คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : o4
o4
แดฮยอนขมวดคิ้วมุ่น ตอนแรกคิดว่าถ้าปล่อยให้อีกฝ่ายกอดไปเรื่อยๆแบบนี้ สักพักก็จะหลุดเป็นอิสระเอง แต่เขาคิดผิดถนัด เพราะนอกจากจะไม่ปล่อยแล้ว ยังมีแต่จะรั้งตัวเขาไปใกล้แล้วกอดแน่นมากกว่าเก่า
..โอเค มันจะไม่เป็นอะไรหรือเดือดร้อนมากหรอกถ้าแค่กอดเฉยๆ ถึงจะรู้สึกแหยงๆนิดๆหน่อยๆด้วยความที่ว่าเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่แล้ว นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมาก
ไม่มีอะไรมาก.....
บ้าเอ้ย
มือของเด็กหนุ่มเจ้าของห้องทุบลงไปบนไหล่ของคนที่กอดตัวเองรัวๆ เมื่ออีกคนไม่สะทกสะท้านอะไรเลยก็เปลี่ยนมาใช้มือผลักหัวทุยๆของคนตรงหน้าออกจากหน้าท้องตัวเอง ยิ่งออกแรงผลักมากเท่าไหร่ คนที่ดูท่าจะนอนฝันหวานมากๆจนไม่ยอมตื่นขึ้นมาสักทีนั้นก็มีแต่รั้งจะซุกแน่นกว่าเก่า
แดฮยอนละมือออกแล้วยกขึ้นสะบัดเบาๆหลายๆที พยายามเงยหน้าขึ้นเพื่อเป่ามือตัวเองเผื่อมันจะช่วยบรรเทาอาการปวดตุบๆนี้ลงได้บ้าง
ทั้งทุบทั้งตีจนคนทำเจ็บมือขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่ตื่นอีก
คนตัวเล็กกว่านอนแหมะเป็นหมอนข้างให้แขกที่ไม่เต็มใจรับเชิญของห้องนอนกอด ก่าย และซุกตามใจอยากมาเป็นเวลาเกือบสามชั่วโมงแล้ว ได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจว่าเขาคงประสาทตามหมอนี่แน่ๆว่าถ้ารำคาญมากมายขนาดนี้ ทำไมไม่ใช้วิธีรุนแรงเหมือนที่อีกคนเคยทำ ถีบมันออกไปให้พ้นๆสักที
ไม่ใช่ทำไม่ได้หรอกนะ
ว่าแล้วเจ้าตัวก็ใช้เท้ายันคนหลับอีกที ผลที่ได้รับคืออ้อมกอดที่แน่นขึ้นคล้ายจะรัดคนดื้อที่ขยุกขยิกไปมารบกวนการนอนไม่ให้ขยับร่างกายได้อีก
นี่ไง ยิ่งถีบยิ่งกอด บ้าที่สุด เขาคิดผิดตั้งแต่เก็บมันมาดูแลอีกรอบแล้ว
“อือ...”
เจ้าของห้องหรี่ตามองหัวสีน้ำเงินหม่นๆนั่นที่นอนซุกท้องตนอยู่ส่งเสียงงึมงำในลำคอก่อนจะใช้แขนที่รวบเอวเขาไว้อยู่นั้นพลิกตัวคนตัวเล็กไปอีกฝั่ง แล้วก็เขยิบตามมาเอาแขนโอบรอบเอวบางนอนกอดเหมือนเดิม ก่อนปากบางนั่นจะส่งเสียงพึมพำออกมาแผ่วเบา
“หนาว....” พร้อมกับอ้อมแขนที่กอดรัดเขาแน่นขึ้น
เด็กหนุ่มยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองแรงๆ ก็ต้องหนาวแน่นอนอยู่แล้ว ไปนอนตากฝนทั้งๆที่ไข้ยังไม่หายดีแบบนั้นน่ะนะ เด็กประถมยังรู้เลยว่านอกจากจะไม่หายไข้แล้วยังจะได้ของแถมเป็นหวัดมาฟรีๆแบบไม่ได้ต้องการอีกด้วย
เขาถอนหายใจออกมา ดวงตากลมโตหลุบมองคนที่บ่นว่าหนาว
“หนาวก็ห่มผ้า ไม่ใช่ห่มเนื้อ....”
