ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Design love ออกแบบหัวใจให้โดนเธอ (Key&Little)

    ลำดับตอนที่ #10 : โดดเดี่ยว และเดียวดาย = =^;;

    • อัปเดตล่าสุด 27 ม.ค. 54


             ภายในสตูดิโอที่เป็นโปรแกรมแรกที่กรุ๊ปของฉันมาเยือน เราทั้งหมดถูกจัดให้นั่งในแถบคนดูทั่วไปไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรเลยสักนิด ง่ะ...แล้วแบบนี้ฉันจะไปเตือนพวกเขาได้ยังไง พวกเขาจะโดนแบบที่ใครหลายคนโดนหรือเปล่า ฉันกระวนกระวายมากจนไอพี่ไวกิ้งเริ่มจะสังเกตได้ เลยหันมาจัดการกดฉันให้นั่งนิ่งตัวตรง น่าจะรู้นะว่าคนอย่างฉันน่ะมันสมาธิสั้น อยู่เฉยได้ไม่นานยิ่งมีเรื่องด้วยก็ยิ่งแล้วใหญ่ ฉันชะเง้อแล้วชะเง้ออีกจนในที่สุดก็ถึงคิวซ้อมของชายนี่  พวกเขาโผล่ขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับโชว์ที่เท่ห์เอามากๆ แต่จะทำไงถึงจะเข้าถึงตัวเขาได้ล่ะ

              เป็นอะไรของแกฟะไอเติ้ล ปวดท้องหรือไงถึงได้ผุดลุกผุดนั่งอยู่ได้ = =**”พี่ไวกิ้งหันมาเม้งใส่ฉันอย่างหมดความอดทน

              พี่ไม่ต้องมาพูดเลย มันเกิดเรื่องวุ่นวายมากมายเท่าไหร่ พี่ไม่รู้หรอก >O<!!”ฉันยังคงชะเง้อต่อไป พยายามจะมองหาทางเข้าถึงตัวพวกเขาก่อนจะเกิดอะไรขึ้น

              แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ เรื่องที่แกดูสนิทกับไอพวกนั้นหลังจากโผล่มาพร้อมกันใช่มั้ย_O_**”

             พี่อย่ามาพาลเรียกเขาว่าไอนะ ไอพี่ไม่มีความรับผิดชอบ -0-!!”

             นี่...เธอสองคนน่ะ ช่วยหยุดทะเลาะกันทีได้มั้ย พวกฉันจะดูชายนี่ =O=**”ยัยดาร่าแทรกมากลางวง ฉันรีบหันขวับไปจ้องยัยนั่นตาเขียว

             ยุ่งอะไรด้วยยะ หุบปากเน่าๆของเธอไปเลย ~O~!!”ฉันลุกขึ้นไล่ยัยดาร่าโดยลืมไปว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางบรรดาแฟนคลับของศิลปินเกาหลี

             เอ๊ะ! ยัยนี่ ฉันกับคนอื่นๆรำคาญนี่นา ถ้าอยากทะเลาะกันทำไมไม่ไปทะเลาะที่อื่นล่ะ

             ทำไม จะทะเลาะที่นี่ ใครจะทำไม!!!”ฉันโวยวายใสหน้ายัยดาร่า เธอลุกขึ้นมาผลักฉันจนล้มลงก้นกระแทกขอบเก้าอี้

             คิดว่ามีชายนี่ปกป้องแล้วจะมาวีนได้เหรอ ฉันเหลืออดเธอแล้วนะ ดูสิว่าถ้าฉันแกล้งเธอคราวนี้ ชายนี่จะเอาคืนให้เธอยังไงอีก

           ยัยดาร่าเงื้อมือเตรียมฟาดมาเต็มที่ แต่ก่อนที่จะได้สัมผัสหน้าฉันไอพี่ไวกิ้งก็คว้าแขนเธอไว้ ยัยดาร่าตวัดสายตาไปหาพี่ไวกิ้งอย่างเอาเรื่อง ส่วนฉันก็ได้แต่เอ๋อที่จู่ๆยัยดาร่าที่เอาแต่พูดเยาะฉันกลายเป็นฝ่ายมาอาละวาดซะเอง ไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรืเปล่าน้อนั่น=__+^

