คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : คุกกี้ป่วน!!!
การขึ้นมาชมวิวที่ชั้นบนสุดนั้นไม่ใช่เป้าหมายหลักของฉัน แต่เป้าหมายคือการมาคล้องกุญแจเพื่อเป็นเคล็ดว่าจะได้กลับมาเยือนที่นี่อีก และถ้าหากมีคู่รักก็จะเป็นการสัญญาว่าจะรักกันตลอดไป ผิดตรงที่ฉันไม่มีคู่รักนี่ล่ะ ฉันหลบพี่ไวกิ้งมาคล้องกุญแจคนเดียว ลูกกุญแจถูกขว้างลงไปยังพื้นดินด้านล่าง ฉันถอนหายใจแล้วยิ้มออกมา วันนี้ฉันได้ทำในสิ่งที่ตัวเองเคยมองว่าอยู่แสนไกล
“ทำไมไม่ชวนพี่อนยูหรือพี่จงฮยอนมาคล้องกุญแจด้วยล่ะ เธอจะได้ยิ้มกว้างมากกว่านั้นอีก”น้ำเสียงประชดประชันของใครสักคนดังขึ้นข้างหลังฉัน
“คีย์... มะ...เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ = =^;”ฉันหันไปถามเขาด้วยความงง อีกอย่างเขาเดินมาตรงนี้ตอนไหน ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกเลย
“ไม่ได้ยินก็แล้วไปสิ ฉันขี้เกียจพูดอะไรซ้ำซาก”คีย์ยักไหล่ก้าวเท้าจะเดินหนีไป ฉันไม่เข้าใจอาการเฉยชาของเขาเลย เขาคือคนที่ปลอบฉันเมื่อคืนจริงเหรอเนี่ย
“เดี๋ยวสิ...นายเป็นอะไรไป ทำไมถึงทำท่าทางแปลกๆแบบนั้นใส่ฉัน”ฉันวิ่งเข้าไปดึงแขนเขาเอาไว้ คีย์หันมามองฉันด้วยหางตาพลางชักแขนออกจากมือฉันเบาๆ
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรนี่ และไม่ได้ทำท่าทางแปลกๆใส่เธอด้วย เธอมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยน แปลงการกระทำของฉันขนาดนั้นเลยเหรอ”ฉันสะอึกกับคำพูดของเขา
“นาย...”ฉันพูดไม่ออก สมองก็นึกไปถึงสิ่งที่พี่ไวกิ้งพูดไว้เมื่อเช้า เป็นอย่างที่คิดเลยพวกเขาเห็นฉันเป็นแค่สีสันที่เข้ามาให้แกล้งเล่น พูดง่ายๆคือฉันเป็นของแปลกสำหรับพวกเขา
“เฮอะ...แปลกนะ ทำไมฉันเจ็บจัง ทั้งที่ฉันกับนายพึ่งรู้จักกัน แต่นายกลับมีอิทธิพลกับฉัน ทั้งที่ฉันไม่มีอิทธิพลกับนายเลย”ฉันรู้สึกแสบตาจังเลยแหะ เป็นไรไปนะเรา บ้าจริงๆ(_ _);;
“เธอ...พูดอะไรของเธอ”
“เออ...จริงสิฉันควรเอานี่ให้นาย”ฉันดึงกล่องคุกกี้ที่เอายัดไว้ในกระเป๋าสะพายออกมายื่นมันให้กับเขา แต่คนที่รับมันไปกลับเป็นแทมินที่ไม่รู้โผล่มาตอนไหน
“คุกกี้ใช่มั้ยเนี่ย น่าอร่อยจังฉันขอนะ ^O^!!”แทมินเปิดกล่องดู เป็นคุกกี้รูปดอกไม้หน้าตาน่ากินสุดๆเลย คีย์มองมันแวบหนึ่งไม่พูดอะไร
“ฉันขอตัวนะ บรรยากาศไม่ดีเลยฉันไปหาที่ที่อากาศปลอดโปร่งดีกว่า”ฉันเดินชนไหล่คีย์เต็มแรง แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับคนที่เห็นฉันเป็นตัวแก้เซ็ง
