ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไม่ว่ายังไง นายก็ต้องเป็นของฉัน!

    ลำดับตอนที่ #3 : กุญแจ และ โศกนาฏกรรมที่เริ่มหมุนวน

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 56


     

    ท่านจัสติน ท่านจัสติน นี่!”

    อ๊ะ!”
    บาทหลวงหนุ่มสะดุ้งจากภวังค์ เมื่อได้ยินเสียงใสๆดังขึ้น เมื่อเขาหันไปข้างๆก็พบใบหน้าหวานๆของลูกแกะน้อยที่เขาสอนหนังสือให้ประจำยืนทำหน้านิ่วส่งให้

     

    ท่านจัสตินนี่ละก็ ผมเรียกตั้งนานไม่เห็นตอบเลย คิดอะไรอยู่น่ะ?
    ดวงตาสีม่วงสดมองตรงมา ทำเอาบาทหลวงหนุ่มหลบตาแทบไม่ทัน ก่อนจะตอบอีกฝ่ายแบบขอไปที

     

    ม..ไม่มีอะไรหรอก ชีโปะคุง ก็เรื่องทั่วๆไปแหละ งั้นมาเรียนกันเถอะ ^^; ” 
    บาทหลวงหนุ่มยิ้มแหยๆ

     

    วันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอครับ? 
    ชีโปะกล่าวทำเอาบาทหลวงหนุ่มสะอึกเล็กน้อย แกะน้อยผู้ใสซื่อไม่ได้สังเกตเห็นพิรุธที่ปิดไม่มิดเลยของอีกฝ่าย จึงไม่ได้ติดใจถามอะไร

     

    งะ..งั้นเหรอ ว้า~ ข้านี่แย่จัง ยังไม่ทันแก่ก็ขี้หลงขี้ลืมเสียแล้ว ฮะๆๆๆๆ
    จัสตินหัวเราะอย่างฝืดฝืน พลางยกมือขึ้นเขกหัวตัวเองเล็กน้อย ทำให้ชีโปะเห็นว่ามีผ้าพันแผลพันอยู่รอบข้อมือบางๆนั่น ร่างเล็กคว้าหมับเข้าที่ข้อมืออีกฝ่าย สีหน้าดูกังวลยิ่งนัก

     

    แผลนี่....ท่านไปโดนอะไรมาน่ะ
    บาทหลวงหนุ่มหน้าถอดสีเล็กน้อยเมื่อถูกถาม แต่ก็สามารถใช้รอยยิ้มกลบเกลื่อนไปได้

     

    อ๋อ..นี่นะเหรอ...ข้าไปเก็บกุหลาบหลังวังแล้วโดนหนามกุหลาบเกี่ยวเอาน่ะ ไม่มีอะไรหรอก
    บาทหลวงหนุ่มฉีกยิ้มสุดฤทธิ์ ทำให้คนตัวเล็กกว่าตรงหน้าหายสงสัยไปได้ แต่ก็ยังไม่วายโดนอีกฝ่ายตำหนิเอาราวกับเป็นเด็กเล็ก ทันใดนั้นบาทหลวงหนุ่มก็รู้สึกถึงพลังแห่งความมืดที่พลุ่งพล่านอยู่ในตัว ร่างบางบิดตัวน้อยๆอย่างทรมาน ออร่าสีดำทมิฬปกคลุมไปทั่วร่างกาย แปรสีเส้นผมให้กลายเป็นสีดำ ย้อมสีของดวงตาให้กลายเป็นสีม่วงเจือดำ หูงอกยาวออกมา เรือนผมที่ถูกรวบไว้เรียบร้อยหลุดลุ่ยปลิวสยาย ออร่าสีดำมืดนั้นย้อมแม้กระทั่งชุดที่บาทหลวงหนุ่มสวมใส่อยู่จากสีขาวกลายเป็นสีดำ รอยยิ้มที่ชีโปะคุ้นเคยปรากฏบนใบหน้า ดวงตาสีม่วงสดของแกะน้อยเบิกขึ้นน้อยๆ ริมฝีปากสีกุหลาบเจือเปล่งเสียงออกมาบางเบา

     

    ท่านจัสตินร่างมาร....ไม่สิ....ท่านคุโร.....
    เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวขึ้นมาบนใบหน้าหวาน ในใจของแกะน้อยนั้นอยากร้องไห้ออกมาดังๆนัก เมื่อต้องพบเจอกับคนๆนี้ แกะน้อยหลับตาปี๋พลางภาวนาให้คนรักของตนหรือก็คือเซโร่รีบมาโดยเร็ว มือหนายื่นมาจับปลายคางของชีโปะให้เชิดขึ้นเล็กน้อยพออยู่ในระยะสบตา ปีศาจหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะกล่าวทักทายด้วยเสียงที่เย็นเฉียบเป็นน้ำแข็ง

     

    ว่าไง~ แกะน้อยผู้น่ารัก อย่าหลับตาสิ ให้ข้าได้มองดวงตาของเจ้าชัดๆหน่อย ข้าชอบสีของดวงตาเจ้านะ มันคล้ายกับสีตาของข้าดี หึหึหึ~”
     แต่แกะน้อยยังคงหลับตาปี๋ด้วยความกลัว น้ำตาใสๆปริ่มจนขอบตาร้อนไปหมด   โธ่...รีบมาเร็วๆสิ เซโร่ ผมกลัวน๊า TOT 

    ฝ่ายปีศาจหนุ่มเมื่อเห็นดังนั้นก็ชักรู้สึกอยากแกล้งคนตรงหน้าขึ้นมาตงิดๆ จึงเลียเบาๆที่เปลือกตาอีกฝ่ายทำให้แกะน้อยสะดุ้งและลืมตาอย่างรวดเร็ว

    ทำอะไรน่ะครับ ท่านคุโ....

