คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Design ฝัน!
1.
Design ฝัน
เสียงเอะอะครึกโครมดังระงมไปทั่วบริเวณโรงอาหาร ฉันก้าวเข้าหาต้นตอของเสียงเอะอะนั่นอย่างเร่งรีบ เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีถูกใช้ไปกับการแหวกผู้คนเข้าไปกลางวง และแล้วฉันก็มาเผชิญหน้ากับตัวต้นเหตุ ยัยดาร่าคู่ปรับด้านแฟชั่นสไตล์เกาหลีของฉันเอง และที่มีคนมาส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดรอบตัวคุณเธอ เพราะคุณเธอเล่นขนคอลเลคชั่นใหม่ๆมาโชว์กับสาวกแฟชั่นเกาหลีน่ะสิ ชิ!ตัวแม่อย่างฉันยอมไม่ได้-^ -! แบบนี้มันต้องตีตลาดยัยนี่ให้แตก
“โอ้โห...ดูแฟชั่นอยู่เหรอ แหม๋~ไม่ชวนกันบ้างเลยนะดาร่า”ฉันแสร้งทำเสียงตื่นเต้นถาม ยัยดาร่าหันมายิ้มเหยียดๆเมื่อได้ยินคำทักทายของฉัน
“อ้าว...ลิตเติ้ล ก็กะว่าจะชวนนะ แต่ฉันคิดว่าเธอคงจะรู้เรื่องแฟชั่นพวกนี้แล้ว เพราะเธอเองก็ตามเทรนเกาหลีอยู่นี่นา”
“อ้อ! ใช่ ฉันรู้มาก่อนหน้าแล้ว ที่จริงแฟชั่นเซ็ตนี้มันเอ้าส์แล้วนะ แฟชั่นที่มาใหม่จะสีสันจัดจ้านกว่านี้อีก”ฉันมั่วพูดไปเรื่อยทั่งที่ยังไม่ได้รู้เรื่องแฟชั่นเซ็ตนี้ด้วยซ้ำ
“เอ๋...งั้นฉันคงต้องไปอับเดทแล้วสิ เดี๋ยวจะตกเทรน ไม่รู้เหมือนกันว่าแฟชั่นจัดจ้านที่ว่าจะมาจริงหรือเปล่า”พูดจบยัยดาร่าก็เดินยักไหล่ออกไป กวนประสาทที่สุด
“อะไรก็ไม่รู้ จู่ๆก็เข้ามาตีวงแตกหมด ไปดีกว่า ไม่อยากอยู่ใกล้พวกดีแต่มั่ว ดีแต่พูด”เสียงแหลมๆของใครบางคนลอดออกมา ซึ่งแน่นอนว่าฉันหาคนพูดไม่เจอ ฮึ่ม! อย่าให้เจอละกันแม่จะด่าให้หูย้ายที่เลย~^~!!
ฉันต้องเดินหลบสายตาเคืองๆของคนทั่วโรงอาหาร ใช่ฉันเป็นตัวแม่ในด้านแฟชั่นเกาหลี แต่เป็นในด้านคำพูดเท่านั้น ด้วยว่าฐานะทางบ้านมิอำนวย ฉันจึงยังคงแต่งตัวแสนจะธรรมดา หรือว่าโค-ตะ-ระ ธรรมดาฟะ ก็นั่นล่ะสาเหตุที่ทำให้คำพูดของฉันไม่น่าเชื่อถือเท่ายัยดาร่า ผู้เกิดมาบน กองทอง นี่ฉันไม่พูดเว่อร์นะ ยัยนั่นเกิดมาบนกองทองจริงๆ ก็ตอนเกิดอากงของยัยดาร่าเอาทองแท่งให้พ่อของคุณเธอ ให้เอาเข้าไปรองรับตัวเธอในห้องคลอดน่ะสิ โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใคร~ เอ่อ...โปรดอย่าถามว่าฉันรู้ได้ไง ไม่อยากจะบอกเลยว่าฉันกับยัยนั่นคลอดโรง’บาลเดียวกัน วันเดียวกัน แถมเวลาเดียวกันอีก (พ่อเลยเอามาเล่าให้ฟังตอนโต) แต่ต่างกันตรงที่ฉันไม่มีทองมารองรับนั่นล่ะ