              ไม่ต้องรอให้ถึงชายนี่หรอก ฉันเองก็ไม่ยอมให้เธอทำร้ายน้องสาวฉันเหมือนกันพี่ไวกิ้งพูดเสียงเยือกเย็น เล่นเอายัยนั่นหง๋อไปเลย อิอิ~ แบบนี้สิถึงเรียกว่าพี่ชาย

              หง๋อไปเลยดิ โธ่~ ยัยผีดาดา ชิ!”

              นั่งลงเหอะ พวกทีมงานมาโน่นแล้วเดี๋ยวก็โดนเชิญออกไปจากสตูดิโอหรอกพี่ไวกิ้งดึงแขนฉันให้นั่งลง แต่ด้วยความไม่รู้เรื่องฉันเลยขัดคำสั่งพี่ชายแสนดีไป

            เป็นผลให้ฉันโดนทีมงานหนุ่มลากออกมาจากห้องนั้น ฉันโดนเชิญออกมาอยู่อย่างเดียวดายด้านนอก แย่แล้วเราแล้วจะเข้าไปหาชายนี่ได้ยังไงล่ะ ขนาดตอนอยู่ในห้องนั่นยังไม่มีทางจะไปเลย ยิ่งมาอยู่ข้างนอกยิ่งมืดมนเข้าไปอีก โธ่เว้ย!! ฉันมันเป็นยัยบ้าขี้ใจร้อน ขี้โวยวายที่สุดเลย ฉันนึกเจ็บใจตัวเองเตะโน่นเตะนี่ไปเรื่อย ในที่สุดก็สะดุดถังขยะที่อยู่มุมทางเดินล้มก้นจ้ำเบ้าอีกรอบ เอาเข้าไปนี่ตกลงว่าความซวยเป็นญาติสนิทฉันใช่มั้ยเนี่ย _*_;; อยากจะบ้า ฉันนั่งอยู่แบบนั้นโดยไม่คิดจะขยับตัวไปไหน หมดแล้วทางที่จะเตือนพวกเขา

             เป็นไงล่ะ ยัยจอมโวยวาย มานั่งหง๋ออยู่นี่จนได้จงฮยอนย่อตัวลงนั่งตรงหน้าฉัน เขาออกมาได้ไงหว่า ก่อนโดนลากออกมาฉันยังเห็นเขาเฉิดฉายอยู่หน้ากล้องนี่นา

            นายมาได้ไง ก็ฉันเห็นนายซ้อมอยู่นี่นา ?-__-?

            ฉันเห็นใครไม่รู้โดนเชิญออกมา พอเลิกซ้อมเลยแอบแวบมาดู เผื่อเธอจะเอ๋อเดินหลงไปไหนอีก แล้วลงมานั่งพื้นทำไมน่ะ+O+;;”

            ฉันสะดุดถังขยะล้มอ่ะดิ แล้วเจ็บก้นมากเลยไม่ลุกมันซะเลย ขี้เกียจจะล้มอีก

          จงฮยอนยิ้มขำอีกคน นี่ตกลงว่าพวกเขาเห็นฉันเป็นตลกหรือไงเจอหน้าทีไรขำทุกที คีย์ก็คนหนึ่งแล้ว นี่ยังมาเป็นจงฮยอนอีก เขาดึงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาคลี่ให้ฉันดู มีแต่ตัวเลขเต็มไปหมดเลยตาฉันชักจะลายเพราะมองตัวเลขมากไปแล้วสิ  แล้วตกลงว่าจะให้ฉันดูทำไมเนี่ย รีบอธิบายมาสิคุณคิมจงฮยอน อย่ามัวแต่ยิ้ม ฉันนึกค่อนคอดเาที่เอาแต่อมยิ้มอยู่ได้