ฉันปาดน้ำใสๆที่กำลังจะไหลลงมาออกไปจากตา ความเป็นจริงที่เจ็บปวด ฉันพึ่งรู้จักกับพวกเขาแค่สามวัน สามวันเท่านั้นเอง แต่สิ่งที่ฉันเป็นตอนนี้มันมากเกินไปยังไงไม่รู้ ฉันปวดท้องจังรู้สึกว่ามันโหวงเหวงพิกล พี่ไวกิ้งมองหน้าฉันอย่างสงสัยเมื่อเห็นฉันเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา ไม่อยากไปไหนต่อเลยฉันอยากกลับไปนอนที่โรงแรม อยากฝังตัวเองลงไปกับเตียงนอนเป็นที่สุด ฉันเดินตามคนอื่นๆมาที่รถเพื่อเตรียมไปที่อื่นต่อ ฉันเหลือบมองไปทางชายนี่และดูเหมือนว่าพวกเขาก็มองมาที่ฉันเหมือนกัน แต่ยกเว้นเขา...เขาไม่ยอมมองมาทางนี้เลย ฉันแยกเขี้ยวใส่สี่คนนั่นก่อนสะบัดหน้ามองไปทางอื่น ไม่อยากมองคนที่เห็นฉันเป็นตัวแก้เซ็ง ~^~!!
“เฮ้ย!! แทมินนายเป็นอะไรไป”เสียงโวยวายดังขึ้นในชั่วเสี้ยวนาทีที่ฉันหันหน้าหนีพวกเขามา ฉันรีบหันกลับไปมอง ดูเหมือนความวุ่นวายจะบังเกิดขึ้นกับชายนี่นะ
ฉันวิ่งตามหลังคนอื่นไปเมื่อคิดได้ว่าควรจะเข้าไปดู แต่การที่เกิดมาเตี้ยแถมยังวิ่งเข้ามาเป็นคนสุดท้าย มันก็ทำให้ฉันไม่สามารถมองเห็นจุดศูนย์กลางได้เลย
“แทมิน!...แทมิน นายเป็นอะไร แทมิน!!”เสียงของมินโฮดังลอดออกมา พร้อมๆกับเสียงโอดโอย ซึ่งน่าจะเป็นเสียงของแทมิน
“โอ้ยยย~ ปวดท้อง ผม...ปวดท้องมากเลย โอยยย~+__+~”ดูเหมือนว่าจะเป็นแทมินปวดท้องนะ ฉันกระโดดเหยงๆขึ้นเพื่อจะได้มองเห็น แต่ก็เปล่าประโยชน์
ในที่สุดฉันก็สามารถที่จะมองเห็นเหตุการณ์ได้ แต่ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่บนรถกันหมดแล้ว และรถก็กำลังเคลื่อนตัวออกไป สรุปคือฉันก็ไม่ได้รู้อะไรเลย = __=^ ฉันเดินตามคนอื่น (อีกแล้ว - -;;)กลับไปขึ้นรถของตัวเอง ดูเหมือนว่าโปรแกรมในวันนี้จะต้องรวนแน่ๆ แต่ก็ดีฉันจะได้ไม่ต้องเจอกับพวกเขาอีก เงินรางวัลในการแข่งขันฉันไม่อยากได้แล้ว ตอนนี้ฉันอยากกลับบ้านที่สุด
“ไม่รู้ว่าแทมินเป็นอะไรไปนะ จู่ๆก็ปวดท้องขึ้นมาซะเฉยๆ”น้ำเสียงที่ฉันไม่อยากได้ยิน เอ่ยถึงอาการของแทมิน ฉันต้องฝืนใจฟังใช่มั้ย
“นั่นสิ เหมือนไปกินอะไรผิดสำแดงมา หรือเขาจะเป็นไส้ติ่งอ่ะ”มินนี่รัวภาษาอังกฤษชุดใหญ่ใส่หน้ายัยดาร่า คุณเธอเอ๋อไปเล็กน้อยแต่พอจับใจความได้ก็รัวกลับไปอีกหน
“แล้วนี่เราจะได้ไปที่โรงพยาบาลด้วยหรือเปล่า ฉันไม่คอยชอบโรงพยาบาลเลย”
“ไม่ชอบเราก็คงต้องไป เพราะตอนนี้เรากำลังตามรถตู้พวกเขาอยู่”
ฉันหันไปมองตามที่มินนี่พยักพเยิดไป รถตู้สีขาวของพวกเขากำลังวิ่งด้วยความเร็ว และคงจะมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาล นายจะเป็นอะไรมากมั้ยนะแทมิน ฉันอาจจะโกรธที่พวกนายทำกับฉันแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่แล้งน้ำใจพอจะแช่งนายหรอกนะ ว่าแต่ว่ามันจะเกี่ยวกับไอคุกกี้นั่นหรือเปล่า คงไม่หรอกฉันคงจะคิดมากเกี่ยวกับมันไปเอง ฉันนึกไปถึงรอยยิ้มของแทมิน คนที่ยิ้มได้แบบนั้นเวลาป่วยคงจะน่าสงสารแย่เลย
...ผ่านไป 20 นาที...
