ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้ามเวลาสุดป่วนฉบับวองโกเล่

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ(สึนะโยชิ)

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 55


           ผมเดินไปเดินมาอยู่ในปราสาทวองโกเล่บนห้องของผมอย่างเบื่อหน่าย ความจริงผมไม่ได้อยากจะเป็นไอ้หัวหน้าแก๊งมาเฟียอะไรนี่หรอกนะแต่มันมีเหตุจำเป็นที่ทำให้ผมต้องยอมรับการสืบทอดอย่างช่วยไม่ได้ ทำให้ผมต้องมาอยู่ในปราสาทแสนน่าเบื่อนี่        อันที่จริงการที่ไม่ต้องทำอะไรแบบนี้มันก็ดีอยู่หรอก แต่มันก็น่าเบื่อสุดๆเลยล่ะ(สึนะ::ไม่เชื่อคุณผู้อ่านก็ลองมาเป็นผมดูสิ)        
           ผมเดินวนไปวนมาอยู่ซักพัก ก่อนที่ขาจะเริ่มเมื่อยและทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงาน หลังจากนั้นความเบื่อหน่ายของผมก็เริ่มคูณสอง สายตาของผมจึงสอดส่องมองหาอะไรทำ ซึ่งตรงหน้าของผมตอนนี้ก็มีแค่ดินสอไม้ประมาณ4-5แท่งกับแหวนแห่งนภาเวอร์ชั่น เอ็กซ์วางอยู่บนโต๊ะทำงานตรงหน้า นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย ผมจึงตัดสินใจหยิบดินสอพวกนั้นขึ้นมานั่งเหลา แต่พอเหลาหมด...ความเบื่อก็เข้าครอบงำผมอีกครั้ง เซ็งวุ้ย!!        ผมหยิบแหวนแห่งนภาเวอร์ชั่น เอ็กซ์ขึ้นมาแล้วเตรียมจะใส่ไฟเข้าไปเพื่อเรียกนัตสึออกมาเล่นด้วยแต่ว่า...      
            ก๊อกๆๆ        
           "ใครน่ะ!!"จู่ๆก็มีใครบางคนมาเคาะประตูห้องของผม ผมจึงยังไม่ได้ใส่ไฟเข้าไปและตะโกนถามออกไป         
           "ฉันเอง คิโนโกะจ้า"ค...คิโนโกะจังเหรอ เอ่อ ผมยังไม่ได้แนะนำสินะ คิโนโกะจังเป็นน้องสาวไม่แท้ของคุณฮิบาริน่ะครับ เอ่อ...เท่าที่รู้มาคิโนโกะจังเกิดหลังคุณฮิบาริแค่สองวันเท่านั้นเอง แต่เธอก็ยังเรียกคุณฮิบาริว่าพี่ชายอ่นะคร๊าบบบบ เอ่อ...ส่วนสาเหตุที่ทั้งคู่ต้องมาเป็นพี่น้องกันนี่น่าจะเป็นเพราะ...ตอนที่คุณฮิบาริยังเด็กๆอยู่ คุณพ่อของคุณฮิบาริประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แล้วคุณแม่ของคุณฮิบาริที่มีลูกแฝดสามคน...เอ่อ...รู้สึกจะเป็นพี่สาวของคุณฮิบาริที่ชื่อสึคิโกะกับพี่ชายของคุณฮิบาริที่ชื่อคุโมะมั้งครับ แล้วก็ทั้งสามคนเนี่ยยังเด็กอยู่เลยไม่อยากให้ขาดความอบอุ่นจากคุณพ่อแล้วก็รู้จักกับคุณพ่อของคิโนโกะจังที่ภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว        
           ทั้งคู่เลยตกลงที่จะแต่งงานกัน แล้วพอทั้งสี่คนโตขึ้นพี่ชายของคุณฮิบาริก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแต่พี่สาวของคุณฮิบาริประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเช่นเดียวกับคุณพ่อของเธอ คุณแม่กับคุณพ่อบุญธรรมก็ต้องไปดูแลงานที่ต่างจังหวัดคุณฮิบาริลยได้อยู่กับคิโนโกะจังแค่สองคน        