             นี่เป็นบิลคาซ่อมเน็ตบุ๊คของฉัน ที่เธอบอกจะรับผิดชอบคนละครึ่งกับพี่อนยู แต่...มีคนจ่ายแทนเธอไปแล้วดีใจด้วยนะ ^^=”เขาบอกกับฉันด้วน้ำเสียงมีเสศนัย

             ใคร...อย่าบอกนะว่าเป็นนาย นั่นแน่หลงรักฉันเข้าเหรอ (^^  );;”ฉันล้อเขาขำๆ แต่ดูท่าเขาจะไม่ขำด้วยแหะ จงฮยอนเปลี่ยนท่าทางไปดูลุกลี้ลุกลนพิกล

             พูดจาให้มันรู้สำนึกหน่อยว่าเธอเป็นผู้หญิง หัดเก็บความคิดไว้ข้างในบ้างก็ดี-///-++”

             ฉันมันพวกปากตรงกับใจนี่ คิดยังไงก็พูดแบบนั้นจงฮยอนยิ้มกริ่มเมื่อฉันพูดจบ เขาขยับเข้ามาใกล้ฉันมากกว่าเดิม

             คิดยังไงพูดแบบนั้น แสดงว่าเธอก็หลงรักฉันเหมือนกันใช่มั้ยถึงได้คิดว่าฉันหลงรักเธอเข้าแล้ว *^_^*”สายตาของเขาวาววับเป็นประกายจนฉันไม่กล้าจะสบตาเขา

            ใช่ที่ไหน นายอย่ามาอ่านความรู้สึกของฉันหน่อยเลย (-- )///!”ฉันเสมองไปทางอื่น ในขณะที่เขาเอาแต่หัวเราะคิกคักอยู่นั่น

            คนที่จ่ายค่าซ่อมแทนเธอก็คืออนยูน่ะแหล่ะ ดูท่าว่าเขาจะชอบเธอเข้าแล้วจริง เธอกับอนยูเป็นคนที่อ่านง่ายมากเลยนะจงฮยอนลุกขึ้นยืนแล้วพับกระดาษเก็บใส่กระเป๋า

              บอกแล้วไงว่าอย่ามาทำรู้ความคิดคนอื่น ~O~**”ฉันลุกพรวดพราดตามเขาโดยลืมไปว่ากำลังเจ็บสะโพกอยู่ และนั่นก็ทำให้ฉันต้องกลับลงไปนั่งท่าเดิม

              พี่จงฮยอน ได้เวลาอัดรายการแล้วครับ รีบกลับเข้าไปกันเถอะ-__-=”คีย์เดินเข้ามาหาจงฮยอนแล้วดึงแขนจงฮยอนที่กำลังหัวเราะร่าไป ไม่...แม้แต่จะหันมามองฉันเลย น่าเศร้าที่โดนเมิน_^_~

           เอ๊ะ...แล้วทำไมฉันถึงไม่พูดเรื่องแอนตี้แฟนกับพวกเขานะ โอยยย~ยัยบ้าลิตเติ้ล ลืมได้ไงเนี่ยอุตส่าห์มีโอกาสแล้วอ่ะ อ๊ะ...จริงสิฉันมีเบอร์เขานี่ทำไมไม่โทร ฉันดึงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง แต่...พวกเขาต้องอัดรายการนี่ จะว่างมารับโทรศัพท์ได้ไงกัน โง่อีกรอบแล้วฉัน (_ _,,) ฉันเขกหัวตัวเองไปทีหนึ่งอย่างแค้นๆ เมื่อไหร่ฉันจะเลิกเอ๋อแบบที่เขาว่ากันซะทีฟะ มือถือของฉันสั่นขึ้นมาดุกดิก เป็นข้อความจากเบอร์เดียวที่ฉันเมมไว้  เบอร์ของอนยูเขายังเล่นโทรศัพท์อยู่อีกเหรอเนี่ย ฉันเปิดอ่านข้อความแล้วต้องอึ้งปนเคือง