คงเพราะร่างกายที่สั่นเทาเล็กน้อยยามปากบางนั่นบ่นว่าหนาวจบ และท่าทางที่ดูเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆที่อ้อนเจ้าของเวลาไม่สบาย แดฮยอนจึงรู้สึกใจอ่อนขึ้นมานิดหน่อย เด็กหนุ่มพลิกตัวหันไปหาคนหลับ ก่อนจะค่อยยื่นมือไปหมายจะกอดคนตรงหน้า แต่ก็พลันชะงักค้างก่อนถึงตัวอีกคน มือเรียวกำแน่น แล้วลดลงอย่างช้าๆมาอยู่ในท่ากอดอก เขาเอนหัวไปซบอกอีกฝ่ายเพื่อที่จะจัดท่าตัวเองให้อีกคนที่นอนกอดนั้นสบายขึ้น
ที่ยอมให้.... เพราะสงสารหรอกนะ...
ใจดีให้แล้ว.....ตื่นมาอย่าโวยก็แล้วกัน....
------------------------------------------------
แว่วเสียงบรรเลงของเปียโนดังขึ้นแผ่วเบาท่ามกลางความเงียบสงัด มือเรียวเอื้อมไปหยิบเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กมากดด้วยความเคยชิน เสียงเพลงดับลงพร้อมกับสิ่งที่ถูกวางลงที่เดิม
“ฮืม...”
ดวงตากลมโตพยายามที่จะปรือขึ้น แต่ความง่วงที่มีนั้นกลับทำให้เปลือกตาหนักขึ้นและค่อยปิดลงอีกครั้งเหมือนเดิม แดฮยอนกะพริบตาถี่ๆก่อนผุดลุกขึ้นนั่งตาปรือ มืออีกข้างที่ว่างนั้นยกขึ้นมาปิดปากหาวซ้ำอีกรอบ คนตัวเล็กนั่งโอนเอนอยู่บนเตียงคล้ายจะทิ้งตัวลงนอนต่อได้ทุกเมื่อ
ความรู้สึกยามตื่นนอน แลดูต่างกับช่วงเวลาก่อนที่เขาจะผล็อยหลับไปเสียมากมาย อ้อมกอดอุ่นๆที่ตนไม่ต้องการแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้รู้สึกดีไม่น้อยเมื่อได้หลับท่ามกลางบรรยากาศเหล่านั้น เช้านี้เขาตื่นมาโดยมีผ้าห่มผืนโตคลุมตัวไว้อย่างเรียบร้อย ถึงจะอุ่นเหมือนกัน แต่ร่างกายก็บอกได้ว่าความรู้สึกมันต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง
เดี๋ยวนะ....
ศีรษะเล็กๆหันไปรอบห้อง สอดส่องสายตาหาสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งที่เพิ่งก้าวเข้ามาในชีวิตเขาเพียงแค่วันเดียว
แดฮยอนก้าวเท้าลงจากเตียง ผลีผลามวิ่งไปเปิดประตูห้องน้ำอย่างแรง ไร้ร่างคนที่ตามหา คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนก้าวถอยออกมาแล้วออกวิ่งไปอีกทาง สองเท้าก้าวเร็วๆเปิดประตูเลื่อนที่เป็นทางเชื่อมระหว่างห้องกับระเบียงออกครืด เมื่อยื่นหน้าออกไปมองกลับพบแต่ความเงียบ และแสงจากดวงอาทิตย์ที่สาดส่องสีทองมาอ่อนๆรำไรเพื่อบอกว่ารุ่งเช้าใกล้เข้ามาเยือนแล้ว
เขาถอนหายใจออกมาเบา มือเลื่อนปิดประตูเลื่อนอย่างเดิมให้เรียบร้อยโดยไม่ลืมที่จะปิดผ้าม่านไว้ดังเดิม ก่อนจะพยุงร่างตัวเองมาทิ้งตัวลงนั่งกับเตียงที่เขาเคยคิดว่าใหญ่ แต่กลับแคบลงไปถนัดตาในเมื่อคืนนี้ เมื่อคิดถึงคนที่ทำให้เตียงใหญ่ๆนี่เล็กลงได้ก็พลันถอนหายใจออกมาอีกรอบ
ตื่นมาแล้ว...ไม่โวยวายจริงๆด้วยนะ....
หันไปมองบนเตียงที่ยังปรากฏรอยยับให้เห็น ส่ายหน้าช้าๆแล้วเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มมาพับและจัดเตียงให้เรียบร้อย เท่านี้... ก็ไร้ร่องรอย เหมือนไม่มีใครเคยมานอนที่ตรงนี้แล้ว....
