คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความหลังในวัยเยาว์ ความทรงจำของทั้งสอง
“ อ๊ะ!”
ร่างสูงเพรียวอุทานออกมาเล็กน้อย หนังสือที่มักจะถือติดมือไปไหนมาไหนหลุดร่วงลงจากมือ ก่อนที่จัสตินจะตกใจมากขึ้นอีกเป็นสองเท่าเมื่ออีกฝ่ายสวมกอดเขาเอาไว้แน่น บาทหลวงหนุ่มสัมผัสได้ถึงน้ำตาอุ่นๆที่ไหลลงบนบ่า มาซารายันเอาแต่พร่ำเรียกชื่อของอีกฝ่าย ซึ่งนั่นก็ทำให้เซโร่และชีโปะงงหนัก
“ท่านฮานัน ท่านฮานัน หายไปไหนมา...ฮึก....ข้า..ตามหาท่าน...ไม่พบ..เลย ฮึก...”
ด้วยสีเรือนผมที่คุ้นตาทำให้เสี้ยวหนึ่งของความทรงจำที่บาทหลวงหนุ่มแทบจะลืมเลือนไปตั้งแต่ได้พบกับคุโร หวนกลับมาอีกครั้ง จึงเรียกอีกฝ่ายเบาๆ
“นี่เธอ....หรือว่า...มาซารายันใช่ไหม?”
เมื่อพรานหนุ่มเห็นว่าอีกฝ่ายจำตนเองได้จึงผละออกช้าๆ พลางปาดน้ำตาที่ไหลไม่หยุดนั้นให้ออกจากใบหน้า ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ บาทหลวงหนุ่มยิ้มด้วยความยินดี แต่ก่อนที่จะทันได้ถามอะไรชีโปะก็ถามขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ท่านจัสตินกับพี่กาแฟดำรู้จักกันเหรอ?”
แกะน้อยถามอย่างงๆ พลางทำตาแป๋ว
“อื้อ ^^”
บาทหลวงหนุ่มตอบรับสั้นๆ
“แล้วทำไม พี่กาแฟดำถึงเรียกท่านจัสตินว่าท่านฮานันล่ะ?”
“มันเป็นเรื่องสมัยก่อน ฮานันเป็นชื่อที่หัวหน้าเผ่าของมาซารายคุงเป็นคนตั้งให้ เพราะคำว่าจัสตินมันค่อนข้างเรียกยากสำหรับพวกเขา”
บาทหลวงหนุ่มพูดยิ้มๆ แกะน้อยกำลังจะอ้าปากถามเซโร่ก็ชิงถามเสียก่อนเพราะอยากรู้เหมือนกัน
“แล้วท่านทั้งสองมาเจอกันได้ยังไงน่ะ?”
มาซารายันปาดน้ำตาจนแห้งดีแล้วจึงเดินมาหาเซโร่และเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้เซโร่กับชีโปะฟังคร่าวๆ
“ ข้าเกิดมาในชนเผ่าพื้นเมืองชนเผ่าหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในป่าลึกเงียบๆอย่างสงบสุข หากินด้วยการเก็บของป่าและล่าสัตว์เหมือนชนเผ่าทั่วๆไปน่ะแหละ แต่แล้ววันหนึ่งคนผิวขาวก็เข้ามารุกรานชนเผ่าของข้า และจับเด็กกับผู้หญิงไปขายเป็นทาส ข้าเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกจับไป...ข้าถูกทารุณมากมาย และพวกมันก็ใช้แรงงานข้าอย่างหนัก”
พรานหนุ่มกัดฟันกรอดเมื่อนึกถึงความทรงจำที่ปวดร้าวนั้น
“โหดร้าย.......ผมไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่าพี่กาแฟดำจะ......”
น้ำใสๆคลอเบ้าตาแกะน้อย โดยที่จิ้งจอกหนุ่มเองก็ยืนก้มหน้าเงียบๆ เพราะกล่าวอะไรไม่ออก บาทหลวงหนุ่มก็เช่นกัน
“แต่เพราะข้าได้พบกับท่านจัสตินนี่แหละ ข้าถึงรอดมาจากนรกขุมนั้นได้ ท่านเป็นคนไถ่ตัวข้าออกมา แล้วก็เป็นคนดูแลข้าด้วย ท่านเป็นคนเยียวยาจิตใจของข้าที่แทบไม่เหลือชิ้นดีให้กลับมาเป็นปกติ ท่าน...เป็นทุกอย่างของข้า..ในเวลานั้นเชียวหละ”
พรานหนุ่มคลี่ยิ้มน้อยๆ พลางเอื้อมมือไปลูบหัวแกะน้อยเบาๆ พลอยทำให้ชีโปะยิ้มไปด้วย
มาซารายันหันไปหาจัสตินช้าๆก่อนจะกล่าวด้วยเสียงที่แฝงเอาไว้ด้วยความเศร้าสร้อยหนักหนา
“แต่ตอนนั้นท่านก็ทิ้งข้าไปโดยไม่บอกกล่าว ท่านบอกแต่เพียงว่าข้าดูแลตัวเองได้แล้ว ทำไมตอนนั้น....ท่านถึงไม่พาข้าไปด้วยล่ะครับ....”
