ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    +Melt (B.A.P ; lodae)

    ลำดับตอนที่ #3 : o2

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 56







    o2
    น้องหมาไม่เชื่อง












    ว่ากันว่าสุนัขที่บาดเจ็บมักจะไม่เชื่องกับคนแปลกหน้า

     

     

    ก็แค่เปรียบเปรยน่ะ

     

     

     

     



     

     

     

    ดวงตาเรียวเล็กของชายผมน้ำเงินเหลือบมองไปยังคนที่นั่งอยู่ข้างเตียง  ผ้าห่มผืนหนาบนเตียงหลายผืนถูกกอดโดยเจ้าของห้อง  และยังมีอีกหลายผืนที่วางระเกะระกะอยู่บนพื้นรอบตัวคนหลับ  รู้สึกปวดหัวตุบๆ  ยกมือขึ้นลูบศีรษะของตนก็พบผ้าสีขาวแผ่นเล็กที่แปะไว้  ราวกับถูกพามาทำแผล  นั่งอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย  เมื่อหันหน้าไปมองข้างเตียง  เห็นกระจกบานน้อยวางตั้งบนโต๊ะตัวเล็ก  เงากระจกสะท้อนตนเอง  คิ้วขมวดมุ่น  ก้มมองสำรวจร่างกายตน  ..........เละเทะ

     

    ทั้งรอยแผลบ่งบอกการบาดเจ็บเต็มตัว  และ  การทำแผลที่........ 

     
     

     

    กัดฟันกรอด..

     

    ล้มไม่เป็นท่า  ....ถูกใครก็ไม่รู้เห็นใจ  พามาทำแผลประหนึ่งสุนัขถูกทิ้ง

     

     

    .....น่าสมเพช

     

     

     

    แววตาไหววูบ  ยกมือขึ้นเสยผมตัวเองลวกๆอีกครั้งก่อนจะค่อยก้าวลงจากเตียง  ค่อยๆเหยียบลงบนพื้นแผ่วเบา  แต่ก็ไม่ได้ช่วยเมื่อคนที่หลับอยู่ส่งเสียงอือขึ้นมาอย่างขัดใจ  เงยหน้าขึ้นงัวเงีย

     

    สายตาประสานกันอยู่ชั่วครู่  ก่อนที่คนแปลกหน้าของห้องเป็นฝ่ายเบือนสายตาหนีไปทางอื่นก่อน  

     

    “อา... ”  แดฮยอนอ้าปากน้อยๆ  “นายยังไม่กินยา”  ฉุดดึงร่างสูงให้นั่งลงบนเตียงพร้อมกับวางยาลงบนฝ่ามืออีกคน  ยื่นมือไปรินน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้  แต่อีกฝ่ายไม่รับ  กลับเบือนหน้าหนีอยู่อย่างนั้น

     

    “อ้อ  กินได้โดยไม่ต้องดื่มน้ำตามสินะ  เก่งชะมัด”  วางแก้วลงที่เดิม

     

    ชายแปลกหน้าเดาะลิ้นขัดใจ 

     

    ....ประชดหรืออย่างไร

     

     
     

    เจ้าของห้องมองคนที่ยังไม่ยอมกินยา  จะบอกว่าหัวดื้อหรือว่าเมื่อกี้เขาพูดไม่ดังพอ?  หรือว่าไม่รู้ตัวไม่สบาย?  มือดึงชายเสื้ออีกคน  พูดกำชับเน้นๆ

     

    “กินยาสิ”

    “......”

     

    สิ่งที่ได้รับคือความเงียบสงัด  ทุกอย่างนิ่ง  ราวกับเวลาในห้องได้ถูกหยุดเอาไว้  ได้ยินชัดแม้แต่เสียงหายใจแผ่ว

     

    “นายฟังไม่ออก?”

     

    ก็แค่จะถามเพื่อความมั่นใจ  ถ้าคนตรงหน้านี้ไม่ใช่คนเกาหลี  อา.. ไม่ก็อาจจะเป็นคนเกาหลีที่ฟังภาษาเกาหลีไม่ออก  ดูจากลักษณะแล้วจะบอกว่าเป็นเด็กนอกก็คงได้  ทั้งท่าทาง  ทั้งการแต่งตัว  และผมสีน้ำเงินที่เด่นสะดุดตานั่น  ไม่ค่อยมีคนแถวนี้ทำสีผมพิลึกแบบนั้นหรอก

     

    “จะบอกว่าฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องงั้นเหรอ”

     

    แต่คนฟังกลับตีความไปอีกแบบ....