ฉันเดินเซ็งๆผ่านหน้าบอร์ดข่าวสาร ทุกทีที่กร่ำกรายผ่านมาฉันจะไม่เคยหยุดอ่านมันหรอก แต่คราวนี้มันมีบางอย่างดึงดูดฉันให้หยุดอ่าน และแล้วโชคชะตาก็นำพาการประกวดออกแบบชุดคอนเซ็ปศิลปินเกาหลี ในหัวข้อ Black Devil น่าสนแหะ ว่าแต่ว่าโปสเตอร์นี้ยัยดาร่าเห็นหรือยังหว๋า ฉันแลซ้ายแลขวาบรรยากาศตอนเลิกเรียนแบบนี้เหมาะแก่การจิ๊กเป็นอย่างยิ่ง ฉันลอกโปสเตอร์ออกช้าๆอย่างระมัดระวัง ยิ่งกว่าประคองไข่ไก่ที่ฉันชอบทำแตกประจำซะอีก พอลอกโปสเตอร์ออกมาแบบครบสามสิบสองประการ ฉันก็เผ่นแน่บด้วยความไวกว่าแสง กว่าจะถึงบ้านเล่นเอาลิ้นห้อยเหมือนไอ้ด่างข้างบ้านก็ไม่ปาน
“เป็นไรไปไอเติ้ล หอบเป็นไอ้เจ้าข้าป้าศรีเลย ไปวิ่งราวกระเป๋าใครมา”ไวกิ้งพี่ชายผู้หล่อปานโดม ทักทายด้ายอาการปากปีจอกำเริบ
“หุบปากแมวๆไปเลย ไอพี่บ้า ฉันไม่ใช่โจรนะเฟ้ย จะได้ไปวิ่งราวกระเป๋า”
“จะไปรู้แกเหรอ เห็นหอบซะขนาดนั้น ฉันก็เดาไว้ก่อนล่ะ”
“จะเดาก็เดาดีๆสิ เดาซะฉันเป็นโจรกระจอกเลย ฉันไม่คุยกับพี่แล้ว ชิ! ”ฉันสะบัดบ๊อบเดินฉับๆเข้าบ้าน
พอถึงห้องส่วนตัวปุ๊บฉันก็ทิ้งตัวลงแผ่บนเตียงอย่างหมดแรง ฉันดึงโปสเตอร์ที่ยัดเข้ากระเป๋าสะพายออกมาอ่าน การประกวดออกแบบชุดคอนเซ็ปให้กับศิลปินชื่อดัง 5 คน 5 ชุด ในหัวข้อ Black Devil เป็นโครงการเฉพาะแฟนคลับไทยและญี่ปุ่นเท่านั้น!! ผู้ที่ได้รับเลือกให้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจะได้ไปกระทบไหล่ศิลปินดังไกลถึงเกาหลี พร้อมเงินรางวัลกว่า 3 แสนบาท แว้ก~ 3 แสนบาท ใครบ้าจัดโครงการนี้ฟะ แจกเงินตั้งสามแสน แถมถ้าชนะได้เงินอีกตั้ง 3 ล้านแน่ะ แบบนี้พลาดไม่ได้ซะแล้ว เขาปิดรับผลงาน... ฮ้า~อาทิตย์หน้า แล้วฉันจะคิดทันเหรอเนี่ย เอาฟะ ลองกันสักตั้ง เงินตั้งสามล้าน ฉันดีดตัวลุกขึ้น กระชุ่มกระชวยทันทีที่เห็นจำนวนเงินรางวัล งานนี้ต้องทุ่มเทกันหน่อย
... 3 ชั่วโมงผ่านไป...
ปังๆๆๆๆ
“ไอเติ้ลโว้ยยยย~ จะกินมั้ยข้าวน่ะ พ่อกับพี่รอนานแล้วนะ เชิญเสด็จออกจากห้องได้แล้ว”
“
”
“ไอเติ้ล วิญญาณแกยังอยู่มั้ย ถ้าอยู่ก็เห่าตอบทีโว้ย ไอลิตเติ้ล!!!!!”
