ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จุดเริ่มต้นของความรักต่างเผ่าพันธุ์

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ย. 54




     “ ทำไมล่ะ? จิ้งจอกหนุ่มถามกลับบ้างหลังจากที่เงียบมานาน แกะน้อยยิ้มอย่างอ่อนหวานส่งให้ ริมฝีปากสีกุหลาบเจือค่อยขยับอย่างบางเบา

     

    เพราะตอนนี้.........ผมมีคนที่ทำให้ผมไม่เหงาอีกต่อไปแล้วยังไงล่ะ

     

    หา??  จิ้งจอกหนุ่มทำหน้านิ่วส่งให้อีกแล้ว ทำให้ชีโปะนึกขึ้นได้ว่าพูดมากเกินไปแล้ว จึงรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน

     

    ก็...ก็ แจ็คกี้กับเซโร่ไง~ แจ็คกี้น่ะเค้าคอยดูแลผมมาตลอด เซโร่เองก็เหมือนกัน แม้จะอันตรายแค่ไหนเซโร่เองก็ไม่เคยทิ้งผมเลย แถมยังช่วยผมให้รอดจากการตายที่ผมไม่ต้องการอีกต่างหาก ^^; ” แกะน้อยพูดพลางยิ้มอย่างสดใส แสงจันทร์ที่ส่องทาบลงมานั้นทำให้ชีโปะดูงดงามยิ่งนัก ทำเอาจิ้งจอกหนุ่มใจเต้นตูมตาม ความเงียบเริ่มเข้าปกคลุมอีกครั้ง ทำให้ชีโปะต้องเอ่ยปากพูดอีกอย่างเสียมิได้

     

     แล้วนี่....ครอบครัวของท่านเซโร่ล่ะ? คำถามของแกะน้อยทำให้เซโร่หันหน้ามาทางชีโปะทันที พลางมองหน้าด้วยแววตาแข็งกร้าว ชีโปะหน้าซีด เขากลัวแววตานั่น

     

    ขอโทษนะ..เซโร่...ไม่..ไม่ชอบให้ถามสินะ....เอ้อ.......ผมขอโทษ....แกะน้อยปากสั่นไปหมด พลางหลุบเปลือกตาลงต่ำเพื่อหลบสายตานั่น

     

    เปล่าหรอก..จิ้งจอกหนุ่มตอบเสียงเรียบแล้วหันหน้ากลับไปทางเดิม แกะน้อยเงยหน้าขึ้นทันที น้ำตาที่เกือบจะไหลอยู่แล้วก็พลันแห้งเหือดไป

     

    ก็แค่...ไม่เคยมีคนถามเท่านั้น..

     

    เอ๋.....ทำไมล่ะ??ชีโปะถามอย่างสงสัย พลางกระเถิบเข้ามาใกล้เซโร่เรื่อยๆ จนจิ้งจอกหนุ่มกระเถิบหนีแทบไม่ทัน

     

    ก็เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วน่ะสิ...จิ้งจอกหนุ่มตอบสั้นๆด้วยน้ำเสียงเรียบๆ และนุ่มนวล

     

    รู้อยู่แล้ว....อ๋อ..ลืมไปว่าเพื่อนๆของเซโร่ก็เป็นจิ้งจอกเหมือนกัน แถมอยู่ด้วยกันอยู่แล้วนี่นา อิอิ ถ้าอย่างนั้นผมก็ถามเป็นคนแรกเลยสินะ  พอจะเล่าให้ผมฟังได้มั้ยล่ะ??

     

    ข้าน่ะ..ไม่มีเพื่อนหรอก...

     

    เอ๋..........???!!” ประโยคสั้นๆที่หลุดออกมาจากปากของคนพูดน้อยนั้น ทำให้แกะน้อยเผลออุทานเสียงดัง ในขณะเดียวกันแกะน้อยก็สัมผัสได้ถึงความอ้างว้างที่ถูกเก็บเอาไว้ของอีกฝ่าย

    ความอ้างว้างเหมือนที่เขามี.......