     

    “เปล่านี่”  แดฮยอนทำตาโตใส่หน่อยๆ  คิดบ้าอะไรแบบนั้น

     

    “เฉไฉ”

     

    พูดจบร่างสูงก็เหวี่ยงของในมือทิ้ง  ยาเม็ดเล็กตกลงบนพื้น  กระจายไปทั่ว  เจ้าของห้องอ้าปากส่งเสียง อ๊ะ ขึ้นมาทันทีที่เห็น  คิดบ้าไม่พอ  ยังทำตัวบ้าๆอีก

     

    “ทำตัวดีๆหน่อยได้ไหม  เหวี่ยงทำไม แค่กินน่ะจะตายให้ได้เลยเหรอ”  พูดจบก็ก้มลงมองที่พื้นและมองไปรอบๆตัว  มือควานเก็บยา  กำมันไว้ในมือ  รู้สึกอยากตบปากตัวเอง  พูดไม่คิดอีกแล้ว  เขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดประชดใส่... เรื่องตายไม่ใช่เรื่องที่ควรนำมาพูด  เด็กหนุ่มค่อยๆช้อนตามองคนที่ยืนอยู่หวังให้ไม่คิดมากอะไรกับคำพูดที่ค่อนข้าง.... ไม่ค่อยน่าฟังของเขา

     

    “แล้วไง เรื่องของคนอื่นจะเสือกทำไม  ตายก็ช่างสิ”

     

    ....  ท่าทางคนฟัง.... จะไม่คิดมากอะไรจริงๆด้วย ....

     

    แดฮยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่  พยายามข่มอารมณ์  เงยหน้าจ้องตา  “ช่างได้ไง  ในเมื่อถ้าตาย  ก็ตายในห้องคนอื่น”


    ใช่.. ตายในห้องคนอื่น  แทนที่จะได้เป็นคนดีศรีสังคมช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์  ก็จะกลับเป็นไอ้ฆาตกรชั่วลากมาหมกแล้วฆ่าถึงห้องพัก  แถมยังดูเป็นฆาตกรที่ค่อนข้างจะโง่.. เอ่อ ...ไร้สมองเนอะ  ฆ่าในห้องของตัวเอง  ถ้าคนร้ายไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใครที่ไหนอีก

     

    คนฟังหาได้สนใจไม่  เมื่อจ้องตามา ก็แค่จ้องกลับ  พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเนิบๆ  “พามาเองไม่ใช่เหรอไง” 

     

    เออ.. พามาเอง

     

    “คนเจ็บก็ต้องช่วย  แถมยังไม่สบายอีก”  แดฮยอนเบือนหน้าหนี

     

    “ใครขอให้ช่วยล่ะ”

     

                “.............” 

     

                “ทำตัวเป็นคนดี  สุดท้ายก็แค่ไอ้เกย์”

     

                ร่างสูงยื่นมือไปหยิบรูปที่วางอยู่บนหัวเตียงมา  มันเป็นรูปของผู้ชายสองคนที่ทำมือเป็นรูปหัวใจประกบกัน  คนทางขวาคือคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา  ใบหน้าดูมีความสุข  ส่วนคนท้างซ้าย... น่าจะเป็นผู้ชายที่อายุใกล้เคียงกัน  ทางด้านล่างของภาพเขียนไว้ว่า เพื่อน... รักเสมอ

                  เมื่อพลิกรูปก็ปรากฏข้อความเล็กๆเขียนไว้ที่มุมของภาพ 

     

               

    รักมาก

     

               

    เหอะ....


     

                “ที่พามาเพราะเห็นว่าหน้าตาดีเลยกะจะเอามากกล่ะสิ”  ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงพร้อมกับโบกรูปภาพในมือไปมา  “ดูท่าทางแล้วคงอยากใจจะขาด”

     

                “เอาคืนมานะ!”  แดฮยอนพุ่งตัวไปคว้ารูปภาพจากอีกคน  สิ่งที่ชายผมน้ำเงินทำก็แค่เปลี่ยนไปถืออีกมือ  แล้วชูแขนขึ้นสูงๆ 

     

                “อะไร  ก็แค่รูปภาพ  อ้อ  กลัวเขารู้ล่ะสิว่าเป็นเกย์” 

     

                “เปล่าสักหน่อย! อย่ามาพูดมั่วๆไปหน่อยเลย!”  ยืดตัวแล้วยื่นมือไปจะคว้าอีก

     

    “หลักฐานทนโท่”  เหวี่ยงแขนหลบ

     

    “เดาเอาเองทั้งนั้น”  สุดท้ายแดฮยอนก็โดดขึ้นบนเตียงแล้วจับอีกคนกดลงให้นอนราบแล้วนั่งทับต้นขาไว้  “นายมันจะไปรู้อะไร”  เอ่ยด้วยเสียงแผ่ว ขมวดคิ้วจ้องหน้าอีกฝ่าย

     

    “เรื่องของเกย์  ไม่อยากรู้ด้วยหรอก”

     

    “เอะอะก็เกย์ๆ”

     

    “ก็มันจริงนี่?”