.
.
.
“แดฮยอน...”
เสียงนุ่มเปล่งเรียกคนที่นั่งเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่างตั้งแต่เช้า แววตากลมโตนั้นหรี่ลง คิ้วที่ขมวดมุ่นเข้าหากันเล็กๆนั้นคล้ายว่าจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะคลายลงพร้อมกับเสียงถอนใจแผ่วเบา
ยูยองแจไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับเพื่อนสนิทของเขา ปกติเพื่อนคนนี้มักจะเป็นคนที่ช่างพูด เสียงเล็กๆที่เจื้อยแจ้วนั้นไม่เคยทำให้ใครรำคาญ กลับกันนั้นมันกลับทำให้คนฟังนั้นชอบอกชอบใจกับอาการช่างพูดอย่างน่ารัก แต่วันนี้นั้นนับว่าแปลกสนิท แดฮยอนไม่เคยเหม่อลอย ไม่เคยพูดน้อยจนนับคำที่พูดได้อย่างวันนี้
“แดฮยอน...”
ดูสิ ขนาดเขาเรียกเป็นรอบที่สิบ เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมหันหน้าเอาดวงตากลมโตนั้นมามองเขาเลย หรือแม้ตาการเหลือบมองมาหลังจากส่งเสียงเรียกก็ไม่ปรากฏให้เห็น
ใช่ว่ายูยองแจผู้ที่รู้ทันเกือบทุกเรื่องคนนี้จะสังเกตไม่ออกว่าเพื่อนเขาเป็นอะไร แต่เมื่อเจ้าตัวไม่ยอมเปิดปากพูดออกเหมือนปกติที่เมื่อมีปัญหาอะไรจะพุ่งเข้ามาเล่าโดยไม่ต้องขอ เขาก็ไม่อยากเซ้าซี้หรือไปซักถามให้มากความ เพราะยิ่งไปเซ้าซี้ก็คงยิ่งจะได้รับความเพิกเฉยหนักกว่าตอนนี้ รอให้เจ้าตัวพูดออกมาเองจะดีกว่า
“กลับก่อนนะ...”
ยูยองแจพูดพร้อมเสียงเก้าอี้ที่เลื่อนครืดจนพนักพิงเก้าอี้ไปชิดกับขอบโต๊ะ เด็กหนุ่มที่ยังคงเบือนหน้าออกนอกหน้าต่างไปผงกหัวเล็กน้อย
อย่างน้อยก็ไม่ใช่ว่าไม่ฟังเสียทีเดียว.... ยองแจยิ้มออกมาบางๆแล้วสะพายกระเป๋าเดินออกจากห้องไป
แดฮยอนไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นอย่างนี้หรอก..
แต่ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้หงุดหงิดขนาดนี้ หงุดหงิดมากจนไม่มีอารมณ์จะทำอะไรใดๆทั้งนั้น หัวใจที่เต้นแรงตุบๆยามเขาคิดถึงเรื่องที่น่าจะเป็นสาเหตุของความหงุดหงิดอยู่นั้นทำให้เขาเหนื่อยเกินจะพูดหรือตอบสนองอะไร เหนื่อยเกินจะขยับปากหรือส่วนใดๆของร่างกาย เพียงแค่มองก้อนเมฆที่ลอยเอื่อยบนท้องฟ้านั้นก็ทำให้เหนื่อยเกินพอแล้ว
ความจริงแล้วเขาไม่น่าหงุดหงิด เขาควรดีใจสิอย่างน้อยก็ไม่มีเสียงโวยวายเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างครั้งแรกที่พบนั่น จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสียไปต่อปากต่อคำให้มากความ ไม่ต้องใช้กำลัง ไม่ต้องอะไรทั้งนั้น
หรือเพราะเขากำลังรู้สึกไม่ดีที่จู่ๆอีกฝ่ายก็หายไปโดยไม่ทันเอ่ยขอบคุณตัวเอง ?
หลุดหัวเราะออกมาแผ่วเบากับความคิดที่ดูเหมือนคนเห็นแก่ของตอบแทนของตัวเองนี้แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า เขานั่งคิดมาทั้งวัน เมื่อเช้าหลังตื่นนอนมาแล้วพบว่าไม่มีคนอารมณ์ร้ายขี้โมโหคนนั้นนอนอยู่ที่เดิมก็วิ่งพล่านไปทั่วห้อง ทำไมเขาต้องทำอย่างนั้นล่ะ ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยู่ที่เดิม ก็เท่ากับว่าเขาออกไปแล้ว คนๆเดียวที่เจอกันเพียงวันเดียวทำไมต้องไปใส่ใจขนาดนั้น
จริงๆแล้ว..เขาอาจจะห่วง...