ฉันงัวเงียเงยหน้าขึ้นมาจากกองกระดาษ เดินสะลึมสะลือไปเปิดประตูห้อง ทั้งที่ยังไม่ลืมตา ฉันบังคับเปลือกตาที่หนักอึ้งให้เปิดออก หน้าตาท่าทางกวนๆของไอพี่ตัวร้ายมันชวนให้อยากกลับไปนอน ซะดีกว่าจะมองหน้าหล่อปานโดมนั่น ไอพี่ไวไวปรุงสำเร็จเอื้อมมือมาจับหน้าฉัน
แล้วจับแก้มฉัน ดึงไปทางโน้นทีทางนี้ที สนุกมากมั้ยล่ะไอพี่บ้า = =33;;
“เลิกเล่นได้แล้ว มันเจ็บ T.T พี่เรียกฉันทำไม”ฉันปัดมือใหญ่ๆนั่นออก พลางลูบแก้มตัวเองด้วยความเจ็บ
“ไปกินข้าว นี่มันจะสองทุ่มแล้ว พ่อรอแกจนไส้กิ่วแล้ว ไปล้างหน้าแล้วรีบตามลงมา”
“ได้ๆ เดี๋ยวฉันจะตามไปละกัน”
“เร็วนะเฟ้ย อย่าให้ได้ขึ้นมาตามอีก”ไอพี่ไวกิ้งชี้หน้าคาดโทษฉัน ก่อนจะหมุนตัวแบบพระเอกซีรีย์เกาหลี เดินลงบันไดไป คิดว่าหล่อตายล่ะนั่น = =^^
ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะเขียนหนังสือ กระดาษหลายแผ่นปลิวว่อนไปทั่วห้อง ฉันคิดมาสามชั่วโมงพึ่งได้แค่ชุดเดียวแถมยังไม่สมบูรณ์แบบอีก เงินสามแสนจะตกถึงท้องฉันมั้ยเนี่ย ฉันพาร่างกายอันอ่อนแรง ดูเว่อร์ๆ = =;; เข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ พ่อของฉันนั่งหน้าเข้มอยู่หัวโต๊ะสายตาจับจ้องมาที่ฉันด้วยอารมณ์โกรธกริ้ว เยื้องไปมีไอพี่ไวกิ้งกำลังทำหน้ากวนประสาทใส่ฉัน สงสัยจะโมโหหิวทั้งคู่ ก็อยากตั้งกฎทานข้าวพร้อมหน้ามาเอง จะโทษฉันก็ไม่ได้นะ แบบว่าไม่ยอมรับผิดน่ะ แหะๆ ฉันยิ้มร่าเข้าไปนั่งตรงที่ประจำของตัวเอง
“โอ้โห...น่ากินจังเลย มีแต่ของชอบเติ้ลทั้งนั่น พ่อหรือพี่ทำค่ะ ^o^=”
“ไม่ต้องมาทำประจบ หมกตัวอะไรอยู่ในห้องได้ตั้งสามชั่วโมง ทุกทีเห็นเอาแต่เฝ้าทีวี ดูแฟชั่นโชว์”พ่อหรี่ตาเหมือนจะจับผิดฉัน
“หนูทำการบ้านน่ะค่ะ รีบทานข้าวเถอะ เติ้ลหิวจะแย่แล้ว”ฉันโกหกล่ะ ไม่บอกก็คงจะรู้ ขืนบอกพ่อว่าฉันออกแบบเสื้อผ้า มีหวังหัวเราะฉันลั่นบ้านแน่ เอาไว้เข้ารอบแล้วฉันค่อยบอกดีกว่า
“หน้าอย่างแกเหรอทำการบ้าน ฟ้าถล่มแน่ๆหากคนอย่างแกรู้จักทำการบ้านน่ะ”ไอพี่ปากปีจอแขวะฉันอีกรอบ แผลงี้เหวอะเลย สะใจมั้ยไอพี่บ้า
“พอๆ กินข้าวได้แล้ว พ่อหิวจนจะงับหัวลูกอยู่แล้ว”พ่ออ้าปากขู่ ก่อนเปิดฉากทานข้าว ฉันกับไอพี่บ้าปากเสีย ได้แต่ส่งสายตาอาฆาตใส่กัน
...2 วันสุดท้ายของการส่งผลงาน...