     

    ..แดฮยอนเม้มปาก

     

    “ไม่เถียงแสดงว่าจริง”

     

    “ฟัค”  สบถเบาๆ

     

    “เห็นปะ  อยากมากสิท่า  เมื่อคืนลูบไล้ร่างกายคนอื่นจนพอใจแล้วล่ะสิ”

     

    แดฮยอนง้างหมัดแล้วชกลงบนเตียงเฉียดแก้มอีกคนเต็มแรง  กลั้นร้องไห้จนหน้าแดงไปถึงหู  ตะโกนดังๆใส่หน้าร่างสูงข้างใต้

     

    “คนบ้า  ไอ้เราก็อุตส่าห์ช่วย  ไม่ต้องกินแม่งละยาอ่ะ  อยากตายก็ตายไป!!”  ยัดยาที่กำไว้ในมือใส่ปากอีกคน







     

              “แดกยาจนติดคอตายไปเลย!! 

     







     

     

    loading 60 % - - - - - - - - - - - - - - - -  








     

     

     

     

                เม็ดฝนเริ่มโปรยปราย

     

                จากตอนแรกที่เหมือนจะค่อยๆตกปรอยๆ  สักพักก็เริ่มแรงขึ้น  แรงขึ้น  พร้อมกับสายลมที่โหมกระหน่ำ  เสียงซัดสาดของน้ำและเสียงครืนของปรากฏการณ์บนท้องฟ้า

     

                ฝนตกหนัก

     

                แดฮยอนเริ่มรู้สึกมึนหัว  เขาอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก  ใช้มือยันตัวเองให้ลุกจากเตียงแล้วเดินไปแง้มประตูบานเลื่อนในห้องออกนิดๆ

     

                ปกติควรปิดประตูหน้าต่างให้สนิท

     

                แต่สำหรับเขาไม่ใช่

     

                มือค่อยๆปลดกระดุมเม็ดบนที่เสื้อของตัวเองออก  อย่างน้อยก็พอช่วยให้หายใจได้สะดวกบ้าง  ตามองออกไปที่ท้องฟ้าข้างนอกห้อง  สายฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด  ชวนให้รู้สึกอึดอัด

                อากาศชื้น.. และอบอ้าว  มันก็เย็น  แต่ก็น่าหงุดหงิด

     

                เพราะอย่างนี้ไงถึงได้ชอบหน้าหนาวมากกว่า

     

                ชายหนุ่มเดินกลับไปนอนลงบนเตียงต่อ  จะหนาว จะร้อน จะเย็นสบาย  หรือจะอึดอัดก็ยังให้คำตอบไม่ได้  ถึงจะรู้สึกยังไงก็ตาม  ของที่ขาดไม่ได้เลยก็คือผ้าห่ม  เขาอ้าแขนแล้วรวบผ้าห่มสามผืนมานอนกอด  รู้สึกถึงไออุ่นจางๆบนเตียง

               

    สิ่งที่ทำให้หงุดหงิดมากกว่าสายฝนบ้า  คือคนบ้า   

     

                คิ้วเริ่มขมวดเมื่อนึกถึงคนที่พึ่งเดินออกจากห้องไปเมื่อ..  แดฮยอนพลิกตัวหันไปมองนาฬิกาบนฝาผนังห้อง... เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว

     

                หลังจากที่เขายัดยาใส่ปากอีกคนด้วยความโมโห  คนคนนั้นก็สำลัก  รีบลุกขึ้นนั่งเพื่อจะหยิบน้ำข้างเตียงมาดื่มจนตัวเขาที่ทับขาอยู่หงายหลังล้มหลังกระแทกพื้นห้อง  ตอนนี้ยังปวดหลังไม่หาย 

     

                 

     