     

    ข้าเกิดมา..ในฐานะของลูกชายคนสุดท้องแห่งตระกูลกินสะ ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ในเผ่าจิ้งจอกเวทย์ และเผ่าจิ้งจอกเวทย์...ก็เป็นเผ่าที่ใหญ่ที่สุดในเผ่าหมาจิ้งจอกทั้งหมด จะเรียกว่าเป็นเหมือนเจ้าชายในฝูงหมาจิ้งจอกทั้งหมดเลยก็ว่าได้  ทุกคนต่างเอาอกเอาใจข้า ทั้งๆที่ข้าไม่เคยร้องขออะไร พวกเขาก็จะคอยหามาให้ อันที่จริงข้าเองก็เกรงใจอยู่นะ ข้าจึงมักจะแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว เพื่อจะได้ไม่รบกวนพวกเขา พวกเขาปรนเปรอข้าทุกอย่าง ดูแลข้าเป็นอย่างดี...แต่ว่านั่น..ก็เพียงเพราะข้าเป็นลูกชายของหัวหน้าเผ่าเท่านั้นแหละ......ทุกคนก็คงจะเบื่อเต็มทีที่ต้องดูแลข้าเหมือนกัน แล้วทุกคนก็ไม่เคยมองข้าในฐานะของคนธรรมดา......ดังนั้น...ข้าจึงไม่เคยมีเพื่อนจริงๆเลย

     

    เซโร่เป็นลูกชายหัวหน้าเผ่างั้นเหรอ...อืมๆๆ

     

    ใช่...พ่อของข้า กินสะ ยาชิโร่ จิ้งจอกทองเพียงตัวเดียวของเผ่าได้แต่งงานกับแม่ของข้า ท่านหญิงสามสายเลือด กินสะ ฮิเรรีน่า แล้วก็มีข้ากับพี่สามคนออกมา พี่ข้ากาโร่  เป็นจิ้งจอกทองซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตต้องได้เป็นหัวหน้าเผ่าแทนท่านพ่อ...แล้วก็ได้เป็นจริงๆ...พี่รอง งินโร่..เป็นจิ้งจอกทองคำขาว ไอ้พี่คนนี้..ข้าละเหนื่อยใจกับมันสุดๆแล้ว

     

    ดีจัง...เซโร่มีพี่น้องด้วยเหรอ  ผมเองก็อยากมีมั่งจังเลยชีโปะกล่าวแล้วยิ้มอย่างร่าเริง แต่ฝ่ายเซโร่นั้นมีสีหน้าเบื่อหน่ายนัก

     

    มีไปก็ปวดหัวเปล่าๆ

     

    อ้าว...จะว่าไป..ผมไม่เคยเห็นจิ้งจอกทองตัวอื่นนอกจากท่านกาโร่เลยนี่

     

    เพราะพ่อข้า....หายตัวไปน่ะสิ................

     

    เอ๋!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ชีโปะอุทานดังขึ้นเป็นสามเท่า

     

    ในวันนั้น..ตอนที่ข้าอายุยังไม่มากเท่าไหร่  แม่ข้าออกไปล่าเหยื่อแล้วพลาดถูกมนุษย์ยิงตาย..พ่อของข้ารักท่านแม่มากเมื่อท่านแม่จากไป ถึงเราจะไม่ได้เห็นน้ำตาของคนที่ทระนงในศักดิ์ศรีของตัวเองอย่างท่านพ่อ……แต่ข้าก็รู้....ว่าท่านเสียใจแค่ไหน....แล้ววันต่อมา ท่านก็หายตัวไป และไม่มีใครเคยเห็นตัวอีกเลย บ้างก็บอกว่าพ่อของข้าออกเดินทางไปอยู่ในที่แสนไกล บ้างก็ว่าไม่ได้ไปไหนไกลหรอก ก็อยู่ที่ภูเขาแถวนั้นแหละ บ้างก็ว่าตายไปแล้ว แต่สำหรับข้าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ไม่สำคัญ เพราะเพียงแค่ได้รู้ว่าท่านพ่อเป็นใครและรักแม่ข้ากับพวกข้ามากแค่ไหน.......แค่นี้ก็เพียงพอ.......แกะน้อยสัมผัสได้ถึงความเศร้าบางๆจากน้ำเสียงนั้น  แล้วก็รับรู้ได้ถึงความเหงาที่ถูกเก็บไว้ของอีกฝ่าย เพียงแค่นั้นหยาดน้ำใสๆก็รินไหลออกมาจากดวงตากลมโตคู่นั้น เซโร่หันมาเห็นก็ตกใจ

     

    เป็น.....อะไรน่ะ?  ข้าทำอะไรให้เจ้ายังงั้นเหรอ?เหงื่อเริ่มซึมขึ้นมาตามหน้าผาก จิ้งจอกหนุ่มไม่อยากเห็นอีกฝ่ายร้องไห้ ไม่อยากให้ร้องเลยด้วยซ้ำ...แต่ว่า.....เพราะอะไรล่ะ?