ฉันเร่งรีบกับการเดินทางกลับบ้าน เก็บรายละเอียดอีกเล็กน้อยฉันก็จะถึงฝั่งฝัน ฉันยิ้มให้ลมฟ้าอากาศ เมื่อนึกถึงเงินสามล้าน มันช่างล่อตาล่อใจยิ่งนัก แต่ว่า...คิดไปคิดมา มันไม่ใช่ฉันคนเดียวที่รู้เรื่องการประกวดนี่ ฉันจะสามารถผ่านเข้ารอบได้แน่เหรอ ชุดที่ฉันออกแบบดูเด็กจะตาย แฟนคลับของพวกเขาก็ใช่ว่าจะมีแค่ฉันคนเดียว อีกอย่างฉันก็ไปสืบรู้มาว่ายัยดาร่าเห็นโปสเตอร์ก่อนฉันเป็นชาติ มีฉันที่เซ่ออยู่คนเดียว ฉันพุ่งไปที่โต๊ะเขียนหนังสือทันทีที่เข้ามาในห้องนอน แต่แล้ว สภาพห้องที่สะอาดเอี่ยม เงาวับก็ทำเอาฉันเข่าอ่อน ไม่นะ ผลงานของฉันหายเกลี้ยงเลย ฉันรื้อลิ้นชักทุกตัวที่อยู่กับโต๊ะ แต่ก็ไม่มีวี่แววของปึกกระดาษของฉันเลย
“ไอพี่ไวกิ้ง!!! อยู่ไหน โผล่หน้ามาซะดีๆ พี่ไวกิ้ง... ไอพี่บ้าปากปีจอออออออออออออ~”ฉันเอะอะลงมาจากชั้นบนของบ้าน จนมาถึงลานหน้าบ้าน
“แหกปากทำไมฟะไอเติ้ล วอร์มเสียงไปประกวดร้องเพลงเดอะสตรีหรือไง= =++”ไอพี่ไวไวพูดโดยไม่ละสายตาจากรถมอ’ไซด์คันโปรดที่กำลังขัดถูอยู่สักนิด
“อย่ามากวนประสาทหน่อยเลย พี่เป็นคนไปทำความสะอาดห้องฉันใช่มั้ย”
“ก็ใช่ แล้วไง เห็นห้องสะอาดเลยโวยวายลงมาหาฉัน จะมาขอบคุณใช่มั้ยล่ะ ไม่เป็นไรหรอกมันหน้าที่พี่ชายผู้แสนดีอยู่แล้ว^o^++”
“ฉันจะฆ่าพี่หมกส้วมเป็นการขอบคุณน่ะสิ พี่เห็นกระดาษบนโต๊ะเขียนหนังสือฉันมั้ย พี่เอามันไปไว้ไหน”ฉันจ้องไอพี่จอมยุ่งอย่างลุ้นๆ หวังว่าคงไม่ได้เก็บไปทิ้งถังขยะหรอกนะ
“ไอกองขยะบนโต๊ะแกน่ะเหรอ ฉันจัดการเอาไปทิ้งเรียบร้อยแล้ว แล้วแกทำอะไรถึงได้ทิ้งกระดาษเต็มห้องแบบนั้น”ในที่สุดไอพี่ไวกิ้งก็ยอมละสายตาจากรถมามองฉัน
“นะ...นี่ พี่เอามันไปทิ้งเหรอ พี่พูดเล่นใช่ม้า นั่นมันอนาคตของฉันเลยนะ พี่เอาไปทิ้งที่ไหน บอกมาสิฉันจะตามไปเอาคืน”
“ทำไม แกจะตามรถขยะไปเหรอ มันมีอะไรสำคัญขนาดพอให้คนขี้เกียจอย่างแกตามไปเก็บ บอกฉันมาซิ”
“ฉันออกแบบชุดเข้าประกวดสิ มันเป็นโอกาสทองของฉันที่จะได้ไปเกาหลี ตกลงว่าพี่เอาไปทิ้งที่ไหน ถังขยะหน้าบ้านหรือเปล่า”
“หึ ฉันไม่ได้ทิ้งถังขยะหน้าบ้าน ฉัน...เอาไปทิ้งที่ตู้ไปรษณีย์”พี่ไวกิ้งหันกลับไปเช็ดๆถูๆรถต่อ ปล่อยให้คนสมองช้าอย่างฉันยืนบ้าอยู่คนเดียว
“งั้น ฉันตามไปเอามันคืนมาก่อ...พี่ว่าพี่เอาไปทิ้งที่ไหนนะ O_o!”ฉันชะงักเท้าที่กำลังก้าว เดินวนกลับมายืนที่เดิม
“ไปรษณีย์”
“ไปรษณีย์? พี่รู้ได้ไงว่าฉันจะส่งไปไหน อีกอย่างฉันยังทำไม่เสร็จด้วยซ้ำ”
“โปสเตอร์อันเบอเร่อติดอยู่หัวโต๊ะแก ไม่รู้ก็บ้าแล้ว ส่วนรายละเอียดฉันแก้ให้เรียบร้อย แกจะไปไหนก็ไปเหอะไป ฉันต้องใช้สมาธิในการเช็ดรถ”
“นี่วันนี้เป็นวันที่ฉันรู้สึกรักพี่มากที่สุดเลย แท้งกิ้วนะ พี่ชายสุดหล่อละม้ายคล้ายโดม ^^++”ฉันกลับมาลั่นล้า วิ่งตึงตังกลับขึ้นบ้าน ลงว่าเกีรยตินิยมสถาปัตฯแก้ให้เข้ารอบใสๆแน่เรา
ความคิดเห็น