                สิ่งที่แดฮยอนทำก็มีเพียงแค่นั่งมองหน้าคนคนนั้นนิ่งๆ  เขาฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายกำลังดื่มน้ำแย่งรูปมาถือไว้ในมือ  ต่างคนต่างมองตากัน  ไม่มีใครเอ่ยปากอะไรทั้งนั้น  ร่างสูงหันมองผ้าขนหนูและกะละมังเล็กที่แดฮยอนใช้ใส่น้ำตอนนั่งเช็ดตัวให้อีกฝ่ายทั้งคืน  แน่นอนว่าเขานอนไม่พอ  แถมใครมันจะไปหลับได้สนิทเวลาได้ยินเสียงละเมองึมงำๆจากคนไม่สบายกันล่ะ

     

                ความเงียบที่น่าอึดอัดเข้ามาครอบงำห้อง  ชายผมน้ำเงินเบือนหน้าหนี  ส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอก่อนจะเดินผ่านตัวเขาไป 

     

                “บ้าจริง”  เสียงสบถเบาๆที่แดฮยอนได้ยินเมื่ออีกคนเดินผ่านตัวเขาไป

     

    ตามด้วยเสียงเปิด.. และปิดประตูดังปัง 

     

               

     

    บ้า บ้า บ้า บ้า บ้าที่สุด

     

                เสียงทุบเตียงของเขาถูกกลบด้วยเสียงปิดประตู  ทำอะไรดีๆแต่ไม่ได้รับความรู้สึกดีๆกลับมาเลย  ขอบคุณสักคำก็ไม่มี  ยาเม็ดน่าจะใหญ่กว่านี้  ไม่ต้องแค่สำลักหรอก  ติดคอตายไปเลย 

     

                ง่วงก็ง่วง  ฝนก็ดันตก  อึดอัด  อบอ้าว  หายใจไม่ออก  

     

     

                เด็กหนุ่มดิ้นขลุกขลักบนเตียง  มุดหน้าลงกับหมอนร้องอู้อี้ๆขัดใจ  สายฝนเริ่มกระหน่ำขึ้นเรื่อยๆ  เสียงน้ำกระทบหลังคาดังเปาะแปะทำให้เขาคิดอะไรไปอีกเรื่อยเปื่อย 

     

                แดฮยอนอาศัยอยู่ในหอพัก ครอบครัวของเขาอยู่ที่ปูซาน  การที่ใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองใหญ่และแปลกตาสำหรับเขาเป็นเรื่องที่ลำบากมากในช่วงแรก  ทั้งหลงทาง  ทั้งเหงา  ใครจะไปรู้ล่ะว่าผู้ชายอย่างเขาจะเป็นคนที่ขี้เหงามากๆ  เขาท้อจนแทบจะขนของกลับบ้านเพราะทนเหงาไม่ไหว  แต่ก็ได้คุณแม่คอยส่งข้อความ  คอยโทรคุยกับเขาทุกคนจนทำให้หายเหงาไปบ้าง

     

                ถึงแม้จะผ่านมาสามปีแล้วก็เถอะ  ตอนนี้เขาอยู่ชั้นมัธยมปลายปีสามแล้ว  ถึงจะอยู่คนเดียวมานานขนาดไหนก็ตาม  มันก็ไม่ได้ทำให้เขาคุ้นชินกับความเหงาสักที 

     

                และก็ไม่ได้อยากชินด้วย

     

                เสียงเปียโนดังขึ้นฉุดให้แดฮยอนหลุดออกจากห้วงความคิด  เขาลุกนั่งมองซ้ายขวาก่อนจะยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างเตียง  มองรายชื่อที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์แล้วก็ยิ้มออกมา

     

                “ครับแม่”           

     

     

     

     

     

                ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว  การที่ได้คุยกับแม่ช่วยทำให้เขารู้สึกสบายใจและรู้สึกดีขึ้นได้ทุกครั้ง มองออกไปนอกหน้าต่างก็ยังเห็นสายฝนที่ยังคงโปรยปรายเช่นเดิม

     

                “แฮ่  รักแม่ที่สุดเล้ยยยย”

     

                (ไม่ต้องมาทำปากหวานเลยไอ้หนู)

     

                “โห่ย พูดจริงน้า อ๊ะ แปปนึงนะแม่”

     

                ริงโทนที่บอกว่าข้อความเข้าดังติ๊งขึ้นมา  แดฮยอนกดพักสายแล้วเปิดข้อความดู  ปากพึมพำออกมาเบาๆทันทีที่อ่านข้อความจบ

     

                จะเอาหนังสือเรียนมั้ยมึง

     

                ชิบหายล่ะ.....