           ด้วยความที่ทั้งสองคนไม่ได้เรียนในโรงเรียนเดียวกันก็เลยไม่มีใครรู้จักคิโนโกะจัง และแน่นอน ไม่มีใครกล้าเข้าบ้านของคุณฮิบาริ แล้วก็ในอีกสิบปีข้างหน้าคิโนโกะจังไปคอยดูแล'คฤหาสน์'ของคุณฮิบาริที่สเปน ผมจึงไม่เคยเห็นหน้าของคิโนโกะจัง เอ๊ะ!!ผมบรรยายยาวไปรึเปล่านะ        
           ครืด~~        
           "ขอโทษที่ขัดจังหวะความเบื่อนะสึนะคุง เจ้าตัวเล็กให้เอาชานี่มาให้น่ะ"คิโนโกะจังเปิดประตูเข้ามาพร้อมยื่นแก้วชาอุ่นๆมาให้อย่างงงๆ แต่ก็รับชานั่นไว้    
            "ตกใจล่ะสิที่จู่ๆฉันมาที่ห้องของนายอย่างนี้น่ะ ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากจะมาเยี่ยมชมห้องของนายนักหรอกนะถ้าเจ้าตัวเล็กไม่ขอให้ฉันเอาชานี่มาให้น่ะ"คิโนที่ว่า'เจ้าตัวน้อย'นี่คงหมายถึง'รีบอร์น'สินะ แต่ว่าอย่างรีบอร์นน่ะเหรอที่จะให้เอาชามาให้น่ะ ผมว่ามันดูแปลกๆนะ        
            ผมมองชาในมือครู่หนึ่งเพื่อดูว่าเจ้ารีบอร์นมันเอาอะไรแปลกๆใส่ลงไปแล้วเอามาให้ผมกินรึเปล่า เพราะเจ้าหมอนั่นมันชอบแกล้งผมด้วยวิธีที่คนอื่นเค้าไม่ทำกัน อย่างครั้งล่าสุดมันก็ริบเอายาดับเครื่องชนของผมไปแล้วก็จับผมโยนลงไปในบ่อจระเข้ที่ลึกสามเมตร ซึ่งทางขึ้นจากบ่อมันก็เป็นแค่หินเรียบๆแค่นั้น แล้วเจ้าตัวยังจะยิ้มแล้วบอกกับผมว่า        'จระเข้นั่นน่ะ วองโกเล่เลี้ยงมาเองกับมือเลยทำให้มันโคตะระจะดุ ถ้านายขึ้นมาจากบ่อไม่ได้ก็จงตายอยู่ในนั้นซะ'ดีนะที่ตอนนั้นโกคุเดระคุงมาช่วยไว้ทันก่อนที่ไอ้เข้มันจะกระโดดมางับหัวผมไม่งั้นผมคงได้ตายแน่นอน ตอนนี้ผมเลยระแวงเจ้ารีบอร์นมากเลยทีเดียว        
           "สึนะคุง เป็นอะไรน่ะ เอาแต่จ้องน้ำชาอยู่ได้ เดี๋ยวเคียวโกะจังก็เสียใจหรอก"        
           "เอ๋ เคียวโกะจังเหรอ"ชานี่มันเกี่ยวอะไรกับเคียวโกะจังน่ะ      
           "ก็เคียวโกะจังเป็นคนชงมันขึ้นมานี่นา ถ้านายไม่กินมันก็เหมือนกับนายปฏิเสธน้ำใจของเคียวโกะจังนั่นแหละน่า"พอคิโนโกะบอกว่าคนที่ชงชานี้ขึ้นมาคือเคียวโกะจัง ผมก็รีบดื่มมันเข้าไปจนหมดแก้วทันที โดยที่ผมมาเอะใจเอาทีหลังว่า ถ้าเคียวโกะจังเป็นคนชงขึ้นมา ทำไมคนที่บอกให้คิโนโกะเอามาให้ผมกลับเป็นรีบอร์นล่ะ แต่มันก็ช้าไปแล้ว            
           "น...นี่มัน..อะไรน่ะ"ผมมองไปรอบๆตัว ซึ่งแทนที่มันจะเป็นห้องทำงานมันกลับกลายเป็น...ท้องฟ้า!!! นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?        
           "เดชิโม่..."ส...เสียงนี่       
            "อ๊ะ..."จู่ๆสติของผมมันก็เลือนราง นี่มันเรื่องอะไรกันน่ะ        
           "จงตื่นขึ้นมาหาเรา..."ผมได้ยินเพียงแค่นั้น แล้วทุกอย่างก็ขาวโพลน และแล้วผมก็หมดสติไป ครอกกกกกกกก~~
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×