     

    ไม่มีอะไรหรอกท่านเซโร่ ผมแค่....ขี้แยไปหน่อย พอได้ยินเรื่องเศร้าๆทีไรก็ร้องไห้ทุกที แหะๆ

    ชีโปะกล่าวพลางเอามือเขกหัวตัวเองเบาๆ ทำให้เซโร่ลอบถอนหายใจเบาๆ

     

    ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ...ข้าไม่ชอบเห็นใครร้องไห้

     

    อืม! ผมจะไม่ร้องไห้อีกแล้วล่ะ สัญญาเลย แกะน้อยยิ้มอย่างร่าเริง จิ้งจอกหนุ่มก็ไม่ได้กล่าวอะไรมากไปกว่านั้น เขายิ้มคนเดียวเงียบๆแล้วต่างคนต่างก็นิ่งดูดาวพลางตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ซักพักเซโร่ทำหูตั้งเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหันหน้าไปหาคนข้างๆ

     

    นี่....ถ้าไปถึงอาณาจักรอคาเทเซียแล้วเจ้าจะ.........อ้าว...

    ที่เซโร่อุทานออกมาเช่นนี้ก็เพราะว่าบัดนี้คนที่นอนดูดาวอยู่กับเขาเมื่อกี้แหม็บๆ กลับหลับปุ๋ยเสียแล้ว เขายิ้มอย่างเอ็นดู ก่อนจะอุ้มร่างบางนั้นกลับไปยังที่พัก ก่อนจะถอดเสื้อคลุมของตนมาคลุมให้ก่อนจะเอ่ยอะไรเบาๆ ราวกับกล่าวกับตนเอง

     

    หลับซะทีนะ

     

    เซโร่กล่าวเรียบๆ เขารอเวลาที่ชีโปะจะหลับมานานแล้ว เพราะเขาต้องการจะออกล่าเหยื่อ เพียงแต่เขาไม่ต้องการให้ชีโปะเห็น.........ไม่ว่าชีโปะจะอยากเป็นเพื่อนกับเขามากแค่ไหน ไม่ว่าชีโปะจะไว้ใจเขาอย่างไรและ...ไม่ว่าเขาจะชอบชีโปะแค่ไหน..... เอ๊ะ! แล้วนี่เราชอบชีโปะตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า......ช่างเถอะ เพราะไม่ว่ายังไง นักล่ากับเหยื่อก็ต้องอยู่ตรงกันข้ามกันอยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าจะอย่างไร    ก็ตาม เขามองชีโปะด้วยใบหน้าที่เฉยเมย ก่อนจะคืนร่างเป็นหมาจิ้งจอกแล้วออกล่าเหยื่อท่ามกลางแสงจันทร์กระจ่างที่ลอดลงมาตามเงาไม้อย่างเงียบเชียบ

     

                    แกะน้อยตื่นขึ้นมาหลังจากที่เซโร่ไปไม่นานนัก   บรรยากาศยามค่ำคืนที่เงียบงันทำให้เขาเริ่มกลัว

     

    ไหนเซโร่สัญญาไง ว่าจะไม่ทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวอีก..ฮึก...คนบ้า...แกะน้อยตัดพ้อก่อนจะตัดสินใจออกตามหาเซโร่ เขาทำจมูกฟุดฟิด เพื่อตามหากลิ่นที่คุ้นเคยเมื่อเขาเจอก็รีบตามกลิ่นนั้นไปทันที แกะน้อยฝ่าพุ่มไม้ไปตามกลิ่นเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวดังชัดเจนอยู่ข้างหน้า กลิ่นสาบสางผสมกลิ่นคาวเลือดลอยฟุ้งมาแตะจมูก นอกจากนี้ชีโปะยังได้กลิ่นของเซโร่ลอยผสมมาด้วย.................

    หรือว่าเซโร่จะถูกทำร้าย...............................

    แกะน้อยคิดเพียงนั้นแล้วรีบรุดฝ่าพุ่มไม้หนาที่อยู่ข้างหน้า ก่อนจะแอบอยู่ข้างๆพุ่มไม้ด้วยใจที่เต้นโครมคราม ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้แกะน้อยตะลึงงัน................................

     

    นั่นเซโร่อย่างนั้นหรือ?.............