     

                “แม่ ผมขอวางสายก่อนนะ  ลืมนัดเพื่อนอ่ะ  มันส่งข้อความมาจิกแล้วเนี่ย”

     

                (ฮ่าๆ ไงล่ะนอนเพลินเหรอเด็กน้อยของแม่  ไปๆ  เดี๋ยวเพื่อนโกรธ)

     

                “คร้าบ  ผมไปละ  บายครับแม่ รักที่สุดดด”

     

                (ค่าขนมไม่เพิ่มหรอกนะ)

     

                “เฮ้ย  ได้ไงอ่ะครั..... อ๊ะ”  เด็กหนุ่มยกโทรศัพท์ออกจากหู  เขายังพูดไม่ทันจบ  แม่ก็วางสายไปก่อนซะแล้ว  หมดกัน  เงินค่าขนมจะหมดแล้วแท้ๆ  ถ้าให้ใช้ชีวิตด้วยเงินจำนวนเท่านี้ไปจนสิ้นเดือนเขาก็อยู่ได้  แต่ว่าจะได้กินขนมน้อยลงน่ะสิ  แต่ก็นะ  ไม่ได้พูดปากหวานกับแม่เพื่อหวังเงินค่าขนมเพิ่มนี่นา  (แม้ในใจจะบอกว่าถ้าได้เพิ่มยิ่งดีก็เถอะ)

     

    แดฮยอนทำหน้างอนปากยื่นมองโทรศัพท์  กดอะไรเล่นเรื่อยเปื่อยไปสักพักก็ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ  เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อโค้ทตัวเก่งออกมาใส่  และไม่ลืมที่จะหยิบร่มติดมือก่อนออกจากห้องไปด้วย 

     

    เด็กหนุ่มกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากหอ  ลืมไปเสียสนิทเลยว่านัดเพื่อนไว้ที่ร้านกาแฟเพื่อที่จะเอาหนังสือเรียน  เพราะใกล้ถึงฤดูสอบของโรงเรียนแล้วเขาจึงขอยืมหนังสือจากเพื่อนมาเพื่อโน้ตย่อ  จริงๆหนังสือของตัวเองก็มี  แต่ว่าบางทีนะ  บางที... มันก็มีบ้างแหละน่าที่คนเราจะหลับในห้องเรียนไปเลย  ผลมันก็  ....นั่นแหละ... จดไม่ทัน  เรียนไม่รู้เรื่อง  เลยทำให้เขาต้องขอยืมเพื่อนมานี่ไง

     

    สายฝนเริ่มซาลง

     

    สองเท้ารีบก้าวเร็วๆเพื่อจะไปจุดนัดหมาย  ฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านี้ทำให้ถนนเต็มไปด้วยแอ่งน้ำเล็กๆ  เป็นผลให้ขากางเกงของเขาเปียกไปหมด  เมื่อเดินผ่านสวนสาธารณะเจ้าปัญหา  แดฮยอนก็ทำหน้าบึ้งขึ้นมาอีก 

     

    ต่อไปจะไม่เหยียบเข้าไปในสวนสาธารณะนี้อีกแล้ว  ถึงแม้มันจะดูพาลไปหน่อยก็เถอะ  ฮึ่ม  เข้าไปแล้วเจอเรื่องที่ทำให้อารมณ์ไม่ดี  คนบ้านั่น  ใครก็ไม่รู้  น่าหมั่นไส้ที่สุด  เขาจำได้แค่ว่าตัวสูงๆ  ขาวๆ  หน้าตาน่ารัก  แล้วก็..............

     

    .....ผมสีน้ำเงิน....

     

     

     

    ...ใช่.... ผมสีน้ำเงินสวยเหมือนคนที่นอนสลบอยู่ตรงนั้นแหละ..

     

     

     

    ......................

     

     

     

    แดฮยอนหยุดยืนนิ่ง  กระพริบตาปริบๆ

     

     

     

     

     

     

     

    เฮ้ย....

     

     

     

     






     

     

     

    100%





    +talk

    แฮ่ ลงครบร้อยแล้วค่า YvY ขอโทษที่หายนาน ยังมีคนตามอยู่มั้ยคะะขอเสียงหน่อยยยยยยย (กริบ)
    (กระซิกๆๆๆ) โอเคค่ะ โฮๆ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะคะ เราตามอ่านทุกคอมเม้นเลยล่ะปลื้มใจจัง TvT/

    มีใครโกรธน้องหมามั้ย อย่าโมโหน้องหมาน้า น้องหมาออกจะน่าร้ากกกกก
    แมวเราก็ตุแง้วๆ รู้มั้ยว่าแมวน่ะเป็นสัตว์ที่คิดจะครองโลก! (.......)

    แฮ่ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคนที่ติดตามนะคะ <3 จุ๊บๆ





     


    BlackForest
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×