ห่วงว่าอีกคนที่ไม่ยังคงไม่สบาย จะพาร่างของตัวเองกลับไปที่พักได้ไหม ไม่ใช่ว่าไปนอนสลบอยู่ที่ไหนอีกหรือเปล่า
“นายนี่นะ...”
ปากบางขยับเอ่ยบ่นตัวเอง กับคนที่เพิ่งพบกันแค่สองครั้งในวันเดียว จะไปอะไรมากมายขนาดนั้น ก็แค่ความบังเอิญที่พาให้พบเจอคนที่ผ่านเข้ามา สุดท้ายก็ผ่านไป
เด็กหนุ่มไหวไหล่นิดก่อนลุกจากเก้าอี้หยิบกระเป๋าสบายเดินออกจากห้อง
“ได้ยินมาว่าไปมีเรื่องจนโดนพักการเรียนอีกแล้ว”
“จริงเหรอ ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งโดนสั่งพักการเรียนไปนี่ ข้อหาอะไรนะ.. ชกอาจารย์หรือเปล่า”
บทสนทนาที่เด็กหนุ่มบังเอิญได้ยินยามเดินผ่าน ไม่แปลกใจอะไรกับบทสนทนาของเหล่าหญิงสาวนี้ เขาไม่ได้ถือสาอะไรกับความที่พวกเธอช่างพูด จะจริงหรือไม่จริง คนฟังก็เป็นคนที่ต้องตัดสินเอาเองอยู่ดี
“เพิ่งย้ายโรงเรียนมานี่นา...”
“ได้ไม่กี่เดือนเองแหละ...แต่เขาบอกว่าหล่อนะ...น่ารักมากๆด้วย”
“ไม่จริงน่า คนแบบนี้เนี่ยนะ?”
แดฮยอนเลิกคิ้ว... มิน่าล่ะ ช่วงนี้ถึงได้ยินสาวน้อยสาวใหญ่พูดถึงใครบางคนที่แลดูจะเป็นตัวปัญหาคนนี้บ่อยเหลือเกิน คงเพราะด้วยความที่เขาคนนั้นหน้าตาดีสินะ
คนตัวเล็กส่ายหน้าไม่สนใจ เขากระชับกระเป๋าที่สะพายอยู่ให้แน่นขึ้น เท้าที่ก้าวเดินไปหมายจะรีบกลับห้องไปหาอะไรยัดลงท้องกลับพลันสะดุดกับประโยคสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่สาวน้อยสองคนที่ยืนคุยอยู่ตรงนั้นจะเดินจากไปอีกทาง
“เด็กผู้ชายผมสีน้ำเงินหม่น...ที่เขาเรียกกันว่าเซโล่ไงล่ะ”
------------
...
ใจเย็นน่าแดฮยอน...
เขากุมมือตัวเองไว้หลวมๆ ในขณะที่ใช้เท้าดันพื้นส่งแรงให้เจ้าชิงช้าตัวที่นั่งอยู่ไหวไกวเบาๆ ดวงตากลมโตหลุบลงมองมือตัวเองบนหน้าตัก
คนที่สีผมแบบนั้น..ใช่ว่าจะมีคนเดียวบนโลก...
พยายามหาเหตุผลต่างๆมากล่าวอ้างเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดอะไรไปมากกว่านี้ แต่เคยได้ยินไหม ยิ่งพยายามหนี ยิ่งเข้าใกล้.. เพราะดังนั้นเมื่อเขาพยายามหาเหตุผลมากลบเกลื่อนความไม่สบายใจนี้มากเท่าไหร่ มันกลับยิ่งทำให้ใจเจ้ากรรมรั้งแต่จะพะวงเรื่องของคนๆเดิมมากขึ้นเท่านั้น
และสิ่งที่บ่งชัดได้อย่างแน่นอนว่าเขากังวลเกี่ยวกับบุคคลดังกล่าวมากมายเหลือเกินก็คือการที่เขากลับมาที่สวนสาธารณะเจ้าปัญหานี้อีกครั้ง
เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาหนักๆ ทำปากยื่นนิดเงยมองท้องฟ้าที่ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมส้มยามเย็น กาลเวลาผ่านไปยาวนานเมื่อมีคำว่ารอเพิ่มเข้ามาในการกระทำ
เขากำลังรอ...
