คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : เริ่มงานรื่นเริง
เรือนผมสวยเหวี่ยงสะบัดไปตามใบหน้าที่หันไปเพราะแรงตบ แต่ร่างบางไม่แม้แต่จะหันกลับมามองอีกฝ่ายที่กำลังจ้องเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ บาทหลวงหนุ่มไม่มีแก่ใจจะกลั้นสะอื้น ได้แต่ปล่อยให้หยาดน้ำตารินไหลไม่ขาดสาย ทำไมนะ..ทำไมคนๆนี้ถึงทำให้เขาต้องเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เรื่อย.... ไม่ใช่เพียงร่างกายเท่านั้นที่เขาย่ำยี แม้แต่จิตใจก็ยังไม่เหลือ ทรมาน...ทรมานเหลือเกิน...แต่ถึงอย่างนั้น.....
เค้าก็ไม่เคยหนีคุโรไปไหน...ทำไมกัน.....ยิ่งเค้าทำให้เจ็บปวดยิ่งอยากอยู่เคียงข้าง....
ตรงไหนของหัวใจกันนะ...ที่กำลังแอบร่ำร้อง...ว่าอยากให้เขา..รับรู้ถึงความรักและหัวใจของมนุษย์....
คุโรไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายมีเวลาคิดอะไรได้นานนัก มือหนากระชากใบหน้างามของอีกฝ่ายให้หันมาพลางแสยะยิ้มแล้วส่งเสียงคำรามในลำคอ นัยน์ตาสีแดงเป็นประกายวาววับแบบเดียวกับเขาอีกสามสี่คู่ ส่องประกายขึ้นมาในความมืด จัสตินสั่นระริกด้วยความกลัว เมื่อเห็นผู้มาเยือนเต็มๆตา...
ชายหนุ่มสี่คนที่สวมอาภรณ์ดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้า ผิวขาวซีดไร้สีเลือด ดวงตาสีแดงที่ส่องประกายกับขนปีกสีดำที่ร่วงหล่นยามที่พวกเขาออกก้าวเดินทำให้จัสตินมั่นใจได้ว่า ที่อยู่ตรงหน้าของตนคงไม่ใช่ภูตสวรรค์อย่างแน่นอน คุโรยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่าย ปิศาจหนุ่มยืดตัวขึ้นช้าๆ ก่อนจะผายมือไปทางชายหนุ่มทั้ง4คนที่ยืนอยู่เบื้องหลัง
“จะขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือสิ่งที่มนุษย์อย่างพวกเจ้ารู้จักเป็นอย่างดีเลยล่ะ เรียงจากทางซ้ายมือของชั้น ความตะกละ ความละโมบ ตัณหา และความริษยา... ”
จัสตินเบิกตาขึ้นน้อยๆ ไม่น่าเชื่อ...เขาทั้งสี่คนเป็น...
“บาปทั้ง7.....”
คำตอบที่ออกมาจากปากของบาทหลวงหนุ่มทำให้คุโรยิ้มพึงใจ
“ถูกต้อง..พวกเขาเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ของชั้น..แต่น่าเสียดายที่วันนี้ไม่สามารถมาครบทั้ง7คนได้ แต่แค่นี้ก็เพียงพอที่จะสร้างความสนุกให้ชั้นได้แล้ว หึหึ....”
ชายหนุ่มทั้งสี่คนค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ จัสตินไม่กล้าแม้แต่จะมองบุคคลทั้งสี่ให้เต็มตาด้วยซ้ำ เพราะแม้ชายหนุ่มทั้งสี่จะไม่ได้เข้ามาใกล้มาก แต่บาทหลวงหนุ่มกลับสัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บเย็นยะเยือกเข้าไปถึงหัวใจได้ ความรู้สึกชั่วร้ายจนชวนให้กระอั่กกระอ่วนลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะเอ่ยขึ้นมาก่อน
“ฮะฮ้า อะไรกันนี่ เห็นฝ่าบาทบอกว่ามีของดีๆอยากให้เราได้ลิ้มลองเป็นของตอบแทนที่ทำงานให้มาตลอด ไอ้เราก็นึกว่าจะพากันมาเป็นฮาเร็มซะอีก ที่ไหนได้ แค่คนเดียวเองเรอะ?”
‘ความละโมภ’เอ่ยขึ้นมาเป็นคนแรก
“ก็เจ้ามันโลภมากนี่นา สำหรับข้าล่ะก็ จะคนเดียวก็ไม่มีปัญหา ตราบใดที่ยังไม่ตายก็ยังสร้างความหฤหรรษ์ให้ข้าได้อยู่นั่นล่ะ”
คราวนี้‘ตัณหา’เอ่ยขึ้นมาบ้าง ดวงตาสีแดงเป็นประกายวาววับ
“จะกี่คนก็ช่างหัวมันเถอะ ข้าอยากกินจะแย่อยู่แล้ว นี่มีไว้ให้กินใช่รึเปล่าฝ่าบาท?”
‘ตะกละ’พูดพลางปาดน้ำลาย
“หยุดเลยนะ เจ้านี่มีไว้ให้ทำอะไรดีๆที่มีประโยชน์กว่าการกินของเจ้าเสียอีก แต่ว่านะ..คนอย่างเจ้าทำไมถึงได้เป็นที่ต้องตาของฝ่าบาทได้นะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ”
‘ริษยา’พูดพลางจิกผมของบาทหลวงหนุ่มขึ้นมาดูหน้าชัดๆ ร่างบางสั่นเทิ้มด้วยความกลัว คุโรหัวเราะร่า
“ฮ่าๆๆๆ เอาล่ะ..It’s show time….จากนี้ไปเป็นเวลาของงานเลี้ยงรื่นเริงแล้ว..มนุษย์ตนนี้เป็นของพวกเจ้าแล้ว..พวกเจ้าอยากทำอะไรไหม??...”
ดวงตาสีแดงฉานซ่อนแววตาร้อยเล่ห์เอาไว้ไม่มิด เสียงหัวเราะอันชั่วร้ายดังขึ้นมาเบาๆอย่างเข้าใจในความหมายนั้น
“ได้จริงๆรึฝ่าบาท??” ตัณหาเอ่ยถามเป็นคนแรก
“จะดีรึฝ่าบาท..ข้าตะกละนะ..หึหึ..” ตะกละเอ่ยถามตามมา
“หึ...เป็นกรุณาธิคุณพะยะค่ะ ฝ่าบาท..ถึงจะเป็นเพียงมนุษย์ชั้นต่ำ แต่ข้าก็จะขอรับไว้ด้วยความเต็มใจ..ริษยาโค้งคำนับให้กับปีศาจหนุ่มอย่างนอบน้อม
“เฮ้อ..ทำไมถึงมีคนเดียวกันน้า~ แบบนี้ครั้งเดียวคงไม่อิ่มท้องแหงๆ..ถ้าข้าจะตักบุฟเฟ่ต์เยอะหน่อยคงไม่ว่ากันนะฝ่าบาท หึหึหึหึหึ~”
ละโมบกล่าวพลางมองบาทหลวงหนุ่มอย่างหื่นกระหาย คุโรมองจัสตินที่กำลังตัวสั่นเทิ้มด้วยหางตา ก่อนจะหันหน้าหนีอย่างไม่ไยดี
“ตามสบาย...เชิญทุกท่านเริ่มงานปาร์ตี้ได้เลย!”
ความคิดเห็น