“อาการคนไข้ไม่น่าเป็นห่วงแล้วนะครับ แค่อาหารเป็นพิษ แล้วก่อนหน้านี้คนไข้ได้ทานอะไรมาเหรอครับถึงทำให้ปวดท้องขึ้นมา ยังไงต่อไปช่วยระวังเรื่องอาหารด้วยนะครับ”คุณหมอท่าทางใจดีเดินจากไปหลังจากแจกแจงรายละเอียดให้ชายนี่อีกสี่คนฟัง
“อาหารเป็นพิษอย่างนั้นเหรอ แล้วแทมินไปกินอะไรมาล่ะเนี่ย ทั้งที่กินข้าวเที่ยงไปแล้ว ยังไปแอบกินอะไรอีกนะ”จงฮยอนพึมพำพลางผลักประตูเข้าไปข้างในห้องฉุกเฉิน
โดยมีอนยูกับมินโฮเดินตามเข้าไป คีย์ยืนนิ่งเหมือนกำลังนึกอะไรบางอย่าง ก่อนจะหันมาสบตากับฉันที่กำลังมองอยู่เช่นกัน เอิม...เขาคงไม่คิดว่าจะเป็นเพราะคุกกี้ที่ฉันเอามาให้หรอกนะ ฉันเองไม่ได้ทำคุกกี้นั่น คีย์สาวเท้าเข้ามาหาฉันอย่างรวดเร็ว เขาคว้าแขนฉันพร้อมออกแรงดึงจนฉันถลาเข้าไปใกล้เขา พี่ไวกิ้งที่หันมาเห็นเข้าพอดีรีบเข้ามาดึงฉันออกจากเงื้อมมือคีย์
“นายจะทำอะไรน้องสาวฉัน ~O~!!”พี่ไวกิ้งตะคอกถามคีย์เบาๆ ฉันที่ยืนเด่นตรงกลางเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเอาซะเลย
“น้องของคุณเป็นคนเอาคุกกี้มาให้แทมินกิน ที่แทมินต้องปวดท้องคงเพราะคุกกี้บ้าๆนั่น!”