รอเผื่อว่าจะได้เจอคนๆนั้นอีก
แดฮยอนยิ้มออกมาบางๆให้ตัวเอง นึกสงสารหรืออะไรก็ไม่อาจทราบได้ แต่เขารู้ตัวดีว่าเขาเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว สิ่งที่แสดงออกไปมักตรงข้ามกับความรู้สึกจริงๆที่อยู่ข้างใน ปากบอกว่าเกลียดแต่จริงๆกลับห่วงเหลือเกิน
แต่คนที่ขยันหาเรื่องใส่ตัวตัวเองแบบนั้นมีอะไรให้เขาห่วงกันนะ...
ได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งจากรถจักรยานแว่วมาตามสายลมบางเบา เสียงเด็กๆหยอกล้อกันเจื้อยแจ้วระหว่างทางกลับบ้าน พร้อมนกน้อยทั้งฝูงที่พร้อมใจกันบินกลับรังเพื่อเตรียมตัวพักผ่อนในยามค่ำคืนที่จะมาถึง และอากาศที่เริ่มจะหนาวเย็นมากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้เด็กหนุ่มเลื่อนแขนขึ้นกอดตัวเอง
“ไร้สาระชะมัด......”
ปากบ่นพึมพำ สูดหายใจเข้าปอดลึกก่อนค่อยพ่นออกมาช้าๆ การถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ สุดท้าย...ก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืน ส่ายหัวปลงๆแล้วหมุนเท้าเตรียมเดินกลับ
เส้นไหมสีหม่นที่ดูเข้ากันได้ดีกับท้องฟ้ายามค่ำคืนพลิ้วไหวเอื่อยช้าๆดูราวกำลังหยอกล้อเล่นกับสายลม แดฮยอนตาเบิกกว้าง สองเท้าที่ทำงานได้เร็วกว่าสมองจะสั่งการออกก้าวไปยังม้านั่งตัวที่เห็นอยู่ไกลๆ สุดท้ายก็กลายเป็นรีบเร่งวิ่งจนหอบ รู้สึกแสบร้อนกลางอกจากการวิ่งที่ไม่เคยได้สัมผัสมานาน ก่อนไปยืนหยุดหอบหายใจหนักตรงม้านั่งตัวดังกล่าว
ค่อยๆก้าวเดินไปช้าๆ เด็กหนุ่มที่กำลังใช้ผ้าพันแผลพันแขนตัวเองลวกๆสบถคำไม่น่าฟังออกมาให้ได้ยินมากมาย
เขาตัดสินใจเอื้อมมือไปแตะเบาๆ จนฝ่ามือหนาที่กำลังดึงผ้าพันอยู่ชะงักค้าง
ดวงตาเรียวเล็กเหลือบกลับมามองพร้อมกับคิ้วเข้มที่เริ่มขมวดหนัก แดฮยอนไม่ได้สนใจ กลับก้าวเข้าใกล้อีกคนเรื่อยๆ
บางทีแล้วปัญหาที่เจอ เขาอาจจะเลือกรับมันมาเองก็เป็นได้...
tbc.
+Talk
ปฏิเสธไม่ได้ว่าดอง T_T แงงงงงงงงงง
แต่ไม่ได้ทิ่งเรื่องนี้นะคะ ต แต่งไว้อยู่ ยังแต่งต่อ และคิดจะแต่งต่อให้จบด้วยค่ะ
พอดีมันบวกกับอะไรหลายๆอย่างที่รุมเรานิดหน่อย orz
แต่ว่ายังมีคนติดตามด้วย ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะคะ และขอบคุณสำหรับคนที่ถามถึงฟิคด้วยน้า TT ดีใจมากๆเลย
ครั้งนี้มาอัพก็ดันอัพไม่ครบร้อยเปออีก... คือว่า... เมื่อมาอ่านที่แต่งไว้ก็พบว่าไม่ใช่ค่ะแงงง
ตอนนั้นคิดอะไรอยู่นะเลยแต่งออกไปแบบนั้น ฮือ จะรีบเข็นมาให้ครบร้อยนะคะ TvT/
--- อัพครบร้อยแล้วเย้ TvT//// ขอบคุณคอมเม้นมากๆเลยนะคะ อ่านแล้วแอบเขิน โฮ ดีใจจัง////
ขอบคุณที่ติดตามค่า <3<3 ฮึบฮึบ
BlackForest
ความคิดเห็น