           ...จะเขกหัวตัวเองให้เอ๋อหนักกว่าเดิมเหรอ ยัยโก๊ะ!!!... ชิ...ทำอย่างกับตัวเองไม่โก๊ะไงงั้นล่ะ อีตาโก๊ะกว่า ~ ~* เอ๊ะ!...เขารู้ได้ไงว่าฉันเขกหัวตัวเอง ก็ในเมื่อเขากำลังถ่ายรายการอยู่หรือว่าเขาจะแอบอยู่แถวๆนี้ ฉันหรี่ตาหันมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เจอเงาใครเลยสักคน ฉันปิดโทรศัพท์ลงด้วยความโมโห ทั้งโดนเนรเทศ โดนด่าหาว่าเอ๋อ แถมด้วยการถูกเมินเข้าให้อีก ตกลงว่าชีวิตฉันจะไม่มีอะไรดีเลยใช่มั้ยเนี่ย อยากจะบ้าตายอีกหลายๆรอบ _ _**

               เอ่อ...ขอโทษนะ ไม่ทราบว่าพี่เป็นทีมงานหรือเปล่า คือมีคนฝากฉันให้เอานี่มาให้พี่ๆชายนี่ แต่ฉันมาไม่ทันเข้าชม ฝากพี่เอาไปให้ได้มั้ยหญิงสาวคนหนึ่งยื่นถุงอะไรสักอย่างให้ฉัน

               คือว่า...ฉันไม่...เอิม~ แล้วนี่มันคืออะไรอย่างงั้นเหรอฉันรับถุงใบนั้นมาถือเอาไว้ จ้องหน้าเด็กสาวคนนั้นตาไม่กระพริบ

              อ๋อ...มันเป็นคุกกี้น่ะ คนที่ฝากมาบอกว่าเขาตั้งใจทำมาก เขาอยากเอามาให้เอง แต่ว่าติดธุระสำคัญเลยมาไม่ได้

             ว้าว...ทำคุกกี้เองเลยเหรอเนี่ย ชายนี่คงปลาบปลื้มมากกก!”ฉันทำตาโตไม่ไว้ใจในสิ่งที่เด็กสาวพูด มันน่าแปลกถ้าหากตั้งใจก็เอามาให้ทีหลังก็ได้

             ขอบคุณมากนะ พี่ต้องให้ชายนี่กับมือเลยนะ คนที่ฝากมาอยากให้พี่ๆชายนี่ได้ชิมฝีมือของเขามากๆ อย่าลืมนะต้องให้กับมือเด็กสาวจับมือฉันเขย่า  พอฉันพยักหน้ารับก็เดินยิ้มกว้างออกไป

             เรียกฉันพี่ๆอยู่ได้ ฉันกับเธอไม่น่าอายุห่างกันมากหรอกย่ะ *^*++”ฉันพึมพำตามหลังเด็กสาว ก่อนหันกลับมาเพ่งถุงคุกกี้อีกรอบ

           มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ไหนๆก็อุตส่าห์ทำมา เดี๋ยวฉันจะแปลงร่างเป็นเมสเซนเจอร์ไปส่งถึงมือชายนี่เลย ยะฮู้!!! -0-!!  เอิม...เลิกบ้าแล้วไปจากตรงนี้ดีกว่าฉัน = __ =^ ฉันถือถุงขนมเดินหลบออกมาทางด้านหน้า เมื่อไหร่พวกเขาจะอัดเสร็จซะทีจะได้ไปที่อื่นต่อ โดนเนรเทศออกมาอยู่คนเดียวแบบนี้มันวังเวงนะ ฉันเดินไปนั่งขดตัวอยู่ที่โถงทางเข้าสตูดิโอ ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงฉันถึงเห็นคนอื่นๆทยอยกันออกมา พี่ไวกิ้งวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาฉันทันทีที่เห็นฉัน

               ไม่ต้องมาใกล้ฉันเลยนะไอพี่เฮงซวย =[]=**”ฉันสะบัดหน้าใส่พี่ไวกิ้งงอนๆ แทนที่จะง้อแต่ไอพี่บ้าดันเขกหัวฉันซะแรงเลยT.T