พรานหนุ่มกล่าวอย่างรวดร้าว ในดวงตาสีดวงจันทร์นั้นแฝงเอาไว้ด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส ทำให้ดวงตาสีทองวูบไหวจัสตินหลีกเลี่ยงการสบตากับอีกฝ่าย พลางกล่าวด้วยเสียงที่เบาหวิวหากแต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกผิด
“ ข้าต้องออกเดินทางเร่ร่อนไปเรื่อยๆ ข้าไม่อยากพาเจ้าที่ในตอนนั้นยังเป็นเด็กไปลำบากกับข้า...ก็เท่านั้นเอง ข้า....ขอโทษจริงๆ”
ดวงหน้าหวานก้มต่ำ ทำให้มาซารายันรู้สึกผิดตงิดๆ จึงจับมือคนตรงหน้าไว้ ใบหน้านั้นเปลี่ยนสีเล็กน้อยด้วยความเขิน
“ ข้าเอง..ก็ต้องขอโทษท่านด้วย..ที่..ทำหน้าตาน่ากลัวใส่ท่าน...เอ้อ.....”
เมื่อจัสตินเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าแดง(?)ขนาดนั้นจึงหัวเราะออกมาน้อยๆ ทำให้มาซารายันหน้าแดงขึ้นอีก ทั้งวงครื้นเครงขึ้นอย่างรวดเร็ว แสงแดดยามบ่ายสาดส่องเข้ามาในทางเดิน เหมือนจะตอกย้ำว่าในอนาคตอันใกล้นี้แสงสว่างจะมืดดับลงอย่างที่จะไม่มีวันหวนกลับ
บทเพลงขับกล่อมที่ดังมาจากตำหนักบิดเบี้ยวเงียบลงแล้ว เข็มนาฬิกาบอกเวลาสามทุ่ม แต่ภายในโบสถ์นั้นบาทหลวงหนุ่มยังคงสวดภาวนาอยู่ การสวดภาวนาทำให้จัสตินใจเย็นขึ้นและมีเวลาคิดอะไรอีกมาก ดังนั้นจัสตินจึงมักจะสวดภาวนาเพื่อทบทวนอะไรหลายอย่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของปีศาจหนุ่ม คุโร... ฉับพลันนั้น จิตของจัสตินก็วูบไหว ร่างของบาทหลวงหนุ่มล้มลงไปบนพื้น จิตวิญญาณของจัสตินถูกดึงออกไป....
ออกไปยังอีกมิติหนึ่งซี่งก็คือห้วงจิตของปีศาจหนุ่มที่ตัวเขาสร้างขึ้นมา....
ร่างบางสะดุ้งเมื่อเห็นสถานที่ที่แสนคุ้นเคยนั้นอีก ดวงตาที่ฉายแววหวาดหวั่นด้วยความกลัวอย่างชัดเจนนั้นทำให้บุคคลที่แฝงตัวอยู่ในความมืด แย้มยิ้มอย่างสะใจ ร่างสูงก้าวออกมาจากความมืดช้าๆ ไวเท่าความคิดบาทหลวงหนุ่มกระเถิบหนีอย่างรวดเร็ว พลางตวาดใส่อีกฝ่ายด้วยเสียงอันดัง
“อย่าเข้ามานะ!!!!!”
การขัดขืนนั้นทำให้ปีศาจหนุ่มหงุดหงิดไม่น้อย จึงตรงเข้าไปจิกผมอีกฝ่ายอย่างรุนแรง เส้นผมสีฟ้าสวยขาดหลุดร่วง อีกฝ่ายนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ น้ำตาใสๆไหลออกมาจากดวงตาสีทองสวย ปีศาจหนุ่มเห็นแล้วยิ่งหงุดหงิดเป็นกำลัง
“ฮึ่ย! ร้องไห้อีกแล้วเรอะ จะร้องทำไมนักหนา หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้ ถึงเจ้าจะร้องจนตายข้าก็ไม่ใจอ่อนหรอก เว้นเสียแต่ว่า...เจ้าจะยอมมอบร่างกายนี้ให้ข้าได้เป็นเจ้าของ...ข้าอาจจะ...ทำให้เจ้าไปสบายขึ้นก็ได้...”
รอยยิ้มที่ไม่จริงใจเลยแม้แต่น้อยฉาบไปทั่วใบหน้าของคุโร จัสตินก้มหน้านิ่ง ก่อนจะรวบรวมความกล้าทั้งหมดถามออกไป
“ทำไมเจ้าถึงอยากได้ร่างของข้านัก?”
คำถามนั้นทำให้ปีศาจหนุ่มนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนที่รอยยิ้มชั่วร้ายจะผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้า คุโรหัวเราะเบาๆในลำคอ
“หึหึหึ...ทำไมน่ะรึ..ก็เพราะว่าทันทีที่ข้ามีร่างเนื้อ ข้าจะสามารถทำได้ทุกอย่างน่ะสิ ไม่ว่าจะทำให้กระแสเวลาปั่นป่วน โกงอายุคนเป็นให้อายุสั้นขึ้น หรือจะทำลายโลกนี้ให้สิ้นซากเสีย เรื่องพวกนี้มันก็จะกลายเป็นเพียงเรื่องขี้ผง ที่ทำได้ง่ายๆอย่างไรเล่า ฮ่าๆๆๆๆๆ”
พูดจบปีศาจหนุ่มก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสะใจ สิ่งที่คุโรพูดมายิ่งทำให้จัสตินรู้สึกสิ้นหวังที่จะช่วยฉุดอีกฝ่ายขึ้นมาจากความมืด
ไม่มีอะไร...ที่จะช่วยเจ้าได้เลยหรือ......คุโร...........
ความคิดเห็น