    แค่นี้ข้าก็ได้เห็นดวงตาของเจ้าชัดๆแล้ว หึหึหึ~ ”
    คุโรกล่าวด้วยเสียงแสนเจ้าเล่ห์ พลางยิ้มอย่างยั่วเย้า ก่อนจะรุกล้ำเด็กน้อยมากขึ้น แต่ก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิด มือข้างหนึ่งก็คว้าหมับเข้าให้ที่ไหล่ของปีศาจหนุ่มก่อนที่มือข้างนั้นจะกระชากเขาออกจากชีโปะอย่างแรง ปีศาจหนุ่มหันกลับไปมองอย่างหัวเสียที่โดนขัดจังหวะ แล้วก็ต้องพบกับดวงตาสีเงินดุๆคู่หนึ่ง ที่มองมาอย่างไม่พอใจ(มาก)เช่นกัน จิ้งจอกหนุ่มกระชากคนรักของตนออกจากอ้อมแขนของอีกฝ่าย ลูกแกะน้อยกอดจิ้งจอกหนุ่มไว้แน่น ก่อนที่เซโร่จะกล่าวด้วยเสียงที่อุณหภูมิติดลบ พร้อมกับส่งจิตสังหารระดับเทพไปหาคู่สนทนาด้วย

     

    จะทำอะไรคนรักของผมหรือครับท่านคุโร....
    ดวงตาสีเงินเป็นประกายวาบราวกับหมาจิ้งจอกที่กำลังจะจับเหยื่อ ปีศาจหนุ่มทำได้เพียงหัวเราะในลำคอ แล้วเหยียดยิ้มก่อนตอบไปด้วยเสียงที่เย็นไม่แพ้กัน

     

    เปล่านิ ข้าแค่เห็นว่ามีขนตาติดอยู่บนเปลือกตาของชีโปะจังก็เลยช่วยเอาออกให้เท่านั้นเองคุโรแก้ตัวไปข้างๆคูๆ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเซโร่ต้องเห็น แต่กระนั้นปีศาจหนุ่มก็ไม่ได้มีท่าทีอนาทรร้อนใจแต่อย่างใด ซึ่ง   เซโร่เองก็ยิ้มตอบให้ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงที่อุณหภูมิติดลบหนักขึ้นไปอีก

    อย่างนั้นหรือครับ
    แม้ภายนอกเซโร่จะยิ้มราวเทพบุตรแต่ภายในนั้นคงเดือดปุดๆและคงจะตะโกนเถียงประมาณว่า  เอาขนตาออกบ้านเอ็งเหรอคร้าบ ใช้ลิ้นเนี่ยย!!! ’ ประมาณนั้น = =;

    ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว งั้นข้าคงต้องขอตัวก่อน แล้วพบกันใหม่นะ คุณบัทเล่อร์หมาจิ้งจอก และ ชีโปะคุง~”
    คุโรทำหน้ายิ้มอย่างชื่นมื่นกวนอวัยวะเบื้องล่างยิ่งนัก ซ้ำยังย้ำคำว่าหมาเสียออกนอกหน้า ทำเอาเซโร่เดือดปุดๆจนแทบจะจับอีกฝ่ายมาประเคนฝ่าพระบาทให้ทานเป็นของว่าง ถ้าไม่ติดชีโปะที่กอดเอวอยู่ละก็.....

     

    เอ็งตาย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!’

     

    คล้อยหลังปีศาจหนุ่มไปได้ไม่นาน บุรุษผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาในเขตของอคาเทเซียพร้อมกับแบกเนื้อมาชิ้นเบ้อเร่อ ชายหนุ่มผู้มีผิวสีแทน ดวงตาและเส้นผมสีเหลืองอ่อนเหมือนสีของดวงจันทร์ สวมอาภรณ์ที่ทำจากหนังสัตว์และบนศีรษะนั้นประดับไว้ด้วยขนนกกระจุกหนึ่ง ร่างกายดูสมส่วนไม่น่าจะเข้ากับแรงอันมหาศาลที่เขามี อายุอานามไม่น้อย เพราะอายุ 25 ปีแล้ว ชายผู้นี้คือนายพรานผู้มีหน้าที่นำเนื้อเข้ามาส่งในพระราชวังอคาเทเซีย นามว่า มาซารายัน เขาคนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ แต่ความจริงแล้วเขาคือกุญแจดอกสำคัญ

    ที่เกี่ยวข้องกับ จัสติน คาร์เฟรย์ริโอนัลด์........

    ผู้ที่จะทำให้ฟันเฟืองแห่งโศกนาฏกรรมหมุนไป........

    _________________________________________________________________________________________
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×