    ภาพที่อยู่ตรงหน้าคือชายหนุ่มที่มีเรือนผมสีเงินกำลังฉีกเนื้อกวางตัวใหญ่กินอย่างเอร็ดอร่อย เลือดเปรอะเปื้อนไปทั้งตัวเขานั้นและกวาง กลิ่นคาวเลือดโชยคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ  เซโร่ในเวลานั้นดูราวกับเป็นปีศาจที่แสนน่ากลัว ดวงตาวาวโรจน์  เขาจิกเล็บแหลมคมนั้นลงบนเนื้อกวางแล้วฉีกกระชากมันติดมือมาได้อย่างง่ายดาย เลือดสดๆทะลักออกมานองพื้น  น้ำตาของชีโปะไหลริน.............นั่นไม่ใช่เซโร่ที่เขารู้จัก............เซโร่ที่ใจดี...อ่อนโยน........ที่เขาชอบที่สุด............

     

    ม......ไม่ใช่.........เสียงเบาๆที่ลอดออกมาจากลำคอนั้นทำให้เซโร่ต้องหันมาดู แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคนที่เขาอยากปิดบังที่สุดกลับมาเห็นตัวเองในสภาพแบบนี้ เซโร่รีบเช็ดเลือดที่ติดตามใบหน้าอย่างลวกๆแล้วสะบัดหน้าหนีเพื่อหลบสายตาของชีโปะที่มองมา ก่อนจะกล่าวเสียงเย็น

     

    ความจริง...มันก็เป็นความจริง.....แม้ว่ายามกลางวันข้าจะใจดีกับเจ้าแค่ไหน......แต่แท้ที่จริง...ข้าก็ยังเป็นสัตว์ร้ายที่ต้องคอยคร่าชีวิตผู้อื่นเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดอยู่ดี..........ข้าเองก็ไม่รู้.....ว่าวันใด......ที่ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆด้วยมือข้างนี้..............เซโร่ก้มหน้าลงต่ำจนไม่อาจมองเห็นใบหน้าชัดๆได้

     

    “……………..”

     

    เจ้าไปซะเถอะ...เซโร่พูดโดยไม่มองหน้า แกะน้อยตกตะลึงกับคำพูดนั้นจนเงยหน้ามองอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง..

     

    ข้ารู้ว่ามันน่าเกลียด...ทั้งๆที่ข้าชวนเจ้ามาเอง...แต่กลับเป็นคนไล่เจ้าซะเองแบบนี้...........แต่นี่ก็เพื่อตัวเจ้าเอง........เชื่อข้าสิ.....แล้วไปซะ...... ทุกสิ่งทุกอย่างนิ่งงัน ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจาก

    ปากของทั้งคู่.....เซโร่มองอีกฝ่ายด้วยความละอาย......แต่ที่เขาทำ..ก็เพื่อตัวอีกฝ่ายเอง.........

    เพราะเขาเป็นห่วงชีโปะจริงๆ..............

    แกะน้อยเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นปัดฝุ่นตามลำตัว ก่อนจะเดินไปหาอีกฝ่ายแล้วยื่นมือให้

     

    กินอิ่มแล้วก็กลับกันเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้วนะ..คำพูดที่ออกมาจากปากของชีโปะ ทำให้เซโร่ตะลึง เขามองหน้าอีกฝ่ายอย่างตกใจ

     

    นี่เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ...ก็ข้าบอกแล้วยังไงว่า........

     

    ผมไม่สนหรอก...

     

    เอ๋........คำตอบที่สวนมาอย่างรวดเร็วนั้นทำให้เซโร่ตกใจ

     

    ผมรู้ดีว่านั่นเป็นธรรมชาติของสัตว์กินเนื้อ และอีกอย่าง....ในวันแรกที่เราเจอกัน...เซโร่อาจจะจำไม่ได้แต่ผมจำได้ดี....ทั้งๆที่ไม่มีธุระอะไรที่ต้องเตือนผมแท้ๆ แต่เซโร่ก็ยังเป็นห่วงผมแถมบอกให้ผมหนีไปอีก ผมก็เลยรู้ว่า แท้จริงแล้วเซโร่เป็นคนอ่อนโยน แล้วก็แคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากๆเลย.........ผมจะไม่ทิ้งเซโร่ไปไหนเด็ดขาด แม้ว่าซักวัน เซโร่อาจจะต้องฆ่าผม เหตุผลจะมีแค่นี้ก็ช่างผม.....อยากเป็นพระจันทร์.....เวลาที่เซโร่อยู่คนเดียวในยามค่ำคืน เซโร่จะได้ไม่เหงา เพราะฉะนั้นอย่าไล่ผมไปไหนเลยนะ.. แกะน้อยพูดพลางสกัดกั้นน้ำตาไว้.....จิ้งจอกหนุ่มสวมกอดอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา.......ทำให้เขื่อนน้ำตาของชีโปะพังทลายอย่างรวดเร็ว

    ______________________________ ตอนที่ 6____________________________________________________

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×