“นายรู้ได้ยังไงว่าเป็นเพราะคุกกี้ที่น้องฉันเอาไปให้ แล้วคนอย่างยัยลิตเติ้ลไม่มีปัญญาทำคุกกี้หรอก”
นี่ตกลงว่าพี่กำลังช่วยฉันอยู่ใช่มั้ยค่ะ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าพี่กำลังด่าฉันอยู่เลยล่ะ ฉันบู้ปากใส่พี่ไวกิ้งอย่างไม่ค่อยจะพอใจ
“คุกกี้นั่น มีแฟนคลับของพวกนายฝากฉันมาให้ ฉันไม่ได้ทำมันเองหรอก (_ _)”ฉันหลบสายตาที่เต็มไปด้วยความโมโหของคีย์
“ถ้าแทมินเป็นอะไรมากกว่านี้ ฉันฆ่าเธอแน่ ~0~**”
“ก็ลองดูสิ ฉันไม่ยอมให้นายทำอะไรน้องสาวฉันหรอก”พี่ไวกิ้งจ้องหน้าคีย์อย่างฉุนๆ อย่าทะเลาะกันสิค่ะ ฉันได้แต่นึกอยู่อย่างนั้นไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา
คีย์เลิกต่อปากต่อคำกับพี่ไวกิ้ง ก่อนผละเดินจากไป เขามองฉันด้วยแววตาเรียบเฉยก่อนจะผลักประตูเข้าไปในห้องฉุกเฉิน นี่ตกลงว่ามันจะเป็นเพราะคุกกี้นั่นจริงๆเหรอ ต้องเป็นฝีมือแอนตี้แฟนพวกนั้นที่ขู่ฉันแน่เลย ให้ฉันเป็นคนผิดในคดีนี้อย่างนั้นเหรอ น่ารังเกียจที่สุดเลย อย่าให้ฉันเจอยัยเด็กนั่นอีกนะ ฉันจะฆ่ายัยนั่นแล้วบดเข้าไปในคุกกี้ซะเลย อี๋~ไม่เอาดีกว่า มันน่ากลัวเกินไปเอาแค่แกล้งให้อับอายเป็นพอ ยัยเด็กนั่นต้องได้รับโทษอย่างสาสม ~^~**
โปรแกรมต่างๆที่เราต้องเข้าร่วมกับชายนี่ถูกยกเลิกเกือบหมด เหตุเพราะไม่มีแทมิน ทุกคนเลยไม่อยากที่จะไปรบกวนการทำงานของหนุ่มๆชายนี่ ฉันเองก็ไม่อยากจะตามไปแล้วเหมือนกัน ไม่อยากจะไปเป็นตัวซวยของพวกเขา (คีย์ว่าฉันตอนขากลับจากโรงงพยาบาล T.T) จะเหลือก็เพียงกิจกรรมเดียวคือ การถ่ายรายการที่ให้พวกเราเล่นเกมส์เดินป่า เป็นรายการพิเศษที่จะเสนอการทำความคุ้นเคยระหว่างชายนี่และผู้เข้ารอบ ซึ่งฉันพึ่งจะรู้ว่าตลอดเวลาที่เราตามชายนี่เป็นการถ่ายรายการด้วยเช่นกัน รายการนี้จำเป็นจะต้องถ่ายโดยไม่มีแทมิน เพราะอีกสองวันก็จะถึงวันตัดสินแล้ว ใกล้ถึงเวลาที่ฉันจะได้กลับบ้านแล้วสินะ ตั้งแต่แทมินไม่อยู่ก็ไม่มีใครมาคอยแซวฉันกับอนยู มันเงียบหูไปเหมือนกันนะ
“พร้อมยังลิตเติ้ล ถึงเวลาเดินทางแล้วนะ=O=!!”พี่ไวกิ้งโผล่เข้ามาเรียกฉัน แต่ว่าตอนนี้ฉันอยู่ในห้องน้ำผู้หญิงนะ ทำไมไอพี่บ้านี่ถึงเข้ามาได้
“ประทานโทษเถอะค่ะ แต่นี่มันห้องน้ำหญิงนะเฟ้ย ~[]~!!!”ฉันแยกเขี้ยวใส่พี่ชายตัวดี ไอพี่ไวกิ้งยักไหล่อย่างไม่สนใจ
“แล้วไง ฉันกลัวแกหายอย่างคราวอยู่สนามบิน แล้วแกจะอยู่สูดกลิ่นห้องน้ำเล่นอีกนานมั้ย”
