ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไม่ว่ายังไง นายก็ต้องเป็นของฉัน!

    ลำดับตอนที่ #10 : ไฟพิโรธที่ก่อเกิด ถ้อยคำที่พรั่งพรู

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 56



    ท่านรู้บ้างรึเปล่า?..
    ชายหนุ่มเว้นช่วงไป บาทหลวงหนุ่มมองด้วยความฉงน ก่อนที่มาซารายจะเริ่มพูดต่อ

     

    ทุกครั้งที่ท่านพยายามปิดบังโดยแสร้งทำเป็นไม่มีอะไร มันทำให้คนรอบข้างของท่านยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นกว่าเดิมซะอีกนะ ท่านคิดถึงคนอื่นมากเกินไป จนไม่รู้เลยว่าคนอื่นเขาจะรู้สึกยังไง การปิดบังหรือโกหกไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ท่านไม่ควรจะเก็บมันไว้คนเดียว ท่านทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดแล้ว จง...ให้อิสระกับตัวเองบ้างเถิด.......” 
    ประโยคหลังทำให้น้ำเสียงของมาซารายันแผ่วเบาลง ไม่รู้เพราะเหตุใดที่จู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยของคนตรงหน้า ทำเอามาซารายตกใจจนทำอะไรไม่ถูกอีกตามเคย

     

    เฮ้ย! ขะๆๆๆ ขอโทษ เป็นอะไรน่ะ ข้าพูดแรงไปเหรอ??
    จัสตินส่ายหน้าเบาๆเป็นเชิงว่าไม่ ก่อนจะซุกหน้าลงกับอกกว้างของอีกฝ่าย

     

    อย่างนี้จะดีแล้วเหรอ............
    ริมฝีปากบางเปล่งเสียงครางเครือเพราะร้องไห้ ทำให้ชายหนุ่มชะงักไป ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาเบาๆ แล้วลูบหัวอีกฝ่ายอย่างจะปลอบ

     

    ท่านทำดีที่สุดแล้ว
    จัสตินเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่ามาซรายกำลังส่งยิ้มกว้างมาให้ รอยยิ้มที่อ่อนโยนและสว่างไสวเหมือนพระจันทร์ทำให้กำแพงทุกอย่างพังทลายลง เรื่องราวต่างๆค่อยๆออกมาจากปากของบาทหลวงหนุ่มทีละเรื่องๆ มาซารายคิ้วขมวดมุ่น เขาขบกรามกรอดด้วยความโกรธแค้น บาทหลวงบอบบางที่แสนบริสุทธ์และล้ำค่ายิ่งกว่าสิ่งใดของเขาต้องเจออะไรมาบ้าง ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้รู้  นี่น่ะรึ...เหตุผลที่ทำให้ท่านไม่สามารถยิ้มได้อย่างมีความสุขโดยแท้จริง.....นี่น่ะรึคือเหตุผลที่ทำให้ร่างบางตรงหน้าเขาต้องมีสภาพอย่างนี้...เหตุผลที่ทำให้ท่านต้องมีน้ำตา....ต้องร้องไห้อยู่คนเดียวเพียงลำพังโดยไม่มีใครช่วยได้......

     

    ข้าอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน เพราะพลังของข้ามันจวนจะหมดเต็มที ดูจากสภาพของข้าตอนนี้เจ้าคงจะเข้าใจ ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องมารับรู้เรื่องเลวร้ายแบบนี้
    แววตาสีทองสลดลง มาซารายเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามออกมาเบาๆ

     

    ไม่มีวิธีที่จะช่วยท่านจากปิศาจตนนั้นเลยรึ?
    มาซารายถามเสียงเรียบ เหมือนดังจะกลัวว่าหากส่งเสียงดังมากเกินไปจะเก็บความโกรธไว้ไม่อยู่ เขากำลังพยายามอดกลั้นมัน อดกลั้นความโกรธที่มันมีมากมายอย่างที่ไม่เคยมี แรงอาฆาตอันมหาศาลที่พร้อมจะปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ

     

    น่าเสียดายที่ต้องบอกว่าไม่มี เพราะร่างกายข้าถูกคุโรสิงนานเกินไปจนวิญญาณของเขาเริ่มหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับร่างกายของข้าแล้ว วันดีคืนดีเขาจะโผล่ออกมาในร่างของข้าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ว่านะ ข้าน่ะไม่เป็นไรหรอก
    ยิ่งได้ฟังมาซารายยิ่งเดือดดาล ชายหนุ่มกัดฟันกรอดพลางเค้นเสียงลอดไรฟัน จนจัสตินเองก็ยังตกใจมาซารายันในตอนนี้ ไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้มาก่อนเลย.......

     

    ไม่เป็นไรงั้นเหรอ...สภาพแบบนี้ท่านยังจะบอกว่าท่านไม่เป็นไรอีกงั้นเหรอ......
    น้ำเสียงที่เคยฟังดูเคียดขึ้งกลับแผ่วเบาลงจนเริ่มกลายเป็นเสียงสะอื้นไห้ จัสตินตกใจเมื่อจู่ๆก็ถูกอีกฝ่ายดึงตัวเข้าไปกอด

     

    ท่านคิดจะทิ้งข้าไปอีกเหรอ....ถ้าหากท่านเป็นอะไรไปข้าจะเหลือใคร....ทำไมท่านไม่คิดถึงคนที่รักท่าน...มากขนาดนี้บ้างนะ.....
    ผิวที่ขาวซีดเริ่มมีเลือดฝาดน้อยๆเมื่อได้ยินประโยคหลัง

     

    ร...รักเหรอ...มาซารายคุงเนี่ยนะ...

    ก็ใช่น่ะสิ  รักมาตลอดเลย รักมาก มากกว่าใครทั้งนั้น...
    น้ำตาของมาซารายยังไม่หยุดไหลซึ่งจัสตินก็ได้บรรจงเช็ดมันออกให้อย่างนุ่มนวล ก่อนจะกอดตอบอีกฝ่ายไว้แล้วคลี่ยิ้มออกมาบางๆ บาทหลวงหนุ่มซุกหน้าลงกับอกกว้างก่อนจะหลับตาลงปล่อยน้ำตาให้มันไหลออกมาเป็นสายพร้อมๆกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหมายมากมาย

     

    เจ้าเนี่ยน้า......บ้าจริงๆเลย.....
    ร่างบางกล่าวจบก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น จากฝ่ายถูกปลอบอย่างมาซารายจึงกลายเป็นฝ่ายปลอบแทนไปโดยปริยาย แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาเลย เพียงแค่นั่งกอดอีกฝ่ายอยู่เงียบๆเท่านั้น

     

    ทำได้แค่กอดอยู่เงียบๆ....เท่านั้น.......

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×