสื้อพี่ไวกิ้งหยิกๆ ตอนนี้หน้าฉันมันบอกบุญไม่รับแล้ว

                 เออเว้ย แกนี่มันยุ่งจริงๆ ตอนเขาให้ฉี่ก็ไม่ฉี่ รออยู่นี่ล่ะ ฉันจะไปถามให้พี่ไวกิ้งเดินเข้าไปถามกับทีมงานสาวคนหนึ่งอยู่พักใหญ่ ก็กลับมาพร้อมยัยผีดาดา

             ไม่รู้จะมาปวดอะไรพร้อมฉัน เบื่อขี้หน้ายัยบ้านี่จริงๆ กรรมการก็ไม่รู้ตาบอดหรือไงถึงได้ให้ยัยบ้านี่ผ่านเข้ารอบ ฉันนึกนินทายัยผีดาดาอยู่ในใจ ขณะเดินไปห้องน้ำ ยัยดาร่าชวนพี่ไวกิ้งคุยกันหัวเราะคิกคักน่าหมั่นไส้ ไอพี่ตัวแสบก็ดันหัวเราะไปกับยัยบ้านั่นอีก ฉันสะบัดหน้าเข้าห้องน้ำไปเป็นคนแรก ไม่สนใจมันแล้ว ขอไปปลดปล่อยก่อน ค่อยคิดบัญชีทีหลัง สิบนาทีต่อมาฉันก็ต้องเอ๋อเพราะหลังออกมาจากห้องน้ำ ฉันก็ไม่เจอใครสักคน แม้แต่ยัยผีดาดาที่ตามหลอกหลอนกันตลอด ยังไร้วี่แวว ฉันรีบวิ่งแจ้นไปกลับมาที่ที่ยืนรอรถ ไม่มี หายกันไปหมดเลย

            ไม่นะ ฉันถูกลืมงั้นเหรอ ไม่จริงใช่มั้ย พี่ไวกิ้งไม่มีทางลืมฉันอย่างแน่นอน เอ๋...หรือว่าบางทีพี่ไวกิ้ง จะยังไม่ออกจากห้องน้ำ ฉันวิ่งกลับมาที่ห้องน้ำอีกครั้ง รออยู่เป็นนานสองนานก็ไม่มีแม้เงาของพี่ชายฉัน ฉันวิ่งกลับออกมาอย่างหมดหนทางที่จะดิ้นรน ฉันพูดเกาหลีได้แบบงูๆปลาๆ(อย่าถ่อมตนสิเธอ-->ผู้เขียน) จะไปบอกใครให้ช่วยได้ ฉันจะทำยังไงดี ความกลัวความสับสนวิ่งกันวุ่นวายในสมองฉัน หมดแรงเลย ณ ตอนนี้ ฉันเดินออกไปอย่างไม่รู้จุดหมายปลายทาง และ...ฉันเดินมาถึงไหนฟะเนี่ย = =:; ทำไมฉันไม่รอที่เดิม บางทีอาจมีทีมงานมาตามหาฉันอยู่ก็ได้ ฉันกลับหลังหันทันทีที่คิดได้แบบนั้น

                อ๊ะ...ฉันชะงักไป เมื่อเกือบชนกับชายหนุ่มตัวสูง สูงขนาดนี้หนุ่มเกาหลีชัวร์เลย ฉันเงยหน้าขึ้นมอง และพบว่าตาตี่ๆนั่นก็จ้องฉันเช่นกัน

                คุณ เป็นใคร แล้วมาทำอะไรอยู่ที่รถของพวกเราพอจบคำที่เขาพูด ชายหนุ่มร่างสูงไล่เลี่ยกันอีกสี่คนก็เดินตามมา พร้อมกับชายชุดดำ มันพวกดาราที่ฉันเห็นตอนมาถึงนี่

              

     

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×