“บ้าสิ ใครจะบ้ามาดมกลิ่นห้องน้ำอยู่แบบนี้ =O=!!”ฉันหรี่ตามองพี่ไวกิ้งแล้วรีบพุ่งตัวออกมาก่อนจะโดนเขกกะโหลก เพราะดันไปทำหน้ากวนประสาทใส่ไอพี่บ้านั่น
สถานที่ที่เรามานั้นฉันไม่อยากจะสาธยายเลยจริงๆ มันเป็นภูเขาสูงตระหง่านเลยล่ะ แล้วมิชชั่นก็คงหนีไม่พ้นการปีนขึ้นไปเอาอะไรสักอย่างกลับลงมาเป็นแน่แท้ ถ้าไม่เป็นอย่างที่ฉันเดาละก็ ให้จับฉันโยนลงเขาได้เลย เมื่อการถ่ายทำเริ่มขึ้นฉันก็เดินมารวมกลุ่มกับคนอื่นๆ พิธีกรก็อธิบายกฎและกติกาให้ฟังรัวและเร็ว ประทานโทษเถอะใครมันจะไปฟังทันล่ะนั่น (_ ^_) พอพิธีกรสาธยายจบก็เป็นหน้าที่ของล่ามที่ต้องมาแปลให้เราฟัง สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ปีนเขา เพื่อที่จะไปเก็บธงตามสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ในแผนที่ และถ้าหาธงแรกเจอเราถึงจะได้แผนที่ไปหาธงอันต่อไป
เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้เลยทีเดียวเชียว มาถึงการแบ่งกลุ่มด้วยลูกบอลสี ฉันกับคนอื่นๆต้องเสี่ยงจับลูกบอลสีที่อยู่ในกล่องใบใหญ่ ลูกบอลมีทั้งหมดสามสี สีละสามลูก ฮุ้ย!! ตื่นเต้นแหะฉันจะได้อยู่ทีมเดียวกับใครบ้างนะ ฉันควานหาลูกบอลเป็นคนแรกจะได้สีอะไรน้อนี่ เป็นสีเขียวสะท้อนแสงกันเลยล่ะงานนี้ พอทุกคนได้รับลูกบอลกันครบฉันแทบอยากจะลากลับบ้าน
“ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยจะได้มั้ย นี่เรากำลังจะเล่นเกมส์กันนะเฟ้ย”พี่ไวกิ้งดีดหน้าผากฉันจนหงายเงิบ ก่อนจะเผ่นไปอยู่กับจงฮยอนและยัยดาร่า
“จะให้สดชื่นได้ไงเล่า ฉันไม่ได้อยากอยู่กับสองคนนี่เลย”ฉันพึมพำเหลือบตาไปมองอนยูกับคีย์ที่ยืนปรึกษากันอยู่สองคน
อีกทีมก็คือทีมของมินโฮกับสองสาวญี่ปุ่นที่ดูท่าทางจะถูกใจเอามากๆ ใช่สิ มินโฮน่ะหล่อละลายใจสาวซะขนาดนั้น การแข่งเริ่มต้นขึ้นในเวลาต่อมา แต่ละจุดที่แต่ละทีมเดินผ่านในระยะห่างสิบเมตรจะมีกล้องตั้งอยู่ และคอยจับภาพของพวกเรา ท่าจะลงทุนสูงมากเลยแหะ ฉันเดินชมโน่นชมนี่แบบไม่สนใจเรื่องการทำเวลา
“นี่ เธอจะช่วยเดินเร็วๆหน่อยได้มั้ย ถ้ายังคลานเป็นเต่าอยู่ฉันจะไม่รอแล้วนะ *o*!!”อนยูหันมาจ้องฉันเขม็ง ฉันที่กำลังสนใจดอกหญ้าพิลึกนั่นเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา
“ไม่รอก็ตามใจสิ ถ้าพวกนายไม่มีฉันกลับไปด้วย พวกนายนั่นล่ะจะเดือดร้อนเอง (--;;;)”ฉันทำเป็นไม่สนใจพวกเขา หันกลับไปจ้องดอกหญ้าพิลึกต่อ
“แน่ใจที่พูดใช่มั้ย งั้นฉันกับพี่อนยูจะยอมเดือดร้อนดีกว่าพ่ายแพ้”
“เราเตือนเธอแล้วนะ อย่ามาโวยวายทีหลังล่ะ…”
ความคิดเห็น