               ไม่ต้องมาทำงอนฉันเลย ฉันเตือนแล้วใช่มั้ยว่าให้ควบคุมอารมณ์น่ะ แล้วเห็นผลของการเป็นคนเจ้าอารมณ์หรือยังพี่ไวกิ้งดุฉันฉอดๆ ฉันเองก็ทำได้แค่ฟังเท่านั้น

              โอเค. ฉันผิดก็ได้ แล้วนี่เราจะไปไหนกันต่อเหรอ

              เราจะไปดูงานแฟชั่นกันต่อในตอนเย็น ตอนนี้เป็นช่วงพักเที่ยงพวกเราจะไปทานข้าวกันก่อนนะค่ะ เชิญทุกคนไปที่รถค่ะคนที่ตอบคำถามของฉันเป็นพี่ทีมงาน พอพูดจบพี่เขาก็เดินนำเราทั้งหมดไปขึ้นรถ

           ฉันนั่งเขี่ยข้าวในชามใบเล็กๆเล่นด้วยไม่นึกอยากตักมันเข้าปากสักนิด ท่าทางเย็นชาของใครบางคนมันยังตามมาหลอกหลอนฉันไม่ยอมหยุด ทำไมนายถึงทำท่าทางแบบนั้นนะ คีย์... หรือว่าสิ่งที่พี่ไวกิ้งพูดมันจะจริง และตอนนี้ฉันก็ไม่น่าสนใจสำหรับพวกนายแล้ว พวกนายเบื่อที่จะแกล้งฉันแล้วงั้นเหรอ เอ๊ะ! แล้วฉันกลายเป็นคนที่ชอบให้คนอื่นแกล้งตอนไหนฟะ = =++ ฉันต้องบ้าแน่ๆเลยที่มานั่งคร่ำครวญแบบนี้ ฉันจะไปฝันทำไมกันก็ไม่รู้

           หลังทานข้าวเที่ยงเสร็จเราทั้งหมดก็มาต่อกันที่ กรี๊ดดดด>O<!!! นี่มันโซลทาวเวอร์นี่ สถานที่ที่ฉันอยากมาที่สุดเลย ฉันชะเง้อมองอย่างตื่นเต้นคล้ายๆบ้านนอกเข้ากรุงน่ะแหล่ะ (จะอธิบายให้มันดูไม่ดีต่อตัวเองทำไมเนี่ย) แล้วนี่เราต้องทำอะไรหันบ้างเนี่ย ฉันหันรีหันขวางด้วยความทำอะไรไม่ถูก พี่ๆทีมงานพูดอะไรบางอย่างกับพวกเรา แต่ฉันไม่ได้สนใจฟังเท่าไหร่เพราะตอนนี้ ฉันสนใจคนที่กำลังลงจากรถตู้สีขาว พวกเขาก็มาด้วยเหรอไม่มีงานต่อหรือไง ฉันหลบไปซ่อนอยู่ข้างหลังพี่ไวกิ้งเมื่อเห็นใครบางคนกำลังมองมาทางฉัน นายกำลังคิดดพิเรนอยู่ใช่มั้ยล่ะแทมิน (-- );;

             เป็นไรของแกฟะ ลิตเติ้ล ทำตัวบ้าๆบอๆอยู่นั่นล่ะพี่ไวกิ้งเอี้ยวตัวมามองฉันด้วยสายตาเอื่อมระอาสุดๆ ช่วยมองน้องสาวตัวเองดีๆหน่อยสิ

             ฉันกำลังหลบตัวป่วนชีวิตอยู่ พี่ก็อย่าหันมาสิ -0-!!”พี่ไวกิ้งขมวดคิ้วงงๆ แต่ก็ยอมหันกลับไปแต่โดยดี ช่างเป็นพี่ที่ว่าง่ายดีแท้ เพราะไอพี่ไวกิ้งไม่หันไปเฉยๆแต่เดินหนีไปซะอย่างนั้นล่ะ

             ไอพี่ไวกิ้ง จะทิ้งฉันหรือไง รอกันก่อนสิ >O<!!!”ฉันแหกปากลั่นพร้อมก้าวตามพี่ไวกิ้งไป โดยมีสายตาคมๆของแทมินมองตาม แถมมาด้วยรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์

         

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×