คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : พลังที่หายไปกับบางอย่างที่เปลี่ยนแปลง
แสงดวงตะวันสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง กระทบใบหน้าขาวจนเป็นประกายนวล ร่างบางลืมตาตื่นขึ้นมาพลางส่งเสียงในลำคออย่างไม่ชอบใจนัก แต่พอเห็นดวงอาทิตย์ที่ขึ้นสูงก็ทำให้รู้ว่าน่าจะเลยเวลาเช้ามาไกลโขแล้ว บทหลวงหนุ่มชันกายลุกขึ้นช้าๆแล้วก็ต้องพบกับความขัดยอกทั่วตัว ไม่ใช่เพียงความรู้สึกปวดเมื่อยที่ได้รับมาจากกิจกรรมเมื่อคืน แต่ยังมีความรู้สึกไม่สบายตัวจากการนอนบนพื้นแข็งๆและนอนคุดคู้ค้างอยู่ในท่าคุกเข่าสวดภาวนามาร่วมด้วย ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรู้เลยว่าเมื่อคืนเขานอนในโบสถ์ทั้งคืน จึงได้ตื่นขึ้นมาในสภาพนี้ บาทหลวงหนุ่มยังรู้สึกง่วงจนเกิดอาการมึนเบลอแต่ก็ต้องจำใจฝืนลุกไปล้างหน้าล้างตา เพราะวันนี้มีนัดสอนหนังสือให้กับชีโปะนั่นเอง จะให้อีกฝ่ายมาเห็นเขาในสภาพนี้ไม่ได้ มิเช่นนั้นคงมีคำถามตามมาอีกเป็นโหล บาทหลวงหนุ่มฝืนเดินไปจนถึงอ่างหน้า ความรู้สึกเพลียทำให้เขาแทบทรงตัวไม่อยู่ แม้จะทำกิจกรรมอย่างว่าไปหลายรอบแต่ก็ไม่น่าเพลียขนาดนี้นี่นา......
จัสตินหน้าร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน แม้รู้สึกสงสัย แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมายนัก จนกระทั่งเขาก้มลงมองเงาของตัวเองในน้ำแล้วก็ต้องตกใจกับตัวเองที่เปลี่ยนไป ขอบตาดำคล้ำราวกับอดหลับอดนอนมายาวนาน ผิวขาวซีดจนน่ากลัว ร่างกายเย็นยะเยียบ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง แห้ง หยาบกระด้าง เรือนผมที่เคยเป็นสีฟ้าสวยก็ซีดจางจนกลายเป็นสีฟ้าอ่อนปนขาว ตัวผอมแห้ง ริมฝีปากแห้งแตกเป็นขุย นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!?? ขณะที่จัสตินกำลังสับสนกับตัวเองอยู่นั้นก็เหมือนความซวยมาเยือน
“ท่านจัสตินคร้าบบบ ผมมาแล้ว วันนี้จะเรียนอะไรกันดีล่า~”
เสียงใสๆของลูกแกะน้อยดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงประตูที่ถูกเปิด จัสตินหันไปมองตาม หน้าถอดสีหนักขึ้นไปอีก พลางร้องตะโกนในใจดังๆ
‘หายนะ!!!!......’
ฝ่ายชีโปะเมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นอาจารย์ก็ตกใจร้องตะโกนเสียงดังลั่นแข่งกับเสียงร้องในใจของจัสติน
“หวา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ลูกแกะน้อยรีบวิ่งเข้ามาประคองผู้เป็นอาจารย์เอาไว้แล้วพยุงให้นั่ง ปากก็หลั่งคำถามออกมาไม่หยุดดั่งเช่นที่จัสตินคิดไว้ไม่มีผิด
“ท่านจัสติน เกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไม่ท่านถึงได้ดูทรุดโทรมแบบนี้ นอนไม่พอเหรอ หรือว่าไม่สบาย ท่านได้กินข้าวบ้างหรือเปล่าเนี่ย แล้วนี่อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนท่านนอนในโบสถ์น่ะ ทำไมไม่ไปนอนที่ห้องดีๆล่ะครับ เดี๋ยวก็หนาวตายพอดี หรือว่ามีงานหนักเลยต้องทำหามรุ่งหามค่ำล่ะ ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เรียกผมมาช่วยล่ะครับ ท่าน....”
ลูกแกะน้อยเอ่ยถามเป็นชุดพร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตากลมโต ดูน่าสงสารจนจัสตินไม่คิดที่จะห้ามไม่ให้ถาม
“อย่าให้เป็นห่วงสิครับ ผมกับเซโร่ชอบท่านจัสตินมากเลยนะ ถ้าท่านเป็นอะไรไปล่ะก็....”
ลูกแกะน้อยร้องไห้โฮพลางซุกหน้าเข้ากับอกของอีกฝ่าย ทำให้จัสตินต้องคลี่ยิ้มบางๆ ด้วยความเอ็นดู ฝ่ามือบางลูบหัวลูกแกะน้อยเบาๆอย่างนึกจะปลอบ
“ข้าขอโทษนะ ชีโปะ อย่าห่วงเลย ข้าก็แค่นอนผิดที่แล้วก็นอนดึกไปหน่อยเท่านั้นแหละ”
แกะน้อยเงยหน้าขึ้นมองช้าๆ ดวงตาสีม่วงสดกลมโตยังคลอปริ่มไปด้วยน้ำตา ซึ่งจัสตินก็เช็ดมันออกให้อย่างเบามือ
“จริงเหรอ....”
จัสตินยิ้มรับอย่างจะให้เชื่อ เด็กน้อยจึงหยุดร้องไห้ ชีโปะปาดน้ำตาออกด้วยแขนเสื้อก่อนจะกลับมายิ้มร่า แล้วก็ช่วยพยุงผู้เป็นอาจารย์ไปล้างหน้าล้างตาจนเรียบร้อยดีก็พามานั่งที่โต๊ะสำหรับสวดภาวนา ก่อนจะเดินไปหยิบหวีที่อยู่ใกล้ๆนั้นมาหวีผมให้กับอีกฝ่ายซึ่งบัดนี้เรือนผมยุ่งกระเซิงจนดูไม่ได้ ชีโปะอดตกใจกับเรือนผมแห้งกรอบที่เพียงสัมผัสก็ขาดร่วงเป็นปอยๆไม่ได้ เรียวแขนที่บอบบางอยู่แล้วบัดนี้ก็เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก แม้จะรู้สึกแย่ที่โดนปิดบังอยู่ตลอดแต่ก็ต้องซ่อนความรู้สึกเอาไว้ภายในลึกๆ ด้วยรู้ดีว่าถึงถามอะไรไปอีกฝ่ายก็คงจะไม่ยอมบอก เขาเข้าใจในนิสัยส่วนนี้ของผู้เป็นอาจารย์ดี ว่าต่อให้เค้นถามอย่างไร หากผู้เป็นอาจารย์ไม่ประสงค์ที่จะบอก เค้าก็คงยอมที่จะโกหกไปจนวันตายเพื่อไม่ให้ใครต้องมาเป็นห่วง แต่กระนั้นความรู้สึกเป็นห่วงมันมีมากกว่าความอยากรู้ แกะน้อยจึงทำได้เพียงนั่งหวีผมให้กับผู้เป็นอาจารย์ไปเงียบๆเท่านั้น เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย ชีโปะก็ขอตัวกลับทันที
ความคิดเห็น